มือเรียวหยิบช้อนแล้วก็ตักอาหารที่อยู่ตรงหน้ามาใส่ปาก แล้วเคี้ยวเหมือนว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ทานกันตามสบายเลยนะครับ" รามสูรเห็นว่าทุกคนกำลังงงกับสิ่งที่เขาพูด"เออ..ค่ะ" ถึงแม้เพื่อนร่วมงานจะสงสัยมาก แต่ก็ต้องได้เก็บความสงสัยนั้นไว้ถามตอนที่อยู่กันตามลำพังสายตาคมของท่านประธานยังคงจ้องมองเธอทานอาหารแบบไม่สนใจใครอีกจนคนที่อยู่ร่วมห้องอาหารทำอะไรไม่ถูก จะคุยกันก็ไม่กล้า เอาไปเอามาก็เลยไม่รู้รสชาติของอาหารเลยว่ามันอร่อยไหม เพราะความอยากรู้อยากเห็น"ทะ..ท่านประธานไม่ทานอะไรหน่อยเหรอคะ" ชวนกินข้าวเที่ยงแต่เล่นมานั่งมองเฉยๆ แบบนี้เนี่ยนะ"เห็นพวกคุณทานผมก็อิ่มแล้วครับ ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม" สายตานั้นมองไปดูคนที่ถามแค่เล็กน้อยแล้วก็หันกลับมามองเธออีกครั้ง"ไม่แล้วค่ะ" จนเพื่อนอดมองมาที่สโรชาด้วยไม่ได้ทานไปจนรู้สึกว่าตัวเองอิ่มแล้วเธอก็วางช้อนลง ..พวกเพื่อนๆ ต่างก็วางลงพร้อมกัน ใครจะกล้ากินต่อล่ะ"อิ่มกันแล้วหรือคะ" เลขาซึ่งยืนรอรับคำสั่งเจ้านายอยู่เดินเข้ามาใกล้"ใช่ค่ะ""จะมีชุดของหวานเข้ามาบริการอีกค่ะ ถ้างั้นขอเก็บตรงนี้ก่อนนะคะ""มีของหวานอีกเหรอ" เอวาและเกวลินกระซิบถามกันเ
เขาไม่ได้ขยับมือเธอออก แต่ริมฝีปากหนาแนบจูบลงมาหลังฝ่ามือเรียวของอีกฝ่ายที่ปิดปากตัวเองอยู่แต่พอสัมผัสถึงร่างกายของเธอ ชายหนุ่มก็เลยยอมปล่อยแล้วถอยออกมา"เรื่องงานถ้าไม่เสร็จ ก็ทำเท่าที่ไหว" ว่าแล้วคนร่างสูงก็เดินกลับไปนั่งลงเก้าอี้ ที่เขายอมปล่อยเพราะสัมผัสถึงร่างกายที่สั่นกลัวของอีกฝ่าย รามสูรก็รู้ตัวดีว่าที่ผ่านมาทำกับเธอไว้เยอะ จนเธอไม่ยอมเปิดใจและอภัยให้เย็นวันเดียวกัน..สโรชากับเพื่อนลงมาถึงข้างล่าง ก็มีรถตู้รอรับพาไปที่พัก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาจัดหาที่พักที่ไหนให้ ในใจอยากจะบอกรถกลับไปส่งที่บ้าน เพราะคิดถึงลูกใช้เวลาไม่นานเท่าไร รถตู้ก็วิ่งเข้ามาจอดในคฤหาสน์หลังใหญ่"อย่าบอกนะว่าเราจะพักกันที่นี่" และเป็นอีกครั้งที่ทำให้รุ่นพี่แปลกใจมาก ส่วนสโรชาก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะให้พวกเธอมาพักในบ้านของเขาเองแบบนี้"เชิญลงรถได้เลยครับ ห้องของทุกคนถูกจัดเตรียมไว้แล้ว""จะให้พวกเราพักที่นี่กันจริงเหรอคะ" เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็น"ใช่แล้วครับ แต่ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่นะครับเป็นโซนด้านหลัง"โซนด้านหลังที่บอกก็คือห้องที่มีไว้สำหรับรับแขก เวลาอยากเป็นส่วนตัว เพราะข้างๆ ห้องนั้นก็คือสระว่ายน้ำ"ว๊าวว" พอเห็
ฝนยังคงตกตลอดเวลา เพราะตอนนี้ย่างเข้าฤดูฝนแล้ว แถมยังมีข่าวว่าพายุพัดผ่านที่สโรชาไม่ออกไปนอนข้างนอก เพราะกลัวลูกตื่นมาหิว หรือกลัวพ่อที่กอดลูกอยู่เผลอทับ ขนาดจะหลับยังคงเป็นกังวล แอบมองไปดูเล็กน้อยว่าลูกอึดอัดไหมที่ถูกพ่อกอดอึบ! จังหวะที่กำลังจะเอื้อมมือไปขยับแขนเขาออกเล็กน้อย เพราะมันอยู่ตรงหน้าอกลูก แต่มือที่ค้ำยันร่างไว้ดันพลาด คนตัวเล็กก็เลยล้มลงไปทับจนคนที่หลับสนิทลืมตาขึ้น"...." ดวงตาของทั้งสองสบกันเข้าโดยมีเธออยู่ด้านบนสโรชาไม่รู้จะพูดอะไร อุตส่าห์ค่อยๆ ทำกลัวว่าเขาจะตื่น หญิงสาวกำลังจะยันตัวออกจากตรงนั้น แต่ถูกมืออีกฝ่ายรวบตัวไว้ก่อน"ฉะ.. ฉันแค่จะ.." ตกใจมากจนลืมว่าตอนนี้ตัวเองถูกกอดอยู่รามสูรไม่พูดพร่ำ ใบหน้าคมยื่นขึ้นมาหาริมฝีปากของคนที่อยู่ด้านบน"ไม่นะคุณรามสูร" จะพูดแรงก็ไม่ได้เพราะกลัวลูกตื่น เดี๋ยวก็ตื่นมากลัวเสียงฟ้าอีกแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจปฏิกิริยาที่เธอกำลังห้ามปรามเลย"คุณราม!" หญิงสาวตกใจอยู่ดีๆ ก็ถูกจับให้นอนหงายลงกับพื้นเตียง "คุณอืมม!" เธอไม่มีมือผลักเขาไว้เพราะมือถูกล็อคริมฝีปากหนาแนบจูบลงมาแบบห้ามใจตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ลิ้นสากแหย่เข้าไปในโพรงปากของอี
พอเลขาออกมาจากห้องของท่านประธาน ก็อดมองไปดูผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ตั้งแต่พิมพ์เข้ามาทำงานก็ไม่เคยเห็นบอสสนใจใครนอกจากเลขาที่เพิ่งออกไป เพราะได้ยินคนอื่นเล่าให้ฟังอยู่บ้างว่าเป็นคนพิเศษสำหรับท่านประธานแต่แทนที่จะสนใจสาวๆ ทำไมถึงไปสนใจแม่ลูกอ่อนอยู่ได้ใกล้เที่ยงวันเดียวกัน.."เราไปทานข้าวที่ไหนกันดี" เกวลินถามรุ่นน้องทั้งสองคน"วันนี้ท่านประธานไม่เลี้ยงข้าวเราอีกเหรอ" เอวาถามกลับ"พอเลย อาหารก็อร่อยอยู่หรอก แต่ดูบรรยากาศยังไงไม่รู้""ถ้างั้นเราก็ไปกินหน้าบริษัทนี้แหละ ฉันเห็นร้านอาหารตามสั่งอยู่ แล้วโรสว่าไง""คะ?" สโรชามัวคิดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ เธอไม่น่าพลาดท่าให้เขาเลย "เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะคะ""พี่ถามว่าเราจะไปกินข้าวเที่ยงที่ไหนกันดี ใกล้เที่ยงแล้วเนี่ย""โรสยังไม่หิวค่ะ""จะไม่หิวได้ยังไง""พวกพี่ไปกินเถอะค่ะ""เราไม่หิวจริงเหรอ""น้องโรสอาจจะกินข้าวก่อนมาแล้วก็ได้" เพราะวันนี้สโรชามาสาย"เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้างั้นพวกพี่ไปก่อนนะ" พวกเธอไม่ต้องรูดบัตรเหมือนพนักงานที่นี่ จะลงไปก่อนก็ไม่มีใครว่า"ทำไมน้องไม่ไปกินข้าวกับเพื่อนล่ะคะ" เลขาก็แอบมองอยู่ว่าพวกเพื่อนๆ ไปแล้ว ทำไมเธอยังคงนั่งอยู่
สายตาคมมองต่ำลงไปดูที่พื้นทันทีที่เห็นผ้าม่านขยับได้ พอแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่อยู่หลังผ้าม่านคืออะไร ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับเดินไปที่ประตูแกร็ก.. มันคือเสียงล็อกประตู เพราะตอนเข้ามาแค่ปิดไว้เฉยๆพอเดินกลับมารามสูรก็เริ่มถอดเสื้อผ้าใหม่อีกครั้งคนที่แอบอยู่หลังผ้าม่านคิดว่าถ้าเขาถอดเสื้อผ้าเสร็จต้องเข้าไปอาบน้ำแน่ เธอจะใช้จังหวะนั้นรีบออกจากห้องนี้แต่พอถอดผ้าออกหมดรามสูรก็หยิบกางเกงลำลองมาสวมใส่แบบง่ายๆ แล้วเดินไปเอนตัวนั่งพิงหมอนที่เตียงนอน"??" คนบ้าอะไรทำงานมาทั้งวันไม่คิดอยากจะอาบน้ำเลยหรือไง แล้วเราจะออกไปได้ยังไงล่ะสโรชาขยับผ้าม่านเล็กน้อยเพื่อจะมองดูว่าคนที่เธอได้ยินเสียงนั่งลงที่เตียงเมื่อสักครู่กำลังทำอะไรอยู่ ..คงกำลังคุยแชทกับผู้หญิงอยู่ล่ะสิ มองไปก็เห็นว่าเขากำลังทำอะไรสักอย่างกับโทรศัพท์"ถ้าเหนื่อยยืนแล้วก็มานั่ง" สายตาของคนที่พูดยังคงมองดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่"???" เขาคุยวีดีโอคอลเหรอ? ถ้ารามสูรมองมาทางนี้สักนิดคงคิดว่าเขาเห็นเธอ แต่นี่เขายังคงมองโทรศัพท์อยู่"จะยืนอยู่แบบนั้นทั้งคืนเลยหรือไง" ประโยคนี้ชายหนุ่มค่อยๆ มองไปที่ผ้าม่าน พร้อมกับวางโทรศัพท์ลงบนหัวเ
"แม่ว่าเราอย่าเพิ่งตามไปดีกว่า" พอลูกสะใภ้เข้าไปในห้องของคุณย่า รามสูรกำลังจะตามเธอกับลูกเข้าไป"ผมควรทำยังไงดีครับแม่" ครั้งแรกที่เขายอมเปิดใจคุยกับแม่เรื่องนี้ ซึ่งมันผิดวิสัยของเขามาก ตั้งแต่เกิดมาแม้แต่เรื่องการเรียนเขายังไม่ปรึกษาใคร"เรากลับไปถามใจตัวเอง ว่ามีใจให้กับหนูสโรชาไหม ถ้าคำตอบที่ได้คือไม่ ลูกก็ปล่อยให้เธอไปมีชีวิตของเธอเอง" ที่นางพูดแบบนี้เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาเจอวิบากกรรมเหมือนนางอีกแล้ว อย่างที่รู้กันอยู่ว่าสามีเป็นยังไง ถ้าไม่มีใจให้ภรรยา ก็คือต้องไปหานอกบ้าน และพุดตาลก็รู้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน การที่รอชายคนรักกลับมาหา ทั้งๆ ที่รู้ว่าตอนนี้เขานอนกอดอยู่กับผู้หญิงคนอื่น"แม่ครับ""ลูกอย่าเพิ่งตอบแม่ตอนนี้ ลูกต้องให้แน่ใจก่อนค่อยตอบ""ผมแน่ใจแล้วครับ" เขาไม่รู้ว่ามีใจให้กับเธอตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่มะปรางกลับมา ในใจของเขายังคงคิดวนเวียนถึงเธออยู่เสมอ ทั้งๆ ที่มะปรางก็อยู่ข้างกาย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้วจึงยอมปล่อยเธอไปนี่แหละมันคือสิ่งที่คนเป็นแม่อยากได้ยิน นางเป็นแม่ทำไมจะไม่รู้ว่าลูกชายไม่ได้เจ้าชู้เหมือนพ่อ แต่คนที่ลูกชายมอบใจให้ กลับเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าจะได้รับสิ
จังหวะที่เขาเดินลงมาจะหลบก็หลบไม่ทันแล้ว สโรชาก็เลยต้องได้ยืนอยู่ตรงนั้นกับแม่บ้าน"คุณผู้ชายกำลังจะไปงานเลี้ยง คุณผู้หญิงก็ไปด้วยสิคะ" แม่บ้านก็พูดไปตามสิ่งที่คิด"เดี๋ยวโรสไปเองค่ะ" เธอแค่คิดว่าจะไปรับลูกกลับ เพราะงานหรูขนาดนั้นกลัวรามิลจะไปดื้อ "งานหรู??" สโรชาเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่างานนี้ต้องมีพ่อกับแม่ของเธอไปร่วมแน่ แล้วคุณย่าเอาตาหนูไปแบบนั้นพวกท่านก็ต้องเห็นสิหญิงสาวกำลังจะรีบวิ่งออกมา เพื่อไปขอให้คนขับรถพาไปส่ง แต่ไม่ทันร่างของเธอถูกคนที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบนหยุดไว้ก่อน"เป็นอะไร" ถ้าเขาไม่ใช้วิธีนี้คงรั้งตัวเธอไว้ไม่ทัน"ฉันจะรีบไปพาลูกกลับ""ทำไม""คุณอย่าลืมสิว่าพ่อกับแม่ฉันยังไม่รู้เรื่องตาหนู""แล้วคุณจะไปในชุดนี้เหรอ" เพราะเธอยังอยู่ในชุดทำงานจริงด้วยถ้าเธอไปแบบนี้ มีหวังต้องทำให้พ่อกับแม่ขายหน้าแน่ คิดถึงหน้าแม่ใหญ่ขึ้นมาท่านคงจะอายเพื่อน ถ้าลูกสาวไปในสภาพนี้"แต่ฉันไม่มี..""คุณท่านเตรียมชุดไว้ให้คุณผู้หญิงที่ห้องแล้วค่ะ" แม่บ้านรู้ดีว่าเธอกำลังจะพูดอะไรสโรชาไม่รอช้ารีบขึ้นไปชั้นบน"??" พอขึ้นมาถึงเห็นชุดที่คุณย่าเตรียมไว้ให้ แทบไม่กล้าใส่ มันดูหรูเกินไป แต่นาทีนี้เธอ
ที่พวกคุณหญิงคุณนายมองไปเพราะคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมมีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวเกิดขึ้นในขณะที่แนะนำลูกสะใภ้ของคุณพุดตาลที่มีเสียงดังเกิดขึ้นเพราะถ้าสโรชาเป็นแม่ของหลานชายคนแรกที่ท่านแนะนำไปแล้ว นั่นหมายถึงสโรชาเป็นภรรยาของรามสูรท่านประธานบริษัทนี้ ซึ่งไม่มีใครรู้มาก่อนเลย"คุณแม่คะ" ก่อนที่ท่านจะพูดอะไรมากไปกว่านี้สโรชารีบหยุดท่านไว้ก่อน ถ้าท่านจะแนะนำว่าเธอเป็นแม่ของรามิลก็ไม่ผิด แต่ประโยคที่ท่านกำลังจะเอ่ยพูดต่อเธอรู้ดีว่าท่านกำลังจะพูดอะไรพุดตาลหันมามองลูกสะใภ้เล็กน้อย"เรื่องของโรสกับคุณรามสูร โรสขอล่ะค่ะ""ทำไมเหรอ" ไม่ใช่แค่คุณย่าที่มอง รามสูรที่ยืนอยู่ใกล้ก็รอฟังว่าเธอจะขออะไร ส่วนคนอื่นยืนห่างออกไปหน่อยก็เลยไม่ได้ยินที่เธอพูด เพราะสโรชาไม่อยากให้ใครได้ยินด้วย "เราสองคนหย่ากันแล้วค่ะ" ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปแน่นอนว่ามันต้องถูกเผยแพร่ไปทุกช่องทางแน่ และถ้ารู้ถึงหูคนที่รู้แล้วว่าเธอกับเขาเซ็นใบหย่ากัน กลัวว่าเรื่องมันจะไม่จบแค่นี้น่ะสิ"ใครบอกว่าเราหย่ากัน" ประโยคนี้ออกจากปากรามสูร คนเป็นแม่และอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของลูกหันมามองที่เขาพร้อมกัน "ก็เห็นมีแต่คุณที่เซ็นคนเดียว" "??"
"เข้าข้างในกัน" เกษมราษฎร์เอื้อมมือมาให้อีกฝ่ายจับมือท่านไว้ เพื่อจะได้ก้าวเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน"ท่านทำอะไรคะ" นางยอมเดินตามแรงที่อีกฝ่ายจูง แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้"บอกแล้วไงว่าไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆ แต่งงานกันนะ""อู๊วววว" เสียงโห่แสดงความยินดีดังขึ้นเมื่อเกษมราษฎร์คุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในคืนนี้ ท่านเคยพูดไว้แล้วถึงแม้ว่าจะพูดแค่กับตัวเอง ถ้ามีโอกาสได้ทำเพื่อเธอ..จะทำให้ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ต้องอิจฉาเธอ"ลุกขึ้นเถอะค่ะท่าน""คุณตอบตกลงมาก่อนสิ""ท่านเพิ่งขอหมั้นไปวันก่อนเองนะคะ""ถ้าคุณไม่ตกลงผมก็จะอยู่แบบนี้""ตกลงก็ได้ค่ะ" จากเสียงโห่ร้องกลายเป็นเสียงกรี๊ดลั่นจนโรงแรมแทบจะแตก เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงแต่งงานด้วยเกษมราษฎร์ลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาช่วยพยุง ถึงแม้จะอายุและเยอะแล้วแต่ร่างกายของท่านก็ยังแข็งแรง เพราะการเป็นทหารต้องได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา"ดีใจด้วยนะครับ" รามสูรเข้ามาแสดงความยินดี เขาดีใจมากที่จะเห็นแม่มีความสุขสักที ตั้งแต่จำความได้เลยมั้งที่เห็นแม่ต้องเฝ้ารอพ่อกลับบ้านทุกวันและลูกๆ คนที่เหลือก็เข้ามาแสดงความยินดี รวมทั้งแขกในงาน วันนี้ท่าน
เย็นวันเดียวกันนั้น.. พุดตาลเรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาทานข้าวเย็นร่วมกัน"สวัสดีครับท่าน" รามสูรมาพร้อมกับภรรยา และลูกชาย พอมาถึงก็เห็นว่าท่านพลเอกเกษมราษฎร์ ก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วย"มาครบกันแล้วใช่ไหม นั่งก่อนสิลูก"พอลูกชายนั่งลงเกษมราษฎร์ก็ขอเป็นคนพูดเอง ท่านบอกทุกคนว่าขอเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวด้วย ทีแรกเกษมราษฎร์ก็ช่างใจอยู่ กลัวลูกๆ ของพุดตาลจะไม่ชอบใจ เพราะถึงยังไงพ่อของพวกเขาก็มีทีท่าว่าจะกลับมา"ยินดีต้อนรับครับ ผมเองต่างหากที่ต้องฝากคุณแม่ไว้กับท่าน" พี่ชายคนโตเป็นคนเอ่ยพูดก่อน"ขอบใจมากนะลูก" ใจจริงพุดตาลก็อยากจะอยู่กับลูกและหลานแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อสามีหย่าขาดจากผู้หญิงคนนั้น ยังไงท่านก็ต้องกลับมาวนเวียนจนทำให้ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขแน่ นางก็เลยตัดสินใจตัดกรรมกันไปแต่เพียงแค่นี้"ผมจะประกาศให้สังคมรับรู้เรื่องของเราในเร็ววันนี้""เรื่องนี้แล้วแต่ท่านค่ะ" นางคิดว่าให้คนรับรู้ไว้ก็ดี เรื่องถูกนินทาหนีไม่พ้นอยู่แล้ว ใครจะนินทาก็ช่าง ขอให้ตัวเองอยู่แบบสบายใจก็พอร่วมทานข้าวเย็นกันเสร็จ ลูกชายทั้งสองก็ขอตัวกลับเพราะมันดึกแล้ว ส่วนเพลิงไม่อยากจะกลับก็ต้องได
"ใจเย็นก่อนสิคะมาเหนื่อยๆ น้ำก็ยังไม่อาบ""ขอชื่นใจก่อน" ริมฝีปากหนากระซิบพูดในขณะที่จมูกยังสูดดมคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด"คิดถึงคุณเหมือนกันค่ะ" รักครั้งแรกของเธอมันช่างสวยงามนัก แต่เมขลาหวังว่าจะหยุดผู้ชายคนนี้ไว้ได้แค่เธอ เพราะถ้าเขามีตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาจะเป็นเหมือนคนที่ให้กำเนิดเธอไหม"เป็นอะไร" เพลิงสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเธอไม่เหมือนตอนที่เรียกเขาขึ้นมาข้างบนเลย"อนาคตข้างหน้าอะไรมันก็ไม่แน่นอนค่ะ เผื่อคุณก้าวไปในตำแหน่งที่สูงกว่านี้..""อย่าคิดอะไรที่มันจะไม่เกิดขึ้น" แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอคงกลัวว่าเขาจะทำตัวเหมือนพ่อ"คุณรู้เหรอคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่""ผมรักคุณ คำนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ฟังมันจากปากผม และผมก็จะพูดให้คุณฟังเพียงคนเดียว""ขอบคุณนะคะ" ขอบคุณเขาทั้งน้ำตา แต่ก่อนตอนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ยังมีความสุขมากกว่านี้เลย แต่พอรู้ว่าพ่อมีนิสัยยังไง เมขลาก็เริ่มกลัวผู้ชายรอบข้าง[โรงแรมหรู]ที่พลเอกเกษมราษฎร์พาพุดตาลมาทานข้าวที่โรงแรม เพราะรู้แล้วว่านางคงไม่กลับไปหาอะไรเดิมๆอีก ท่านต้องทำให้นางเห็นว่าท่านสามารถที่จะพานางก้าวไปในทุกๆที่ได้"ทำไมคุณรู้ว่าฉันชอบกิน เออ..
"ทำอะไรกัน"คนที่กำลังโอบกอดกันถึงกับตกใจปล่อยมือออก"ท่าน?""นายคงไม่อยากจะอยู่ในกรมแล้วใช่ไหม""อย่าทำอะไรผู้กองนะคะ" ถึงแม้เธอจะตัวเล็กกว่ามาก แต่หญิงสาวก็ใจกล้าก้าวออกมายืนบังชายคนรักไว้"เรารู้ไหมว่ามันไม่สมควร""จะสมควรหรือไม่ มันอยู่ที่เราสองคนค่ะ""อย่าลืมสิว่าเราเป็นลูกของใคร""หึ.. แล้วฉันเป็นลูกของใครล่ะคะ""มันสมควรแล้วเหรอที่จะมาพูดต่อล้อต่อเถียงกับพ่อ""พ่อ?" เมขลาอยากจะพูดอะไรอีกตั้งมากมาย แต่มันจุกในอกเสียก่อน"มีอะไรกัน" แม่บ้านรีบเข้าไปตามคุณผู้หญิงออกมาดู กลัวว่าจะมีเรื่อง"คุณมาก็ดีแล้ว ผมจะเร่งเรื่องให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ""เรียนต่อต่างประเทศ?" เพลิงพูดพร้อมกับมองหน้าเมขลา แล้วมองไปที่ท่านพลเอกเรวทัต"ฉันไม่ไปค่ะ""ลูกไม่อยากเรียน" พุดตาลคิดว่านางคงต้องได้ออกหน้าเองแล้วล่ะ"อายุแค่นี้ยังเรียนได้อีกตั้งเยอะ ทำไมถึงคิดสั้น""อะไรคือการคิดสั้นคะ""ก็ที่เห็นอยู่นี่ไง""คนนี้ผู้กองเพลิงท่านก็คงจะรู้จักแล้ว เขาเป็นคนรักของฉัน ไม่สิ.." ถ้าพูดแค่คนรักมันคงไม่จบตรงนี้แน่ เมขลาก็เลยให้สถานะใหม่กับเพลิง "เขาเป็นพ่อของลูกในท้องฉันเองค่ะ""???" ไม่ใช่แค่พลเอกเรวทัตและพุดตา
เห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า เรวทัตก็เลยยังไม่พูดอะไรอีก เพราะคดีเก่ายังไม่เคลียร์"อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว พ่อจะย้ายกลับมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วนะ"เรวทัตพูดจบ ลูกๆ ต่างก็มองดูหน้าคนเป็นแม่มันคงเป็นเวรกรรมของนางที่เคยสร้างไว้กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้ก็เลยต้องได้ตามมาชดใช้กรรม หนีไปไหนก็คงจะหนีไม่พ้นแล้ว"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณ คุณจะมาอยู่ใครจะว่าอะไรได้ล่ะคะ"เรวทัตอยากได้ยินคนตรงหน้าเรียกว่าคุณพี่เหมือนเดิม แต่คงต้องใช้เวลา เพราะตัวเองทำไว้กับนางเยอะ"หือ รามิล" มองเข้าไปด้านในก็เห็นลูกสะใภ้คนโตกำลังอุ้มหลานชายเดินออกมา เรวทัตก็เลยเดินเข้าไปหาหลานพอคนเป็นพ่อไปแล้ว ลูกๆ ที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มองดูหน้าแม่อีกครั้ง นาทีนี้ไม่มีใครน่าสงสารเท่าท่านอีกแล้ว"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ" แค่นี้นางก็รู้แล้วว่าสามีคงจะหย่าจริง เพราะถ้าไม่งั้นคงไม่บอกว่าจะกลับมานอนบ้านหลังนี้ นางรนหาที่เอง คิดว่าท่านจะไม่กล้าหย่าดาราสาวสวยคนนั้นทุกคนเข้าไปแล้ว เมขลาก็หันกลับมากุมมือเพลิงไว้ "เรายังจะเป็นเหมือนเดิม อย่าคิดมากนะคะ" เมขลารู้ดีว่าเพลิงคิดว่าตัวเองต่ำต้อย"ผมจะไม่ถอ
"ผมมาคิดทบทวนเรื่องของเราดูแล้ว""ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" แพรวพราวเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้ แบบใจดีสู้เสือ"เราหย่ากันเถอะ""คุณพี่!!""ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ ผมขอแค่ให้คุณเซ็นใบหย่า""ไม่มีทางค่ะ กว่าเราจะฝ่าฟันความรักของเรามาด้วยกันได้ ทำไมคุณพี่ถึงทำแบบนี้กับแพรวคะ""ผมให้เกียรติคุณถึงได้มาคุยก่อน หรืออยากจะคุยผ่านทนายของผมล่ะ""แพรวรักท่าน ยอมอุ้มท้องลูกของท่าน ถึงแม้จะถูกใครตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี""เรื่องลูกผมก็ยังจะส่งเสียเลี้ยงดู""แพรวไม่ได้ต้องการแบบนั้นสักหน่อย ใครคะ..ท่านมีใครใหม่อีกเหรอคะ""เรื่องนั้นไม่เกี่ยว เรามาคุยเรื่องของเราก่อน""เรื่องของเรา แพรวไม่หย่า!""ผมมาคุยกับคุณดีๆ แล้วนะ หลังจากนี้คุณก็คุยกับทนายของผมแล้วกัน และสิ่งที่คุณอยากได้ก็อย่าฝันว่าจะได้""ท่านอย่าบอกนะว่าจะกลับไปหามันอีก""ผมเพิ่งรู้ว่ารักภรรยา""รักภรรยาอย่างนั้นเหรอคะ แล้วที่ผ่านมาล่ะผู้หญิงนับสิบนับร้อยยังจะเรียกว่ารักภรรยาได้อยู่อีกเหรอคะ!" แต่ดูเหมือนเรวทัตจะไม่ฟังอะไรอีก เพราะตอนนี้เดินไปที่รถแล้ว "กรี๊ดดดด!!""คุณแม่เป็นอะไรคะ" มโนราห์ได้ยินเสียงร้องก็รีบลงมาดู"
"??" เมขลาได้ยินทุกคำพูดของแม่ใหญ่ที่พูดกับ.. แม้แต่คิดยังไม่กล้าเอ่ยชื่อในใจเลย คนที่ไม่ต้องการเธอ..เธอก็ไม่ต้องการคนแบบนั้นเช่นกัน"หนูเมย์" ยืนมองตามสามีเก่าไปครู่หนึ่ง พอหันกลับมาก็เจอเมขลาอยู่ตรงมุมบันได"คุณแม่ทำแบบนั้นทำไมคะ""บางทีมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเราก็ได้""น้องเมย์ไม่เห็นด้วยค่ะ""แต่เขาคือ..." นางกำลังจะพูดว่าแต่นั่นคือพ่อแท้ๆ ของเมขลาเลยนะ"น้องเมย์ไม่อยากให้คุณแม่กลับไปเจอวังวนเก่าๆ อะไรที่เราสลัดทิ้งไปได้แล้ว ก็ปล่อยมันไปเถอะค่ะ"ทำไมเด็กอายุยังไม่ถึง 20 ถึงคิดได้กว่านาง ถ้านางใช้แค่หัวใจคิดก็คงจะกลับมาในวังวนเดิม แต่ถ้าใช้สมอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไป มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้"แล้วแม่ต้องทำยังไง"เมขลามองใบหน้าผู้หญิงที่กาลเวลาไม่สามารถทำร้ายนางได้ เพราะถ้าเดินไปกับเธอทุกคนคงคิดว่าพี่กับน้อง ดวงตาของนางคลอไปด้วยม่านน้ำตาที่บดบัง ถึงแม้เธอจะอายุยังน้อย แต่ก็พอดูออกว่าท่านยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่"ถ้าเขาคนนั้นกลับมา ทำให้คุณแม่ต้องทุกข์ใจอีก คุณแม่จะรับได้ไหมล่ะคะ" เพราะยังไงคนเดิมก็คงทำอะไรเหมือนเดิม ถ้าไม่งั้นคงไม่ออกไปไข่ไว้นอกบ้านจนทั่วแบบนี้"แม่ขออยู่คน
คฤหาสน์พลเอกเรวทัต"ดีใจจังเลยค่ะที่คุณผู้หญิงกลับมา""สบายดีกันไหม" กลับมาที่นี่ถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้ถามสารทุกข์สุขดิบกันเลย เพราะแค่เห็นหน้าสามีเก่าก็ไม่มีอารมณ์ถามใครแล้ว"ไม่สบายก็ตรงที่คิดถึงคุณผู้หญิงนั่นแหละค่ะ""ปากหวานเหมือนเดิมนะพวกเราเนี่ย ช่วยกันเอาของเข้ามาข้างในก่อน""เดี๋ยวผมทำเองครับ" เพลิงซึ่งทำหน้าที่ขับรถรีบเดินไปเปิดกระโปรงหลัง"ฉันช่วยค่ะ" เมขลากำลังจะไปช่วยยกของแต่ถูกเพลิงห้ามไว้"เอาของขึ้นไปไว้ข้างบนเลย แม่ให้คนจัดห้องให้แล้ว""ครับ" ชายหนุ่มหิ้วกระเป๋าขึ้นไปที่ชั้นบน โดยมีหญิงคนรักเดินตามไป ส่วนของที่เหลือพวกแม่บ้านช่วยกันคนละไม้คนละมือกึก.."อืม" หญิงสาวตกใจเดินพ้นประตูเข้ามาเขาก็ปิดแล้วล็อกมันไว้ ไม่ได้ทำแค่นั้นเพลิงยังหันมาจูบพอหายตกใจเมขลาก็จูบกลับ คิดว่าคงไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ เพราะของที่เหลือเป็นของแม่ใหญ่คิดว่าจะจูบไม่นานพอให้หายคิดถึง ถ้าได้แยกกันอยู่จริง แต่นี่ขนาดจูบอยู่ยังคิดถึง"ผมรักคุณนะ" นิ้วแกร่งเขี่ยแก้มของหญิงคนรักเบาๆ "อยู่ที่นี่ห้ามดื้อเข้าใจไหม""คุณก็ห้ามแอบไปเที่ยวที่ไหนนะคะ""ไม่ไปไหนหรอก"ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก็ลงมา.."พี่
"คุณไม่มีพันธะ แต่คุณไม่คิดเหรอกว่าเกษมอาจจะมีพันธะอยู่ก็ได้"พุดตาลเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากสามีเก่า มันก็มีส่วนอยู่บ้าง พลเอกเกษมราษฎร์ตำแหน่งใหญ่โตขนาดนั้น แถมภรรยาก็ตายจากไปนานแล้ว"เรื่องนั้นฉันคงไม่ให้ท่านต้องมาลำบากใจด้วยหรอกค่ะ..กลับกันเถอะลูก"พลเอกเรวทัตได้แต่มองตามหลังนางไป ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้"คนนี้ใช่ไหม ที่เป็นลูกของนวล" เรวทัตรีบเดินตามทั้งสองมาที่รถจากที่กำลังจะเปิดประตูพุดตาลถึงกับชะงัก"ผมจะรับลูกคนนี้กลับมาเลี้ยงเอง""??" พอประโยคนี้ออกจากปากพลเอกเรวทัต ทั้งสองที่ยืนหันหลังให้ ก็ได้หันกลับมามองพร้อมกัน "คุณหมายความว่ายังไง""ในเมื่อเด็กคนนี้เป็นลูกอีกคนของผม มันก็ไม่แปลกที่ผมจะรับลูกกลับมาเลี้ยงเอง"พุดตาลรีบจับเมขลาหลบไว้ด้านหลังของตัวเองก่อน "เสียใจด้วยค่ะ แต่ตอนนี้เมขลาเป็นลูกของดิฉันแล้ว""คุณแน่ใจเหรอว่าจะพูดเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูเด็กคนนี้กับผม"เมขลาส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกกับแม่พุดตาลว่าเธอไม่ไป"แม่ไม่ยอมให้หนูไปอยู่แล้ว เรากลับบ้านกัน" นางรีบหันกลับไปเปิดประตูรถ เพื่อให้เมขลาได้ขึ้นไปนั่งก่อน"ถ้าคุณชอบขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่เป็นไรนะผมจัดให