โทสะรุ่งโรจน์ทอประกายแวววาวผ่านนัยน์ตาอันน่าเกรงขาม กัญญาวีร์รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหวงแหนเธอเท่าไรเขาถึงได้โกรธ เมื่อเรือนร่างกำยำเปลือยเปล่าทาบทับลงมา ไร้ป้อมปราการขวางกั้นระหว่างเธอและเขา ผู้ชายตัวโตหายใจหอบสั่น ลากลิ้นไปทั่วใบหน้าและแก้มร้อนผ่าว“อือ... เกรงใจคุณคลาวด์นะคะ... เขาอยู่บ้านไหม...?”“ไม่อยู่ ไม่รู้... ช่างมันเถอะ” งึมงำตอบ ก้มหน้าลงซุกไซ้ต้นคอเพรียวระหง สูดกลิ่นหอมรัญจวนเข้าเต็มปอด เรียวปากหนาประกบปิดริมฝีปากอิ่มงามเคลือบลิปสติกสีชมพูหวาน แทรกปลายลิ้นเข้าไปลิ้มชิมรสชาติในโพรงปากงามทั้งเสื้อเชิ้ตสีกรมกองซ้อนอยู่กับบราเซียร์ลายลูกไม้ตามรายทางจากสระน้ำมาถึงเตียงเหมือนกับว่าอาศัยอยู่ลำพังในบ้านหลังใหญ่นี้คนเดียว ไหนจะแพนตี้เปียก ๆ วางแหมะอยู่หน้าห้องนอน น่าอับอายขายหน้าบ่าวไม่น้อย ทว่าสองร่างแนบชิดสนิทกันไม่มีแม้อากาศไหลผ่าน ขณะกรามที่กัดกันแน่นเป็นสันนูนบอกว่าผู้ชายตัวโตไม่ไหวกับงานอดทน ทั้งที่เป็นคนเก่งเรื่องการควบคุมอารมณ์ได้ดีเว้นคราวนี้“อื้ม...” เสียงครางหวานดังจากลำคอแห้งผาก เธอส่งเสียงอู้อี้ในลำคอให้ชายหนุ่มผละริมฝีปากออก ตาคมสบแววตารัญจวนที่อ้อนข
คนไม่ได้ปลดปล่อยมานานนับหลายศตวรรษนอกเสียจากธรรมชาติรังแกหรือจะไหว! พอกลางกายกระตุกตอดเป็นจังหวะ แม่สาวเอวบางหยุดโยก กดตัวลง ท่อนแข็งขึงถูกรัดด้วยแรงหนักหน่วงกว่าคราแรกเป็นเท่าตัว เขายกตัวขึ้น สอดมือเข้าไปในเส้นผมสวยเพื่อผลักจูบออก“อื้มม! กัน... กันครับ...”เสียงคำรามลั่นราวสัตว์ป่า เรือนกายกำยำขดงอติดกับคนบนร่าง น้ำสีขาวขุ่นพุ่งทะลัก ไหลเข้าและย้อนกลับออกมาตามแรงโน้มถ่วง กลิ่นคาวคละคลุ้งปนเปไปกับเลือดสีแดง บ่งบอกว่าเธอเป็นของเขาโดยสมบูรณ์กลางง่ามขาของเธอเป็นภาพที่สวยงามที่สุด ทว่าถัดไปข้างกันบนที่นอนมีบางอย่างที่ทำให้เขายิ้ม...“จระเข้เผือกตัวนี้หางสวยดีจริง...” เขาเลื่อนมือไปจับหางสีขาวสวยที่สะบัดไปมา ตามองเรือนร่างงามนั่งแอ่นก้นงอนเกร็งกระตุก ในสีหน้าเร่าร้อนทรมาน มือหนายังคงบีบหน้าขาเรียว ก้มหน้าลงมองส่วนที่คากันอยู่ หอบหายใจโยน“แม่ทูนหัวของพี่... เจ็บมากไหม?”“พอทนได้ค่ะ...” เธอบอกแล้วคลี่ยิ้มตรงมุมปาก “ก็ชอบนะ Sex mate ลีลาดี”เหมือนจระเข้จะกลายร่างเป็นแม่เสือสาว หญิงสาวหมอบกายลง ขยับสะโพกต่อให้ผู้ชายตัวโตส่งเสียงดัง ก่อนที่เขาจะพลันผลักขึ้นเป็นฝ่ายนำ ไม่ยอมอ่อนข้อให้อย่างเคย
ดวงตาคู่สวยส่ายมองอาหารเครื่องบนโต๊ะกลม มีข้าวต้มทรงเครื่องหน้าตาน่ารับประทาน น้ำส้มคั้น“โอ้โห... ไม่ยักรู้ว่าหนุ่มรุ่นโบราณชอบทำข้าวต้มน้ำส้ม อาหารสุขภาพให้สาว ๆ กินหรือคะ?” แล้วหย่อนก้นนั่งลง มือคว้าผ้าสีขาวที่พาดอยู่ข้างหลังมาคลุมไหล่ ผู้ชายตัวโตดึงเก้าอี้มานั่งข้างกัน ไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบ“ข้าวต้มหมูสับครับ ไม่เคยทำให้ใครกินเลยนะ ไม่รู้รสชาติเป็นไง” เพราะว่าชิมไม่ได้แต่ตักตวงสัดส่วนเกลือน้ำปลาน้ำตาลเอาจากยูทูป! หญิงสาวเลยยิ้มเล็กยิ้มน้อยกับความตั้งใจทุ่มเทของเขา ก้มหน้าก้มตาหยิบช้อนตักอาหารเข้าปากในสายตาลุ้นระทึกของพ่อครัว“อร่อยไหมครับ?”“ค่ะ อร่อยใช้ได้ ดูท่าทางเป็นพ่อบ้านที่ดีนะคะ ทำกับข้าวเป็น รู้จักเสียสละยับยั้งชั่งใจ”เพราะเขารู้ว่าเธอเจ็บ จากเรียวขาสั่นคราวเหยียบลงบนพื้นแต่ละครั้ง ตอนโดนน้ำเย็นก็แอบสูดลมเข้าปาก พึมพำบ่นในใจว่าแสบกี! แต่เป็นเพราะว่ากัญญาวีร์ปากแข็งเก็บอาการกลัวเสียเชิง นายจันจึงพยายามที่จะไม่หัวเราะความน่ารักของเธอ เลื่อนมือไปจับปอยผมเปียกหมาดด้วยท่าทางอ่อนโยน“ผมทนได้เพราะเห็นว่ากันเจ็บแต่กันไม่พูด กันอดทนให้ผมมีความสุข ขอบคุณนะครับคุณกัน...”ได้
“วันนี้แต่งตัวสวยจัง... คุณยายเป็นไงบ้างครับ จะชวนไปด้วยกันก็ได้นะ แกอยู่บ้านคนเดียวไม่เหงาหรือ?” “ให้แกอยู่บ้านนอนดูละครไปเถอะค่ะ” เธอบอกปัดไป ไม่ทันจะได้เปิดประตูขึ้นรถในอีกฝั่ง จู่ ๆ ก็มีเสียงยานคานดังจากข้างหลัง“วันจันทร์หน้าพ่อแม่แกจะมานะ มานอนบ้านสักวันสองวันหน่อยก็ดี”ไม่รู้มาตอนไหน! กัญญาวีร์สะดุ้งเฮือกหันกลับไป “จ้ะยาย เอ่อ... ยายไปกินข้าวกันเปล่า? คุณชรัณเขาชวนอะ”“ไม่เอา... ไม่ไปกับไอ้เข้ เดี๋ยวมันงาบเอา”“ยาย! พูดอะไรของยาย”“ไปเถอะ ไป ๆ”มือเรียวที่มีรอยเหี่ยวย่นโบกมือไล่ ตามองจระเข้หนุ่มส่งยิ้มหวานยกมือไหว้ หล่อนก็รับไหว้ปลก ๆ เดินย่องเข้าบ้าน ปล่อยให้หลานสาวปิดประตูรั้ว ขึ้นรถยนต์ไปนายจันไม่คิดว่าคุณยายรู้แต่จากสายตาแปลก ๆ ที่คอยแอบมองเขาและหลานสาว เขาคิดว่ารู้...“แบบนี้ยิ่งต้องชวนไปเลยนะกัน วันหลังต้องพาคุณยายไปให้ได้” พอตั้งจิตแน่วแน่ว่าจะต้องชวนนางราตรีไปรับประทานอาหารค่ำด้วยกันให้ได้ เขากลับได้ยิน‘ไม่ไปโว้ยยย!’สองหนุ่มสาวมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกในรถยนต์แอร์เย็นฉ่ำ เป็นคนขับเปิดกระจกชะโงกหน้าออกไปตะโกนเสียงดังลั่น“นี่คุณราตรี! ผมเป็นแอล
ภายในห้องเงียบเชียบได้ยินเพียงลมหายใจหอบสั่น เสียงกรามสั่นกระทบกันนายจันเองก็ต้องอดทน แม้ว่าเขากลายเป็นคนชอบทรมานตัวเองไปเสียตั้งแต่ตอนไหนคงไม่รู้ ช่องทางรักสีชมพูหวานยังสดใหม่ เป็นสีสวยฉ่ำจับตา แพนตี้ลายลูกไม้บนพื้นกระเบื้องสีขาวปลุกอารมณ์ร้อนรุ่มให้ลุกฮือ และก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถหยุด ถ้าไม่เป็นเพราะว่าอยากแกล้งคนตัวเล็ก ที่เริ่มไม่รู้จักคำว่ารอ“เร็วสิคะ... คุณชาร์ล”แววตาคู่สวยอ้อนขอ รับรู้ได้ถึงอารมณ์หวามไหวของตัวเอง เมื่อน้ำเจิ่งนองใต้ขาไหลลงไม่กี่หยด เธอกัดริมฝีปากแรง เขย่งปลายเท้าขึ้นตามความสูงของคนข้างหลัง“คุณชรัณ... พี่จันขา...”นั่นก็เรียกเสียงหวานอย่างถึงที่สุดแล้ว ร่างสูงก้มตัวลงเล็กน้อย ประสานมือไว้กับมือเล็กบนกระจก เป่าลมหายใจร้อนรดลงข้างกกหู“อยากให้ผมทำอะไรครับ?”“ใส่เข้ามา... นะคะ”ในสายตาเร่าร้อนทรมานทำให้เขานึกสงสาร มือหนาดึงป้อมปราการลงกองไว้ใต้ก้น จับท่อนแข็งขึง ดันปลายหัวแดงก่ำหาช่องทางรัก มันกลืนกินตัวตนก้าวร้าวเข้าไปช้า ๆ ทว่าแม่นยำ ไม่ต่างจากว่าเป็นที่ของมันแต่ทีแรก“อ๊ะ... อ๊า! คุณชาร์ล...” เสียงหวานคร่างระเส่า พอได้ดั่งใจหวัง กายสาวได้รับการเติมเต็มหลัง
กัญญาวีร์แน่ใจว่าเธอเป็นคนตรงไปตรงมามากขึ้น เพราะมีสัมผัสพิเศษกว่าเมื่อก่อน เธอเกลียดการโกหกเสแสร้ง ทำให้เธออาจลุกหนีไปดื้อ ๆ หากได้ยินคำพูดไม่เข้าหู เว้นเสียแต่ว่าเป็นเพื่อนเก่าแก่คบหากันมานาน มีใส่หน้ากากเข้าหากันบ้างคงพอให้อภัยกันได้ ขณะที่เธอยังคงชื่นชอบการแต่งตัวโก้หรู เข้าสังคม ขับรถราคาแพง ข้าวของทุกชิ้นที่ทำให้ตัวเองดูดีกลายเป็นงานอดิเรกได้ไงก็ไม่รู้จะอย่างไรเธอไม่เคยปล่อยให้คนที่บ้านต้องรอนาน ขณะรถสปอร์ตคาร์สีแดงแล่นฉลิว ในช่วงเวลาถนนโล่ง การจราจรไม่ติดขัดมากนัก เธอรีบทำเวลาให้ทันก่อนสองทุ่ม ในวันที่พระอาทิตย์ตกดินช้าหน่อย เมื่อย่างเข้าหน้าหนาวของเมืองไทยกลางเดือนธันวาคม อากาศเย็นสบาย เหมาะสำหรับรถเปิดประทุนรุ่นใหม่รองเท้าส้นสูงสองนิ้วเหยียบคันเร่งเบรคเชฟโรเลตสีแดงดังเอี๊ยด! ทันทีที่มาถึงประตูรั้วสีดำ เปิดอ้าออกด้วยระบบอัตโนมัติ ‘ขับรถให้มันช้า ๆ หน่อยนะครับ’ หนุ่มผมยาวคนเดิมยืนกอดอกในสีหน้าไร้อารมณ์ นัยน์ตาสีแดงฉายประกายโทสะเมื่อประตูรถปิดลง เจ้าของร่างบางในเดรสตัวสวย ยื่นกุญแจคืนให้กับมือคงเป็นข้อเสียของสายตาที่มองได้ไกลลิบ นึกอยากจับคนตัวเล็กมาตีก้
นายจันรู้ตัวว่าร่างกายไม่เหมือนเดิม เขาอ่อนเพลียมากขึ้น รับประทานอาหารได้น้อยลง ในขณะที่พละกำลังความแข็งแกร่งยังมีเท่าเดิม ไม่แปลงกายเป็นแอลลิเกเตอร์ยักษ์ผิดเวลา แต่ยังคงเป็นครึ่งคนครึ่งกุมภิลในเวลากลางคืนเมื่อชะตาลิขิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ไม่แปลกที่เขาอยากจะรู้คำตอบหลายวันมานี้เขาพยายามถอดจิตไปตามหาพระครูมิ่งผู้มีญาณทิพย์ระลึกอดีตชาติได้ เป็นโชคดีของเขาที่พบท่านซึ่งเป็นพระเช่นเดิมในภพชาตินี้ แต่ข่าวร้ายคือท่านไม่ยุ่งกับเรื่องทางโลก! ไม่แทรกแซงเรื่องเวรกรรม กรรมใครกรรมมัน เขาจึงได้รับคำแนะนำมาแค่ว่าให้ตั้งจิตให้แน่วแน่อย่างที่เคยทำ ตั้งใจทำสมาธิให้ถึงฌาน ‘อัปปนาสมาธิ’ คือการทำสมาธิขั้นสูงสุด เพื่อหาจุดเริ่มต้นของการถูกวิชาอาคมหากพบจุดเริ่มต้น ก็อาจจะพบวิธีแก้ไขปัญหาและจุดจบของคำสาปคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับกุมภิลผู้จำศีลมานานนับหลายร้อยปี ทว่าสิ่งที่เห็นผ่านนิมิตรไม่ใช่เรื่องน่าบันเทิงใจนัก...ในยามค่ำมืดคืนหนึ่งหน้าเรือนไม้ไทยยกสูง มีเพียงแสงไฟจากตะเกียงเทียนโบราณ สาวร่างอ้อนแอ้นอรชรนุ่งสไบผ้าไหมสีทองอ่อน ลวดลายกนกสวยงามดั่งลูกหลานเจ้านายในอดีต ใบหน้าหวานงามหมดจดเป็นคนเดียวกับที่เขาคุ
“ผมว่ากันสงบสติอารมณ์ก่อน เรา... ไปวัด ไปนั่งสมาธิดีกว่าไปโรงพยาบาล...”“ป่วยก็ต้องไปหาหมอสิ จะไปวัดทำไม มีแต่คนตายที่ตรงไปวัดเลยนะคะ”“ไม่ครับ ที่ผมเป็นมันไม่ใช่อาการป่วยทั่วไป ผมมาหาหมอไปไม่มีประโยชน์ กันเชื่อผมสิ”“ไปตรวจกันก่อนนะคะ ให้กันสบายใจได้หรือเปล่า กันเป็นคนยุคนี้ กันไม่เข้าใจว่าคุณชาร์ลเป็นอะไร กันอยากรู้ค่ะ”‘อยากรู้อีกแล้ว... แม่คุณเอ๊ย’เสียงทอดถอนลมหายใจจากเรียวปากหนาหยักได้รูป เขากระตุกมือนุ่มของคนที่เอาแต่จะเดินไปให้หันกลับมา ยกขึ้นสูงในระดับอก พูดกับเธออย่างใจเย็น“กันครับ ผมไม่เป็นอะไรจริง ๆ ผมพอได้คำตอบจากพระครูมาแล้วว่าผมต้องทำยังไง กันเลิกเป็นกังวลได้แล้วนะ”หญิงสาวกลอกตาไปมา “แต่... กันว่า...”“กันลองคิดดู ถ้าผมเข้าไปตรวจร่างกายแล้วผลมันออกมาแปลก ๆ คุณหมอเขาจับผมเข้าเคสพิเศษนักศึกษาแพทย์ทำไง เกิดผมดังล่ะเป็นเรื่องเลยนะทีนี้”“แล้วจะให้กันทำยังไง”“กันไม่ต้องทำอะไรเลยครับ” ในน้ำเสียงย้ำชัดหนักแน่น นายจันคิดว่าเขาหาเหตุผลให้อีกฝ่ายนิ่งนอนใจได้สำเร็จ แต่ไม่เลย เมื่อมือเรียวบีบมือของเขาแน่น ดวงตาคู่สว่างใสเอ่อคลอหยาดน้ำใส สีหน้ามาดหมายเมื่อสักครู่ทอประกายเศร้าหมอง
เมื่อผู้ชายตัวโตเป็นฝ่ายยอมปล่อยจากเรียวปากอิ่มงาม กัญญาวีร์ชนหน้าผากไว้กับหน้าผากกว้าง เธอตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับเขาไปตลอด สุดอสงไขย ณ สถานที่ไร้ห้วงเวลาแห่งนี้“หากว่าถึงเวลาของเรา สักวันหนึ่งเราจะไปด้วยกันนะคะ เราสามคน”“ไม่แค่สามครับ... อนาคตเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่แน่นอนว่าบ้านหลังนี้จะมีจระเข้แอลลิเกเตอร์มากกว่าสามตัว”นานเท่าไรก็จะไม่พรากจาก รอยยิ้มปรากฏบนวงหน้าหล่อเหลา กุมภิลหนุ่มเจ้าเล่ห์กำลังจินตนาการถึงลูกครึ่งจระเข้และแอลลิเกเตอร์ ลูกของเขากับแม่แก้วกัญญาส่วนหญิงสาวยังคงมองตามหยดน้ำใสที่ไหลออกมาจากดวงตาเมื่อมันกลายเป็นก้อนกลม ลอยขึ้นที่สูงแล้วสลายหายไปในอากาศ เธอผุดรอยยิ้มกว้างออกมา ยกปลายนิ้วขึ้นแตะมันที่แตกกระจายออกเป็นฟอง ไม่เลิกร้องไห้ในอ้อมกอดของกุมภิลในวังบาดาลของพญาจระเข้ใหญ่นี้ก็คงจะมีลูกหลานทายาทจระเข้มากกว่าหนึ่งตัว และจากนี้ไปคงมีเรื่องให้คนช่างอยากรู้อยากเห็นอย่างกัญญาวีร์สนุกตามคุณพ่อจระเข้อีกแน่ ๆ ------------------------------------การออกไปว่ายน้ำหาสถานที่อาบแดดเป็นอะไรที่... มีความสุขที่สุด! หากไม่เป็นเพราะว่าคุณแม่อยากลองสถานที่แปลกใหม่ คน
พญาชาละวันคงไม่มีเมตตาต่อมนุษย์เท่าเดิม เมื่อจิตวิญญาณและความทรงจำทั้งหมดกลับคืนมา ตาคมจรดมองร่างสั่นเทา เปียกปอนเหน็บหนาวไม่ต่างจากพรายสาว น้ำตาลูกผู้ชายก็พาลไหลชาละวันบัดนี้ไม่กลัวเกรงพญายมราชหรือใครหน้าไหน แม้ว่าเขาจะเหยียบหน้าเจ้าถิ่น ก็คิดเพียงว่าต้องพาเมียรักกลับคืน ตรงกันข้ามกับอีกคน หญิงสาวคิดว่ามันคงถึงเวลาต้องจากกัน...“ให้แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำมาร่วมกันเถิดค่ะ ตอนนี้กันต้องไปแล้ว ลาก่อนคุณหลวงจัน... พญาชาละวัน...”เพียงเรือลำน้อยแล่นฉลิวไปด้วยความเร็วต่างจากเมื่อครู่ หยาดน้ำใสก็เจิ่งนองเต็มสองตาเจ้าจระเข้ยักษ์ มันไม่ยอมว่ายห่างจากเรือ ยังแปลงกายครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์ แผงอกกว้างกำยำและสองมือเกาะติดเรือไม้อย่างแน่นหนึบ“ผมไปด้วยได้ไหม?”‘ไสหัวไป... ไอ้ตาละวัน’“ไม่ไปครับ...” ในสีหน้ายียวนกวนประสาท กุมภิลหนุ่มรู้ว่าตนจะต้องเจอกับอะไร ไม่มีใครกล้าลองดีกับท่านท้าวพญายมราช ที่ถึงจะส่งพระยมไปเก็บดวงวิญญาณ ก็สามารถสื่อสารจิตถึงกัน หากว่าเจอเรื่องราวอันเป็นอุปสรรคในเมื่อบนโลกนี้ยังมีอมนุษย์และปีศาจบางตน ปะปนแอบแฝงอยู่กับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆทว่าจากเรือนผมที่เคยเป็นสีขาวยาวประเอว บัดนี้
เคียดแค้นชิงชัง โกรธในสิ่งที่เธอทำแต่ว่ายังรัก... เขายังรักเธอหมดหัวใจ‘แม่แก้ว!’ เสียงเรียกดังผ่านกระแสน้ำถึงห้วงจิต อีกเพียงนิดก็คว้าร่างของแม่สาวเอวบางได้แล้ว ทว่าเจ้าของเรือนผมสวยสีดำขลับในมินิเดรสตัวเดิม กลับว่ายขึ้นฝั่งผ่านหน้าเขาไปเสียเฉย ๆ ไม่แม้จะสนใจเขาด้วยซ้ำ‘กัญญาวีร์! รอผมก่อน จะรีบไปไหน...’เดรสลายดอกไม้ตัวนั้นเขาก็ซื้อให้ แค่เธอบอกว่าสวยคำเดียวไม่ว่ามันจะราคาเท่าไร เธอมันก็แค่ผู้หญิงเอาแต่ใจ เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง หัวสูง ทำอะไรไม่ปรึกษา ยิ่งคิดยิ่งน่าโมโห!นัยน์ตาสีแดงสนิทพยายามเพ่งมองให้ชัด โทสะปะทุขึ้นในจิตใจ ร่างสีดำสนิทของจระเข้ใหญ่แหวกว่ายตามไป ก่อนจะพบว่าเป็นเพียงร่างโปร่งใสยังมีอีกคนลอยอยู่ท่ามกลางความมืด สองแขนยกขึ้นเหนือศีรษะ เส้นผมสยายกระจายตามกระแสน้ำ ดวงตาคู่สวยใสใต้เปลือกตาขาวเพียงเบิกมองข้างหน้าอย่างเคว้งคว้าง ในสถานที่แสนเงียบเชียบและหนาวเหน็บลำพัง------------------------------------ร่างไร้ลมหายใจที่หลับใหลอยู่ใต้น้ำ ราวกระชากหัวใจกุมภิลไปจากอก ไม่มีประโยชน์ที่จะดึงรั้งเธอไว้ เมื่อภาพที่ตาเห็น สิ่งที่สองมือสัมผัสเป็นเพียงกายหยาบ เขากอดร่างแสนหวงแหนไม่ห่าง
ปริศนาในใจเธอได้ไขกระจ่างเมื่อไม่นานมานี้ บางทีนี่อาจจะเป็นชะตาลิขิตตามพระครูว่าเธอเป็นกุญแจสำคัญ“ฉันเป็นคนขังเขา แต่ในเมื่อเขาเลิกกินเนื้อมนุษย์ไปแล้ว หมอจระเข้ก็หมดกรรมกับเขาไปแล้ว เขาควรได้รับการปลดปล่อยเสียที ฉันจะทำมันค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันไม่ได้ไปคนเดียว”“เช่นนั้นผมคงห้ามอะไรคุณกันไม่ได้ เอาเป็นว่ามีเหตุฉุกเฉินอะไรให้ตะโกนเรียกผมนะครับ ผมลงไปในบ่อน้ำนี้ไม่ได้”สองนายบ่าวแทบจำมันไม่ได้ด้วยซ้ำ หากว่าไม่เห็นกับตา ยืนอยู่ตรงหน้า พวกเขาจะลืมเรื่องบ่อน้ำเสมอ ขณะส่ายคอมองหาไปรอบ ๆ บริเวณด้านหลังบ้านที่เต็มไปด้วยหญ้ารก ท้องฟ้ามืดลงเต็มที ต่างคนมองเห็นร่างโปรงใสของชายหน้าคุ้นตา ยืนเอามือไพล่หลังอยู่หน้าบ้าน กำลังชะเง้อคอมองหาอะไรสักอย่าง แววตาคู่สวยแปรเปลี่ยนเป็นขึงขังจริงจัง“ฝากด้วยนะคุณคลาวด์ อย่าให้เขามา”“ครับ คุณรีบไปจัดการธุระเสียเถอะ ถึงเจ้านายผมจะหลับ จิตเขาไม่ได้หลับไปด้วย”ได้ยินเท่านั้น เรือนร่างงามของหญิงมนุษย์ก็กลายเป็นเดรัจฉานสีขาว นัยน์ตาสีทอง สัตว์เลื้อยคลานที่มีเขี้ยวคมคลานไปด้วยสี่เท้าของมันลงบ่อไป ------------------------------------ลึก ๆ แล้วกัญญาวีร์
เขายังมีเรื่องราวแปลก ๆ เล่าให้เธอฟังอีกมากแต่เป็นเพราะว่านั่งฟังเสียงตึกตักดังมาได้สักพักจากคุณแม่และคุณลูก จึงซุกปลายจมูกโด่งเป็นสันคมเข้าหาเดรสลายดอกไม้สวย สูดกลิ่นหอมเบา ๆ ให้ชื่นใจ มือเอื้อมผ่านแผ่นหลัง โอบเอวบางของคุณแม่ที่หน้าท้องใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อยอย่างระวัง“ท้องโตขึ้นนะ คุณพ่ออยากเห็นหน้าเจ้าตัวน้อยเร็ว ๆ จัง”“คุณชาร์ลว่าผู้หญิงหรือผู้ชายคะ?”“ผู้ชาย... ผมรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กผู้ชาย”สัญชาตญาณลึก ๆ บอกเขาที่เชื่อในความสามารถการรับรู้ของตน คุณพ่อยังนึกซน พอกลิ่นหอมอ่อนอันมีเอกลักษณ์โชยมาแตะจมูกตามทิศทางลม ขณะที่เดรสกระโปรงยาวคงทำอะไรต่อมิอะไรได้ยากเสียหน่อย คุณแม่ยังหวงเนื้อหวงตัวเป็นพิเศษในระยะหลัง ๆ มา เป็นอาทิตย์แล้วที่เขาไม่ได้กิน! “ตัวเล็กครับ... ก๊อก ๆ อยู่ไหมนะ... พ่อกวนแม่ได้ไหมครับ” “ไม่ได้ครับ ห้ามกวน” คุณแม่ดัดเสียงแหลมเล็กหยอกล้อ ส่งเสียงหัวเราะดังระคนกันไปนายจันเผลอคิดว่าเมียคงกลายเป็นคนขี้แกล้งอย่างเขาเสียแล้ว ขณะมือหนาค่อย ๆ เลื่อนลงต่ำ เลิกกระโปรงบานพลิ้วขี้นกองเหนือหน้าขา ก่อนจะโดนตีมือดังเพี๊ยะ! ดวงตาคู่สวยใสแปรเปลี่ยนเป็นดุดัน ดุแ
กัญญาวีร์ดูเร่งเร้าเหลือเกิน ชายกระโปรงสีครีมหวานเขย่าไปเขย่ามา ทำเอาเจ้าของบ้านลอบยิ้มกรุ้มกริ่ม มือไขประตูอย่างไม่รีบร้อนอะไร แต่พอได้ยินเสียงหวานตะโกน“แม่อ่วม ๆ!”‘เจ้าขา... คุณผู้หญิง... อ่วมอยู่นี่เจ้าค่ะ’ คงไม่มีใครคิดว่าบ่าวผู้จงรักภักดีอย่างแม่อ่วมจะยังอยู่บ้านหลังนี้ นายจันมาที่นี่กี่ทีไม่เคยลองเรียกหล่อนดู จึงไม่รู้ว่าหล่อนยังอยู่ นั่นทำให้เขายิ่งแปลกใจ“เรียกหาบ่าวทำไม?”“คือ... กันดีใจไปหน่อย ลืมตัวค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่า กันหิวแล้ว” พูดพลันควงท่อนแขนเป็นล่ำสันกลบเกลื่อน นายจันยังมีสีหน้าสงสัย ขณะพาหญิงสาวเข้าบ้าน เพิ่งจะเห็นเธอนิ่งเงียบไปหลังส่ายคอมองไปทั่ว ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น“กันทำตัวไม่น่าไว้ใจนะครับ”“ก็ปรกตินี่คะ คุณชาร์ลคิดเองเออเองรึเปล่า?”รอยยิ้มบนวงหน้าหวานบอกว่าไม่มีอะไร เมื่อชายหนุ่มโน้มตัวลงจับมือเรียวเดินผ่านทางเข้าบ้านโบราณที่ตกแต่งด้วยสีขาวครีม ขอบหน้าต่างหลังคาเป็นเกล็ดขนมปังขิง ตามแบบสมัยนิยมยุคคุณหลวง มีภาพขนาดใหญ่ใส่กรอบเป็นหนุ่มหน้าตาเหมือนกับนายชรัณไม่ผิดเพี้ยนแต่ถือไม้เท้าสวมชุดราชปะแตนอยู่กลางบ้าน“คิดถึงจังเลยค่ะ กันอยากกลับบ้านหลังนี้มาน
‘ง่วงก็นอนเสียนะคะคุณหลวงของแก้ว...’เสียงหวานใสยังก้องกังวานในหัว หลังลืมตาตื่นพร้อมคนในอ้อมแขน เรือนร่างกำยำในกางเกงนอนตัวเดียว แผงอกกว้างกำยำเปลือยเปล่าลุกสะลึมสะลือเดินออกจากเตียง เห็นบางคนนั่งอยู่หน้าโน้ตบุ๊คสักพักใหญ่ เขาคิดว่าเธอคงจะงานล้นมือ เพราะหลังจากเลิกงานแต่งมาก็นั่งอยู่แต่หน้าจอวันก่อนคืนงานแต่งงานบอกลาแขกเหรื่อในเวลาสองทุ่มตรง นายจันรู้สึกไม่ดีนักกับการเป็นครึ่งกุมภิล เขาทำอะไรไม่สะดวกเพราะต้องเผื่อเวลาไปไหนมาไหน ยิ่งภรรยาเป็นพวกชอบออกงาน เจ้าสาวยังลำบากกับการจัดการผมยาว ๆ ให้กลับมาเรียบร้อยหล่อเหลา จนทุกวันนี้เธอแทบจะกลายเป็นช่างตัดผมส่วนตัวไปแล้ว“ทำงานหรือครับ? กินข้าวเช้ารึยัง...” บอกพลางหย่อนก้นนั่งลง เกยคางไว้บนไหล่มนอย่างออดอ้อน บนเก้าอี้แคบ ๆ ไม่มีแม้พนักสำหรับวางแขน เขาก็พยายามจะเบียดตัวเข้าไป“กินแล้วค่ะ คุณชาร์ลไปกินข้าวสิคะ กันทำข้าวต้มไว้ให้”“ผมไม่อยากกินข้าวต้ม ใครบอกว่าผมอยากกิน...”‘อยากชื่นใจเมีย’“แต่ว่ากันเหนื่อยมากค่ะ งานแต่งเป็นอะไรที่ยุ่งมาก วุ่นวายมาก ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย”“ปากบอกว่ายุ่งแต่มีเวลามานั่งทำ...” เงียบไป ตาคมหลุบมองคนที่สลับจอเ
สิ้นเสียงตวาดกร้าวผ่านห้วงจิต หล่อนก็กลับกลายเป็นหญิงงาม เจ้าของร่างพอรับรู้ได้ว่าตนไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น เหลือเพียงเรือนร่างเปลือยเปล่าบนที่นอนนุ่ม จึงรีบคว้าผ้านวมหนาขึ้นคลุมหน้าอก มองไปทางเสื้อผ้าขาดวิ่นบนพื้นพลางถอนหายใจ“เฮ้อ... เสียดายชุดสวย บอกให้ถอดก่อนก็ไม่ได้ แม่วิมาลานี่นิสัยแย่ไม่เปลี่ยน”“ช่างมันเถอะครับ มันเป็นเหตุสุดวิสัย”ร่างสูงหย่อนก้นนั่งลงข้างกัน เป็นเธอที่พอสบเข้ากับแววตาคมวาบก็หลุบหนี ใบหน้างามบึ้งตึง เริ่มจากแก้มร้อนผ่าวเพราะอารมณ์โกรธ แดงขึ้นตามลำดับ“พ่อคนหลายเมีย เมียเยอะมากความ มากเรื่องวุ่นวาย มีคนเดียวเสียตั้งแต่ทีแรกคงไม่ต้องมานั่งปวดหัวขนาดนี้”“กันไม่เกิดให้เร็วกว่านี้ล่ะ”“เกิดมาแล้วไงคะ แต่ว่าเราคงทำบุญมาร่วมกันแค่นั้น มันน่าเสียใจนะ...”กัญญาวีร์รับรู้ทุกอย่างได้จากจิตใต้สำนึกของเธอเอง เพียงเปิดใจรับฟังอีกสองดวงจิตอย่างไร้ความหวาดกลัว ไร้ข้อโต้แย้ง ปล่อยให้ทุกอย่างหลั่งไหลเข้ามาดังกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก...สายน้ำอันอบอุ่นเปรียบดังความรักของชายผู้หนึ่ง ผู้เป็นรักแรกพบตั้งแต่วันแต่งงาน ‘คุณจัน’ ทำให้เธอเป็นคนที่ดีขึ้น มอบความสบายให้เธอผู้เป็นเมียมาทุกภพช
ดวงตาคู่สวยส่ายมองโซฟาสีดำหน้าเตาผิงน่ารักในห้องใต้หลังคา รอบเตียงประดับด้วยไฟเชิงเทียนดวงเล็ก มีกลีบดอกกุหลายโรยบนที่นอนสีน้ำตาลเทา พื้นพรมนุ่มนิ่มเหมือนว่ากำลังเหยียบขนสัตว์ ทุกอณูอบอวลกลิ่นอายของเมืองนอก ซึ่งเธออาจไม่ได้กลับไปอีกแล้ว กัญญาวีร์เคยบอกกับเขาครั้งหนึ่ง ไม่คิดว่าเขาจะจดจำมันได้ยังหาบ้านที่ถูกใจเธอ แม้ว่าเฟอร์นิเจอร์สำหรับเมืองร้อนหลายชิ้นอาจเอาไว้แค่ตั้งโชว์“สวยจัง... เหมือนอยู่เมืองนอกเลยค่ะ ถ้ามองออกไปเห็นหิมะได้คงดี”“ห้องนี้ผมแต่งเติมเพิ่มแค่ห้องเดียวครับ ทำเองทั้งหลังไม่มีทางทัน รีโนเวตทีเป็นเดือน ๆ”ใบหน้าสดสวยระเรื่อยิ้ม เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบกรามแกร่งเป็นรางวัล ก่อนจะหันไปเห็นกรอบภาพบนโต๊ะหัวเตียง หญิงสาวในภาพตรงหน้า ใส่ชุดเดียวกับที่เธอใส่ เธอมีรอยยิ้มสดใสประดับบนใบหน้าหวานหมดจด งามอย่างหญิงไทยโบราณ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเธอและเขาเพิ่งเดินเข้าห้องมา ไม่มีทางที่เขาจะอัดรูปมาแปะฝาผนังไว้ทัน ดวงงตาคู่สวยเบิกกว้าง ปลายนิ้วชี้หน้าสาวในรูป“คุณชาร์ล! กล้านอกใจกันเหรอ?”“เปล่าครับ... ไม่เคยทำเลยนะ แล้วผมเพิ่งบอกกันไปเมื่อกี้ ไม่ได้ฟังเหรอ?”‘สมองหมาปัญญานิ่ม แม่