หลิวเจี๋ยรู้สึกหวาดกลัวมาก และต้องการที่จะปกป้องตัวเองหลินจื่อตงก็โกรธขึ้นทันที และพูดออกไปเสียงดัง “ใช่แล้ว เป็นนายน้อยหลิวนั่นแหละ คุณรู้ไหมว่านายน้อยหลิวเป็นใคร เขาเป็นถึงนายน้อยของตระกูลหลิว เป็นนายน้อยของฉีเฟยกรุ๊ป กล้ายั่วโมโหเขา ฉันว่าแม้แต่คำว่าตายแกยังสะกดไม่ถูกด้วยซ้ำ”เวรเอ้ย!ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา หลิวเจี๋ยก็เกือบจะทรุดตัวลง เขาจึงพูดด้วยความกลัว “ไม่ใช่ มันไม่ใช่อย่างนั้น...... ”“นายน้อยหลิว คุณเป็นอะไรไป ทำไมคุณต้องกลัวเขาด้วย เขาทำให้พวกเราไม่พอใจขนาดนี้ คุณก็แค่เชิญคนใหญ่คนโตมา ในพวกเขาได้รู้ว่ายังมีคนที่อยู่เหนือกว่าพวกเขาอยู่”หลินจื่อตงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ“หุบปาก ฉันสั่งให้แกหุบปากเดี๋ยวนี้! ”หลิวเจี๋ยแทบจะจะหลั่งน้ำตาออกมา เขาจึงตะคอกด้วยความโกรธนายท่านหลินเองก็พูดอย่างเร่งรีบ “จื่อตง หยุดพูดได้แล้ว ท่านนี้คืออาจารย์ซา เป็นถึงปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่”“เป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แล้วยังไง ตอนนี้เราอยู่ในสังคมแบบไหนกันแล้ว ทักษะศิลปะการต่อสู้ของเขาน่าทึ่งมากรึไง แค่โทรศัพท์จากนายน้อยหลิวเพียงสายเดียว ก็ทำให้เขาตายฝังดินได้ภายในไม่กี่นาที”หลังจากพูดจบ
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา หลิวเจี๋ยก็กังวลมากจนแทบจะผายลมเรออยู่ตรงนั้นเมื่อซาป้าเทียนได้ยินดังนั้น เขาก็โกรธขึ้นทันที และพูดอย่างโกรธแค้น “เจ้าหนู ที่แท้ก็เป็นแกที่บุกเข้าไปในโรงพยาบาล และทำร้ายลูกสะใภ้ของฉัน ฉันจะฆ่าแกทิ้งซะ! ”ทันทีที่เขาพูดจบ ก่อนที่หลิวเจี๋ยจะทันได้ตอบสนอง เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก ตัวคนได้ลอยออกไปชนกับเสา แล้วล้มลงกับพื้นรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในทั้งหมดกำลังย้ายที่แต่ตอนนี้เขาแทบจะไม่สนใจความเจ็บปวดในร่างกายของเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะความกลัวทางจิตทำให้เขาสิ้นหวังมากกว่า เขาคุกเข่าลงอีกครั้งและร้องขอความเมตตา “ไม่ใช่ ไม่ใช่จริง ๆ เรื่องพวกนี้ผมไม่ได้ทำจริง ๆ”“จริงอยู่ที่ตระกูลหลิวของผมพอจะมีกำลังอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความสามารถที่จะทำแบบนั้นได้”“ก็จริงอยู่ที่ว่าไม่มีความสามารถที่จะทำแบบนั้นได้ แต่ไม่ใช่ว่าแกยังมีบริษัทที่กำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์คอยสนับสนุนอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ใช้สิทธิ์ในผู้ถือหุ้นของแกเชิญคนใหญ่คนโตมาล่ะ? ” ซาป้าเทียนพูดอย่างเย็นชา “หรือที่จริงแล้ว ที่พวกนั้นพูดมาทั้งหมด เป็นเรื่องโกหกอย่างงั้นน่ะเหรอ? ”“แน่นอนว่าเป็นเรื่องโกหกครั
“ไอ้สารเลว เสียแรงที่พวกเราเชื่อใจแกมากตลอด แต่แกกลับกล้าโกหกพวกเรา”“แกมันคนโกหกไร้ยางอาย คืนเงิน รีบคืนมาให้เราเดี๋ยวนี้”หลิวอวิ๋นซิ่วกังวลมาก นั่นคือเงินออมทั้งหมดของเธอ“คืนเงินงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ”“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ว่าเงินก้อนนั้นถูกโอนไปต่างประเทศตั้งนานแล้ว สักแดงเดียวก็ไม่เหลือ แล้วอย่างมาโทษกันล่ะ ถ้าจะโทษ ก็โทษที่พวกคุณน่ะมันโลภเกินไปต่างหาก”“เพราะไม่อย่างงั้น ตอนนั้นที่เย่เทียนหยู่พยายามโน้มน้าวพวกคุณมากขนาดนั้น พวกคุณทุกคนก็คงจะไม่ค้านหัวชนฝาขนาดนั้นเหรอก”เมื่อคนตระกูลหลินได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็รู้สึกราวกับว่าถูกฟ้าผ่า วันนี้ไม่ได้มีแต่ครอบครัวของนายท่านเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ แต่สมาชิกหลายคนจากตระกูลของลูกพี่ลูกน้องของนายท่านก็อยู่ที่นี่ด้วยทุกคนต่างรู้สึกเสียใจอย่างมากโดยเฉพาะตอนที่หลิวเจี๋ยพูดถึงเย่เทียนหยู่ ก็ทำให้นึกถึงฉากในวันนั้นขึ้นมานายท่านหลินยิ้มอย่างขมขื่น เขาคิดไม่ถึงว่าแม้จะอายุปูนนี้แล้ว ก็ยังสามารถทำผิดพลาดในเรื่องที่ไร้สาระได้ขนาดนี้อยู่อีก เขาเชื่อใจว่าหลิวเจี๋ยมากเกินไป คิดว่าเขาจะชอบหลินหว่านหรูมากกว่าสิ่งอื่นใดซะอีกยิ่งไปกว่านั้น ตัวเองยัง
“จริงครับ อาจารย์ซา จะต้องเป็นเน่เทียนหยู่แน่นอน อย่าดูถูกว่ามันเป็นแค่คนไร้ค่าคนหนึ่ง แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีแผนการ ครั้งก่อน มันก็พึ่งใบบุญที่มันเคยรักษาลูกสาวของประธานหยาง จนทำให้ตระกูลหลินได้เข้าร่วมหอการค้าหลงเถิง”เมื่อซาป้าเทียนได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เย่เทียนหยู่เองก็อยู่ในรายชื่อที่เขาต้องการจะแก้แค้นด้วยเพราะก็ยังเป็นเย่เทียนหยู่ ที่บุกเข้าไปในวิลล่าของตระกูลซา“ยังมีอีกเรื่อง ผมสามารถมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย” หลิวเจี๋ยนึกถึงเรื่องในโรงพยาบาล“เรื่องอะไร? ”“คนที่บุกไปโรงพยาบาล และทำร้ายคุณนายซา ก็คือเย่เทียนหยู่”หลิวเจี๋ยยังพูดยืนยันอีกว่า “ผมรับประกันได้ว่านี่เป็นความจริงอย่างแน่นอน หากคุณไม่เชื่อ ก็สามารถไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ทางเข้าโรงพยาบาล และตรวจสอบตามเวลาได้เลย หรือจะสอบถามพยาบาลแถวนั้นด้วยก็ได้”ซาป้าเทียนกระตือรือร้นกับเรื่องการตามหาว่าใครเป็นสาเหตุที่วางแผนจับกุมคนของตระกูลซาเอาไว้ล่วงหน้าอย่างมาก แต่เขารีบมาเร็วเกินไป ดังนั้นเขาจึงรู้แค่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล จนไม่ทันได้ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่า
แต่เมื่อได้มาเจอกับตนที่นี่แล้ว นั่นหมายความว่าวันตายของอีกฝ่ายได้กำหนดเอาไว้แล้ว“แกสินะที่เป็นคนบุกเข้าไปในวิลล่าของตระกูลซา และทำร้ายผู้พิทักษ์ตระกูลซาจนบาดเจ็บสาหัส? ” ซาป้าเทียนถามด้วยท่าทีที่เย็นชา“ใช่! ”เย่เทียนหยู่เดินออกไปอย่างช้า ๆ ด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง ในดวงตาของเขาไม่มีร่องรอยของความกลัวเลยแม้แต่น้อยพอมาถึงตอนนี้ หัวใจของหลินหว่านหรูก็สั่นไหวเล็กน้อย ต้องเลยบอกว่า คนอย่างเย่เทียนหยู่ไม่รู้จักความกลัวเลยว่าคืออะไร และมักจะเป็นคนที่สงบนิ่งอยู่เสมอแต่ปัญหาคือ แบบนี้มันก็จะทำให้บุคคลที่น่ากลัวอย่างซาป้าเทียนโมโหได้ง่าย ๆ สุดท้ายก็ต้องทิ้งชีวิตของตัวเองหากสิ่งที่หลิวเจี๋ยพูดเป็นความจริง งั้นตอนนี้เย่เทียนหยู่ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้วล่ะแน่นอนว่าเมื่อซาป้าเทียนต้องมาเผชิญกับทัศนคติของเย่เทียนหยู่ เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เจตนาฆ่าก็ยิ่งรุณแรงมากกว่าเดิม และพูดออกไปว่า “แกบุกเข้าไปในโรงพยาบาล และตบลูกสะใภ้ของฉันใช่ไหม? ”“ใช่! ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยสีหน้าราบเรียบ“แล้วก็เป็นแกที่เรียกให้คนมาจับกุมคนตระกูลซาล่วงหน้าใช่ไหม? ”คำถามนี้ ไม่ได้มีแค่ซาป้าเทียนที่อยากรู้ แต่คนอื่น ๆ
หลังจากได้ยินคำพูดของไช่เสี่ยวโป ใบหน้าของซาป้าเทียนก็ดูไม่ค่อยดีนัก เขาจึงถามออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ทำไมเหรอครับ?”“เพราะเขาคือผู้มีพระคุณของฉัน”“เมื่อก่อนตอนที่หลานชายที่ฉันรักมากที่สุดถูกวางยา หากว่าเขาไม่ช่วยรักษา หลานชายของฉันอาจจะตายไปแล้ว”“เหล่าซา นายลองบอกมาสิ แบบนี้พอจะมีค่าให้ฉันออกหน้าแทนเขาสักครั้งไหม”หลังจากที่ได้ยินแบบนี้ ทุกคนในตระกูลหลินก็เข้าใจ ที่แท้ก็เป็นเพราะเย่เทียนหยู่บังเอิญเคยช่วยชีวิตลูกชายของไช่ซูจี้เอาไว้คราวที่แล้วก็เป็นลูกสาวของประธานหยาง คราวนี้ก็เป็นลูกชายของไช่ซูจี้ ดวงของเจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมาดาเลยจริง ๆหลินหว่านหรูรู้สึกประหลาดใจ ที่แท้ก็เป็นเพราะทักษะทางการแพทย์ของเขาอีกแล้วเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็แสดงว่าทักษะทางการแพทย์ของเย่เทียนหยู่นั้นดีมาก ๆ งั้นเมื่อก่อนที่เขาเคยคุยโม้ว่าทักษะทางการแพทย์ของตัวเองนั้นเก่งนักเก่งหนา ถึงขั้นพูดว่าเป็นถึงแพทย์เซียนอะไรนั่น คงไม่ใช่เรื่องจริงหรอกใช่ไหมเนี่ย?แต่พอมาลองคิดดูอีกครั้ง แพทย์เซียนอาจจะเป็นไปไม่ได้ ยังไงซะ อายุก็ยังน้อยอยู่เลย ยังไงก็คงแค่คุยโวเท่านั้นแต่ทักษะทางการแพทย์ของเขาก็น่าจะใช้ได้ อย่า
คราวนี้ หลิวอวิ๋นซิ่วก็พูดอีกครั้งว่า “ถ้าเขาจากไป แล้วซาป้าเทียนหาเขาไม่เจออีก จะต้องกลับมาระบายความโกรธกับตระกูลหลินเราอีกแน่นอน”“ถูกตัอง! ”“จะให้เขาจากไปแบบนี้ไม่ได้”“เขาเป็นคนที่ก่อปัญหาขึ้น เขาก็ต้องเป็นคนที่รับผลที่ตามมาเอง พวกเราทุกคนต่างก็เป็นแค่พลเมืองดีที่ปฏิบัติตามกฎเท่านั้น เราไปรับเคราะห์แทนเขาไม่ได้”“ถูกต้องแล้ว เย่เทียนหยู่ ตั้งแต่นี้ไป แกจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น อยู่ที่ตระกูลหลินอย่างเชื่อฟังซะเถอะ”“ใช่ ใช่ ต้องขังเอาไว้ด้วย! ”ทุกคนในตระกูลหลินต่างก็พยายามขวางเขาเอาไว้คนแล้วคนเล่า หลินจื่อตงถึงกับพูดขึ้นมาว่า “จากนี้ไป พวกเราจะคอยจับตาดูมันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย เพื่อป้องกันไม่ให้มันหนีไปได้”สำหรับความช่วยเหลือของเลขาธิการไช่เมื่อกี้ ทุกคนต่างก็ได้ยินหมดแล้ว ก็แค่เป็นการตอบแทนบุญคุณที่ช่วยรักษาให้กับหลานชายของเขาก็เท่านั้น เมื่อตอบแทนเสร็จ ก็จะไม่มีเกี่ยวข้องอะไรกันอีกดังนั้น ท้ายที่สุดแล้วเย่เทียนหยู่ก็ยังคงเป็นผู้แพ้ที่ไร้ประโยชน์อยู่ดี ยังไงก็จะต้องจบเห่อย่างแน่นอนในเวลานี้ หลิวเจี๋ยก็เห็นว่าไม่มีใครสนใจ เขาจึงรีบเดินออกไป เรื่องการล้มละลายก็ได้ถูกเปิ
“เอาล่ะ พวกเธอยังขายหย้ากันไม่พอรึไง?” ในเวลานี้ นายท่านหลินอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความโกรธ และหยุดการกระทำของทุกคนเอาไว้จากการดุด่า ทุกคนก็ตกตะลึงครู่หนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดลง“เทียนหยู่ ต่อให้คำพูดของหลิวเจี๋ยอาจไม่จริงไปซะทั้งหมด แต่ไม่ว่ายังไง เธอกับหว่านหรูก็มีชะตากรรมร่วมกัน เพราะงั้นวันนี้ ฉันจะไม่ขาวเธอเอาไว้”“เธอออกไปได้แล้ว ซ่อนให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไป ตระกูลหลินของเราจะไม่เกี่ยวข้องกับเธออีก! ”นายท่านหลินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเมื่อได้ยินแบบนั้น เย่เทียนหยูก็ตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่านายท่านหลินยังคงมีอคติกับเขาอยู่ กระทั่งไม่ยอมให้เขากลับเข้าไปในตระกูลหลินอีกหลินหว่านหรูรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างอธิบายไม่ถูก เธอมักจะรู้สึกว่ามีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้เอ่อล้นอยู่ในใจ ราวกับว่าเธอกำลังจะสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญไปแต่ว่า ตอนนี้นอกจากการหลบหนีแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว“พ่อคะ ไม่ได้นะคะ คือว่า...... ”“หุบปาก ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”นายท่านหลินพูดขัดจังหวะเย่เทียนหยู่ถอนหายใจ และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ก็ได้ คุณปู่หลิน ด
ดังนั้น ก่อนเวลาเช้า 08:00 น. เขาก็เข้ามาพร้อมด้วยเงินหนึ่งพันล้าน เมื่อเรื่องนี้จบลงเขาจะจำหน่ายทรัพย์สินบางส่วนและเอาเงินคืนมาสิ่งที่สำคัญที่สุดคือยังมีแฟนคลับจำนวนมากที่เชื่อในความบริสุทธิ์ของตนเองและรู้สึกว่าตนถูกใส่ร้ายรอเขากลับไปที่แดนกิมจิก่อน แล้วเขาจะบอกกับทุกคนว่าเขาถูกใส่ร้ายขณะอยู่อาณาจักรมังกร และจะบอกด้วยว่าเขาบริสุทธิ์ส่วนเรื่องผู้หญิงสองคนนั้น ก็บอกไปประมาณว่าพวกเธอถูกคนอื่นจ่ายเงินให้มาล่อลวงเขา เพราะถึงยังไงยัยพวกนั้นก็เขาข้างเขาและจะทำตามที่เขาจัดการทุกอย่างอยู่แล้วเขามีวิธีผลิกสถานการณ์ถมเถไปเมื่อนึกได้ดังนั้น ปาร์คดาฮยอนก็แทบจะหัวเราะออกมา ถึงเหตุการณ์นี้จะมีหลายอย่างทำให้เขาโกรธมากก็ตามที แต่สุดท้ายเขาก็หาทางช่วยเหลือตัวเองจนได้หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย เย่เทียนหยู่ก็พอใจมากและพยักหน้า: "เอาล่ะ ในเมื่อคุณยืนกรานที่จะยืนกราน เราก็ยอมรับคำขอโทษของคุณ ตอนนี้คุณออกไปได้แล้ว"“ครับๆ ถ้าอย่างนั้นผมขอไม่รบกวนพวกท่านต่อ”เมื่อปาร์คดาฮยอนได้ยินแบบนั้น เขาก็คิดทันทีว่าเขาเอาสถานการณ์อยู่แล้ว จึงรีบพาคนของเขาจากมาอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าเย่เทียนหยู่จะกลับคำเม
อะไร?หยางไฉ่อวิ๋นมองดูภาพเบื้องหน้า เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกงุนงงเล็กน้อยเมื่อได้ยินอักฝ่ายด่าตัวเองปกติหยางไฉ่อวิ๋นเองก็คอยติดตามวงการบรรเทิงอยู่เหมือนกัน เธอรู้ดีว่าปาร์คดาฮยอนมีชื่อเสียงโด่งดังมากแค่ไหน แฟนคลับบ้าคลั่งมากแค่ไหน และแน่นอนว่าตำแหน่งของเขาก็ย่อมสูงมากไม่ว่าจะไปเข้าร่วมรายการไหน ก็จะมีแฟนคลับไปคอยเชียร์ เพราะกลัวคนอื่นๆ จะทำให้เขารู้สึกไม่พอใจแต่ไม่เคยคิดเลยว่า เขาจะมีด้านที่นอบน้อมถ่อมตนแบบนี้ด้วย ขาดก็แต่คุกเข่าให้คุณเย่กับผู้จัดการหลินเพียงอย่างเดียวแต่ลองคิดดูว่าช่วงนี้มีสิ่งต่างๆ มากมายเกิดขึ้น โดยพื้นฐานแล้วเขาเสร็จแล้ว ประเด็นสำคัญคือคุณเย่มีพลังอย่างมากคุณหลินยังมีความสามารถมากและเป็นดาวเด่นขององค์กรอีกด้วยเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินคำพูดของผู่ดาฮยอน เขาก็ตะคอกอย่างเย็นชาและพูดอย่างใจเย็น: "นั่นก็คือคุณ คุณแต่งตัวหยาบคายมากจนฉันจำมันไม่ได้ในตอนแรก"“แต่ว่ารูปร่างหน้าตาของคุณสอดคล้องกับนิสัยน่าขยะแขยงและไร้ยางอายของคุณดีนะ”เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้จัดการก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองสีหน้าของปาร์คดาฮยอน สมัยก่อน ขอแค่ตำหนิสิ่งที่เขาควรจะแก้ไขแม้เพียงเล็กน้อย เขา
ต้องขอบคุณคุณชายเย่จริง ๆ จะบอกว่าเขาเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้โลกเลยก็ได้โชคยังดีที่ตอนนั้นเขาไม่ได้จับตัวอีกฝ่ายไป เพราะถ้าเป็นแบบนั้น การขอโทษเขาคงเป็นเรื่องเล็ก แต่ก็คงจะกระทบกับจังหวะการจัดการเรื่องนี้ของเขาหากดูจากสถานการณ์ เรื่องนี้เป็นไปตามข้อกำหนดของเบื้องบน เกรงว่าต่อไป คงใช้โอกาสนี้ออกข้อกำหนดเข้มงวดใหม่ดูท่าคราวนี้จะเกี่ยวข้องกับอีกหลายส่วนและคงจะมีคนโชคร้ายอยู่หลายคนเลยด้วยไม่รู้ว่าพวกเขาจะอดใจไม่ด่าปาร์คดาฮยอนได้หรือเปล่าขณะที่มองดูทุกอย่างเบื้องหน้า ในที่สุด หลินหว่านหรูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เรื่องที่เขาพูดเกี่ยวกับเธอ ตัวเธอเองยังแอบงงเล็กน้อย จึงอดไม่ได้ที่จะถาม: “เทียนหยู่ นี่นายไปเจอของพวกนี้ที่ไหน”“ฮ่าฮ่า ผมแค่ให้คนไปค้นๆ หน่อยก็เจอแล้วนี่” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มหลินหว่านหรูแอบยิ้มแห้งและถอนหายใจ เทียนหยู่มีความสามารถที่น่าทึ่งจริงๆเธอไม่มีภาพบันทึกวิดีโอของเหตุการณ์ที่แสดงอยู่ตอนนี้ และบริษัทก็ไม่มีเช่นกัน ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาไปขุดมันมาจากไหนแต่โลกนี้ช่างเลวร้ายจริง ๆ ทุกคำพูดและการกระทำของเขาล้วนถูกบันทึกเอาไว้แต่เย่เทียนหยู่ไม่ได้บอกเธอ
ในที่สุด บรรดาแฟนคลับก็ได้รับรู้ว่า ไอดอลของพวกเขากลายเป็นคนไร้ยางอาย และพวกเขาทุกคนล้วนเข้าใจเย่เทียนหยู่ผิดไปในขณะนี้ หลายคนนึกถึงสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดในตอนแรก เขาบอกว่าหากพวกเขาสนับสนุนคนเช่นนี้ สุดท้ายพวกเขาจะต้องคุกเข่าคร่ำครวญเพราะความผิดหวังเสียใจและวินาที พวกเขาก็เสียใจจริงๆ ที่สนับสนุนคนแบบเขาแต่ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แฟนคลับหลายคนยังออกหน้าพูดแทนปาร์คดาฮยอนว่าเขาถูกใส่ร้ายและทั้งหมดนี้ เป็นแผนการสมรู้ร่วมคิดทุกเหตุการณ์รวมไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดในลิฟต์ตอนแรก ก็เป็นแผนการสมรู้ร่วมคิดความคิดเห็นดังกล่าวแพร่ไปยังที่ต่างๆ อย่างรวดเร็ว และก็มีความเห็นประมาณเดียวกันจำนวนมากก็ปรากฏนอกจากพวกหน้าม้าแล้ว ยังมีผู้คนจำนวนมากที่ยังเลือกจะเชื่อในตัวปาร์คดาฮยอนไอดอลของพวกเขา และไม่เต็มใจที่จะเชื่อสิ่งที่พวกเขาเห็นด้วยตาตนเองในขณะนี้ปาร์คดาฮยอนก็ได้รับข่าวเช่นกัน เขาตกใจและโกรธมากเขาค้นหากล้องไปทั่วทุกมุม พร้อมกับก่นด่าผู้จัดการอย่างรุนแรงเพราะรู้สึกว่า เรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ ต้องมีพวกผีพรายกระซิบและช่วยอีกฝ่ายแอบถ่ายแน่ ไม่อย่างนั้น จะมีวีดีโอแบบนั่นได้ยังไงกัน
“งั้นก็ได้”ผู้จัดการไปจัดการทันที แต่ในตอนแรก เสี่ยวหลิงไม่เต็มใจเท่าไหร่นักแต่หลังจากรู้ว่าเป็นคำขอของปาร์คดาฮยอน แถมเขายังบอกว่าจะพาเธอไปแดนกิมจิหลังจากจบเรื่อง เธอเลยคิดว่าอนาคตตัวเองจะยังได้ติดตามดาฮยอน เธอก็มีกำลังใจไปแจ้งตำรวจทันทีเนื่องจากตำรวจถูกเรียกมาที่นี่ เย่เทียนหยู่ก็ย่อมถูกตำรวจเรียกตัวมาอย่างรวดเร็วเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เขาก็โกรธทันทีที่มีผู้หญิงไร้ยางอายแบบนี้เย่เทียนหยู่โกรธมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการทำร้ายหว่านหรู ทั้งตบเธอ แล้วยังต้องมาถูกผู้คนรุมด่าอีกเดิมทีเขาไม่ได้คิดที่จะดำเนินคดีต่อแล้วด้วยซ้ำ แต่คราวนี้การที่เสี่ยวหลิงแจ้งตำรวจทำให้เขาโกรธมากเย่เทียนหยู่โพสต์วิดีโออีกครั้ง จุดเริ่มต้นของวิดีโอคือข้อความ:“เดิมทีผมไม่ได้ตั้งใจจะเอาผิดกับพฤติกรรมไร้ยางอายของเธอ แต่ไม่คิดว่าเธอจะไปโรงพักเพื่อกล่าวหาว่าผมทำร้ายคนอื่น ในเมื่อเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพอีกต่อไป”"ที่นี่ฉันใส่วิดีโอโดยไม่ได้ตั้งใจซึ่งเดิมทีไม่ได้ตั้งใจจะเผยแพร่ กรุณาเพลิดเพลิน ด้วยเหตุผลพิเศษบางส่วนจึงต้องมีการเข้ารหัส โปรดอย่าตำหนิฉัน”สิ่งนี้ทำให้ทุกคนดียิ่ง
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า จนกระทั่งบ่ายสองโมงของวันรุ่งขึ้น หกชั่วโมงก่อนการเปิดเผยครั้งสุดท้าย ผู้จัดการของปาร์คดาฮยอนปรากฏตัว ก่อนที่เขาจะเคาะประตูเย่เทียนหยู่เปิดประตูและมองไปที่คนตรงหน้า เขาไม่พูดอะไรสักคำ เพียงแต่ใช้มือปิดประตู“รอเดี๋ยวก่อน!”“คุณเย่ ก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราคุยกันก่อนได้ ลองเสวนากันก่อนสิ” ผู้จัดการกล่าวด้วยท่าทีประนีประนอม ก่อนหน้านี้ปาร์คดาฮยอนบอกเขาอยู่ตลอดว่าเย่เทียนหยู่ต้องไม่มีหลักฐานอะไรแน่แต่เมื่อถึงบ่ายวันนี้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป เขามักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามีวิกฤติร้ายแรงกำลังจะเข้ามาหาตัวเขา และเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเลยขอให้ผู้จัดการของเขามาสืบข่าว“คุยอะไร” เย่เทียนหยู่ถามอย่างเย็นชา“คุณเย่ ดาฮยอนของเราเคยทำผิดพลาดและทำให้คุณกับแฟนขุ่นเคือง เราต้องขออภัยจริงๆ”“แค่นั้นเหรอ?”“ไม่หรอก เป็นคำถามต่อจากนี้ต่างหาก ไม่ทราบว่าคุณเย่กุมข่าวอะไรเอาไว้เหรอครับ” ผู้จัดการถาม“ทำไมผมต้องบอกคุณด้วย” เย่เทียนหยู่ถาม“เพราะว่าเราจะยอมซื้อข่าวที่คุณมีในราคาที่เหมาะสมที่สุด”“ถ้างั้นผมเกรงว่าคุณคงจะจ่ายไม่ไหวหรอก” เย่เทียนหยู่ยิ้มเยาะ ของในมื
“อ่า แต่พอฉันส่งคุณไปที่ห้องพักแล้วฉันก็กลับไปที่โรงแรมทันที” หยางไฉ่อวิ๋นไม่ค่อยอยากจะเชื่อเย่เทียนหยู่ตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นห่วงพวกเขาจริงๆ เขายิ้มและพูดว่า: “ตอนที่ผมเข้าลิฟต์ผมได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว อีกอย่างผมใช้วิธีการที่พิเศษ แม้แต่คนของโรงแรมก็ไม่รู้หรอก”เมื่อได้ยินแบบนั้นหยางไฉ่อวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ที่แท้เขาก็มีวิธีการที่น่าแปลกใจแบบนั้นซ่อนอยู่สินะ: “แต่ วิดีโออันหลังดูเหมือนคุณเป็นคนถ่ายเลย แต่ฉัน...”“แต่คุณไม่เห็นว่าผมถ่ายงั้นสินะ”เย่เทียนหยู่ยิ้มและพูดว่า “ผมมีกล้องรูเข็มและเครื่องบันทึกเสียงอยู่บนร่างกาย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถบันทึกทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ แค่ขึ้นอยู่กับว่าผมอยากจะใช้มันหรือเปล่าเท่านั้นเอง”“เอาละ คุณคงไม่มีธุระอะไรแล้วใช่มั้ย?”“ไม่…ไม่มีแล้วค่ะ รอเดี๋ยวก่อนค่ะ คือเรื่องต่อจากนั้น…” หยางไฉ่อวิ๋นรู้สึกสงสัยมากเมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์ต่อจากนั้น“เรื่องหลังจากนั้นรอคืนพรุ่งนี้คุณจะได้รู้เอง”เย่เทียนหยู่ส่งเธอออกไป ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ผู้หญิงคนนั้นมีความสามารถทีเดียว ถ้าคุณฝึกฝนเธออย่างดี เธอจะเป็นคน
แม้หลายความคิดเห็นจะมีอคติเล็กน้อย แต่ผู้ฟังที่เป็นกลางหลายคนเริ่มเข้าข้างหลินหว่านหรูกับเย่เทียนหยู่อย่างชัดเจน จะมีก็แต่บรรดาแฟนคลับตัวยงเท่านั้นที่ยังพยายามคืนความบริสุทธิ์ และยังออกหน้าพูดแทนปาร์คดาฮยอนทิศทางของเรื่องราวทั้งหมดเริ่มวุ่นวาย ก่อให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ แต่เพราะเป็นแบบนี้ เหตุการณ์จึงขยายวงกว้างขึ้นไม่หยุดเมื่อผู้จัดการเห็นแบบนั้น เขาก็รีบรายงานปาร์คดาฮยอน ส่วนปาร์คดาฮยอนก็ส่งเสียงเหอะออกมาด้วยความไม่แยแส: “มีอะไรอีก”“คือ คุณดูเองเถอะ”ผู้จัดการไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากส่งโทรศัพท์ให้ปาร์คดาฮยอน ปาร์คดาฮยอนหยิบมันขึ้นมาดู และเห็นเนื้อหาของวิดีโอ สิ่งที่เขาพูดและสิ่งที่เขาทำนั้นชัดเจน ใบหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความตกใจและความโมโหที่ปะปนกัน“แม่งเอ้ย ได้ยังไงกันวะ ทำไมมีวิดีโอที่บันทึกเสียงไว้ชัดเจนแบบนี้”เมื่อเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างท่วมท้นปาร์คดาฮยอนก็เริ่มวิตกกังวลและสั่งทันที: “ไป ซื้อพวกหน้าม้ามาเพิ่ม เราต้องเปลี่ยนความเห็นของผู้คน”“แล้วก็ หากคุยกับแพลตฟอร์ม จะจ่ายเงินเท่าไหร่ก็ได้ พยายามกดเรื่องนี้ให้เงียบไปซะ”เพียงแต่ ผู้จัดการดูหมดหนทาง และมันก็เ
สถานการณ์ในตอนนั้นทุกคนต่างก็กำลังโมโหผู้เห็นเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะก่นด่าด้วยความโกรธ: “บ้าจริง นี่ฉันตาบอดหรือไงที่มาซัพพอร์ตพวกขยะนี่”“บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านเป็นบ้าเลย ถ้าฉันไปอยู่ในที่เกิดเหตุ มีหวังฉันตบยัยนั่นจนแยกเหนือใต้ออกตกไม่ออกแน่”“ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษนะพี่ชาย ที่ก่อนหน้านี้ฉันด่าคุณ”“มีคนแบบนี้ได้ยังไง? ปาร์คดาฮยอนคนนี้ น่าขยะแขยงจริงๆ เลย”“บอกไปนานแล้วว่าต้องมีอะไรผิดปกติ เป็นอย่างที่พูดจริงด้วย!”“อย่างเขาน่ะเหรอแบบอย่างศิลปิน น่าจะเป็นได้แค่แบบแม่พิมพ์ขนมปังมากกว่า ขยะจริงๆเลย”“ขอโทษนะคุณหลิน ฉันผิดไปแล้วละ!”“คุณหลิน เราเข้าใจคุณผิด เราขอโทษนะ” พวกเขาไม่รู้จักชื่อเย่เทียนหยู่ แต่พวกเขารู้จักหลินหว่านหรู“…”ทันใดนั้น กระแสทั้งหมดก็เปลี่ยนไป และหลายคนก็ขอโทษความผิดของตัวเองก่อนหน้านี้ทันใดนั้น คำว่า “ขอโทษ” ก็ถูกพิมพ์ส่งเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะ กับคนที่หน้าตาสวยอย่างกับนางฟ้าแบบเธอในตอนแรกทุกคนใช้อารมณ์มองเหตุการณ์ แต่ตอนนี้เมื่อมองดูอีกครั้ง ผู้จัดการหลินสวยสมบูรณ์แบบมากจนเกินจินตนาการ ถ้าเธอมาเป็นคนถ่ายทอดสดบ้างละก็ เธอจะต้องใช้ความสวยฆ่าคนนั