“ตกหลุมพรางของผมเหรอ” เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี“ไม่ใช่เหรอ คุณจงใจบอกให้ผมเริ่มก่อน ยั่วยุเพื่อให้ผมทำแบบนั้น แล้วจะได้ใช้โอกาสลอบโจมตีผมได้”“คราวนี้ ถ้าผมไม่ฉลาดป้องกันเอาไว้ ก็คงถูกคุณรอบโจมตีสำเร็จไปแล้ว”หม่าจวิ้นกล่าวขอบคุณโชคชะตาเย่เทียนหยู่ทำหมดคำจะพูด เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า “โอเค คุณก็จีเนียสดี”“เหอะ ของมันแน่อยู่แล้ว ก็เพราะผมมองออกหมดแล้วยังไงละ”“ตอนนี้ผมจะไม่ให้โอกาสคุณอีกแล้ว ผมลืมบอกคุณว่าสภาพร่างกายของผมโดดเด่นมาตั้งแต่เด็ก คนระดับเดียวกันไม่เหมาะกับผม”“ดังนั้น แม้ว่าคุณจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงพลังงาน คุณก็จะพ่ายแพ้ให้กับผมอย่างแน่นอน”หม่าจวิ้นพูดด้วยความภาคภูมิใจเย่เทียนหยู่ยิ้มแห้ง ไม่นึกเลยว่าเจ้าหมอนี่จะน่ารักเฉิ่มเบ๊อะแบบนี้ เขาส่ายหน้าและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ใครบอกคุณว่าผมเป็นจอมยุทธ์ระดับพลังผลัดเปลี่ยนตอนต้น”“ผมก็ต้องมองออกด้วยเองอยู่แล้วสิ คิดว่าซ่อนมันไว้มิดแล้วสินะ แต่ด้วย IQ อันสูงส่งของผม แค่ผมมองดูก็รู้แล้วว่าพลังคุณอยู่ระดับไหน”“เป็นยังไง ประทับใจกับความฉลาดของผมสินะ”หม่าจวิ้นถามอย่างภาคภูมิใจ“…”“ช่
“ตลอดชีวิตของผม เขาเป็นไอดอลเพียงคนเดียวที่ผมเคารพบูชา”เมื่อเขาคิดถึงราชามังกรดวงตาของหม่าจวิ้นเต็มไปด้วยความชื่นชม ความปรารถนาสูงสุดในชีวิตนี้คือการได้พบกับราชามังกรสักครั้งหากสามารถทำงานให้ราชามังกรได้ เขาจะยิ่งมีความสุขมากกว่านี้อีกหลิวเมิ่งพูดไม่ออกเล็กน้อย ชื่นชมราชามังกรมากแต่ซัดเขาอย่างกับจัดการเด็กเหลือขอ “แล้วนายเคยเจอราชามังกรรึเปล่า” เธอค่อย ๆ เอ่ยปาก“แน่นอนว่าไม่ ราชามังกรมีตัวตนลึกลับไม่อาจคาดเดา เป็นราชามังกรผู้หลบซ่อนตัวตน อย่างผมจะมีโอกาสเจอเขาได้ยังไง!” หม่าจวิ้นส่ายหน้าพร้อมดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา“จริงเหรอ แต่อันที่จริง ฉันว่านายเคยเจอราชามังกรแล้วนะ” หลิวเมิ่งกล่าวทันที“ไร้สาระ เป็นไปไม่ได้”หลังจากที่หม่าจวิ้นพูดจบ เขาก็รีบกล่าวเสริมทันที “หลิวเมิ่ง ผมก็ไม่อยากจะอะไรกับคุณหรอกนะ แต่สิ่งที่คุณพูดมันจะอัศจรรย์เกินไป ถ้าผมเคยเจอราชามังกรจริง ผมจะไม่รู้เรื่องนั้นได้ยังไง”“นายเคยเจอจริง ๆ นะ”“เป็นไปไม่ได้ ถ้าผมเคยเจอราชามังกร ผมต้องรีบเข้าไปขอลายเซ็นของเขาด้วยความเคารพแล้วสิ”“…”“ทำไมนายต้องอยากได้ลายเซ็นคนที่เป็นจอมยุทธ์ด้วย ไม่ใช่ต้องให้เขาสอน
เห็นได้ชัดว่าเย่เทียนหยู่ไม่รู้เรื่องเลย เขาขับรถออกไป แต่ในขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น หลังจากดูเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้ว เขาก็รับสายอย่างไร้ทางเลือกประเด็นเป็นเพราะ ครั้งก่อนในสถานการณ์ที่อันตรายแบบนั้น อีกฝ่ายยังคงให้ทางเลือกแก่เขาและบอกว่าเขาจะช่วยเขาแต่แน่นอนว่าผู้หญิงคนนี้นิสัยไม่เลว เพียงแต่สมองมีเสี้ยนต่ำจนน่าจะแล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ทันทีที่โทรติด คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็พูดด้วยความโกรธ “เย่เทียนหยู่ นายเก่งจริง ๆ นะ ไม่รับสายฉันเลย”เย่เทียนหยู่ยิ้มอย่างขมขื่นและอยากถามว่า ความสัมพันธ์ของเราคืออะไร ทำไมฉันจะต้องรับสายของคุณ เขาพูดอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าหน้าที่หลงตามหาผมมีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ”“เรื่องอะไรเหรอ หลินหว่านหรูไม่ได้บอกนายเหรอ”“บอกอะไรเหรอ” เย่เทียนหยู่ไม่ตอบ“ดูเหมือนคุณจะไม่รู้เลย และนั่นก็เข้าใจได้”หลงเจี๋ยตะคอกอย่างเย็นชา “นายไม่รู้เหรอว่า นายทำให้ตระกูลเย่ขุ่นเคืองขนาดนั้น แต่ตระกูลเย่ไม่ได้ส่งคนไปสร้างปัญหาให้นายต่อด้วยซ้ำ”เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อยและพูดด้วยความสับสน “เรื่องนั้นผมรู้แล้ว แต่มันเกี่ยวอะไรกับคุณ”“ต้องเกี่ยวอยู่แล้วสิ!”“ก็ถ้าฉั
เอวของเธอบอบบางจนอาจกุมรอบได้ไม่อยากเนินอกที่อวบอิ่มถูกห่อด้วยชุดกระโปรงยาวสีดำ เป็นทิวทัศน์ที่สมบูรณ์แบบและเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนให้ผู้คนจับจ้องสิ่งที่งดงามยิ่งกว่านั้น คือดวงตาสีชมพูทรงนกฟีนิกซ์ของเธอ เพียงมองแวบเดียว ก็อาจตกหลุมรักดวงตาทั้งสองข้างได้อย่างง่าย จนอาจโงหัวไม่ขึ้นแม้ว่าเธอเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองที่แท้แล้ว เมื่อครู่ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เย่เทียนหยู่ในระยะไกล และก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็วแม้แต่เย่เทียนหยู่ก็ประหลาดใจ ภาพลักษณ์ของเธอตอนนี้ทำให้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้ยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบขนาดไหน แต่ในสายตาของเขา มีเพียงหลินหว่านหรูเท่านั้นที่สามารถเรียกได้ว่างามอย่างไม่อาจเทียบแน่นอนว่า หยางเฉียนเฉียนที่ได้รับการฝึกฝนพลังมาแล้วก็พอกันเย่เทียนหยู่เพิกเฉยอีกฝ่าย และหาที่นั่งให้นั่งรอการมาถึงของหลงเจี๋ยหลงเจี๋ยมาอย่างรวดเร็วและมาถึงภายในเวลาไม่นาน เขาเหลือบมองเย่เทียนหยู่ที่นั่งอยู่ที่นั่น ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อขึ้นมาทันที และเขากระซิบ “ทำไมคุณถึงจองที่นี่”“ที่นี่ไม่ดีเหรอ ผมว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ค่อนข้างดี”“ดีอะไรละคะ คนที่มาที่นี่มีแต่คู่รักกันเท่านั้นละค
“ว่ายังไงนะ นายคือราชามังกรแห่งพรรคมังกรเหรอ”“เย่เทียนหยู่ นายดูถูกฉันรึไง ต่อให้นายอยากหลอกฉัน ก็ช่วยหาเหตุผลที่ปกติหน่อยได้ไหม” หลงเจี๋ยโกรธทันทีเขาไม่มองกระจกหน่อยเหรอ จะได้ดูว่าตัวเองมีท่าทางทรงอำนาจเหมือนกับราชามังกรแห่งพรรคมังกรหรือไม่ ในใจของเธอ ราชามังกรเป็นบุคคลที่มีอำนาจเหนือกว่า ทรงพลัง และน่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอนแม้ว่าอีกฝ่ายจะอายุยังน้อย แต่ก็ไม่มีทางเป็นเย่เทียนหยู่อย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่มีสีหน้าสิ้นหวัง ฉันบอกความจริงกับคุณแล้วคุณไม่เชื่อฉัน เขาพูดอย่างช่วยไม่ได้ “เอาล่ะ ฉันไม่ใช่ราชามังกร ฉันแค่ล้อเล่น!”“ก็พอจะรู้หรอกว่านายชอบขี้จุ๊ ต้องหลอกฉันอยู่แน่ ถูกฉันจับได้แล้วใช่มั้ยละ ตอนนี้ บอกฉันมาว่าตกลงนายเป็นใครกันแน่”“เรื่องนั้น ผม คุณอยากให้ผมเป็นอะไรละ”“อะไรเรียกว่าฉันอยากให้นายเป็นอะไร นายล้อเล่นกับฉันอยู่เหรอ ฉันว่านายกำลังปกปิดตัวตน ไม่เหมาะจะเปิดเผย ถ้างั้นนายก็กระซิบบอกฉันหน่อยแล้วกัน”“นี่เป็นความลับมากเลยนะ อันที่จริงผมเป็นสายลับ” เย่เทียนหยู่หาเหตุผลขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ“ว่าอยู่แล้วเชียว ฉันเดาไว้นานแล้วว่านายเป็นสายลับ”หลงเจี๋ยพูดด้วยความตื่นเต้
คราวหน้ายังมีโอกาส ค่อย ๆ ถามไปก็แล้วกันหลงเจี๋ยออกจากที่นี่และกลับไปที่สำนักงานตำรวจหลังจากที่ได้พบกับสารวัตจาง เธอก็ลืมคำสัญญาของเธอกับเย่เทียนหยู่ไปโดยสิ้นเชิง และพูดอย่างภาคภูมิใจ “ลุงจาง คุณคิดว่าฉันจะไม่รู้จักตัวตนของเย่เทียนหยู่ด้วยตัวเองถ้าคุณไม่บอกฉันหรือเปล่า”จางเจิ้งตกใจเล็กน้อยและพูดว่า “เธอรู้แล้วเหรอ”เขาเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ไม่นาน คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเย่เทียนหยู่ก็คือราชามังกรในตำนานคนนั้นไม่น่าแปลกใจเลยที่เขามีความสามารถมากมายและทำตัวมีอำนาจเหนือกว่าเขากลายเป็นราชามังกรแห่งพรรคมังกรในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมรัฐมนตรีหวงจึงให้ความสำคัญกับเขามากเมื่อหลงเจี๋ยได้ยินแบบนั้น เขาคิดกับตัวเองว่าลุงจางรู้เรื่องนี้จริง ๆ ในเมื่อเขารู้ มันไม่สำคัญว่าเขาจะพูดออกไปหรือไม่ เขาก็กระซิบทันที “แน่นอน เขาเป็นตัวแทน แม้ว่านี่จะเป็นความลับก็ตาม ลุงจางไม่จำเป็นต้องซ่อนมันจากฉัน”“อะไรนะ”“สายลับ”จางเจิ้งนึกว่าตัวเองฟังผิด“ใช่ มีอะไรผิดปกติเหรอคะ”“เปล่าหรอก เธอโอเคก็ดีแล้วละ เราไปประชุมกันเถอะ”จางเจิ้งพูดไม่ออก เธอคนนี้คงถูกราชามังกรเย่เทียนหยู่หลอกมาแน่นอนแต่ราชามังก
“คนสวย ดูเหมือนคุณได้ยินเรื่องที่ผมพูดแล้วจะอารมณ์ดีนะ หรือคุณคนสวยคิดจะดึงดูดผมอยู่เหรอ” เย่เทียนหยู่ถามอย่างจงใจเมื่อหญิงสาวได้ยินแบบนั้น เธอก็รีบควบคุมอารมณ์อย่างรวดเร็ว ปกติแล้วเธอจะสงบมาก แต่วันนี้เธอตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เพราะเพียงไม่กี่คำของนายน้อยเธอสงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็วและถามว่า “คุณทำกับผู้หญิงทุกคนแบบนี้หรือเปล่าคะ”“ฮ่าฮ่า แน่นอนว่าไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพูดติดตลกแบบนี้นะ”“ผมชื่อเย่เทียนหยู่ ไหน ๆ เราก็ถูกกำหนดให้มารู้จักกันอยู่แล้ว ผมขอถามชื่อคุณบ้างได้มั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“จูเก่อหลิวหลี!”หญิงสาวตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกับท่าทีไม่ถือสา“จูเก่อหลิวหลีช่างเป็นชื่อที่ดีจริง ๆ บนโลกมีคนสกุลจูเก่อน้อยมาก คุณมาจากตระกูลจูเก่อเหรอครับ” เย่เทียนหยู่ถามอย่างไม่มั่นใจด้วยรอยยิ้มยกเว้นกลุ่มคนชั้นบน ในโลกปัจจุบันมีคนน้อยมากที่จะรู้ว่า ตำนานของตระกูลจูเก่อยังคงแพร่สะพัดอยู่เพียงแต่พวกเขาแตกต่างจากนักรบทหารที่วางแผนกลยุทธ์ออกรบในสมัยโบราณ ตอนนี้พวกเขามีความสามารถและความสำเร็จอันน่าทึ่งในการทำธุรกิจที่น่าฉงนกว่านั้นคือ พวกเขาไม่เคยทำเพื่อตัวเองเลย ล้วนแต่เป็นสาวกของกษ
เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์อะไร เขาไม่เข้าใจจริง ๆ บางทีการค้นหาบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเท่านั้นที่จะทำให้เข้าใจได้ว่า พวกเขามีแผนการอะไรกันแน่“ไม่ต้องหรอกค่ะ!”“ขอบคุณนะคะคุณเย่ แต่ฉันขับรถมาน่ะ”ขณะที่จูเก่อหลิวหลีพูด เขาก็เดินไปที่รถสปอร์ตเฟอร์รารี่ จากนั้นสตาร์ทรถและจากไปทันทีเมื่อรถออกไป เย่เทียนหยู่ก็สตาร์ทรถอย่างรวดเร็วและไล่ตามเธอไปขณะเดียวกัน เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลขหน่วยพิทักษ์ความลับหลงเหมิน และสั่ง “ตรวจสอบหมายเลขทะเบียนของเฟอร์รารีให้ผมหน่อย ดูว่าใครซื้อรถ ใครใช้ โดยเฉพาะระยะนี้”“ตรวจสอบจูเก่อหลิวหลีด้วย ผมอยากรู้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเธอ”หลังจากวางสายโทรศัพท์ เย่เทียนหยู่ก็ทิ้งความรักหรือความชื่นชมในสายตาของเขาเหลือเพียงความเย็นชาเท่านั้นหลังจากการสังเกตอยู่สักพัก รวมกับสัญชาตญาณของตัวเอง เขาก็บอกเขาว่าจูเก่อหลิวหลีรู้จักเขามาเป็นเวลานาน และอาจต้องการบางอย่างจากเขาด้วยหวังว่าเธอจะไม่ใช่คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี่ เพราะใครก็ห้ามทำร้ายผู้หญิงของเขาไม่อย่างนั้นต่อให้อีกฝ่ายเป็นเทพเซียน เขาก็จะไม่เมตตาเมื่อถึงเวลา อย่าโทษที่เขาต้
“งั้นก็ได้”ผู้จัดการไปจัดการทันที แต่ในตอนแรก เสี่ยวหลิงไม่เต็มใจเท่าไหร่นักแต่หลังจากรู้ว่าเป็นคำขอของปาร์คดาฮยอน แถมเขายังบอกว่าจะพาเธอไปแดนกิมจิหลังจากจบเรื่อง เธอเลยคิดว่าอนาคตตัวเองจะยังได้ติดตามดาฮยอน เธอก็มีกำลังใจไปแจ้งตำรวจทันทีเนื่องจากตำรวจถูกเรียกมาที่นี่ เย่เทียนหยู่ก็ย่อมถูกตำรวจเรียกตัวมาอย่างรวดเร็วเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เขาก็โกรธทันทีที่มีผู้หญิงไร้ยางอายแบบนี้เย่เทียนหยู่โกรธมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการทำร้ายหว่านหรู ทั้งตบเธอ แล้วยังต้องมาถูกผู้คนรุมด่าอีกเดิมทีเขาไม่ได้คิดที่จะดำเนินคดีต่อแล้วด้วยซ้ำ แต่คราวนี้การที่เสี่ยวหลิงแจ้งตำรวจทำให้เขาโกรธมากเย่เทียนหยู่โพสต์วิดีโออีกครั้ง จุดเริ่มต้นของวิดีโอคือข้อความ:“เดิมทีผมไม่ได้ตั้งใจจะเอาผิดกับพฤติกรรมไร้ยางอายของเธอ แต่ไม่คิดว่าเธอจะไปโรงพักเพื่อกล่าวหาว่าผมทำร้ายคนอื่น ในเมื่อเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพอีกต่อไป”"ที่นี่ฉันใส่วิดีโอโดยไม่ได้ตั้งใจซึ่งเดิมทีไม่ได้ตั้งใจจะเผยแพร่ กรุณาเพลิดเพลิน ด้วยเหตุผลพิเศษบางส่วนจึงต้องมีการเข้ารหัส โปรดอย่าตำหนิฉัน”สิ่งนี้ทำให้ทุกคนดียิ่ง
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า จนกระทั่งบ่ายสองโมงของวันรุ่งขึ้น หกชั่วโมงก่อนการเปิดเผยครั้งสุดท้าย ผู้จัดการของปาร์คดาฮยอนปรากฏตัว ก่อนที่เขาจะเคาะประตูเย่เทียนหยู่เปิดประตูและมองไปที่คนตรงหน้า เขาไม่พูดอะไรสักคำ เพียงแต่ใช้มือปิดประตู“รอเดี๋ยวก่อน!”“คุณเย่ ก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราคุยกันก่อนได้ ลองเสวนากันก่อนสิ” ผู้จัดการกล่าวด้วยท่าทีประนีประนอม ก่อนหน้านี้ปาร์คดาฮยอนบอกเขาอยู่ตลอดว่าเย่เทียนหยู่ต้องไม่มีหลักฐานอะไรแน่แต่เมื่อถึงบ่ายวันนี้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป เขามักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามีวิกฤติร้ายแรงกำลังจะเข้ามาหาตัวเขา และเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเลยขอให้ผู้จัดการของเขามาสืบข่าว“คุยอะไร” เย่เทียนหยู่ถามอย่างเย็นชา“คุณเย่ ดาฮยอนของเราเคยทำผิดพลาดและทำให้คุณกับแฟนขุ่นเคือง เราต้องขออภัยจริงๆ”“แค่นั้นเหรอ?”“ไม่หรอก เป็นคำถามต่อจากนี้ต่างหาก ไม่ทราบว่าคุณเย่กุมข่าวอะไรเอาไว้เหรอครับ” ผู้จัดการถาม“ทำไมผมต้องบอกคุณด้วย” เย่เทียนหยู่ถาม“เพราะว่าเราจะยอมซื้อข่าวที่คุณมีในราคาที่เหมาะสมที่สุด”“ถ้างั้นผมเกรงว่าคุณคงจะจ่ายไม่ไหวหรอก” เย่เทียนหยู่ยิ้มเยาะ ของในมื
“อ่า แต่พอฉันส่งคุณไปที่ห้องพักแล้วฉันก็กลับไปที่โรงแรมทันที” หยางไฉ่อวิ๋นไม่ค่อยอยากจะเชื่อเย่เทียนหยู่ตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นห่วงพวกเขาจริงๆ เขายิ้มและพูดว่า: “ตอนที่ผมเข้าลิฟต์ผมได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว อีกอย่างผมใช้วิธีการที่พิเศษ แม้แต่คนของโรงแรมก็ไม่รู้หรอก”เมื่อได้ยินแบบนั้นหยางไฉ่อวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ที่แท้เขาก็มีวิธีการที่น่าแปลกใจแบบนั้นซ่อนอยู่สินะ: “แต่ วิดีโออันหลังดูเหมือนคุณเป็นคนถ่ายเลย แต่ฉัน...”“แต่คุณไม่เห็นว่าผมถ่ายงั้นสินะ”เย่เทียนหยู่ยิ้มและพูดว่า “ผมมีกล้องรูเข็มและเครื่องบันทึกเสียงอยู่บนร่างกาย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถบันทึกทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ แค่ขึ้นอยู่กับว่าผมอยากจะใช้มันหรือเปล่าเท่านั้นเอง”“เอาละ คุณคงไม่มีธุระอะไรแล้วใช่มั้ย?”“ไม่…ไม่มีแล้วค่ะ รอเดี๋ยวก่อนค่ะ คือเรื่องต่อจากนั้น…” หยางไฉ่อวิ๋นรู้สึกสงสัยมากเมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์ต่อจากนั้น“เรื่องหลังจากนั้นรอคืนพรุ่งนี้คุณจะได้รู้เอง”เย่เทียนหยู่ส่งเธอออกไป ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ผู้หญิงคนนั้นมีความสามารถทีเดียว ถ้าคุณฝึกฝนเธออย่างดี เธอจะเป็นคน
แม้หลายความคิดเห็นจะมีอคติเล็กน้อย แต่ผู้ฟังที่เป็นกลางหลายคนเริ่มเข้าข้างหลินหว่านหรูกับเย่เทียนหยู่อย่างชัดเจน จะมีก็แต่บรรดาแฟนคลับตัวยงเท่านั้นที่ยังพยายามคืนความบริสุทธิ์ และยังออกหน้าพูดแทนปาร์คดาฮยอนทิศทางของเรื่องราวทั้งหมดเริ่มวุ่นวาย ก่อให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ แต่เพราะเป็นแบบนี้ เหตุการณ์จึงขยายวงกว้างขึ้นไม่หยุดเมื่อผู้จัดการเห็นแบบนั้น เขาก็รีบรายงานปาร์คดาฮยอน ส่วนปาร์คดาฮยอนก็ส่งเสียงเหอะออกมาด้วยความไม่แยแส: “มีอะไรอีก”“คือ คุณดูเองเถอะ”ผู้จัดการไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากส่งโทรศัพท์ให้ปาร์คดาฮยอน ปาร์คดาฮยอนหยิบมันขึ้นมาดู และเห็นเนื้อหาของวิดีโอ สิ่งที่เขาพูดและสิ่งที่เขาทำนั้นชัดเจน ใบหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความตกใจและความโมโหที่ปะปนกัน“แม่งเอ้ย ได้ยังไงกันวะ ทำไมมีวิดีโอที่บันทึกเสียงไว้ชัดเจนแบบนี้”เมื่อเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างท่วมท้นปาร์คดาฮยอนก็เริ่มวิตกกังวลและสั่งทันที: “ไป ซื้อพวกหน้าม้ามาเพิ่ม เราต้องเปลี่ยนความเห็นของผู้คน”“แล้วก็ หากคุยกับแพลตฟอร์ม จะจ่ายเงินเท่าไหร่ก็ได้ พยายามกดเรื่องนี้ให้เงียบไปซะ”เพียงแต่ ผู้จัดการดูหมดหนทาง และมันก็เ
สถานการณ์ในตอนนั้นทุกคนต่างก็กำลังโมโหผู้เห็นเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะก่นด่าด้วยความโกรธ: “บ้าจริง นี่ฉันตาบอดหรือไงที่มาซัพพอร์ตพวกขยะนี่”“บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านเป็นบ้าเลย ถ้าฉันไปอยู่ในที่เกิดเหตุ มีหวังฉันตบยัยนั่นจนแยกเหนือใต้ออกตกไม่ออกแน่”“ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษนะพี่ชาย ที่ก่อนหน้านี้ฉันด่าคุณ”“มีคนแบบนี้ได้ยังไง? ปาร์คดาฮยอนคนนี้ น่าขยะแขยงจริงๆ เลย”“บอกไปนานแล้วว่าต้องมีอะไรผิดปกติ เป็นอย่างที่พูดจริงด้วย!”“อย่างเขาน่ะเหรอแบบอย่างศิลปิน น่าจะเป็นได้แค่แบบแม่พิมพ์ขนมปังมากกว่า ขยะจริงๆเลย”“ขอโทษนะคุณหลิน ฉันผิดไปแล้วละ!”“คุณหลิน เราเข้าใจคุณผิด เราขอโทษนะ” พวกเขาไม่รู้จักชื่อเย่เทียนหยู่ แต่พวกเขารู้จักหลินหว่านหรู“…”ทันใดนั้น กระแสทั้งหมดก็เปลี่ยนไป และหลายคนก็ขอโทษความผิดของตัวเองก่อนหน้านี้ทันใดนั้น คำว่า “ขอโทษ” ก็ถูกพิมพ์ส่งเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะ กับคนที่หน้าตาสวยอย่างกับนางฟ้าแบบเธอในตอนแรกทุกคนใช้อารมณ์มองเหตุการณ์ แต่ตอนนี้เมื่อมองดูอีกครั้ง ผู้จัดการหลินสวยสมบูรณ์แบบมากจนเกินจินตนาการ ถ้าเธอมาเป็นคนถ่ายทอดสดบ้างละก็ เธอจะต้องใช้ความสวยฆ่าคนนั
ทันทีที่สี่ทุ่มมาถึง เย่เทียนหยู่ก็โพสต์วิดีโอทันทีโดยใช้บัญชีของหลินหว่านหรูส่วนนี้บันทึกกระบวนการทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มต้นตอนที่พวกเขากำลังรอลิฟต์จนถึงตอนที่เย่เทียนหยูทุบตีผู้คน รวมถึงบอดี้การ์ดด้วยทันทีที่วิดีโอตัวเต็มออกมา ทุกคนก็เริ่มโต้เถียงกันอย่างระมัดระวัง น่าเสียดาย เนื่องจากไม่มีเสียง จึงไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกันแน่แต่เห็นได้ชัดว่าปาร์คดาฮยอนเห็นผู้จัดการหลินก่อนและพูดอะไรบางอย่างซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องตามมา แสดงให้เห็นว่า หลินหว่านหรูไม่ได้เริ่มเข้าหาปาร์คดาฮยอนก่อนแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เทียนหยู่มีสิทธิ์ที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นแต่ว่าผู้จัดการต้องตกใจเมื่อเห็นวิดีโอฉบับเต็มและรีบไปพบปาร์คดาฮยอน เพื่อรายงาน เพราะตอนนั้นเขาทุ่มเงินทำลายกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจนปาร์คดาฮยอนสะดุ้ง แต่เมื่อเขารู้ว่ามันเป็นแค่วิดีโอ เขาก็เยาะเย้ยทันที: “ถึงจะมีวิดีโอที่สมบูรณ์แต่ก็ไม่มีเสียง พิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก”“ถึงยังไง การที่เขาทำร้ายผู้หญิงแล้วก็ใช้ความรุนแรงหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องผิดอยู่ดี”ปาร์คดาฮยอนกล่าวขณะอ่านความคิดเห็นด้านล่าง แม้ว่าหลายคนจ
“จะอะไรได้อีก ก็แค่ถ่วงเวลาแล้วพยายามหาทางหนี ถ้าไม่เชื่อก็รอดู ตอนสามทุ่มพวกนั้นปล่อยอะไรออกมาไม่ได้หรอก”เวลาสองทุ่มเป็นเวลาที่พอเหมาะพอดี แต่ถ้าสามทุ่มออกจะดึกไปหน่อย ถ้าเลยช่วงเวลานั้นไป คงจะไม่มีหลักฐานแน่ถึงได้ทำแบบนั้นเมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของปาร์คดาฮยอน พวกเขาต่างก็เห็นด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางมาด้วยกัน เธอชมเขาไม่ขาดปากว่าเก่งกาจแค่ไหนพี่ดาฮยอนเก่งทุกอย่างจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเสพยาก็ตามที“ดาฮยอน ดูสิ พวกเขาโพสต์บัญชีติ๊กต็อก ได้ยินมาว่าพวกเขาจะลงหลักฐานในนั้น” ผู้จัดการรีบพูด“แล้วพวกเขาลงหรือยัง?” ปาร์คดาฮยอนถาม“ยังหรอก”“ก็นั่นละ หลอกลวงคนอื่นใครจะทำไม่เป็น ไม่เห็นเหรอว่าออฟฟิศเชียลของแพลตฟอร์มก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร?”“นั่นสินะ”ที่แท้แล้วตอนนั้นเอง เมื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว เย่เทียนหยู่จึงเป็นผู้นำในการลงทะเบียนบัญชีในนามของหลินหว่านหรู และแจ้งลงในบัญชีนั้นว่าจะมีการเผยแพร่หลักฐานในตอนแรกทุกคนไม่เชื่อ แต่พวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและอยากจะเชื่อมัน ผู้คนก็เริ่มเชื่อมันมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่แพลตฟอร์มก็ยืนยันเรื่องนี้ ในขณ
เมื่อกลับมาที่ห้อง หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความกังวล: "เทียนหยู่นายเตรียมหลักฐานทั้งหมดแล้วจริงๆ เหรอ?""แน่นอน!"เย่เทียนหยู่ยืนยัน ถ้าหากไม่ต้องเตรียมตัวให้เรื่องของหลินหว่านหรูมากหน่อย ทุกอย่างคงจะเรียบร้อยก่อนแล้วเพราะเรื่องคราวนี้ อาจโปรโมตไปถึงเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป แต่ถึงเขาจะใจดีสุดๆ แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนอย่างแม่ตระกูลหลินระเริงใจมากไปนักประเด็นเพราะนิสัยของแม่ตระกูลหลิน เวลาได้รับผลประโยชน์ เธอไม่เพียงแต่ไม่เคยรู้สึกขอบคุณ แต่เธออาจจะแว้งมาเยาะเย้ยหลินหว่านหรูไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ต้องกังวลกับการปล่อยให้แม่หลินฉวยโอกาสพูดถึงแม่หลินถึงแม้จะเป็นวันแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่ง แต่มันก็ไปได้ไม่ดีนัก เพราะคนที่เป็นระดับลูกน้องของเธอไม่มีความประทับใจในตัวเธอเลยยิ่งไปกว่านั้น คือทันทีที่เธอเข้ารับตำแหน่ง เธอก็เข้ามาชี้แนะอะไรมากมายราวกับตัวเองรู้ทุกอย่างเป็นอย่างดีสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีสามสิ่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใหม่เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาจะต้องควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดและลดรางวัลที่ไม่จำเป็นมากมาย ซึ่งก็คือการลดเงินเดือนของทุกคนแค่ลดค่าจ้างไม่สะดวกจริงๆ
“สมควรตายจริงๆ ถ้าแกด่าพ่อแม่ฉันยังพอทน แต่แกกล้าด่าพี่ดาฮยอนของฉัน ฉันจะสู้กับแกให้ตายไปข้าง” หนึ่งในหมู่แฟนคลับพ่นประโยคไร้สมองที่ทำให้คนอื่นๆต้องตกตะลึงออกมา และเธอเป็นแค่เด็กสิบขวบเจ้าหน้าที่หวงกังวลมากจนเหงื่อไหลผุดออกมาบนหน้าผาก กองกำลังตำรวจของเขาเพียงลำพังไม่สามารถรักษาสถานการณ์ได้อีกต่อไป และทุกอย่างกำลังจะเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายเย่เทียนหยู่ส่งเสียงเหอะเป็นเชิงเยาะเย้ยออกมาด้วยความโกรธ และเสียงนั่นก็ทำให้ฝูงชนตะลึงงันไปชั่วขณะ: “พวกคุณไม่เชื่อใช่มั้ย คืนนี้ผมจะปล่อยหลักฐานให้พวกคุณดู ให้พวกคุณได้ตาสว่างสักที” เขาพูดด้วยความโกรธทุกคนหยุดครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็มีคนพูดอย่างไม่มั่นใจ: "คุณต้องการนำหลักฐานประเภทใดมา ฉันคิดว่าคุณแค่อยากจะชะลอเวลาและหลบหนี"“หนีเหรอ คนโง่อย่างพวกคุณ คุ้มค่าให้ผมต้องหนีด้วยเหรอ?”เย่เทียนหยู่ดูถูกเหยียดหยาม และเสียงของเขาก็ดังพอจะเข้าถึงหูของทุกคนเมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้น ต่างก็โมโหจนแทบคลั่งขึ้นมาทันที และอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆเจ้าหน้าที่หวงทำอะไรไม่ถูก หมอนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆแต่ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย ปร