มือที่เริ่มเหี่ยวย่นตามวัยของหญิงวัยกลางคนได้ยื่นไปกุมมือหญิงสาวที่ยืนอยู่ในลิฟต์ด้วยกัน"หนู" ..แต่นางยังไม่ทันได้พูดอะไร ประตูลิฟต์ก็เปิดออกก่อน รรินธรรีบเช็ดน้ำตาที่มันไหลออกมา"รินขอโทษค่ะที่ระบายความในใจ" เธอพูดพร้อมกับก้าวเดินออกมาจากลิฟต์"ทุกอย่างมันอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่หนูคิดก็ได้นะ""เราอย่าพูดเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ จะพลอยทำให้ป้าไม่สบายใจไปด้วยเปล่าๆ"เธอพาป้าออกมานั่งรอรถที่ป้ายหน้าบริษัท แต่ก็ไม่มีรถแท็กซี่คันไหนจอด เพราะเป็นเวลาที่หลายบริษัทเลิกงานรถก็เลยไม่ว่าง"ขึ้นรถ" คริสจอดรถรอดูเกือบครึ่งชั่วโมงได้ ก็เลยขับรถตรงเข้ามาหา"ป้านั่งรถเมล์ได้ไหมคะ" หญิงสาวไม่ยอมพูดกับเขาเธอหันมาถามป้าที่ยืนอยู่ข้างๆ"รถเมล์เหรอ?""มาพอดีเลยค่ะ เราขึ้นรถเมล์คันนี้กันดีกว่า"นางรีบเดินตามเธอขึ้นไป เกิดมาชีวิตนี้ยังไม่เคยขึ้นรถเมล์สักครั้ง นี่คงเป็นครั้งแรก..และมันก็ดูน่าตื่นเต้นดีแต่พอขึ้นไปก็ไม่มีที่ว่างให้นั่งเลย "คุณคะ ขอที่ให้ป้านั่งหน่อยได้ไหมคะ" รรินธรคุยกับผู้ชายที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว และผู้ชายคนนั้นก็รีบลุกขึ้นให้ "ขอบคุณค่ะ"มันทำให้พิกุลเห็นอีกมุมหนึ่งของคนที่พวกนางเคยมองผ่าน เพรา
รรินธรไม่คิดว่าป้าคนนี้คือแม่ของผู้ชายคนที่เธอเคยรักมาก ..สายตางามคู่นั้นมองจ้องหญิงวัยกลางคนที่โอบกอดลูกเธอไว้ไม่ยอมปล่อย เธอมองเห็นความโหยหาอาวรณ์ที่ย่าคนหนึ่งควรพึงมีต่อหลาน"พี่ริน" รรรรรรห่วงความรู้สึกของพี่สาวมาก ยิ่งตอนนี้พี่เริ่มมีน้ำตาคลอออกมาให้เห็นแล้วด้วย"ย่าขอกอดหนูรักไม่นาน แล้วย่าจะไปเอง" นางรู้ดีว่านางเคยทำไม่ถูก ถึงแม้จะถูกไล่ตะเพิดออกจากบ้านก็คงต้องยอมรับมัน"พี่มาเหนื่อยๆ พี่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ" รรินธรพูดกับน้องสาว ..ทุกคนต่างก็มองหน้ากัน ถึงแม้เธอจะบอกว่าไปอาบน้ำ แต่นั่นมันคือการเปิดทางให้ย่ากับหลานได้อยู่ด้วยกันน้ำฝักบัวค่อยๆ ไหลชโลมร่างระหงที่ยืนอยู่ใต้นั้น ไม่ใช่แค่น้ำฝักบัวยังมีน้ำตาของเธอที่ไหลผสมผสานกันไป ถ้าเธอกีดกันพวกเขาไม่ให้พบหลาน นั่นแสดงว่าเธอไม่ต่างจากพวกเขาเลย แต่การเปิดใจมันช่างยากยิ่งนัก เพราะพวกเขาไม่รู้เลยว่ากว่าเธอจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ จะเรียกว่าเลือดตาแทบกระเด็นยังน้อยไปพออาบน้ำเสร็จรรินธรก็ออกมาพิกุลเห็นว่าแม่ของรักนรินทร์ออกมาแล้ว นางก็เลยส่งหลานให้รรรรรรน้าสาว"วันหลังย่าขอมาเล่นกับหนูรักอีกได้ไหม"รรรรรรและคฑามองไปที่รรินธร เพราะทั้งสองไ
ใกล้เที่ยงวันเดียวกันนั้น.."ผมยังไม่มีคำสั่งเลยว่าให้เปิดรับผู้จัดการคนใหม่""คุณเลขาติดต่อลงมาค่ะ ว่าให้เปิดรับผู้จัดการคนใหม่" พอรรินธรแจ้งลงมาที่ฝ่ายบุคคล ก็เริ่มมีคนมาสมัครในตำแหน่งนี้หลายคน ผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็เลยจะให้ท่านประธานสัมภาษณ์งานด้วยตัวเอง เพราะตำแหน่งนี้มีแต่ท่านประธานเท่านั้นที่ตัดสินใจได้"เรื่องตำแหน่งผู้จัดการผมยังไม่รีบ""แต่ยังไม่มีใครดูงานนี้เลยนี่คะ""ก็ผมนี่ไง" ที่เขาอยากให้เธอรับตำแหน่งนี้ เพราะจะได้อยู่ใกล้กับเธอ ถ้าโปรเจคของกำจรจบไป เธอก็จะออกจากงาน ..นั่นแสดงว่า ทั้งสองต้องห่างกันอีกครั้ง ซึ่งเขาไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย สิ่งเดียวที่จะเหนี่ยวรั้งเธอไว้ได้ก็คืองาน.."งานอย่างนั้นเหรอ.." ชายหนุ่มก็เลยคิดอะไรขึ้นมาได้ นาทีนี้เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อที่จะรั้งเธอไว้ใกล้ตัวเย็นวันเดียวกัน..ขณะที่รรินธรลงมาข้างล่างเพื่อที่จะกลับบ้าน ก็เจอกับผู้จัดการฝ่ายบุคคลเข้าพอดีเธอเห็นผู้จัดการดูมีท่าทางไม่สบายใจก็เลยแวะถามไถ่"ก็เรื่องผู้จัดการใหญ่นั่นแหละค่ะ""แล้วคนที่มาสมัครงานวันนี้ล่ะคะ""ส่วนมากมีแต่คนจบใหม่ค่ะ ท่านประธานไม่ปลื้ม แต่ถ้าไม่มีใครทำตำแหน่งนี้ บริษัทก็
"คุณเป็นยังไงบ้าง""ผมไหวครับ" พอทานข้าวเสร็จ คริสก็บอกว่าเจ็บท้อง ทีแรกเธอคิดว่าเขาแกล้งเพื่ออยากจะค้างที่นี่ หญิงสาวก็เลยหาหมอนมาให้หนุนนอนที่ห้องโถงของบ้าน "โอ้วว" ชายหนุ่มพยายามอดกลั้นแต่ข้าศึกก็เริ่มบุก เขาก็เลยต้องได้รีบพาตัวเองเข้าห้องน้ำไปก่อนครั้งแรกผ่านไป..และครั้งที่สอง..และครั้งที่สามก็ตามมาติดๆ"คุณ..ไปหาหมอเถอะ" เขาออกจากห้องน้ำมาเธอก็เลยจะพาไปหาหมอ"ผมยังไหว" ชายหนุ่มร่างสูงค่อยๆ ก้าวเดินมาโซฟาตัวยาว พอจะหย่อนก้นลงนั่งเท่านั้นแหละ ข้าศึกก็บุกอีกครั้ง "โอ๊ววว" คริสต้องรีบเข้าห้องน้ำอย่างไวก๊อก ก๊อก "บอสคะ" รรินธรรีบไปขอความช่วยเหลือจากคฑา เพราะดูท่าทางแล้ว เขาคงจะไม่ไหวแน่"ครับ" คฑาเปิดประตูออกมา ส่วนรรรรรรหลับไปแล้ว และอีกห้องก็คงจะหลับไปแล้วเช่นกันเพราะเงียบมาก"ช่วยพาเขาไปหาหมอหน่อยสิคะ""เขาไหนครับ""คุณ..เออ..คุณคริสค่ะ""คริสเป็นอะไร" คฑาก็เลยออกมาแล้วค่อยๆ ปิดประตูห้องไว้ เพราะไม่อยากให้ภรรยาตื่น "เข้าห้องน้ำหลายครั้งแล้วค่ะ""กินไม่ได้ยังจะโชว์พาวเวอร์อีก" พอเห็นคริสออกมาจากห้องน้ำคฑาก็ตำหนิ"มึงมายุ่งอะไรด้วยวะ" คริสยืนทำตัวคดตัวงอ พร้อมที่จะกลับเข้าไปในห้อ
พอคฑาออกไปแล้ว ก็แจ้งกับรรินธรว่าคริสดูอาการไม่ค่อยปกติ เธอก็เลยรีบเข้ามาดู"คุณเป็นอะไรคะ""เปล่านี่ครับ..เออ..เป็นครับ" เผลอตอบความจริงไป แต่พอเห็นท่าทางที่เธอเป็นห่วง เป็นสักหน่อยดีกว่า"รินจะตามหมอให้นะคะ""ไม่ต้องหรอกครับ อาการแบบนี้หมอก็รักษาไม่ได้ นอกจากคุณ" มือหนาเอื้อมไปกุมมือของเธอแล้วก็จับเลื่อนมาวางลงที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง"คุณบีบี้ ..คุณคริส!!" เผลอไปเรียกชื่อนั้นทุกที"ผมอยากให้คุณเรียกเหมือนเดิม""อะไรคือเหมือนเดิมคะ สำหรับเรามันยังมีอะไรที่เหมือนเดิมอีกคะ""คุณไม่มีใคร ผมก็ไม่มีใครเหมือนกัน เรากลับมาคบกันอีกครั้งได้ไหม""ไม่ได้หรอกค่ะ" หญิงสาวรีบชักมือออกมาจากการเหนี่ยวรั้งของเขา "..ฉันจะเข้าบริษัท" แล้วเธอก็เดินออกมาจากห้องนั้น"วันนี้รินจะเข้าบริษัทนะคะ ฝากดูแล..เออ.." หึ.. เราเป็นอะไรกับเขา ถึงจะฝากญาติของเขาดูแล พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเธอก็เดินออกมา ลืมตัวไปว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย"เอ้าา..บีบี้.. แล้วนั่นนายจะไปไหน" คฑาเข้ามาก็เห็นคริสดึงสายน้ำเกลือออกแล้ว และกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า"จะไปทำงาน""คุณหมอยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเลย" พอทุกคนได้
"เกิดอะไรขึ้นครับ" คริสหยุดถามรรรรรรก่อนเมื่อได้ยินเธอทัก"ใครชื่อทับทิมคะ""ทับทิมทำไมหรือครับ""ก็เธอให้ข่าวว่าพี่สาวฉันแย่ง..""อะไรนะครับ?" ถึงแม้เธอจะพูดยังไม่จบ แต่คริสก็พอจะเดาออกแล้ว ว่าทับทิมต้องให้ข่าวอะไรสักอย่างแน่ ชายหนุ่มรีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข่าวดูพอเห็นข่าวแล้วเขาไม่รอช้า รีบเดินตรงเข้าไปในบ้านก๊อก ก๊อก"รินคุณเปิดประตูให้ผมหน่อยครับ""ฉันกำลังจะนอน""ผมไม่เชื่อ..ข่าวนั่นมันไม่ใช่ความจริงสักหน่อยคุณก็รู้""ฉันจะรู้ได้จากไหนล่ะคะ มันอาจจะเป็นความจริงก็ได้ ก็ฉันไม่ได้ไปอยู่ใต้เตียงของพวกคุณสักหน่อย""คุณเปิดประตูให้ผมก่อนสิ เราคุยกันดีๆ ก่อนไม่ได้หรือไง""ระหว่างเรา ไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันแล้วค่ะ คุณกลับไปหาแฟนของคุณเถอะ""ผมมีเมียอยู่แล้ว แล้วผมจะไปหาผู้หญิงคนอื่นอีกทำไม""คุณอย่าโกหกตัวเองอีกเลย เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว""คุณไม่ได้รักผมแล้วแน่นะ""ค่ะ.."คำว่า 'ค่ะ' คำเดียวมันทำให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงกับจุกอก ไปต่อไม่เป็นก๊อก ก๊อก "รันเองค่ะ""รัน?" รรินธรรีบมาเปิดประตูเมื่อไม่ใช่เสียงเขาที่เคาะ"คุณคริสไปแล้วค่ะ" แค่เห็นแววตาของพี่สาวก็รู้แล้ว"
"ใครบอกว่าคุณรินเป็นคนแย่งผมมาจากคุณ""ทำไมต้องให้มีใครบอกด้วยล่ะคะ ก็ในเมื่อฉันคบกับคุณมาก่อน ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทเลยด้วยซ้ำ แต่พอเธอคนนี้เข้ามาได้แค่ไม่ถึงเดือน คุณก็สร้างเรื่องบริษัทล้มละลายขึ้นมา""เดี๋ยวนะครับคุณทับทิม เรื่องบริษัทล้มละลายผมพึ่งจะได้ยินจากปากคุณนี้แหละ""ใช่เรื่องนี้เราสามารถฟ้องหมิ่นประมาทคุณได้นะคะ" ทันใดนั้นก็มีอีกหนึ่งเสียงพูดแทรกขึ้นมา "ป้ามายุ่งอะไรกับเรื่องนี้ด้วย" ทับทิมกำลังโมโหอยู่แล้วก็เลยหันไปตะคอก เพราะคนที่พูดก็คือป้าคนที่มาขอเงินไปกินข้าววันนั้น"คุณพูดอะไร!" และมันก็สร้างความไม่พอใจให้กับคริสมาก เพราะนั่นคือแม่ของเขา "ดูอย่างป้าคนนี้สิคะ ผู้หญิงคนนี้ก็จัดฉากขึ้นมาทำเป็นคนดี รับป้าเร่ร่อนที่ไหนไม่รู้บอกว่าเป็นญาติ" ทับทิมยังคงเอ่ยพูดต่อเพื่อให้นักข่าวได้เห็นว่ารรินธรหน้าด้านแค่ไหน ทำทุกอย่างเพื่อจะแย่งคริสไปจากเธอ"ป้าเรร่อนอย่างนั้นเหรอ คนนี้คือแม่ของผมท่านจะเรร่อนได้ยังไง" "แม่??!!" ได้ยินแบบนั้นทับทิมแทบเข่าทรุด "จะเป็นแม่ของคริสได้ยังไง วันนั้นป้ายังมาขอเงิน 50 บาทไปกินข้าวอยู่เลย"นี่แหละที่พิกุลยังนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพราะอยากจะให้คนอ
ดึกๆ ของคืนเดียวกันนั้น คริสรีบพารรินธรกลับมาส่งที่บ้านเมื่อเธอบอกว่าอยากจะกลับบ้านแล้ว"ผมจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าน้องสาวคุณจะกลับ" ชายหนุ่มอุ้มลูกมาวางลงที่เตียงนอน เพราะรักนรินทร์หลับตอนที่นั่งรถกลับมา แล้วเขาก็ถอยออกมาเล็กน้อย เพื่อให้เธอสบายใจ"ค่ะ" รรินธรตอบออกไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย"คืนนี้คุณสวยมากเลยนะ" เขาอยากจะพูดแบบนี้ตั้งแต่อยู่ในงานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที"ขอบคุณค่ะ" ใบหน้าของเธอยังคงเหมือนเดิม และสายตานั้นก็ไม่ได้มองไปที่เขาเลย"คุณเป็นอะไร" ชายหนุ่มสัมผัสถึงพลังงานบางอย่าง"คุณบอกจะรีบกลับไม่ใช่หรือคะ ไม่ต้องรอน้องสาวฉันหรอก ถ้ารีบก็กลับไปเถอะค่ะ""ผมไม่ได้บอกว่ารีบสักหน่อย""ก็เมื่อกี้ไง คุณยังบอกอยู่เลยว่าจะกลับ""คุณอยากให้ผมอยู่ต่อไหม" ดวงตาคมมองใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้ มือหนาเอื้อมมาลูบผมของเธอเบาๆ "ขอแค่คุณพูดมาคำเดียว ผมก็พร้อมที่จะไม่ไปไหน" เขาเป็นห่วงความรู้สึกของเธอมาก ใจจริงแล้วเขาไม่อยากจะไปไหนเลยด้วยซ้ำ แต่กลัวว่าเธอจะไม่พอใจถ้าเขาขอค้างที่นี่รรินธรทำแค่พยักหน้าเบาๆ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่มันก็ยังคงบึ้งตึงอยู่"คุณอนุญาตให้ผมอยู่ที่นี่ต่อได้เหรอ" แค
"คุณทำอะไรคะ" กัลยาเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกับเตียงสักอย่าง"ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณจะอาบน้ำอีกไหม""อาบก่อนที่จะมาแล้วนี่คะ""ครับ..ถ้างั้นก็มานอนกันดีกว่า" ขยับเตียงเสร็จ สันติก็จัดการกับผ้าปูที่นอน เพราะดูเหมือนจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร"คุณขยับออกไปนิดหนึ่งก็ได้ค่ะ" นอนได้สักพัก หญิงสาวก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ก็เลยบอกให้สามีขยับออกห่างเธอหน่อย"คุณอึดอัดที่ผมกอดเหรอ""เปล่าสักหน่อย""แล้วทำไมให้ขยับล่ะ""ก็ฉันกลัวจะอด..เออ" กัลยาคิดว่ามันเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเธอหรือเปล่า พอได้กลิ่นกายของสามีใกล้ๆ ก็เริ่มมีอารมณ์ ซึ่งแต่ก่อนเขาจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เป็นไร"คุณก็พูดให้จบสิผมจะได้รู้""ฉันเป็นผู้หญิง""ผู้หญิง?? คุณอยากอีกแล้วเหรอ" เขาพูดแทนในสิ่งที่ผู้หญิงคงไม่กล้าพูดกัลยาอายมากจนเอาใบหน้าซุกเข้าไปกับแผ่นอกของสามี โชคดีที่หมอไม่ได้ห้ามเรื่องอย่างว่า เพราะเรื่องนี้สันติแอบถามมาแล้วตึก! ตึก! ตึก!!"เราทดลองดีแล้วไม่ใช่หรือพ่อ""ปล่อยมันไปเถอะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ช่างมาต่อเติมห้องข้างล่าง""ต่อเติมห้องข้างล่างทำไม""เราจะย้ายลงไปนอนข้างล่างกัน"วันต่อมา..ที่โรงแรมกัลยา"คุณสันติ!" อิฐ
เย็นวันเดียวกัน พอได้รับข่าวดี อัญชัญก็เลยให้คนจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองเล็กๆ ในบ้าน กัลยาและสามีก็เลยต้องได้ค้างที่บ้านหลังนี้แต่อัญชัญก็ไม่ได้คิดว่าจะเลี้ยงแค่นี้ เพราะมันเป็นความยินดีที่สุดในครอบครัว จึงอยากจะป่าวประกาศให้คนในสังคมได้รับรู้ด้วย ก็เลยคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอีกครั้ง"พี่สุดยอดมากเลยนะ" ขณะที่คฑาและคริสได้อยู่ตามลำพังกับสันติ ทั้งสองถึงกับยกนิ้วโป้งให้ จากเปอร์เซ็นต์ที่มีน้อยมาก แทบจะไม่มีเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ แต่สันติก็ทำมันสำเร็จสันติไม่เอ่ยพูดอะไรได้แค่อมยิ้มเล็กน้อย ในความเก่งของตัวเอง"หยุดเลยนะคะ" รรรรรรรีบห้ามกัลยา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะอุ้มรชต"ทำไม""เดี๋ยวพี่สันติก็มาเล่นงานอีก""เขาบ้าเห่อไปงั้นแหละ""แม่ก็ว่าอย่าเพิ่งอุ้มหลานเลย เรายิ่งมีลูกยากอยู่""ค่ะ" กัลยาก็เลยเชื่อฟัง ได้แค่นั่งหยอกรชตตอนที่คนอื่นอุ้มในเวลาเดียวกันนั้น และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ที่บ้านของสันติ"สงสัยวันนี้จะไม่กลับมานอนบ้าน" เศรษฐาพูดเปรยกับภรรยาขณะที่กำลังเดินขึ้นบ้าน เพราะเพิ่งจะปิดร้าน"คงใช่" เพราะถ้าลูกชายจะมานอนค้างที่บ้านก็คงกลับมาแล้ว"แม่.."สินีหยุดแล้วหันกลับมามอ
เช้าในวันต่อมา..วันนี้เป็นวันหยุดของผู้บริหาร ส่วนพนักงานโรงแรมจะผลัดเปลี่ยนกันทำงาน เพราะโรงแรมต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง"อึก..อึก.." ตื่นขึ้นมากัลยาก็อยากจะอาเจียน แต่เธอต้องพยายามกลั้นไว้ ทีแรกว่าจะบอกเขาเรื่องท้องตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่พอปล่อยเวลาให้ผ่านไป เธอก็เลยไม่รู้จะเริ่มต้นบอกกับเขายังไง"คุณเป็นอะไร""เปล่าค่ะ""อยากจะอาเจียนใช่ไหม"หญิงสาวพยักหน้าบอกทันที สันติรีบปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ..พอเป็นอิสระเท่านั้นแหละ กัลยาก็รีบตรงเข้าไปในห้องน้ำชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเข้าไปลูบหลังให้ พอเธอสบายท้องแล้วเขาก็กดน้ำลงให้"ดีขึ้นไหม""เวียนหัว" วันนี้รู้สึกว่าจะมีอาการเวียนหัวเพิ่มขึ้นมา"ไปหาหมอกัน""ไม่ค่ะ""ทำไม""ก็ฉันรู้อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไร" ยังไงต้องได้บอกเขาอยู่แล้ว ถ้างั้นก็บอกวันนี้เลยแล้วกัน"ผมก็รู้""คะ??""คุณรู้ไหมว่าผมรอว่าเมื่อไรคุณจะบอกผม""คุณหมายความว่ายังไง" กัลยาลองถามดู ว่าที่เขาพูดหมายถึงเรื่องเธอท้องไหม หรือพูดคนละเรื่อง"ผมก็แอบน้อยใจ เมื่อไรคุณจะบอกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเราสองคนสักที แต่คุณก็ไม่พูด""คุณรู้แล้วหรือคะ""ผมคงเป็นพ่อที่ไม่ดีมากเลยใช่ไหม คุณ
"คุณอยากกินเหรอ" เข้าทางสันติเลย เพราะคิดอยู่ว่าจะเอาของเปรี้ยวมาล่อเธอตอนไหนดี"เปล่าสักหน่อย ฉันแค่มองดูว่าทำไมถึงมีของแบบนั้นอยู่ในห้องอาหาร" เพราะอาหารพวกนี้มันเป็นอาหารเฉพาะ และถ้ามีใครแอบเอาอาหารข้างนอกเข้ามากิน ก็จะถูกทำโทษ เพราะกลัวว่าจะขัดต่อมาตรฐานอาหารของโรงแรม"น้ำเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ" วิลาวัลย์รีบเดินกลับมาเพื่อส่งซิกให้กับน้ำใจน้ำใจก็รีบเก็บมันไว้ โชคดีที่เป็นมะม่วงสด ถ้าเป็นของดองยิ่งจะถูกเล่นงานหนัก เพราะกลิ่นมันแรง"ฉันก็ลืมดูต้นทางให้แก แล้วนี่แกเป็นอะไรทำไมถึงอยากจะกินของเปรี้ยวๆ แบบนี้แต่เช้าจัง" ธัญญ่าเข้ามายืนบังเพื่อนไว้ในขณะที่กำลังเก็บของกินอยู่"ไม่รู้..สงสัยจะเป็นประจำเดือนมั้ง อยากกินแบบนี้มาหลายวันแล้ว""ทานข้าวหน่อยสิ" สันติตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้กับกัลยาแต่เธอก็ยังมีท่าทางพะอืดพะอม เขาก็เลยเอายาดมที่ติดตัวมาด้วยส่งให้"คุณมีของแบบนี้ได้ยังไง" กัลยาถามสามี เพราะไม่เคยเห็นเขาดมยาสักที แล้วจะติดตัวมาทำไม"ผมเห็นใครวางไว้ที่บ้านไม่รู้ ก็เลยหยิบติดมาด้วย"พอได้ดมยาเข้าไปแล้ว กัลยาก็พอจะทานอาหารได้บ้าง แต่ก็ทั้งทานและทั้งดมยาไปด้วยสายๆ ของวันเดียวกัน.."อะไร
"หนูเป็นอะไร" สินีรีบวางของที่กำลังทำอยู่ เดินตามลูกสะใภ้เข้าไปในห้องน้ำ"คุณแม่อย่าเข้ามาค่ะ" คุยกับแม่สามียังไม่ขาดคำเธอก็ต้องได้หันกลับไปคุยกับคอห่านอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรจะออกมา เพราะเพิ่งจะตื่นก็เลยยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"ดมยาหน่อยนะ" แม่ของสามีไปเอายาดมที่เตรียมไว้ขายออกมาให้ลูกสะใภ้"ขอบคุณค่ะ" พอเธอเอามาใส่จมูกแล้วสูดดม ก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ อาการพะอืดพะอมก็หายไป"หนูเป็นอะไร""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ กัลขอตัวก่อนนะคะจะรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน" ที่ไม่อยากจะอยู่นาน เพราะยังอายเรื่องเมื่อคืนนี้อยู่มาก"แล้วตาสันติล่ะ""คุณสันติยังไม่ตื่นค่ะ"สินีก็เลยไม่พูดต่อ เมื่อคืนนี้นางรู้ดีว่ากว่าลูกชายจะได้หลับได้นอน เพราะพ่อกับแม่ก็ได้นอนพร้อมกันนั่นแหละ.."กลิ่นหอมมาแต่ไกลเลยค่ะคุณป้า" จังหวะที่กัลยากำลังจะเดินออกประตู ก็เจอเข้ากับอ้อมเด็กข้างบ้าน "นี่?!" และอ้อมถึงกับชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร"หนูอ้อมมาแต่เช้ามีอะไร" แม่ของสันติถามไปแบบเกรงใจลูกสะใภ้"อ้อมอยากจะมาฝากท้องค่ะ วันนี้แม่ไม่อยู่บ้าน" อ้อมพูดในขณะที่มองตามหลังกัลยาออกไปแบบไม่พอใจตุ๊บ! เสียงกัลยาปิดประตูรถ เธอเลือกที่จะไม่
"ฉันนอนข้างในก็ได้ค่ะ" หญิงสาวเริ่มพูดเสียงเบาลง เมื่อสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่มันเริ่มขยายตัวขึ้นมา"ไม่ทันแล้ว" สันติจับร่างของเธอให้นอนลงข้างล่าง แล้วดันตัวเองขึ้นคร่อมเธอไว้ จมูกคมสันโน้มลงไปไซ้ซอกคอระหงและสูดดมกลิ่นกายของเธอแบบโหยหาและอาวรณ์ เขาคิดว่าจะไม่มีวันนี้อีกแล้ว"อย่าทำแรงนะคะ" กัลยาไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวจะมีผลกระทบกับลูกเพราะรู้ดีเวลาที่เขากระแทก ไม่ค่อยชอบเก็บแรงไว้เท่าไรที่กัลยายังไม่บอกเรื่องท้อง เพราะถ้าบอกไปแล้วกลัวเขาจะคิดว่าที่เธอวิ่งมาหาเพราะกลัวว่าลูกจะไม่มีพ่อ"ไหนบอกสบายดีแล้วไง ทำไมถึงไม่ให้ทำแรง" วันนั้นที่เขายับยั้งก็เพราะได้ยินอิฐบอกว่าเธอไม่สบาย"ก็กลัวพ่อกับแม่ที่นอนอยู่ข้างห้องจะได้ยินไงคะ" หญิงสาวรีบหาข้ออ้างมาพูดแต่สันติไม่รับปาก เขาจัดการกับเสื้อผ้าของเธอออกแบบรวดเร็ว พอทั้งสองไม่มีอะไรปิดบังแล้ว ชายหนุ่มก็เลื่อนตัวลงมาที่ใต้หว่างขาหญิงสาวค่อยๆ แยกขาออกแบบรู้งาน เพราะเธอชอบมากเวลาที่เขาลงลิ้นให้ แต่ก็นานๆ ครั้ง เหมือนอย่างที่เคยพูดนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปตามควายที่ไหน"อ๊อย..คุณสันติ.." กัลยาเริ่มครวญครางเมื่อถูกลิ้นตวัดแร
"คุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ?" คำพูดที่เขาเพิ่งจะพูดไป มันตีความหมายได้ไม่หลายอย่างหรอก เพราะในเมื่อเขาบอกเธอไปหาหมอจะได้มีทางรักษา..นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่"คุณไม่สบายไม่ใช่เหรอ" วันนั้นที่ร่วมทานอาหารด้วยกัน รวมทั้งที่เธอมีอาการแปลกๆ ซึ่งตั้งแต่อยู่กินกันมาไม่เคยเห็นเธอมีอาการแบบนั้นเลย"คุณไปได้ยินมาจากไหนว่าฉันไม่สบาย""ก็.." สันติกำลังจะพูด แต่เขาก็ต้องได้เก็บคำพูดไว้ก่อน "ตกลงคุณ??""คุณคงเข้าใจผิดอะไรไปแล้วล่ะ ตั้งแต่ฉันอยู่กับคุณมาฉันไม่เคยสบายขนาดนี้มาก่อน ถ้าคุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วจะเข้ามาทำดีด้วย..ก็ไม่ต้อง""หึ" เขาคงจะถูกอิฐหลอก เพื่อที่จะให้มาดูแลเธอ เพราะอิฐรู้จุดอ่อนของเขาดี ว่ารักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน "ถ้างั้นผมก็ขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด และผมดีใจด้วยนะครับที่คุณสบายดี แถมสบายกว่าตอนที่มีผมอยู่ด้วยอีกต่างหาก"จบประโยคคำพูดเขาก็หันหลังให้แล้วเดินออกมาสันติไม่ได้เดินไปทางที่มีประตูเชื่อมต่อกัน แต่เขาออกมาประตูหน้า แล้วก็ตรงไปที่ลิฟต์ โดยที่ไม่ได้สนใจจะไปหยิบเอาของในห้องทำงานเลยพอประตูห้องปิดลง ร่างของกัลยาก็ทรุดลงกับพื้น นี่เธอพูดอะไรออกไป เธอพูดไปได้ย
"ผมเป็นคนชลอเรื่องนี้ไว้เอง" พอทนายจากไปแล้วเขาถึงได้หันมาพูดกับเธอ"คุณทำไปเพื่ออะไร""ช่วงนี้เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องหย่ากันเลยได้ไหม""ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณบอกเหตุผลฉันมา""เหตุผล?" ชายหนุ่มมองดูแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอ "ก็เรื่องโปรเจคไง ผมสัญญากับผู้ร่วมหุ้นคนอื่นไว้แล้วว่าจะดูงานเอง"จุก.. จุกมากเมื่อได้ยินเหตุผลของเขา ที่อยู่ต่อเพราะเรื่องงานอย่างนั้นเหรอ"ถ้าเพราะเรื่องนี้ ถึงแม้เราจะหย่ากันแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ คุณจะดูแลโครงการนี้ก็คงไม่มีใครว่า" กัลยาพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้เขาไม่อยากจะหย่าเพราะความสงสารเด็ดขาด"ดูเหมือนคุณอยากจะหย่ามากเลยนะ" สันติอดคิดไม่ได้ เพราะสองสามวันมานี้ได้ยินแต่เธอพูดเรื่องนี้"ค่ะ ฉันอยากจะเซ็นต์วันนี้เลยด้วยซ้ำ"ชายหนุ่มหันกลับไปทางห้องของตัวเอง เพื่อสะกดอารมณ์ "เสียใจด้วย เผอิญว่าผมยังไม่อยากจะหย่า""คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก" ถ้าเหตุผลในการชะลอเรื่องหย่าไว้มีแค่นี้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะชะลอเหมือนเขานี่ รีบหย่ารีบจบกันไป"ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เดี๋ยวคุณเครียดมากไปกว่านี้""เครียด?!" หญิงสาวรี
นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้นอนกอดเรา เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ไม่อยากจะหย่า..หรือว่าอยากจะหย่ามาก กลัวว่าเราไม่เซ็นต์ให้เหรอในเมื่อจะหย่ากันอยู่แล้ว จะกลับมาอีกทำไม คิดเองก็น้อยใจเอง หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดสามีในเวลานี้ ค่อยๆ ขยับกายเพื่อนอนตะแคงหันหลังให้ เพราะจะบังคับตัวเองให้หลับไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว"??" แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ใบหน้าหล่อคมของสามีก็ค่อยๆ ซุกซอกคอด้านหลังเขาสูดดมกลิ่นกายของเธอ แล้วค่อยๆ ขยับริมฝีปากแนบจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบหันมองกลับไป ..ร่วมเดือนแล้วมั้งที่ไม่ได้สัมผัสกันใกล้ชิดแบบนี้"ผมขอโทษที่ไม่ได้ดูแลคุณ" ใบหน้าของเขาและคำพูดเหมือนสำนึกผิด"คุณหมายความว่ายังไง" หรือเขาจะรู้ว่าเราท้องแล้ว? คนแรกที่กัลยาคิดถึงคืออิฐ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้จากคุณหมอ"นอนนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้ว""??" คุณสันติเนี่ยนะ จะมาบอกให้เราไม่ต้องคิดอะไรมากก่อนนอน ..เพราะทุกครั้งกลับเข้าห้องคือเขาหลับปุ๋ยไปก่อนแล้ว นอกจากวันไหนที่เขาต้องการ ถึงจะรอทำเรื่องอย่างว่าจนเสร็จ แล้วก็นอนหันหลังให้ โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะยังค้างอยู่ไหมกัลยาก็เลยเลือกที่จะหันหลัง