แกสทอนเงยหน้าขึ้นมาเพื่อลอบมองใบหน้าของนายท่านที่นั่งอยู่เบื้องหน้า แกรนด์ดยุคอาโมรียกมือขึ้นมาเสยเส้นผมสีเงินของเขาไปไว้ด้านหลังอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก“ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะแกสทอน เจ้าไม่พอใจที่ข้าต้องการให้นาทาเลียตัดสัมพันธ์กับเจ้าอย่างนั้นหรือ?”“ข้าสามารถตอบตามตรงได้เลยอย่างนั้นหรือครับ”“ฮะ..ฮ่า ด้วยฐานะที่เจ้าเป็นเพียงแค่พ่อบ้าน แน่นอนว่าเจ้าไม่สามารถตอบคำถามนี้อย่างตรงไปตรงมาได้อยู่แล้ว เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะยื่นใบลาออกแล้วไสหัวออกไปจากอาโมรี เมื่อนั้นเจ้าค่อยมาบอกเล่าถึงความไม่พอใจของเจ้าให้ข้าฟังก็แล้วกัน”การจะทนอยู่ที่นี่อีกแม้เพียงเสี้ยววินาที แกสทอนยังไม่อยากจะทนอยู่เลย เขาอยากจะวิ่งออกไปจากที่นี่ ไปให้ไกลมากที่สุดเพื่อที่จะไม่ต้องทนการเหยียดหยามเช่นนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนท่านแกรนด์ดยุคนั้นชื่นชอบในการทำงานของเขามากทีเดียว แต่ในยามนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมท่านแกรนด์ดยุคถึงเข้ามาในบ้านของเขากลางดึกเช่นนี้ แต่พอเขาเห็นเงาลึกลับที่หน้าต่างเขาก็พอจะเดาได้ในทันทีท่านนาทาเลียจะต้องออกเดินทางแล้วเป็นแน่ ท่านหญิงของเขาจะต้องเข้าใจผิดในเรื่องของเขาและท่านแกรนด
นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่นาทาเลียนั่งรถม้าไกลมากขนาดนี้ เธอรู้สึกปวดหลังและง่วงนอนมากทีเดียว แต่จะให้ฮอลี่นั่งคนเดียวในรถม้าแห่งนี้ก็ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้หาเรื่องชวนฮอลี่คุย“เจ้าอายุเท่าไหร่อย่างงั้นเหรอ”ฮอลี่ที่ยกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดเพื่อเป็นสัญญาณให้นาทาเลียเงียบ และเมื่อเธอเห็นแววตาที่เปลี่ยนของฮอลี่ ความหวาดหวั่นก็เกิดขึ้นมาในใจของนาทาเลียนี่อย่าบอกนะว่าเพราะเธอเดินทางออกมาในยามกลางคืนทำให้มีโจรตามเรามา อีกทั้งเส้นทางนี้ก็เป็นการเดินทางข้ามภูเขาอีกด้วย“ฮอลี่..”“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านอย่าลงจากรถม้านะคะ”ให้ตายเถอะนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย! เธอไม่ได้อยากจะพบเจอกับโจรภูเขาหรือว่าอะไรทั้งนั้น เพียงแต่นาทาเลียไม่อยากจะให้ฮอลี่ต่อสู้ตามลำพัง อีกทั้งตามข้อตกลงของเกมนี้เธอยังตายได้อีกเก้าครั้ง..ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยากตายก็เถอะ เพราะว่าถึงเธอจะฟื้นขึ้นมาหลังความตายแต่ความเจ็บปวดก่อนที่จะตายนั้นคือเรื่องจริง..นาทาเลียพยายามจะจับมือของฮอลี่เอาไว้ ทว่านางกลับกระโดดลงจากหน้าต่างของรถม้าด้วยความรวดเร็วมากเสียจนเธอมองไม่ทันเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองไม่สามารถเหนี่ยวรั้งฮอลี่เอาไว้
ในสถานการณ์ที่ไร้ทางออกอย่างถึงที่สุด นาทาเลียกำลังคิดหาหนทางอย่างไม่ลดละ เธอไม่ใช่คนที่ชอบยอมแพ้อะไรง่ายๆ แล้วยิ่งเรื่องนี้ด้วยแล้วย่อมไม่มีทางยอมให้ตัวเองไปเป็นนางบำเรอของพวกทหารรับจ้างพวกนี้อย่างเด็ดขาด“พวกท่านพี่ทั้งหลายแค่บอกกล่าว ข้าจะรู้ได้อย่างไรกันคะว่าใครเก่งกาจมากกว่าใคร พวกท่านก็ช่วยต่อสู้กับสักครั้งให้ข้าเห็นหน่อยเถิด”ชายชุดคนคนแรกนั้นเดินเข้ามาหาเธอก่อนที่เขาจะจับเข้าที่ปลายคางมนแล้วเชิดรั้นใบหน้าของนาทาเลียขึ้น“บอกข้าทีว่าเจ้าไม่ได้กำลังเล่นลูกไม้เพื่อให้พวกเราสู้กันเอง”ทหารของปาสคาลทำท่าจะรุดเข้าไปแต่แอนโทนี่ยกมือขึ้นมาเพื่อเป็นการห้ามปรามพวกทหารของเขาสตรีเบื้องหน้ามีเส้นผมสีดำสนิท นางย่อมไม่ใช่สตรีที่กวนใจของเขาทั้งวันทั้งคืนอย่างแน่นอน แต่ทว่าน้ำเสียงของสตรีผู้นั้นทำไมมันคล้ายคลึงกับท่านหญิงอาโมรีมากเหลือเกิน..หรือว่าเขาจะคิดถึงนางมากเกินไปกันนะ ท่านหญิงอาโมรีจะสวมใส่เสื้อผ้าราคาถูกเช่นนั้นหรือ?เธอคิดเอาไว้แล้วใครคนใดคนหนึ่งในสิบคนนี้จะต้องมีสมองอยู่บ้าง และนางเลยเดินเข้าไปหาชายผู้นั้น เธอส่งยิ้มที่ผลิบานราวกับกลีบดอกไม้ให้เขา ก่อนที่นาทาเลียจะปลดกระดุมเสื้อสี
นัยน์ตาของแอนโทนี่มีความกังวลและห่วงใยคละเคล้ากันไป แล้วในยามนี้สิ่งที่เขาตระหนักได้อย่างชัดเจนมากที่สุดคือเธอไม่ได้สวมเสื้อซับในอย่างที่ควรจะเป็นหากเขารับรู้ไวกว่านี้อีกสักหน่อยว่าสตรีผมสีดำผู้นั้นจะเป็นเธอแล้วละก็ เขาคงจะเข้าไปช่วยเหลือให้เร็วมากกว่านี้แล้วศีรษะของเธอโคลงไปโคลงมาอย่างช้าๆ ในอ้อมแขนของเขา ท่านหญิงนาทาเลียหลับไปแล้ว แน่นอนว่าเธอน่าจะเหนื่อยล้าจากการเดินทางอีกทั้งพอเธอพบเจอเรื่องราวที่มันน่าตื่นตกใจมากขนาดนั้น เธอย่อมเหนื่อยล้ามากกว่าเดิม หลายเท่าทีเดียวหากว่าไม่เหนื่อยสิคงจะแปลกมากกว่าเขาพาเธอมาที่คฤหาสน์ปาสคาลและพา ทหารมากมายเห็นสตรีในอ้อมแขนของเขา ทุกคนต่างก็มองหน้าของเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม“นางคือสตรีที่ถูกโจรป่าปล้นน่ะ ไม่มีอะไรให้พวกเจ้าจะต้องมาสนใจ ไปวิ่งอีกสักสามรอบดีไหมในช่วงเช้าที่อากาศดีๆ เช่นนี้”สิ้นเสียงของแอนโทนี่ ทหารมากมายพวกนั้นก็แยกย้ายกันไปฝึกซ้อมในมุมของตัวเอง เหลือไว้แค่เพียงพ่อบ้านเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ยืนมองเขาด้วยสายตาที่ระยิบระยับ“นายท่าน..ให้ข้าจัดเตรียมห้องนอนให้แก่สตรีผู้นี้เลยดีไหมครับ”ห้องนอนอย่างนั้นหรือ? ในคฤหาสน์ที่แสนท
มือหนาที่เต็มไปด้วยร่องรอยหยาบกร้าน เพราะมือของแอนโทนี่ ถือดาบมาตั้งแต่เด็กๆ เขาระมัดระวังปลายนิ้วของตัวเองเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้มือของเขาสัมผัสหรือว่าแตะต้องท่านหญิงแม้แต่ปลายนิ้ว เขาหวาดกลัวว่ามือด้านๆ ของเขามันจะไปบาดผิวที่ขาวเนียนราวกับไข่มุกของเธอเมื่อเสื้อสีน้ำตาลอ่อนหลุดออกจากร่างกายของนาทาเลีย เนินเนื้อคู่งามก็เด่นชัดมากยิ่งขึ้น ใบหน้าของเธอขึ้นเป็นสีกุหลาบอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แน่นอนว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีใครทำใจได้หรอกที่ตัวเองจะต้องมานอนเปลือยอกต่อหน้าบุรุษที่พบกันเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะปิดตาอยู่แต่ทว่ามันก็ยังคงน่าอายมากอยู่ดีเธอเอื้อมมือไปจับมือของเขาเอาไว้เพื่อให้สถานการณ์อึดอัดเช่นนี้จางหายไป และเมื่อนาทาเลียจับมือของแอนโทนี่เอาไว้แน่น เขาก็รีบเปิดผ้าปิดตาออกมาในทันทีโชคดีที่เธอดึงผ้าห่มมาปกคลุมร่างกายของตัวเองเอาไว้ ไม่อย่างนั้นระหว่างเราคงจะมองหน้ากันไม่ติดไปพักหนึ่ง“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกิน เพียงแต่ชุดที่ท่านสวมนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน ข้าจึงตั้งใจว่าจะเปลี่ยนให้ท่าน ไม่ได้มีเจตนาที่เป็นอย่างอื่นเลยนะครับ”นาทาเลียลุกขึ้นและความรู้สึกแรกที่ชัดเจนคือคว
ที่นี่แตกต่าง..ไม่ใช่สิ หรือว่าที่นี่จะเป็นบรรยากาศของเมืองในแถบชนบททั่วไปกันนะ บนถนนที่ไม่ได้ปูด้วยพื้นหินเหมือนกันในเมืองหลวง แต่ทว่าบนทางที่เต็มไปด้วยเศษดินพวกนั้นกลับทำให้หัวใจของเธอสงบลงอย่างประหลาดแอนโทนี่พาเธอมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านที่ทำจากไม้ มีสองชั้นและอยู่ริมลำธารอย่างที่เธอต้องการ อีกทั้งเดินด้วยเท้าอีกไม่ไกลมากนักก็จะเข้าไปในย่านการค้าที่สามารถจับจ่ายซื้อของได้“ดูเหมือนว่าท่านจะชอบที่นี่นะครับ”แอนโทนี่กระโดดลงจากหลังม้าก่อนที่มือของเขาจะจับเข้าที่เอวของนาทาเลียแล้วยกร่างกายของเธอลงมาจากหลังม้า“ที่นี่ดูสงบ และน่าจะเหมาะสมกับการพักผ่อนนะคะ”“มันจะสวยงามได้อีกราวๆ หนึ่งเดือน เพราะอีกไม่นานฤดูหนาวจะเดินทางมาถึง น้ำในลำธารจะเต็มไปด้วยธารน้ำแข็งหนาที่ปกคลุมเอาไว้..แต่ในบ้านหลังนี้ข้าเคยมาอยู่พักใหญ่และมันอบอุ่นมากทีเดียวในฤดูหนาว"ดวงตาของนาทาเลียเบิกกว้างขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเขากล่าวคำว่าฤดูหนาวออกมา เพราะมันดูเหมือนว่าฤดูหนาวที่เยือกเย็นไปจนถึงชั้นกระดูกจะมีประโยชน์กับเธอนะสิ“ข้าตกลงเช่าบ้านหลังนี้ค่ะ ไม่ทราบว่าใครคือเจ้าของบ้านอย่างนั้นหรือคะ”แอนโทนี่ส่งยิ
อัจฉริยะทางวงการเวทมนตร์และศาสตร์มืดผู้ซึ่งได้ฉายาว่าเป็นผู้วิเศษ ลูเซียนแห่งกูเรียนเขาแย้มยิ้มด้วยความพึงพอใจเมื่อมองเห็นเจ้าของเรือนผมสีดำที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาตัวยาว ปลายนิ้วของลูเซียนไล้ไปตามใบหน้างามนั้นด้วยความเชื่องช้า“เจ้าคือเทพีบนสรวงสวรรค์หรืออย่างไรกัน”นาทาเลียรับรู้ได้ถึงฝีเท้าที่ก้าวเดินเข้ามาบ้านหลังนี้ ฝีเท้าที่เดินได้อย่างเงียบเชียบราวกับนักฆ่าหรือไม่ก็ทหารฝีมือดีในใจของเธอกำลังหงุดหงิด แน่ล่ะ..เพราะว่าเธอรู้สึกง่วงและกำลังทำท่าว่าจะหลับแต่กลับมีใครก็ไม่รู้เดินเข้ามาในนี้เพื่อรบกวนช่วงเวลานอนที่แสนมีค่าของเธอนาทาเลียลืมตาขึ้นมาพร้อมกับจับข้อมือของเขาเอาไว้แน่น“ท่านเป็นใครกัน..”คำถามนั้นถูกเอ่ยขึ้นมาเพราะว่าเธอไม่คุ้นหรือว่าเคยเห็นหน้าของเขามาก่อนเลย ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเล่นเกมนี้มาหลายร้อยรอบแต่นาทาเลียก็ไม่เคยเห็นบุรุษเจ้าของแววตาที่อันตรายเช่นนี้มาก่อน ความหล่อเหลานั้นฉาบเคลือบเอาไว้บนใบหน้า รอยยิ้มที่เขาแย้มออกมามันดูอันตรายเมื่อเธอจ้องมองรอยยิ้มนั้นพร้อมกับสายตาของเขา“ข้าเสียมารยาทไปสินะครับ ข้ามีชื่อว่าลูซ แน่นอนว่าเจ้าอาจจะไม่รู้จักข้า เพราะว่าข้าเป็น
แอนโทนี่แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่ในยามนี้ดวงตะวันเริ่มส่งแสงสีส้มที่ปลายของฟ้า และดวงจันทร์กำลังหลบซ่อนอยู่ที่ด้านหลังของก้อนเมฆเขาไม่รู้เลยว่าตัวเองนั่งตรงนี้มาเนิ่นนานมากแค่ไหน กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีดวงจันทร์ที่กำลังส่องสว่างทอแสงลงมาจับที่ร่างกายของเธอไปแล้วมุมปากของแอนโทนี่ยกสูงขึ้นและเขาคิดว่านี่คงจะเป็นเวลาที่ดีที่เขาควรจะปลุกนาทาเลีย เธอนอนหลับเนิ่นนานมากพอสมควรและเธอควรจะต้องทานมื้อเย็นของวันนี้ได้แล้วคราแรกเขาแค่จะแวะมาดูเท่านั้นว่าท่านหญิงปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้รึยัง แต่ปรากฏว่าเขากลับเห็นเธอกำลังนอนหลับสบายโดยมีต้นหญ้าเป็นเตียงนอน มีสายลมเย็นเป็นผ้าห่มและมีเสียงน้ำในลำธารที่กำลังรินไหลเป็นเพลงกล่อมนอน เขาเองก็ชอบบ้านหลังนี้มากทีเดียว และแอนโทนี่ก็หวังว่าท่านหญิงของเขา นางเองก็คงจะชื่นชอบบ้านหลังนี้เช่นเดียวกัน“ถึงเวลาที่ต้องตื่นแล้วครับ..เทียร์”มือของแอนโทนี่เอื้อมไปจับที่ใบหน้าของนาทาเลียเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองหน้าของเขาอย่างช้าๆนาทาเลียมองเห็นรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของแอนโทนี่และ..มองฟ้าที่กำลังมืดมิด นี่เธอนอนไปนานมากขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรือ?ทั้งๆ ที
เมื่อลูเซียนกลับมาที่ห้องของโรงแรมเขากลับไม่พบเจอใครเลยสักคนเดียว เขาตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆนาทาเลียก็หายไป เขากำลังจะวิ่งออกไปเพื่อตามหาเธอที่ด้านหน้าโรงแรมที่พัก ในระหว่างที่เขากำลังวิ่งตามหาเธอแสงสีทองก็ส่องสว่างอยู่บนแหวนที่เขาสวม นั่นหมายความว่านาทาเลียอยู่ในมิติเวทของเขาลูเซียนถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่เขาจะสัมผัสที่แหวนเบาๆเพื่อเข้าไปหาเธอในมิติเวท ที่นี่แตกต่างจากในมิติเวทที่เธอและเขาเคยอยู่ด้วยกันอย่างสิ้นเชิง ทะเลสาบอย่างนั้นหรือ?"นาทาเลีย.."เขาพบเจอนาทาเลียนั่งอยู่กับบุรุษผู้หนึ่งที่ดูคุ้นตา..หมอนี่คือคนที่มาป้วนเปี้ยนหน้าห้องเมื่อตอนบ่ายนี่"ลูเซียน มานี่สิ..ข้าจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับโลเวล"นี่คือบุรุษที่นาทาเลียกล่าวถึงให้เขาฟังบ่อยๆสินะ โลเวล บาทาซาร์"ยินดีที่ได้รู้จักครับท่านเจ้าของหอคอย"โลเวลลุกขึ้นมาแล้วก้มหน้าลงเพื่อเป็นฝ่ายทักทายก่อน อย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆว่าออร่าพลังเวทของชายผู้นี้นั้นไม่ธรรมดาเลย ที่ไหนได้นี่คือจอมเวทกูเรียนในตำนาน เจ้าของหอคอยเวทผู้ยิ่งใหญ่"อืม..นาทาเลียพูดถึงเจ้าให้ข้าฟังบ่อยๆ แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางคือนาทาเลีย"ไม่บ่อยนักที่จะมีคนที่ส
กว่านาทาเลียจะลืมตาตื่นขึ้นมาก็เป็นในช่วงเย็นของอีกวัน เธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้องนี้แต่ก็ไม่พบลูเซียนเลย นาทาเลียลุกขึ้นเพื่อเดินไปล้างหน้าล้างตา เธอแค่นหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสภาพใบหน้าของตัวเองในกระจกเงาที่สะท้อนออกมา ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้ออกมาอย่างหนัก..ดูไม่ดีเท่าไหร่เลยเธอไม่รู้ว่าลูเซียนออกไปไหน แต่เขาน่าจะมีธุระของเขานั่นแหละ นาทาเลียนั่งลงที่โซฟา เธอรินน้ำชาในกาใส่ถ้วยเล็กๆก่อนจะยกขึ้นมาดื่ม คิดไม่ผิดเลยจริงๆที่เธอตามพี่ชายไปที่ลานประมูล เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้ตาสว่างเรื่องของนาทาเลียในอดีต อีกทั้งสุราต้องคำสาปขวดนั้นหากเดาไม่ผิดเขาจะต้องใช้มันกับเธออย่างแน่นอน เช่นนั้นก็จะต้องหาทางรับมือกับคนสารเลวอย่างโอเว่นเอาไว้"ไม่เจอกันนานเลยนะครับ..ท่านหญิง"โลเวลปีนเข้ามาทางหน้าต่าง เขากระโดดเข้ามาหานาทาเลียในทันทีก่อนจะสวมกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน"คิดถึง..จังเลยครับ แล้วไอ้สารเลวคนไหนมันทำให้ท่านหญิงของข้ามีสภาพเช่นนี้กัน?"เธอตกใจจนตาค้าง ทั้งๆที่เธอปลอมตัวอยู่ด้วยพลังเวทของลูเซียนแต่แล้วทำไม โลเวลถึงจำเธอได้กันล่ะ? เธอยื่นมือไปกอดเอวของเขาเอาไว้แน
ลูเซียนตกใจเล็กน้อยที่เขาเห็นหยาดน้ำตาแวววาวรินไหลลงมาจากดวงตาของนาทาเลียที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เขา เขาไม่มั่นใจว่าเธอพบเจอกันอะไร แต่เขาก็ยังไม่อยากจะดึงจิตวิญญาณของเธอกลับมา เพราะในบางทีเธออาจจะกำลังพบเจอเรื่องราวที่ทำให้ตัวเองรับรู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของพี่ชายตัวเอง..อลาโน่ อาโมรี เมื่อไหร่กันนะที่เขาจะได้พบเจอพี่เขยอย่างเป็นทางการ อดใจรอไม่ไหวแล้วละสิ“สิ่งที่กระหม่อมต้องการ คือทำให้นาทาเลียเป็นของพระองค์ให้ได้พ่ะย่ะค่ะ ทำให้นางกลับมาหากระหม่อมที่อาโมรีไม่ได้อีก..”ข้อแลกเปลี่ยนกับสุราต้องคำสาปของแกรนด์ดยุคดูเหมือนจะแปลกมากทีเดียวในความคิดของโอเว่น“แกรนด์ดยุคต้องการแค่นั้น?”ชั่วขณะหนึ่งความเศร้าหมองปรากฏให้เห็นในดวงตาของอลาโน่“พ่ะย่ะค่ะ แค่นั้นก็พอ แค่ให้น้องสาวของกระหม่อมได้นั่งในตำแหน่งของจักรพรรดินี”โอเวนพยักหน้า“เช่นนั้นก็หมายความว่าความคิดของเราทั้งคู่มันตรงกัน ข้ารัก นาทาเลียจากใจจริง และข้าจะดูแลนางให้ดี แกรนด์ดยุคไม่ต้องเป็นห่วง”เมื่อกล่าวจบโอเว่นก็เดินออกไปจากห้องนี้พร้อมกับสุราต้องคำสาป ส่วนอลาโน่ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีหมดแรงก่อนจะยกแขนขึ้นมาก่ายหน้าผากเ
ถึงแม้ว่าลูเซียนจะบอกกล่าวกับเธอว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่การที่เขาพาเธอเข้ามาในงานประมูลโดยการใช้เทเลพอทเข้ามานั้นมันคือเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว“ข้าคิดว่าท่านจะทำบัตรเชิญปลอมมาซะอีก”“จะทำแบบนั้นให้ยุ่งยากทำไมกัน ในเมื่อผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิมคือเราได้เข้ามาอยู่ในงานนี้แล้ว”นาทาเลียอยากจะกรีดร้องดังๆ ออกมาซะเหลือเกิน หากไม่ติดว่าในยามนี้เราทั้งคู่กำลังยืนอยู่ในงานนี้เธอนั่งลงยังที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ นาทาเลียเลือกที่นั่งที่ไม่ค่อยสะดุดตาสักเท่าไหร่เพราะว่าเธอไม่ได้คิดมาประมูลอะไรทั้งนั้น เธอแค่ต้องการจับตาดูท่าทีของท่านพี่..ทว่าที่นี่คือโรงละครโอเปร่าเก่า เพราะอย่างนั้นจึงมีที่นั่งด้านบนอีกหลายสิบห้องที่ปิดม่านและปิดบังตัวตนเอาไว้ หมายความว่าพี่ชายของเธออาจจะนั่งอยู่ด้านบนและแอบประมูลบางอย่างลับๆ หรือแม้กระทั่งเขาอาจจะคุยงานกับผู้อื่นแบบที่ไม่มีคนเห็น เพราะห้องที่อยู่ชั้นบนไล่ขึ้นไปเป็นขั้นบันไดเช่นนี้ ทำให้เป็นส่วนตัวและสะดวกในการพูดคุยบางอย่างที่ไม่อยากให้มีผู้อื่นรู้“อยากขึ้นไปข้างบนไหม”นาทาเลียพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เธออาจจะแค่สงสัยไปเองก็ได้เพราะอย่างนั้
ดูจากสีหน้าของแกสทอนหลังจากที่เปิดจดหมายในมืออ่าน แสดงว่าท่านหญิงของเขานั้นส่งจดหมายเพื่อบอกว่าท่านหญิงจะกลับมาที่นี่ในเร็วๆ นี้สินะ โลเวลเองก็ไม่รอช้า เขาเปิดจดหมายออกมาอ่านเช่นกัน“โลเวล ขอบคุณในทุกอย่างที่เจ้าให้ความช่วยเหลือข้ามาโดยตลอด เหนื่อยมากเลยใช่ไหมกับการเปิดตัวที่แสนยิ่งใหญ่ในฐานะของเจ้าของกิลล์ข้อมูล อดทนอีกนิดนะ เพราะว่าข้ากำลังจะกลับไปหาเจ้าในเร็ววันนี้ หวังว่าจะได้พบกันในเร็ววันนะโลเวล”ข้างล่างจดหมายท่านหญิงนาทาเลียเขียนชื่อของบุคคลหนึ่งเอาไว้“ฝากเจ้าตามสืบเรื่องของบุรุษที่ชื่อว่า ไคเลอร์ให้ข้าด้วย ข้าไม่มีข้อมูลอะไรให้นอกจากว่าเขาคือบุรุษที่สูงโปร่งและไม่ได้เป็นขุนนาง ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดของเขาเหมือนกัน เพียงแต่เขาสำคัญมากๆ และเป็นคนที่ข้าจะต้องตามหาให้เจอ”ไคเลอร์ อย่างนั้นหรือ?โลเวลเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษก่อนจะสั่งการกับฮอลี่“เอาข้อมูลของบุรุษที่ชื่อไคเลอร์มาให้ข้าหน่อยสิ คนที่มีชื่อว่าไคเลอร์ทุกคนของจักรวรรดิแห่งนี้”ฮอลี่พยักหน้า“รับทราบค่ะนายท่าน ข้าจะหาข้อมูลของชายที่ชื่อว่าไคเลอร์มาให้ท่านแบบไม่ให้ตกหล่นเลยแม้แต่คนเดียว”แกสทอนมองท่าทีเคร่งเครียดของโลเว
“ข้าต้องการปรับปรุงคฤหาสน์หลังนี้ และให้พวกชาวเมืองทั้งหมดย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ในช่วงที่พายุหิมะพัดแรงขึ้น..”สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเกินขึ้นในช่วงเช้าของวันที่พายุหิมะพัดผ่านเข้ามาที่ดินแดงทางเหนือ องค์รัชทายาทโอเว่นนั้นทรงตื่นจากบรรทมตั้งแต่เช้า พระองค์เรียกประชุมทหารมากมายเพื่อหารือและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นและนี่คือครั้งแรกที่สายตาของอาเธอร์นั้นมององค์รัชทายาทเปลี่ยนไป เหมือนกับว่าเขามองเห็นประกายไฟในสายพระเนตรของพระองค์ได้อย่างชัดเจน“เรามีเสบียงที่สามารถเลี้ยงคนได้ราวสามร้อยคนในหนึ่งวัน แต่ทว่าประชากรของแดนเหนือรวมกันแล้วมีไม่ถึงสองร้อยคนด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นหากพาพวกเขามาอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราวจนกว่าพายุหิมะจะสงบลง น่าจะเป็นหาทางออกที่ดีที่สุด”“กระหม่อมเห็นด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงพระปรีชาสามารถยิ่งแล้ว”อาเธอร์กล่าวชมออกมาจากใจจริง“ข้ารู้เซอร์อาเธอร์ เพียงแต่ที่ดินแดนเล็กๆ แห่งนี้จำเป็นที่จะต้องมีเจ้าเมืองเพราะในอีกสามสัปดาห์ข้าจะต้องเดินทางกลับไปที่พระราชวังแล้ว ข้าจึงให้โอกาสพวกเจ้าในการอาสาที่จะอยู่ที่นี่เพื่อเป็นเจ้าเมืองปกครองดูแลดินแดนเหนือ
โอเว่นยืนอยู่บนระเบียงห้อง เขาไม่ควรเปิดหน้าต่างออกมาด้านนอกเลยด้วยซ้ำเพราะดูเหมือนพายุหิมะจะกำลังพัดโหมกระหน่ำ ทว่าดูเหมือนที่ผ่านมาเขาจะทำตัวเช่นนี้อยู่ตลอด..ชอบทำอะไรที่ไม่สมควรทำ ชอบแสดงด้านที่แย่ๆ ของตัวเองออกไป เขาถูกกดดันจากเสด็จพ่อเรื่องของการแต่งงานที่พระชายาของเขาจะต้องเป็นท่านหญิงนาทาเลียเพียงผู้เดียวเท่านั้น และการถูกบังคับปลูกฝังตั้งแต่เด็กเช่นนั้นมันทำให้ภายในใจของเขาแสดงอาการต่อต้านขึ้นมานาทาเลีย อาโมรี สตรีที่งดงามมากที่สุดในจักรวรรดิ เส้นผมสีเงินของนางนั้นทำให้นางโดดเด่นท่ามกลางสตรีมากมายในแวดวงชนชั้นสูง รอยยิ้มบนใบหน้าให้ความรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ และ..แววตาสุดแสนจะคาดหวังที่นางมองมาที่เขา แววตาเช่นนั้นมันทำให้โอเว่นรู้สึกสะอิดสะเอียนมากเหลือเกิน นางทำตัวเป็นเจ้าของเขาจะพยายามกันสตรีที่เข้ามาหาเขาให้ไกลออกไป นาทาเลียเริ่มทำตัวแย่มากขึ้นเรื่อยๆยิ่งเขาควงสตรีอื่นมาออกงาน นางก็จะอาละวาดจนไม่สนใจชื่อเสียงของอาโมรีเลย นั่นทำให้โอเว่นในยามนั้นมองท่าทีของนาทาเลียแล้วเขารู้สึกว่ามันสนุก..เขาพยายามทำให้นาทาเลียแสดงด้านแย่ๆ ออกมาเพื่อหวังว่าเสด็จพ่อจะยกเลิกการหมั้
เมื่อลูเซียนพาเธอเข้ามาด้านในบ้านที่เราอยู่ด้วยกันก่อนหน้านี้ นาทาเลียก็หลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อเธอได้กลับมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง“ข้าควรจะเริ่มคำถามไหนก่อนดีนาทาเลีย”ในใจของลูเซียนมีคำถามมากมาย เธอไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร แล้วคุยกับเบลได้เรื่องอะไรบ้าง ไอ้องค์รัชทายาทเวรนั่นทำอะไรเธอบ้างรึเปล่า เขากำลังโกรธและสับสนจนอยากจะระเบิดพลังออกมาให้รู้แล้วรู้รอดไปนาทาเลียเอื้อมมือโอบรอบคอเขาส่วนลูเซียนก็เอามือตระกองกอดเอวเธอไว้ เขาก้มหน้าลงมาเล็กน้อยเพื่อให้หน้าผากของเราแนบชิดกัน..“ท่านช่วยสร้างมิติเวทมนตร์ขึ้นมาได้ไหมคะ”เท่าที่ฟังจากเบล ไคเลอร์ (ผู้สร้างเกมนี้) จะไม่สามารถควบคุมเธอและฟังความคิดของเธอได้ในมิติเวทมนตร์ลูเซียนไม่ได้ถามหาเหตุผลของการร้องขอนั้น เมื่อเธอบอกความต้องการออกมา หน้าที่ของเขาคือทำตามความต้องการของนาทาเลียเท่านั้น เขาวาดมือออกมาในอากาศก่อนจะอุ้มเธอเดินเข้าไปในประตูโปร่งแสงสีทองมิติเวทมนตร์ของลูเซียนนั้นแตกต่างจากมิติเวทมนตร์ของเบลอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ปฏิเสธถึงพลังเวทที่แข็งแกร่งของเบลไม่ได้เลยเธอคิดว่าเบลเองก็อาจจะเป็นนางร้ายเหมือนกันกับเธอซะอี
โอเวนจมอยู่กับความคิดมากมายเพียงลำพัง เธอถามเขาออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาประดุจน้ำแข็ง บอกตามตรงว่าเขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองทำอะไรผิดหนักหนา เธอถึงได้เกลียดชังเขามากขนาดนี้“ข้า..ต้องการเจ้ามากนะเทียร์”นาทาเลียรู้สึกเหนื่อยล้ามากเหลือเกิน เพราะโอเวนทำเหมือนกับว่าเธอกำลังพูดคุยอยู่กับก้อนหินยังไงอย่างงั้นเลย เขาพูดไม่รู้เรื่องหรือว่าตั้งใจไม่ฟังคำพูดของเธอก็ไม่รู้“ต่อให้บนโลกใบนี้เหลือเจ้าที่เป็นบุรุษอยู่แค่คนเดียว ข้ายอมตายเสียยังจะดีกว่าไปเป็นคนรักของเจ้า..เลิกหลงตัวเองแล้วมองที่ความเป็นจริงหน่อยเถิด เจ้าคือองค์รัชทายาทและมีสตรีมากมายที่ตบเท้ากันเดินเข้าหาเจ้า นั่นแหละโอเวน สตรีที่เจ้าควรจะไปหาความรักคือสตรีพวกนั้นไม่ใช่ข้า เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้เพราะข้าไม่ได้รักเจ้า”“เทียร์ ทุกเรื่องที่ข้าต้องการมันจะต้องเป็นไปได้ เจ้าลืมไปแล้วงั้นเหรอว่าข้าเป็นใคร หากอยากจะหลุดพ้นจากข้า เจ้าก็ฆ่าข้าซะสิ..อึ่ก”ดาบที่แหลมคอจ่ออยู่บนคอของโอเว่น“อ่า..แบบนั้นเองสินะ ข้ากำลังคิดหาทางพาคนรักของข้าไปจากองค์รัชทายาทอยู่พอดีเลย หากรู้ว่าการสังหารท่านแล้วจะพานาทาเลียออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ ข้าคงจะท