เมื่อส่วนหัวแตกปลายถูกดันเข้าไปยังร่องสาว เสียงร้องครวญครางของแบมบี๋ก็ดังขึ้นด้วยความรู้สึกเจ็บแสบและทรมานอย่างถึงที่สุด ท่อนเอ็นเลื่อนผ่านเยื่อความบริสุทธิ์รับรู้ถึงเยื่อพรหมจรรย์ที่ฉีกขาดออกจากกัน
"อ้าส์~ เจ็บ"
แบมบี๋ร้องครางออกมาเสียงกระเส่า มือเล็กกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเพราะรู้สึกเจ็บปวดทรมานอย่างถึงที่สุด เธอไม่เคยถูกท่อนเอ็นล่วงล้ำเข้ามายังจุดสงวน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตจึงทำให้ไม่สามารถปรับตัวให้คุ้นชินได้ในทันที
"ซี๊ด... เจ็บเหรอคะ"
เขาคร่อมตัวหญิงสาวเอาไว้ ยื่นมือไปลูบผมเธออย่างปลอบโยน เพื่อนคลายความเจ็บปวดทรมานในร่างกาย มันเป็นเรื่องปกติสำหรับครั้งแรก ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย แต่พอผ่านไปได้จะมีแต่ความสุขจนแทบจะสำลักเลยแหละ
"เจ็บค่ะ... อื้อ อ๊ะ"
"ทนหน่อยนะคะเดี๋ยวจะดีขึ้น"
ชายหนุ่มเอ่ยปลอบคนรักก่อนจะกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น ท่านเอ็นขนาดใหญ่ถูกร่องสาวตอดรัดแน่น ยังไม่ได้ขยับเลยด้วยซ้ำแต่เขากลับรู้สึกว่าน้ำจะแตกซะอย่างนั้น
"หนูอย่าดิ้น ซี๊ด! พี่จะแตก"
เขาร้องครางออกมาก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปยังเอวของหญิงสาว จากนั้นก็ดึงตัวเธอขึ้นมานั่งลง ก่อนจะเริ่มขยับแก่นกายความเป็นชายอย่างเชื่องช้า เนื่องจากคนรักของเขายังขยับตัวตามจังหวะไม่ได้
"อ๊ะ อ๊ะ"
ร่างบางสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทกจากเอวสอบ มือหนาถูไถจุดกระสันเพื่อเพิ่มความเสียวซ่านไปอีก
"หนูไม่ไหว อ๊ะ อื้อ"
"เสียวมากที่รัก"
เขากัดริมฝีปากเอาไว้แน่น เอวสอบขยับเขยื้อนไปตามแรง กระแทกเข้าไปอย่างหนักหน่วง และยิ่งเสียงร้องครางของแบมบี๋ดังมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้มากเท่านั้น สองกายประสานกันแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน และตอนนี้หญิงสาวเริ่มปรับตัวเข้ากับจังหวะอันเร่าร้อน
"อื้อ"
จากตอนแรกที่ถูกกระแทกกระทั้นจุกตรงท้องน้อยแทบจะขาดใจ บัดนี้กลายเป็นเสียวซ่านในทุกครั้งที่แก่นกายความเป็นชายกระแทกเข้ามา ด้วยขนาดและความยาวเวลาที่เขากระแทกเข้ามาจนสุดลำ มันทำให้เธอเสียวท้องน้อยจนแทบอดทนไม่ไหว
"เสียวค่ะ อ๊ะ"
"ขย่มบ้างสิหนูจ๋า"
พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภูริชเชียร์ให้หญิงสาวเป็นคนทำให้เขามีความสุขบ้าง และแน่นอนว่าเธอทำตามที่เขาต้องการไม่มีปฏิเสธ ถึงแม้ว่าจะอ่อนหัดเรื่องพวกนี้ แต่เธอพร้อมที่จะเรียนรู้ไปกับเขา
"สอนสิคะ"
ริมฝีปากเล็กเอ่ยออกมาเสียงกระเส่า กัดริมฝีปากเอาไว้แน่นเงยหน้าขึ้นครางออกมาเสียงหวาน จนเขาแทบอดทนไม่ไหว จับสะโพกแอ่นทั้งสองข้างก่อนจะกระแทกเข้าไปจนสุดลำ และเพียงไม่นานทั้งคู่ก็ถือฝั่งปรารถนาไปพร้อมกัน
"ซี๊ด!"
"อ้าส์~"
พ่อเลี้ยงภูริชกระตุกเกร็งปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปในตัวของคนรักทุกหยาดหยด สภาพในตอนนี้ดูเพลียเพราะใช้แรงไปมหาศาล แต่ความที่ของขาดมานาน เขาไม่มีทางที่จะหยุดแค่รอบเดียวแน่นอน
"เหนื่อยค่ะ"
หญิงสาวล้มตัวลงไปซบอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม หายใจหอบระรวยรินก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อพ่อเลี้ยงภูริชอุ้มเธอให้ขึ้นมาคร่อมอยู่บนตัวของเขา รอยยิ้มมุมปากเผยออกมาไม่มีปิดบัง
"ขย่มให้พี่หน่อยสิ เอาแบบแรง ๆ เลยนะ"
"คนบ้า!"
หญิงสาวยิ้มเขินใบหน้าแดงก่ำแทบจะเป็นลูกตำลึง สภาพร่างกายของเราสองคนในตอนนี้เปลือยเปล่าทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนตรงไหนในร่างกาย พ่อเลี้ยงภูริชก็ได้เชยชมสมใจหมาย มือปลาหมึกไม่ปล่อยให้ได้พัก ลูบไล้ตามเนินปทุมถันบีบเคล้นเล่นอย่างเพลินมือ
"น้า ๆ พี่อยากดูหนูขี่ม้า"
"แดดดี้! คนบ้า"
เธอยิ้มเขินก่อนจะค่อย ๆ ขยับสะโพกอย่างเก้กัง ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็รู้สึกขัดใจ ใช้มือทั้งสองข้างจับไปยังสะโพกก่อนจะบีบเคล้นเล่นอย่างเพลินมือ จากนั้นก็จับขยับขึ้นลงให้เป็นจังหวะ
"โอ้ว! สุด"
"เสียวมากคนดี ทำถึงสุด"
เขายิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยชมคนรักไม่มีหยุด จะบอกว่าทำถึงแบบมืออาชีพก็คงจะโกหก แต่สำหรับคนที่เคยมีความสัมพันธ์เรื่องบนเตียงครั้งแรก แล้วทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งที่สุดแล้ว อีกอย่างหนึ่งเขาอยากให้กำลังใจหนูน้อยสุดที่รัก แล้วเดี๋ยวค่อยสอนท่วงท่าอื่น ๆ รับรองว่าอีกหน่อยเป็นงานแน่
"อ๊ะ อ้าส์ อื้อ"
สะโพกแอ่นยกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ หมุนควงท่อนเอ็นขยับขึ้นลงเชื่องช้า และเมื่อจังหวะเริ่มได้ที่หญิงสาวก็เอื้อมมือไปจับมือของชายหนุ่มเอาไว้ ซึ่งตอนนี้กำลังบีบเคล้นหน้าอกเธอเล่นอยู่ เงยหน้าขึ้นมองเพดานก่อนจะหลับตาลง กัดริมฝีปากของตัวเองไว้แน่นด้วยความเสียวซ่านจนแทบจะขัดใจ
"อ๊ะ... อ้าส์~"
"แบบนั้น แรงอีกหน่อยค่ะที่รัก"
เขาผละมือออกจากเต้านมอึ๋มก่อนจะกอดรัดเอวเล็กเอาไว้อย่างแนบแน่น มอบไอร้อนจากกายของเขาส่งผ่านให้หญิงสาวด้วยอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น
ท่อนเอ็นกระแทกสวนกลับไปอย่างแรงจนหญิงสาวถึงกับตัวสั่นไหวไปตามแรง ลมหายใจของทั้งคู่ยังคงหนักหน่วง ความเร่าร้อนที่ส่งผ่านให้แก่กันและกันมันถึงอกถึงใจทั้งคู่ เรียกได้ว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันในทุก ๆ ด้าน หญิงสาวหลับตาลงซึมซับความรู้สึกหอมหวานที่เขาตั้งใจมอบให้ จนในที่สุดทั้งคู่ก็ถึงฝั่งปรารถนาพร้อมกันอีกครั้ง
"ซี๊ด~ อุ่นไหม"
"คะ... หมายถึงอะไรอุ่นคะ"
"ก็พี่แตกในไง หนูอุ่นรึเปล่า"
"แดดดี้! บะ...บ้า"
ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างขำขัน ก่อนจะลูบไล้แผ่นหลังของเธอด้วยความอบอุ่น ย้ำเตือนให้หญิงสาวรับรู้ว่าความรักที่เขามีให้เธอจะไม่มีวันจางหายไปไหน แบมบี๋คือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับพ่อเลี้ยงภูริช
"พี่กล่อมหนูนอนดีกว่า"
พ่อเลี้ยงภูริชโอบกอดเธอเอาไว้แน่น ความรักที่มีให้เธอไม่ได้แสดงออกเพียงแค่ทางการกระทำเท่านั้น แต่หัวใจของเขาหญิงสาวรับรู้ได้ว่ามันอ่อนโยน และลึกซึ้งเกินกว่าที่คนภายนอกจะรับรู้ได้
"รักแดดดี้ที่สุดเลยค่ะ"
"พี่ก็รักหนูมากเหมือนกันค่ะ หลังจากนี้พี่จะรักและปกป้องหนูอย่างถึงที่สุด จะไม่ให้ใครมาทำร้ายหนูได้"
"ใครมันจะกล้ามาทำร้ายหนูคะ แดดดี้ดูแลดีขนาดนี้"
เขายิ้มออกมาไม่พูดอะไร ไม่ได้คิดว่าจะมีใครมาทำอันตรายเธอหรอก แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้ามีขึ้นมาเขาเนี่ยแหละจะจัดการมันด้วยตัวเอง
"พูดไว้ก่อน ถ้ามีคนกล้าทำจริงขึ้นมาพี่ไม่เอามันไว้แน่"
เช้าอันสดใสท้องฟ้าปลอดโปร่งบรรยากาศเย็นสบาย ไร่ชาตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาเขียวขจี พนักงานเริ่มเดินกันให้ขวักเตรียมตัวสำหรับการประชุมสำคัญในวันนี้"เดี๋ยวคุณแดนช่วยเอาเอกสารเข้าไปที่ห้องประชุมด้วยนะคะ แบมจะไปเรียกแดดดี้ค่ะ ตอนนี้น่าจะกำลังดื่มกาแฟร้อนอยู่""ได้ครับเดี๋ยวผมเตรียมเอกสารให้ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันในห้องประชุมนะครับ"แดน หรือผู้ช่วยคนสนิทของพ่อเลี้ยงภูริช เจ้าของไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือ มีพื้นที่ประมาณหนึ่งร้อยไร่ และมีธุรกิจคาเฟ่ขนาดใหญ่ใจกลางไร่บรรยากาศดีมาก และมีโฮมสเตย์ใจกลางธรรมชาติ เปิดระเบียงออกมามีไร่ชา และอีกฝั่งเป็นน้ำตกใสสะอาด"ขอบคุณมากเลยค่ะ"แบมบี๋ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องทำงานของพ่อเลี้ยงภูริช เขาคือผู้มีพระคุณที่คอยเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็ก เท่าที่จำความได้คือคุณแม่ของเขาพาเธอมาอยู่ที่นี่ ส่วนพ่อเลี้ยงทำหน้างอไม่ชอบขี้หน้าเธอ แต่ก็ไม่ได้อยากขัดคุณแม่ก็เลยต้องยอมให้เธออยู่ด้วย แต่ช่วงหลังน่ารักขึ้นมากเลยแหละก๊อก ก๊อก"แดดดี้คะ แบมบี๋ขออนุญาตเข้าไปข้างในค่ะ""เข้ามาสิ"ชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ตรงระเบียงห้องทำงาน ได้ยินเสียงเคาะประตูก็
หลังจากการประชุมที่แสนยาวนานเสร็จสิ้นลง พนักงานทั้งหมดเริ่มทยอยออกจากห้องประชุมไป เหลือเพียงสองคนที่ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ นั่นคือพ่อเลี้ยงภูริชและแบมบี๋ภูริชหนุ่มหล่อมาดเข้มเจ้าของไร่ชา มองไปที่หญิงสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู และปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เขาคิดหนักอีกครั้ง เมื่อหญิงสาวอ้อนขอออกไปข้างนอก“แดดดี้คะ หนูขออนุญาตออกไปกินหมูกระทะกับเพื่อน ๆ ในตัวอำเภอหน่อยได้ไหมคะ”แบมบี๋พูดออกมาพร้อมกับยิ้มให้พ่อเลี้ยงภูริชอย่างออดอ้อน ทำให้รู้สึกใจอ่อนไม่อาจปฏิเสธได้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่รู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้ามักจะทำตัวน่ารักและขี้อ้อนเสมอเมื่ออยากได้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง“พี่ไม่ให้ไป”“ทำไมคะ”เธอเอ่ยถามเสียงใส ก็แค่ออกไปกินหมูกระทะในตัวอำเภอเอง ทำไมจะต้องมาห้ามกันด้วย“ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน ต้องมีเวลาพักผ่อนบ้างสิคะ น้า ๆ หนูขอออกไปกินกับเพื่อนนะ”“ไม่ให้ไป”"แดดดี้!""เดี๋ยวนี้ดื้อกับพี่หรือไง หืม"เขาหันไปคุยกับหญิงสาวด้วยใบหน้าซีเรียส ถึงแม้ว่าจะไปกับเพื่อนก็เถอะ แต่เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น แบมบี๋เป็นเด็กในความดูแล เขามีสิทธิ์ที่จะรับรู้ทุกความเคลื่อนไหว และอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เธอออก
พ่อเลี้ยงภูริชเดินไปตักของสดให้เด็กในความดูแลอย่างเอาอกเอาใจสุด ๆ ใครจะคิดว่าคนอายุขึ้นเลขสี่จะมีโมเมนท์อ่อนโยนมากขนาดนี้ ใครเห็นก็ต้องอิจฉาแบมบี๋ ทั้งที่เธอเป็นแค่เด็กที่แม่เขาเก็บมาเลี้ยง แต่ทำไมชายหนุ่มถึงดูแลดีขนาดนี้ ทะนุถนอมอย่างดีสร้างโฮมสเตย์ให้ดูแล รวมถึงคาเฟ่ใจกลางไร่ชาในพื้นที่ร้อยไร่ พ่อเลี้ยงเมืองเหนือผู้ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ใครไม่หมายปองบ้างให้มันรู้ไปสิ"ให้พี่ย่างให้มั้ย"และเมื่อเขาเดินมาถึงที่โต๊ะก็วางทุกอย่างลงพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน เพื่อนของแบมบี๋ที่นั่งอยู่ถึงกับสะกิดกันให้เหลือบสายตามอง เอาจริงไม่มีใครห้ามเพื่อนเลยนะ ออกจะยินดีด้วยซ้ำ เพราะพ่อเลี้ยงภูริชแสนจะเพอร์เฟคไร้ที่ติ ดูแลเอาใส่ใจแถมรวยขนาดนั้นใครไม่อยากได้บ้าง"ไม่เป็นอะไรเลยค่ะเดี๋ยวแบมทำให้เอง แดดดี้มานั่งเถอะค่ะไม่ต้องลุกขึ้นแล้ว""อยากกินสามชั้นอะ"เขาขยับตัวนั่งลงเคียงข้างหญิงสาว ก่อนจะชี้นิ้วเรียวใหญ่ไปตรงสามชั้นที่เขาเพิ่งตักใส่จานมาเมื่อสักครู่ แบมบี๋หันไปมองตามที่เขาชี้ก่อนจะใช้ตะเกียบคีบใส่กระทะตรงหน้า"ว่าแต่ที่ไร่ของพ่อเลี้ยงปีนี้มีงานเลี้ยงประจำปีไหมคะ พวกเราคิดถึงบรรยากาศมากค่ะ
ใช้เวลาอยู่ในร้านหมูกระทะประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง พ่อเลี้ยงภูริชก็รู้สึกเบื่อแล้วก็เริ่มเวียนหัวกลิ่นควัน เริ่มรบเร้าเด็กในความดูแลให้กลับ โดยปกติถึงแม้ว่าจะกินอิ่มแต่เธอจะนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ต่ออีกเป็นชั่วโมง แต่ด้วยความที่มากับผู้ปกครองก็ต้องตามใจเขาหน่อย และที่สำคัญคือมื้อนี้เขาเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด บรรดาเพื่อนของเธอยิ้มแก้มปริดูอารมณ์ดีกันมาก แถมยังคะยั้นคะยอให้เธอรีบกลับบ้านไปกับเขาอีก"คราวนี้ไม่เห็นจะเรียกร้องให้ฉันอยู่เลย""เอาน่า มื้อนี้พวกฉันกินฟรีนะยะ แล้วเจอกันอีกทีวันงานเลี้ยงประจำปีของไร่ชานะ""อืม เจอกันนะ"เธอโบกไม้โบกมือลาเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กำลังจะเตรียมตัวกลับกัน ทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะพากันลุกขึ้นเดินออกมายังเคาน์เตอร์ซึ่งตอนนี้พ่อเลี้ยงภูริชกำลังชำระเงินอยู่"ขอบคุณมากเลยนะคะพ่อเลี้ยง วันนี้พวกหนูอิ่มกันมากเลยค่ะ""ไม่เป็นไรเลยค่ะ เอาไว้ไปกินที่งานประจำปีโน่น รับรองว่าอาหารถูกปากกินกันพุงกางไปเลย"ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็ก ๆ ทั้งหลาย ความจริงในวัยอายุแบบเขาน่าจะคุยกับเด็กวัยนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว แต่ด้วยความที่อยากปรับตัวให้เข้ากับแบมบี๋ได้ จึงจำเป็นที่จะต้องทัน
แบมบี๋เดินไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด นี่ก็เป็นเวลาประมาณสามทุ่มกว่าแล้ว พรุ่งนี้ที่ไร่มีประชุมงานประจำปีของไร่ชา จะจัดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้านี้ ส่วนรายละเอียดคงต้องประชุมกันอีกที"ง่วงจัง"เธอเอ่ยออกมาพร้อมกับเดินไปนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบครีมบำรุงผิวมาละเลงลงบนตัว ก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากข้างนอกห้องนอน"ใครคะ"แบมบี๋วางของทุกอย่างลงก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูหน้าห้องนอน ที่ไร่แห่งนี้มีโฮมสเตย์ประมาณ 88 หลัง คาเฟ่อีก 1 ร้าน ซึ่งอยู่ในความดูแลของเธอทั้งหมด จากเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่กลายมาเป็นคุณหนูของไร่ภูริช มีเงินทองมากมายไม่เคยขาดมือแอ๊ดดดด"อ๊ะ แดดดี้!"เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่ชายหนุ่มเข้ามาในห้องนอนของเธอยามวิกาลแบบนี้ แสงไฟอ่อน ๆ ส่องสว่างกระทบใบหน้าของทั้งคู่ พ่อเลี้ยงภูริชกระโจนเข้ามาใกล้หญิงสาวก่อนจะสวมกอดเอวเล็กเอาไว้หลวม ๆ ร่างกายของทั้งคู่แนบชิดใกล้ หัวใจของพวกเขาทั้งสองคนเต้นแรงจนอีกฝ่ายรู้สึกได้ ปลายจมูกของชายหนุ่มสัมผัสกับปลายจมูกของเธอ จนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันแบบชัดเจน"ขอนอนด้วยสิ""งื้อ นอนได้ยังไงคะ คือแบม..."ใบหน้าหล่อ