“อะไรของคุณเนี่ย” ภีรดากัดฟันกระซิบกระซาบ มองมือใหญ่ของเขาด้วยตาเขียวปั๊ด เห็นมีคนอาสามาช่วยทำภารกิจปลุกนกเขาแทนแล้ว เธอเลยอุตส่าห์เปิดทางให้เพราะขี้เกียจเป็นก้าง เขาควรขอบคุณสิ จะมารั้งตัวเธอไว้เพื่อ“ไหนคุณบอกว่าจะให้ผมนวดให้ทั้งคืนไง แล้วจะทิ้งกันง่ายๆ ได้ไง ผมไม่ยอมนะ...” คนตัวโตทำอ้อน ส่งสายตาคมวิบวับมาให้เธอเสียด้วยหืม? จ้างร้อยเล่นล้านเลยนะ ว่าแต่ชักจะเล่นสมบทบาทไปหน่อยไหมนี่ไม่ทันได้อ้าปากประท้วง จู่ๆ พ่อหนุ่มหน้าตายก็ก้มลงมาใกล้ๆ แล้วฉกหอมแก้มใสๆ ฟอดใหญ่ พริตตีสาวหันขวับมองตาโตเลยโดนหอมไปอีกทีจนตัวแข็งทื่อราวกับถูกไฟชอร์ต ส่วนแม่สาวคาร่าก็เช่นกัน ฝ่ายนั้นยืนเป็นขอนไม้ตายซากไปเลย“งั้นเราขอตัวก่อนนะครับคุณ...เอ่อ” นิ่งคิดไปชั่วอึดใจก่อนเอ่ย “คุณ...คาร่า”ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลากพริตตีสาวถูลู่ถูกังให้เดินหนีไปจากตรงนั้นทันที ทิ้งให้นางแบบสาวสวยยืนอึ้งไปไม่เป็นเลยทีเดียว ใจก็อยากตามไปราวีต่อ แต่หันไปเห็นนักข่าวเดินตรงมาพร้อมทีมงานกองละครมาเรียกตัวเข้างานเลี้ยงเสียก่อน นางแบบสาวจึงได้แต่ฮึดฮัดมองตามหลังสองหนุ่มสาวอย่างเข่นเขี้ยว ในใจรุ่มร้อนหึ! เจ็บใจนัก เธอมีอะไรสู้นังเด็กสก๊อยนั
ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นฉับพลัน ทำให้ภีรดาหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันที่จริงคนตรงหน้าเวลาใส่หมวกกันน็อกแบบนี้ก็เท่ไม่เบาแฮะ“บ้านคุณอยู่ที่ไหน”คนถูกถามบอกพิกัดบ้านตัวเองตาลอยๆ เหมือนตกอยู่ในมนตร์สะกด แม่จะว่ายังไงนะถ้าเห็นลูกสาวเป็น สก๊อยซ้อนบิ๊กไบก์ผู้ชายแบบนี้ จะช็อกน้ำลายฟูมปากหรือว่าจะจุดพลุฉลองที่ลูกสาวขายออกนะ“ถ้าไม่อยากตกก็เกาะผมไว้ดีๆ แล้วกัน” หญิงสาวเอื้อมมือไปดึงชายเสื้ออีกฝ่ายไว้อย่างเสียไม่ได้ แต่พอรถออกตัวอย่างแรงเท่านั้นร่างอรชรก็หงายเงิบ จนต้องรีบกอดบั้นเอวสอบของอีกฝ่ายไว้ทันทีรวินรุตม์มองมือบางที่กอดรัดเอวตัวเองไว้ ก่อนกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ ถ้ายายนี่รู้ว่าตัวเองเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเกียรติให้ขี่เจ้าสายฟ้าลูกรักของเขาจะว่ายังไงนะ ฝ่ายคนที่เพิ่งเคยซ้อนบิ๊กไบก์ครั้งแรกจ้องมองแผ่นหลังกว้างน่าซบตรงหน้าด้วยความเขิน หัวใจเต้นแรง สายลมยามค่ำพัดมาโดนหน้าให้ความรู้สึกราวกับกำลังโบยบินอยู่ในอากาศอย่างอิสระ อืม นี่สินะ ใครๆ ถึงชอบแว้นเจ้านี่กันนัก พอหน้าโดนลมพักใหญ่ก็เริ่มจะเคลิ้ม สุดท้ายศีรษะทุยสวยจึงซบลงที่หลังของเขา พร้อมเสียงกรนเบาๆรถบิ๊กไบก์คันโก้มาถึงที่หมาย เขาจอดรถบ้านช
รถตำรวจ! มาทำไมหว่า? เอ ชักไม่ธรรมดาแล้วแฮะ...ภีรดาเดินขากะเผลกเข้าไปสมทบกับเหล่าไทยมุงที่ยืนออกันอยู่หน้าบ้าน หลายคนถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปเสียด้วย“มีอะไรกันเหรอคะป้า” ภีรดาเห็นคนข้างบ้านที่เธอรู้จักก็ปราดเข้าไปถาม“อ้าว หนูแพนมาแล้วเหรอ”“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมตำรวจมากันเต็มหน้าบ้านแพนแบบนี้”“คืออย่างนี้ วันนี้มีคนโทร. ไปแจ้งที่สน. ว่า...” ยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงเอะอะวุ่นวายดังแทรกออกมาจากในบ้านเอ ท่าทางจะไม่ใช่งานเลี้ยงฉลองธรรมดาๆ เสียแล้วกระมัง หรือแม่จะชวนคุณตำรวจมากินเลี้ยงที่บ้านด้วย ไม่เลวแฮะหญิงสาวเห็นตำรวจกำลังควบคุมตัวคนแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในบ้านทีละคนสองคน โดยมีพี่สาวของเธอเดินตามหลังมาติดๆ“พี่แยม...” หญิงสาวร้องลั่น ก่อนปราดเข้าไปหาพี่สาวต่างบิดาหน้าตาตื่น“มาแล้วเหรอยายแพน หายไปไหนมาทั้งวันล่ะ ทำไมเพิ่งโผล่หัวมาเอาป่านนี้” ยมุนาที่หน้ายับเหมือนคนเพิ่งตื่นหันมาถามเนือยๆ “นี่มันเรื่องอะไรกันพี่แยม ทำไมตำรวจมาเต็มบ้านเราแบบนี้ล่ะ”คนถูกถามเกาหัวแกรกๆ ตีหน้ายุ่ง “อ๋อ...เขามาจับวงไพ่น่ะสิ”“หา! จับวงไพ่! ในบ้านเราเนี่ยนะ” ภีรดาเบิกตาค้าง “อย่าบอกนะว่า...”“อืม...วัน
“ถ้างั้น...หนูขอเสียค่าปรับตรงนี้เลยได้ไหมคะ” หญิงสาวพยายามจะต่อรอง “คุณดาบจะคิดค่าปรับเท่าไหร่...”“ถ้าไม่อยากถูกจับฐานติดสินบนเจ้าพนักงานอีกกระทง ผมขอแนะนำให้คุณไปที่โรงพักดีกว่านะครับ ผมขอตัวก่อน...”ภีรดาถึงกับตาโต ในใจแอบนึกชื่นชมตำรวจไทยผู้ซื่อสัตย์ไม่ยอมคดโกง ส่วนอีกใจก็อดละอายตัวเองไม่ได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะความอยากช่วยแม่ไม่ให้ติดคุกเท่านั้น“แม่ไม่ไปนะลูก ช่วยด้วย ฮือ...ไม่เอาคุก ไม่เอ๊า...” นางน้อมจิตต์ร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็นเด็กๆ จนลูกสาวปวดเฮดเพลียฮาร์ตจนพูดไม่ออกจะบ้าตาย ก่อนจะตั้งบ่อนในบ้านล่ะไม่คิดปรึกษากันนะแม่นะ ทีอย่างงี้มางอแงไม่เอาคุกๆ เฮ้อ...กลุ้มภีรดาได้แต่ยืนมองแม่ตัวเองถูกต้อนขึ้นรถติดลูกกรงไปพร้อมกับยมุนาพี่สาวของเธอที่โดนหางเลขไปด้วยฐานเป็นกองเชียร์อย่างจนปัญญา ค่าปรับเท่าไหร่ไม่รู้แต่ต้องคูณสอง อุตส่าห์หาเงินมาได้อย่างลำบาก ยังไม่ทันหายเหนื่อยเลยก็ต้องมาหมดไปกับค่าประกันตัวแม่กับพี่สาวเสียแล้วเฮ้อ...ชีวิตฉันช่างบัดซบแท้!“ครอบครัวคุณนี่ครื้นเครงดีนะ...” เจ้าของเสียงเย็นเอ่ยขึ้นเรียบๆ ด้วยหน้าตาเฉยเมย ทำเอาพริตตีสาวสะดุ้งหันขวับไปมองคนตัวโตที่มายืนข้า
“เลี่ยนไปนิด แต่ยังดีกว่าเอาปากไปถูดินหน่อยนึง”คนฟังมุมปากกระตุก แทบอยากจะเอากาแฟร้อนในมือเขวี้ยงใส่คนพูดแต่ก็เสียดายของ แก้วนึงไม่ใช่ถูกๆนี่เขาไม่ได้จงใจแกล้งกันใช่ไหม ไม่ได้จะหวงของกินหรอกนะ เพียงแต่กาแฟนั่นเธอเพิ่งดูดไปเนี่ยสิ อย่างนี้มันจะถือว่าเป็นจูบทางอ้อมได้หรือเปล่านะ แต่เธอคงคิดมากไปเองละมั้ง เพราะเขาก็ยังนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอาเถอะอย่างน้อยเขาก็เป็นผู้มีอุปการะคุณ หยวนให้ก็ได้“ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่ช่วยเป็นธุระให้” หญิงสาวเอ่ย แต่ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย และไม่กล้าแตะกาแฟเย็นแก้วนั้นอีก“ไม่ต้องห่วงนะคะ เงินที่คุณจ่ายค่าปรับไปเดี๋ยวฉันจะรีบโอนคืนให้ ช่วยทิ้งเบอร์บัญชีไว้หน่อยแล้วกัน”“เรื่องนั้นช่างเหอะ ตอนนี้ผมยังไม่ได้ร้อนเงิน”กึก! ภีรดาเม้มปากแน่นพยายามข่มใจ เริ่มสวดแผ่เมตตา แหม มันจะดีอยู่แล้วเชียวนะ ถ้าหมอนี่ไม่อ้าปากพูด“ก็ดีค่ะ ถ้างั้นเรื่องที่เกิดขึ้นฉันจะถือว่าไม่เกี่ยวกับข้อเสนอเรื่องงานพิเศษของคุณ บุญคุณครั้งนี้ขอไม่นำมารวมเป็นเหตุผลในการตัดสินใจนะคะ”“ก็แล้วแต่คุณสิ” รวินรุตม์กล่าวพร้อมกับหาวหวอดออกมา เพราะเขาเองก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเช่นกัน และตอนนี้ก็ชัก
“จะยืนมึนอีกนานไหม” เสียงเย็นชาทำลายภวังค์จนสิ้นซาก“คะ?”“ผมถามว่าคุณจะยืนงงตรงนั้นอีกนานแค่ไหน เมื่อไหร่จะถอดสักที”“หา...ถะ...ถอด!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างงุนงงเธอยังไม่ได้ตกลงรับข้อเสนอนางแมวยั่วสวาทของเขาสักหน่อย แล้วเขาจะให้เธอถอดเสื้อผ้าต่อหน้าเขาทำไมกัน อย่าบอกนะว่าหมอนี่จะให้เริ่มทดลองงานตอนนี้เลย“อร้ายยย คนชีกอ!” พริตตีสาวรีบกอดอกหวีดร้องลั่นห้อง แทบจะพุ่งเข้าไปชกตาหมีมะเขือเผาจอมลามกตรงหน้า เห็นหล่อๆ หงิมๆ ไม่คิดเลยว่าเขาจะหื่น ถึงกับให้เธอแก้ผ้าต่อหน้าแบบนี้“คุณว่าใครชีกอ?” รวินรุตม์มองคนเต้นเป็นเจ้าเข้าอย่างงุนงง“ก็ใครล่ะที่อยู่ดีๆ ก็มาสั่งให้ฉันถอดเสื้อถอดผ้าน่ะ”“เดี๋ยวนะ ผมสั่งให้คุณถอดเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อไหร่”“อ้าว...ก็เมื่อกี้ไง คุณบอกให้ฉันถอด...”ไบเกอร์หนุ่มถึงกับกุมขมับ พลางส่ายหน้า“ผมถามว่าเมื่อไหร่คุณจะถอด หมายถึงถอดรองเท้าเลอะๆ นั่นสักทีต่างหาก พื้นห้องผมเลอะเทอะหมดแล้ว ไม่เห็นหรือไง” เขาชี้มือไปที่พื้นที่มีรอยสกปรกหลายรอยเพล้ง! พริตตีสาวอ้าปากหวอ หน้าแหกยับเยิน“อ๋อ ที่แท้ก็ถอดรองเท้านี่เอง แหะๆ” คนหน้าแตกยิ้มกลบเกลื่อน“นี่อย่าบอกนะว่าคุณกำลังคิดลาม
“โอ๊ะ! โอ๊ย!”พลั่ก! หญิงสาวร้องลั่น พร้อมกับที่ขาเจ้ากรรมดีดผึ่งเสยเฉียดปลายคางของเขาไปเส้นยาแดงผ่าแปดอย่างลืมตัว“บอกว่าเบาๆ หน่อย ฉันเจ็บ!”หมอนวดหนุ่มรูปงามถึงกับหน้าหงาย แม้จะไวหลบได้ทัน แต่ก็ยังไม่วายโดนแบบเฉี่ยวๆ นี่มันนิยายประเภทไหน นางเอกถึงได้ป่าเถื่อนสะเทือนขวัญได้ขนาดนี้ ถ้าไม่เคยเห็นยายนี่ประกวดพริตตี เขาคงคิดว่าเธอถูกอิมพอร์ตมาจากเวทีราชดำเนินคู่เอก ดวงตาขุ่นตวัดมองอย่างเชือดเฉือนอุต๊ะ...เธอทำหมียักษ์เดือดเสียแล้วภีรดาหน้าเหวอ ก็รู้นะว่าสิ่งที่เขาทำไปเป็นเพราะหวังดีอยากช่วยเธอให้หายเป็นตะคริว แต่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจนี่นา แก้ตัวในใจไปน้ำขุ่นๆ หพลางมองคนหน้าหงิกอย่างเจี๋ยมเจี้ยม“แหะๆ คะ...คือฉันไม่ได้ตั้งใจ คือมือคุณหนักมาก ฉันก็เลยลืมตัวไปนิด เอ่อ...เจ็บมากไหมคะ” ถามเสียงอ่อยๆ ถ้าโดนเขาจระเข้ฟาดหางกลับ เธอคงรู้สึกดีเสียกว่าให้นิ่งเงียบราวกับภูเขาน้ำแข็งยกกำลังสองแบบนี้ “คุณคงไม่ได้โกรธฉันใช่ไหมคะ” พูดพลางสะกิดต้นแขนล่ำเบาๆ ชักใจเสียเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบจนบรรยากาศเริ่มมาคุ หมอนวดหนุ่มยังคงปั้นหน้านิ่งจนอ่านไม่ออกว่าเขารู้สึกอย่างไร เขาคงไม่พอใจจริงๆ นั่นแหละ“งั้นฉันให้คุ
รวินรุตม์อาศัยจังหวะที่หญิงสาวเคลิบเคลิ้มกับรสสัมผัสนุ่มละมุนของเขารุกคืบเข้าโจมตีที่จุดอื่นต่อ มืออุ่นร้อนขยับยุกยิกที่ชายเสื้อยืดของเธออย่างย่ามใจ แต่ยังไม่ทันได้สอดมือเข้าไปสัมผัสเนื้อเนียนนุ่ม ก็อ้าปากร้องลั่นออกมา “โอ๊ะ...โอ๊ย!”ชายหนุ่มโดนฟันคมงับที่ปลายลิ้นเข้าให้จนสะดุ้งโหยง ชาวาบตั้งแต่หัวจดปลายเท้า ต้องยอมถอยทัพกลับมานั่งหน้าตูมที่เดิม ในใจเดือดปุดๆ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนกัดลิ้นขณะที่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มเช่นนี้มาก่อน ยายแพนด้าพันธุ์ร็อตไวเลอร์นี่กล้าดียังไงทำกับเขาแบบนี้ นึกแล้วก็แสนจะแค้นฝ่ายคนถูกปล้นจูบใช้หลังมือถูที่ปากแรงๆ ก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ไปหลายทีด้วยความโล่งอก แม้จะโดนเขาหอมไปสองที กับโดนจูบไปอีกที แต่ก็ยังดีกว่าโดนหมีปล้ำละน่า พริตตีสาวพันธุ์โหดมองคนตัวโตที่นั่งหน้าตึงเปรี๊ยะไม่สบอารมณ์อย่างสมน้ำหน้าแต่พอเห็นปลายคางเขามีรอยแดงๆ ก็ชักจะรู้สึกผิดขึ้นมาหน่อยๆ ถึงจะหื่นไปบ้าง แต่คิดถึงตอนที่เขาช่วยวิ่งเต้นเรื่องแม่เมื่อคืน กับตอนที่ช่วยนวดขาตอนเธอเป็นตะคริวแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้ จะว่าไปเธอก็เป็นฝ่ายผิดที่ไปรังแกเขาก่อน“นี่คุณ”นิ่งไม่ตอบ...“เ
แต่นั่นกลับเทียบไม่ได้เลยกับสายตาที่กำลังมองมาของกลุ่มคนตรงหน้าที่มองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย และจับผิดเวลานี้“ยิ้มหน่อยสิคุณ” เมื่อเห็นหญิงสาวเกร็งจนหน้าสั่น ชายหนุ่มจึงเอียงตัวไปกระซิบเบาๆ พอได้ยินกันสองคน “ทำหน้าแบบนั้นเดี๋ยวเขาก็หาว่าผมบังคับคุณมากันพอดี”“หึ...หรือไม่จริงล่ะ” เธอกัดฟันเถียง “ใครจะไปยิ้มออก ดูสายตาแต่ละคนนั่นสิ แค่ก้าวขาเดินได้นี่ก็บุญแล้ว นี่คุณว่าคนในงานจะจำฉันได้หรือเปล่า”“จำได้แล้วไง”“จะแล้วไงล่ะ ถ้าพวกเขาเชื่อข่าวฉาวในเน็ตนั่นจะว่าไง ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พ่อแม่คุณจะขายหน้าน่ะสิ ฉันไม่เข้าไปในงานได้ไหม เรากลับกันดีกว่า” หญิงสาวเริ่มจะปอดแหก ร่ำๆ ว่าจะขอถอนตัวเอาดื้อๆ แต่พอทำท่าจะหันหลังกลับ ชายหนุ่มก็รีบรั้งข้อมือน้อยไว้ “เชื่อมั่นในตัวเองสิ คุณไม่ได้เป็นอย่างในข่าวลือนั่น แล้วจะต้องไปแคร์คนอื่นทำไม ใครจะว่าอะไรก็ช่าง รู้แค่ว่าผมเชื่อมั่นในตัวคุณก็พอ” ประกายตาพราวระยับที่คนพูดมองสบมาทำให้หัวใจดวงน้อยเต็มตื้นและมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้น“ทำใจกล้าเข้าไว้ แล้วจำให้ขึ้นใจว่า...วันนี้คุณมาในฐานะคนรักของผม ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่สนุกกับมันก็พอ ไปเถอะ ทุกคนกำลั
ห้องบอลรูมใหญ่ในโรงแรมหรูหราใจกลางเมืองแห่งนั้นถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดงานวันเกิดครบรอบหกสิบปีของเจ้าสัวบิดาของผู้เป็นเจ้าของโรงแรมนั่นเอง ผู้คนมากหน้าหลายตาที่ล้วนแล้วแต่มีฐานะ ชื่อเสียงในวงสังคม หรือไม่ก็เป็นผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมือง คนใหญ่คนโตระดับประเทศ หรือแม้กระทั่งพวกไฮโซเซเลบชื่อดังทั้งหลายต่างก็ทยอยมาร่วมงานอย่างอบอุ่น เจ้าสัวผู้เป็นเจ้าของงานพร้อมครอบครัวต่างยืนต้อนรับทักทายแขกเหรื่อคนสนิทที่นำของขวัญมาร่วมอวยพรกันอย่างชื่นมื่นรวีวรรณและกฤษณ์ผู้เป็นสามีก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่กำลังปราศัยกับเจ้าของงานอย่างออกรสเพราะสนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไร“ไงคุณกฤษณ์ สบายดีหรือ ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะช่วงนี้ ได้ข่าวพาภรรยาไปฮันนิมูนรอบที่ร้อยแปดที่ยุโรปมาเป็นยังไงบ้างล่ะ” เจ้าสัวตระการสัพยอกคนเป็นเพื่อนสนิทอย่างเป็นกันเอง“ก็สนุกดีตามประสาคนแก่นั่นละท่าน อายุมากอย่างพวกเราเที่ยวมารอบโลกแล้ว จนรู้สึกเฉยๆ ที่จริงถ้ามีคนที่เรารักและรักเราอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจะเมืองไทยหรืออยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน” คนพูดหันไปมองภรรยาสุดที่รักอย่างหวานชื่น ไม่ว่ากี่ปีความรักของเขากับภรรยาก็ไม่เคยจืดจาง“นั่นสินะ คนแก่ๆ อ
ก่อนถึงวันงานรวินรุตม์ก็พาผู้ช่วยสาวไปเลือกซื้อชุดสำหรับใส่ออกงานด้วยตัวเอง ทั้งยังพาไปเข้าคอร์สเสริมความงามฉบับเร่งด่วน จนพริตตีสาวหัวหมุน ไม่เข้าใจว่ากะอีแค่ไปเป็นไม้กันหมาจะต้องสวยอะไรขนาดนั้นหลังจากถูกขัดสีฉวีวรรณ วันงานภีรดาก็ออกมาสวยสมใจนายจ้างหนุ่มในที่สุด ร่างสูงเพรียวงามระหงในชุดราตรีแบบเรียบหรูดูผู้ดี๊ผู้ดีผิดหูผิดตา รับกับใบหน้าที่แต่งสไตล์เกาหลีดูฉ่ำน้ำแวววาวเป็นธรรมชาติ ล้อมกรอบด้วยเรือนผมสลวยเงางามที่จัดแต่งมาอย่างประณีตสวยหรูแลดูเฉิดฉาย จนทำเอาชายหนุ่มผู้สวมบทคู่รักกำมะลอของเธอถึงกับตกตะลึงเมื่อแรกเห็นไปนานหลายวินาที“ไงคะ สวยพอเป็นคนรักของคุณได้ไหม” พริตตีสาวหมุนกาย หยอกเย้าด้วยรอยยิ้มน่ารักที่ทำให้คนมองมาแอบหัวใจกระตุกเบาๆ“ผมว่าขาดอะไรไปอย่าง อยู่เฉยๆ ก่อนนะ” ว่าแล้วคนพูดก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน ทำเอาหญิงสาวใจหายวาบไม่ใช่ว่าจะไปเอาชุดแม่ชีมาให้เธอใส่อีกหรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั้น เธอก็ไม่ปงไม่ไปมันแล้วเพียงชั่วครู่ ชายหนุ่มก็กลับออกมาพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ แต่ไม่ใช่ชุดแม่ชีที่เธอขยาด เฮ้อ...โล่งอกร่างสูงสง่างามในชุดทักซิโดสีเทาสุดเท่เดินอ้อมมาทางด้านหลังของหญิงสาว ก่
ใบหน้าที่แห้งแล้ง และดวงตาหม่นแสงชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเขาทำให้หญิงสาวอดสงสารไม่ได้ จึงเผลอตัวยื่นมือไปดึงร่างใหญ่เข้ามากอดปลอบโยน แม้จะยังข้องใจและมีคำถามอีกมากมาย แต่เธอกลับไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกไปอีกเพราะกลัวคำตอบ“ฉันเชื่อว่าวันหนึ่งคุณจะได้พบคนคนนั้น คนที่คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณโดยไม่หวังผลตอบแทนแน่นอน”รวินรุตม์อุ่นวาบขึ้นมาในดวงใจ รับรู้ได้ถึงความอาทรจริงใจที่อีกฝ่ายส่งผ่านมาให้ วงแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างกลมกลึงตอบ ดวงตาคมเข้มทอประกายลึกล้ำอ่อนโยน รู้สึกเหมือนหัวใจที่เคยเย็นชาราวกับห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกำลังถูกแสงแดดอันอบอุ่นค่อยๆ ละลายเกราะกำแพงที่กั้นขวางลงทีละนิดๆ พร้อมความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของหัวใจสัมผัสที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้หญิงสาวรับรู้ได้เช่นกัน ภีรดาซุกซบใบหน้ากับอกแกร่งนิ่ง เริ่มคุ้นชินกับอ้อมกอดของเขา และเธอคงเป็นบ้าไปแล้วที่อยากอยู่ในอ้อมกอดนี้ไปเรื่อยๆ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอกับเขานั้นเป็นได้แค่ลูกจ้างกับนายจ้างเท่านั้น อีกไม่นาน ถ้างานสำเร็จเมื่อไหร่เธอกับเขาก็จะกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก คิดถึงตรงนี้ก็ใจหาย หยาดน้
“หา?” หญิงสาวทำตาโต“ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกเป็นหลานเพื่อนๆ ของทั้งสองคนนั่นแหละ ผู้หญิงคนไหนดี คนไหนสวย มีคุณสมบัติเพียบพร้อมถูกใจก็ไปขอนัดให้ผมไปดูตัวหมด จนช่วงหลังนี่ผมงานยุ่งแล้วไหนจะต้องตระเวนแข่งรถก็เลยชักจะขี้เกียจเริ่มเบี้ยวนัด ทั้งสองคนเลยต้องหามุกใหม่ แทนที่จะนัดให้ผมไปดูตัวทีละคน ก็บังคับให้ผมไปตามงานเลี้ยงสารพัดสโมสร ไม่ก็งานวันเกิดเพื่อนๆ ของท่าน แล้วก็แนะนำผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้แทนทีละหลายๆ คนไง อย่างงานวันมะรืนนี้ไง เจ้าสัวตระการที่ว่าน่ะเป็นทั้งเพื่อนสนิทพ่อผม แล้วก็ยังเป็นพ่อของนายเต้ เอ่อ...นายตติยะเพื่อนผมที่คุณเคยเจอด้วย ได้ข่าวว่าปีนี้จัดงานวันเกิดใหญ่โต เชิญพวกเซเลปและคนในแวดวงไฮโซมากันเยอะ เดาว่างานนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นงานมหกรรมดูตัวอีกตามเคย”นานครั้งอีกฝ่ายถึงจะเล่าอะไรยาวๆ ให้ฟังสักที ภีรดาเลยเท้าคางฟังเพลิน“หึ...แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าผมทำหลานให้ท่านอุ้มไม่ได้เพราะไอ้อาการที่เป็นอยู่เนี่ย ต่อให้ผมถูกใจเลือกผู้หญิงที่ท่านหมายตาสักคนมาแต่งงานด้วยก็ใช่ว่าจะผลิตหลานให้อุ้มได้...”“แล้วพวกท่านรู้หรือเปล่าคะว่าคุณ...เอ่อ...มีอาการอย่างว่าน่ะ”ชายหนุ่มหันมามองสบตา ก่อนส่าย
“คือ...แพน...”“เรื่องจริงใช่ไหมลูก” รวีวรรณร้องลั่น ดวงตาเป็นประกาย “งั้นก็แปลว่าลูกกับแม่หนูคนนี้...ทำหลานให้แม่อุ้มเรียบร้อยแล้วสินะ”“อุ๊ย! เปล่านะคะ ไม่ใช่อย่างนั้น” ภีรดาตาเหลือก รีบปฏิเสธลั่น“โธ่...อย่าเขินไปเลยจ้ะ ถ้าเราสองคนคิดจริงจังกันถึงขั้นจะสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้า จะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย กลับจะดีใจด้วยซ้ำ”อ้าวเฮ้ย...ไหงอีกฝ่ายกลับดีใจล่ะ“ว่าแต่คุณแม่ยังไม่บอกเลยว่าแวะมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”“อ๋อ...ก็ลูกน่ะเล่นไม่ยอมกลับบ้านตั้งเป็นเดือนแล้ว แม่ก็เลยคิดถึง แล้วอีกอย่างคุณพ่อก็ฝากเตือนเรื่องงานเลี้ยงแซยิดเจ้าสัวตระการเพื่อนคุณพ่อวันมะรืนนี้ด้วย บอกว่าให้ลูกไปให้ได้” เอ่ยถึงตรงนี้ดวงตาคนพูดก็แอบฉายรอยกังวลขึ้นมานิดๆ “เออ...จริงสิ ทำไมลูกไม่พาหนูแพนด้าไปงานด้วยเสียเลยล่ะจ๊ะ”“หา! ไม่ดีมั้งคะ งานเลี้ยงที่ว่าคงมีแต่ผู้ใหญ่ อย่าพาแพนไปเกะกะเลยนะคะ...” ภีรดารู้สึกผิดที่ต้องมาโกหกผู้หญิงที่แสนจะใจดีตรงหน้า แต่ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษตาหมีภูเขาน้ำแข็งนี่ด้วยที่ทำให้เรื่องบานปลาย“ไม่ต้องห่วงครับ เราสองคนจะไปร่วมงานแน่นอน จริงไหมครับที่รัก” ภีรดาสะดุ
ภีรดาเงยหน้ามองนายจ้างหนุ่มที่ตีหน้าขรึมทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับดันหลังเธอไปข้างหน้าเบาๆ หญิงสาวจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจดีสู้เสือพร้อมกับขยับเข้าไปหาอีกฝ่าย“เข้ามาใกล้ๆ อีกสิ” เสียงเย็นยะเยือกสำทับพร้อมกับยื่นมือมา เสี้ยววินาทีที่ภีรดานึกว่าจะถูกอีกฝ่ายจิกหัวตบคว่ำขย้ำม้ามแตก เหมือนที่เคยดูในละครน้ำเน่าเรื่องแม่ผัวตัวร้ายกับลูกสะใภ้ทีเด็ดนั้นเอง จู่ๆ เสียงกังวานอย่างน่าเกรงขามก็ดังขึ้นว่า...“เฮ้อ...ท่าทางไม่เลวนี่”หะ...หา? อะไรคือไม่เลวหญิงสาวถึงขั้นช็อก อ้าปากค้าง คิดว่าตัวเองตาฝาดไป เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกว้างของคนมากวัยกว่าหืม...นี่มันเรื่องอะไรกัน? ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่าเหตุการณ์มันกลับตาลปัตรแบบนี้ได้ยังไง!รวินรุตม์อมยิ้มขำ พร้อมยกมือขึ้นทำไฮไฟว์กับมารดาของเขาอย่างอารมณ์ดี“ไง คราวนี้แม่เล่นเนียนเลยใช่ไหม”“สุดๆ เลยครับ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้ดาราเจ้าบทบาทที่เปลี่ยนบุคลิกราวกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือภีรดาหันมองคนทั้งสองสลับไปมา งุนงงเป็นไก่ตาแตก “เอ่อ...เดี๋ยวนะคะ ช่วยบอกดิฉันทีว่าตกลงเมื่อกี้คือการแสดงเหรอคะ”“แม่ผมเคยเป็นนางเอกละครเวทีของมหาวิทยาลัยเก่าน่ะคุณ” ร
“นั่งนี่แหละ!”สองเสียงเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาคนเป็นส่วนเกินสะดุ้งโหยง ก่อนค่อยๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม สีหน้าร่ำๆ ว่าอยากจะปล่อยโฮเสียให้ได้ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย...ฮือๆ“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แล้วเข้ามาทำอะไรในห้องลูก” รวีวรรณเปิดฉากซักลูกชายด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ภีรดารู้สึกมือไม้เย็นเฉียบ เหงื่อแตกพลั่กๆ ภาวนาให้คนตรงหน้าไม่ได้เห็นข่าวฉาวๆ ของเธอในเน็ต ในขณะที่คนถูกถามไม่ตอบกลับ ทำเป็นนิ่งเฉย ท่าทีเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานตรงหน้าเลยสักนิด“คืออย่างนี้ค่ะ หนู...เอ๊ย...ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ดิฉันชื่อภีรดา ชื่อเล่นแพนด้า เป็นผู้...”“เธอเป็นผู้หญิงของผมครับ”เปรี้ยงเดียวจบเห่! พริตตีสาวหันขวับไปมองคนหวังดีประสงค์ร้ายตาค้าง หมอนี่เล่นบ้าอะไรเนี่ย ไปแนะนำแบบนั้นได้ไง ไม่นะ! หรือว่าตาบ้านี่อยากเห็นเธอโดนแม่เขาเชือดคอหอย... “ผู้หญิงของลูกงั้นเหรอ...” แม่เสือหรี่ตามองมาทางลูกแพนด้าน้อยที่นั่งตัวลีบอย่างจับผิด “ผู้หญิงประเภทไหนล่ะ ชั่วคราวหรือว่าแบบเหมาจ่ายรายเดือน...”หืม...นั่นมันคนหรือโพรโมชันมือถือคะคุณแม่ ภีรดากลอก
ปล้ำเนี่ยนะ! งามหน้าแล้วไอ้แพนด้า! ไม่ใช่โดนเขาปล้ำ แต่เป็นปล้ำเขาเสียเอง รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น!พริตตีสาวกุมขมับอยากหลับไปโดยไม่ต้องตื่น รีบก้มลงสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากชุดที่ใส่เป็นคนละชุดกับเมื่อวาน ซึ่งเธอแน่ใจว่าไม่ได้เปลี่ยนเอง งั้นก็แปลว่า...ฝีมือคนตรงหน้าอยากจะบ้าตาย งั้นก็สรุปว่าเหตุการณ์เมื่อคืนก็ลงเอยที่...เธอปล้ำเขาจนสำเร็จสินะหมดกันพรหมจารีย์ที่หวงแหนมากว่ายี่สิบสามปี ต้องมาขาดวิ่นพังพินาศเพราะผู้ชายที่เซ็กซ์เสื่อมแบบนี้เหรอเนี่ย รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นเซ็กซ์เสื่อมเหรอ...เดี๋ยวนะลองมาคิดดูอีกทีในเมื่อหมอนี่นกเขาไม่ขัน แล้วเธอจะปล้ำเขาสำเร็จได้ไง หรือจะเป็นเพราะไอ้ยาขวดนั้น หญิงสาวนึกถึงสินค้าออนไลน์ที่ตนแอบเทใส่ไว้ในแก้วเครื่องดื่มของรวินรุตม์เมื่อคืน แต่เท่าที่จำได้เขายังไม่ทันกินนี่หว่า หญิงสาวคิดแล้วสะดุ้งวาบในใจ เมื่อนึกถึงพริกในยำแซลมอนจานนั้นขึ้นมาได้ อย่าบอกนะว่า...ดาบนั้นคืนสนอง!ฮือ...ซวยกว่านี้มีอีกไหมเนี่ยเผ่นก่อนดีกว่า! ไม่แน่หมอนี่อาจจะจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ หรือไม่ก็คิดว่าฝันไปก็ได้ ว่าแล้วแม่สาวโก๊ะก็รีบย่องลุกจากที่เก