"มีอะไร" ถามออกไปโดยที่ไม่ได้รอคำตอบเลย ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน โดยมีแม่ตามมา"ทางนี้ลูก" นางเห็นว่าลูกชายมองหาว่าห้องไหนเป็นห้องของลูกสะใภ้ ก็เลยรีบเดินนำหน้าไป "ตาหนูไปไหน?" คนเป็นย่าตกใจมากเมื่อเปิดประตูเข้ามาไม่เห็นหลานชาย"ใครคือตาหนูครับ" รามสูรแทบเขาทรุด ขณะที่ถามเขาไม่ได้มองดูหน้าแม่เลย แต่สายตานั้นมองเข้าไปดูในห้อง ที่มีของเล่นเด็กวางกระจัดกระจายอยู่"หนูโรสไปไหน" นางหันกลับมาถามแม่บ้าน"คุณผู้หญิงให้พวกดิฉันเข้าไปนอน ตอนที่คุณท่านออกไปแล้วค่ะ""อย่าบอกนะว่าหนูโรสพารามิลออกไปจากบ้านแล้ว""รามิล?" แค่ชื่อเขาก็รู้แล้วว่าเธอคงโกหกเรื่องแท้งในครั้งนั้น"รามสูรจะไปไหนลูก" คนเป็นแม่รีบเดินตามลูกชายออกมา"ผมจะไปตามหาเธอ เธอคงไปยังไม่ไกล""แม่ไปด้วย" พุดตาลรีบเดินไปขึ้นรถซึ่งมีลูกชายเป็นคนขับ"คุณแม่รู้เรื่องนี้มาโดยตลอดใช่ไหมครับ" ชายหนุ่มพูดในขณะที่กำลังขับรถอยู่ สายตาของเขามองไปทุกทิศทางเผื่อว่าเห็นเธอกับลูกเดินอยู่แถวนี้"ใช่..แม่รู้""แล้วทำไมคุณแม่ถึงปิดเงียบไม่บอกผมเลย" เท้าของเขาเหยียบเบรกตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้ ถ้ามีรถวิ่งตามมาคงชนแล้ว"ใครบอกว่าแม่เงียบ เราจำได้ไหมว่าแม่
ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ข้อเสียอย่างเดียวของลูกชาย เวลาตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอใครก็จะร้องไห้ เพื่อส่งเสียงบอกว่าตอนนี้เขาตื่นแล้วนะคนที่เช่าบ้านข้างๆ ชะโงกใบหน้ามองผ่านรั้วบ้านมาดูอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้อง มองไปหลังบ้านก็เห็นว่าแม่ของเด็กที่กำลังตากผ้าอยู่รีบวิ่งเข้ามา"รามิลครับ โอ้ย" รีบมากจนขาสะดุด แต่โชคดีที่ยังไม่ล้ม เพราะเกาะขอบประตูไว้ได้ทันจังหวะนั้นคนที่แอบมองอยู่แทบอยากกระโดดข้ามรั้วมาช่วย แต่ก็ต้องได้หยุดตัวเองไว้"หนูหิวแล้วเหรอลูก" สโรชาอุ้มลูกพร้อมกับเดินไปที่ชงนม ถ้าวางแกลงมีหวังร้องไห้ลั่นบ้านอีกแน่เธอแบ่งน้ำออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งปล่อยไว้ให้พออุ่นๆ เวลาชงจะได้ง่ายหน่อยหญิงสาวอุ้มลูกชายพร้อมเขย่าขวดนมเพื่อให้นมผงละลายในน้ำ เด็กน้อยก็หัวเราะจนเสียงดัง เวลาเห็นเขย่าขวดนมทีไรรามิลชอบมากคนที่ยืนพิงรั้วบ้านอยู่ มีรอยยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเด็กหัวเราะ แต่ดวงตาของเขาเจือปนไปด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าออกมาหน้าบ้าน.."เราจะไม่เข้าไปดูหน่อยหรือคะคุณท่าน" แม่บ้านที่นั่งรถมาด้วยกันถามผู้เป็นนาย"ไม่ต้องหรอกปล่อยไว้แบบนี้แหละ" รถของพุดตาลจอดอยู่หน้าบ้านนี่เอง แล
ขณะที่เขากำลังจะกระโดดข้ามรั้วกลับไป ก็ได้แอบมองไปดูแม่ของลูกว่าเธอทำอะไรอยู่ จากที่แค่น้ำตาคลอเบ้า มันก็ไหลออกมา เมื่อเห็นว่ามือหนึ่งเธอกำลังปั๊มน้ำนม อีกมือตักอาหารใส่ปากแล้วเคี้ยวเขาทำอะไรลงไป เขายังมีความเป็นคนอยู่ไหม ในขณะที่เฝ้าแต่คิดถึงผู้หญิงคนหนึ่ง แต่กลับทำลายชีวิตของผู้หญิงอีกคนอึก! รีบเคี้ยวข้าวมากเกินไปจนข้าวติดคอ จะวางเครื่องปั๊มก็ไม่ได้เพราะน้ำนมกำลังมา หญิงสาวก็เลยต้องได้เดินไปหยิบน้ำ ที่วางอยู่ห่างจากตัวขึ้นมายกดื่มในขณะที่เครื่องปั๊มยังติดอยู่กับหน้าอกของเธอกึก! คนที่ยืนแอบมองอยู่ไม่ระวัง ถอยไปเหยียบอะไรเข้า"ใคร!!" สโรชาวางน้ำลงแล้วรีบเดินไปดูหลังบ้าน เพราะเสียงดังมาจากทางนั้นเหมียว~ เป็นจังหวะเดียวกับที่แมวกระโดดข้ามฝั่งมาจากบ้านอีกหลังพอดี"แกอย่าเล่นแบบนี้อีกนะฉันตกใจ คนยิ่งกำลังเสียวสันหลังอยู่" ขนาดตกใจเธอยังไม่ปล่อยเครื่องปั๊มน้ำนมของลูกออกจากหน้าอกเลย สโรชาพยายามปั๊มน้ำนมให้ได้มากที่สุด เพราะเธอไม่อยากให้ลูกดื่มนมผงเยอะเกินไปเวลาผ่านไปและตอนนี้รามิลก็ตื่นขึ้นมาเล่นกับแม่แล้วเสียงของเล่นแบบสั่นได้ดังกังวานไปจนถึงบ้านอีกหลัง จากที่คิดว่าจะนอนเอาแรงหน่อยเข
เช้าวันต่อมา.."?" เดินออกมาทีแรกก็ตกใจที่เห็นมีรองเท้าผู้ชายวางอยู่ตรงประตูทางเข้าหน้าบ้าน แต่พอมองดูรองเท้าคู่นั้นจนแน่ใจหญิงสาวก็หันไปมองบ้านข้างๆอึบ! และเวลาใกล้เคียงกันก็ได้ยินเสียงนี้ลอยข้ามกำแพงไป ..ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร คงอยากให้คนรู้ว่าบ้านหลังนี้มีผู้ชายจะได้ปลอดภัย และเสียงที่ดังอึบก็คือเสียงที่เธอเขวี้ยงข้ามกำแพงกลับไป"เราต้องเดินไกลหน่อยนะครับ" หญิงสาวคุยกับลูกน้อยที่อุ้มอยู่ เพราะนมผงของรามิลหมดแล้ว แถมร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยก็ไม่มีของพวกนี้ขายด้วย เธอต้องได้ต่อรถไปซื้อที่ห้างสรรพสินค้าอีกเดินเกือบสิบนาทีก็มาถึงหน้าปากซอย แถวนี้ไม่มีแท็กซี่ให้เรียกเหมือนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เธอต้องรอรถประจำทางหรือไม่ก็วินมอเตอร์ไซค์ แต่ก็ยังมีรถอีกอย่างหนึ่งที่สโรชาชอบนั่งมาก นั่นก็คือรถตุ๊กๆไม่ใช่แค่คนเป็นแม่หรอกที่ชอบ ลูกชายก็ชอบไม่ต่างกัน ออกมาซื้อนมทีไร รามิลตื่นเต้นมากที่ได้ยินเสียงรถตุ๊กๆ ที่เขานั่ง"ไม่เอาครับไม่ดื้อ" หญิงสาวตำหนิลูกเบาๆ เมื่อขึ้นนั่งรถแล้วลูกไม่อยู่นิ่ง "รามิล!"พอถูกแม่ตำหนิจากที่กำลังจะคว้านั่นจับนี่ก็หันมามองหน้าแม่"โอ๋..... แม่ไม่ได้ว่าห
รามสูรยืนรออยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งเธอก็ยังคงไม่เปิดประตู ก็เลยลองถอยออกไป เผื่อว่าเธอเห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ ก็เลยไม่ออกมา แต่พอถอยไปแล้วคนข้างในก็ยังเงียบอยู่ก๊อก ก๊อก "สโรชา" ชายหนุ่มเรียกชื่อพร้อมกับพยายามหมุนลูกบิดประตู แต่บ้านล็อกไว้เขาก็เลยเดินอ้อมไปทางหน้าต่าง ส่องดูว่ามีใครอยู่ด้านในไหมไปไหนของเธอ ..มองเข้าไปห้องครัวก็ไม่มีใคร รามสูรรีบเดินอ้อมไปตรงที่เป็นห้องนอนของลูก"สโรชา?" ของในห้องถูกเก็บสะอาดตามาก มันยิ่งทำให้รามสูรตกใจ เพราะทุกครั้งถ้าเธอพาลูกออกไปข้างนอกจะไม่เก็บสะอาดขนาดนี้ชายหนุ่มพยายามแงะหน้าต่างดูทุกบานว่ามีบานไหนที่เธอไม่ได้ล็อกไหม และเขาก็หาเจอ ที่จริงล็อกแล้วแต่มันไม่ลงล็อกคนร่างสูงกระโดดข้ามหน้าต่างเข้ามาในบ้าน ที่แรกที่จะไปดูคือห้องนอนของลูกพอเข้าไปถึงก็เห็นว่ามีของเล่น 2-3 ชิ้นที่วางอยู่ และมันก็เป็นของเล่นที่เขาซื้อมาให้ ขาที่คิดว่าแข็งแกร่งที่สุดเริ่มหมดแรง แล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงกับพื้น แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเธอคงจะพาลูกหนีไปจากบ้านหลังนี้"รามิล" มือหนาหยิบเอาของเล่นที่เขาซื้อมาให้ลูกเดินออกจากบ้านมาด้วย "คุณพาลูกไปอยู่ที่ไหนอีก" สิ่งเดียวที่กลัวคือกลัวเธอพาลูกไ
สโรชาเล่นอยู่กับรามิลพักหนึ่งก็ปล่อยให้คุณย่าและพี่เลี้ยงดูแลไป เพราะพวกท่านก็คงจะยังไม่หายคิดถึงหลานพอได้อยู่คนเดียวความน้อยใจก็ค่อยๆ กลืนกินหัวใจเข้ามา มันเป็นแบบที่คิดไว้จริงๆ เขาไม่ได้ต้องการเธอเลย สิ่งที่เขาต้องการก็คือลูกว่าจะไม่คิดมากกับเรื่องพวกนี้แล้ว แต่มันก็อดคิดไม่ได้เช้าวันต่อมา.."แม่ออกไปทำงานก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นแม่จะซื้อขนมมาให้" สมัยนี้ขนมของเด็กทารกมีขายในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป"แม่ว่าเราควรจะมีรถส่วนตัวได้แล้ว ไปมาจะได้สะดวกหน่อย" ในเมื่อลูกสะใภ้ไม่ต้องการให้มีคนรถไปส่ง นางก็เลยอยากจะให้เดินทางสะดวกหน่อย"โรสขอหาด้วยตัวเองนะคะคุณแม่" เธอรู้ดีว่าท่านร่ำรวยมาก แค่กดโทรออกก็มีคนเอามาส่งถึงที่พุดตาลก็เลยไม่พูดอะไรต่อ เด็กแบบนี้หาได้ยากในสังคมปัจจุบัน ยิ่งลูกคุณหนูแบบสโรชาด้วยแล้ว คงมีน้อยมากที่อยากจะดิ้นรนด้วยตัวเองสโรชาโทรเรียกมอเตอร์ไซค์วินให้มารับหน้าบ้าน[บริษัทรับทำบัญชี]"เกิดอะไรขึ้นคะ" มาถึงบริษัทก็ดูวุ่นวายไปหมด เหมือนกำลังจัดเตรียมอะไรกันอยู่"พี่ไม่มีเวลาพูดให้เราฟัง ที่จริงพี่ก็ยังไม่ได้พูดให้ใครฟังหรอก เมื่อวานนี้มีผู้ร่วมหุ้นใหม่เ
"คุณผู้หญิงทำไมวันนี้กลับเร็วคะ" เสียงนี้ดังขึ้นเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้คนข้างในได้ยินด้วย"พอดีเสร็จงานเร็วค่ะ ทางบริษัทก็เลยปล่อยกลับก่อนเวลา" เห็นแค่สีหน้าแม่บ้านเธอก็พอจะเดาได้แล้ว"อ๋อเหรอคะ""วันนี้โรสเหนื่อยขอเข้าบ้านก่อนนะคะ" ยังไงก็ต้องเจอคงเลี่ยงไม่ได้แล้ว หญิงสาวก็เลยเดินเข้าไปข้างในบ้านหลังนี้พอเข้าไปก็เป็นห้องโถง ส่วนห้องนอนจะเรียงกันอยู่มีทั้งของแม่บ้านและของคุณย่า"หนูโรสกลับมาแล้วเหรอลูก" พุดตาลก็กลัวจะถูกลูกสะใภ้ต่อว่า เพราะตอนนี้ลูกชายของนางยังคงเล่นกับหลานอยู่"วันนี้เสร็จงานเร็วค่ะ เจ้านายก็เลยให้กลับมาก่อน ว่าไงครับคนดี" จะไม่คุยกับลูกก็ไม่ได้เพราะตอนนี้มองแม่ตาแป๋วเลย "เราดื้อไหมครับ" ถ้าสังเกตดีๆ ตอนที่พูดกับลูก ดวงตาเธอคลอไปด้วยน้ำตา แต่หญิงสาวก็ยังยิ้ม เพราะไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอ"แม่เอาของไปเก็บก่อนนะครับ เดี๋ยวแม่มาเล่นด้วย" ตั้งแต่เข้ามาเธอไม่ได้มองดูผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยเลย สโรชาทำเหมือนว่าในห้องนี้ไม่มีเขาอยู่ พอวางลูกชาย เธอก็เดินไปที่ตู้เย็นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น เพื่อที่จะเอานมออกจากกล่องเก็บอุณหภูมิ ทุกวันก็มีแม่บ้านมาช่วย แต่วันนี
"เอาไงดีล่ะทีนี้ ใครจะเข้าไปรับงาน""เดี๋ยวเอวาไปเองค่ะ" ใครบ้างไม่อยากจะเข้าหาท่านประธานบริษัทที่ใหญ่โตขนาดนี้"ดีเลยถ้างั้นพี่ฝากด้วยนะ"ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่ สโรชาก็จัดโต๊ะทำงานแบบไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้วแค่ทำตัวเป็นไม่ว่างก๊อก ก๊อก เอวาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเดินมาเคาะประตูห้องนี้ ถ้ามีเลขานั่งอยู่หน้าห้องคงไม่เสียมารยาทแบบนี้หรอกแกร็ก.. พอส่งสัญญาณประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออก"สวัสดีค่ะ เราเป็นแผนกบัญชีที่เข้ามารับทำบัญชี""อ้าวพวกคุณมาแล้วเหรอคะ" คนที่เปิดประตูออกมาก็คือผู้หญิง"ใช่ค่ะ""เข้ามาข้างในเลยค่ะ""ค่ะ""ท่านประธานบริษัทนี้เป็นผู้หญิงเหรอ" เกวลินอดหันไปคุยกับสโรชาไม่ได้ "แต่ทำไมชื่อเป็นผู้ชายล่ะ" เพราะคงไม่มีผู้หญิงที่ไหนจะมาชื่อรามสูร"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ" คนที่ตอบเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีแล้ว ..คนหนึ่งไปอีกคนก็มาเลยเหรอเพียงไม่นานเอวาก็หอบเอกสารออกมาจากห้องนั้น เกวลินรีบเดินไปช่วยยก ..และก็อดไม่ได้ที่จะสอบถามเรื่องท่านประธาน"เปล่าหรอกคนนั้นเป็นเลขาหน้าห้อง" ได้ยินรุ่นพี่ถามเอวาก็รีบตอบไป"พี่ก็ว่าแล้ว ผู้หญิงที่ไหนจะชื่อรามสูร.. ว่าแต่ท่านประธานหล่อไหม""ฉันไม่รู้ห
"เข้าข้างในกัน" เกษมราษฎร์เอื้อมมือมาให้อีกฝ่ายจับมือท่านไว้ เพื่อจะได้ก้าวเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน"ท่านทำอะไรคะ" นางยอมเดินตามแรงที่อีกฝ่ายจูง แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้"บอกแล้วไงว่าไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆ แต่งงานกันนะ""อู๊วววว" เสียงโห่แสดงความยินดีดังขึ้นเมื่อเกษมราษฎร์คุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในคืนนี้ ท่านเคยพูดไว้แล้วถึงแม้ว่าจะพูดแค่กับตัวเอง ถ้ามีโอกาสได้ทำเพื่อเธอ..จะทำให้ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ต้องอิจฉาเธอ"ลุกขึ้นเถอะค่ะท่าน""คุณตอบตกลงมาก่อนสิ""ท่านเพิ่งขอหมั้นไปวันก่อนเองนะคะ""ถ้าคุณไม่ตกลงผมก็จะอยู่แบบนี้""ตกลงก็ได้ค่ะ" จากเสียงโห่ร้องกลายเป็นเสียงกรี๊ดลั่นจนโรงแรมแทบจะแตก เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงแต่งงานด้วยเกษมราษฎร์ลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาช่วยพยุง ถึงแม้จะอายุและเยอะแล้วแต่ร่างกายของท่านก็ยังแข็งแรง เพราะการเป็นทหารต้องได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา"ดีใจด้วยนะครับ" รามสูรเข้ามาแสดงความยินดี เขาดีใจมากที่จะเห็นแม่มีความสุขสักที ตั้งแต่จำความได้เลยมั้งที่เห็นแม่ต้องเฝ้ารอพ่อกลับบ้านทุกวันและลูกๆ คนที่เหลือก็เข้ามาแสดงความยินดี รวมทั้งแขกในงาน วันนี้ท่าน
เย็นวันเดียวกันนั้น.. พุดตาลเรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาทานข้าวเย็นร่วมกัน"สวัสดีครับท่าน" รามสูรมาพร้อมกับภรรยา และลูกชาย พอมาถึงก็เห็นว่าท่านพลเอกเกษมราษฎร์ ก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วย"มาครบกันแล้วใช่ไหม นั่งก่อนสิลูก"พอลูกชายนั่งลงเกษมราษฎร์ก็ขอเป็นคนพูดเอง ท่านบอกทุกคนว่าขอเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวด้วย ทีแรกเกษมราษฎร์ก็ช่างใจอยู่ กลัวลูกๆ ของพุดตาลจะไม่ชอบใจ เพราะถึงยังไงพ่อของพวกเขาก็มีทีท่าว่าจะกลับมา"ยินดีต้อนรับครับ ผมเองต่างหากที่ต้องฝากคุณแม่ไว้กับท่าน" พี่ชายคนโตเป็นคนเอ่ยพูดก่อน"ขอบใจมากนะลูก" ใจจริงพุดตาลก็อยากจะอยู่กับลูกและหลานแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อสามีหย่าขาดจากผู้หญิงคนนั้น ยังไงท่านก็ต้องกลับมาวนเวียนจนทำให้ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขแน่ นางก็เลยตัดสินใจตัดกรรมกันไปแต่เพียงแค่นี้"ผมจะประกาศให้สังคมรับรู้เรื่องของเราในเร็ววันนี้""เรื่องนี้แล้วแต่ท่านค่ะ" นางคิดว่าให้คนรับรู้ไว้ก็ดี เรื่องถูกนินทาหนีไม่พ้นอยู่แล้ว ใครจะนินทาก็ช่าง ขอให้ตัวเองอยู่แบบสบายใจก็พอร่วมทานข้าวเย็นกันเสร็จ ลูกชายทั้งสองก็ขอตัวกลับเพราะมันดึกแล้ว ส่วนเพลิงไม่อยากจะกลับก็ต้องได
"ใจเย็นก่อนสิคะมาเหนื่อยๆ น้ำก็ยังไม่อาบ""ขอชื่นใจก่อน" ริมฝีปากหนากระซิบพูดในขณะที่จมูกยังสูดดมคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด"คิดถึงคุณเหมือนกันค่ะ" รักครั้งแรกของเธอมันช่างสวยงามนัก แต่เมขลาหวังว่าจะหยุดผู้ชายคนนี้ไว้ได้แค่เธอ เพราะถ้าเขามีตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาจะเป็นเหมือนคนที่ให้กำเนิดเธอไหม"เป็นอะไร" เพลิงสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเธอไม่เหมือนตอนที่เรียกเขาขึ้นมาข้างบนเลย"อนาคตข้างหน้าอะไรมันก็ไม่แน่นอนค่ะ เผื่อคุณก้าวไปในตำแหน่งที่สูงกว่านี้..""อย่าคิดอะไรที่มันจะไม่เกิดขึ้น" แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอคงกลัวว่าเขาจะทำตัวเหมือนพ่อ"คุณรู้เหรอคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่""ผมรักคุณ คำนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ฟังมันจากปากผม และผมก็จะพูดให้คุณฟังเพียงคนเดียว""ขอบคุณนะคะ" ขอบคุณเขาทั้งน้ำตา แต่ก่อนตอนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ยังมีความสุขมากกว่านี้เลย แต่พอรู้ว่าพ่อมีนิสัยยังไง เมขลาก็เริ่มกลัวผู้ชายรอบข้าง[โรงแรมหรู]ที่พลเอกเกษมราษฎร์พาพุดตาลมาทานข้าวที่โรงแรม เพราะรู้แล้วว่านางคงไม่กลับไปหาอะไรเดิมๆอีก ท่านต้องทำให้นางเห็นว่าท่านสามารถที่จะพานางก้าวไปในทุกๆที่ได้"ทำไมคุณรู้ว่าฉันชอบกิน เออ..
"ทำอะไรกัน"คนที่กำลังโอบกอดกันถึงกับตกใจปล่อยมือออก"ท่าน?""นายคงไม่อยากจะอยู่ในกรมแล้วใช่ไหม""อย่าทำอะไรผู้กองนะคะ" ถึงแม้เธอจะตัวเล็กกว่ามาก แต่หญิงสาวก็ใจกล้าก้าวออกมายืนบังชายคนรักไว้"เรารู้ไหมว่ามันไม่สมควร""จะสมควรหรือไม่ มันอยู่ที่เราสองคนค่ะ""อย่าลืมสิว่าเราเป็นลูกของใคร""หึ.. แล้วฉันเป็นลูกของใครล่ะคะ""มันสมควรแล้วเหรอที่จะมาพูดต่อล้อต่อเถียงกับพ่อ""พ่อ?" เมขลาอยากจะพูดอะไรอีกตั้งมากมาย แต่มันจุกในอกเสียก่อน"มีอะไรกัน" แม่บ้านรีบเข้าไปตามคุณผู้หญิงออกมาดู กลัวว่าจะมีเรื่อง"คุณมาก็ดีแล้ว ผมจะเร่งเรื่องให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ""เรียนต่อต่างประเทศ?" เพลิงพูดพร้อมกับมองหน้าเมขลา แล้วมองไปที่ท่านพลเอกเรวทัต"ฉันไม่ไปค่ะ""ลูกไม่อยากเรียน" พุดตาลคิดว่านางคงต้องได้ออกหน้าเองแล้วล่ะ"อายุแค่นี้ยังเรียนได้อีกตั้งเยอะ ทำไมถึงคิดสั้น""อะไรคือการคิดสั้นคะ""ก็ที่เห็นอยู่นี่ไง""คนนี้ผู้กองเพลิงท่านก็คงจะรู้จักแล้ว เขาเป็นคนรักของฉัน ไม่สิ.." ถ้าพูดแค่คนรักมันคงไม่จบตรงนี้แน่ เมขลาก็เลยให้สถานะใหม่กับเพลิง "เขาเป็นพ่อของลูกในท้องฉันเองค่ะ""???" ไม่ใช่แค่พลเอกเรวทัตและพุดตา
เห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า เรวทัตก็เลยยังไม่พูดอะไรอีก เพราะคดีเก่ายังไม่เคลียร์"อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว พ่อจะย้ายกลับมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วนะ"เรวทัตพูดจบ ลูกๆ ต่างก็มองดูหน้าคนเป็นแม่มันคงเป็นเวรกรรมของนางที่เคยสร้างไว้กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้ก็เลยต้องได้ตามมาชดใช้กรรม หนีไปไหนก็คงจะหนีไม่พ้นแล้ว"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณ คุณจะมาอยู่ใครจะว่าอะไรได้ล่ะคะ"เรวทัตอยากได้ยินคนตรงหน้าเรียกว่าคุณพี่เหมือนเดิม แต่คงต้องใช้เวลา เพราะตัวเองทำไว้กับนางเยอะ"หือ รามิล" มองเข้าไปด้านในก็เห็นลูกสะใภ้คนโตกำลังอุ้มหลานชายเดินออกมา เรวทัตก็เลยเดินเข้าไปหาหลานพอคนเป็นพ่อไปแล้ว ลูกๆ ที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มองดูหน้าแม่อีกครั้ง นาทีนี้ไม่มีใครน่าสงสารเท่าท่านอีกแล้ว"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ" แค่นี้นางก็รู้แล้วว่าสามีคงจะหย่าจริง เพราะถ้าไม่งั้นคงไม่บอกว่าจะกลับมานอนบ้านหลังนี้ นางรนหาที่เอง คิดว่าท่านจะไม่กล้าหย่าดาราสาวสวยคนนั้นทุกคนเข้าไปแล้ว เมขลาก็หันกลับมากุมมือเพลิงไว้ "เรายังจะเป็นเหมือนเดิม อย่าคิดมากนะคะ" เมขลารู้ดีว่าเพลิงคิดว่าตัวเองต่ำต้อย"ผมจะไม่ถอ
"ผมมาคิดทบทวนเรื่องของเราดูแล้ว""ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" แพรวพราวเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้ แบบใจดีสู้เสือ"เราหย่ากันเถอะ""คุณพี่!!""ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ ผมขอแค่ให้คุณเซ็นใบหย่า""ไม่มีทางค่ะ กว่าเราจะฝ่าฟันความรักของเรามาด้วยกันได้ ทำไมคุณพี่ถึงทำแบบนี้กับแพรวคะ""ผมให้เกียรติคุณถึงได้มาคุยก่อน หรืออยากจะคุยผ่านทนายของผมล่ะ""แพรวรักท่าน ยอมอุ้มท้องลูกของท่าน ถึงแม้จะถูกใครตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี""เรื่องลูกผมก็ยังจะส่งเสียเลี้ยงดู""แพรวไม่ได้ต้องการแบบนั้นสักหน่อย ใครคะ..ท่านมีใครใหม่อีกเหรอคะ""เรื่องนั้นไม่เกี่ยว เรามาคุยเรื่องของเราก่อน""เรื่องของเรา แพรวไม่หย่า!""ผมมาคุยกับคุณดีๆ แล้วนะ หลังจากนี้คุณก็คุยกับทนายของผมแล้วกัน และสิ่งที่คุณอยากได้ก็อย่าฝันว่าจะได้""ท่านอย่าบอกนะว่าจะกลับไปหามันอีก""ผมเพิ่งรู้ว่ารักภรรยา""รักภรรยาอย่างนั้นเหรอคะ แล้วที่ผ่านมาล่ะผู้หญิงนับสิบนับร้อยยังจะเรียกว่ารักภรรยาได้อยู่อีกเหรอคะ!" แต่ดูเหมือนเรวทัตจะไม่ฟังอะไรอีก เพราะตอนนี้เดินไปที่รถแล้ว "กรี๊ดดดด!!""คุณแม่เป็นอะไรคะ" มโนราห์ได้ยินเสียงร้องก็รีบลงมาดู"
"??" เมขลาได้ยินทุกคำพูดของแม่ใหญ่ที่พูดกับ.. แม้แต่คิดยังไม่กล้าเอ่ยชื่อในใจเลย คนที่ไม่ต้องการเธอ..เธอก็ไม่ต้องการคนแบบนั้นเช่นกัน"หนูเมย์" ยืนมองตามสามีเก่าไปครู่หนึ่ง พอหันกลับมาก็เจอเมขลาอยู่ตรงมุมบันได"คุณแม่ทำแบบนั้นทำไมคะ""บางทีมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเราก็ได้""น้องเมย์ไม่เห็นด้วยค่ะ""แต่เขาคือ..." นางกำลังจะพูดว่าแต่นั่นคือพ่อแท้ๆ ของเมขลาเลยนะ"น้องเมย์ไม่อยากให้คุณแม่กลับไปเจอวังวนเก่าๆ อะไรที่เราสลัดทิ้งไปได้แล้ว ก็ปล่อยมันไปเถอะค่ะ"ทำไมเด็กอายุยังไม่ถึง 20 ถึงคิดได้กว่านาง ถ้านางใช้แค่หัวใจคิดก็คงจะกลับมาในวังวนเดิม แต่ถ้าใช้สมอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไป มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้"แล้วแม่ต้องทำยังไง"เมขลามองใบหน้าผู้หญิงที่กาลเวลาไม่สามารถทำร้ายนางได้ เพราะถ้าเดินไปกับเธอทุกคนคงคิดว่าพี่กับน้อง ดวงตาของนางคลอไปด้วยม่านน้ำตาที่บดบัง ถึงแม้เธอจะอายุยังน้อย แต่ก็พอดูออกว่าท่านยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่"ถ้าเขาคนนั้นกลับมา ทำให้คุณแม่ต้องทุกข์ใจอีก คุณแม่จะรับได้ไหมล่ะคะ" เพราะยังไงคนเดิมก็คงทำอะไรเหมือนเดิม ถ้าไม่งั้นคงไม่ออกไปไข่ไว้นอกบ้านจนทั่วแบบนี้"แม่ขออยู่คน
คฤหาสน์พลเอกเรวทัต"ดีใจจังเลยค่ะที่คุณผู้หญิงกลับมา""สบายดีกันไหม" กลับมาที่นี่ถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้ถามสารทุกข์สุขดิบกันเลย เพราะแค่เห็นหน้าสามีเก่าก็ไม่มีอารมณ์ถามใครแล้ว"ไม่สบายก็ตรงที่คิดถึงคุณผู้หญิงนั่นแหละค่ะ""ปากหวานเหมือนเดิมนะพวกเราเนี่ย ช่วยกันเอาของเข้ามาข้างในก่อน""เดี๋ยวผมทำเองครับ" เพลิงซึ่งทำหน้าที่ขับรถรีบเดินไปเปิดกระโปรงหลัง"ฉันช่วยค่ะ" เมขลากำลังจะไปช่วยยกของแต่ถูกเพลิงห้ามไว้"เอาของขึ้นไปไว้ข้างบนเลย แม่ให้คนจัดห้องให้แล้ว""ครับ" ชายหนุ่มหิ้วกระเป๋าขึ้นไปที่ชั้นบน โดยมีหญิงคนรักเดินตามไป ส่วนของที่เหลือพวกแม่บ้านช่วยกันคนละไม้คนละมือกึก.."อืม" หญิงสาวตกใจเดินพ้นประตูเข้ามาเขาก็ปิดแล้วล็อกมันไว้ ไม่ได้ทำแค่นั้นเพลิงยังหันมาจูบพอหายตกใจเมขลาก็จูบกลับ คิดว่าคงไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ เพราะของที่เหลือเป็นของแม่ใหญ่คิดว่าจะจูบไม่นานพอให้หายคิดถึง ถ้าได้แยกกันอยู่จริง แต่นี่ขนาดจูบอยู่ยังคิดถึง"ผมรักคุณนะ" นิ้วแกร่งเขี่ยแก้มของหญิงคนรักเบาๆ "อยู่ที่นี่ห้ามดื้อเข้าใจไหม""คุณก็ห้ามแอบไปเที่ยวที่ไหนนะคะ""ไม่ไปไหนหรอก"ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก็ลงมา.."พี่
"คุณไม่มีพันธะ แต่คุณไม่คิดเหรอกว่าเกษมอาจจะมีพันธะอยู่ก็ได้"พุดตาลเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากสามีเก่า มันก็มีส่วนอยู่บ้าง พลเอกเกษมราษฎร์ตำแหน่งใหญ่โตขนาดนั้น แถมภรรยาก็ตายจากไปนานแล้ว"เรื่องนั้นฉันคงไม่ให้ท่านต้องมาลำบากใจด้วยหรอกค่ะ..กลับกันเถอะลูก"พลเอกเรวทัตได้แต่มองตามหลังนางไป ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้"คนนี้ใช่ไหม ที่เป็นลูกของนวล" เรวทัตรีบเดินตามทั้งสองมาที่รถจากที่กำลังจะเปิดประตูพุดตาลถึงกับชะงัก"ผมจะรับลูกคนนี้กลับมาเลี้ยงเอง""??" พอประโยคนี้ออกจากปากพลเอกเรวทัต ทั้งสองที่ยืนหันหลังให้ ก็ได้หันกลับมามองพร้อมกัน "คุณหมายความว่ายังไง""ในเมื่อเด็กคนนี้เป็นลูกอีกคนของผม มันก็ไม่แปลกที่ผมจะรับลูกกลับมาเลี้ยงเอง"พุดตาลรีบจับเมขลาหลบไว้ด้านหลังของตัวเองก่อน "เสียใจด้วยค่ะ แต่ตอนนี้เมขลาเป็นลูกของดิฉันแล้ว""คุณแน่ใจเหรอว่าจะพูดเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูเด็กคนนี้กับผม"เมขลาส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกกับแม่พุดตาลว่าเธอไม่ไป"แม่ไม่ยอมให้หนูไปอยู่แล้ว เรากลับบ้านกัน" นางรีบหันกลับไปเปิดประตูรถ เพื่อให้เมขลาได้ขึ้นไปนั่งก่อน"ถ้าคุณชอบขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่เป็นไรนะผมจัดให