"ลูกสาวของผมก็คนที่พวกคุณกำลังพูดถึงอยู่นี่ไง" ถึงตอนนี้อิฐไม่คิดจะปิดบังไว้อีกแล้ว"??" เพื่อนนักศึกษาที่ยืนมุงอยู่ด้านนอก จำได้แม่นว่าคนที่ชื่ออิฐคือเจ้าของโรงแรมที่พวกเขาไปพักกัน แต่ที่ทุกคนสงสัย คนที่นักข่าวเพิ่งเคยพูดถึงก็คือน้ำหนาว ถ้างั้นแสดงว่าน้ำหนาวเป็นลูกของเจ้าของโรงแรมอย่างนั้นเหรอ?"ลูกสาวผมก็คนที่แสดงเป็นนางเอกนั่นแหละ พวกคุณกรุณาแก้ข่าวด้วย ถ้าผมเห็นว่าใครทำข่าวออกมาให้ลูกสาวผมเสียหาย ผมจะฟ้องทุกสำนักข่าว!" อิฐไม่ยอมให้ใครมาว่าให้ลูกสาวสุดที่รักของเขาอยู่แล้วตอนนี้นักข่าวได้ข่าวใหญ่มาอีกข่าวหนึ่ง และที่ใหญ่ไม่แพ้กันก็คือไฮโซรชตเข้าโรงแรมกับไฮโซน้ำหนาว แถมยังไปต่อกันที่คอนโดอีก"ทั้งสองคนคบกันเหรอคะ" นักข่าวไม่ยอมจนมุมง่ายๆ อยู่แล้ว พอยิงคำถามนี้ออกไปอิฐถึงกับพูดไม่ออก ถ้าบอกว่าลูกสาวไปขออาศัยอยู่คอนโดก็ใช่เรื่อง เพราะภาพที่เห็นคือทั้งสองขึ้นไปพร้อมกันและไม่ลงมา"มีอะไรจะถาม ถามผมได้เลย ไม่ต้องคิดเองเออเอง" รชตซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็ทนไม่ได้อีกแล้ว"เจ้าตัวมาแล้ว" นักข่าวทุกคนต่างก็หันไปให้ความสนใจกับรชตที่เพิ่งออกมา"ใครสงสัยอะไรก็ถามมาได้เลยครับ""คุณแม่จะไปไหนครับ"
กัลยารีบห้ามแม่ไว้ เพราะเธอรู้ดีว่าแม่ต้องห้ามหลานไม่ให้คุกเข่าแน่"เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดผมผิดเองครับ" อิฐยังคงนั่งจ้องมองหน้าเด็กหนุ่มที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเขาแบบใจเย็น"คุณน้าครับ ผมยินดีรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด""รับผิดชอบ?" อิฐแทบอยากจะขำออกมา ทำให้ลูกสาวของเขาเสียหายขนาดนี้ เพิ่งจะมาเอ่ยปากบอกว่ารับผิดชอบเนี่ยนะน้ำใจไม่ได้ห้ามสามี เพราะเรื่องนี้มันห้ามกันไม่ได้ ไม่ว่าสามีจะตัดสินใจยังไง เธอก็พร้อมจะรับฟังการตัดสินใจนั้นน้ำหนาวค่อยๆ คุกเข่าลงข้างกายรชต เพื่อขอให้พ่อยกโทษให้กับสิ่งที่เธอได้ทำลงไปโดยพละการ"หนาวลุกขึ้นดีกว่า ทำแบบนี้เดี๋ยวคุณก็เจ็บเข่า" ตัวเองคุกเข่าอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นว่าเธอทำตามก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้"ลุกขึ้นมาหาพ่อ" ขนาดรชตมาทีหลังยังเป็นห่วงเธอ ทำไมอิฐจะไม่ห่วงว่าลูกสาวตัวเองจะเจ็บเข่าทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น แทบจะหายใจติดขัดเพราะลุ้นมาก ว่าทั้งสองคนจะชนะใจพ่อได้ไหมน้ำหนาวไม่ตอบ เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาสำนึกผิดต่อไป"พ่อบอกให้มานี่ไง""หนาวขึ้นมาหาพ่อสิลูก" น้ำใจก็เลยเอื้อมมือไปรับลูกสาวให้ลุกขึ้น"มันจะอะไรกันนักกันหนา" อัญชัญรู้สึกอึดอัดก็เลยพูดขึ้นมา เพราะ
[สนามบิน] ตอนที่คิดจะมาเซอร์ไพรส์ลูกสาว ทั้งสองนั่งเครื่องบินมา ขากลับก็ได้นั่งเครื่องกลับ คิดว่าจะมาเซอร์ไพรส์แต่ดันถูกเซอร์ไพรส์กลับแบบหนักหน่วง[โรงแรมกัลยาสาขาเสม็ด] ถึงแม้อิฐจะเป็นผู้บริหารใหญ่ที่นี่ และทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเขา แต่อิฐไม่ลืมผู้มีพระคุณ โรงแรมนี้ก็เลยยังชื่อโรงแรมกัลยาอยู่"หนาวขอตัวนะคะ" หญิงสาวตามพ่อกับแม่มาโดยที่ไม่ได้กลับไปเก็บของที่คอนโดน้ำใจได้แต่มองตามหลังลูกสาวไป อยากจะคุยกับสามี แต่ดูเหมือนว่าอารมณ์ของเขาจะยังไม่ปกติตอนที่อยู่กับพ่อและแม่ เธอไม่กล้าเช็คดูโทรศัพท์ แต่พอกลับเข้าห้อง..น้ำหนาวรีบเปิดดูว่าเขาส่งข้อความอะไรมาไหม แต่ก็ไม่มีเลย เขาโกรธที่เราเลือกพ่อกับแม่เหรอ?เป็นใครก็ต้องโกรธ เขานั่งคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนขนาดนั้น แต่เธอตอบว่าจะกลับมากับพ่อโดยไม่แม้แต่จะใช้เวลาคิดเลยหญิงสาวร่างระหงยืนมองทอดสายตาออกไปดูท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ตอนที่มองแม่น้ำเจ้าพระยายังคิดถึงท้องทะเลนี้อยู่เลย แต่พอได้มายืนมองมันจริงๆ แล้ว ทำไมเธอถึงคิดถึงแม่น้ำเจ้าพระยาล่ะหรือเราคิดถึงคนที่อยู่ที่นั่น.. หญิงสาวรีบสลัดอารมณ์นี้ออกไป เพราะกลัวว่าพ่อจะเห็นว่าเธออ่อนแอน้ำหนาวเปลี่ย
[มหาวิทยาลัย]"รชต" นาเดียเดินมานั่งลงข้างกายรชตแบบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ "ดีใจจังที่นายมาเรียนได้สักที" ที่นาเดียพูดแบบนี้ ตั้งแต่หลังละครเวทีเขาก็ไม่ได้มาเช่นเดียวกันกับน้ำหนาวแต่ทางอาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ถือว่าให้พวกเขาได้พักผ่อนหลังจากร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย"อืม" นาเดียพูดออกมาไม่รู้กี่คำต่อกี่คำ แต่รชตตอบออกมาแค่นี้แหละ"ได้ยินว่าไปเที่ยวกันเหรอ คืนนี้ถ้าไปที่ผับเราขอไปด้วยคนนะ""นาเดีย!" คอปเตอร์ตำหนิเพื่อน เพราะแทนที่จะชวนคุยเรื่องอื่นเที่ยงวันเดียวกัน..ตอนที่นั่งกินข้าว เขาก็ยังนึกถึงเธอ ทำไมเธอถึงแทรกเข้ามาในชีวิตเขาได้มากมายขนาดนี้พวกเพื่อนๆ รู้ดีว่ารชตกำลังคิดอะไรอยู่ก็เลยไม่มีใครอยากกวน"ข้าวฟ่างเราไปนั่งกับรุ่นพี่ไหม โต๊ะว่างพอดีเลย" อรปรียาที่ไม่สำนึกผิดเลย และรู้ดีว่าเพื่อนไม่อยากจะคุยด้วยแล้ว แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้"ฉันว่าเราไปนั่งโต๊ะนั้นดีกว่าว่างอยู่พอดี" ไข่ตุ๋นชวนข้าวฟ่างไปอีกมุมหนึ่ง ข้าวฟ่างก็ยอมเดินตามไข่ตุ๋นไปหลังทานอาหารเที่ยงเสร็จ..นักศึกษาหลายคนต่างก็ทยอยกลับห้องเรียนกัน"รุ่นพี่คะ" ข้าวฟ่างบอกเพื่อนว่าจะแวะห้องน้ำ แต่ที่จริงเธอรอคุยกับใครบางคนรชตแค่หยุ
"???" น้ำหนาวคิดว่าตัวเองคิดถึงเขามากเกินไปหรือเปล่า ทำไมมองเห็นเกียร์เป็นหน้าของรชตไปได้ "รุ่นพี่?""ไม่ได้เจอกันหลายวัน สวยขึ้นเยอะเลยนะ" ซึ่งการแต่งตัวของเธอในตอนนี้แตกต่างจากเขามาก "รุ่นพี่มาได้ยังไงคะ""ทำไม คิดว่าเป็นห้องไอ้เกียร์มันเหรอ" เพราะฟังจากคำถามของเธอแล้ว เธอคงยังไม่รู้ว่าเขาตามเกียร์มาด้วย"ค่ะ" หญิงสาวตอบออกไปตามความจริง เพราะเธอก็คิดแบบนั้นอยู่แล้ว"มันอยู่ห้องถัดไป" ว่าแล้วรชตก็หันกลับไปมองคลื่นทะเล พร้อมกับเช็ดผมต่อ แต่จริงๆแล้วเขาอยากจะมองเธอผ่านกระจกน้ำหนาวหันหลังเดินกลับไปที่ประตู ซึ่งรชตก็ยังคงมองตามในกระจก"รุ่นพี่มาที่นี่แค่เรื่องงานใช่ไหม" ก่อนจะออกจากห้องเธออยากถามให้แน่ใจ ว่าเขาคิดถึงเธอเหมือนกับที่เธอคิดถึงเขาไหม"เปล่า..มาตามหาหัวใจ"น้ำหนาวไม่รออะไรอีกแล้ว รีบหันกลับไปทางที่เขายืนอยู่ แล้วก้าวเดินเข้าไปสวมกอดเขาจากทางด้านหลังชายหนุ่มค่อยๆ หันหน้ากลับมาแบบช้าๆ"ร้องไห้ทำไม แต่งหน้ามาสวยๆ เดี๋ยวเครื่องสำอางก็ลบหมด" มือหนาเลื่อนไปซับน้ำตาให้กับเธอแต่ดูเหมือนว่ายิ่งปลอบ เธอก็ยิ่งร้องไห้จนมีเสียงสะอื้น"คิดถึงพี่ไหม" มือหนาทั้งสองข้างลูบคลำใบหน้างาม พร้
ถึงแม้พ่อเธอจะยื่นข้อเสนอมาอีกหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือทั้งสองต้องแยกห้องนอน เขาก็ยอมตอบตกลงไปก่อน ดีกว่าจะไม่ได้เจอหน้าเธออีกเลยพอทางผู้ใหญ่คุยกันเรียบร้อย อัญชัญก็ล้วงเอาสิ่งสำคัญที่สุดที่นางนำติดตัวมาด้วยออกจากกระเป๋า"คุณย่า?" รชตเห็นสิ่งนั้นถึงกับน้ำตาคลอ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ย่าเคยเล่าให้เขาฟัง ว่ามันคือตัวแทนความรักที่ปู่มีให้ย่า"หมั้นน้องไว้สิลูก" อัญชัญส่งแหวนวงนั้นไปให้กับหลานชายกัลยาและคฑาทั้งสองมองสบตากัน เพราะไม่คิดว่าแม่จะยอมนำสิ่งนี้มาเพื่อหมั้นหมายผู้หญิงให้กับหลาน"ขอบคุณครับย่า" ก่อนจะรับแหวนวงนั้นมา ชายหนุ่มได้ก้มลงกราบเท้าของย่าอีกครั้ง และครั้งนี้น้ำหนาวก็ได้กราบลงพร้อมกัน ถึงแม้เธอจะไม่รู้ประวัติของแหวนวงนี้ แต่มันคงสำคัญมาก ถึงทำให้ลูกหลานของท่านมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปแหวนวงนั้นถูกสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายของหญิงคนรัก โดยเป็นการจองไว้ว่าผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงของเขา"ไหว้พี่สิลูก" น้ำใจเอื้อมมือไปแตะไหล่ลูกสาวเบาๆพอน้ำหนาวไหว้ลงที่ตักของรชตแล้ว ทั้งสองก็หันไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงหน้าทุกๆ ท่านห้องอาหาร..วันนี้ห้องอาหารได้ถูกจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษ เพื่อเ
"ถามเหมือนกับว่าเราจะทำให้ย่ากินอย่างนั้นแหละ" "ผมทำไม่เป็นหรอกครับ""เอ้าา" ทุกคนต่างก็นึกขำ และคิดว่าเขาคงจะดีใจที่ได้คนรักมาอยู่ข้างกาย จนเผลอพูดไปเรื่อยเปื่อย"ถึงแม้ผมจะทำไม่เป็น แต่ผมมีตัวแทนนะครับ""ยังไง" ย่าถามหลานชายกลับ"วันนั้นได้ยินคุณย่ากับคุณแม่พูดใช่ไหมครับ ว่าอยากจะเจอคนที่ทำแหนมเนือง"พอทุกคนได้ยินแบบนั้นต่างก็มองมาที่ทั้งสองพร้อมกัน"รอทานได้เลยนะครับ" ว่าแล้วรชตก็เอื้อมไปคว้ามือของเธอให้เดินตามเข้ามาในครัว"จะทำอะไรกัน" ย่าเห็นหลานชายมีความสุขก็พลอยมีความสุขกับหลานไปด้วยเครื่องครัวและของสดที่นี่มีครบอยู่แล้ว เพราะแม่ครัวต้องได้เตรียมไว้วันต่อวัน"พวกท่านบอกอยากทานอีกเหรอคะ" อยู่ข้างนอกน้ำหนาวไม่กล้าถาม"ครับ..พวกท่านต้องหลงรักหนาวเหมือนที่พี่รัก" จริงๆ แล้ว ใบหน้าของเธอก็สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นอยู่แล้ว ..ถ้าเธอไม่สะดุดตาคนบ้าที่ไหนจะยอมถูกผูกมัดโดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่นั่นมันก็แค่สะดุดตา แต่ที่รชตสนใจเธอมากขึ้นก็ตอนที่ได้กินอาหารฝีมือเธอครั้งแรกตอนลงแข่งเขายอมรับว่าพอได้ทานอาหารที่เธอแข่งขันในวันนั้น จากที่เคยมีอคติอยู่บ้าง มันได้หายไปหมดสิ้น จนเขาอยากรู้จั
"รู้ไหมว่าถ้าพี่ยังอยู่ในห้องนี้อะไรมันจะเกิดขึ้นกับเรา"หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย เพื่อตอบว่าเธอรู้ดี"??" ถึงแม้ในห้องนี้จะไม่ได้เปิดไฟ แต่แสงไฟจากด้านนอกก็ส่องสว่างเข้ามาพอมองเห็นใบหน้าของเธอ..แล้วเขาจะรออะไรเมื่อฝ่ายหญิงพยักหน้าให้ขนาดนี้ชายหนุ่มเริ่มใหม่ด้วยการโน้มลงไปจูบ แต่ก็ไม่ได้จูบนาน ริมฝีปากหนาขยับต่ำลงมาที่ซอกคอระหง และค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาที่หน้าอก ซึ่งตอนนี้เขาได้ปลดกระดุมเสื้อชุดนอนของเธอออกไปแล้ว แต่ก็ยังคงเหลือชุดชั้นในอยู่"อือ" พอริมฝีปากของเขาสัมผัสร่องหน้าอก..เสียงครางก็ได้ดังขึ้นมือหนาสอดลงไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอเสื้อชั้นในออกให้พ้นทางสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันทำให้อดที่จะมองไม่ได้ ตอนที่อยู่ในชุดว่ายน้ำก็คิดว่าน่ามองแล้ว แต่พอไม่มีอะไรปิดบังยิ่งน่ามองริมฝีปากหนาแนบจูบลงไปบนยอดดอกบัวตูมแบบอ่อนโยนและทะนุถนอมมือเรียวควานหาที่เกาะไว้ เพราะเธอไม่รู้จะทำตัวยังไงดีเมื่อถูกทั้งดูดและเลียแต่เขาไม่คิดจะหยุดอยู่แค่นี้ เพียงไม่นานกางเกงชุดนอนที่เธอสวมใส่อยู่ก็ถูกกำจัด..โดยมีริมฝีปากหนาพรมจูบตามลงมา ขณะที่ถอดกางเกง"รุ่นพี่คะ" เธอไม่ใช่คนที่ใฝ่หาเรื่องเซ็กส์ ก็เลยไม่ค่อยรู้ขั้
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"
[ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร
ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี
แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่