เย่เทียนหยู่พยักหน้า พร้อมกล่าวขึ้นว่า “ผมเชื่อคุณ!”หลังจากที่ได้ยินคำนี้ บรรพจารย์เจวี๋ยวฉิงจึงหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ถึงอย่างไรก็จะทำให้นายท่านเข้าใจผิดไม่ได้“แต่ว่านะ เจวี๋ยเทียน หากมีโอกาส คุณก็ช่วยผมสืบดูที ดูว่าพอจะสืบเรื่องที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าถูกเผาจากเย่สยงได้บ้างไหม”เย่เทียนหยู่สั่งการ“รับทราบครับ!”เจวี๋ยเทียนพยักหน้า“แต่ต้องจำเอาไว้นะ ว่าอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด เพราะผมยังอยากรู้อยู่ ว่าเขาจะยึดอำนาจจากตระกูลเย่ได้อย่างไร ดูว่าในตระกูลเย่ยังมีพวกมดปลวกเหลืออยู่อีกไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแม้ว่าเขาจะยังรู้สึกไม่พอใจกับตระกูลสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่แม่เคยบอกเอาไว้ก็ไม่ผิด ถึงอย่างไรตนก็มีสายเลือดของตระกูลเย่อยู่ ส่วนคุณปู่ขี้งกคนนั้นของเขาก็ใช่ว่าจะทอดทิ้งพวกเขาไปเลยจริง ๆ เสียทีเดียว“เข้าใจแล้วครับ!”เจวี๋ยเทียนรีบรับปากในทันทีในเมื่อเรื่องทุกอย่างได้รับการอธิบายแล้ว เย่เทียนหยู่จึงได้หันไปมองเจวี๋ยซิน พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เจวี๋ยซิน คุณคิดดีแล้วใช่ไหม ว่าจะติดตามผมจริง ๆ?”“ครับ!”เจวี๋ยซินตอบรับด้วยความเคารพ“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่
นับตั้งแต่ตอนที่เย่เทียนหยู่เดินจากไป เวลาก็ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว ในที่สุดเจวี๋ยซินก็ลืมตาตื่นขึ้นมา เขาสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของร่างกายได้ในทันที รวมถึงพลังที่แข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นอย่างหน้ากลัว“นะ นี่จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”เจวี๋ยซินพึมพำด้วยความตื่นเต้น เขาอดไม่ได้ที่จะปล่อยพลังอันแข็งแกร่งออกมา แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยกระตุ้นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาออกมา แต่เวลานั้นเขาก็กลับไม่ได้รู้สึกสบายตัวเหมือนในตอนนี้ไม่นานเจวี๋ยเทียนและบรรพจารย์เจวี๋ยฉิงก็ปรากฏตัว จากนั้นเจวี๋ยเทียนยังได้อธิบายคำพูดที่เย่เทียนหยู่ได้พูดเอาไว้เมื่อกี้ให้เขาฟังอีกด้วยเมื่อได้รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว เจวี๋ยซินไม่เพียงแต่ไม่เกลียดชังเย่เทียนหยู่ ในใจยิ่งรู้สึกขอบคุณมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็เลือกที่จะตอบแทนความแค้นด้วยความเมตตา“พวกแกสองคนฟังฉันให้ดี ต่อไปนี้พวกแกจะต้องคอยรับใช้นายท่านให้ดี หากพวกแกมีใครที่กล้าคิดไม่ซื่อขึ้นมาล่ะก็ อย่าโทษที่ฉันไม่เห็นใจก็แล้วกัน เพราะฉันที่แหละที่จะจัดการพวกแกด้วยมือของฉันเอง”“ครับ บรรพจารย์โปรดวางใจ พวกเราไม่มีทางหักหลังนายท่านแน่นอ
เยว่เหลียนเวยที่ได้ยินดังนั้น ภาพที่โรงจอดรถก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอทันที ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่นานเธอก็นึกถึงความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาได้ เธอจึงพูดด้วยท่าทีเกร็ง ๆ ออกไปว่า “คุณชายเย่มีฝีมือที่เลื่องชื่อขนาดนี้ อย่าล้อกันเล่นเลยค่ะ!”“ฮ่า ๆ......”เย่เทียนหยู่ไม่สามารถกลั้นหัวเราะเอาไว้ได้ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พี่สาวเยว่ นี่คุณไม่คิดที่จะรับศิษย์น้องแล้วงั้นเหรอ”“คุณชายเย่ล้อเล่นแล้วค่ะ ตอนนั้นฉันแค่พูดเล่น ๆ เท่านั้น” เยว่เหลียนเวยรีบพูดขึ้นมาเยว่เหลียนหานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย น้องสาวของเธอมักเป็นคนที่ใจกล้ามาโดยตลอด แต่วันนี้กลับหน้าแดง แถมยังตัวเกร็งอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็คิดไม่ถึงเลยว่าน้องสาวของเธอจะถึงขั้นทำให้คุณชายเย่เรียกเธอว่าพี่สาวได้เย่เทียนหยู่ยิ้มเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “แม่ครับ เรื่องทางนี้เองก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว พรุ่งนี้เช้า ผมต้องออกเดินทางแล้วนะครับ”“เดินทางพรุ่งนี้เช้า ลูกจะไม่เข้าร่วมงานประชุมพรุ่งนี้ด้วยกันเหรอ?”“ไม่ล่ะครับ งานประชุมในวันพรุ่งนี้ ผมมอบหมายให้หลินเจวี๋ยเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของ
ใบหน้าของทั้งคู่ไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น รูปร่างเองก็ยังโดดเด่นมากอีกด้วย ผิวพรรณขาวเนียน ขาเรียวยาวทั้งสองคู่ของพวกเธอ ทำให้มีสายตาหลายคู่หันมามองอยู่บ่อย ๆหลี่ซินเยว่ หลิวซือซือ พวกเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหากเป็นการทำงานนอกสถานที่จริง ๆ ก็ไม่น่าจะมาทานอาหารเช้าด้วยกันที่นี่ได้นะ เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ดูเหมือนว่าแถวนี้จะไม่มีโรงแรมใหญ่ ๆ อยู่เลยด้วยหรือว่าร้านเล็ก ๆ แห่งนี้จะมีชื่อเสียงมาก ถึงทำให้ผู้คนแห่มากัน?แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาจ้องนานเกินไปหรือเปล่า ถึงทำให้หลี่ซินเยว่สังเกตเห็นเขาได้ในทันทีเมื่อหลี่ซินเยว่เงยหน้าขึ้น สีหน้าก็แสดงถึงความประหลาดใจออกมา ก่อนจะพูดด้วยความดีใจออกมาว่า “ประธานเย่!”“ประธานเย่อะไรเหรอ!”หลิวซือซือตกใจเล็กน้อย หลังจากที่มองตามสายตาของอีกฝ่ายไป เธอก็รู้สึกตกตะลึงในทันที ก่อนจะพูดด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่เย่!”อย่างไรก็ตาม ในขณะที่รู้สึกตื่นเต้นอยู่นั้นเอง เธอก็เขินอายเกินกว่าจะเดินเข้าไปหา อันที่จริง ที่เธอเดินทางมาเมืองหลวงพร้อมกันกับหลี่ซินเยว่ ก็เป็นเพราะเธอต้องการอยากเจอเย่เทียนหยู่เพราะว่าเรื่
“ก็ใช่น่ะสิคะ เห็นได้ชัดเลยว่าจัดการกันแบบมั่ว ๆ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทมีหวังล่มจมแน่ ๆ” หลี่ซินเยว่บ่นเสียงดัง“นั่นสิ พี่เย่คะ ไม่งั้นพี่ก็พูดกับประธานหลินให้หน่อยเถอะนะคะ บอกเธอช่วยพูดเกลี้ยกล่อมให้พวกเราที ไม่เช่นนั้น หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทได้จบเห่จริง ๆ แน่” หลิวซือซือเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกัน“เกลี้ยกล่อมอะไรกัน ให้ล้มละลายไปนั่นแหละดีแล้ว เพราะไม่อย่างนั้น นางแม่มดนั่นก็คงไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดไปมากแค่ไหน”“แต่ว่า ถึงยังไงบริษัทนี้ก็เป็นความตั้งใจของประธานหลินเลยนะคะ” หลิวซือซือกล่าวเมื่อได้ยินแบบนั้น หลี่ซินเยว่ก็ไม่ได้พูดอะไร หากเธอรู้แต่แรกก็คงไม่พูดออกไป ด้วยความสามารถของประธานเย่ เขาสามารถช่วยบริษัทได้อย่างเต็มที่เดิมที เธอเองก็หวังว่าอยากให้บริษัทรีบล้มละลายเร็ว ๆ เหมือนกัน เธออยากจะเห็นจริง ๆ ว่านางแม่มดนั่นจะเสียใจมากแค่ไหนแต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เย่เทียนหยู่ก็พูดพร้อมรอยยิ้มออกมาว่า “หว่านหรูได้ออกมาจากบริษัทนั้นแล้ว อีกอย่าง หุ้นสักเปอร์เซ็นต์เดียวก็ไม่มี เธอแทบไม่มีอำนาจในการควบคุมบริษัทเลยด้วยซ้ำ”“หา......”สองสาวนิ่งไปชั่วขณะ แม้ว่าข่าวลือ
เย่เทียนหยู่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่เขารู้สึกได้ถึงสัมผัสอันนุ่มนวลที่ฝ่ามือข้างขวา ก่อนที่เขาจะบีบมันเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว เป็นสัมผัสที่ไม่เลวเลยเมื่อเขาหันหน้าไปมอง ใบหน้าอันงดงามดุจสาวงามล่มเมืองก็เข้าสู่วิสัยทัศน์ของเขา ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด และเปล่งปลั่งนุ่มนิ่ม“อ๊ะ…”หลินหว่านหรูถูกบีบจนตื่น ก่อนจะพบว่าเธอกำลังโป๊เปลือย เธอกรีดร้องแล้วผลักเย่เทียนหยู่ออกมือข้างหนึ่งดึงผ้าห่มไว้ และมืออีกข้างก็ถือหมอนทุบออกไปอย่างแรง“ไอ้คนชั่ว ไอ้คนลามก แกทำอะไรฉัน!”“เรื่องนั้น เหมือนจะทำไปทุกท่าเลย”“หน้าด้าน ไอ้คนไร้ยางอาย” หลินหว่านหรูทั้งอับอายทั้งโกรธ“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกมั้งครับ เมื่อคืนคุณเป็นคนเริ่มก่อนนี่” เย่เทียนหยู่น้อยเนื้อต่ำใจ“เหลวไหล ก็…”หลินหว่านหรูอยากจะเถียงแต่ก็พูดต่อไม่ออก เพราะสมองของเธอกำลังฉายภาพฉากเมื่อคืนเมื่อคืนวานเพื่อจะเก็บหนี้ก้อนโต เธอถูกคนวางยา และเมื่อพบความผิดปกติก็ใช้โอกาสหนีออกมาตอนไปเข้าห้องน้ำอีกฝ่ายพาเธอมาส่งที่ประตูโรงแรมและจะกลับออกไป แน่นอนว่าเธอเองเป็นคนรั้งเขาไว้และกระโจนใส่เขา“ฮือ ฮือ…”หลินหว่านหรูกลั้นเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป เธ
“นี่เป็นแบล็กการ์ดหลงเถิง ข้างในบัตรมีเงินอยู่ห้าร้อยล้านบาท สามารถใช้ได้ทุกร้านค้าที่อยู่ในเครือหอการค้าหลงเถิงเมืองเทียนไห่ครับ”“อีกทั้งท่านเองคงเพิ่งมาถึง น่าจะยังไม่มีที่พัก นี่เป็นบัตรคีย์การ์ดวิลล่าของโซนสกายพาเลซหนึ่งครับ ได้โปรดรับมันไว้เถอะ”“ใจกว้างดีนะครับ มีเรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะ” เย่เทียนหยู่เผยแววตาลึกล้ำราวกับเขามองทุกอย่างออกอยู่แล้ว“ราชามังกรช่างปรีชา หยางเฉียนเฉียนลูกสาวของกระผมมักมีอาการตัวเย็นมาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมานี้ เราหาหมอมาไม่น้อย แต่ไร้หนทางครับ” หยางต้าฝูรีบพูด“ไม่ต้องกังวล แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น รอพรุ่งนี้ผมหาเวลาว่างไปช่วยเธอรักษาก็พอแล้ว”“ยอดไปเลยครับ กระผมขอขอบคุณท่านราชามังกร!”หยางต้าฝูพูดด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็ได้สอบถามผู้คนไปทั่วสารทิศ จนในที่สุดก็ค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่ราชามังกรหนุ่มองค์ใหม่กลายเป็นแพทย์เซียนที่เขาตามหามาแสนนานแต่หาไม่พบเสียที เป็นแพทย์เซียนที่ชอบหลบซ่อนตัวช่างเหลือเชื่อจริง ๆ ใครจะคิดว่า แพทย์เซียนในตำนานจะยังเด็กขนาดนี้ และยังเป็นราชามังกรแห่งหลงเหมินอีกด้วยหลังจากได้รับคำตอบแล้ว หยางต้าฝูมีความสุขมากเขาจึงพูดขึ
“เทียนหยู่ ตั้งแต่ปู่ได้รับสายจากแพทย์เซียนเฒ่า ปู่ก็รอหลานมาตลอดเลย ในที่สุดวันนี้หลานก็มาสักที แล้วนั่นจะยังยืนอยู่หน้าประตูทำไมเล่า?”หลังจากที่ท่านปู่ได้รับแจ้งการมาถึงและรออยู่สักพักแล้วพบว่าเขาไม่เข้าไป ท่านปู่จึงมาถึงหน้าประตูด้วยตัวเองเย่เทียนหยู่หันมองก่อนจะเรียกเขาพร้อมรอยยิ้ม “ท่านปู่หลิน!”“พวกหลานรู้จักกันรึ?” ท่านปู่มองดูหลานสาวที่อยู่ด้านข้างแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัยสีหน้าของหลินหว่านหรูกร่อยไปเล็กน้อยในพริบตา“เจอกันตอนกลางวันน่ะครับ” เย่เทียนหยู่รีบช่วยอธิบาย“อย่างนั้นก็บังเอิญจริง ๆ บางที นี่อาจเป็นพรหมลิขิตของสวรรค์ก็ได้ พอดีวันนี้เป็นฤกษ์ดีสำหรับการแต่งงาน รอเราทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว พวกหลานก็ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ท่านปู่หลินพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง แพทย์เซียนเฒ่ามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นลูกศิษย์ของเขาก็น่าจะเก่งมากเช่นกันเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะตระหนักได้ว่าสาวสวยคนนี้คือคู่หมั้นของเขา หลินหว่านหรู เขาอดไม่ได้ที่จะมองดูรูปร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง โดยเฉพาะ ‘ส่วนสำคัญ’หลินหว่านหรูเองก็สังเกตเห็นสายตาลามกของเ
“ก็ใช่น่ะสิคะ เห็นได้ชัดเลยว่าจัดการกันแบบมั่ว ๆ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทมีหวังล่มจมแน่ ๆ” หลี่ซินเยว่บ่นเสียงดัง“นั่นสิ พี่เย่คะ ไม่งั้นพี่ก็พูดกับประธานหลินให้หน่อยเถอะนะคะ บอกเธอช่วยพูดเกลี้ยกล่อมให้พวกเราที ไม่เช่นนั้น หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทได้จบเห่จริง ๆ แน่” หลิวซือซือเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกัน“เกลี้ยกล่อมอะไรกัน ให้ล้มละลายไปนั่นแหละดีแล้ว เพราะไม่อย่างนั้น นางแม่มดนั่นก็คงไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดไปมากแค่ไหน”“แต่ว่า ถึงยังไงบริษัทนี้ก็เป็นความตั้งใจของประธานหลินเลยนะคะ” หลิวซือซือกล่าวเมื่อได้ยินแบบนั้น หลี่ซินเยว่ก็ไม่ได้พูดอะไร หากเธอรู้แต่แรกก็คงไม่พูดออกไป ด้วยความสามารถของประธานเย่ เขาสามารถช่วยบริษัทได้อย่างเต็มที่เดิมที เธอเองก็หวังว่าอยากให้บริษัทรีบล้มละลายเร็ว ๆ เหมือนกัน เธออยากจะเห็นจริง ๆ ว่านางแม่มดนั่นจะเสียใจมากแค่ไหนแต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เย่เทียนหยู่ก็พูดพร้อมรอยยิ้มออกมาว่า “หว่านหรูได้ออกมาจากบริษัทนั้นแล้ว อีกอย่าง หุ้นสักเปอร์เซ็นต์เดียวก็ไม่มี เธอแทบไม่มีอำนาจในการควบคุมบริษัทเลยด้วยซ้ำ”“หา......”สองสาวนิ่งไปชั่วขณะ แม้ว่าข่าวลือ
ใบหน้าของทั้งคู่ไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น รูปร่างเองก็ยังโดดเด่นมากอีกด้วย ผิวพรรณขาวเนียน ขาเรียวยาวทั้งสองคู่ของพวกเธอ ทำให้มีสายตาหลายคู่หันมามองอยู่บ่อย ๆหลี่ซินเยว่ หลิวซือซือ พวกเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหากเป็นการทำงานนอกสถานที่จริง ๆ ก็ไม่น่าจะมาทานอาหารเช้าด้วยกันที่นี่ได้นะ เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ดูเหมือนว่าแถวนี้จะไม่มีโรงแรมใหญ่ ๆ อยู่เลยด้วยหรือว่าร้านเล็ก ๆ แห่งนี้จะมีชื่อเสียงมาก ถึงทำให้ผู้คนแห่มากัน?แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาจ้องนานเกินไปหรือเปล่า ถึงทำให้หลี่ซินเยว่สังเกตเห็นเขาได้ในทันทีเมื่อหลี่ซินเยว่เงยหน้าขึ้น สีหน้าก็แสดงถึงความประหลาดใจออกมา ก่อนจะพูดด้วยความดีใจออกมาว่า “ประธานเย่!”“ประธานเย่อะไรเหรอ!”หลิวซือซือตกใจเล็กน้อย หลังจากที่มองตามสายตาของอีกฝ่ายไป เธอก็รู้สึกตกตะลึงในทันที ก่อนจะพูดด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่เย่!”อย่างไรก็ตาม ในขณะที่รู้สึกตื่นเต้นอยู่นั้นเอง เธอก็เขินอายเกินกว่าจะเดินเข้าไปหา อันที่จริง ที่เธอเดินทางมาเมืองหลวงพร้อมกันกับหลี่ซินเยว่ ก็เป็นเพราะเธอต้องการอยากเจอเย่เทียนหยู่เพราะว่าเรื่
เยว่เหลียนเวยที่ได้ยินดังนั้น ภาพที่โรงจอดรถก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอทันที ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่นานเธอก็นึกถึงความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาได้ เธอจึงพูดด้วยท่าทีเกร็ง ๆ ออกไปว่า “คุณชายเย่มีฝีมือที่เลื่องชื่อขนาดนี้ อย่าล้อกันเล่นเลยค่ะ!”“ฮ่า ๆ......”เย่เทียนหยู่ไม่สามารถกลั้นหัวเราะเอาไว้ได้ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พี่สาวเยว่ นี่คุณไม่คิดที่จะรับศิษย์น้องแล้วงั้นเหรอ”“คุณชายเย่ล้อเล่นแล้วค่ะ ตอนนั้นฉันแค่พูดเล่น ๆ เท่านั้น” เยว่เหลียนเวยรีบพูดขึ้นมาเยว่เหลียนหานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย น้องสาวของเธอมักเป็นคนที่ใจกล้ามาโดยตลอด แต่วันนี้กลับหน้าแดง แถมยังตัวเกร็งอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็คิดไม่ถึงเลยว่าน้องสาวของเธอจะถึงขั้นทำให้คุณชายเย่เรียกเธอว่าพี่สาวได้เย่เทียนหยู่ยิ้มเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “แม่ครับ เรื่องทางนี้เองก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว พรุ่งนี้เช้า ผมต้องออกเดินทางแล้วนะครับ”“เดินทางพรุ่งนี้เช้า ลูกจะไม่เข้าร่วมงานประชุมพรุ่งนี้ด้วยกันเหรอ?”“ไม่ล่ะครับ งานประชุมในวันพรุ่งนี้ ผมมอบหมายให้หลินเจวี๋ยเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของ
นับตั้งแต่ตอนที่เย่เทียนหยู่เดินจากไป เวลาก็ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว ในที่สุดเจวี๋ยซินก็ลืมตาตื่นขึ้นมา เขาสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของร่างกายได้ในทันที รวมถึงพลังที่แข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นอย่างหน้ากลัว“นะ นี่จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”เจวี๋ยซินพึมพำด้วยความตื่นเต้น เขาอดไม่ได้ที่จะปล่อยพลังอันแข็งแกร่งออกมา แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยกระตุ้นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาออกมา แต่เวลานั้นเขาก็กลับไม่ได้รู้สึกสบายตัวเหมือนในตอนนี้ไม่นานเจวี๋ยเทียนและบรรพจารย์เจวี๋ยฉิงก็ปรากฏตัว จากนั้นเจวี๋ยเทียนยังได้อธิบายคำพูดที่เย่เทียนหยู่ได้พูดเอาไว้เมื่อกี้ให้เขาฟังอีกด้วยเมื่อได้รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว เจวี๋ยซินไม่เพียงแต่ไม่เกลียดชังเย่เทียนหยู่ ในใจยิ่งรู้สึกขอบคุณมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็เลือกที่จะตอบแทนความแค้นด้วยความเมตตา“พวกแกสองคนฟังฉันให้ดี ต่อไปนี้พวกแกจะต้องคอยรับใช้นายท่านให้ดี หากพวกแกมีใครที่กล้าคิดไม่ซื่อขึ้นมาล่ะก็ อย่าโทษที่ฉันไม่เห็นใจก็แล้วกัน เพราะฉันที่แหละที่จะจัดการพวกแกด้วยมือของฉันเอง”“ครับ บรรพจารย์โปรดวางใจ พวกเราไม่มีทางหักหลังนายท่านแน่นอ
เย่เทียนหยู่พยักหน้า พร้อมกล่าวขึ้นว่า “ผมเชื่อคุณ!”หลังจากที่ได้ยินคำนี้ บรรพจารย์เจวี๋ยวฉิงจึงหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ถึงอย่างไรก็จะทำให้นายท่านเข้าใจผิดไม่ได้“แต่ว่านะ เจวี๋ยเทียน หากมีโอกาส คุณก็ช่วยผมสืบดูที ดูว่าพอจะสืบเรื่องที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าถูกเผาจากเย่สยงได้บ้างไหม”เย่เทียนหยู่สั่งการ“รับทราบครับ!”เจวี๋ยเทียนพยักหน้า“แต่ต้องจำเอาไว้นะ ว่าอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด เพราะผมยังอยากรู้อยู่ ว่าเขาจะยึดอำนาจจากตระกูลเย่ได้อย่างไร ดูว่าในตระกูลเย่ยังมีพวกมดปลวกเหลืออยู่อีกไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแม้ว่าเขาจะยังรู้สึกไม่พอใจกับตระกูลสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่แม่เคยบอกเอาไว้ก็ไม่ผิด ถึงอย่างไรตนก็มีสายเลือดของตระกูลเย่อยู่ ส่วนคุณปู่ขี้งกคนนั้นของเขาก็ใช่ว่าจะทอดทิ้งพวกเขาไปเลยจริง ๆ เสียทีเดียว“เข้าใจแล้วครับ!”เจวี๋ยเทียนรีบรับปากในทันทีในเมื่อเรื่องทุกอย่างได้รับการอธิบายแล้ว เย่เทียนหยู่จึงได้หันไปมองเจวี๋ยซิน พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เจวี๋ยซิน คุณคิดดีแล้วใช่ไหม ว่าจะติดตามผมจริง ๆ?”“ครับ!”เจวี๋ยซินตอบรับด้วยความเคารพ“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่
หลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด เย่เทียนหยู่ก็แอบส่ายหัว หากอิงตามแผนการของพวกเขา ด้วยความช่วยเหลือจากสำนักเจวี๋ยฉิง และมียอดฝีมือคอยช่วยตระกูลเย่ เกรงว่าคุณท่านเย่คงจบเห่อย่างแน่นอนแต่ถึงอย่างไร ในเมื่อตนรู้เรื่องนี้แล้ว ก็ไม่สามารถยืนดูอยู่เฉย ๆ ได้อยู่ดียังไงเสีย ไม่ว่าจะมาจากปากของแม่ หรือจากปากของเหล่าหวัง ก็เห็นได้ชัดว่าคุณปู่ขี้งกคนนี้แทบไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้อยากช่วยจริง ๆ ด้วยซ้ำที่ทำไปก็เพียงเพื่อรักษาตระกูลเย่เอาไว้เท่านั้น ไร้ความสามารถสิ้นดี“เอ่อคือ นายท่านครับ เรื่องนี้พวกเราแค่วางแผนเอาไว้เท่านั้น ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ผมจะรีบสั่งการลงไปเดี๋ยวนี้ครับ ให้ผมยกเลิกแผนการนี้ทันทีเลยไหมครับ?”“ไม่จำเป็น!”เย่เทียนหยู่ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบออกไปว่า “ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่หากพวกคุณหรือเย่สยงมีการเคลื่อนไหวใด ๆ ก็ตามต่อตระกูลเย่ คุณจะต้องแจ้งให้ผมทราบทันที”แม้ว่าเจวี๋ยเทียนจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็รีบพยักหน้าตอบรับทันที “ครับ!”“ไม่ว่าจะเป็นเย่สยง หรือว่าเย่เสวียน อย่าให้พวกเขาสักเกตเห็นพิรุธเด็ดขาด ผมอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าพวกเขาจะใช้ลูกไม้
“ทำไม?”เย่เทียนหยู่สัมผัสได้ถึงกลิ่นของแผนการอันชั่วร้ายตั้งแต่สมัยโบราณ การฟื้นฟูจุดตันเถียนนั้นคือสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งความยากง่ายก็มีตัวอย่างให้เห็นที่ชัดเจน และการที่สำนักเจวี๋ยฉิงทำแบบนี้ พวกเขาจะต้องมีแผนการบางอย่างอยู่อย่างแน่นอนเดิมทีนี่คือความลับของสำนักเจวี๋ยฉิง แต่ในเมื่อนายท่านถาม เจวี๋ยเทียนก็รีบเล่าทุกอย่างให้ฟังอย่างละเอียดทันที“หมายความว่า เรื่องที่จุดตันเถียนของเขาได้รับการฟื้นฟูก็เป็นเรื่องเท็จ และอีกไม่นานก็จะถูกเปิดเผยใช่ไหม?” เย่เทียนหยู่ถามเมื่อได้ยินแบบนั้น เจวี๋ยเทียนก็รู้สึกสะดุ้งเล็กน้อย หรือเย่เซวียนจะมีความสำคัญต่อนายท่านกันนะ สีหน้าของเขาดูซีดลง “ใช่ครับ อีกอย่าง มีความเป็นไปได้มากที่เขาอาจจะไม่รอด”พูดจบ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “นายท่านกับเขา?”เย่เทียนหยู่ไม่ได้ตอบ เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า สำนักเจวี๋ยฉิงเพียงต้องการใช้ประโยชน์จากตระกูลเย่เท่านั้น ซึ่งระยะเวลาสามปีก็เพียงพอที่จะสามารถใช้ประโยชน์ทำเรื่องต่าง ๆ ได้ตั้งมากมาย กระทั่งอาจจะสามารถควบคุมตระกูลเย่ได้อย่างสมบูรณ์เลยด้วยซ้ำส่วนเรื่องสามปีหลังจากนี้ พวกเขาแทบจะไม่ได้สนใจเล
มู่หรงอินเข้าใจสิ่งที่เย่เทียนหยู่ต้องการจะสื่อ เธอจึงลุกขึ้นยืน พร้อมกับกล่าวออกไปว่า “บัดนี้เรื่องต่าง ๆ ก็นับว่าได้ข้อสรุปแล้ว แต่เนื่องจากโอกาสที่ทุกท่านจะเดินทางมาที่นี่ก็นับว่าหายาก ดังนั้นทุกท่านสามารถพักผ่อนและเยี่ยมที่นี่ก่อนได้”“รอถึงวันพรุ่งนี้ พวกเราทั้งห้าสำนักจะทำการจัดประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อหารือเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันในอนาคตของทั้งห้าสำนัก”“รับทราบ!”บรรดาผู้นำใหญ่ของแต่ละสำนักต่างก็พากันพยักหน้าด้วยความเคารพหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปได้ไม่นาน เจวี๋ยเทียนก็พาเจวี๋ยซินเข้ามา แม้ว่าอาการของเจวี๋ยซินจะค่อนข้างรุนแรง แต่สำนักเจวี๋ยฉิงก็มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาอย่างน้อยก็ทำให้เขาพอจะสามารถสื่อสารได้อย่างมีสติ แต่ร่างกายของเขากลับอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่พี่ใหญ่พูดมาทั้งหมด เจวี๋ยซินก็แทบไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง เพราะเรื่องหลังจากนี้ เขาแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่น้อยสุดท้ายก็มาได้ยินบรรพจารย์และพี่ใหญ่เรียกเย่เทียนหยู่ว่านายท่านอีก เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนว่าโลกนี้กำลังกลับตาลปัตรไปกันใหญ่แล้วหากไม่ใช่เพราะบรรพจารย์เจวี๋ยฉิงออกหน้าด้วยตัวเอง
ผู้คนต่างมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความงงงวย เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่น่าอัศจรรย์ของเย่เทียนหยู่ สายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึงเวลาผ่านไปเพียงแค่หนึ่งนาที เย่เทียนหยู่ก็เก็บมือขวากลับมา ท่าทางของเขายังคงสง่างามและสงบนิ่งเหมือนเดิม ราวกับว่าเขาไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามเลยสักนิดบรรพจารย์เจวี๋ยฉิงเห็นว่าสภาพร่างกายของเจวี๋ยเทียนกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมา ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ขอบคุณนายท่านที่ช่วยเหลือครับ!”ทุกคนที่ได้ยินคำเรียกนี้ ต่างก็ยังรู้สึกตกใจอยู่นิดหน่อย บรรพจารย์เจวี๋ยฉิงคนนี้เป็นถึงยอดฝีมือระดับเทพยดาแดนดินเชียวนะ สามารถมีคนรับใช้ระดับนี้ได้ แม้แต่คิดก็ยังไม่กล้าคิดเลยที่น่าทึ่งยิ่งไปกว่านั้นคือ แม้แต่ผู้ที่มีพรสวรรค์มาก ๆ อย่างเจวี๋ยเทียนเจวี๋ยซินเองก็เป็นไปกับเขาด้วย ก่อนหน้านี้ก็ยังมีหยางผั่วจวินด้วยอีกคน“ไม่ต้องเกรงใจ แต่คุณต้องเตือนพวกเขาทั้งสองเอาไว้ให้ดี หากใครกล้าคิดร้ายต่อผม ก็อย่าโทษผมที่ลงมืออย่างโหดร้ายก็แล้วกัน”เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“นายท่านโปรดวางใจ พวกเขาไม่กล้าทำแบบนั้นแน่นอนครับ เพราะไม่เช่นนั้น ผมจะเป็นคนแรกที่ด