เจอรัลด์ได้ยินหญิงสาวตะโกนเรียกเขาเมื่อเขาหันกลับมา เขาตระหนักได้ว่าไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากวิตนีย์ ประธานของสหภาพนักศึกษาอย่างเห็นได้ชัด วิตนีย์ได้สังเกตเห็นฉากที่เจอรัลด์ได้ลงจากรถเฟอร์รารี่แล้ว ในเวลานี้ เธอกำลังจ้องมองเจอรัลด์ด้วยความเหลือเชื่อพร้อมสีหน้าที่ตกตะลึงบนใบหน้าของเธอ“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?”เจอรัลด์ไม่คาดคิดว่าเขาจะยังคงถูกพบเห็นโดยคนรู้จักถึงแม้ว่าเขาได้ขอให้เอเดนส่งเขาในที่ที่ห่างไกลจากวิทยาเขตแล้วเจอรัลด์รู้ว่าเหตุผลที่วิตนีย์ตะโกนเรียกเขาเสียงดังเป็นเพราะเธอต้องการจะรู้ว่าทำไมเขาถึงได้ลงจากรถเฟอร์รารี่มาได้อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์แสร้งทำเป็นงุนงงเล็กน้อยอย่างจริงจัง...“นาย นาย นาย... ทำไมนายถึงลงมาจากรถเฟอร์รารี่ได้?” วิตนีย์ถามเขาอย่างตรงไปตรงมาในระหว่างการเผชิญหน้ากับเจอรัลด์สองสามครั้งสุดท้าย เธอได้พบกับการเปิดเผยที่น่าตกใจมากจริง ๆ อย่างแรก เธอได้รู้ว่าเจอรัลด์ถูกลอตเตอร์รี่และเขาสามารถเลี้ยงอาหารทุกคนที่โฮมแลนด์ คิชเช่นในคืนที่แล้วได้จริง นอกจากนี้ เขาไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเปลืองเลยดังนั้น วิตนีย์ตัดสินใจถามเพื่อนร่วมชั้นของเจอรัลด์เกี่ยวกับเรื่องนี้
“30,000 ดอลลาห์เหรอ?” ใครบอกว่าฉันถูกรางวัล 30,000 ดอลาห์กัน? นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาคาดเดาและสันนิษฐานกันเองทั้งนั้น ฉันเพียงแค่ถอนเงินจากธนาคารมา 30,000 ดอลลาห์แต่ใครพูดว่าฉันได้เงิน 30,000 ดอลลาร์จากการถูกลอตเตอรี่กันหละ?” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยสีหน้ามั่นใจบนใบหน้าของเขาเมื่อวิตนีย์เห็นการแสดงออกบนใบหน้าของเขา เธอรู้สึกได้ถึงความหดหู่ในใจอย่างฉับพลันอย่างที่เธอเคยพูดไว้ การคาดเดาของเธอถูกต้อง เจอรัลด์ยิ่งกว่าเต็มใจที่จะใช้จ่าย 22,000 ดอลลาห์ในคราเดียว เจอรัลด์ต้องถูกลอตเตอรี่มากกว่า 30,000 ดอลลาร์อย่างแน่นอน“ถ้าอย่างนั้น นายได้เงินรางวัลเท่าไหร่?”“มันไม่สะดวกสำหรับฉันที่บอกเธอมากขนาดนั้น ยังไงซะ มันไม่เยอะมากหรอก! ไม่เยอะมากเกินไปเลย! โอเค คุณเจนคลินส์ หากว่าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนละกันตอนนี้!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยสีหน้าเฉยเมยบนใบหน้าของเขา“ฮื่ม! นายคิดจริง ๆ ว่านายดีมากขนาดนั้นเหรอ? นายเพียงแค่โชคดีที่ได้เงินรางวัลจากการถูกลอตเตอรี่! อย่างไรก็ตาม นายไม่สามารถเทียบได้กับลูกคนรวยรุ่นที่สองเหมือนวิคเตอร์หรอก!”วิตนีย์กระทืบเท้าอย่างฉุนเฉียวเพราะเธอทนไม่ได้กับทัศนคติปัจจุบันของเ
พวกเขาทั้งสองรู้สึกหดหู่มากขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปที่การบำรุงรักษาสภาพรถในรอบแรกสำหรับรถออดี้ A6 ของเขาวิคเตอร์ภูมิใจกับรถออดี้ของเขามาก แต่รถเฟอร์รารี่ที่ขับโดยเพื่อนของเจอรัลด์ทำให้เขารู้สึกอับอายเล็กน้อย พวกเขาทั้งสองคนมีความเข้าใจโดยปริยายและรู้สึกว่าพวกเขาต้องรู้ความจริงเบื้องหลังเพื่อนของเจอรัลด์ให้ได้หลังจากนั้น ที่ร้านตรวจเช็คสภาพรถ ขณะที่วิคเตอร์กำลังรอการตรวจเช็คสภาพรถให้เสร็จ เขาได้เริ่มบทสนทนากับเจ้าของเพราะเขาต้องการได้รับความชื่นชมและความเคารพจากผู้คนเหล่านี้ที่กำลังมองเขาด้วยความชื่นชมในสายตาของพวกเขาในเวลานี้ในเวลานี้ คนที่รับผิดชอบสำหรับการตรวจบำรุงสภาพยานพาหนะของวิคเตอร์ได้พูดว่า “คุณผู้ชาย ผมคิดว่าคุณฉลาดมากในการเลือกรถออดี้ระดับชั้นนำเป็นรถส่วนตัวของคุณ รถออดี้ของเราไม่เหมือนรถระดับชั้นนำหรือรถยนตร์หรูอื่น ๆ ในตลาด ยกตัวอย่างเช่น รถเฟอร์รารี่เพียงแค่ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้รับการยอมรับนับถือ มีเพียงคนรวยเท่านั้นที่จะลงทุนกับรถประเภทนั้น”“ตอนนี้ นักธุรกิจที่ร่ำรวยทั่วไปส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่รถเช่นออดี้หรือ BMW แทน”“แต่ คุณไม่คิดว่ามันจะดีกว่าที่จะ
“ไม่ใช่ เหตุผลที่พวกเราโทรหานายและหารือเรื่องนี้กับนายเป็นเพราะว่าอลิซขอให้พวกเราพานายมาด้วยในการปาร์ตี้นี้โดยเฉพาะ!” ฮาร์เปอร์แจ้งให้ชาร์ลีทราบอย่างรวดเร็ว“ห๊ะ!” เจอรัลด์ตะลึงจนพูดไม่ออกมันไม่สมเหตุสมผลเลย อลิซรำคาญเขามากมาตลอดเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเห็นเขาไม่ไช่เหรอ? ทำไมเธอถึงเชิญเขาไปงานปาร์ตี้อย่างเฉพาะเจาะจงกัน?เอาตรง ๆ นะ เจอรัลด์ได้ดื่มและกินอาหารจำนวนมากระหว่างงานเลี้ยงในตอนเที่ยงของวันนี้มาแล้ว ดังนั้น เขายังไม่รู้สึกหิวเลย แทนที่ ส่วนใหญ่เขารู้สึกเหนื่อยล้าเพราะเขาได้สนุกสนานและพูดคุยกับเหล่านักธุรกิจระหว่างงานเลี้ยงก่อนหน้านี้เขารู้สึกไม่อยากไปเลยจริง ๆนอกจากนี้ เนื่องจากเป็นเพียงแค่การรวมตัวกันธรรมดา เจอรัลด์ต้องการเตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบขับรถของเขาแทนบางทีนี่เป็นความตั้งใจของพระเจ้า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ชีวิตส่วนใหญ่ของคนรวยรุ่นที่สองเริ่มด้วยการชุมนุมและการเข้าสังคม แม้ว่าเขาไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขา งานปาร์ตี้ ความบันเทิง และการชุมนุมทุกประเภทดูเหมือนจะหมุนเวียนอยู่รอบตัวเขาแล้วเมื่อเจอรัลด์ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการชุมนุม ฮาร์เปอร์ยังพูดขึ้นว่าเขาก็ไม่รู้สึกอยากจ
เจอรัลด์รู้สึกหงุดหงิดมากหลังจากได้ยินข่าวนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาคือคนที่แก้ปัญหาที่อลิซกำลังอ้างถึงโดยแท้จริง เจอรัลด์ไม่ต้องการมีอะไรเกี่ยวข้องกับอลิซ นอกจากนี้ เหตุผลเดียวที่ทำไมเขาได้ตัดสินใจก้าวมาแก้สถานการณ์คืนนั้นก็เพื่อประโยชน์ของนาโอมิอย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ อลิซเข้าใจผิดอย่างเห็นได้ชัดว่าควินตันคือคนที่ช่วยเหลือเธอแก้ปัญหา เธอยังรู้สึกว่าควินตันยอดเยี่ยมมากและนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจคบหากับควินตันอลิซคือผู้หญิงที่สวยมากและเธอไม่เคยมีความรักมาก่อน เธอคือเทพทิดาอย่างแน่แท้เจอรัลด์คงจะโกหกหากเขาพูดว่าเขาไม่ได้หลงเสน่ห์รูปลักษณ์ของอลิซเลยเขาควรจะหาโอกาสบอกความจริงกับอลิซดีไหม? ถึงแม้ว่าเธอไม่ต้องการจะขอบคุณเขา อย่างน้อยเธอจะได้รู้ความจริงและเธอไม่ต้องลงเอยด้วยความสัมพันธ์กับบางคนเพียงแค่เพราะว่าความเข้าใจผิด!เจอรัลด์คิดกับตัวเองในเวลานี้กลุ่มของผู้คนยังคงพูดและหัวเราะกันก่อนพวกเขาจะนั่งแท็กซี่ไปร้านอาหารแกรนด์ มาแชล ในย่านการค้าเมย์เบอร์รี่พิธีเปิดของร้านอาหารแกรนด์ มาแชล เป็นไปอย่างมีชีวิตชีวามากตามปกติเพราะผู้คนทั้งหมดที่พวกเขารู้จักและห้องรับรองทั้งหมด
เป็นได้ไหมว่าทุกคนจะเข้าใจผิดเมื่อเขาตีเอเลน่าและหญิงสาวคนอื่น ๆในเวลาเดียวกันนี้ เจอรัลด์รู้สึกแปลกเล็กน้อยอยู่ภายในเขาสงสัยว่าอลิซและเจสลินจะตอบสนองอย่างไรหากพวกเธอรู้ว่าเจ้านายหนุ่มที่พวกเธอกำลังพูดถึงคือเขาเอง...“อลิซ! ทำไมไม่บอกฉันว่าเธออยู่นี่แล้ว?”ขณะที่ทุกคนกำลังถกเกี่ยวกับร้านอาหารอย่างกระตือรือร้น ควินตันที่แต่งกายอย่างสุภาพเรียบร้อยด้วยชุดทางการ เดินมาโดยมีฮาโรล์ดอยู่ข้าง ๆวันนี้ควินตันหล่าเหลาเป็นพิเศษ อย่างน้อย เขาก็หล่อดูดีต่อหน้ากลุ่มของสาว ๆ “ฉันเห็นว่านายยุ่งกับการสังสรรค์และให้ความบันเทิงลูกค้าของนายอยู่...เหนื่อยหรือเปล่า?”อลิซยิ่มขณะที่เธอพูดขึ้นด้วยท่าทางนุ่มนวล เธอไม่เคยมีความสัมพันธ์มาก่อน และเธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ทำตัวยั่วยวนต่อหน้าผู้ชาย ซึ่งเป็นวิธีที่เพื่อนร่วมห้องของเธอ เจสลิน มักจะกระทำเสมอดังนั้น เธอสามารถทำได้เพียงแค่พูดด้วยท่าทางที่เขินอาย“ฉันสบายดีอยู่! วันนี้เหล่าคุณลุงและเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ ในย่านการค้าเมย์เบอร์รี่ได้มาเยี่ยมพวกเราด้วย ฉันเพิ่งหาโต๊ะให้พวกเขาได้ มาสิ อลิซ! ฉันจะพาพวกเธอไปที่โต๊ะเดี๋ยวนี้” ควินตันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ในเวลานี้ซาเวียกำลังควงแขนยูริด้วยท่าทางสนิทสนมแนบชิดเธอมองเจอรัลด์ นาโอมิ และคนอื่น ๆ ด้วยความประหลาดใจอย่างไม่คาดคิด พวกเขายังสามารถเข้าร่วมงานระดับชั้นนำอย่างนี้ได้ด้วยเจอรัลด์มองซาเวียและเขาเห็นว่าเธอแต่กายด้วยชุดสีทองและเงิน หลังจากนั้น จู่ ๆ เจอรัลด์ก็คิดถึงแหวนเพชรที่ยูริได้ซื้อให้ซาเวียก่อนหน้านี้ในวันนี้ เขาต้องซื้อสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อให้ซาเวียสวมใส่มางานเปิดร้านอาหารแกรนด์ มาแชลในคืนนี้ซาเวียดูภูมิใจและมีความสุขมากในเวลานี้เจอรัลด์อดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเองว่า ‘บางทีซาเวียและยูริคงจะรักกันจริง ๆ’บางทีเขาคงเป็นเพียงแค่เครื่องมือให้ซาเวียในการคลายความเบื่อในอดีตขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขารู้สึกว่าเขาน่าขันมาก เมื่อคิดว่าเมื่อคืนเขาเป็นห่วงซาเวียจริง ๆ เขาไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับเธอเลย!“ควินตัน คุณกับเจอรัลด์ก็รู้จักกันอย่างไม่คาดคิดด้วยเหรอ?” ยูริถามขึ้นด้วยท่าทางที่เคารพความจริงแล้ว โรงงานขนาดเล็กของตระกูลโลเวลยังไม่สามารถเทียบกับความสูงส่งของตระกูลซิเกอร์ได้ เหตุผลเดียวที่ทำไมยูริถึงสามารถมาร่วมพิธีเปิดร้านในวันนี้ได้เป็นเพราะแม่ของยูริแล
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อลิซคือคนที่พาเขามาที่นี่ และหากว่าซาเวียยังคงหัวเราะเยาะเจอรัลด์ต่อไป งั้นมันคงทำให้เธออึดอัดใจจริง ๆยังไงก็ตาม มีเพียงแค่เจ้าของที่จะสามารถตีสุนัขของตัวเองได้ ใช่ไหม?“มาสิ นั่งที่นี่ไหม? เนื่องจากยูริและซาเวียก็มาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันด้วย พวกเธอทั้งหมดควรจะนั่งด้วกัน!”ควินตันพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่โต๊ะใหญ่ หลังจากนั้น เขาจัดให้พวกเขาทีละคนเพื่อให้พวกเขานั่งลง ยูริและซาเวียไม่ได้ปฏิเสธที่จะนั่งกับพวกเขาเพราะถ้าพวกเขานั่งกับพวกควินตัน ซาเวียจะสามารถอวดได้!อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ยูริและซาเวียมาถึง โต๊ะที่จริง ๆ แล้วสามารถรองรับได้สิบห้าคนก็แออัดเล็กน้อยทันที พวกเขาหกคนจากหอพักของอลิซ ห้าคนจากหอพักฮาร์เปอร์ และนาโอมิรวมกันทั้งหมดมีสิบสองคน ในเวลานี้ ซาเวีย ยูริ และควินตันก็จะนั่งอยู่โต๊ะนี้เช่นกันดังนั้น ตามธรรมดาแล้วนี่หมายความว่าจะไม่มีที่นั่งสำหรับเจอรัลด์เลย“โอ้ ไม่นะ! นี่น่าอายจริง ๆ เจอรัลด์ ฉันขอโทษแต่ไม่มีที่นั่งเหลือสำหรับนาย”ควินตันยิ้มอย่างเย็นชาก่อนที่เขาจะทำตัวราวกับว่าเขารู้สึกขอโทษอย่างมากในเวลานี้ฮาร์เปอร์พูดขึ้นอย่างเร่งรีบ “เจอรัลด์
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ