Share

บทที่ 1262

Author: สาวฉกรรจ์จอมต๊อง
ความแข็งแกร่งของลูกชายเธอ อันที่จริงมันเกินกว่าที่เธอคาดเอาไว้มาก

นี่น่ะเหรอ ระดับเทพยดาแดนดิน

แข็งแกร่งมากจริง ๆ!

สองพี่น้องเยว่เหลียนหานจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางลานประลอง แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึง และรู้สึกนับถือเขาอย่างมาก พวกเธอไม่เคยเห็นผู้ที่ทั้งสง่างาม และแข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน

แม้ว่าจะมีรูปลักษณ์และรูปร่างจะธรรมดาไปหน่อย

แต่ว่า เขาก็เป็นคนที่โดดเด่น และมีเสน่ห์มากจริง ๆ!

ราวกับเทพเซียนยังไงอย่างงั้น!

ผู้ชายแบบนี้ จะไม่ให้พวกเธอรู้สึกนับถือ หรือรู้สึกชอบได้อย่างไร

เดิมทีพวกเธอสองคนมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งมาก พวกเธอมักจะหลงตัวเอง และคิดว่าไม่มีผู้ชายคนไหนที่เหมาะสมกับพวกเธอมาโดยตลอด เพราะพวกเธอได้สาบานเอาไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่า จะอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป แม้จะต้องแต่งงาน พวกเธอก็จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนเดียวกัน

ดังนั้นจนถึงทุกวันนี้ จึงยังไม่มีใครที่สามารถเข้าตาพวกเธอสองพี่น้องได้เลย แม้จะเป็นเจวี๋ยเทียน พวกเธอก็ไม่คิดยินยอมอยู่ดี

แต่วันนี้ ผู้ชายคนนี้สามารถทำให้พวกเธอรู้สึกหวั่นไหวได้จริง ๆ

เยว่หลิงที่อยู่ข้าง ๆ เองก็มีสีหน้าชื่นชมและรู้สึกตกใจด้วยเช่นกัน

นี่ถึงจ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1263

    เจวี๋ยเทียนที่ได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจและสิ้นหวัง นั่นก็เพราะพลังที่น่าทึ่งของเย่เทียนหยู่ทำให้เขากลัวได้จริง ๆแต่เขากลับยังคงมีความหวังอยู่บ้างเพราะในใจของเขา ยังมีไพ่ตายสุดท้ายอยู่ใบหนึ่ง แม้ว่าพลังของเจ้าตำหนักหยู่คนนี้จะน่ากลัว หรือแข็งแกร่งมากแค่ไหน สุดท้ายก็ยังไม่ใช่ระดับเทพยดาแดนดินเทพยดาแดนดิน นั่นต่างหากถึงจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงและสำนักเจวี๋ยฉิงของพวกเขา ก็มียอดฝีมือที่กำลังจะบรรลุสู่ระดับเทพยดาแดนดินอยู่หนึ่งคน ขอแค่มีบรรพจารย์เจวี๋ยฉิงอยู่ ทุกสิ่งก็ยังพอมีหวังที่จะสามารถพลิกกลับมาได้ส่วนเรื่องที่ว่าเย่เทียนหยู่จะอยู่ในระดับเทพยดาแดนดินหรือไม่นั้น ในตอนที่เขาเพิ่งจะร่วงลงถึงพื้นก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกันแต่นั่นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยเพราะแม้แต่บรรพจารย์เจวี๋ยฉิงเองก็เพิ่งจะสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับเทพยดาแดนดินได้ ทั้งยังนำพาแรงกดดันที่น่ากลัวมาให้เขาอีกต่างหาก ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะต่อต้านเลยด้วยซ้ำเย่เทียนหยู่เก่งมากก็จริง แต่ก็ยังไม่ได้เก่งถึงขั้นนั้นเพราะไม่เช่นนั้น เขาคงไม่มีโอกาสลงมือได้เลยด้วยซ้ำขณะที

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1264

    ถึงอย่างไร ตอนนี้สิ่งที่เขาทำก็เท่ากับทรยศสำนักเจวี๋ยฉิงไปแล้ว! แต่เขาเพียงแค่ไม่เข้าใจว่าเย่เทียนหยู่กำลังทำอะไรอยู่ จึงได้แต่หาข้ออ้างลงมือไปเท่านั้น“ตู๋เปียนฝู!”“แกนี่มันช่างไร้ยางอายเสียจริงเลยนะ!”“รอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจแน่!”สายตาที่เยือกเย็นของเจวี๋ยเทียนจ้องมองไปยังตู๋เปียนฝูอย่างแน่วแน่ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตอบกลับ ก็หันไปมองยังคนอื่น ๆ ก่อนจะหัวเราะและพูดเสียงดังขึ้นว่า “พวกแกทุกคน คิดจริง ๆ เหรอว่าแบบนี้เรียกว่าชนะแล้ว?”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา โดยเฉพาะสายตาที่ดูมั่นใจของเจวี๋ยเทียน ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงไปชั่วขณะ หรือเจวี๋ยเทียนจะยังมีไพ่ตายซ่อนเอาไว้อยู่จริง ๆแต่เจวี๋ยเทียนในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ากลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปแล้ว แทบไม่มีแรงต่อสู้เหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย ส่วนเจวี๋ยซิน เมื่อกี้ก็เพิ่งจะถูกทำลายพลังไปแล้วเช่นกันแล้วสำนักเจวี๋ยฉิงจะยังมีไพ่ตายอะไรได้อีก?ระเบิดงั้นเหรอ หรือว่ายังมีอย่างอื่น?แต่พวกเขาเป็นถึงกลุ่มยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดเชียวนะ ต่อให้ที่นี่จะถูกระเบิดจนพังทลายลง ก็เกรงว่าคงเอาชีวิตพวกเขาไม่ได้อยู่ดี มิหนำซ้ำยังอาจจะน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1265

    ตู๋เปียนฝูยิ่งรู้สึกสั่นสะท้านในใจ ความรู้สึกหวาดกลัวพลุ่งพล่านในใจจนไม่อาจอธิบายได้ ตกลงแล้วเขาคือใครกันแน่ เขาจึงพูดด้วยความโมโหออกไปว่า “ใครกัน รีบโผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้!”“ฮ่า ๆ.......”เสียงหัวเราะที่ดูชั่วร้ายก็ดังขึ้น ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็มีเงาเงาหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าตู๋เปียนฝู ราวกับว่าเงานั้นก่อตัวขึ้นมาจากอากาศที่ว่างเปล่าหลังจากนั้นไม่นานก็ปรากฏชายชราสวมผ้าคลุมสีดำคนหนึ่ง ซึ่งใบหน้าของเขาก็ดูเหมือนว่าจะมีหมอกสีดำคอยปกคลุมเอาไว้อยู่ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นรูปร่างของเขาได้อย่างชัดเจนหลังจากที่ชายชราในชุดดำปรากฏตัวขึ้น พลังอันชั่วร้ายที่น่าสะพรึงกลัวก็พวยพุ่งออกมา ก่อนจะยื่นมือขวาออกไป และบีบเข้าไปที่ต้นคอของตู๋เปียนฝูเอาไว้แน่นน่าสมเพชตู๋เปียนฝูที่เอาแต่หลงตัวเองว่าตนอยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุด และคิดว่าตัวเองเก่งกาจมากแต่เมื่ออีกฝ่ายมาปรากฏตัวต่อหน้าจริง ก็กลับพบว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่สู้ได้หรือไม่ได้ แต่มันเป็นเพราะว่าร่างกายของเขาถูกกักขังอยู่ ซึ่งไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลยทำได้เพียงปล่อยให้อีกฝ่ายบีบคอตัวเองเอาไว้เท่านั้น!ในเวลานี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความร

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1266

    หลังจากที่ตำหนิเจวี๋ยเทียนเสร็จ บรรพจารย์เจวี๋ยฉิงก็ถึงจะหันไปหาเย่เทียนหยู่ พร้อมกับพูดออกไปว่า “เจ้าหนู คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าอายุยังน้อยอยู่แท้ ๆ แต่กลับมีพลังที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แต่น่าเสียดาย ที่วันนี้แกดันมาเจอกับฉันเสียก่อน ชะตากรรมของแกคงต้องจบลงที่นี่แล้วล่ะ”“พูดได้ไม่อายปากเลยจริง ๆ!”“คิดจะจัดการเจ้านาย งั้นก็ข้ามศพฉันไปก่อน!”ในขณะเดียวกันนั้นเอง หยางผั่วจวินก็ได้กระโจนออกมาอย่างกะทันหัน และตรงขึ้นไปยังลานประลองโดยตรง ก่อนจะเผชิญหน้ากับบรรพจารย์เจวี๋ยฉิงในทันทีไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายคุณชายได้ทั้งนั้นอันที่จริงคนตรงหน้าคนนี้น่ากลัวมากจริง ๆ เพราะอีกฝ่ายสามารถทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอันตราย แต่ยิ่งเป็นแบบนั้น เขาก็ยิ่งต้องเข้าไปรับมือก่อน แบบนี้ถึงจะทำให้คุณชายเข้าใจพลังของอีกฝ่ายได้ และพร้อมที่จะต่อสู้กับอีกฝ่ายจริง ๆเห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้หยางผั่วจวินรู้สึกตรึงเครียดอย่างมาก ถึงอย่างไร หากอิงตามวิธีการลงมือของเขาเมื่อครู่นี้แล้ว พลังของคนผู้นี้ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าตนมากจริง ๆเป็นอย่างที่คิด สีหน้าของบรรพจารย์เจวี๋ยฉิ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1267

    พ่ายแพ้อย่างราบคาบ!พ่ายแพ้อย่างราบคาบแล้วจริง ๆ!กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของหยางผั่วจวินนั้นค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเกินกว่าที่จินตนาการเอาไว่เสียอีก เพราะไม่เช่นนั้น หากเป็นคนธรรมดาก็คงตายไปไม่รู้กี่หนแล้ว“เจ้าหนู ต้องบอกเลยว่า ร่างกายของแกนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ ถึงขั้นสามารถทนต่อการโจมตีของฉันได้ตั้งหลายครั้ง แม้ว่าฉันจะใช้พลังไปเพียงห้าส่วนก็ตาม”สายตาของบรรพจารย์ฉายแววของความรู้สึกประหลาดใจออกมา แต่คำพูดนี้ของเขา กลับทำให้ผู้คนต่างสั่นสะท้านไปตาม ๆ กัน สีหน้าของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป“บรรพจารย์ผู้ยิ่งใหญ่!”“บรรพจารย์เก่งกาจไร้คู่ต่อกร!”เจวี๋ยเทียนเองก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขวาขึ้นกำหมัดแน่น และคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราดตั้งแต่การต่อสู้ครั้งแรก พวกเขาก็รู้สึกเจ็บใจ และเป็นทุกข์อย่างมากพวกเขาแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ ความรู้สึกหงุดหงิดทั้งหมดที่มีถึงได้หายไปเพราะในสายตาของพวกเขา เมื่อกี้หยางผั่วจวินอโสโอหังอย่างมาก และเขาก็แข็งแกร่งจนไม่อาจเอาชนะได้ง่าย ๆ อีกด้วย แต่ตอนนี้ต่อให้เขาจะทำการเพิ่มพลังมากแค่ไหน เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของบรรพ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1268

    พลังปรานที่แข็งแกร่งนี้ แทบไม่ได้ด้อยไปกว่าตอนก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ แถมพลังยังมีการพัฒนาอีกต่างหาก ให้ความรู้สึกเหมือนกับนักล่าสังหารที่เอาแต่พรุ่งตรงไปข้างหน้าเท่านั้น“พูดได้ดี ต่อให้หยุดไม่ได้ก็ยังจะทำ เช่นนั้นก็เพิ่มฉันด้วยอีกคน”ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีเงาร่างหนึ่งกระโจนออกมา ไม่นานก็มาหยุดอยู่ข้าง ๆ หยางผั่วจวิน ร่างกายปะทุพลังปรานออกมาอย่างบ้าคลั่งแม้ว่าระดับของเขาจะอยู่แค่ปรมาจารย์ขั้นกลาง แต่ท่าทีก็ดูองอาจอย่างมาก เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นออกไปว่า “เจ้าตำหนัก ท่านไปเถอะ ที่ผ่านมาผมต้องขอบคุณท่านเจ้าตำหนัก ที่ทำให้ผม หลินเจวี๋ยคนนี้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกหลายปี หากวันนี้จะต้องสละชีวิตเพื่อเจ้าตำหนัก ก็นับเป็นเกียรติของผมมากแล้ว!”“หากชาติหน้ามีจริง ผมก็ขอให้ได้เป็นลูกน้องของท่านอีก!”“พวกเราเองก็เช่นกัน!”ในขณะเดียวกันนั้นเอง ราชาสวรรค์สองคนจากตำหนักซิวหลัวก็กระโจนตามเข้ามาด้วย แม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าตนอาจจะเป็นได้แค่เกราะกำบัง แต่เพื่อท่านเจ้าตำหนักแล้ว พวกเขาก็เต็มใจที่จะทำ“ผมเองก็ด้วย!”ทันใดนั้นเสียงของชายอีกคนก็ดังขึ้น คนผู้นั้นคือถังวั่นหลี่ ทันท

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1269

    ศิษย์สำนักเจวี๋ยฉิงทุกคนต่างก็อ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน แทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เห็นเลยแม้แต่น้อยหยางผั่วจวินเรียกเย่เทียนหยู่ว่าเจ้านาย หลินเจวี๋ยเองก็เป็นรองประมุขตำหนักซิวหลัว ดังนั้นการที่พวกเขายอมสละชีวิตเพื่อปกป้องเจ้านายก็เป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ ส่วนสำนักอื่น ๆ อย่างสำนักเงา และสำนักดอกไม้ต่างเป็นอะไรกันไปหมดชีวิตของพวกคุณไม่มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ เพียงเพื่อปกป้องคนนอกคนเดียวเนี่ยนะ?บางทีอาจเพราะบรรยากาศมันน่าตื่นตาตื่นใจเกินไปหน่อย คำพูดที่จูเก่อหลิวหลีกระซิบกับเย่เทียนหยู่จึงทำให้คนอื่น ๆ ไม่ทันได้สังเกตเห็น เพราะไม่เช่นนั้นป่านนี้คนอื่น ๆ อาจจะเดาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ออกไปแล้วอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่เย่เทียนหยู่เองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเรื่องจะเดินมาทิศทางนี้ได้เย่เทียนหยู่เองก็พอจะมองออก ว่าคนเหล่านี้เต็มใจที่จะปกป้องเขาจริง ๆ แม้จะต้องเสี่ยงชีวิต พวกเขาก็ต้องทำให้ตนมีชีวิตรอดออกไปให้ได้นี่จึงทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งใจมากอย่างมากแม้แต่บรรพจารย์เจวี๋ยฉิงที่มีชีวิตอยู่มานานกว่าร้อยห้าสิบปีเองก็ยังรู้สึกตกตะลึงด้วยเช่นกัน เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันเกินกว่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1270

    “......”แต่ละคนต่างก็พูดเร่งเร้าเขาไม่หยุดเจวี๋ยเทียนและศิษย์สำนักคนอื่น ๆ จากสำนักเจวี๋ยฉิงต่างก็รู้สึกอึ้งไปตาม ๆ กัน พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า เย่เทียนหยู่สามารถทำให้เกิดฉากเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ยังไงรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเอายาสั่งให้ทุกคนกินยังไงอย่างงั้น เพราะไม่งั้นจะมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไรนี่มันลูกรักเทพเจ้าชัด ๆ!“ฮ่า ๆ......”“น่าสนใจมาก น่าสนใจมากจริง ๆ!”“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเด็กอย่างแกจะมีเสน่ห์ดึงดูดคนรอบข้างได้มากขนาดนี้”บรรพจารย์เจวี๋ยฉิงหัวเราะอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดเยาะเย้ยออกไปว่า “แต่น่าเสียดาย ด้วยความสามารถของพวกแก แทบจะขวางฉันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”ทันทีที่เขาพูดจบ คลื่นพลังเวทอาคมอันน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แรงกดดันมหาศาลที่น่าตกใจก็กำลังบีบอัดเข้ามาโดยตรงทุกคนสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่น่ากลัวนั้นกำลังพุ่งตรงเข้ามา ซึ่งมันก็ทำให้ร่างกายพวกเขาสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกคนต่างก็พยายามใช้พลังที่มีของตนกันอย่างเต็มที่ภายใต้การร่วมมือกัน พวกเขาได้ทำการรวมพลังให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อใช้ต่อต้านแรงกดดันที่น่าสะพ

Pinakabagong kabanata

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1345

    เย่เทียนหยู่รู้สึกทำอะไรไม่ถูก ถ้ารู้แบบนี้ ก็คงไม่ให้พวกเธอสองคนดื่มตั้งแต่แรกในขณะเดียวกันนั้นเอง หลิวซือซือที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ยกแก้วในมือขึ้น แล้วพูดออกมาว่า “พี่เย่คะ ฉันมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกกับพี่มาโดยตลอด แต่ก็กลับไม่มีโอกาสได้พูดมันออกมาเลย”“งั้นก็อย่าพูดเลยจะดีกว่า” เย่เทียนหยู่นึกถึงเรื่องในอดีตของเขากับหลิวซือซือขึ้นมา ก่อนจะคาดเดาได้อย่างคลุมเครือว่าเธอกำลังจะพูดอะไร“ไม่ได้ค่ะ วันนี้ฉันต้องพูดให้ได้!”“ฉันกลัวว่าถ้าผ่านวันนี้ไปแล้ว ฉันไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก”หลิวซือซือพูดด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่เย่คะ ฉันชอบพี่ค่ะ ชอบพี่มาตลอด ฉันชอบพี่มากจริง ๆ!”“ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันต้องไปทวงหนี้กับพี่ ฉันก็ถูกความสง่างามและความมั่นคงอันแข็งแกร่งของพี่ดึงดูดไปแล้วค่ะ ต่อมาพี่ก็คอยช่วยฉันเอาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหัวใจเต้นแรงมากกว่าเดิม ทำให้ฉันชอบพี่มากขึ้นเรื่อย ๆ”“แต่ก็เหมือนว่าพี่จะไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของฉันเลย หลายครั้งที่ฉันอยากจะรุกเข้าหาพี่แต่ก็ไม่กล้า จนกระทั่งพบว่าพี่กับประธานหลินคบกันอยู่ ฉันถึงได้เข้าใจว่าฉันไม่ใช่อะไรสำหรับพี่เล

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1344

    แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ แต่ทั้งสองคนก็ได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับไป๋เฉิงกรุ๊ป และความน่ากลัวของแก๊งพยัคฆ์ทมิฬมาไม่น้อย ดังนั้นความหวาดกลัวและความรู้สึกหวั่นเกรงที่มีต่อตระกูลไป๋จึงมาจากใจของพวกเธออย่างแท้จริงสองสาวพูดสลับกันไปมา จนเกิดเป็นเสียงที่ดังอึกทึกขึ้น เย่เทียนหยู่แทบไม่มีโอกาสได้พูดเลยด้วยซ้ำ ในที่สุดเขาก็มีโอกาส เขาจึงพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ พูดจบรึยัง?”สองสาวพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้“พวกเธอฟังฉันนะ พวกเธอวางใจเถอะ แค่ตระกูลไป๋ พวกมันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” เย่เทียนหยู่พูดออกมาตรง ๆ เดิมทีก็คิดจะบอกว่าไป๋เฉิงกรุ๊ปเป็นของตนอยู่หรอก แต่จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนความคิดถึงอย่างไรตอนนี้ก็อยู่ข้างนอก แถมแก๊งพยัคฆ์ทมิฬและไป๋เฉิงกรุ๊ปเองก็มีชื่อเสียงที่ไม่ดีสักเท่าไหร่คำพูดนี้ แทบจะไม่เห็นตระกูลไป๋อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็นถึงหนึ่งในตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในเมืองตะวันออกเชียวนะ ในใจของสองสาวจึงรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่พวกเธอมองหน้ากัน ต่างคนต่างก็คิดว่าที่พี่เย่จงใจพูดแบบนี้ก็เพื่อทำให้พวกเธอสบายใจก็เท่านั้น“เอาล่ะ ไม่ต้องสนใจพวกเขาแล้ว ควรกินก็กิน ควรดื่มก็ดื่มเถอะ” ที

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1343

    สีหน้าหลี่ซินเยว่และหลิวซือซือเต็มไปด้วยความรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อกี้ตอนที่พวกเธอนึกถึงความน่ากลัวของตระกูลไป๋ อันที่จริง พวกเธอก็คิดที่จะเตือนเย่เทียนหยู่ไม่ให้ทำร้ายตงซู่อยู่เหมือนกัยแต่เมื่อลองนึกดูอีกที ในสถานการณ์แบบนี้ ด้วยนิสัยของตงซู่ ต่อให้จะหยุดเอาไว้ได้ก็ไม่มีความหมายอยู่ดีเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ พวกเธอก็ไม่มีทางให้ถอยกลับอีกต่อไปแล้วเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงตงซู่ที่กำลังร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ขณะเดียวกันเขาก็หันไปจ้องเย่เทียนหยู่ด้วยความเกลียดชัง แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้ ยิ่งไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่ามด้วยเช่นกันอย่างไรก็ตาม รอจนกว่าตนจะออกไปจากที่นี่ได้เสียก่อน จากนั้นก็จะต้องรายงานเรื่องนี้ให้ไช่เตา คุณชายเตาได้ทราบ พอถึงตอนนั้น ตนจะต้องทำให้ไอ้เด็กนี่อยู่ไม่สู้ตายให้ได้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็เงียบกริบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงใด ๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย เพราะกลัวว่าจะเผลอทำให้ตัวเองเข้าไปเอี่ยวด้วยใครจะไปคิดล่ะว่า ชายหนุ่มที่ดูสุภาพไม่มีพิษมีภัยข้าง ๆ สาวสวยสองคนนี้จะลงมือได้โหดเหี้ยมมากขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็สมควรโดนแล้วแค่เห็นก็รู้เลยว่าไ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1342

    เมื่อได้ยินคำสั่ง ลูกน้องทั้งสองคนของเขาก็รีบตั้งท่าเตรียมพร้อมขึ้นทันที ก่อนจะเดินตรงไปหาเย่เทียนหยู่ด้วยท่าทางดุดัน งานที่ต้องจัดการกับคนแบบนี้ มันได้กลายเป็นการเสพติดของพวกเขาไปแล้ว อย่างน้อยพวกเขาก็ชอบความรู้สึกแบบนี้เย่เทียนหยู่ส่ายหัว ก่อนจะลุกขึ้นยืน หากไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นตกใจ ป่านนี้เขาคงจะโบกมือซัดเจ้าพวกนั้นให้กระเด็นไปนานแล้วจากนั้นก็เอาชีวิตของพวกมันมา ณ เดียวนั้นเลย!เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ยังกล้าลุกขึ้นมาพูดท้าทายตนอยู่ ทั้งสองจึงรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของพวกเขากำลังถูกดูหมิ่น นั่นจึงทำให้พวกเขารู้สึกโกรธอย่างมาก ก่อนที่ต่อมาทั้งสองจะเหวี่ยงหมัดออกไปพร้อมกันในทันทีผั๊วะ ผั๊วะ!เกิดเสียงผั๊วะดังขึ้นสองครั้งติด ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึงของผู้คน เย่เทียนหยู่ใช้ฝ่ามือฟาดพวกเขาจนกระเด็นออกไปก่อนที่ร่างของพวกเขาจะร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรง ร่างกายราวกับกำลังแหลกสลาย รู้สึกเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหวสีหน้าตงซู่ดูตกใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กนี่จะรู้วิชากังฟูด้วย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ไม่แปลกใจเลยที่แกกล้าทำตัวหยิ่งยโสแบบนี้ ที่แท้แ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1341

    หลี่ซินเยว่และหลิวซือซือที่กำลังด่ากันอย่างเมามัน กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ เสียงของตงซู่จะดังขึ้นมาข้างหู นั่นจึงทำให้พวกเธอรู้สึกตกใจจนต้องหันมองไปตามเสียงในทันทีเป็นตงซู่จริง ๆ ด้วย!นอกจากนี้ ด้านหลังของเขายังมีเหล่าชายฉกรรจ์ที่ดูดุร้ายอยู่อีกด้วย แค่มองก็รู้เลยว่าไม่ใช่คนดีอะไรสีหน้าของพวกเธอซีดเผือดในทันที!ต้องเข้าใจก่อนว่า พวกเธอเตรียมตัววางแผนจะหนีในวันนี้กัน แต่ตอนนี้ตงซู่กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เป้าหมายของเขาไม่ต้องพูดก็รู้ หรือต่อให้จะเป็นการพบกันโดยบังเอิญ แต่หากได้ยินสิ่งที่พวกเธอเพิ่งจะพูดออกมาเมื่อสักครู่นี้ เกรงว่าคงไม่มีทางปล่อยพวกเธอไปง่าย ๆ แน่เมื่อตงซู่เห็นสีหน้าตกใจของทั้งสอง เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมาว่า “ด่าสิ ทำไมไม่ด่าต่อแล้วล่ะ นี่พวกเธอคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม?”หลี่ซินเยว่ตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะรีบลุกขึ้น และพูดออกไปว่า “รุ่นพี่เองเหรอคะ พอดีเมื่อกี้ฉันดื่มมากไปน่ะค่ะ เลยไม่รู้ว่าเผลอพูดอะไรไม่ดีออกไปบ้าง อย่าโกรธกันเลยนะคะ”“หลี่ซินเยว่ จริงอยู่ที่ฉันชอบเธอมาก แต่ฉันก็ไม่โง่ขนาดนั้น เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าพวกเธอเตรียมตัวที่จะหนีในคืนน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1340

    หลิวซือซือไม่อยากให้เย่เทียนหยู่รู้เกี่ยวกับปัญหาใหญ่ที่ตนต้องเจอยังไงซะ ตระกูลไป๋ก็เป็นถึงหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองตะวันออก จะล่วงเกินตระกูลไป๋เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยของตนไม่ได้“ไม่มีจริง ๆ น่ะเหรอ?”เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นว่าเธอมีท่าทีแปลก ๆ เขาจึงพูดขึ้นว่า “หลี่ซิน พวกเธออยู่ด้วยกัน ไหนเธอพูดมาซิ”“ไม่มีอะไรจริง ๆ ค่ะ พี่เย่ ไหนเมื่อกี้พี่บอกว่ามีเรื่องอยากจะถามไงคะ เรื่องอะไรเหรอ?”จู่ ๆ หลี่ซินเยว่ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันทีโดยไม่ทันตั้งตัวเย่เทียนหยู่จึงเข้าใจได้ในทันที ว่าทั้งสองจะต้องมีเรื่องปิดบังตนอยู่แน่นอน แต่ในเมื่อไม่ยอมพูด เขาเองก็ไม่อยากถามให้มากความ แต่ต้องบอกเลยว่า หลี่ซินเยว่คนนี้ค่อนข้างมีทักษะในการเข้าสังคมมากกว่าหลิวซือซือเสียอีกบวกกับที่เธอเคยทำงานเป็นผู้จัดการระดับกลางของหลินซื่อกรุ๊ปมาก่อน ตอนนั้นเธอเองก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียวไม่แน่ว่าอาจจะพิจารณาให้เธอขึ้นมารับตำแหน่งผู้บริหารเลยก็ได้ หรือถ้าเธอไม่ไหวจริง ๆ ก็ให้รับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปก็ฟังดูไม่แย่เหมือนกัน แล้วตนก็รับบทบาทท่านประธานไปก็พอ ยังไงซะ บริษัทจะทำกำไรได้หรือไม่ได้ก็ไม่สำคัญอยู่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1339

    ไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงาน พวกหลี่ซินเยว่ก็พากันเดินทางออกจากบริษัท พวกเธอรู้สึกกังวลอยู่ตลอด เธอกลัวว่าตงซู่จะเล่นตุกติกเพื่อรั้งไม่ให้พวกเธอไปแต่ก็กลับคิดไม่ถึงว่าจะราบรื่นมากขนาดนี้ในตอนนั้นเอง ทั้งคู่ก็ได้รับสายจากเย่เทียนหยู่ หลังจากที่วางสาย หลี่ซินเยว่ก็ถามขึ้นว่า “ซือซือ พวกเราจะกลับไปเก็บของแล้วหนีไปเลย หรือพวกเราจะไปพบกับพี่เย่กันก่อนดี?”หลิวซือซือรู้สึกลังเล หากเป็นคนอื่นเชิญก็คงไม่เป็นไร แต่การที่จะได้ทานข้าวกับพี่เย่สักครั้ง สำหรับเธอนับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากเธอจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่งั้นเราก็ไปตามนัดกันก่อนดีไหม ถึงยังไงคืนนี้เราก็สามารถไปได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว”“ได้ เอาตามที่เธอว่าเลย”“แต่ว่านะ เรื่องของพวกเรา อย่าได้บอกกับพี่เย่เด็ดขาด”“เข้าใจแล้ว ถึงยังไงที่นี่ก็เป็นเมืองหลวง พี่เย่เองก็ไม่ได้เก่งไปเสียทุกอย่าง พวกเราจะสร้างปัญหาให้เขาไม่ได้” หลี่ซินเยว่เองก็เห็นด้วยอย่างมากทั้งสองตัดสินใจกันอย่างแน่วแน่ ไม่นานพวกเธอก็มองเห็นรถของเย่เทียนหยู่เย่เทียนหยู่เองก็สังเกตเห็นการมาถึงของพวกเธอ ทั้งคู่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมกระโปรงรัดรูปทรงเอ เผ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1338

    เขาถึงขั้นกล้าลงมือกับคุณท่านเย่ ที่เป็นถึงพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง!อย่าไรก็ตาม ปัจจุบันตระกูลเย่นับว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และอาจจะล้มได้ทุกเมื่อในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นก็รออีกสักสองสามวันก็แล้วกัน รอจนกว่าพวกงู แมลง มด หนูโผล่หัวออกมาให้หมดเสียก่อน พอถึงตอนนั้นก็ค่อยจัดการรวดเดียว แล้วค่อยมอบความสดใสให้กับตระกูลเย่อีกครั้งนอกจากนี้ ก็เพื่อที่จะรอดูว่าท่านอาจารย์จะมีการเคลื่อนไหวอะไรรึเปล่า มาถึงตอนนี้ อันที่จริงในใจเขาก็เริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกันหลังจากว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงหม่าต้านขึ้นมาได้ เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านไป ก็ดูเหมือนว่าหม่าต้านคนนี้จะไม่ใช่คนดีอะไร เขาจึงได้สั่งการให้คนไปตรวจสอบคนผู้นี้ดูสักหน่อยจริงด้วย หลี่ซินเยว่กับหลิวซือซือเองก็ทำงานที่ไป๋เฉิงกรุ๊ปไม่ใช่รึไง เช่นนั้นก็เชิญพวกเธอมาก็ได้นี่ จะได้ให้พวกเธอช่วยอธิบายสถานการณ์ในไปเฉิงกรุ๊ปให้ฟังด้วยเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เย่เทียนหยู่ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะกดโทรออกหาหลี่ซินเยว่ทันที เดิมทีตั้งใจจะโทรหาหลิวซือซือ แต่เมื่อนึกถึงความรู้สึกของหลิวซือซือที่มีต่อตน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1337

    ในใจโจวฉิงรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ต้นจนจบหม่าต้านก็เผยความรู้สึกหวาดกลัวออกมาไม่หยุด นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกตกใจไปชั่วขณะการแสดงออกของหม่าต้านหลังจากนั้น ราวกับคนใกล้ตายที่กำลังร้องขอชีวิตไม่หยุดไม่มีผิด ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความกลัวของเขาที่มีต่อคุณเย่ได้เป็นอย่างดีคนคนหนึ่ง เหตุใดถึงทำให้คนอีกคนกลัวได้มากขนาดนี้ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เห็นถึงสถานะและจุดยืนของเขาได้อย่างชัดเจนหลังจากที่โจวฉิงได้สติ ในใจก็กลับรู้สึกเหมือนมีม้ากำลังวิ่งพล่านไปทั่ว ทำให้เธอรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างมากในเวลานี้ เธอก็นึกถึงสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดก่อนหน้านั้นขึ้นมาได้ แต่ตอนนั้นเธอก็กลับไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการกดโทรออกเพียงครั้งเดียวเท่าที่เห็นแทบไม่จำเป็นต้องโทรเลยด้วยซ้ำ อารมณ์เหมือนแค่เขาไอออกมาก็สามารถทำให้หม่าต้านวิ่งมาคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิตได้เลยอย่าว่าแต่เธอเลย ขนาดหลินหว่านหรูเองก็ชะงักไปด้วยเช่นกัน แม้เธอจะรู้ดีว่าเย่เทียนหยู่เก่งกาจมาก แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนหยู่จะเก่งกาจได้มากถึงเพียงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า โจวฉินเองก็เพิ่งจะพูดไป ว่าตระกูลไป๋เป

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status