แชร์

บทที่ 277

ผู้เขียน: ซ่งจิ้น
ฟู่เซียวหานราวกับสงบสติลงแล้ว ในเวลานี้สองมือของเขายันเข้ากับพื้นโต๊ะ แผ่นหลังที่เหยียดตรงอยู่เสมอโค้งงอ เขาก้มศีรษะลง ดูจิตใจเหงาหงอยเศร้าซึมลงอย่างบอกไม่ถูก

สวีเหยียนคิดอยากจะปลอบโยนเขา แต่ว่าสวีเหยียนไม่รู้เลยว่าตนควรจะพูดสิ่งใด

และในขณะที่เขาลังเลนั้นเอง จู่ ๆ ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมถามเขาว่า “มีบุหรี่ไหม?”

สวีเหยียนชะงักไปกับคำถามที่เข้ามาอย่างกะทันหันนี้ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็รู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าฟู่เซียวหานเลิกบุหรี่ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้

เขารีบส่งซองบุหรี่ที่พกติดตัวไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกล่าวว่า “บุหรี่ยี่ห้อนี้แตกต่างกับที่คุณคุ้นเคย ให้ผมสั่งคนไปซื้อมาให้ไหมครับ?”

“ไม่ต้อง”

ฟู่เซียวหานพูดพลางหยิบบุหรี่ออกจากซอง

สวีเหยียนรีบส่งไฟแช็กที่จุดไฟแล้วไปให้อย่างรวดเร็ว

เพราะมือของเขายังคง…สั่นระริกอยู่ตลอดเวลา

สวีเหยียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาเมื่อเห็นท่าทีของเขาเช่นนั้น โชคดีที่ครู่ต่อมาฟู่เซียวหานจุดบุหรี่ได้ในที่สุด

สวีเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ฟู่เซียวหานสุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง หลังจากจ้องไปที่วงควันบนอากาศสักพัก เขาก็กล่าวว่า “เธอกำลังจะแต่งงานแล้ว”
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 278

    เมื่อฟู่เซียวหานยังเป็นเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเจอแมวจรจัดในโรงเรียนของพวกเขาลูกแมวตัวนั้นอาจเพิ่งคลอดได้ไม่นานแต่ไม่มีแม่แมวอยู่เคียงข้าง มีเพียงมันตัวเดียวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าและส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรงฟู่เซียวหานเพียงเหลือบตามองมันแต่เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่เปี่ยมล้น ดังนั้นหลังจากเหลือบมองครั้งหนึ่งเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่คาดคิดว่าลูกแมวตัวนั้นจะเดินตามหลังเขามาฝีเท้าของเขาไม่ได้นับว่าก้าวเดินช้า ทั้งที่ลูกแมวตัวนั้นยังไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ยังคงยืนหยัดเดินตามเขามาทีละก้าวและในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านของชำด้านข้าง พร้อมซื้อไส้กรอกมาหนึ่งชิ้นลูกแมวตัวน้อยกินอย่างมีความสุขดังนั้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟู่เซียวหานจะเจอมันทุกครั้งหลังเลิกเรียนมันเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาเขาก่อน หลังจากซุกไซร้เข้ากับฝ่ามือของเขาแล้วจึงรอให้เขาป้อนอาหารด้วยความเชื่อฟังและนับตั้งแต่นั้น ฟู่เซียวหานก็มักจะเตรียมขนมไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขาเสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาแม้กระทั่งตั้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 1

    หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง ความอบอุ่นภายในห้องถึงได้จบสิ้นลงจริง ๆ สักทีมีเสียงน้ำดังลอยมาจากในห้องอาบน้ำ หลังจากที่ซังหนี่พักอยู่ไม่กี่นาที ในที่สุดก็ลุกขึ้นจากเตียงนอน เดินไปหยิบเสื้อผ้าบนพื้นด้วยสองขาที่สั่นระริกวันนี้การกระทำของชายหนุ่มรุนแรงไปหน่อย ถึงขนาดที่ตอนนี้ในหัวสมองของเธอยังคงว่างเปล่าอยู่เล็กน้อย ติดกระดุมชุดนอนอยู่หลายครั้งก็ยังติดไม่ได้ไม่นานนัก ชายหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องอาบน้ำรูปร่างของเขาสูงชะลูด เครื่องหน้าดุดันแต่หล่อเหลา ในเวลานี้เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ จึงมีผ้าขนหนูพผืนหนึ่งพันอยู่รอบเอว หยดน้ำที่ยังไม่แห้งกำลังไหลลงมาตามกล้ามหน้าท้องของเขาตอนที่พบว่าซังหนี่ยังอยู่ หว่างคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยทันทีซังหนี่เองก็ไม่ได้มองเขาอีก เพียงก้มหน้าพยายามสู้รบกับกระดุมของตนต่อไป“พรุ่งนี้ซังฉิงก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว”ชายหนุ่มเดินผ่านข้างตัวเธอไป จู่ ๆ ก็พูดขึ้นว่า “คุณไปรับเธอที่โรงพยาบาลหน่อย ผมรับปากคุณแม่ของคุณเอาไว้แล้วว่า จะให้เธอพักอยู่ที่นี่สักระยะ”มือที่กำลังติดกระดุมของซังหนี่หยุดชะงักลงทันทีหลังจากนั้น เธอก็หันหน้ากลับไปมองคนที่อยู่ด้านหลังนั่น

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 2

    ผู้พูดคือหยวนโหรวเพื่อนสนิทของซังฉิง ซึ่งเป็นคุณหนูของกลุ่มบริษัทหนึ่งด้วยเช่นกันหยวนโหรวกับซังฉิงเติบโตมาด้วยกัน ก่อนหน้านี้ก็หวังว่าฟู่เซียวหานกับซังฉิงจะลงเอยกันด้วยดีตอนนี้ถูกซังหนี่แย่งตำแหน่งคุณนายฟู่ไปครองแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่เธอย่อมไม่ชอบขี้หน้าซังหนี่รวมถึงตอนที่เธอพบว่าซังหนี่ยืนอยู่ที่หน้าประตู บนใบหน้าของเธอไม่มีความอึดอัดหรือไม่สบายใจใด ๆ เลยกลับเป็นซังฉิงที่ร้องเรียกเธอ “พี่ พี่มาแล้วเหรอ?”ซังหนี่พยักหน้า “พี่มารับเธอกลับบ้าน เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”“เรียบร้อยแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”ท่าทางของซังฉิงดูเชื่อฟังมาก กลับเป็นหยวนโหรวที่อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “คุณนายฟู่ แล้วประธานฟู่ล่ะ? วันนี้ฉิงฉิงออกจากโรงพยาบาล เขาไม่มารับเหรอ?”“อืม เขาไปที่บริษัทแล้ว”“อ่อ ดูท่าเขาคงยุ่งมากสินะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขายุ่งจริง ๆ จนปลีกตัวมาไม่ได้ หรือว่าคุณนายฟู่ไม่ให้เขามากันแน่?”เมื่อเธอพูดจบ ซังฉิงก็รีบพูดเสียงเบา “หยวนโหรว เธอเลิกพูดได้แล้ว”หยวนโหรวกลับกล่าวเสียงเย็นชา “ทำไมจะพูดไม่ได้? มีใครบางคนร้อนตัวเหรอไง?”ซังหนี่ไม่ได้โต้เถียงเธอ เพียงแต่เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 3

    เวลาหนึ่งทุ่ม ฟู่เซียวหานกลับมาถึงคฤหาสน์ตรงเวลาตอนนั้นซังฉิงอยู่ที่ห้องรับแขกพอดี หลังจากเห็นเขา ก็รีบก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว “พี่เขย! พี่กลับมาแล้วเหรอคะ?” ฟู่เซียวหานยิ้มบาง ๆ ให้เธอทีหนึ่ง แล้วเหลือบตามองหลังซังหนี่เม้มปากทีหนึ่ง ก็ก้าวมาข้างหน้าเพื่อรับเสื้อคลุมของเขา แล้วเอ่ยปากพูด “ทานข้าวได้แล้วค่ะ”“ขอโทษด้วยนะคะพี่เขย ฉันรบกวนพี่กับพี่สาวแล้วใช่ไหมคะ?บนโต๊ะอาหาร ซังฉิงมองซังหนี่ แล้วพูดเสียงเบา “ที่จริงฉันเคยบอกหม่ามี๊แล้วว่า ฉันอยู่คนเดียวได้ แต่เธอก็ไม่วางใจ...”“ไม่เป็นไร” ฟู่เซียวหานตอบ “เธออยู่ที่นี่ได้ตามสบาย ต้องการอะไรก็บอกมาได้ตลอด”“แบบนี้...ได้เหรอคะ? จะเป็นการรบกวนมากเกินไปไหมคะ?”“ไม่หรอก”“คุณหนูซังฉิงอยู่ที่นี่สิคะถึงจะดี” ป้าคังวางอาหารลงบนโต๊ะพลางพูด “ที่นี่ไม่ได้คึกคักขนาดนี้มานานแล้วค่ะ!”เมื่อเธอพูดจบ ตะเกียบในมือของซังหนี่ก็หยุดชะงักไปทันทีแต่ว่าคำพูดประโยคนี้ของป้าคังไม่ผิดเธอมีนิสัยเงียบขรึม สู้ซังฉิงที่มักจะทำให้ผู้คนมีความสุขไม่ได้จริง ๆ ไม่เพียงแค่พวกป้าคังเท่านั้น แม้แต่ฟู่เซียวหาน เธอก็เคยได้ยินเขาพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วเช่นกัน

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 4

    ร่างกายของซังหนี่แข็งทื่อไปเธอเบิกตากว้างทันที มือออกแรงผลักเขาออกแต่ฟู่เซียวหานกลับทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย เพียงพลิกมือแล้วจับข้อมือของเธอเอาไว้ กดตัวเธอเข้ากับกำแพงการกระทำของเขายังคงแข็งแกร่งเหมือนเคยซังหนี่อยากจะคราง แต่เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เธอพยายามกลืนเสียงกลับเข้าไปอีกครั้งเสียงน้ำจากฝักบัวยังคงดำเนินต่อไปประกอบกับมีประตูกั้นเอาไว้ ซังฉิงที่อยู่ด้านนอกเหมือนว่าจะไม่สังเกตเห็นอะไรเธอถามขึ้นอีก “พี่เขย?”ซังหนี่หันหน้ากลับไปมองฟู่เซียวหานไม่รู้ว่าเป็นเพราะโมโหหรือเพราะเหตุผลอื่น สีหน้าของเธอในเวลานี้แดงระเรื่อ ดวงตาทั้งสองข้างจ้องเขม็งเมื่อเทียบกับท่าทางที่เงียบขรึมในเวลาปกติ ไม่รู้ว่าดูมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นกี่เท่าฟู่เซียวหานจ้องมอง การกระทำก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับกำลังระบายบางอย่างออกมาร่างกายที่สมบูรณ์แบบ ส่งซังหนี่ขึ้นสวรรค์ได้อย่างง่ายดายซังฉิงที่อยู่ด้านนอกเหมือนกำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ซังหนี่ฟังไม่ชัดเจนเลยแม้แต่ประโยคเดียวตอนที่ฟู่เซียวหานกดเธอลงไปอีกครั้ง สุดท้ายเธอก็ครางออกมาอย่างอดไม่อยู่แล้วจากนั้น คนที่อยู

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 5

    ซังฉิงเติบโตมาด้วยกันกับฟู่เซียวหานตั้งแต่เด็กดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับบ้านเก่าตระกูลฟู่หลังนี้ยิ่งกว่าซังหนี่ทันทีที่เข้าบ้าน เธอก็เดินเข้าไปหาคุณนายใหญ่ด้วยความสนิทสนม “คุณย่า!”“อ้าว ยัยหนูฉิงมาแล้วเหรอ?”คุณนายใหญ่ดีใจเป็นอย่างมาก “ย่าขอดูหน่อย ทำไมผอมลงไปอีกแล้วล่ะ?”“ไม่ผอมนะคะ” ซังฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณย่าดูสิคะ หนูทำลูกชิ้นปูมาให้คุณย่าด้วยนะคะ”“แม่หนู เธอช่างมีน้ำใจจริง ๆ!”ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนิทสนม บนใบหน้าของคุณนายใหญ่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ทันทีที่ซังหนี่เดินเข้ามาใกล้ รอยยิ้มของคุณนายใหญ่ก็จางลงไปมากทันทีซังหนี่เหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็น เพียงแต่เรียกด้วยความเคารพ “คุณย่า”คุณนายใหญ่เห็นท่าทางของเธอแล้ว กำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่ซังหนี่กลับย้ายสายตาไปอย่างรวดเร็ว กล่าวกับคนที่อยู่บนบันได “คุณแม่”“คุณป้า!”เมื่อเห็นคนที่เดินมา ซังฉิงที่แต่เดิมใช้ร่างกายอิงแอบอยู่บนบ่าของคุณนายใหญ่ ก็ยืนตัวตรงขึ้นทันที สายตาที่จ้องมองอีกฝ่าย แฝงไปด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย“คุณหนูรองมาแล้วเหรอ ยินดีต้อนรับ”คุณนายฟู่พยักหน้าให้เธอทีหนึ่ง แม้ท่าทางที่แสดงออกดูเหมือนขอ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 6

    ฟู่เซียวหานกลับมาก่อนมื้อเย็นเมื่อเห็นหลานชายของตนเอง คุณนายใหญ่ย่อมยิ้มด้วยความดีใจ ดึงมือของฟู่เซียวหานเอาไว้ตลอดพร้อมทั้งถามด้วยความห่วงใย“ดูสิ ผอมลงอีกแล้ว” คุณนายใหญ่พูดขึ้นด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “ดูหลานใช้ชีวิตเข้าสิ ทำไมถึงได้ผอมลงกว่าตอนก่อนแต่งงานมากขนาดนั้น ภรรยาของหลานดูแลหลานยังไง?”คำพูดประโยคนี้ของเธอ เห็นได้ชัดว่าหมายถึงซังหนี่ซังหนี่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด ซังฉิงกลับพูดขึ้นว่า “คุณย่า อย่าเข้าใจพี่สาวของหนูผิดสิคะ พี่สาวของหนูยุ่งทุกวันเลยค่ะ ได้ข่าวว่าพี่มีการ์ตูนอีกเล่มที่กำลังจะตีพิมพ์ คุณย่าไม่สังเกตเห็นเหรอคะว่าพี่สาวของหนูก็ผอมลงไปเยอะเหมือนกัน? เมื่อวานหนูเห็นยังสงสารเลยค่ะ”ดูเหมือนปากของซังฉิงกำลังช่วยพูดแทนซังหนี่แต่ทำไมคำพูดประโยคนี้ฟังดูแปลก ๆ แน่นอนว่า คงจะมีเพียงซังหนี่คนเดียวเท่านั้น ถึงเข้าใจคำพูดประชดประชันในนั้นออกหลังจากคุณนายใหญ่ฟังซังฉิงพูดจบ ก็ไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม “การ์ตูนอะไร? ของไม่เข้าท่าพวกนั้นอีกแล้วเหรอ เธอนี่มัน...”คุณนายใหญ่เตรียมที่จะสั่งสอน ฟู่เซียวหานก็ตัดบทขึ้นมาทันที “เตรียมตัวกินข้าวได้หรือยังครับ?”“เซียวหาน หลาน...”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 7

    “พี่เขย ขอบคุณพี่ที่ช่วยฉันพูดเมื่อกี้นี้”ระหว่างทางกลับบ้าน ซังฉิงนั่งอยู่เบาะหลังของรถ แต่ปากกลับพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด “ฉันคิดไม่ถึงว่าหม่ามี๊จะพูดเรื่องนี้กับคุณป้า ฉันตกใจแทบแย่ โชคดีที่พี่เขยช่วยฉันพูด ไม่อย่างนั้น ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้วจริง ๆ ฉันไม่ได้อยากจะแต่งงานเร็วขนาดนี้หรอกค่ะ”ฟู่เซียวหานกำลังขับรถ เพียงส่งเสียงอืมเบา ๆ เท่านั้น ถือเป็นคำตอบท่าทีของเขาเหมือนกับขอไปทีเล็กน้อย แต่ซังฉิงรู้ว่า นิสัยของเขาเป็นแบบนี้มาตลอด ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ถือสา เพียงหันหน้าไปมองทางซังหนี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ “จริงสิพี่คะ เมื่อครู่นี้คุณป้าดึงพี่ขึ้นไปข้างบนคุยอะไรกันเหรอคะ?”“ไม่มีอะไร”ตอนที่ซังหนี่ตอบ ท่าทางเทียบไม่ได้กับการขอไปทีด้วยซ้ำซังฉิงเบะปากด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ในไม่ใช่ก็พูดขึ้นอีกว่า “ช่างเถอะค่ะ พี่คะ พี่รู้ไหมคะ? ว่าพี่ฉินม่อจะกลับมาแล้ว”ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของซังหนี่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยตอนนี้ ข้างหน้าเป็นไฟแดงพอดีฟู่เซียวหานหยุดรถอย่างรวดเร็วการเบรกของเขาไม่นับว่ากะทันหัน แต่เมื่อครู่นี้ซังหนี่อยู่ในอาการตกตะลึงพอดี ตอนนี้ตัวจึงโยกเล็กน้อยอย่างอด

บทล่าสุด

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 278

    เมื่อฟู่เซียวหานยังเป็นเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเจอแมวจรจัดในโรงเรียนของพวกเขาลูกแมวตัวนั้นอาจเพิ่งคลอดได้ไม่นานแต่ไม่มีแม่แมวอยู่เคียงข้าง มีเพียงมันตัวเดียวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าและส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรงฟู่เซียวหานเพียงเหลือบตามองมันแต่เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่เปี่ยมล้น ดังนั้นหลังจากเหลือบมองครั้งหนึ่งเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่คาดคิดว่าลูกแมวตัวนั้นจะเดินตามหลังเขามาฝีเท้าของเขาไม่ได้นับว่าก้าวเดินช้า ทั้งที่ลูกแมวตัวนั้นยังไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ยังคงยืนหยัดเดินตามเขามาทีละก้าวและในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านของชำด้านข้าง พร้อมซื้อไส้กรอกมาหนึ่งชิ้นลูกแมวตัวน้อยกินอย่างมีความสุขดังนั้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟู่เซียวหานจะเจอมันทุกครั้งหลังเลิกเรียนมันเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาเขาก่อน หลังจากซุกไซร้เข้ากับฝ่ามือของเขาแล้วจึงรอให้เขาป้อนอาหารด้วยความเชื่อฟังและนับตั้งแต่นั้น ฟู่เซียวหานก็มักจะเตรียมขนมไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขาเสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาแม้กระทั่งตั้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 277

    ฟู่เซียวหานราวกับสงบสติลงแล้ว ในเวลานี้สองมือของเขายันเข้ากับพื้นโต๊ะ แผ่นหลังที่เหยียดตรงอยู่เสมอโค้งงอ เขาก้มศีรษะลง ดูจิตใจเหงาหงอยเศร้าซึมลงอย่างบอกไม่ถูกสวีเหยียนคิดอยากจะปลอบโยนเขา แต่ว่าสวีเหยียนไม่รู้เลยว่าตนควรจะพูดสิ่งใดและในขณะที่เขาลังเลนั้นเอง จู่ ๆ ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมถามเขาว่า “มีบุหรี่ไหม?”สวีเหยียนชะงักไปกับคำถามที่เข้ามาอย่างกะทันหันนี้ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็รู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าฟู่เซียวหานเลิกบุหรี่ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้เขารีบส่งซองบุหรี่ที่พกติดตัวไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกล่าวว่า “บุหรี่ยี่ห้อนี้แตกต่างกับที่คุณคุ้นเคย ให้ผมสั่งคนไปซื้อมาให้ไหมครับ?”“ไม่ต้อง”ฟู่เซียวหานพูดพลางหยิบบุหรี่ออกจากซองสวีเหยียนรีบส่งไฟแช็กที่จุดไฟแล้วไปให้อย่างรวดเร็วเพราะมือของเขายังคง…สั่นระริกอยู่ตลอดเวลาสวีเหยียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาเมื่อเห็นท่าทีของเขาเช่นนั้น โชคดีที่ครู่ต่อมาฟู่เซียวหานจุดบุหรี่ได้ในที่สุดสวีเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกฟู่เซียวหานสุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง หลังจากจ้องไปที่วงควันบนอากาศสักพัก เขาก็กล่าวว่า “เธอกำลังจะแต่งงานแล้ว”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 276

    ฟู่เซียวหานมองภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งสวีเหยียนและผู้จัดการฝ่ายดำเนินการเข้ามากล่าวรายงานกับเขาได้ครู่ใหญ่ และพบว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดกลับมาเลย สวีเหยียนถึงจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ประธานฟู่ครับ?”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาล้ำลึกคู่นั้นยังคงเปี่ยมด้วยความสงบอย่างเคยสวีเหยียนรู้สึกไปแม้กระทั่งว่าเมื่อกี้เป็นเขาที่คิดไปเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยื่นเอกสารในมือให้เขา “นี่เป็นเอกสารที่ทางแผนกดำเนินการเพิ่งนำมาครับ ต้องใช้ลายเซ็นของคุณ”ฟู่เซียวหานเหมือนจะเอ่ยตอบรับในลำคอ และหยิบปากกาที่วางด้านข้างขึ้นมาสวีเหยียนและคนที่ยืนด้านข้างยืนรออยู่ฝั่งตรงข้ามหากยึดตามความเร็วในการตรวจสอบเอกสารของฟู่เซียวหานในอดีต เอกสารชุดนี้ก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวินาทีเท่านั้น แต่ทั้งสองรอไปสักพักใหญ่ ก็พบว่าสายตาของฟู่เซียวหานยังคงหยุดอยู่ตรงหน้าแรกของเอกสาร“ประธานฟู่ครับ?”เขาทำได้เพียงเอ่ยถามอีกครั้ง ผู้จัดการฝ่ายดำเนินการกระทั่งเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “ประธานฟู่ครับ เอกสาร…มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”ฟู่เซียวหานไม่กล่าวอะไรออกมา เพียงพลิกหน้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 275

    เขาคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ราวกับสายน้ำแร่อันแสนอ่อนโยนที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะจากไปและมากกว่านั้นคือเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่เธอจากไป เขาจะรู้สึก…เจ็บได้ถึงขนาดนี้——ราวกับสูญเสียอากาศและแหล่งน้ำที่จำต้องพึ่งพาเพื่อความอยู่รอดดังนั้น เขาคิดผิดไปอย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนกันกับในตอนแรกที่เขาไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้อธิบาย ตอนนี้ เธอเองก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาเหนี่ยวรั้งเอาไว้เช่นกันความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ได้ถูกเธอตัดสินโทษประหารชีวิตเอาไว้แล้ว……ไม่กี่วันหลังจากนั้น ซังหนี่ยังคงไปทำงานที่บริษัทตามปกติข่าวการแต่งงานกับจี้อวี้หยวนไม่ใช่เรื่องที่เธอกุขึ้นมา แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาปรึกษากันอย่างดีและตัดสินใจลงมือทำเพราะเวลาของคุณตาของจี้อวี้หยวนใกล้จะหมดลงแล้วชายชราไม่นับว่าอายุมากนัก แต่ก่อนหน้านี้จู่ ๆ เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือรู้จักกันทั่วไปว่าเป็นโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุยิ่งไปกว่านั้น อาการของเขาทรุดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว จี้อวี้หยวนเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา ความปรารถนาของผ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 274

    ทันทีที่คำพูดนี้ของฟู่เซียวหานหลุดออกจากปาก ซังหนี่พลันตกตะลึงจากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “จริงหรือคะ? แล้วนับว่าคุณชนะหรือเปล่า?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบคำถามของเธอ ราวกับรู้สึกว่าคำถามนี้ไม่มีความจำเป็นต้องตอบเขาจึงเดินถือสัมภาระออกไปทั้งอย่างนั้นเสียงปิดประตูไม่ดังไม่เบา ไม่เจือไปด้วยอารมณ์ใด ๆ ซังหนี่เองก็ไม่ได้เหลือบมองไปฝั่งนั้นเลยด้วยซ้ำกล่าวตามตรง เดิมทีเธอไม่คิดจะพูดถ้อยคำเมื่อกี้ไปสักนิดเพราะมัน…ไม่มีความหมายอะไรอย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็จบลงแล้ว การที่จะไปขุดคุ้ยอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตขึ้นมาอีกครั้งช่างเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นมันก็เหมือนกับผลไม้เน่าเสียที่แค่ต้องโยนทิ้งลงถังขยะไปก็เท่านั้น ทำไมต้องปอกเปลือกออกทีละชั้นเพื่อหาว่าตรงไหนกันที่เน่าเป็นจุดแรก?ท้ายที่สุดแล้ว บนมือก็หลงเหลือเพียงแกนกลางผลไม้ที่เน่าเปื่อยถึงจะยอมรับได้ในที่สุดว่า ——มันผิดมาตั้งแต่แรกแต่ซังหนี่เองที่อดใจไม่ไหวคำถามต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในสมองของเธอ นับตั้งแต่เจิ้งชวนบอกกล่าวให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ป นับตั้งแต่เธอรู้เรื่องว่าคุณนายฟู่ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วไม

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 273

    เขาก็อาจมีความรู้สึกต่อเธออย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รีบร้อนขนาดนั้นเวลาที่เธอมีเรื่องแต่ความรู้สึกนี้มีอยู่เท่าไหร่กันนะ?เป็นสิ่งที่ต่อท้ายจากผลประโยชน์ของเขา เป็นสิ่งที่หากมีเรื่องใดเกิดขึ้น เขาก็พร้อมจะใช้เธอเป็นไพ่ที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างไม่ลังเลและการเหนี่ยวรั้งเธอไว้ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่ตรงตามจังหวะขั้นตอนเพราะอย่างไรเสียเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ปก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เขาได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงหันมองย้อนกลับมานึกถึงไพ่ที่เขาทิ้งไปด้วยตัวเองตั้งแต่แรก?ถึงตอนนี้เขาจะเหนี่ยวรั้งไว้แล้วอย่างไร?ท้ายที่สุดก็โดนเขา…ทิ้งไปอยู่ดีซังหนี่ไม่คิดกล่าวโทษเขาเพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งอีกอย่างเธอรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนอื่น ๆ ต่างเห็นความรุ่งโรจน์ของเขา ทว่าจริง ๆ แล้วการจะมาถึงจุดนี้นั้นช่างแสนลำบาก ตอนนั้นคุณพ่อของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาเองก็ยังอายุน้อยอยู่มาก ลับหลังล้วนมีแต่คนจับจ้องผลประโยชน์ตาเป็นมันดังนั้นการที่เขาจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มาเป็นอันดับแรกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ซังหนี่เกลียดภาพที่เขาแสดงออกมาว่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 272

    “คุณหมายความว่าอะไร?”ฟู่เซียวหานถามเสียงต่ำซังหนี่ดึงเค้กก้อนนั้นกลับมาอีกครั้ง ในมือถือส้อมไว้แต่ไม่ได้ขยับ เธอเพียงเอ่ยถามเสียงเบาว่า “ปัญหาของทางจื้อเหอกรุ๊ปคุณจัดการแล้วหรือคะ?”ฟู่เซียวหานคาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เธอจะถามถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะคิดได้ว่าควรตอบไปอย่างไร ซังหนี่ก็กล่าวเสริมขึ้นมา “วิกฤตการณ์ทางธุรกิจของจื้อเหอกรุ๊ปในปีที่แล้ว จริง ๆ แล้วเป็นเพียงระเบิดควันที่คุณวางไว้ใช่ไหมคะ?”“ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกฉันว่าจื้อเหอกรุ๊ปก่อตั้งมานานหลายสิบปี ซึ่งนั่นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศ มีทั้งชื่อเสียงทั้งรากฐานที่ยึดแน่น”“ข้อเสียคือในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ความกระตือรือร้นของพนักงานมากหน้าหลายตาล้วนถูกขัดเกลาจนแทบไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่ โดยเฉพาะเหล่าญาติสนิทมิตรสหายของผู้ถือหุ้นหลายราย แต่คุณรู้อยู่แก่ใจถึงการกระทำที่ไม่เอาการเอางานของพวกเขาดี ทว่ากลับไม่สามารถกำจัดทั้งหมดออกไปได้ เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นเก่าแก่ที่ร่วมทำงานหนักตรากตรำกันมากับคุณพ่อของคุณ หรือแม้แต่กับคุณปู่คุณด้วยซ้ำ หากคุณจะลงมือ มันก็คง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 271

    ไม่จำเป็นจะต้องเปิดโอกาสให้เธอหัวเราะเยาะเขาไปมากกว่านี้แต่ในเวลานี้ ฟู่เซียวหานยังคงควบคุมมันไม่ได้หลังจากสบตาเขาสักพัก ซังหนี่ก็ตอบว่า “เรื่องการแต่งงานเราได้ตัดสินใจกันไปเรียบร้อยในเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ค่ะ”“สำหรับเมื่อกี้…ประธานฟู่ที่มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวางถึงเพียงนี้ หรือว่าคุณจะไม่รู้ว่าบนโลกนี้มีคำศัพท์อย่างคำว่าทำรักครั้งสุดท้ายเพื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์งั้นหรือคะ? อีกอย่างไม่ว่าจะควรพูดหรือไม่ แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้คุณได้ช่วยเหลือฉันไว้เยอะมากจริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควรที่ฉันจะตอบแทนคุณเพียงเพื่อให้คุณมีความสุขขึ้นมาบ้าง”ซังหนี่อธิบายเปี่ยมด้วยความจริงจังและจริงใจฟู่เซียวหานมองเธอพร้อมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ดังนั้นเมื่อกี้คุณ…ก็แค่อยากให้ผมมีความสุข?”“ใช่สิคะ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นแล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะ?”มือของฟู่เซียวหานที่จับเธอไว้ปล่อยออกแทบจะในทันที แม้แต่ดวงตาที่จับจ้องมาราวกับจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ เมื่อกี้นี้เองก็ลดสายตาลงเช่นกันสภาพเช่นนั้น ราวกับเขาอ่อนแรงไปอย่างกะทันหันอย่างไรอย่างนั้นเดิมทีซังหนี่คิดว่าเขายอมรับเรื่องนี้ได้แล้ว แต่วินาทีถัดมา ฟู่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 270

    ฟู่เซียวหานไม่อยากจะเชื่อเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน พวกเขาสองคนยังแนบชิดกันอยู่เลย แต่ตอนนี้ ซังหนี่กลับพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งว่าให้เขาออกฟู่เซียวหานนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะหัวเราะออกมา “คุณล้อผมเล่นใช่ไหม? ซังหนี่ คุณ……”“คุณกับโจวหลินทำข้อตกลงอะไรกัน?”ฟู่เซียวหานเดิมทีถอดถุงมือออกแล้วกำลังจะไปกอดเธอ แต่ซังหนี่กลับหลบเลี่ยงการกระทำของเขา แล้วถามเขาต่อสีหน้าจริงจังนั้น ทำให้มือของฟู่เซียวหานชะงักค้างกลางอากาศ สุดท้าย ก็ต้องค่อยๆ เก็บกลับไปแม้จะไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เธอพูดกับตัวเองตอนนี้ แต่ฟู่เซียวหานก็ตอบกลับไปว่า “เขามีปัญหาบางอย่างเรื่องการเงินที่ต่างประเทศ และผมเป็นคนช่วยจัดการให้เขา”“อืม ไม่น่าล่ะ”ซังหนี่พยักหน้าฟู่เซียวหานขมวดคิ้ว “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“เปล่าค่ะ ตรงกันข้าม เพราะคุณช่วยเอาไว้ โครงการของเราถึงดำเนินไปอย่างราบรื่น เงินทุนก็ถูกโอนเข้ามาวันนี้แล้ว ไม่อย่างนั้น อาจต้องรอเป็นเดือนกว่าจะได้ข้อสรุป”ฟู่เซียวหานฟังแล้วกลับยิ่งไม่เข้าใจในเมื่อทุกอย่างราบรื่น แล้วทำไม…ราวกับรู้ว่าเขากำลังสงสัยอะไร ซังหนี่จึงพูดขึ้นทันทีว่า “เพราะฉะนั้นฟู่เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status