หลายปีผ่านไปทุกๆ ปีวันเกิดของมาวินกับขนมหวาน ครอบครัวของเราจะมารวมตัวกันเพื่อจัดงานวันเกิดให้กับเด็กน้อยทั้งสอง ครอบครัวของเรามีความสุขมาก มีลูกชายที่เก่งและลูกสาวที่น่ารัก ยิ่งโตขึ้นน้องขนมหวานก็ยิ่งเหมือนกับฉัน และด้วยความที่เขาหน้าตาเหมือนแม่ ก็ไม่แปลกที่คนเป็นพ่อจะห่วงจะหวง แทบจะไม่มีเพื่อนเป็นผู้ชายเลย เพราะคุณวินเขาไม่ยอม หวงออกหน้าออกตาวันนี้เป็นวันเกิดของขนมหวาน อายุครบสี่ขวบเต็มแล้ว กำลังน่ารัก กำลังช่างพูดเลยล่ะ ส่วนมาวินก็เริ่มโตเป็นหนุ่มแล้ว แกเหมือนพ่อแต่ก็ไม่ได้เหมือนไปซะหมด แกยังมีส่วนที่เหมือนกับฉันอยู่บ้างเหมือนกันพอจัดงานเลี้ยงเราก็จะมารวมตัวกันเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อแม่และน้องของฉันและคุณย่าของคุณวิน ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นคุณลุงกรของทั้งสองแสบ เขาเองก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนในครอบครัวหรอก เขาคือเพื่อนของคุณวินนี่นา เพื่อนที่สนิทกันมากๆเราอยู่ด้วยกันแบบนี้ ฉันว่ามันมีความสุขดีนะ ทุกครั้งที่ครอบครัวเรามารวมตัวกัน ฉันรู้สึกอบอุ่นรู้สึกดีจนบอกไม่ถูกเลย"หรือเราจะมีลูกกันอีกสักคนดีนะลิตา""....." หันหน้ามองคุณวิน จู่ๆ เขาก็พูดมาแบบนั้นจะไม่ให้ตกใจได้ยังไงก่อน ลูกเหรอ? มีได้น
เป็นแค่ภรรยาที่เขาไม่ได้ต้องการ เขามีคนรัก แต่เพราะเธอที่กำลังท้อง กำลังอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ หน้าที่ตรงนี้มันบีบบังคับ ให้เขาต้องยอมรับเธอ แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม เพราะไม่อย่างนั้น เขาจะถูกตัดออกจากกองมรดกทุกอย่าง และทุกๆ อย่างจะถูกยกให้กับเธอและลูกทั้งหมด ซึ่งเขายอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ เธอเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรจะมาฮุบสมบัติของคนอื่นได้ตามใจชอบคืนหลังวันแต่งงานที่แสนจอมปลอม ชายหนุ่มหอบเสื้อผ้าและข้าวของ เดินออกไปจากห้องหอที่ถูกแต่งประดับประดาไปด้วยข้าวของตระการตา บนเตียงนั้นก็ถูกโรยไว้ด้วยดอกกุหลาบสีแดงสวย"นั่นคุณจะออกไปไหนคะ?""ฉันนอนร่วมเตียงกับผู้หญิงอย่างเธอไม่ลงหรอก""....." คำพูดนั้นเล่นเอาเธอสะอึกจนจุกอกไปหมดเขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างก้าวร้าว คำพูดคำจานั้นเหมือนไม่ได้คิดและปรุงแต่งเลยสักนิด ถ้อยคำที่จ้องแต่จะดูถูกเธอนี่คือสิ่งที่เธอต้องเรียนรู้และต้องปรับตัวรับให้ได้"แต่คุณย่าของคุณ...""อยากให้แต่ง ก็แต่งให้แล้วนี่ จะต้องการอะไรอีก อย่าสำคัญตัวนักสิ"".....""เธอมันก็แค่ผู้หญิงง่ายคนนึงที่ยอมนอนแบให้ผู้ชายแล้วก็ปล่อยท้อง เพื่อที่จะผูกมัดผู้ชายหวังสมบัติ""......"ใช่! นี่แหละ
หลายวันต่อมาระหว่างที่เขาออกไปทำธุระข้างนอกนั้น ลิตาก็ได้ชงกาแฟพร้อมกับขนมคุกกี้สำหรับกินเล่นไปไว้ให้เขาที่ห้องทำงาน ก่อนจะกลับเข้าไปอยู่ในห้องนอนของตัวเอง เพราะไม่อยากให้เขาเห็นหน้าเธอแล้วรู้สึกไม่พอใจอีกขณะที่กำลังนั่งพับผ้าอยู่ เสียงเคาะประตูด้านนอกก็ดังขึ้นรัวๆ ราวกับว่ามันมีเรื่องร้ายแรงอะไร นั่นจึงทำให้เธอรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูทันทีและทันทีที่เธอเปิดประตูออกไป ก็ได้เจอกับแม่บ้านคนนึง ที่อยู่ในท่าทางตื่นตระหนก สีหน้าเหมือนกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง"มีอะไรหรือเปล่า?""รีบไปที่ห้องทำงาน ของคุณอนาวินเดี๋ยวนี้เลยค่ะ""....." เธอไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องทำงานของสามีในทันทีพอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเขายืนหน้าตึงอยู่ และแม่บ้านคนอื่นๆ ก็ยืนก้มหน้าอยู่ไม่ไกลกันด้วย บนโต๊ะมีร่องรอยของอาหารที่เหมือนจะหกเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเอกสารของเขาเกลื่อนไปหมดนั่นจึงทำให้เธอพอจะรู้แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้เขาหน้าตึงอยู่เป็นเพราะอะไร"กะ เกิดอะไรขึ้นคะ?""เธอใช่ไหมที่เป็นคนเอากาแฟมาวางไว้บนโต๊ะทำงานของฉัน?'"ใช่ค่ะ""ฉันเคยบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ว่าฉันจะไม่กินของอะไรที่เธอทำให้เด็ดขาด!" ใช่ เรื่องนี้เ
ชายหนุ่มยืนหันหลังอยู่กับระเบียงพยายามโทรหาใครสักคน แต่ดูเหมือนว่าปลายสายนั้นจะไม่ยอมรับสาย เขาดูกระวนกระวาย และสีหน้าไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอน คว้าเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองจากนั้นก็เดินลงมาด้านล่าง"คุณวินคะจะทาน...""ไม่ต้องยุ่งกับฉัน เธอจะกินก็กินไปเลยไม่ต้องรอ" เขาตอบกลับมาแค่นั้น น้ำเสียงห้วนๆ เหมือนไม่ค่อยอยากจะสนทนากับเธอสักเท่าไรหญิงสาวได้แต่ยืนมองผู้เป็นสามีขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่เธอเองก็ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าเขากำลังจะไปไหนในช่วงเวลาเย็นโพล้เพล้แบบนี้ระหว่างทางอนาวินก็พยายามโทรหาใครบางคนปลายสายอยู่ตลอด เขาร้อนใจยิ่งขึ้นเมื่อคนปลายสายนั้นไม่ยอมรับสายเขาเลย เท้าเหยียบคันเร่งจนแทบจะมิด ไม่นานนักก็มาถึงยังบ้านหลังนึง ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นอยู่ในซอยเล็กๆใช่! นี่เป็นบ้านของแฟนสาวของเขา ซึ่งก็ยังไม่ได้เลิกกัน แต่ทว่าเพราะเขาต้องแต่งงาน ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอมันจึงต้องจบลง โดยที่เขาเองก็ไม่ค่อยจะเต็มใจสักเท่าไหร่ด้วย"สวัสดีครับ""มาหาน้ำใสเหรอ?""ครับ""เข้ามาในบ้านก่อนสิ""ครับคุณน้า""เราใช่ไหมที่เป็นแฟนของน้ำใส เห็นน้ำใสพูดถึงอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่
กลางดึกในคืนวันเดียวกันกับที่อนาวินหายตัวออกไปโครม!เสียงดังภายนอกทำให้หญิงสาวที่กำลังเคลิ้มหลับเคลิ้มตื่นอยู่สะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบลุกออกจากเตียงเปิดประตูและแง้มออกไปดูว่ามันคือเสียงอะไร และพอได้เห็นเงาดำสูงใหญ่พร้อมกับเสียงยานคางของอาการคนเมา น้ำเสียงนั้นเธอจำได้เป็นอย่างดีร่างบางรีบเดินลงไปด้านล่าง ทั้งที่ชุดนอนของเธอก็ยังคงวาบหวิวอยู่ เธอตกใจจนไม่ทันได้คว้าผ้าคลุมมาปกปิดร่างกายของตัวเอง"คุณวินคะ!""อือใคร!?"น้ำเสียงนั้นเป็นอาการของคนเมาแบบไม่ต้องเดาเลย แต่เขาต้องดื่มหนักขนาดไหนถึงได้มีอาการแบบนี้ แล้วนี่กลับมาเองได้ยังไง เขาขับรถไปเองไม่ใช่เหรอ ดีเท่าไหร่แล้วเนี่ยที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ"ทำไมถึงเมาขนาดนี้คะ?" เธอรีบเข้าไปประคอง เพราะเขาเดินเซจนแทบประคองตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว"เธอเองงั้นเหรอ""เดี๋ยวลิตาพาขึ้นไปบนห้องนะคะ คุณค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดนะคะจะได้ไม่ล้ม""อือ..."เธอประคองผู้เป็นสามีขึ้นไปอย่างช้าๆ พาเข้าไปที่ห้องนอนของเขา จากนั้นก็จัดแจงถอดเสื้อผ้าด้านนอกของเขาออก เพื่อให้เขาได้สบายตัวมากกว่านี้ ครั้นจะพาเขาไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สร่างเมาก็คงจะไม่ไหว
หลังจากวันนั้น หลายวันถัดมา พรชิตา หรือลิตา ยังคงใช้ชีวิตอยู่เฉกเช่นเดิม เพราะเธอไปไหนไม่ได้ และความสัมพันธ์ของเธอและเขาก็แย่ลง หลังจากที่เขารับรู้มาว่าแฟนของตัวเองนั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังจากที่เขาได้แต่งงานกับเธอเธอเองก็ไม่คิดเหมือนกัน ว่าเรื่องราวมันจะเลวร้ายแบบนี้ เธอไม่ได้ต้องการให้ใครต้องมาตายเพราะเธอเพราะแบบนี้ไงเธอถึงถูกเขาเกลียดขี้หน้ามากยิ่งขึ้น จากปกติก็เกลียดอยู่ไม่น้อยแล้ว แต่ก็ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกดีกับเขามากยิ่งขึ้น ต่างจากเขาและก็ไม่รู้เพราะอะไร ช่วงแรกๆ ที่เธอเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ เธอถูกทุกคนในบ้านเกลียดขี้หน้า ไม่มีใครชอบหน้าเธอเลยสักคนเดียว ถึงแม้จะยอมพูดคุยกับเธอ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะชอบหน้าเธอสักหน่อย ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่เคยมีปากเสียงกับใครเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และหลายครั้งที่เธอมักจะถูกมองว่าเป็นคนผิด ถูกกล่าวหาให้เป็นจำเลยทั้งที่ไม่ได้เป็นคนกระทำ แต่เธอก็ไม่คัดค้าน ไม่เถียง เธอยังคงทำงานทำหน้าที่ของเธอตามปกติ จนคนในบ้านเริ่มที่จะเปิดใจยอมรับผู้หญิงอย่างเธอ ราวกับว่าเธอเริ่มเอาชนะใจทุกคนในบ้านได้แล้ว ยกเว้นอนาวิน ครืด ครืด ครืดหญิงสาวชำเลืองตามอ
บนโต๊ะอาหารที่ถูกเรียงรายไว้ด้วยอาหารมากมายหลากหลายอย่าง หน้าตาสีสันก็ดูน่ากินดีไม่น้อยเลยล่ะนะ แต่ของแบบนี้เขาเพิ่งจะเคยเห็น เพราะปกติแม่บ้านที่นี่ไม่ได้ทำอาหารแบบนี้นี่นา"คุณอนาวินคะ""อืม...""คุณลิตาเธอฝากบอกว่า ให้คุณอนาวินทานได้เลย ไม่ต้องรอค่ะ""แล้วอาหารพวกนี้ใครเป็นคนทำ?""เอ่อ..." แม่บ้านอึกอักไม่ยอมพูด แต่นั่นก็ทำให้เขารู้แล้วว่าทำไมแม่บ้านถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย เพราะอาหารพวกนี้แม่บ้านไม่ได้เป็นคนทำยังไงล่ะ"ฉันไม่กิน เอาไปเททิ้งให้หมด!"หญิงสาวเดินลงมาได้ยินคำพูดนั้นพอดี เธอรู้อยู่แล้วว่าเขาจะไม่ยอมกินหากรู้ว่าเธอเป็นคนทำ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนสั่งแบบนั้นด้วย"ไม่กินก็เก็บไว้ให้คนอื่นกินสิคะ""ของแบบนี้เธอกล้าทำได้ยังไง ทำได้แค่นี้เหรอ ฉันไม่กินของแบบนี้ และต่อให้มันดีกว่านี้แต่ถ้าเป็นฝีมือของเธอฉันก็ไม่กิน!""มันเป็นยังไงเหรอคะ คุณถึงไม่กิน?""ทุกอย่างที่เธอเป็นคนทำ ฉันจะไม่แตะต้อง จำใส่หัวกลวงๆ ของเธอไว้ด้วย!""......" หญิงสาวยืนนิ่ง ไม่ได้ตอบโต้ เพราะเธอชินแล้วล่ะกับการที่ถูกเขาหักหน้าเธอต่อหน้าแม่บ้านคนอื่นๆ แบบนี้"คิดจะมายืนเทียบเคียงฉัน เธอควรเรียนรู้อะไรให้มันมากก
อ้วกกก~ อ้วกกก~เสียงอาเจียนดังมาจากห้องของหญิงสาว อนาวินที่เดินขึ้นมาประจวบเหมาะกับได้ยินเสียงพอดีก็นึกสงสัย ทำให้เขาค่อยๆ เดินไปดูที่หน้าห้องของภรรยาด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาไม่ได้เห็นตัวของเธอ ได้ยินเพียงเสียงเหมือนคนที่กำลังอาเจียนอย่างหนักเท่านั้นแอ๊ด~ประตูค่อยๆ เปิดออก เมื่อมือของเขาสัมผัสกับประตู เธอไม่ได้ปิดห้องแต่เหมือนประตูถูกแง้มปิดเอาไว้เฉยๆชายหนุ่มค่อยๆ เดินเข้าไป เพราะเขาอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเสียงนี้มันเป็นเสียงของเธอใช่หรือเปล่าและก็ได้เห็นกับเธอจริงๆ หญิงสาวกำลังยืนโก่งคออาเจียนอยู่กับโถส้วมในห้องน้ำ สิ่งปฏิกูลที่เธอคายออกมาจากปาก ส่งเสียงซะจนเขารู้สึกสะอิดสะเอียนไม่น้อยเลยเหมือนกันอ้วกกก~เขายืนดูเธออยู่แบบนั้นถึงแม้จะรู้สึกสะอิดสะเอียน จนกระทั่งเธอล้างปากล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย และหันกลับมาได้เจอกับเขา เธอมีทีท่าตกใจอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน"คุณวินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?""ฉันเข้ามาก็เพราะได้ยินเสียงของเธอเนี่ยแหละ ทำไมถึงไม่รู้จักปิดประตู รู้ไหมว่ามันรบกวนคนอื่นเขา!" ทุกครั้งที่ได้คุยกับเธอ ไม่ว่าจะตอนไหน เขาก็มักจะมีน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจอยู่ตลอด คล้ายจ
หลายปีผ่านไปทุกๆ ปีวันเกิดของมาวินกับขนมหวาน ครอบครัวของเราจะมารวมตัวกันเพื่อจัดงานวันเกิดให้กับเด็กน้อยทั้งสอง ครอบครัวของเรามีความสุขมาก มีลูกชายที่เก่งและลูกสาวที่น่ารัก ยิ่งโตขึ้นน้องขนมหวานก็ยิ่งเหมือนกับฉัน และด้วยความที่เขาหน้าตาเหมือนแม่ ก็ไม่แปลกที่คนเป็นพ่อจะห่วงจะหวง แทบจะไม่มีเพื่อนเป็นผู้ชายเลย เพราะคุณวินเขาไม่ยอม หวงออกหน้าออกตาวันนี้เป็นวันเกิดของขนมหวาน อายุครบสี่ขวบเต็มแล้ว กำลังน่ารัก กำลังช่างพูดเลยล่ะ ส่วนมาวินก็เริ่มโตเป็นหนุ่มแล้ว แกเหมือนพ่อแต่ก็ไม่ได้เหมือนไปซะหมด แกยังมีส่วนที่เหมือนกับฉันอยู่บ้างเหมือนกันพอจัดงานเลี้ยงเราก็จะมารวมตัวกันเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อแม่และน้องของฉันและคุณย่าของคุณวิน ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นคุณลุงกรของทั้งสองแสบ เขาเองก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนในครอบครัวหรอก เขาคือเพื่อนของคุณวินนี่นา เพื่อนที่สนิทกันมากๆเราอยู่ด้วยกันแบบนี้ ฉันว่ามันมีความสุขดีนะ ทุกครั้งที่ครอบครัวเรามารวมตัวกัน ฉันรู้สึกอบอุ่นรู้สึกดีจนบอกไม่ถูกเลย"หรือเราจะมีลูกกันอีกสักคนดีนะลิตา""....." หันหน้ามองคุณวิน จู่ๆ เขาก็พูดมาแบบนั้นจะไม่ให้ตกใจได้ยังไงก่อน ลูกเหรอ? มีได้น
แปดเดือนต่อมาลิตาคลอดลูกคนที่สองแล้ว เป็นผู้หญิง เธอให้ชื่อว่าขนมหวาน เพราะเธอทำขนม และชื่อนี้ก็เพราะดีสำหรับเธอ มันคล้องจองกับพ่อของแกด้วย เธอเป็นคุณแม่ลูกอ่อนอีกครั้ง มีพี่เลี้ยงคอยช่วย เพราะเธอเองก็ต้องคอยเคลียร์งานที่ร้านอยู่บ่อยๆ เหมือนกันฟึ่บ~"เหนื่อยไหมวันนี้""ตกใจหมดเลยค่ะคุณวิน" เขาเล่นเข้ามาเงียบๆ ขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวจะปั๊มนมไว้ให้กับลูกสาว หลังจากที่แกนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว ไม่ตกใจให้มันรู้ไปสิ"ขวัญอ่อนใหญ่แล้วนะเธอเนี่ย""ไหนว่ามีประชุมไงคะ ทำไมถึงได้กลับมาเร็ว" ก่อนหน้าเขาโทรบอกเธอว่าจะกลับผิดเวลา เพราะมีประชุมด่วนกับพนักงาน เขาเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นประธานบริษัท ยังไงก็ต้องอยู่ร่วมประชุมด้วยอยู่แล้ว"ยกเลิกกระทันหันน่ะ พอดีเอกสารไม่ครบ เลยเลื่อนไปวันพรุ่งนี้แทน""อ๋อ...""กำลังจะปั๊มนมเหรอ?""ค่ะ ลูกหลับพอดี ต้องรีบเดี๋ยวนมคัด""ให้ฉันกินก็ได้นะ จะได้ไม่คัดนม""ลองกินแล้วไม่ใช่เหรอคะ คุณบอกว่าคาว จะอ้วกนี่""เปล่าสักหน่อย""คุณวิน อย่าบีบเดี๋ยวนมไหลค่ะ""นมเธอนี่ใหญ่ขึ้นมากเลยนะ ดูสิมือของฉันกำไม่หมดเลย""คุณวิน!" เธอกระแทกเสียงใส่ นับวันเขายิ่งหยาบคายกับเรื่องนี้เอามาก
อนาวินรีบขับรถไปหาภรรยาที่ร้านเบเกอรี่ของเธอ ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้น ไม่ได้สนใจลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านเลย"คุณวิน มีอะไรหรือเปล่าคะ?" ลิตารีบเดินเข้ามาดู สีหน้าของเขาดูตื่นตระหนกเหมือนกำลังตกใจกับอะไรอยู่สักอย่าง ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นกลัวอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน "คะ คุณวิน"หมับ~"คุณวิน...." เธอพูดเสียงแผ่ว เมื่อถูกอนาวินดึงเข้าไปกอดแน่น ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร แต่เธอก็ไม่ได้ผลักเขาออก ปล่อยให้เขากอดแน่นจนพอใจ "เป็นอะไรหรือเปล่าคะ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า""เธอท้อง รู้ตัวหรือเปล่า?""คะ?" ลิตาขมวดคิ้วเข้าหากัน มองหน้าของผู้เป็นสามีอย่างงงๆ เขาพูดเรื่องอะไร เธอไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอท้อง เพราะในเมื่อเธอเองก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองท้อง ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ"เธอกำลังท้อง" อนาวินพูดย้ำเสียงแข็งแต่ก็ยังสอดแทรกความอ่อนโยนอยู่ ซึ่งก็ทำให้ลูกค้าที่มานั่งรอพากันมองและยิ้มตามเหมือนกัน"วะ ว่าไงนะคะ ลิตาท้อง คุณวินรู้ได้ยังไงคะ?!" ต้องตกใจสิเพราะเธอยังไม่รู้เลยว่าท้อง มันเรื่องจริงหรือเขาแค่คิดไปเอง เธอไม่ได้มีอาการอะไรเลยนะ ช่วงนี้เธอเองก็ทำแต่ง
ตกเย็นลิตากลับถึงบ้าน แต่ทว่าบ้านมันกลับเงียบ ไม่มีลูกชายวิ่งมาต้อนรับเหมือนอย่างเคย แม่บ้านก็น่าจะพากันเข้าไปพักผ่อนที่ห้องนอนของตัวเองแล้วตอนนี้เธอไม่ค่อยสันทัดข้าวตอนเย็นสักเท่าไหร่"คุณวิน..." เธอร้องเรียก เมื่อเดินขึ้นมาด้านบนแล้วเห็นผู้เป็นสามีกำลังยืนหันหลังทำอะไรอยู่ในขณะเดียวกันสายตาของลิตาก็มองหาลูกชายตัวน้อยของเธอด้วย ปกติสองพ่อลูกเขาจะอยู่ด้วยกันนี่นา แต่นี่ยังมองไม่เห็นลูกน้อยของเธอเลยหรือว่าหลับไปแล้วนะ"หืม?""ลูกล่ะคะ หลับแล้วเหรอ?""ไม่รู้สิ ฉันพาไปส่งอยู่กับคุณย่าน่ะ ท่านคิดถึงหลาน เจ้าแสบก็อยากไปหาคุณทวดด้วย""....." ลิตายืนเหวออยู่เล็กน้อย เพราะเธอไม่รู้ว่าอนาวินจะพาลูกชายไปโดยที่ไม่ได้บอกอะไรกับเธอก่อนอย่างนี้"ไปตั้งแต่กลับมาจากร้านแล้ว ฉันไม่ได้กลับบริษัท ฉันไปบ้านคุณย่ามา""จะไปแสบจนคุณย่าไมเกรนขึ้นอีกหรือเปล่าคะเนี่ย""ไม่หรอก คุณย่าสายเปย์นะ เจ้าแสบมันรู้ไง มันถึงไป"พูดจบทั้งสองก็มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะออกมา มันอดไม่ได้จริงๆ พอนึกถึงเรื่องนี้น่ะนะ คุณทวดก็แสนจะรักจะหลงเหลนชายคนแรก อยากได้อะไร ขนมของเล่น แค่เดินไปหอมแก้ม พูดหวานอ้อนๆ หน่อยก็ได้ทุกอย่างแล้
เวลาต่อมามาวินน้อยเติบโตขึ้น กลายเป็นเด็กน้อยแสนซน เด็กดื้อที่ทำเอาคนเป็นพ่อถึงกับเพลียเลยเหมือนกัน เขาคอยดูแลลูกเลี้ยงลูกเองระหว่างที่เธอไม่อยู่ ตอนนี้ลิตามีงานเป็นของตัวเองแล้ว เธอเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆ โดยที่มีอนาวินเป็นคนลงทุนให้ เธออยากมีงานทำ และอนาวินก็ไม่ได้ขัดเพราะนี่เป็นความสุขของเธอ มันเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่เธอก็อยากทำ เพราะเธอมีฝีมือด้านนี้ไม่น้อยเลยเหมือนกันร้านเบเกอรี่มาวินน้อย เธอตั้งชื่อร้านตามชื่อของลูกชาย เธออยากให้เขามีส่วนร่วมในนี้ด้วย เช่นเดียวกับอนาวิน ที่รวมอยู่ในชื่อนั้นแล้วช่วงแรกร้านของเธอมีลูกค้าไม่มาก แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีกระแสตอบรับที่ดี เธอทำขนมเก่งและมีหัวคิดรู้จักพลิกแพลงอาหารให้เป็นไปตามตลาดของลูกค้า เพราะแบบนั้นร้านของเธอจึงได้รับกระแสตอบรับดีมากขึ้นหลังจากที่เปิดร้านมาได้สักระยะนึงแล้ว และก็ต้องจ้างพนักงานมาคอยช่วยอยู่หน้าร้าน"แม่...""มาวิน!" ลิตารีบเดินออกมาต้อนรับลูกชายที่เข้ามาในร้าน ไม่คิดว่าสองพ่อลูกจะพากันมาหาเธอที่นี่"ยุ่งมากไหม?" อนาวินเอ่ยถามภรรยา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ด้านใน ซึ่งพนักงานยังดูวุ่นๆ กันอยู่เลย เขาไม่รู้ว่าเธอจะยุ่งม
เวลาผ่านไปพอกลับจากเที่ยวทะเลอนาวินก็กลับไปทำงานเช่นเดิม ส่วนลิตาก็คอยดูแลลูกอยู่ที่บ้าน ทำเหมือนเดิมที่เคยอยู่กับเขา แต่มันต่างกันตรงที่ว่าตอนนี้ทั้งสองเข้าใจความรู้สึกของกันและกันแล้วอนาวินไม่ได้ขอลิตาแต่งงานใหม่ เพราะนั่นเป็นความต้องการของเธอ เธอไม่อยากให้มันมีการแต่งงานซ้ำซ้อน ไม่อยากให้มีคำถามเกิดขึ้นว่าแต่งงานไปแล้วทำไมต้องแต่งรอบสอง และด้วยนิสัยของเธอ ที่ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายสักเท่าไรด้วยบริษัทของอนาวินลิตาจูงมือลูกชายเดินเข้าไปในบริษัทของผู้เป็นสามี ทุกคนต่างให้ความเคารพเธอ ในฐานะของภรรยาประธานบริษัท ซึ่งต่างจากตอนแรกที่เธอเคยมามาก เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักเธอเลย"คุณลิตา สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะ คุณวินอยู่ในห้องใช่ไหมคะ""อยู่ค่ะ คุณกรก็อยู่นะคะ""ขอบคุณมากนะคะ""สวัสดีครับหนุ่มน้อย วันนี้มาเที่ยวหาพ่อเหรอครับ ค่าตัวแพงนะเราไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาเลย พ่อคงหวงมากล่ะสิท่า""หึหึค่ะ มาวินครับ สวัสดีครับคุณป้าก่อนเร็ว""ซาหวัดดีคับ""หืม ตัวแค่นี้ พูดเก่งแล้วนะเราเนี่ย""ฉันขอพามาวินเข้าไปข้างในก่อนนะคะ""ค่ะ"กับเลขาคนนี้เธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วยหรอก เพราะมาร
ตกกลางดึกในวันเดียวกัน"ลูกหลับแล้วนะ" อนาวินใช้นิ้วจิ้มคนรักที่นอนอยู่ข้างๆ ก่อนจะจูบลงบนหัวไหล่ของเธออย่างยั่วยวน"อะไรคะ นอนสิ""ไม่เอา ไม่นอน" เขาพูดอย่างเอาแต่ใจ จะให้นอนได้ยังไงกัน อารมณ์ของเขามันขึ้นขนาดนี้แล้ว ตรงนั้นมันแข็งดันพร้อมรบออกมาเต็มที่ซะขนาดนี้ จะให้ทำยังไงถ้าไม่ทำอย่างว่า"ไม่นอนแล้วจะทำอะไรคะ?" เธอหันไปถามพร้อมกับยิ้มกริ่ม รู้แหละว่าเขาต้องการอะไร แค่อยากจะแกล้งเข้าก็เท่านั้นแหละ"ออกไปนอกระเบียงกันไหม ลูกจะได้ไม่ต้องสะดุ้งเพราะเสียงของเราสองคน""แต่ว่า...""เชื่อฝีมือของฉันเถอะ"อนาวินถือผ้าห่มนวมออกไปด้านนอกระเบียง ปูคล้ายกับที่นอนปิคนิค ก่อนจะดึงภรรยาเข้าไปกอดแน่น เสียงคลื่นทะเล ลมเย็นๆ แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา มันสวย มันดีลงตัวไปหมดเลยจริงๆ"อากาศดีจังเลยค่ะ""ใช่ไหม อากาศดีๆ แบบนี้ เราก็ควรจะ...ทำแบบนั้นกันใช่ไหม" มือของเขาลูบไล้สัมผัสไปทั่วร่างกายของเธอ ทำเอาเธอขนลุกไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศเย็นๆ หรือเป็นเพราะมือของเขาที่เย็นเฉียบกันแน่"ถ้าลูกตื่นก่อนจะทำยังไงคะ?""ไม่ตื่นง่ายๆ หรอก ฉันตัดกำลังไปแล้วนะ""หือ...แกล้งลูกเหรอคะ?" เธอจ้องมองหน้าของเขา รู้แล้
ครืน~ ครืน~ ครืน~เสียงคลื่นทะเลซัดกระทบเข้าฝั่ง ลมทะเลเย็นสบาย ลิตาเดินเล่นอยู่ริมชายหาดขณะที่อนาวินพาลูกชายตัวน้อยของเธอลงเล่นน้ำ อากาศเย็นสบาย แถมเงียบเป็นส่วนตัวมากอีกด้วย ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เธอได้มาทะเล แต่มันเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเที่ยวแบบส่วนตัวอย่างนี้ ครั้งหนึ่งเธอเคยไปเที่ยวกับเพื่อน แต่มันก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย คนเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดแต่เห็นว่าที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่เข้ามาวุ่นวาย และก็จะมีเพียงคนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามาได้เธอเดินไปนั่งตรงชิงช้าที่ผูกไว้อยู่ใต้ต้นไม้ริมทะเล มองดูสองพ่อลูกที่กำลังเล่นน้ำอยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนานก่อนที่จะยิ้มออกมา เธอมีความสุขมากๆ เป็นความสุขที่เธอบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลยจริงๆหลังจากที่อนาวินรักษาตัวเองจนหาย เขาก็กลับเข้าไปทำงานต่อ จนกระทั่งมีวันหยุดเลยพาครอบครัวมาเที่ยวที่ทะเล ในช่วงเข้าฤดูร้อน มันเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษสำหรับเธอมากจริงๆ เลยล่ะตกเย็นพอเล่นน้ำกันสมใจแล้ว อนาวินก็พาลูกชายขึ้นมาจากทะเล พากันไปอาบน้ำในห้องน้ำ ขณะที่ลิตากำลังเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นอยู่สองพ่อลูกพากันเดินออก
เวลาผ่านไปอนาวินได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วหลังจากที่ต้องอยู่รักษาตัวที่นั่นอยู่อาทิตย์กว่าได้ แต่ก็ยังต้องกลับมารักษาตัวที่บ้านอยู่เหมือนกัน"ค่อยๆ เดินนะคะคุณวิน""ฉันว่าฉันหายแล้วนะ ฉันอุ้มเธอได้ด้วยเชื่อสิ""อย่าเก่งค่ะ เอาตัวเองให้รอดก่อน""ลิตา เธอนี่มันแม่มดชัดๆ ตอนอยู่โรงพยาบาลอยากนอนกอดก็ไม่ได้ หอมแก้มก็ไม่ได้ เอาแต่บังคับให้ฉันกินยา เธอมันใจร้ายที่สุด""ลิตาไม่ใช่แม่มดนะคะ""เธอมันแม่มดใจร้าย""หยุดนะ!""ขอโทษคร้าบ""ก็คุณน่ะชอบทำตัวเหมือนเด็ก ลิตาก็ต้องรับบทแม่ใจร้ายไงคะ ไม่อย่างนั้นคุณวินก็เอาแต่ใจตัวเองอีก""....." อนาวินได้แต่ทำหน้าบูดบึ้ง นั่งลงนิ่งๆ และปล่อยให้ลิตาจัดการจัดแจงเกี่ยวกับตัวของเขา เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนกระทั่งแม่ของลิตาอุ้มลูกน้อยที่เพิ่งตื่นเข้ามาหาเขาที่ห้องนอน"ปะ ป๋า..." เด็กน้อยที่กำลังอยู่ในช่วงหัดพูดเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อ พร้อมกับส่งยิ้มหยีจนเห็นฟันสองซี่ที่ขึ้นมา"มาวินน้อยของพ่อ""ระวังด้วยนะคะ ลูกยังไม่รู้เรื่อง เขาจะถูกแผลของคุณวินเอา อีกอย่างหมอสั่งห้ามงดยกของเป็นเวลาสามเดือน เข้าใจไหมคะ?""เข้าใจแล้วครับ"อนาวินอุ้มลูกชายไปนั่งอยู่บนตัก ยังด