หลิวเถียนลืมตาขึ้นมาพร้อมสีหน้าที่เด็ดเดี่ยว เมื่อคนที่นางเห็นว่าเป็นครอบครัวไม่ได้มองนางเช่นเดียวกัน นางก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องไว้ไมตรีกับอีกฝ่ายกระทำการสิ่งใดไว้ก็ย่อมต้องรับสิ่งนั้นตอบแทน“ขอรับท่านแม่ เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้เรียบร้อยขอรับ ท่านแม่พักผ่อนเถิดขอรับ”เย่เจียวหั่วประคองมารดาให้เข้าไปพักผ่อนยังห้องนอนของนาง เรื่องนี้มันกระทบจิตใจของท่านแม่มากเกินไป“ข้าฝากมามาช่วยดูแลท่านแม่ด้วย” เขาหันมากำชับกับคนสนิทของมารดา“ท่านโหวอย่าได้เป็นห่วงเจ้าค่ะ”จวนตระกูลหลิว“นังไร้ประโยชน์ โง่เง่าเหมือนมารดาของเจ้าจริง ๆ เลย”เพียะ!! ตุบ!!“ท่านพ่อ ได้โปรดอย่าทำข้าเลยเจ้าค่ะ ฮือๆ”ตั้งแต่กลับมาจากงานล่าสัตว์ หลิวห่าวรันก็พาตัวบุตรสาวมาลงโทษที่ห้องบรรพชน ไม่ว่าผู้ใดก็เข้ามายังที่แห่งนี้ไม่ได้แส้หางม้าถูกนำมาฟาดที่ร่างกายของหลิวหนิงอันเต็มแรง“โง่เง่า ข้าไม่น่ามีลูกอย่างเจ้าเลย บัดซบ!”เพียะ! เพียะ!“กรี๊ดดด ข้าเจ็บ ฮือ ๆ ท่านพ่อ ได้โปรด ข้ากลัวแล้วเจ้าค่ะ ฮือ ๆ”ไม่ว่าหลิวหนิงอันจะร้องไห้คร่ำครวญอย่างไร ไฟโทสะของหลิวห่าวรันก็ไม่มอดดับลงเลย เขายังคงฟาดแส้ลงมาใส่ร่างกายของบุตรสาว โดยไม่คำนึงเ
บทที่ 17บทลงโทษการตายของหลิวหนิงอันสร้างความสะเทือนใจให้กับเมืองเจียว สตรีที่เคยเป็นยอดพธูแห่งเมืองเจียวกลับปลิดชีพตนเอง บ่าวรับใช้ที่อยู่จวนตระกูลต่างให้ปากคำกับทางกรมอาญา สองแม่ลูกที่น่าสงสารมักถูกหลิวห่าวรันลงมือทุบตีอยู่บ่อยครั้งเขาจะใช้แส้หางม้าอันเป็นอาวุธประจำกาย ฟาดที่ร่างกายของบุตรสาวและภรรยา เมื่อทำสิ่งใดให้ไม่ถูกใจทั้งสองก็จะถูกลงโทษ แต่เพราะบริเวณที่โดนแส้ฟาดนั้นคือแผ่นหลัง จึงทำให้ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องนี้แต่หลังจากที่ท่านโหวเข้ามาจับกุมหลิวห่าวรัน ความเลวระยำที่เขาเคยทำไว้ก็พลันผุดพรายออกมาไม่รู้จบ ทั้งใช้อำนาจของตระกูลข่มเหงตระกูลที่ต่ำกว่า แอบอ้างอำนาจของพี่สาวเลี่ยงการจ่ายภาษีความผิดของเขาถูกเปิดโปง หลิวเถียนที่รับรู้ความเลวของน้องชายต่างมารดา นางถึงกับเป็นลมหมดสติไปเลย ห่าวเย่วเล่อผู้เป็นลูกสะใภ้จึงดูแลแม่สามีไม่ห่างคุกใต้ดินเมืองเจียวในมุมหนึ่งของห้องขังมีชายในวัยกลางคนนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นฟาง สายตาของเขาเลื่อนลอยออกไปไกล ความหวังที่อยากจะนั่งตำแหน่งท่านโหว ควบคุมเมืองเจียวพลันสลายหายไปในพริบตาถ้าหากบุตรสาวของเขาสามารถแต่งเข้าไปเป็นฮูหยินท่านโหวได้ เขาคงไม่ต้อง
“จัดการเสร็จแล้วหรือเจ้าคะ”“ใช่แล้ว ข้าคิดถึงเจ้าจึงตรงกลับมาทันที”ห่าวเย่วเล่อส่ายหน้าให้กับเขา “ท่านพี่น่าจะไปหาท่านแม่ก่อนนะเจ้าคะ ท่านแม่คงยังสะเทือนใจไม่หาย”“ยิ่งพี่ไปหาท่านแม่อาจจะยิ่งปวดใจก็ได้ ช่วงนี้พี่รบกวนเจ้าฝากดูแลท่านแม่ด้วย”“เจ้าค่ะ”“ช่วงนี้เจ้าชอบนอนกลางวันบ่อยนะ เป็นอะไรหรือเปล่า”ห่าวเย่วเล่อส่ายหน้าปฏิเสธ “มีงานให้ต้องจัดการเยอะ ข้าก็เลยรู้สึกเพลีย ๆ นิดหน่อยเจ้าค่ะ”“โยนงานให้พ่อบ้านไปดูแลก่อนก็ได้ ข้าเกรงว่าเจ้าจะล้มป่วย”ห่าวเย่วเล่อยิ้มหวาน หัวใจของนางรู้สึกอบอุ่นนักที่เขาห่วงใยนางเช่นนี้“ข้าไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ แล้วเรื่องที่ไล่บ่าวออกไปหลายคนเพราะเหตุใดหรือเจ้าคะ”เย่เจียวหั่วขยับกายมานั่งใกล้ภรรยา พร้อมกับกอดรัดเอวของนางไปด้วย ท่าทางของเขาราวกับลูกแมวน้อยที่กำลังออดอ้อน“บ่าวที่ถูกไล่คือสายสืบของท่านอา บางส่วนยังเป็นคนของหัวหน้าเผ่าทุ่งหญ้า เห็นทีพี่จะปล่อยไปไม่ได้เสียแล้ว”“นั่นคือเหตุผลที่ท่านพี่ทำตัวเย็นชากับข้า และปล่อยข่าวลือว่าไม่รักข้าหรือเจ้าคะ”“ใช่แล้ว แม้คราแรกพี่อาจจะ...จะไม่ได้รักเจ้า แต่ตอนนี้พี่รักเจ้ามากที่สุด หากพี่แสดงว่ารักใคร่ในตัวเ
บทที่ 18ท้องฟ้าสีแดงฉานอีกฟากหนึ่งของชนเผ่าทุ่งหญ้า ชายวัยกลางคนผู้เป็นหัวหน้าชนเผ่าทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ขว้างจอกเหล้าทิ้งอย่างไม่ไยดี เขาคือชายที่แข็งแกร่งที่สุด และองอาจที่สุดของชนเผ่าทุ่งหญ้านามของเขาคือ ‘หงเซ่อ’“เจ้านั่นมันตายแล้วอย่างนั้นหรือ”“ขะ ขอรับ ถูกตัดสินโทษประหารขอรับ”ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยเพลิงโทสะ “ไร้ประโยชน์สิ้นดี”แผนการที่สู้อุตส่าห์วางแผนมานานหลายปีล้มครืนไม่เป็นท่า เขาไม่น่าร่วมมือกับคนโง่เลย แค่จัดการให้บุตรสาวเป็นฮูหยินของท่านโหวยังทำไม่ได้ เขารึสู้อุตส่าห์ส่งน้องสาวไปสังหารอดีตท่านโหวจนสำเร็จแล้วตอนแรกคิดว่าหลังจากอดีตท่านโหวตายไป เขาจะสามารถบุกทะลวงเมืองเจียวได้โดยง่าย แต่กลายเป็นเขาได้ปลุกพยัคฆ์ขึ้นมาเสียอย่างนั้น เย่เจียวหั่วผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์ของท่านโหว ได้ยืนผงาดบุกทะลวงคนของเขาจนถอยร่น ยังดีที่เขาไหวตัวทันยอมยกธงขาว ไม่เช่นนั้นเขาคงได้สิ้นชีพไปเสียแล้ว“จะ จะทำอย่างไรต่อไปดีขอรับ ถ้าหากท่านโหวสืบรู้ว่าเผ่าของเราเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจะทำอย่างไร”“จะกังวลไปทำไม ตอนนี้ข้ายังเป็นพันธมิตรกับแคว้นเป่ย อย่างไรเจ้าท่านโหวนั่นก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” หงเซ่อ
นี่คือแผนที่ลับของชนเผ่าทุ่งหญ้า เหตุใดจึงไปอยู่ในมือของเย่เจียวหั่วได้“แผนที่นี้คือค่ายกลลับของเผ่าเจ้ามิใช่หรือ แต่ข้ากลับพบในห้องนอนของอนุท่านพ่อ นี่คงจะเป็นหลักฐานแล้วว่านางคือคนของเผ่าทุ่งหญ้า หาใช่เผ่าห่าวอู๋ที่นางเคยแอบอ้างไม่” เขาเอ่ยเสียงกร้าว “ข้าเองก็หลงผิดไปนาน คิดว่านี่คือแผนที่ของเผ่าห่าวอู๋ แต่ที่แท้คือเผ่าทุ่งหญ้าต่างหาก นับว่านางยังฉลาดจึงแอบซ่อนตัวตนของนางเอาไว้จนข้าไปพบเข้า”“บัดซบ นังโง่”หงเซ่อกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ“ข้าไม่อยากจะเสวนากับคนขลาดเช่นเจ้า จงมอบตัวซะ แล้วข้าจะปล่อยคนของเจ้าไปแต่โดยดี”“ไม่มีวัน! ข้าไม่ผิด เป็นพวกเจ้าที่รังแกข้า”หงเซ่อยังไม่ยอมจำนน ซึ่งนี่ก็เป็นความต้องการของเย่เจียวหั่วพอดี“ทหารกล้าแห่งเมืองเจียวจงฟัง! เผ่าทุ่งหญ้าสมคบคิดกับหลิวห่าวรัน สังหารอดีตท่านโหว ลอบสังหารฮูหยินท่านโหว นี่คือการก่อกบฏ ผู้ใดที่สามารถตัดศีรษะของหงเซ่อได้ มารับรางวัลจากข้า!!”“ฆ่าหงเซ่อ ฆ่าหงเซ่อ ฆ่าหงเซ่อ”ตึง ตึง ตึง!!ทหารด้านหลังส่งเสียงโห่ร้องด้วยความฮึกเหิม กลองศึกของฝั่งเมืองเจียวตีสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณสัญญาณแห่งสงครามได้เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้!เย่เ
บทส่งท้ายหงเซ่อพยายามจะหนีไปทางช่องทางลับ แต่ถูกหลี่เฉินเจาตามมาจับกุมตัวไว้ได้ทัน เขาไม่ใช่เพียงแค่กุนซือหนุ่มที่เฉลียวฉลาด แต่ฝีมือดาบและวรยุทธ์ของเขาเองก็เป็นเลิศไม่แพ้สหายเช่นเดียวกันการรบกับเผ่าทุ่งหญ้ากินเวลาไปราวหนึ่งชั่วยาม สุดท้ายก็สามารถจับกุมตัวหงเซ่อ หัวหน้าของชนเผ่าทุ่งหญ้าได้สำเร็จ ทหารของเผ่าทุ่งหญ้ายอมทิ้งอาวุธ ก้มหัวจำนนให้กับเย่เจียวหั่วแต่โดยดีทางฝ่ายทหารของเมืองเจียวนั้นได้รับบาดเจ็บกันเล็กน้อย ไม่มีผู้ใดต้องพลีชีพในสงครามครั้งนี้ ความวุ่นวายของสงครามกับเผ่าทุ่งหญ้าจึงได้จบลงหงเซ่อถูกตัดสินให้ประหารชีวิต แต่เพราะความเลวทรามที่เขาได้ทำไว้ เย่เจียวหั่วจึงได้มอบความตายอันน่าสะพรึงกลัวให้แก่เขาตัวอ่อนหนอนไหมพิษถูกป้อนใส่ปากให้กับหงเซ่อที่ถูกคุมขังในคุก เย่เจียวหั่วหยดเลือดไก่ให้นางพญาหนอนไหมพิษ มันดูดกลืนหยดเลือดด้วยความหิวกระหายเวลาผ่านไปราวสามชั่วลมหายใจ หงเซ่อก็พลันร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด“อ๊ากกกก! ช่วยด้วย เอามันออกไป ฆ่าข้า ฆ่าข้าเดี๋ยวนี้เลย”หงเซ่อดิ้นพล่านราวกับถูกน้ำร้อนลวก เขาจับกุมท้องของตนด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวด ใบหน้าที่เคยทระนงพลันซีดเผ
ท่านหมอชราที่อยู่หน้าห้องเดินเข้ามาด้วยใบหน้าสงบ เขาทำความเคารพทั้งคู่ก่อนจะขออนุญาตห่าวเย่วเล่อ นางยื่นแขนให้แก่ท่านหมอชรา ผืนผ้าขาวบางสีขาวถูกนำมาวางที่ข้อมือหมอชราจับจุดชีพจรของหญิงสาว เวลาผ่านไปครู่สีหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้น เขาทดลองจับชีพจรของห่าวเย่วเล่ออยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยถามอาการต่าง ๆ ซึ่งนางก็เอ่ยตอบอย่างตรงไปตรงมา“ฤดูของฮูหยินมาหรือยังขอรับ”แค่ประโยคนี้ของท่านหมอหลุดออกมา ห่าวเย่วเล่อก็มั่นใจเต็มสิบส่วน นางเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นระริก “ยังไม่มาเจ้าค่ะ น่าจะสักสองเดือนได้แล้ว”ฝ่ามือเล็กยกขึ้นมาลูบที่หน้าท้องแบนราบของตนเองด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วหมอชราคลี่ยิ้มอย่างยินดี ใบหน้าที่มีรอยเหี่ยวย่นหันมาเอ่ยกับเย่เจียวหั่ว“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินน้อยตั้งครรภ์ได้ราว ๆ สองเดือนแล้วขอรับ”เย่เจียวหั่วหูอื้อตาลาย “วะ ว่าอย่างไรนะ” น้ำเสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามตะกุกตะกัก“ท่านโหวกลายเป็นพ่อคนแล้วขอรับ ยินดีด้วยขอรับ” หมอชราคลี่ยิ้มเย่เจียวหั่วตรงเข้ามาจับมือหมอชราด้วยความดีใจ “ท่านหมอแน่ใจใช่หรือไม่ ไม่ได้ตรวจผิดพลาดใช่หรือไม่”“ข้าเป็นหมอมานานกว่า 40 ปี ย่อมไม่วันตรวจผิดพลาดอย่างแน
ตอนพิเศษ 1ข้ารักนางเช่นนั้นหรือในยามที่ค่ำคืนอันเงียบสงัดนั้น เย่เจียวหั่วได้ขอเข้าพบหลิวเถียนในยามวิกาล สตรีในวัยกลางคนแปลกใจกับการมาของบุตรชายนัก หรือว่าเขาจะมีเรื่องสำคัญกันนะหลิวเถียนให้บุตรชายเข้ามาพบยังห้องนอนชั้นใน ตัวนางนั่งรออยู่ตรงเก้าอี้ไม้เนื้อหอมด้วยท่าทางสงบ แววตาคมกริบที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากจ้องมองบุตรชายไม่วางตา“อาหั่วมีสิ่งใดหรือถึงมาหาแม่ดึกดื่นเช่นนี้”เย่เจียวหั่วคารวะผู้เป็นมารดา ก่อนจะนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียดนัก นั่นยิ่งทำให้หลิวเถียนตื่นตัวมากยิ่งขึ้น“ลูกแค่อยากมาพูดคุยกับท่านแม่ให้ชัดเจนขอรับ ลูกอยากให้ท่านแม่เลิกจับคู่ลูกกับหนิงอันเสียที ลูกมองนางอย่างน้องสาวเพียงคนหนึ่งเท่านั้น มิเคยคิดจะรับนางเป็นภรรยาเลย”หลิวเถียนขมวดคิ้วแน่น ความไม่พอใจฉายชัดเต็มใบหน้าของหญิงสูงวัย“เจ้าหลงเสน่ห์สตรีเผ่าห่าวอู๋เช่นนั้นหรือ เจ้าจึงเมินเฉยอันเอ๋อร์ของแม่เช่นนี้” น้ำเสียงเฉียบขาดดังขึ้นด้วยความขุ่นเคืองใจ“ถึงไม่มีเยว่เล่อ ข้าก็ไม่คิดจะรับนางเป็นภรรยาอยู่แล้ว ท่านแม่ไม่คิดหรือขอรับว่าที่ท่านแม่เปิดโอกาสให้ข้ากับนางใกล้ชิดกันมานานหลายปี แต่ข้าก
ตอนพิเศษ 3ดวงจันทร์แห่งความสุขท่านหมอหญิงถูกพาตัวมายังจวนโหวโดยถูกองครักษ์เงาของเย่เจียวหั่วพาตัวมา ทันทีที่มาถึงนางก็รีบตรงเข้าไปยังห้องคลอด และตรวจเด็กในครรภ์ของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทางที่เจ็บปวด“หายใจเข้าลึก ๆ นะเจ้าคะ หากเจ็บมากไม่ต้องกลั้นนะเจ้าคะ เปล่งเสียงร้องออกมาได้เลยเจ้าค่ะ”“กรี๊ดดด!!”ทันทีที่ท่านหมอกล่าวเช่นนั้น ห่าวเยว่เล่อก็เปล่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาทันที นางเจ็บที่ท้องมากราวกับร่างกายกำลังจะถูกดึงทึ้งอยู่ภายใน คราแรกนางก็พอยังทานทนไว้ แต่ตอนนี้มันเจ็บถี่ขึ้นมาเรื่อย ๆ และมีทีท่าว่าความเจ็บนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณเย่เจียวหั่วที่มาถึงยังหน้าห้องคลอด เมื่อได้ยินเสียงภรรยาร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เขาก็ตรงปรี่จะเข้าไปยังภายในห้องคลอด ใบหน้าคมเข้มฉายชัดถึงความวิตกกังวล“ไม่ได้นะเจ้าคะ ท่านโหวเข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ”สาวใช้ที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องคลอดรีบเอ่ยห้าม“หลบไป! ข้าจะไปดูภรรยาของข้า” น้ำเสียงเฉียบขาดดังขึ้น จนสาวใช้นางนั้นรู้สึกตัวหดเล็กลงราวกับมดปลวก“อาหั่ว มาหาแม่”หลิวเถียนที่ได้ทราบข่าวว่าลูกสะใภ้จะคลอดแล้ว นางก็รีบมาที่นี่จนได้ทันเห็นท่าทางที
ตอนพิเศษ 2ความใส่ใจของสามี5 เดือนผ่านไป จวนเจียวหย่งโหวสตรีในอาภรณ์สีชมพูอ่อนกำลังนั่งเอนหลังอ่านหนังสือที่ศาลาไม้ โต๊ะไม้ตรงหน้ามีจานขนมดอกกุ้ยฮวา ขนมหนวดมังกร และน้ำส้มคั้นวางอยู่ด้านหน้าของสตรีผู้นี้ ในแต่ละวันคืนที่อยู่ในจวนโหว นางนั้นเริ่มเบื่อหน่ายนัก มีเพียงการอ่านหนังสือและนั่งกินขนมหวานกับน้ำส้มคั้น ที่สามารถเยียวยาหัวใจของสตรีที่ตั้งครรภ์เช่นนางได้ตั้งแต่ที่ทุกคนห้ามปรามไม่ให้ทำงาน ห่าวเยว่เล่อจึงทำได้เพียงออกคำสั่งเท่านั้น วันแรกที่ได้เห็นผลส้มลูกใหญ่รสหวานอมเปรี้ยว นางก็ให้นึกถึงน้ำส้มคั้น คิดได้ดังนั้นห่าวเยว่เล่อจึงขอให้แม่ครัวของจวนโหวทำน้ำส้มคั้นให้นางดื่ม วิธีการนั้นแสนง่าย เพียงแค่นำส้มไปล้างน้ำด้วยน้ำที่ผสมเกลือ พักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นผ่าส้มออกเป็นสองซีก แล้วค่อย ๆ บีบส้มให้น้ำส้มไหลลงในแก้วกระเบื้องเคลือบที่สั่งทำพิเศษ ชิมรสให้ได้ที่หรือไม่ก็เติมเกลืออีกสักเล็กน้อย เพียงแค่นี้นางก็มีน้ำส้มคั้นดื่มทุกวันแล้วคราแรกผู้คนในจวนโหวล้วนแปลกใจกับการทำเช่นนี้ เพราะเดิมทีพวกเขาจะเพียงแค่แกะเปลือกและกินผลส้มที่อยู่ข้างใน ยังไม่เคยมีผู้ใดนำส้มมาคั้นออกมาเป็นน้ำเลย แม่ครัว
ตอนพิเศษ 1ข้ารักนางเช่นนั้นหรือในยามที่ค่ำคืนอันเงียบสงัดนั้น เย่เจียวหั่วได้ขอเข้าพบหลิวเถียนในยามวิกาล สตรีในวัยกลางคนแปลกใจกับการมาของบุตรชายนัก หรือว่าเขาจะมีเรื่องสำคัญกันนะหลิวเถียนให้บุตรชายเข้ามาพบยังห้องนอนชั้นใน ตัวนางนั่งรออยู่ตรงเก้าอี้ไม้เนื้อหอมด้วยท่าทางสงบ แววตาคมกริบที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากจ้องมองบุตรชายไม่วางตา“อาหั่วมีสิ่งใดหรือถึงมาหาแม่ดึกดื่นเช่นนี้”เย่เจียวหั่วคารวะผู้เป็นมารดา ก่อนจะนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียดนัก นั่นยิ่งทำให้หลิวเถียนตื่นตัวมากยิ่งขึ้น“ลูกแค่อยากมาพูดคุยกับท่านแม่ให้ชัดเจนขอรับ ลูกอยากให้ท่านแม่เลิกจับคู่ลูกกับหนิงอันเสียที ลูกมองนางอย่างน้องสาวเพียงคนหนึ่งเท่านั้น มิเคยคิดจะรับนางเป็นภรรยาเลย”หลิวเถียนขมวดคิ้วแน่น ความไม่พอใจฉายชัดเต็มใบหน้าของหญิงสูงวัย“เจ้าหลงเสน่ห์สตรีเผ่าห่าวอู๋เช่นนั้นหรือ เจ้าจึงเมินเฉยอันเอ๋อร์ของแม่เช่นนี้” น้ำเสียงเฉียบขาดดังขึ้นด้วยความขุ่นเคืองใจ“ถึงไม่มีเยว่เล่อ ข้าก็ไม่คิดจะรับนางเป็นภรรยาอยู่แล้ว ท่านแม่ไม่คิดหรือขอรับว่าที่ท่านแม่เปิดโอกาสให้ข้ากับนางใกล้ชิดกันมานานหลายปี แต่ข้าก
ท่านหมอชราที่อยู่หน้าห้องเดินเข้ามาด้วยใบหน้าสงบ เขาทำความเคารพทั้งคู่ก่อนจะขออนุญาตห่าวเย่วเล่อ นางยื่นแขนให้แก่ท่านหมอชรา ผืนผ้าขาวบางสีขาวถูกนำมาวางที่ข้อมือหมอชราจับจุดชีพจรของหญิงสาว เวลาผ่านไปครู่สีหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้น เขาทดลองจับชีพจรของห่าวเย่วเล่ออยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยถามอาการต่าง ๆ ซึ่งนางก็เอ่ยตอบอย่างตรงไปตรงมา“ฤดูของฮูหยินมาหรือยังขอรับ”แค่ประโยคนี้ของท่านหมอหลุดออกมา ห่าวเย่วเล่อก็มั่นใจเต็มสิบส่วน นางเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นระริก “ยังไม่มาเจ้าค่ะ น่าจะสักสองเดือนได้แล้ว”ฝ่ามือเล็กยกขึ้นมาลูบที่หน้าท้องแบนราบของตนเองด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วหมอชราคลี่ยิ้มอย่างยินดี ใบหน้าที่มีรอยเหี่ยวย่นหันมาเอ่ยกับเย่เจียวหั่ว“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินน้อยตั้งครรภ์ได้ราว ๆ สองเดือนแล้วขอรับ”เย่เจียวหั่วหูอื้อตาลาย “วะ ว่าอย่างไรนะ” น้ำเสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามตะกุกตะกัก“ท่านโหวกลายเป็นพ่อคนแล้วขอรับ ยินดีด้วยขอรับ” หมอชราคลี่ยิ้มเย่เจียวหั่วตรงเข้ามาจับมือหมอชราด้วยความดีใจ “ท่านหมอแน่ใจใช่หรือไม่ ไม่ได้ตรวจผิดพลาดใช่หรือไม่”“ข้าเป็นหมอมานานกว่า 40 ปี ย่อมไม่วันตรวจผิดพลาดอย่างแน
บทส่งท้ายหงเซ่อพยายามจะหนีไปทางช่องทางลับ แต่ถูกหลี่เฉินเจาตามมาจับกุมตัวไว้ได้ทัน เขาไม่ใช่เพียงแค่กุนซือหนุ่มที่เฉลียวฉลาด แต่ฝีมือดาบและวรยุทธ์ของเขาเองก็เป็นเลิศไม่แพ้สหายเช่นเดียวกันการรบกับเผ่าทุ่งหญ้ากินเวลาไปราวหนึ่งชั่วยาม สุดท้ายก็สามารถจับกุมตัวหงเซ่อ หัวหน้าของชนเผ่าทุ่งหญ้าได้สำเร็จ ทหารของเผ่าทุ่งหญ้ายอมทิ้งอาวุธ ก้มหัวจำนนให้กับเย่เจียวหั่วแต่โดยดีทางฝ่ายทหารของเมืองเจียวนั้นได้รับบาดเจ็บกันเล็กน้อย ไม่มีผู้ใดต้องพลีชีพในสงครามครั้งนี้ ความวุ่นวายของสงครามกับเผ่าทุ่งหญ้าจึงได้จบลงหงเซ่อถูกตัดสินให้ประหารชีวิต แต่เพราะความเลวทรามที่เขาได้ทำไว้ เย่เจียวหั่วจึงได้มอบความตายอันน่าสะพรึงกลัวให้แก่เขาตัวอ่อนหนอนไหมพิษถูกป้อนใส่ปากให้กับหงเซ่อที่ถูกคุมขังในคุก เย่เจียวหั่วหยดเลือดไก่ให้นางพญาหนอนไหมพิษ มันดูดกลืนหยดเลือดด้วยความหิวกระหายเวลาผ่านไปราวสามชั่วลมหายใจ หงเซ่อก็พลันร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด“อ๊ากกกก! ช่วยด้วย เอามันออกไป ฆ่าข้า ฆ่าข้าเดี๋ยวนี้เลย”หงเซ่อดิ้นพล่านราวกับถูกน้ำร้อนลวก เขาจับกุมท้องของตนด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวด ใบหน้าที่เคยทระนงพลันซีดเผ
นี่คือแผนที่ลับของชนเผ่าทุ่งหญ้า เหตุใดจึงไปอยู่ในมือของเย่เจียวหั่วได้“แผนที่นี้คือค่ายกลลับของเผ่าเจ้ามิใช่หรือ แต่ข้ากลับพบในห้องนอนของอนุท่านพ่อ นี่คงจะเป็นหลักฐานแล้วว่านางคือคนของเผ่าทุ่งหญ้า หาใช่เผ่าห่าวอู๋ที่นางเคยแอบอ้างไม่” เขาเอ่ยเสียงกร้าว “ข้าเองก็หลงผิดไปนาน คิดว่านี่คือแผนที่ของเผ่าห่าวอู๋ แต่ที่แท้คือเผ่าทุ่งหญ้าต่างหาก นับว่านางยังฉลาดจึงแอบซ่อนตัวตนของนางเอาไว้จนข้าไปพบเข้า”“บัดซบ นังโง่”หงเซ่อกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ“ข้าไม่อยากจะเสวนากับคนขลาดเช่นเจ้า จงมอบตัวซะ แล้วข้าจะปล่อยคนของเจ้าไปแต่โดยดี”“ไม่มีวัน! ข้าไม่ผิด เป็นพวกเจ้าที่รังแกข้า”หงเซ่อยังไม่ยอมจำนน ซึ่งนี่ก็เป็นความต้องการของเย่เจียวหั่วพอดี“ทหารกล้าแห่งเมืองเจียวจงฟัง! เผ่าทุ่งหญ้าสมคบคิดกับหลิวห่าวรัน สังหารอดีตท่านโหว ลอบสังหารฮูหยินท่านโหว นี่คือการก่อกบฏ ผู้ใดที่สามารถตัดศีรษะของหงเซ่อได้ มารับรางวัลจากข้า!!”“ฆ่าหงเซ่อ ฆ่าหงเซ่อ ฆ่าหงเซ่อ”ตึง ตึง ตึง!!ทหารด้านหลังส่งเสียงโห่ร้องด้วยความฮึกเหิม กลองศึกของฝั่งเมืองเจียวตีสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณสัญญาณแห่งสงครามได้เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้!เย่เ
บทที่ 18ท้องฟ้าสีแดงฉานอีกฟากหนึ่งของชนเผ่าทุ่งหญ้า ชายวัยกลางคนผู้เป็นหัวหน้าชนเผ่าทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ขว้างจอกเหล้าทิ้งอย่างไม่ไยดี เขาคือชายที่แข็งแกร่งที่สุด และองอาจที่สุดของชนเผ่าทุ่งหญ้านามของเขาคือ ‘หงเซ่อ’“เจ้านั่นมันตายแล้วอย่างนั้นหรือ”“ขะ ขอรับ ถูกตัดสินโทษประหารขอรับ”ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยเพลิงโทสะ “ไร้ประโยชน์สิ้นดี”แผนการที่สู้อุตส่าห์วางแผนมานานหลายปีล้มครืนไม่เป็นท่า เขาไม่น่าร่วมมือกับคนโง่เลย แค่จัดการให้บุตรสาวเป็นฮูหยินของท่านโหวยังทำไม่ได้ เขารึสู้อุตส่าห์ส่งน้องสาวไปสังหารอดีตท่านโหวจนสำเร็จแล้วตอนแรกคิดว่าหลังจากอดีตท่านโหวตายไป เขาจะสามารถบุกทะลวงเมืองเจียวได้โดยง่าย แต่กลายเป็นเขาได้ปลุกพยัคฆ์ขึ้นมาเสียอย่างนั้น เย่เจียวหั่วผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์ของท่านโหว ได้ยืนผงาดบุกทะลวงคนของเขาจนถอยร่น ยังดีที่เขาไหวตัวทันยอมยกธงขาว ไม่เช่นนั้นเขาคงได้สิ้นชีพไปเสียแล้ว“จะ จะทำอย่างไรต่อไปดีขอรับ ถ้าหากท่านโหวสืบรู้ว่าเผ่าของเราเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจะทำอย่างไร”“จะกังวลไปทำไม ตอนนี้ข้ายังเป็นพันธมิตรกับแคว้นเป่ย อย่างไรเจ้าท่านโหวนั่นก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” หงเซ่อ
“จัดการเสร็จแล้วหรือเจ้าคะ”“ใช่แล้ว ข้าคิดถึงเจ้าจึงตรงกลับมาทันที”ห่าวเย่วเล่อส่ายหน้าให้กับเขา “ท่านพี่น่าจะไปหาท่านแม่ก่อนนะเจ้าคะ ท่านแม่คงยังสะเทือนใจไม่หาย”“ยิ่งพี่ไปหาท่านแม่อาจจะยิ่งปวดใจก็ได้ ช่วงนี้พี่รบกวนเจ้าฝากดูแลท่านแม่ด้วย”“เจ้าค่ะ”“ช่วงนี้เจ้าชอบนอนกลางวันบ่อยนะ เป็นอะไรหรือเปล่า”ห่าวเย่วเล่อส่ายหน้าปฏิเสธ “มีงานให้ต้องจัดการเยอะ ข้าก็เลยรู้สึกเพลีย ๆ นิดหน่อยเจ้าค่ะ”“โยนงานให้พ่อบ้านไปดูแลก่อนก็ได้ ข้าเกรงว่าเจ้าจะล้มป่วย”ห่าวเย่วเล่อยิ้มหวาน หัวใจของนางรู้สึกอบอุ่นนักที่เขาห่วงใยนางเช่นนี้“ข้าไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ แล้วเรื่องที่ไล่บ่าวออกไปหลายคนเพราะเหตุใดหรือเจ้าคะ”เย่เจียวหั่วขยับกายมานั่งใกล้ภรรยา พร้อมกับกอดรัดเอวของนางไปด้วย ท่าทางของเขาราวกับลูกแมวน้อยที่กำลังออดอ้อน“บ่าวที่ถูกไล่คือสายสืบของท่านอา บางส่วนยังเป็นคนของหัวหน้าเผ่าทุ่งหญ้า เห็นทีพี่จะปล่อยไปไม่ได้เสียแล้ว”“นั่นคือเหตุผลที่ท่านพี่ทำตัวเย็นชากับข้า และปล่อยข่าวลือว่าไม่รักข้าหรือเจ้าคะ”“ใช่แล้ว แม้คราแรกพี่อาจจะ...จะไม่ได้รักเจ้า แต่ตอนนี้พี่รักเจ้ามากที่สุด หากพี่แสดงว่ารักใคร่ในตัวเ
บทที่ 17บทลงโทษการตายของหลิวหนิงอันสร้างความสะเทือนใจให้กับเมืองเจียว สตรีที่เคยเป็นยอดพธูแห่งเมืองเจียวกลับปลิดชีพตนเอง บ่าวรับใช้ที่อยู่จวนตระกูลต่างให้ปากคำกับทางกรมอาญา สองแม่ลูกที่น่าสงสารมักถูกหลิวห่าวรันลงมือทุบตีอยู่บ่อยครั้งเขาจะใช้แส้หางม้าอันเป็นอาวุธประจำกาย ฟาดที่ร่างกายของบุตรสาวและภรรยา เมื่อทำสิ่งใดให้ไม่ถูกใจทั้งสองก็จะถูกลงโทษ แต่เพราะบริเวณที่โดนแส้ฟาดนั้นคือแผ่นหลัง จึงทำให้ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องนี้แต่หลังจากที่ท่านโหวเข้ามาจับกุมหลิวห่าวรัน ความเลวระยำที่เขาเคยทำไว้ก็พลันผุดพรายออกมาไม่รู้จบ ทั้งใช้อำนาจของตระกูลข่มเหงตระกูลที่ต่ำกว่า แอบอ้างอำนาจของพี่สาวเลี่ยงการจ่ายภาษีความผิดของเขาถูกเปิดโปง หลิวเถียนที่รับรู้ความเลวของน้องชายต่างมารดา นางถึงกับเป็นลมหมดสติไปเลย ห่าวเย่วเล่อผู้เป็นลูกสะใภ้จึงดูแลแม่สามีไม่ห่างคุกใต้ดินเมืองเจียวในมุมหนึ่งของห้องขังมีชายในวัยกลางคนนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นฟาง สายตาของเขาเลื่อนลอยออกไปไกล ความหวังที่อยากจะนั่งตำแหน่งท่านโหว ควบคุมเมืองเจียวพลันสลายหายไปในพริบตาถ้าหากบุตรสาวของเขาสามารถแต่งเข้าไปเป็นฮูหยินท่านโหวได้ เขาคงไม่ต้อง