แชร์

บทที่ 52

ผู้เขียน: ชะนีติดมันส์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-05 09:35:49

คืนเดียวกันนั้น..

อัญชัญนอนไม่หลับจนต้องได้พึ่งยา กัลยาคิดว่าที่แม่นอนไม่หลับเพราะยังกลัวเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ..วันนี้เธอก็เลยมานอนเป็นเพื่อนแม่

"เธอทำแบบนี้ทำไม"

"แม่คะ?"

"ฉันถามว่าเธอทำแบบนี้ทำไม!"

"แม่.. ตื่นสิคะแม่" กัลยานอนยังไม่หลับเลยด้วยซ้ำ ก็ได้ยินเสียงแม่ละเมอออกมา แต่คงเพราะฤทธิ์ยาปลุกยังไงนางก็ไม่ตื่น

ส่วนลูกสาวไม่เป็นอันหลับอันนอน มัวแต่ดูอาการของแม่จนถึงเช้า อัญชัญถึงได้ตื่นขึ้นมา

"แม่เป็นยังไงบ้างคะ"

"ฉันจะเป็นอะไร"

"เมื่อคืนนี้ได้ยินแม่ละเมอ"

"ละเมอว่าอะไร!" อัญชัญชักจะตกใจ เพราะกลัวเผลอพูดเรื่องที่ตัวเองทำผิดออกมา

"แม่พูดว่าเธอทำแบบนี้ทำไม 2-3 ครั้งเลย มันคืออะไรคะ" ทุกคนไม่รู้ว่าที่รรรรรรถูกตบด้วยด้ามปืน เพราะช่วยแม่ของเขา และไม่มีคนเอ่ยพูดคำนั้นออกมาสักคนแม้แต่แม่บ้าน

"จะถามอะไรนักหนา" ว่าแล้วนางก็เดินลงมาข้างล่าง กัลยาเดินตามแม่มาติดๆ

"คุณจะออกไปทำงานแล้วหรือคะ" พอลงมาเห็นสามีเตรียมตัวออกจากบ้านพอดี

"ใช่ครับ"

"จะรีบไปทำงานหรือรีบไปหาใครล่ะ" นางพูดเหมือนไม่จริงจังนักแต่มันก็ทำให้กัลยามองหน้าสามี

"ผมไปทำงานนะครับ" ว่าแล้วสันติก็ออกจากบ้าน เขาพยายามจะอดทนอีกสัก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
อิ๋วไง จะใครล่ะ
สนุกมาก ชอบที่พระนางฉลาดและไม่งี่เง่าเกินไป แม้บางครั้งต้องเผชิญกับความลำบากในการตัดสินใจ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 53

    ก๊อก ก๊อก "แม่ครับ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเปิดประตูเข้ามาในห้อง "ลงไปข้างล่างกันครับแม่" เข้ามาถึงก็เห็นแม่นั่งอยู่บนเตียงนอน"แม่ไม่ไป" นางเห็นตั้งแต่รถวิ่งเข้ามาแล้วว่ามีรถตำรวจด้วย มันไม่ชอบมาพากลแล้ว"ทางตำรวจจับโจรพวกนั้นได้แล้วครับ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองดูสีหน้าของแม่ว่าจะตกใจไหม"จับได้แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ล่ะ""แม่ครับ" หน้าที่ลูกเขาคงทำได้แค่นี้ ต่อไปคงเป็นหน้าที่ของความยุติธรรม "แม่ลงไปคุยกับตำรวจหน่อยนะครับ ถ้าแม่ไม่ได้ทำก็บอกพวกเขาไปตามตรง"สิ่งที่คฑากลัวมากที่สุดก็คือกลัวแม่คิดสั้น ..แต่นางก็ยอมเดินตามลูกชายลงมาข้างล่างตอนนี้ทุกคนนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก รวมทั้งกัลยาที่เพิ่งจะกลับมาถึง เพราะน้องชายได้ส่งข้อความไปให้กลับมาที่บ้าน"ฉันไม่ได้ทำ" นางยืนยันคำเดิม พร้อมกับนั่งลงที่โซฟา เหมือนไม่สะทกสะท้านอะไรเลย แต่นางก็พูดออกมาก่อนที่ตำรวจจะถาม มันยิ่งมีพิรุธออกมาให้ทุกคนเห็น"เราขอสอบปากคำทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น" ตำรวจหันไปมองป้าแม่บ้านและรรรรรร "ผู้ต้องหาบอกว่า ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นพยานได้หมด เพราะว่านางเป็นคนพูดออกมาเองกับปาก"คฑาและกัลยาต่างก็มองหน้ากัน แต่พอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 54

    "คุณกำลังคิดอะไรอยู่" คฑาเห็นว่าเธอเงียบแต่ก็ไม่ได้หลับ ใบหน้าคมผงกมองต่ำลงมา"ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย" ตอบเขาออกไปเพียงแค่เบาๆ"ถ้าคุณเป็นกังวลเรื่องแม่ ก็ไม่ต้องคิดแล้วนะ" ได้ยินคำพูดของแม่ก่อนที่จะขึ้นมา ก็รู้แล้วว่าท่านคงจะไม่มีอคติกับเธออีกแล้ว เพราะลูกสะใภ้แบบนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก"ค่ะ" รรรรรรตอบออกไปแบบน้อยใจ เขาจะรู้ไหมว่าเราต้องการอะไร ก็ในเมื่อเขาไม่ได้คิดแบบนั้นกับเรา เขาจะพูดออกมาได้ยังไง ..หญิงสาวก็เลยถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่"ไหนบอกไม่คิดอะไรไง" จากที่ให้เธอนอนหนุนแขนเขาก็จับเธอหนุนไว้ที่หมอน แล้วคนตัวโตก็ยันกายขึ้นคร่อมร่างระหงไว้ "บอกผมได้ไหมว่าคุณคิดอะไรอยู่" คฑากลัวว่าเธอยังน้อยใจเรื่องแม่อยู่ก็เลยอยากจะเคลียร์ให้รู้เรื่อง"ถ้าฉันคลอดลูกแล้ว และถ้าคุณมีผู้หญิงที่คุณคิดว่า..รักเธอ..ฉันก็จะยอมไป" ถึงแม้เธอจะมีความน้อยใจอยู่บ้าง แต่ต้องพูดให้เข้าใจกันก่อน เพราะคิดว่าสักวันเขาต้องเจอคนที่ใช่ และถ้าถึงวันนั้นเธอก็จะยอมถอยออกมา"ผมไม่มีวันปล่อยคุณไป""แต่คุณไม่ได้รักฉัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นสำหรับเรามันเป็นแค่ความบังเอิญ" จะไม่เรียกว่าบังเอิญได้ยังไง เขาเองไม่ใช่เหรอที่ดึงเธอเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 55

    "เธอทำไปเพื่ออะไร" นางเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเปิดใจให้ใครที่เป็นแบบนี้เพราะความมั่งมี ..หลายคนอาจจะคิดว่ามันเกี่ยวกับความรวยตรงไหน เพราะนางกลัวว่าคนที่เข้ามาจะหวังแค่เงินทองหรือทรัพย์สมบัติที่นางมีอยู่ ก็เลยไม่คิดว่าพวกเขาหรือเธอจะมีใจรักลูกของนางจริง นอกเสียจากว่าสะใภ้หรือเขยคนนั้นจะฐานะเท่าเทียมกันบททดสอบของแต่ละคนถึงได้หนักหนานัก และตอนนี้บททดสอบของสะใภ้ ถือว่าเริ่มเข้าตานางแล้ว"ทำไปเพราะรักค่ะ รันรักลูกชายของคุณ..." เธอไม่กล้าเรียกอัญชัญว่าแม่ ก็เลยใช้คำว่าคุณแทน"ถ้าคฑาไม่มีอะไรติดตัวเลยแม้แต่บาทเดียว เธอยังจะรักเขาไหม""ไม่มีก็ไม่เห็นเป็นไรนี่คะ ในเมื่อเขายังมีสองมือสองเท้า ฉันก็มีเหมือนกัน เราสามารถที่จะสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้""เธอก็พูดได้สิ เพราะฉันมีลูกชายแค่คนเดียว ยังไงบริษัทก็ต้องเป็นของเขาอยู่แล้ว""คุณมีคนบริหารบริษัทแทนสามีรันไหมล่ะคะ ถ้ามีรันจะชวนสามีของรันไปเอง""นี่เธอ!" มันอาจจะเป็นท่าทางอวดดีจองหอง แต่มันกลับโดนใจของอัญชัญเข้าอย่างจัง แต่ถ้าจะสิ้นสุดบททดสอบแค่นี้มันก็ไม่ใช่นางแล้ว "โอ๊ยย..ปวดหัว" หญิงวัยกลางคนอยู่ดีๆ ก็ทรุดลง จนรรรรรรต้องรีบเข้ามารับร่างของนางไว้แต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 56

    "หนูรักดื่มนมกันดีกว่าค่ะลูก" รรินธรเปิดที่ปิดจุกนมแล้วก็ส่งใส่ปากของรักนรินทร์"ชื่อรักเหรอ" อัญชัญยังคงมองดูเด็กไม่ยอมวาง"ใช่ค่ะชื่อรัก..รักนรินทร์""เข้าใจตั้งชื่อดีนิ" ที่นางพูดแบบนี้เพราะรู้ดีว่าชื่อแม่ของเด็กชื่ออะไร และชื่อน้าของเด็กชื่ออะไร มันก็เลยดูคล้องจองกันไปหมด"น้าของหนูรักเป็นคนตั้งให้ค่ะ""น้า?""ใช่ค่ะยัยรันตั้งชื่อให้หลาน ตอนนั้นรินยังไม่ฟื้น""ยังไม่ฟื้น?" ประโยคนี้อัญชัญมองดูคนที่เป็นแม่ของเด็กแบบสงสัย"รินเกิดอุบัติเหตุค่ะ ก็เลยต้องได้ผ่าคลอดด่วน"ในขณะที่รรินธรกำลังเล่า น้องสาวก็ได้ลงมาพอดี"ลงมาทำไม อยากได้อะไรก็บอกพี่สิ"สายตาอัญชัญจ้องมองรรินธรไม่ยอมละไปไหน"รินไม่เห็นพี่อยู่บนห้องก็เลยลงมาดูเฉยๆ ค่ะ""พี่พาหนูรักลงมาเดินเล่นก็เลยคุยกับคุณ.." รรินธรก็ไม่รู้ว่าจะเรียกแม่ของบอสยังไงดี ตอนที่เป็นเลขาอยู่เธอเรียกว่าคุณแม่ของท่านประธาน"จะกลัวอะไรฉันนักหนาทั้งพี่ทั้งน้อง ฉันแก่ขนาดนี้แล้วถ้าไม่เรียกแม่ก็เรียกป้าไปเถอะ" ว่าแล้วนางก็ลุกเดินหนีจากตรงนั้น พี่กับน้องทำได้แค่มองหน้ากัน ดูเหมือนว่านางอยากจะคุยด้วยแต่ไม่รู้ว่าจะคุยยังไง[บริษัท]>>{"ไม่ต้องรับ"} คฑาพูดกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 57

    เวลาได้ผ่านล่วงเลยมาตอนนี้รักนรินทร์อายุครบ 6 เดือนแล้ว และแน่นอนว่าเด็กในท้องของรรรรรรก็อายุครรภ์ 6 เดือนเช่นกัน"จะเดินจะเหินอะไรก็ระวังหน่อย ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องลงมา อยากได้อะไรก็โทรลงมาบอกแม่บ้าน" อัญชัญเห็นลูกสะใภ้เดินลงมาชั้นล่างก็รีบเดินเข้าไปรอรับ"รันอยากจะเดินบ้างค่ะ" ตอนนี้รรรรรรแทบจะไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว ถึงแม้นางจะพูดไม่ค่อยเพราะ แต่ทุกคำพูดเธอก็ดูออกว่านางเป็นห่วง"ย้ายลงมาอยู่ห้องข้างล่างดีกว่า ขึ้นลงบ่อยๆ ไม่ดีหรอก" ขณะที่นางกำลังพูดกับลูกสะใภ้อยู่นั้น พี่สาวของเธอก็เดินออกมาจากในครัว"อยากได้อะไรเหรอ ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ" ประโยคเดียวกันเป๊ะเลยกับแม่สามี"รันอยากจะเดินยืดเส้นยืดสายบ้างค่ะ แล้วตอนนี้หนูรักอยู่ไหนคะ""นอนหลับแล้ว" รรินธรเป็นอีกคนที่ไม่ค่อยได้เหนื่อยกับลูกสาวมากนัก เพราะว่าตอนนี้อัญชัญหาพี่เลี้ยงเด็กมาช่วย ทีแรกรรินธรไม่อยากจะรับ เพราะตัวเองไม่ใช่คนในครอบครัวนี้ แต่นางให้เหตุผลว่า ให้พี่เลี้ยงเด็กฝึกงานไว้รอเลี้ยงลูกของคฑา"พี่อยากจะกลับไปทำงานแล้ว" ตอนนี้รรินธรรักษาตัวหายดีแล้ว และลูกก็มีคนช่วยดูแลแทน น้องสาวก็อยู่ที่นี่ด้วย เธอเริ่มจะเกรงใจเจ้าของบ้านมากขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 58

    รถคันสวยได้วิ่งมาจอดที่ลานจอดรถของบริษัท รถที่บ้านหลังนั้นมีหลายคันมาก เธอก็เลยเลือกรุ่นเก่าหน่อยเอามาใช้ แต่ก็ยังราคาแพงอยู่ดีหญิงสาวก้าวลงจากรถแล้วเดินตรงเข้าไปในบริษัท"สวัสดีค่ะดิฉันมาทำงาน""คุณใช่ไหมคะที่จะมาทำงานเลขา" คำพูดของพนักงานด้านหน้าเหมือนกับถูกบังคับให้พูดกับเธอ"ใช่ค่ะ""เชิญขึ้นไปชั้น 5 เลยค่ะ" ชั้น 5 คือชั้นที่สูงสุดแล้ว บริษัทนี้มีไม่หลายชั้นนัก แต่จะเน้นกว้างเพราะมีโซนของโรงงานที่อยู่ด้านหลังรรินธรก็เลยทำตามโดยการมาขึ้นลิฟต์"ลิฟต์เสียเหรอ?" หญิงสาวกดขึ้นแต่ไม่มีไฟสัญญาณใดๆ ออกมา และลิฟต์ก็ไม่เปิดสักที"บางครั้งก็เป็นแบบนี้ล่ะคะ คุณคงต้องได้เดินขึ้นไปเองแล้วแหละ" พนักงานคนเดิมเดินมาบอก"ค่ะ" เธอก็เลยจำเป็นต้องใช้บันได เดินขึ้นมาจนถึงชั้นบน พอมาถึงก็เห็นพนักงานคนอื่นใช้ลิฟต์ปกติ"วันแรกก็เจอแล้วหรือเรา" เธอเจอมาทุกรูปแบบแล้วกว่าจะถึงวันนี้ แต่ก็ไม่คิดจะถอยหรอกรรินธรเดินตรงไปที่ที่คิดว่าเป็นโต๊ะของเลขา"??" รรินธรเห็นโพสอิทที่เขียนติดไว้ ถึงกับงงว่าเขาเขียนไว้ให้ใคร เพราะข้อความนั้น เหมือนกับสาปแช่งคนที่จะต้องได้มาใช้โต๊ะตัวนี้ต่อหญิงสาวก็คิดไปในทางที่ดี เธอดึงก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 59

    "คริสงั้นเหรอ.. เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนหน้าเหมือนกันขนาดนี้ เขาเปลี่ยนชื่อเหรอ.." ได้แต่คุยกับตัวเอง แต่ดวงตานั้นมองจ้องไปที่ลูกสาว ..ทำไมหนูถึงเลือกที่จะหน้าเหมือนพ่อ "แม่ขอโทษนะลูก" เธอไม่น่าที่จะไปตำหนิลูกเลยว่าหน้าเหมือนใครอีกความคิดหนึ่งได้ผุดขึ้นมาในหัว ถ้าเขาไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น ..หรือเขามีแฝด?! "หรือจะใช่ ถ้าเป็นเขาต้องจำเราได้สิ" จากที่คิดว่าจะลาออกจากงาน ..มันก็เลยทำให้รรินธรอยากค้นหาความจริงดู ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นแฝดของพ่อรักนรินทร์จริงไหมใช่แล้วคริสหน้าเหมือนกับสามีของรรินธรมาก เขาหายไปตั้งแต่รู้ว่าเธอท้อง ไม่สิ เขาหายไปก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ แต่จะว่าเขาไม่รู้เรื่องลูกก็ไม่ใช่ เพราะเธอได้ส่งข้อความไป และเขาก็เปิดอ่านแล้วด้วย จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่มีข้อความใดๆ ตอบกลับมาอีกเลยเช้าวันต่อมา.."แม่จะหาความจริงมาบอกลูกให้ได้ว่าผู้ชายคนนั้นคือพ่อของลูกไหม ถึงแม้ความจริงมันจะเป็นยังไง หนูอย่าเสียใจนะลูก ที่เขาไม่เลือกเรา" ทำเหมือนกับว่าปลอบใจลูก แต่ที่ไหนได้ปลอบใจตัวเองมากกว่ารรินธรอุ้มรักนรินทร์ออกมาฝากไว้กับน้องสาวก่อนที่จะไปทำงาน[บริษัท]รรินธรมาถึงก็ตรงขึ้นไปชั้นที่เธอทำงานอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 60

    เย็นวันเดียวกันนั้น..ขณะที่รรินธรขับรถกลับบ้าน ก็ได้มีรถปริศนาขับตามหลังมา"???" รถคันนั้นขับตามจนถึงบ้านหลังใหญ่ แต่ใหญ่ขนาดนี้จะเรียกว่าบ้านก็คงไม่ใช่แล้ว"คิดถึงหนูรักจังเลยลูก" หญิงสาวเดินตรงเข้าไปอุ้มลูกจากพี่เลี้ยงเด็ก "วันนี้หนูดื้อไหม""ไม่ดื้อหรอกค่ะ คุณรักนรินทร์เป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย""ฉันบอกพี่แล้วไงว่าเรียกน้องรักเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเรียกเต็มขนาดนั้นหรอก""ค่ะ"แล้วรรินธรก็พาลูกสาวกลับขึ้นห้อง ที่ไม่ได้ถามหาน้อง เพราะวันนี้คฑาพารรรรรรไปตามนัดของคุณหมอ ซึ่งน้องสาวได้บอกไว้ก่อนที่จะออกจากบ้านเมื่อเช้านี้แล้ว"หนูไม่ต้องเสียใจนะลูก หนูรักมีแม่แค่คนเดียวก็พอแล้ว" พอคิดได้ว่าน้องสาวมีครอบครัวของตัวเองแล้ว ต่อไปนี้คงจะมีเวลาให้เธอกับลูกน้อยลง ก็อดใจหายไม่ได้ แต่ทุกคนก็ต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง ถ้าถึงวันนั้น เธอก็คงต้องได้แยกออกไป เพราะเธอไม่ได้เป็นอะไรกับคนบ้านนี้"แม่จะเก็บเงินสักก้อน เรากลับไปอยู่บ้านเดิมกันนะ" รรินธรไม่คิดจะอาศัยที่นี่ตลอดไปอยู่แล้วเช้าวันต่อมา.."แม่ไปทำงานก่อนนะ หนูอย่าดื้อกับป้าเขานะคะ" หญิงสาวส่งลูกให้กับพี่เลี้ยงเด็ก แล้วก็ขับรถตรงออกจากบ้าน ถึงแม้เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05

บทล่าสุด

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 122 ตอนจบ

    เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 121

    "ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 120

    [คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 119

    "ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 118

    "กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 117

    แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 116

    [ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 115

    ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 114

    แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status