ช่วงเย็นฉันยังอยู่ที่รีสอร์ทและยังคงนั่งทำงานอยู่ที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ จนเวลาล่วงเลยเกือบใกล้จะ 1 ทุ่มฉันถึงเห็นร่างสูงของคนที่หายหน้าไปสองวันสาวเท้าเข้ามา เขาเหลือบตามองฉันก่อนเดินตรงเขามาหาฉัน
"ยังไม่เลิกงานอีกเหรอ"เสียงทุ้มเอ่ยถามมองคนตัวเล็กที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษา อดแปลกใจไม่ได้เพราะช่วงเวลานี้เธอน่าจะกลับบ้านได้แล้ว "ยังคะ"ฉันแค่ตอบสั้น ๆ ไม่ได้ตอบอะไรที่มันยืดยาวเขาก็พยักก่อนจะยื่นใบหน้าหล่อคมเข้ามาใกล้ ทว่าจมูกโด่งคมที่ยืนออกมาจรดลงที่พ่วงแก้มเนียนใสของฉันแล้วเขายังจงใจสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจอุ่นไอร้อนปะทะแก้มเนียนใสอย่างจงใจ ทว่าเหมือนอุณหภูมิภายในร่างกายของฉันตอนนี้กำลังสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งหัวใจฉันกับเต้นแรงเหมือนจังหวะตีกลอง จากที่คิดว่าจะทำให้เขาตกหลุมรักไม่ใช่เป็นฉันนะที่จะตกหลุมพรางรักเขาเสียเอง "ฉีดน้ำหอมอะไรทำไมหอมจัง"ฉันถึงกับเลิกลักไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำเช่นนี้ "คุณเล่นอะไร ไม่กลัวคุณป้ามาเห็นเหรอ"ฉันที่แกล้งพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ถ้าวันนี้เขาโดนเล่นงานเขาจะเกลียดฉันไหมนะ ฉันได้แต่คิดในใจ ระหว่างนั้นเองคุณป้าก็เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ด้านหลังคนตัวสูง "กลับมาแล้วเหรอ พ่อเราเรียกหา"คุณป้าเอ่ยบอกลูกชายตัวเองก่อนจะหันมาขยิบตาให้ฉัน ผมหันทิศทางไปตามเสียงของคุณแม่ที่ตอนนี้ท่านยืนอยู่ด้านหลังของผมก่อนจะเอ่ยถามถึงคนเป็นพ่อ "แล้วพ่ออยู่ไหนครับแม่" คุณแม่ตอบผมทันควัน "อยู่สวนหลังรีสอร์ท"เมื่อผมได้ยินเช่นนั้นจึงสาวเท้าไปตามทางเดินเพื่อจะไปหาพ่อแต่ก่อนที่ผมจะก้าวเท้าเดินออกมาผมหันไปยิ้มให้คนตัวเล็กก่อน ผมสาวเท้ามาตามทางเดินที่มีหลอดไฟสีส้มเปิดให้แสงสว่างจนมาถึงสวนที่อยู่ด้านหลังรีสอร์ท ก่อนจะเห็นร่างหนาของคุณพ่อนั่งอยู่เก้าอี้ไม้ แต่เรียวคิ้วผมต้องย่นเข้ามาชนกันเมื่อมองดูบนโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าคุณพ่อพบกับโหลยาดองใบใสที่ข้างในมีน้ำสีแดงอยู่ 4 - 5 โหล "พ่อเรียกหาผมเหรอครับ"ผมเรียกคุณพ่อก่อนที่ท่านจะหันมาหาผม "ใช่ ตั้งแต่กลับมาเที่ยวหาพ่อกับแม่เรายังไม่เคยคุยกันเลยนะ แล้วนี่หายไปไหนมาต้องสองวันถึงได้กลับมาวันนี้ได้" "อยู่กับไอ้เป้กับไอ้นิกครับ ว่าแต่พ่อให้แม่มาเรียกมีอะไรหรือเปล่า"ผมตอบไปตามความจริงเพราะตั้งแต่คืนก่อนที่เราไปนั่งดื่มกันที่ร้านเหล้ามันก็ชวนผมไปกินเหล้าต่อที่บ้านมันจากนั้นผมที่กินเหล้าจนเมาปลิ้นจนกลับมารีสอร์ทตัวเองไม่ไหว อย่างว่าแหละนาน ๆ จะเจอกันทีมันก็เลี้ยงต้อนรับผมซะจัดเต็มไปเลย "พ่อเพิ่งดองยาดองสูตรใหม่มาชิมเป็นเพื่อนพ่อหน่อย"คุณพ่อเอ่ยบอกพร้อมกับรินยาดองสีแดงใส่แก้วใบใสที่อยู่ด้านหน้าท่านก่อนจะส่งแก้วเหล้าดองยามาให้ผม "ผมไม่กินได้ไหม เมื่อคืนผมกินเหล้ากับไอ้เป้ไอ้นิกจนเอียนแล้ว"ผมรีบปฎิเสธไม่ใช่เป็นเพราะผมรังเกียจว่ากินไม่ได้แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าในใจไม่อยากดื่มจริง ๆ "กินเป็นเพื่อนพ่อหน่อย พ่อดองเหล้าไว้ต้องหลายสูตรแต่ไม่มีใครดื่มเป็นเพื่อนพ่อสักคน"คุณพ่อเอ่ยเสียงเศร้าขณะที่ผมยังลังเลสองจิตสองใจเอาวะดื่มก็ดื่มแค่แก้วสองแก้วไม่เป็นไรหรอกมั่ง แก้วเล็ก ๆ แค่นี้เอง "ก็ได้ครับ แต่ถ้าผมดื่มแล้วคึกคักขึ้นมาจะทำไง"ผมตอบก่อนจะเอ่ยแซวท่านขณะที่ท่านยิ้มให้ผมก่อนจะดันแก้วเหล้าสีใสใบเล็กส่งมาให้ผม "ถ้ามันออกฤทธิ์แล้วบอกพ่อนะเดี๋ยวพ่อหาเด็กให้"คนเป็นพ่อพูดหยอกเย้าลูกชาย ขณะมองดูใบหน้าหล่อคมของลูกชายที่ยกเหล้าดื่มอย่างว่าง่าย เรื่องของเรื่องคือพ่อชาติชายโดยคุณแม่มณีสั่งการมาว่าทำอย่างไรก็ได้ให้เขามอมเหล้าลูกชายจนเมาไม่ได้สติ เขาที่เป็นพ่อบ้านใจกล้าที่รักเมียมากเมื่อเมียรักสั่งมาเช่นนั้นเขาจะขัดก็ไม่ได้นอกจากทำตามคำสั่งของเมียรัก "เป็นไงรสชาติสู้เหล้านอกที่แกชอบดื่มได้ไหม"คุณพ่อถามผมทันทีเมื่อเห็นผมกระดกเหล้าสีแดงลงคอก่อนจะวางแก้วเหล้าบนโต๊ะ "นึกว่าจะขม แต่โอเคเลยครับดื่มง่ายอันนี้สูตรไหนครับ" "อันนี้เพิ่มกำลังวังชาดื่มแล้วทำให้คึกคัก แล้วเราคึกบ้างไหม"พ่อตอบผมก่อนจะเทยาดองอีกโหลลงแก้วพร้อมบรรยายสรรพคุณให้ผมฟัง "อันนี้ของดีเลยเขาบอกว่าเป็นยาอายุวรรณะยิ่งดื่มทุกวันยิ่งดี" "โหลนี้เหรอครับ โฮ้ ! ดีขนาดนี้สงสัยกลับอังกฤษต้องเอาไปด้วยแล้วมั่ง"ผมถึงกับตาโตเมื่อได้ยิ่งสรรพคุณที่ลำเลิศ แต่ที่ว่าที่เอากลับไปอังกฤษด้วยคงไม่จริงเพราะเขาจะยอมให้เอาขึ้นเครื่องหรือเปล่า ขณะพ่อรินเหล้าให้ผมเสร็จท่านส่งแก้วเหล้ามาให้ดื่มผมก็รับดื่มโดยดีก่อนจะวางบนโต๊ะเช่นเคย "อีกแก้วเนอะ กินแค่นี้ยาไม่ออกฤทธิ์หรอก"คุณพ่อพูดก่อนเทเหล้าลงแก้วใบใสอีกครั้ง ผมยกเหล้าขึ้นดื่มแล้ววางลงบนโต๊ะเหมือนเคย ขณะที่พ่อผมรินเหล้าใส่แก้วให้ผมอีก "พ่อผมว่าผมเริ่มเมาแล้วพอแค่นี้เถอะ"ที่ผมบอกไม่ใช่อะไรคือตอนนี้ผมเริ่มจะมึน ๆ ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว แต่พ่อยังคะยั้นคะยอให้ผมดื่มจนได้จนผมต้องยอมดื่มแต่ดื่มได้สักพักอยู่ ๆ สติผมก็วูบดับไป ก่อนที่ผมจะรู้ตัวคือช่วงเช้าของอีกวันดวงตาคมกระพริบถี่ ๆ ปรับหาแสงสว่างภายในห้องก่อนจะยกมือทุบศีรษะตัวเองเบา ๆ "อืมปวดหัวจัง ว่าแต่เรากลับมาในห้องได้ไงวะเนี้ย" เมื่อคือจำได้ว่านั่งดื่มยาดองสูตรที่คุณพ่อดองเอาไว้หลายแก้ว จนตัวเองวูบไปแล้วมาโผล่อีกทีที่ห้องตัวเอง สงสัยพ่อคงพาผมกลับมาห้องแน่ ๆ แต่สายตาคมดันไปสะดุดร่างบางกลุ่มผมยาวสลวยสีแดงที่นอนหันหลังให้ผม ฮึ ! อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนผมทำอะไรบ้า ๆ ตอนที่ผมไม่รู้ตัว ว่าแต่ใครวะที่นอนอยู่ตรงนี้แต่ดูจากแผ่นหลังแล้วมันช่างคุ้นเคยเหมือนสาวน้อยที่แม่ผมเอ็นดูเลยโครม “กรี๊ด” ตุ๊บ ร่างเล็กลอยละลิ่ว ตกลงที่พื้นคอนกรีตด้านหน้าเรือนรับรองภายในฟ้ามณีรีสอร์ท ขณะที่มีมอเตอร์ไซด์ออโตเมติกสีแดง ล้มอยู่ข้าง ๆ ร่างเล็กและถัดไปมีรถเก๋งคันหรูสีดำคู่กรณีจอดอยู่ข้าง ๆ กัน เหตุเกิดขึ้นเร็วมากฉันกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจมาฝึกงานที่ฟ้ามณีรีสอร์ทเหมือนทุกเช้า แต่เนื่องจากเมื่อคือมีฝนตกหนัก ถนนจึงมีความลื่นเป็นพิเศษบวกกับเป็นช่วงเวลาเช้า ๆ แบบนี้จะไม่มีรถมาจอดหน้าเรือนรับรองที่เป็นส่วนของประชาสัมพันธ์และใช้รับรองแขกที่จะมาเข้าพัก ทำให้ฉันเผลอเรอขับรถมาด้วยความเร็วที่ไม่เร็วมากแต่เมื่อกำลังถึงหน้าเรือนรับรองฉันที่เห็นรถจอดอยู่ข้างหน้าในเวลากระชั้นชิดทำให้ฉันเบรครถไม่ทัน ส่งผลให้รถมอเตอร์ไซค์ของฉันชนเข้ากับรถยนต์คันหรูที่จอดหน้าเรือนรับรองจนเกิดเสียงดังสนั่น ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ของฉันแฉลบล้มลงไปไม่เป็นท่า เวลานั้นเองมีผู้ชายรูปร่างสูงหุ่นกำยำ วิ่งออกมาจากเรืิอนรับรองด้วยใบหน้าตื่นตกใจ ก่อนชายคนนั้นจะเอ่ยขึ้นเสียงดัง “ทำอะไรของเธอเนี่ย ขับรถเป็นหรือเปล่า” แน่นอนเมื่อชายใบหน้าหล่อเหลาพูดออกมาเช่นนั้น เขาจะเป็นใครไปไม่ได้เขาต้องเป็นเจ้าของรถคันนั้นนั่นเอง และน
ช่วงเย็นหลังเลิกงาน ฉันขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจกลับบ้านซึ่งระยะทางก็ไม่ไกลกับรีสอร์ทของป้ามณีมากนัก แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านฉันถึงกับ ต้องตกใจที่เห็นหมายศาลมาติดอยู่หน้ารั้วบ้านในหมายศาลเขียนไว้ชัดว่า ‘ฟ้องล้มละลาย’ ฉันรีบเดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะถามพ่อกับแม่ให้รู้เรื่องเพราะเรื่องนี้ฉันไม่เคยรู้มาก่อน "แม่คะ พ่อคะ ทำไมมีหมายศาลมาติดที่บ้านเรา"ฉันเมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้านเห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้หน้าทีวี ฉันรีบเอ่ยถามท่านทั้งสองทันที "น้ำนั่งก่อน ไปฝึกงานมาเป็นไงบ้างลูก"เหมือนแม่ฉันเบี่ยงประเด็นอยากรู้อีกเรื่องกับถามฉันอีกเรื่องมันใช่เวลาไหม "พ่อคะทำไมถึงมีหมายศาลมาติดที่บ้านเราคะ"เมื่อแม่ไม่ได้ให้คำตอบฉันในเรื่องที่อยากรู้ฉันจึงหันไปถามคุณพ่อของฉันแทน "พ่อขอโทษลูก"พ่อเอ่ยกับฉันเสียงเศร้าในแววตาท่านช่างปวดร้าว "มีอะไรคะ บอกมาเถอะ"ฉันถามขณะพ่อก็ค่อย ๆ เล่าให้ฉันฟังทีละเรื่อง "ปีที่แล้วเศรษฐกิจซบเซาไม่มีคนมาพักที่รีสอร์ทเราทำให้พ่อต้องไปกู้เงินเพื่อที่จะเอามาใช้จ่ายภายในรีสอร์ท พ่อคิดว่าน่าจะพอหมุนเงินได้ แต่ไม่ใช่เลยยิ่งทำยิ่งขาดทุน จนพ่อต้องไปกู้ยืมเงินมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนตอ
"แต่ป้ามีข้อเสนอนะถ้าหนูโอเคกับข้อเสนอป้า ป้าจะยกหนี้ทั้งหมดที่พ่อแม่หนูติดป้า"คุณป้าเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนกับอ่อนโยนแต่กับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ไปในตัว"ข้อเสนออะไรคะป้า"ฉันที่สนใจอดถามไม่ได้ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงฉันก็พร้อมยอมทำตามที่คุณป้าเสนอ"เข้ามาใกล้ ๆ ป้าสิ มาตรงนี้ป้าจะบอก"คุณป้าบอกฉันขณะที่ฉันขยับเข้าไปใกล้ตามที่คุณป้าบอก ก่อนที่คุณป้าจะยกฝ่ามือขึ้นมาป้องที่ใบหูฉันพร้อมกับยืนปากเข้ามากระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา"หนูต้องช่วยป้าเรื่องหนึ่งทำอย่างไรก็ได้ให้ตาสายฟ้าไม่ต้องกลับไปอังกฤษ"เมื่อฉันได้ยินกับทำให้ฉันเบิกตาโพรง ก่อนจะคิดว่ามันเป็นข้อเสนอที่ยากเหลือเกิน แต่ถ้าเราทำได้หนี้ทั้งหมดก็จะเป็นศูนย์เลยนะคุณป้าขยับออกเล็กน้อยก่อนจะหันมาถามฉันอีกรอบ"เอาไงจะช่วยป้าไหม แต่หนูไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะเพราะป้าจะช่วยเหลือหนูอีกแรง"คุณป้าพูดโน้มน้าวฉันขณะที่ฉันยังสองจิตสองใจว่าจะเอาดีนะ ถ้าทำได้ครอบครัวจะหลุดจากหนี้สินที่พะรุงพะรังอยู่ตอนนี้"คือ..."ฉันเริ่มทำน้ำเสียงติดขัดก่อนที่คุณป้าจะพูดสวนขึ้นมา"เอาแบบนี้ ป้าให้หนูลองไปคิดดูก่อนแล้วช่วงเย็นป้าจะมาเอาคำตอบ"ฉันได้แต่พยักหน้าหงึก
ฉันกลับมาถึงบ้านช่วงเย็น ขณะที่พ่อกับแม่เริ่มทยอยแพ๊คของใส่กล่องไว้เพื่อเตรียมตัวย้ายออกจากบ้านที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เด็ก"สวัสดีคะพ่อแม่ เหลืออีกเยอะไหมเดี๋ยวน้ำช่วย"ฉันถามท่านด้วยความห่วงใยกลัวว่าพ่อกับแม่จะเหนื่อย เพราะทั้งสองช่วยกับแพ็คและเก็บของเพียงลำพัง "หนูไปพักเถอะลูก เก็บแค่ตรงนี้อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว"คุณแม่บอกพร้อมกับไล่ให้ฉันขึ้นไปพักผ่อน "คะแม่ "ฉันขานรับอย่างว่าง่ายก่อนจะสาวเท้าเข้าห้องตัวเองเพื่อที่จะอาบน้ำและพักผ่อน หลังจากฉันอาบน้ำและออกมาทานข้าวกับพ่อกับแม่ที่ห้องครัวและกลับเข้าห้องนอนเพื่อที่จะพักผ่อน ดวงตาคู่สวยที่พยายามปิดตาลงเท่าไหร่ก็ไม่สามารถปิดลงสักทีก็ในหัวฉันดันคิดแต่เรื่องที่คุณป้ายื่นข้อเสนอให้ฉันวันนี้ ก่อนที่สมองฉันจะคิดประมวลผลถึงข้อดีข้อเสียที่ตัวเองจะได้รับ อยู่ ๆ ฉันก็คิดถึงเรื่องช่วงสายขึ้นมา มือบางลูบลงกลีบปากบาง ใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ฉันเสียจูบแรกในวันนี้"บ้าเอ่ยแล้วจะคิดถึงทำไมเนี่ย"ฉันได้แต่กร่นด่าตัวเองในใจทว่าขณะที่ฉันกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ กับได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา มือเรียวกดรับสายเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทโ
"สวัสดีครับสาว ๆ มาดื่มเหรอครับ"ผู้ชายหนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นขณะที่นางเพชรชี่ดันฉันให้ออกห่างจากตัวเอง ก่อนจะยกฝ่ามือปัดลงเบาะโซฟาข้างตัวเอง"พวกเรามาดื่มครับ เชิญนั่งก่อน"อีเพชรชี่แสดงความแฟรนรี่ทันที ขณะที่ผู้ชายอีกคนในกลุ่มเอ่ยขึ้น"ถ้างั้นพวกผมไม่เกรงใจนะครับ"ผู้ชายคนนั้นดันหลังให้คนใจดำนั่งคั่นกลางระหว่างฉันกับนางเพชรชี่ ส่วนอีกสองคนก็นั่งข้างยัยดาวและยัยเดือน"ว่าแต่พวกพี่ชื่ออะไรกันบ้างคะ ส่วนหนูชื่อเดือนคนที่หน้าเหมือนหนูชื่อดาว ส่วนคนนั้นชื่อม่านน้ำคะและอีกคนที่นั่งริมสุดชื่อเพชรชี่ "ขณะที่ยัยเดือนไล่แนะนำเพื่อนที่ละคนให้คนที่มาร่วมกลุ่มรู้จัก"พี่ชื่อเป้ครับส่วนคนที่นั่งข้างน้องดาวชื่อนิก แล้วคนนั้นชื่อสายฟ้า"ขณะคนชื่อเป้แนะนำ"แล้วมาเที่ยวกันพรุ่งนี้ไม่มีเรียนกันเหรอครับ"คนชื่อเป้ถามขึ้นก่อนเพื่อนฉันนางดาวรีบตอบทันควัน"พวกหนูฝึกงานคะ เรียนปีสุดท้ายแล้วพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของพวกเราเลยนัดกันมาเที่ยว""เรียนปีสุดท้ายแล้วเหรอหน้ายังกับเด็กปีหนึ่ง"คนชื่อนิกพูดสวนขึ้น"ว่าแต่น้องม่านน้ำทำไมไม่ค่อยพูดเลยครับ อายพวกพี่หรือเปล่า"พี่เป้ถามขึ้นบ้างเพราะตั้งแต่พวกเขามานั่งในกลุ่มฉันเลือกที
ขณะที่กลุ่มเพื่อนสนิทที่มองทั้งสองคนเต้นกันก็ถึงกับอ้าปากค้างไม่คิดว่า นางน้ำจะกล้าให้ผู้ชายจูบแบบนี้ เพชรชี่ขยับเข้ามานั่งใกล้กับเดือนเมื่อดาวเห็นว่าเพชรชี่ขยับมานั่งใกล้แฝดน้องตัวเองจึงลุกตามมาร่วมกลุ่มสมทบเช่นกัน ขณะที่สองหนุ่มยกแก้วใบใสจิบเหล้าเบา ๆ มุมปากยกยิ้มอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะคิดในใจไอ้เสือร้ายกำลังจะออกอาละวาดอีกแล้วสงสัยสาวผมบลอนด์ที่มันขั้วอยู่ไม่ถูกใจเลยกลับจะมาเอาสาวเอเชียคนนี้แน่ ๆ"อีเพชรชี่มึงผสมเหล้าสูตรไหนให้อีน้ำกิน มันถึงกล้าทำแบบนี้"เดือนถามเพื่อนสนิททันทีหรือเป็นเพราะ ฤทธิ์เหล้าอีเพื่อนตัวดีถึงมีความบ้าบิ่นขนาดนี้"ก็ผสมเหมือนเดิม มันอารมณ์ไหนวะกูไม่เคยเห็นมันยั่วผู้แบบนี้มาก่อน หรือผีเข้าพรุ่งนี้เช้ารีบพามันไปรดน้ำมนต์ด่วนเลยนะ"เพชรชี่เอ่ยบอกพร้อมยังเสนอวิธีแก้ไขแบบข้าง ๆ คลู ๆ ส่วนสองฝาแฝดอย่างเดือนและดาวพยักหน้าเห็นด้วย สงสัยเพื่อนคงโดนผีตัวใดตัวหนึ่งเข้าแน่ ๆตัดมาที่ม่านน้ำและสายฟ้าที่ยืนจูบกันหน้าเวทีอย่างไม่แคร์สายตาใครดั่งว่าพวกเขาอยู่กันแค่สองคนท่อนแขนแกร่งโอบกอดคนตัวเล็กจนแนบชิด ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังบอบบางอย่างแผ่วเบา ขณะดุ้นลิ้นร้ายที่ทำหน้าที่ไ
ช่วงเย็นฉันยังอยู่ที่รีสอร์ทและยังคงนั่งทำงานอยู่ที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ จนเวลาล่วงเลยเกือบใกล้จะ 1 ทุ่มฉันถึงเห็นร่างสูงของคนที่หายหน้าไปสองวันสาวเท้าเข้ามา เขาเหลือบตามองฉันก่อนเดินตรงเขามาหาฉัน"ยังไม่เลิกงานอีกเหรอ"เสียงทุ้มเอ่ยถามมองคนตัวเล็กที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษา อดแปลกใจไม่ได้เพราะช่วงเวลานี้เธอน่าจะกลับบ้านได้แล้ว"ยังคะ"ฉันแค่ตอบสั้น ๆ ไม่ได้ตอบอะไรที่มันยืดยาวเขาก็พยักก่อนจะยื่นใบหน้าหล่อคมเข้ามาใกล้ ทว่าจมูกโด่งคมที่ยืนออกมาจรดลงที่พ่วงแก้มเนียนใสของฉันแล้วเขายังจงใจสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจอุ่นไอร้อนปะทะแก้มเนียนใสอย่างจงใจ ทว่าเหมือนอุณหภูมิภายในร่างกายของฉันตอนนี้กำลังสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งหัวใจฉันกับเต้นแรงเหมือนจังหวะตีกลอง จากที่คิดว่าจะทำให้เขาตกหลุมรักไม่ใช่เป็นฉันนะที่จะตกหลุมพรางรักเขาเสียเอง"ฉีดน้ำหอมอะไรทำไมหอมจัง"ฉันถึงกับเลิกลักไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำเช่นนี้"คุณเล่นอะไร ไม่กลัวคุณป้ามาเห็นเหรอ"ฉันที่แกล้งพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ถ้าวันนี้เขาโดนเล่นงานเขาจะเกลียดฉันไหมนะ ฉันได้แต่คิดในใจระหว่างนั้นเองคุณป้าก็เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอ
ขณะที่กลุ่มเพื่อนสนิทที่มองทั้งสองคนเต้นกันก็ถึงกับอ้าปากค้างไม่คิดว่า นางน้ำจะกล้าให้ผู้ชายจูบแบบนี้ เพชรชี่ขยับเข้ามานั่งใกล้กับเดือนเมื่อดาวเห็นว่าเพชรชี่ขยับมานั่งใกล้แฝดน้องตัวเองจึงลุกตามมาร่วมกลุ่มสมทบเช่นกัน ขณะที่สองหนุ่มยกแก้วใบใสจิบเหล้าเบา ๆ มุมปากยกยิ้มอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะคิดในใจไอ้เสือร้ายกำลังจะออกอาละวาดอีกแล้วสงสัยสาวผมบลอนด์ที่มันขั้วอยู่ไม่ถูกใจเลยกลับจะมาเอาสาวเอเชียคนนี้แน่ ๆ"อีเพชรชี่มึงผสมเหล้าสูตรไหนให้อีน้ำกิน มันถึงกล้าทำแบบนี้"เดือนถามเพื่อนสนิททันทีหรือเป็นเพราะ ฤทธิ์เหล้าอีเพื่อนตัวดีถึงมีความบ้าบิ่นขนาดนี้"ก็ผสมเหมือนเดิม มันอารมณ์ไหนวะกูไม่เคยเห็นมันยั่วผู้แบบนี้มาก่อน หรือผีเข้าพรุ่งนี้เช้ารีบพามันไปรดน้ำมนต์ด่วนเลยนะ"เพชรชี่เอ่ยบอกพร้อมยังเสนอวิธีแก้ไขแบบข้าง ๆ คลู ๆ ส่วนสองฝาแฝดอย่างเดือนและดาวพยักหน้าเห็นด้วย สงสัยเพื่อนคงโดนผีตัวใดตัวหนึ่งเข้าแน่ ๆตัดมาที่ม่านน้ำและสายฟ้าที่ยืนจูบกันหน้าเวทีอย่างไม่แคร์สายตาใครดั่งว่าพวกเขาอยู่กันแค่สองคนท่อนแขนแกร่งโอบกอดคนตัวเล็กจนแนบชิด ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังบอบบางอย่างแผ่วเบา ขณะดุ้นลิ้นร้ายที่ทำหน้าที่ไ
"สวัสดีครับสาว ๆ มาดื่มเหรอครับ"ผู้ชายหนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นขณะที่นางเพชรชี่ดันฉันให้ออกห่างจากตัวเอง ก่อนจะยกฝ่ามือปัดลงเบาะโซฟาข้างตัวเอง"พวกเรามาดื่มครับ เชิญนั่งก่อน"อีเพชรชี่แสดงความแฟรนรี่ทันที ขณะที่ผู้ชายอีกคนในกลุ่มเอ่ยขึ้น"ถ้างั้นพวกผมไม่เกรงใจนะครับ"ผู้ชายคนนั้นดันหลังให้คนใจดำนั่งคั่นกลางระหว่างฉันกับนางเพชรชี่ ส่วนอีกสองคนก็นั่งข้างยัยดาวและยัยเดือน"ว่าแต่พวกพี่ชื่ออะไรกันบ้างคะ ส่วนหนูชื่อเดือนคนที่หน้าเหมือนหนูชื่อดาว ส่วนคนนั้นชื่อม่านน้ำคะและอีกคนที่นั่งริมสุดชื่อเพชรชี่ "ขณะที่ยัยเดือนไล่แนะนำเพื่อนที่ละคนให้คนที่มาร่วมกลุ่มรู้จัก"พี่ชื่อเป้ครับส่วนคนที่นั่งข้างน้องดาวชื่อนิก แล้วคนนั้นชื่อสายฟ้า"ขณะคนชื่อเป้แนะนำ"แล้วมาเที่ยวกันพรุ่งนี้ไม่มีเรียนกันเหรอครับ"คนชื่อเป้ถามขึ้นก่อนเพื่อนฉันนางดาวรีบตอบทันควัน"พวกหนูฝึกงานคะ เรียนปีสุดท้ายแล้วพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของพวกเราเลยนัดกันมาเที่ยว""เรียนปีสุดท้ายแล้วเหรอหน้ายังกับเด็กปีหนึ่ง"คนชื่อนิกพูดสวนขึ้น"ว่าแต่น้องม่านน้ำทำไมไม่ค่อยพูดเลยครับ อายพวกพี่หรือเปล่า"พี่เป้ถามขึ้นบ้างเพราะตั้งแต่พวกเขามานั่งในกลุ่มฉันเลือกที
ฉันกลับมาถึงบ้านช่วงเย็น ขณะที่พ่อกับแม่เริ่มทยอยแพ๊คของใส่กล่องไว้เพื่อเตรียมตัวย้ายออกจากบ้านที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เด็ก"สวัสดีคะพ่อแม่ เหลืออีกเยอะไหมเดี๋ยวน้ำช่วย"ฉันถามท่านด้วยความห่วงใยกลัวว่าพ่อกับแม่จะเหนื่อย เพราะทั้งสองช่วยกับแพ็คและเก็บของเพียงลำพัง "หนูไปพักเถอะลูก เก็บแค่ตรงนี้อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว"คุณแม่บอกพร้อมกับไล่ให้ฉันขึ้นไปพักผ่อน "คะแม่ "ฉันขานรับอย่างว่าง่ายก่อนจะสาวเท้าเข้าห้องตัวเองเพื่อที่จะอาบน้ำและพักผ่อน หลังจากฉันอาบน้ำและออกมาทานข้าวกับพ่อกับแม่ที่ห้องครัวและกลับเข้าห้องนอนเพื่อที่จะพักผ่อน ดวงตาคู่สวยที่พยายามปิดตาลงเท่าไหร่ก็ไม่สามารถปิดลงสักทีก็ในหัวฉันดันคิดแต่เรื่องที่คุณป้ายื่นข้อเสนอให้ฉันวันนี้ ก่อนที่สมองฉันจะคิดประมวลผลถึงข้อดีข้อเสียที่ตัวเองจะได้รับ อยู่ ๆ ฉันก็คิดถึงเรื่องช่วงสายขึ้นมา มือบางลูบลงกลีบปากบาง ใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ฉันเสียจูบแรกในวันนี้"บ้าเอ่ยแล้วจะคิดถึงทำไมเนี่ย"ฉันได้แต่กร่นด่าตัวเองในใจทว่าขณะที่ฉันกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ กับได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา มือเรียวกดรับสายเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทโ
"แต่ป้ามีข้อเสนอนะถ้าหนูโอเคกับข้อเสนอป้า ป้าจะยกหนี้ทั้งหมดที่พ่อแม่หนูติดป้า"คุณป้าเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนกับอ่อนโยนแต่กับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ไปในตัว"ข้อเสนออะไรคะป้า"ฉันที่สนใจอดถามไม่ได้ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงฉันก็พร้อมยอมทำตามที่คุณป้าเสนอ"เข้ามาใกล้ ๆ ป้าสิ มาตรงนี้ป้าจะบอก"คุณป้าบอกฉันขณะที่ฉันขยับเข้าไปใกล้ตามที่คุณป้าบอก ก่อนที่คุณป้าจะยกฝ่ามือขึ้นมาป้องที่ใบหูฉันพร้อมกับยืนปากเข้ามากระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา"หนูต้องช่วยป้าเรื่องหนึ่งทำอย่างไรก็ได้ให้ตาสายฟ้าไม่ต้องกลับไปอังกฤษ"เมื่อฉันได้ยินกับทำให้ฉันเบิกตาโพรง ก่อนจะคิดว่ามันเป็นข้อเสนอที่ยากเหลือเกิน แต่ถ้าเราทำได้หนี้ทั้งหมดก็จะเป็นศูนย์เลยนะคุณป้าขยับออกเล็กน้อยก่อนจะหันมาถามฉันอีกรอบ"เอาไงจะช่วยป้าไหม แต่หนูไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะเพราะป้าจะช่วยเหลือหนูอีกแรง"คุณป้าพูดโน้มน้าวฉันขณะที่ฉันยังสองจิตสองใจว่าจะเอาดีนะ ถ้าทำได้ครอบครัวจะหลุดจากหนี้สินที่พะรุงพะรังอยู่ตอนนี้"คือ..."ฉันเริ่มทำน้ำเสียงติดขัดก่อนที่คุณป้าจะพูดสวนขึ้นมา"เอาแบบนี้ ป้าให้หนูลองไปคิดดูก่อนแล้วช่วงเย็นป้าจะมาเอาคำตอบ"ฉันได้แต่พยักหน้าหงึก
ช่วงเย็นหลังเลิกงาน ฉันขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจกลับบ้านซึ่งระยะทางก็ไม่ไกลกับรีสอร์ทของป้ามณีมากนัก แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านฉันถึงกับ ต้องตกใจที่เห็นหมายศาลมาติดอยู่หน้ารั้วบ้านในหมายศาลเขียนไว้ชัดว่า ‘ฟ้องล้มละลาย’ ฉันรีบเดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะถามพ่อกับแม่ให้รู้เรื่องเพราะเรื่องนี้ฉันไม่เคยรู้มาก่อน "แม่คะ พ่อคะ ทำไมมีหมายศาลมาติดที่บ้านเรา"ฉันเมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้านเห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้หน้าทีวี ฉันรีบเอ่ยถามท่านทั้งสองทันที "น้ำนั่งก่อน ไปฝึกงานมาเป็นไงบ้างลูก"เหมือนแม่ฉันเบี่ยงประเด็นอยากรู้อีกเรื่องกับถามฉันอีกเรื่องมันใช่เวลาไหม "พ่อคะทำไมถึงมีหมายศาลมาติดที่บ้านเราคะ"เมื่อแม่ไม่ได้ให้คำตอบฉันในเรื่องที่อยากรู้ฉันจึงหันไปถามคุณพ่อของฉันแทน "พ่อขอโทษลูก"พ่อเอ่ยกับฉันเสียงเศร้าในแววตาท่านช่างปวดร้าว "มีอะไรคะ บอกมาเถอะ"ฉันถามขณะพ่อก็ค่อย ๆ เล่าให้ฉันฟังทีละเรื่อง "ปีที่แล้วเศรษฐกิจซบเซาไม่มีคนมาพักที่รีสอร์ทเราทำให้พ่อต้องไปกู้เงินเพื่อที่จะเอามาใช้จ่ายภายในรีสอร์ท พ่อคิดว่าน่าจะพอหมุนเงินได้ แต่ไม่ใช่เลยยิ่งทำยิ่งขาดทุน จนพ่อต้องไปกู้ยืมเงินมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนตอ
โครม “กรี๊ด” ตุ๊บ ร่างเล็กลอยละลิ่ว ตกลงที่พื้นคอนกรีตด้านหน้าเรือนรับรองภายในฟ้ามณีรีสอร์ท ขณะที่มีมอเตอร์ไซด์ออโตเมติกสีแดง ล้มอยู่ข้าง ๆ ร่างเล็กและถัดไปมีรถเก๋งคันหรูสีดำคู่กรณีจอดอยู่ข้าง ๆ กัน เหตุเกิดขึ้นเร็วมากฉันกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจมาฝึกงานที่ฟ้ามณีรีสอร์ทเหมือนทุกเช้า แต่เนื่องจากเมื่อคือมีฝนตกหนัก ถนนจึงมีความลื่นเป็นพิเศษบวกกับเป็นช่วงเวลาเช้า ๆ แบบนี้จะไม่มีรถมาจอดหน้าเรือนรับรองที่เป็นส่วนของประชาสัมพันธ์และใช้รับรองแขกที่จะมาเข้าพัก ทำให้ฉันเผลอเรอขับรถมาด้วยความเร็วที่ไม่เร็วมากแต่เมื่อกำลังถึงหน้าเรือนรับรองฉันที่เห็นรถจอดอยู่ข้างหน้าในเวลากระชั้นชิดทำให้ฉันเบรครถไม่ทัน ส่งผลให้รถมอเตอร์ไซค์ของฉันชนเข้ากับรถยนต์คันหรูที่จอดหน้าเรือนรับรองจนเกิดเสียงดังสนั่น ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ของฉันแฉลบล้มลงไปไม่เป็นท่า เวลานั้นเองมีผู้ชายรูปร่างสูงหุ่นกำยำ วิ่งออกมาจากเรืิอนรับรองด้วยใบหน้าตื่นตกใจ ก่อนชายคนนั้นจะเอ่ยขึ้นเสียงดัง “ทำอะไรของเธอเนี่ย ขับรถเป็นหรือเปล่า” แน่นอนเมื่อชายใบหน้าหล่อเหลาพูดออกมาเช่นนั้น เขาจะเป็นใครไปไม่ได้เขาต้องเป็นเจ้าของรถคันนั้นนั่นเอง และน