บ้านสวนของลิตา"ใครเอาปลามาให้เนี่ย ปลาเนื้อทั้งนั้นเลย พ่อเราชอบมากเลยนะเนี่ย" ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม เมื่อเห็นปลาถุงใหญ่วางอยู่ในครัว"เอ็มเขาแวะเอามาให้ แม่ยังจำได้ไหม เพื่อนของหนูที่เคยเรียนด้วยกันน่ะ""อ๋อ ที่ตอนนี้เขาเป็นครูอยู่สินะ จำได้สิ เจอหน้ากันอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน""วันที่ไปตลาดหนูไปเจอกับเขาน่ะ ก็เลยได้คุยกันนิดหน่อย เขารู้ว่าหนูมาอยู่บ้าน เห็นว่าไปหาปลามา ก็เลยแวะเอาปลามาให้มาวินน้อย""อ๋อ มีน้ำใจจริงๆ เลย""......"ลิตาไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเป็นลูกมือช่วยแม่ของเธอทำกับข้าวอย่างเงียบๆ เพราะพ่อคอยดูแลมาวินน้อยให้แล้ว เธอเลยมาช่วยแม่ทำงานในครัวได้"ลิตา...""จ๋าแม่""แม่ขอถามอะไรหน่อยสิ""จ้ะแม่""ทะเลาะกับเขามาใช่ไหม ถึงได้พาลูกกลับมาเนี่ย""......" เงียบไม่ตอบ กำลังคิดอยู่ว่าจะตอบแม่ยังไงดี"เป็นสามีภรรยากันแล้ว หนักนิดเบาหน่อยก็ต้องให้อภัยกันนะ ยิ่งตอนนี้มีลูกด้วยกันอีกแล้ว ยิ่งต้องนึกถึงความรู้สึกของลูกให้มากๆ เข้าใจไหม" เป็นคำพูดปลอบใจ แต่ก็เหมือนจะทำให้เธอคิดได้และกลับไปหาเขา และคุยกันด้วยเหตุผลเพื่อมาวินน้อยแต่มันถึงเวลาที่เธอคงต้องพูดความจริงแล้วล่ะ เพราะไม่อย่างนั้นแม่ข
เวลาผ่านไปทั้งอย่างนี้ร่วมเดือนได้ อนาวินพยายามประกาศออกตามหาแล้ว แต่ด้วยความที่ลิตาไม่ได้เป็นที่รู้จักของใครเลย จึงไม่มีใครรู้จักเธอ และก็ไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนเป็นเพื่อนกับใครครอบครัวเป็นยังไงและตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาใช้ชีวิตเหมือนคนไม่มีตัวตน ไม่ออกไปพบปะกับใคร บ้านที่เคยอยู่ก็กลับบ้างไม่กลับบ้าง เพราะกลับไปแล้วต้องจมอยู่กับความรู้สึกเดิมๆ เขาเลยเลือกที่จะไม่กลับ และอาศัยอยู่ที่บริษัทมากกว่า ทั้งกินนอนเปลี่ยนเสื้อผ้าตกค่ำวันนึงเป็นวันที่อนาวินไม่กลับบ้านเหมือนอย่างเคย การกระทำของเขาทำให้แม่บ้านที่ทำงานอยู่ต่างพากันชินไปหมดแล้ว ชินกับความเงียบเหงา ชินกับเจ้านายที่เย็นชาและขณะที่แม่บ้านกำลังจะเก็บกวาดข้าวของภายในบ้าน เสียงรถก็ดังเข้ามา ไม่นานนักเจ้าของรถคันนั้นก็เดินเข้ามาในบ้านซึ่งไม่ใช่เจ้านาย อย่างที่ทุกคนคิดเอาไว้"ไอ้วินไปไหน มันอยู่บ้านไหม?""คุณวินไม่กลับบ้านนะคะ""อะไรนะ แล้วมันไปไหน ป่านนี้มันน่าจะเลิกงานแล้วสิ""ไม่มีใครรู้เหมือนกันค่ะ ตั้งแต่คุณลิตาไม่อยู่คุณวินก็ไม่ค่อยกลับเข้าบ้านอีกเลย นานๆ ทีจะกลับมาค่ะ""......" ธนากรเดินออกมาจากบ้านด้วยความกระวนกระวายใจ
หลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสนิท อนาวินก็พอจะมีหนทางตามหาภรรยาและลูกแล้ว ถึงแม้มันจะดูริบหรี่แต่มันก็ดีกว่าเขาไม่ลงมือทำอะไรเลยเพราะยังไม่ได้เซ็นใบหย่าเขาและเธอจึงยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ และก็ยังมีสิทธิ์ในตัวของเธอ มีสิทธิ์ในตัวของลูกครึ่งนึงเช่นเดียวกับเธอด้วย และก็มีสิทธิ์ที่จะตามหาภรรยาของตัวเอง ในฐานะสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายถึงการใช้สิทธิ์นี้มาอ้างมันจะดูน่าเกลียดมากก็เถอะ เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำหน้าที่สามีได้อย่างดีเลย"ได้เรื่องว่ายังไงบ้างไอ้วิน?" เพื่อนสนิทเอ่ยถาม"ส่งข้อมูลไปขอที่อยู่ของเธอตามทะเบียนบ้านแล้ว อีกไม่นานก็คงจะได้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน""แล้วมึงจะรู้จักเหรอ มึงไม่เคยรู้จักบ้านของลิตาเลยนะ""พอถึงเวลานั้นแล้วกูคิดว่ากูคงหาทางออกได้แหละ""......"คุณย่าครับในเมื่อคุณย่าไม่ยอมช่วยผม ผมก็จะช่วยเหลือตัวเองนี่แหละ ผมรู้ครับว่าผมทำไม่ดี การที่คุณย่าจะไม่ช่วยเหลืออะไรเลยผมเองก็ไม่โกรธและเข้าใจคุณย่าดี ผมมันโง่เองที่ไม่ยอมเชื่อคุณย่าตั้งแต่แรก เอาแต่หลงงมงายอยู่กับผู้หญิงที่หลอกผมมาโดยตลอดที่คบกันความจริงเขากับคุณย่าก็ไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรกันมากมายอยู่แล้ว เพราะเขาเป็น
หลังจากนั้นสองวันต่อมาอนาวินขับรถมาที่ต่างจังหวัดที่เป็นบ้านเกิดตามทะเบียนบ้านของลิตา พอมาถึงก็อาศัยถามทางคนอื่นเรื่อยๆ เพราะไม่รู้ว่าเธออยู่ที่บ้านหลังไหน แต่ยอมรับว่าค่อนข้างไกลเลยเหมือนกัน ถ้านั่งรถมาเองเธอก็คงต้องนั่งรถหลายต่ออยู่เหมือนกันจนกระทั่งเขาได้มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังนึง ซึ่งเป็นบ้านหลังสุดท้ายของซอยแล้ว เขาขับรถเข้ามาตามที่คนที่อยู่ข้างนอกบอก แม้จะมีคนบอกมาแบบนั้นแต่เขาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีนั่นแหละว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของลิตาจริงๆอนาวินยืนอยู่แบบนั้น จะเรียกก็ไม่กล้า ได้แต่ยืนมองเข้าไปข้างในอย่างเงียบๆ มันค่อนข้างร่มรื่นเงียบสงบ ตามประสาชนบท บ้านหลังไหนที่มีต้นไม้เยอะหน่อยก็จะร่มรื่น ยิ่งเป็นบ้านที่มีสวนด้วยอีกทีแล้ว หน้าร้อนไม่ต้องกลัวร้อนเลยเพราะมีต้นไม้คอยให้ความร่มรื่นอยู่แล้วขณะที่กำลังยืนคิดอยู่นั้น ก็มีคนเดินออกมา การแต่งตัวบ้านๆ มองดูเผินๆ ก็เหมือนจะเป็นเช่าบ้านธรรมดาทั่วไป แต่เขาจำได้ จำบุคลิกได้ จำท่าทางในการเดินได้ มันคือเธออย่างแน่นอน"ลิตา!""......" เสียงนั้นทำให้เจ้าตัวรีบหันกลับมามองในทันที ถึงจะได้เจอหน้ากัน ได้สบตากัน แต่แววตาของเธอมันกลับนิ่งเฉยไม่ได
แม่ของลิตาพาอนาวินเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็จัดหาข้าวปลาอาหารมาให้กิน ซึ่งก็เป็นกับข้าวที่เหลือค้างในตอนเย็นนั่นแหละ มันมีเหลือเท่านี้แล้วจริงๆ แต่ยังดีที่ฝนตกอากาศเย็นมันไม่ได้เสียถึงจะไม่ค่อยเต็มใจที่อนาวินเข้ามาในบ้านแบบนี้ เพราะถ้าลูกสาวรู้สามีของตัวเองรู้ คงได้ถูกโกรธแน่ๆ ล่ะ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ตัวเองก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไรด้วย อีกอย่างเขาก็เป็นพ่อของหลานตัวเอง เป็นคนที่เคยช่วยเหลือตนเองและครอบครัวเช่นกัน"กินข้าวก่อนเถอะ กับข้าวมันมีเหลือเท่านี้แหละ ลิตามันทำเอาไว้""ขอบคุณครับคุณน้า"อนาวินรีบตักข้าวใส่ปากด้วยความหิว พอได้เคี้ยวได้รู้ถึงรสชาติอาหารที่คุ้นลิ้นก็ทำเอาเขาน้ำตาซึมเลย นั่งกินข้าวทั้งที่น้ำตาคลอ ก่อนที่จะไหลออกมา แต่เขาก็ไม่ได้หยุดกิน ยังคงนั่งกินอยู่แบบนั้นอาหารพวกนี้ลิตาเคยทำให้เขากินจริงๆ เธอทำอร่อย เป็นคนมีฝีมือในการทำอาหารมาก แต่เพราะอคติมันบังตา ไม่ว่าอะไรที่เธอทำมันก็ไม่เข้าตาเขาเลยสักอย่าง ต่อให้สิ่งนั้นมันจะดีแล้วก็ตาม เช่นอาหารที่เธอทำให้ในแต่ละครั้ง แต่เขาก็มักจะไปต่อว่าเธอ ว่าทำอาหารดีๆ ไม่เป็น ทำเป็นแต่กับข้าวบ้านนอกแบบนี้ ทั้งที่มันอร่อยแทบตาย เขารีบตักก
ก๊อกๆๆๆ"ลิตา มากินข้าวกันเถอะลูก" ผู้เป็นแม่เดินเข้ามาตาม ตั้งแต่เจอหน้ากับอนาวินเมื่อเช้าเธอก็เอาแต่เก็บตัวไม่ออกไปเจอเขาเลย ทั้งที่ปกติตอนเช้าๆ เธอจะชอบเดินเข้าสวนแท้ๆ"หนูไม่หิว""อย่าทำแบบนี้สิ ออกมาเร็วๆ""หนูไม่อยากกินหรอกแม่ ถ้ามีเขา""ทำไมล่ะ""หนูมากกว่าที่ควรเป็นฝ่ายตั้งคำถามกับแม่ ว่าทำไมถึงยอมให้เขาเข้ามา เขาทำไม่ดีกับลูกแม่ตั้งเยอะนะ""....." ผู้เป็นแม่ไม่ได้ตอบ แต่เมื่อคืนที่พอจะได้รู้เหตุผลคร่าวๆ ของอนาวินแล้วก็พอจะเข้าใจ"หนูจะไม่กลับไปหาเขา""แน่ใจแล้วเหรอที่จะเลี้ยงลูกเอง""ถ้าหนูไม่แน่ใจ หนูไม่กลับมาหรอกแม่ หนูไม่คิดว่าเขาจะตามมาเจอด้วยซ้ำ""คิดว่าเขาไม่รักลูกตัวเองเลยเหรอ ลองคิดกลับกัน ถ้าหนูถูกพรากไปพ่อของหนูจะเสียใจมากแค่ไหน เขาก็เหมือนกับพ่อนั่นแหละ""ไม่เหมือน แม่อย่าเอาเขาไปเปรียบเทียบกับพ่อสิ เขาไม่เหมือนสักหน่อย""เหมือนสิ ในฐานะของคนเป็นพ่อไง เขาก็เป็นพ่อแล้วเหมือนกัน""....." ลิตามองหน้าของผู้เป็นแม่ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ของเธอถึงได้พยายามสื่อให้เธอเข้าใจอะไรในตัวของอนาวินขนาดนี้ เธอตัดสินใจแล้ว และเธอจะไม่กลับไปกับเขาแน่ๆ คนรักของตัวเองกลับมาแล้ว ก็ไปอย
เวลาผ่านไปอนาวินยังคงอยู่แบบนั้นเขาไม่ยอมกลับอย่างที่บอกจริงๆ แม้จะถูกพ่อของเธอนั้นใช้งานหนักสารพัดแต่เขาก็ยังอยู่ งานที่พ่อของเธอทำมันเป็นงานในสวนในไร่ ซึ่งเขาเองก็ไม่เคยทำงานแบบนี้เลย เคยอยู่แต่ในบริษัท นั่งอยู่ในห้องแอร์ จับปากกาเซ็นเอกสารเท่านั้น ไม่เคยต้องมาตรากตรำตากแดดตากฝนเพื่อทำงานแบบนี้"พี่ครูเอ็มมา!" เสียงตะโกนของน้องชาย ลิตาที่กำลังนั่งป้อนข้าวลูกอยู่ก็รีบเดินออกไปดูทันที ซึ่งนั่นก็ทำให้อนาวินรีบตามไปเช่นกัน เพราะอยากรู้ว่าเป็นใคร"มาค่ำเชียว มีอะไรหรือเปล่าเอ็ม""แวะเอาปลาช่อนนามาฝากน่ะ คืนก่อนไปปักเบ็ดมา ได้มาหลายตัวเหมือนกันก็เลยแวะเอามาฝาก จะได้เอาไปต้มให้เจ้าตัวน้อยกิน""ขอบคุณมากนะเอ็ม""ไม่เป็นอะไร"ขณะที่ทั้งสองกำลังยืนสนทนากันอยู่ อนาวินที่เดินตามมาด้วยก็เอาแต่จ้องมองผู้ชายอีกคนตาเขม็ง เขาไม่รู้ว่าคนนี้เป็นใคร แต่รู้สึกไม่ชอบสายตาที่กำลังมองภรรยาของเขาเลย"เข้ามาในบ้านก่อนไหม""ลิตา...ได้ปลาแล้วก็เอาไปไว้เถอะ เธอต้องไปป้อนข้าวลูกอีกนะ ลูกยังกินข้าวไม่อิ่มเลย" อนาวินพูดแทรกขึ้นมา และย้ำคำว่าลูกให้กับคนตรงหน้าได้ยินชัดๆ"อ่ะ ไหนๆ ก็เดินตามออกมาแล้ว เอาปลาเข้าไปไว้
ตอนเช้าอนาวินก็ตื่นไปทำงานกับพ่อของลิตาตั้งแต่เช้าตรู่ ตามประสาคนชาวบ้านที่มีอาชีพเป็นเกษตรกร ส่วนลิตาก็อยู่ที่บ้านคอยดูแลลูกน้อยของเธอ ตกเย็นก็เตรียมข้าวปลาอาหารไว้รอคนทำงานกลับมาตกเย็นอนาวินก็กลับมาพร้อมกับพ่อของลิตา เขาใส่เสื้อผ้าของพ่อเธอ เพราะไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าสำหรับทำงานในสวนมาเลย และเสื้อผ้าที่เขาเตรียมมาก็มีไม่กี่ชุดด้วย ได้ทำงานแบบนี้ดูเหมือนเขาจะกำลังถูกพ่อของเธอพิสูจน์ความอดทนอยู่ ถ้ารักลูกสาวของเขาจริง จริงจังกับลูกสาวของเขาจริงๆ ก็ต้องทนได้สินะ และบทพิสูจน์ก็ค่อนข้างหนักหนาอยู่เหมือนกัน พ่อตาก็ดุขนาดนี้ด้วย"ฮ่าร้อน~""ปะปะ""หูย...ได้ยินเสียงแล้วมันน่าชื่นใจสักทีจริงๆ" อนาวินเดินเข้าไปหา แต่กลับถูกลิตาถอยหนี จนเขาต้องชะงักหน้าเสียอยู่เหมือนกัน แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้ทำงานบริษัทแต่เขาเพิ่งจะกลับมาจากไร่ เนื้อตัวก็มีแต่ฝุ่นคันทั้งนั้น ก็ไม่แปลกที่ลิตาจะขยับลูกหนี เพราะถ้าเด็กโดนเข้าไป มีหวังได้ผื่นเต็มตัวแน่ๆ"เข้ามาจับลูกไม่ได้นะคะคุณวิน เดี๋ยวแกเป็นผื่น คุณวินไปเข้าป่ามานะคะ""ขอโทษ พอดีฉันลืมตัวน่ะ เดี๋ยวพ่อไปอาบน้ำแป๊บนึงนะ แล้วจะมาเล่นด้วย"จากนั้นเจ้าตัวก็รีบเ
หลายปีผ่านไปทุกๆ ปีวันเกิดของมาวินกับขนมหวาน ครอบครัวของเราจะมารวมตัวกันเพื่อจัดงานวันเกิดให้กับเด็กน้อยทั้งสอง ครอบครัวของเรามีความสุขมาก มีลูกชายที่เก่งและลูกสาวที่น่ารัก ยิ่งโตขึ้นน้องขนมหวานก็ยิ่งเหมือนกับฉัน และด้วยความที่เขาหน้าตาเหมือนแม่ ก็ไม่แปลกที่คนเป็นพ่อจะห่วงจะหวง แทบจะไม่มีเพื่อนเป็นผู้ชายเลย เพราะคุณวินเขาไม่ยอม หวงออกหน้าออกตาวันนี้เป็นวันเกิดของขนมหวาน อายุครบสี่ขวบเต็มแล้ว กำลังน่ารัก กำลังช่างพูดเลยล่ะ ส่วนมาวินก็เริ่มโตเป็นหนุ่มแล้ว แกเหมือนพ่อแต่ก็ไม่ได้เหมือนไปซะหมด แกยังมีส่วนที่เหมือนกับฉันอยู่บ้างเหมือนกันพอจัดงานเลี้ยงเราก็จะมารวมตัวกันเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อแม่และน้องของฉันและคุณย่าของคุณวิน ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นคุณลุงกรของทั้งสองแสบ เขาเองก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนในครอบครัวหรอก เขาคือเพื่อนของคุณวินนี่นา เพื่อนที่สนิทกันมากๆเราอยู่ด้วยกันแบบนี้ ฉันว่ามันมีความสุขดีนะ ทุกครั้งที่ครอบครัวเรามารวมตัวกัน ฉันรู้สึกอบอุ่นรู้สึกดีจนบอกไม่ถูกเลย"หรือเราจะมีลูกกันอีกสักคนดีนะลิตา""....." หันหน้ามองคุณวิน จู่ๆ เขาก็พูดมาแบบนั้นจะไม่ให้ตกใจได้ยังไงก่อน ลูกเหรอ? มีได้น
แปดเดือนต่อมาลิตาคลอดลูกคนที่สองแล้ว เป็นผู้หญิง เธอให้ชื่อว่าขนมหวาน เพราะเธอทำขนม และชื่อนี้ก็เพราะดีสำหรับเธอ มันคล้องจองกับพ่อของแกด้วย เธอเป็นคุณแม่ลูกอ่อนอีกครั้ง มีพี่เลี้ยงคอยช่วย เพราะเธอเองก็ต้องคอยเคลียร์งานที่ร้านอยู่บ่อยๆ เหมือนกันฟึ่บ~"เหนื่อยไหมวันนี้""ตกใจหมดเลยค่ะคุณวิน" เขาเล่นเข้ามาเงียบๆ ขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวจะปั๊มนมไว้ให้กับลูกสาว หลังจากที่แกนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว ไม่ตกใจให้มันรู้ไปสิ"ขวัญอ่อนใหญ่แล้วนะเธอเนี่ย""ไหนว่ามีประชุมไงคะ ทำไมถึงได้กลับมาเร็ว" ก่อนหน้าเขาโทรบอกเธอว่าจะกลับผิดเวลา เพราะมีประชุมด่วนกับพนักงาน เขาเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นประธานบริษัท ยังไงก็ต้องอยู่ร่วมประชุมด้วยอยู่แล้ว"ยกเลิกกระทันหันน่ะ พอดีเอกสารไม่ครบ เลยเลื่อนไปวันพรุ่งนี้แทน""อ๋อ...""กำลังจะปั๊มนมเหรอ?""ค่ะ ลูกหลับพอดี ต้องรีบเดี๋ยวนมคัด""ให้ฉันกินก็ได้นะ จะได้ไม่คัดนม""ลองกินแล้วไม่ใช่เหรอคะ คุณบอกว่าคาว จะอ้วกนี่""เปล่าสักหน่อย""คุณวิน อย่าบีบเดี๋ยวนมไหลค่ะ""นมเธอนี่ใหญ่ขึ้นมากเลยนะ ดูสิมือของฉันกำไม่หมดเลย""คุณวิน!" เธอกระแทกเสียงใส่ นับวันเขายิ่งหยาบคายกับเรื่องนี้เอามาก
อนาวินรีบขับรถไปหาภรรยาที่ร้านเบเกอรี่ของเธอ ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้น ไม่ได้สนใจลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านเลย"คุณวิน มีอะไรหรือเปล่าคะ?" ลิตารีบเดินเข้ามาดู สีหน้าของเขาดูตื่นตระหนกเหมือนกำลังตกใจกับอะไรอยู่สักอย่าง ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นกลัวอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน "คะ คุณวิน"หมับ~"คุณวิน...." เธอพูดเสียงแผ่ว เมื่อถูกอนาวินดึงเข้าไปกอดแน่น ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร แต่เธอก็ไม่ได้ผลักเขาออก ปล่อยให้เขากอดแน่นจนพอใจ "เป็นอะไรหรือเปล่าคะ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า""เธอท้อง รู้ตัวหรือเปล่า?""คะ?" ลิตาขมวดคิ้วเข้าหากัน มองหน้าของผู้เป็นสามีอย่างงงๆ เขาพูดเรื่องอะไร เธอไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอท้อง เพราะในเมื่อเธอเองก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองท้อง ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ"เธอกำลังท้อง" อนาวินพูดย้ำเสียงแข็งแต่ก็ยังสอดแทรกความอ่อนโยนอยู่ ซึ่งก็ทำให้ลูกค้าที่มานั่งรอพากันมองและยิ้มตามเหมือนกัน"วะ ว่าไงนะคะ ลิตาท้อง คุณวินรู้ได้ยังไงคะ?!" ต้องตกใจสิเพราะเธอยังไม่รู้เลยว่าท้อง มันเรื่องจริงหรือเขาแค่คิดไปเอง เธอไม่ได้มีอาการอะไรเลยนะ ช่วงนี้เธอเองก็ทำแต่ง
ตกเย็นลิตากลับถึงบ้าน แต่ทว่าบ้านมันกลับเงียบ ไม่มีลูกชายวิ่งมาต้อนรับเหมือนอย่างเคย แม่บ้านก็น่าจะพากันเข้าไปพักผ่อนที่ห้องนอนของตัวเองแล้วตอนนี้เธอไม่ค่อยสันทัดข้าวตอนเย็นสักเท่าไหร่"คุณวิน..." เธอร้องเรียก เมื่อเดินขึ้นมาด้านบนแล้วเห็นผู้เป็นสามีกำลังยืนหันหลังทำอะไรอยู่ในขณะเดียวกันสายตาของลิตาก็มองหาลูกชายตัวน้อยของเธอด้วย ปกติสองพ่อลูกเขาจะอยู่ด้วยกันนี่นา แต่นี่ยังมองไม่เห็นลูกน้อยของเธอเลยหรือว่าหลับไปแล้วนะ"หืม?""ลูกล่ะคะ หลับแล้วเหรอ?""ไม่รู้สิ ฉันพาไปส่งอยู่กับคุณย่าน่ะ ท่านคิดถึงหลาน เจ้าแสบก็อยากไปหาคุณทวดด้วย""....." ลิตายืนเหวออยู่เล็กน้อย เพราะเธอไม่รู้ว่าอนาวินจะพาลูกชายไปโดยที่ไม่ได้บอกอะไรกับเธอก่อนอย่างนี้"ไปตั้งแต่กลับมาจากร้านแล้ว ฉันไม่ได้กลับบริษัท ฉันไปบ้านคุณย่ามา""จะไปแสบจนคุณย่าไมเกรนขึ้นอีกหรือเปล่าคะเนี่ย""ไม่หรอก คุณย่าสายเปย์นะ เจ้าแสบมันรู้ไง มันถึงไป"พูดจบทั้งสองก็มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะออกมา มันอดไม่ได้จริงๆ พอนึกถึงเรื่องนี้น่ะนะ คุณทวดก็แสนจะรักจะหลงเหลนชายคนแรก อยากได้อะไร ขนมของเล่น แค่เดินไปหอมแก้ม พูดหวานอ้อนๆ หน่อยก็ได้ทุกอย่างแล้
เวลาต่อมามาวินน้อยเติบโตขึ้น กลายเป็นเด็กน้อยแสนซน เด็กดื้อที่ทำเอาคนเป็นพ่อถึงกับเพลียเลยเหมือนกัน เขาคอยดูแลลูกเลี้ยงลูกเองระหว่างที่เธอไม่อยู่ ตอนนี้ลิตามีงานเป็นของตัวเองแล้ว เธอเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆ โดยที่มีอนาวินเป็นคนลงทุนให้ เธออยากมีงานทำ และอนาวินก็ไม่ได้ขัดเพราะนี่เป็นความสุขของเธอ มันเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่เธอก็อยากทำ เพราะเธอมีฝีมือด้านนี้ไม่น้อยเลยเหมือนกันร้านเบเกอรี่มาวินน้อย เธอตั้งชื่อร้านตามชื่อของลูกชาย เธออยากให้เขามีส่วนร่วมในนี้ด้วย เช่นเดียวกับอนาวิน ที่รวมอยู่ในชื่อนั้นแล้วช่วงแรกร้านของเธอมีลูกค้าไม่มาก แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีกระแสตอบรับที่ดี เธอทำขนมเก่งและมีหัวคิดรู้จักพลิกแพลงอาหารให้เป็นไปตามตลาดของลูกค้า เพราะแบบนั้นร้านของเธอจึงได้รับกระแสตอบรับดีมากขึ้นหลังจากที่เปิดร้านมาได้สักระยะนึงแล้ว และก็ต้องจ้างพนักงานมาคอยช่วยอยู่หน้าร้าน"แม่...""มาวิน!" ลิตารีบเดินออกมาต้อนรับลูกชายที่เข้ามาในร้าน ไม่คิดว่าสองพ่อลูกจะพากันมาหาเธอที่นี่"ยุ่งมากไหม?" อนาวินเอ่ยถามภรรยา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ด้านใน ซึ่งพนักงานยังดูวุ่นๆ กันอยู่เลย เขาไม่รู้ว่าเธอจะยุ่งม
เวลาผ่านไปพอกลับจากเที่ยวทะเลอนาวินก็กลับไปทำงานเช่นเดิม ส่วนลิตาก็คอยดูแลลูกอยู่ที่บ้าน ทำเหมือนเดิมที่เคยอยู่กับเขา แต่มันต่างกันตรงที่ว่าตอนนี้ทั้งสองเข้าใจความรู้สึกของกันและกันแล้วอนาวินไม่ได้ขอลิตาแต่งงานใหม่ เพราะนั่นเป็นความต้องการของเธอ เธอไม่อยากให้มันมีการแต่งงานซ้ำซ้อน ไม่อยากให้มีคำถามเกิดขึ้นว่าแต่งงานไปแล้วทำไมต้องแต่งรอบสอง และด้วยนิสัยของเธอ ที่ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายสักเท่าไรด้วยบริษัทของอนาวินลิตาจูงมือลูกชายเดินเข้าไปในบริษัทของผู้เป็นสามี ทุกคนต่างให้ความเคารพเธอ ในฐานะของภรรยาประธานบริษัท ซึ่งต่างจากตอนแรกที่เธอเคยมามาก เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักเธอเลย"คุณลิตา สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะ คุณวินอยู่ในห้องใช่ไหมคะ""อยู่ค่ะ คุณกรก็อยู่นะคะ""ขอบคุณมากนะคะ""สวัสดีครับหนุ่มน้อย วันนี้มาเที่ยวหาพ่อเหรอครับ ค่าตัวแพงนะเราไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาเลย พ่อคงหวงมากล่ะสิท่า""หึหึค่ะ มาวินครับ สวัสดีครับคุณป้าก่อนเร็ว""ซาหวัดดีคับ""หืม ตัวแค่นี้ พูดเก่งแล้วนะเราเนี่ย""ฉันขอพามาวินเข้าไปข้างในก่อนนะคะ""ค่ะ"กับเลขาคนนี้เธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วยหรอก เพราะมาร
ตกกลางดึกในวันเดียวกัน"ลูกหลับแล้วนะ" อนาวินใช้นิ้วจิ้มคนรักที่นอนอยู่ข้างๆ ก่อนจะจูบลงบนหัวไหล่ของเธออย่างยั่วยวน"อะไรคะ นอนสิ""ไม่เอา ไม่นอน" เขาพูดอย่างเอาแต่ใจ จะให้นอนได้ยังไงกัน อารมณ์ของเขามันขึ้นขนาดนี้แล้ว ตรงนั้นมันแข็งดันพร้อมรบออกมาเต็มที่ซะขนาดนี้ จะให้ทำยังไงถ้าไม่ทำอย่างว่า"ไม่นอนแล้วจะทำอะไรคะ?" เธอหันไปถามพร้อมกับยิ้มกริ่ม รู้แหละว่าเขาต้องการอะไร แค่อยากจะแกล้งเข้าก็เท่านั้นแหละ"ออกไปนอกระเบียงกันไหม ลูกจะได้ไม่ต้องสะดุ้งเพราะเสียงของเราสองคน""แต่ว่า...""เชื่อฝีมือของฉันเถอะ"อนาวินถือผ้าห่มนวมออกไปด้านนอกระเบียง ปูคล้ายกับที่นอนปิคนิค ก่อนจะดึงภรรยาเข้าไปกอดแน่น เสียงคลื่นทะเล ลมเย็นๆ แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา มันสวย มันดีลงตัวไปหมดเลยจริงๆ"อากาศดีจังเลยค่ะ""ใช่ไหม อากาศดีๆ แบบนี้ เราก็ควรจะ...ทำแบบนั้นกันใช่ไหม" มือของเขาลูบไล้สัมผัสไปทั่วร่างกายของเธอ ทำเอาเธอขนลุกไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศเย็นๆ หรือเป็นเพราะมือของเขาที่เย็นเฉียบกันแน่"ถ้าลูกตื่นก่อนจะทำยังไงคะ?""ไม่ตื่นง่ายๆ หรอก ฉันตัดกำลังไปแล้วนะ""หือ...แกล้งลูกเหรอคะ?" เธอจ้องมองหน้าของเขา รู้แล้
ครืน~ ครืน~ ครืน~เสียงคลื่นทะเลซัดกระทบเข้าฝั่ง ลมทะเลเย็นสบาย ลิตาเดินเล่นอยู่ริมชายหาดขณะที่อนาวินพาลูกชายตัวน้อยของเธอลงเล่นน้ำ อากาศเย็นสบาย แถมเงียบเป็นส่วนตัวมากอีกด้วย ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เธอได้มาทะเล แต่มันเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเที่ยวแบบส่วนตัวอย่างนี้ ครั้งหนึ่งเธอเคยไปเที่ยวกับเพื่อน แต่มันก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย คนเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดแต่เห็นว่าที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่เข้ามาวุ่นวาย และก็จะมีเพียงคนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามาได้เธอเดินไปนั่งตรงชิงช้าที่ผูกไว้อยู่ใต้ต้นไม้ริมทะเล มองดูสองพ่อลูกที่กำลังเล่นน้ำอยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนานก่อนที่จะยิ้มออกมา เธอมีความสุขมากๆ เป็นความสุขที่เธอบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลยจริงๆหลังจากที่อนาวินรักษาตัวเองจนหาย เขาก็กลับเข้าไปทำงานต่อ จนกระทั่งมีวันหยุดเลยพาครอบครัวมาเที่ยวที่ทะเล ในช่วงเข้าฤดูร้อน มันเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษสำหรับเธอมากจริงๆ เลยล่ะตกเย็นพอเล่นน้ำกันสมใจแล้ว อนาวินก็พาลูกชายขึ้นมาจากทะเล พากันไปอาบน้ำในห้องน้ำ ขณะที่ลิตากำลังเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นอยู่สองพ่อลูกพากันเดินออก
เวลาผ่านไปอนาวินได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วหลังจากที่ต้องอยู่รักษาตัวที่นั่นอยู่อาทิตย์กว่าได้ แต่ก็ยังต้องกลับมารักษาตัวที่บ้านอยู่เหมือนกัน"ค่อยๆ เดินนะคะคุณวิน""ฉันว่าฉันหายแล้วนะ ฉันอุ้มเธอได้ด้วยเชื่อสิ""อย่าเก่งค่ะ เอาตัวเองให้รอดก่อน""ลิตา เธอนี่มันแม่มดชัดๆ ตอนอยู่โรงพยาบาลอยากนอนกอดก็ไม่ได้ หอมแก้มก็ไม่ได้ เอาแต่บังคับให้ฉันกินยา เธอมันใจร้ายที่สุด""ลิตาไม่ใช่แม่มดนะคะ""เธอมันแม่มดใจร้าย""หยุดนะ!""ขอโทษคร้าบ""ก็คุณน่ะชอบทำตัวเหมือนเด็ก ลิตาก็ต้องรับบทแม่ใจร้ายไงคะ ไม่อย่างนั้นคุณวินก็เอาแต่ใจตัวเองอีก""....." อนาวินได้แต่ทำหน้าบูดบึ้ง นั่งลงนิ่งๆ และปล่อยให้ลิตาจัดการจัดแจงเกี่ยวกับตัวของเขา เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนกระทั่งแม่ของลิตาอุ้มลูกน้อยที่เพิ่งตื่นเข้ามาหาเขาที่ห้องนอน"ปะ ป๋า..." เด็กน้อยที่กำลังอยู่ในช่วงหัดพูดเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อ พร้อมกับส่งยิ้มหยีจนเห็นฟันสองซี่ที่ขึ้นมา"มาวินน้อยของพ่อ""ระวังด้วยนะคะ ลูกยังไม่รู้เรื่อง เขาจะถูกแผลของคุณวินเอา อีกอย่างหมอสั่งห้ามงดยกของเป็นเวลาสามเดือน เข้าใจไหมคะ?""เข้าใจแล้วครับ"อนาวินอุ้มลูกชายไปนั่งอยู่บนตัก ยังด