ในฉากที่สองฟู่หยุนชิงกับหยูเหมยต่างแสดงได้ดีด้วยกันทั้งคู่ ทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างรวดเร็ว ผู้กำกับเห็นว่าวันนี้หมดคิวของฟู่หยุนชิงแล้วจึงให้เธอกลับก่อนได้ พรุ่งนี้ผู้กำกับสั่งให้เธอมาเวลาเดิมเพื่อถ่ายทำฉากต่อไป ส่วนนักแสดงนำและนักแสดงคนอื่น ๆ ยังมีฉากที่จะต้องถ่ายจนถึงตอนค่ำ ฟู่หยุนชิงพยักหน้าพร้อมกับขอบคุณทุกคนที่ช่วยให้เธอแสดงผ่านไปได้ด้วยดีในวันนี้ หลังกล่าวลาแล้วเธอก็ให้ทีมงานพาไปเปลี่ยนชุดล้างหน้า ถอดผมปลอมออกให้หมดก่อนจะล้างหน้าทาครีมแล้วจึงถือกระเป๋าของเธอพร้อมบทเดินออกจากห้องไปพร้อมรอยยิ้มการค้า ดีที่วันนี้ฟู่หยุนชิงใส่กางเกงมาจึงทำให้เธอเดินเหินได้สะดวก ตอนที่เธอแสดงในฉากนั้นเธอก็ไม่ได้ลำบากกับการเดินในชุดโบราณเหมือนกับนักแสดงคนอื่น อาจจะด้วยความเคยชินมาตั้งแต่เด็กกระมัง กิริยามารยาทของเธอมันจึงฝังลึกไปถึงจิตวิญญาณเช่นนี้ ฟู่หยุนชิงซื้ออาหารหน้าปากซอยก่อนจะกลับห้องพัก วันนี้เธอได้กินเพียงข้าวเที่ยงที่ทีมงานนำมาให้เท่านั้น ส่วนนักแสดงนำทั้งสองคนต่างมีผู้จัดการนำอาหารมาให้เป็นการส่วนตัว ฟู่หยุนชิงได้แต่คิดว่าการมีผู้จัดการนับว่าสะดวกสบายกว่าการที่เธ
กว่าที่ทีมงานจะเก็บของเสร็จก็เย็นมากแล้ว ผู้กำกับสั่งให้นักแสดงคนอื่น ๆ กลับบ้านได้เลย พรุ่งนี้ค่อยไปถ่ายต่อกันที่สตูดิโอ ส่วนฟู่หยุนชิงเองขอกลับไปที่สตูดิโอพร้อมกับทีมงาน โดยเธอให้เหตุผลว่าที่พักของเธอใกล้กับสตูดิโอมากกว่าที่นี่ ทีมงานและผู้กำกับเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ดีเสียอีกที่พวกเขาจะได้มีเพื่อนเดินทางกลับด้วยกันหลาย ๆ คน อีกอย่างวันนี้พวกเขายิ่งไม่เชื่อข่าวลือมากขึ้นไปอีกเกี่ยวกับฟู่หยุนชิงว่าเธอใช้เส้นสายถึงได้รับบทนี้ ในเมื่อทุกคนต่างเห็นกับตากันแล้วว่าเธอแสดงได้ดีมากเพียงใด อาจจะดียิ่งกว่านางเอกหน้าใหม่หลายคนเสียด้วยซ้ำไป ผู้กำกับเองยังคิดว่าบทนี้เขียนขึ้นมาเพื่อฟู่หยุนชิงโดยเฉพาะเสียอีก แต่นักเขียนบทกลับกล่าวว่าเขาไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนแล้วจะแต่งบทละครออกมาให้เหมือนการแสดงของฟู่หยุนชิงได้อย่างไร นั่นแหละจึงทำให้ผู้กำกับรู้ว่าฝีมือการแสดงของฟู่หยุนชิงคือของจริง เขาได้แต่คิดในใจว่าหากมีบทที่เหมาะสมกับฟู่หยุนชิง เขาจะไม่คัดเลือกนักแสดงเลย แต่จะเลือกฟู่หยุนชิงมาแสดงในทันที ฟู่หยุนชิงที่ไม่รู้ว่าทุกคนคิดอย่างไรกับตนเองก็มอบรอยยิ้มการค้าให้กับทีมงานหลังจากขึ้นรถตู้
เหอจิ้งเกาที่ได้พบฟู่หยุนชิงอีกครั้งได้แต่เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เขาหันไปมองเลขาเพื่อสอบถามว่าเธอมาแสดงละครเรื่องนี้ได้ยังไง เลขาที่ทราบข้อมูลแต่แรกจึงบอกเพียงว่าเธอไปแคสติ้งละครตามระบบ เหอจิ้งเกาจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขารู้ดีว่าระบบของบริษัทเป็นอย่างไร ที่บริษัทในเครือของเขาจะไม่มีการใช้เส้นสายเด็ดขาดในการคัดเลือกนักแสดง เหอจิ้งเกาจ้องมองฉากที่ฟู่หยุนชิงกำลังจะแสดงตาเขม็ง เขาอยากรู้ว่าเธอมีความสามารถมากขนาดไหนกับฉากที่ต้องใช้อารมณ์เช่นนี้ หยูเหมยที่คอยสังเกตเหอจิ้งเกาอยู่ได้แต่อิจฉาฟู่หยุนชิงที่ได้รับความสนใจจากชายผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศคนนี้ ไม่นานนักผู้กำกับก็สั่งให้ฟู่หยุนชิงเริ่มแสดงได้เมื่อเห็นเธอพยักหน้าว่าเธอพร้อมแล้ว ฟู่หยุนชิงเริ่มต้นการแสดงด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมทั้งสายตาไม่พอใจซึ่งแสดงออกมาได้เป็นอย่างดี จากนั้นเธอได้แต่พึมพำว่าทำไมเรื่องถึงกลายเป็นเช่นนี้ ทั้งที่เธอวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าเธอเป็นคนส่งเสริมพวกเขาเสียอย่างนั้น หลังจากฟู่หยุนชิงพึมพำได้สักครู่ เธอก็ปัดกาน้ำชาตกแตกเสียงดังอย่างไม่กลัวว่าใครจะเข้ามา เพราะก่อนหน้
หยูเหมยเล่นฉากนี้อีกครั้งกลับผ่านไปได้ด้วยดี ผู้กำกับได้แต่พรูลมหายใจอย่างโล่งอก เขาสั่งปิดกองทันทีที่ถ่ายฉากนี้เสร็จ วันนี้เขาเหนื่อยกับการต่อว่านางเอกของเรื่องมากจริง ๆ เหอจิ้งเกาที่เห็นว่าผู้กำกับสั่งปิดกองแล้ว เขาก็นั่งรอคุยกับผู้กำกับ ผู้ช่วยผู้กำกับและนักเขียนบทก่อน อย่างไรเขาก็มาถึงที่นี่แล้ว เขาจึงต้องการทราบกำหนดการและความคืบหน้าของการถ่ายทำว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทีมงานพากันเก็บของประกอบฉากอย่างรวดเร็ว ส่วนหยูเหมยเองก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแกะผมออกแล้วถามผู้จัดการว่าคนพวกนั้นที่จะให้ทำร้ายฟู่หยุนชิงอยู่ที่ไหน ผู้จัดการบอกว่าพวกเขาไปรอที่ตรอกนั้นก่อนหน้าแล้ว ฟู่หยุนชิงที่เห็นว่าผู้กำกับสั่งปิดกองแล้วเธอก็เดินออกจากสตูดิโอตามทางเดิมที่เธอคุ้นเคย แต่ฟู่หยุนชิงไม่นึกเลยว่าจะพบกับผู้ชายตัวโตนับสิบคนมายืนขวางทางเดินของเธอ พวกเขาทำสีหน้าลามกใส่ฟู่หยุนชิงอีกด้วย ยิ่งทำให้ฟู่หยุนชิงนึกขยะแขยงในใจ สีหน้าของเธอนิ่งเรียบอย่างไม่เกรงกลัวอันตราย“พวกแกต้องการอะไร”“มีคนสั่งให้มาสั่งสอนเธอน่ะสิน้องสาว ว๊าวว เธอสวยจริง ๆ นะว่าไหมพวกเรา เสียดายที่ตอนนี้ยังไม่มืด ไม่อย่างนั้
ฟู่หยุนชิงซื้ออาหารก่อนเข้าห้องพักของเธอในวันนี้พร้อมรอยยิ้ม เธอรอพรุ่งนี้ก็จะรู้แล้วว่ารายได้ทั้งหมดจากละครเรื่องแรกที่เธอแสดงเป็นตัวร้ายนั้นจะได้มากแค่ไหน นับว่าเธอคิดไม่ผิดที่ยังคงทำอาชีพเดิมของร่างเดิมอยู่ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่สามารถสะสมเงินได้ไวเช่นนี้เป็นแน่ในเวลาเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ฟู่หยุนชิงนั่งกินอาหารที่ซื้อกลับมาด้วยอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานั่งสะสมลมปราณอย่างสบายใจ ที่คืนนี้เธออยากสะสมลมปราณก็เพราะตลอดหนึ่งเดือนในการถ่ายทำนั้น ฟู่หยุนชิงต้องถ่ายทำทุกวัน เธอยังต้องซักเสื้อผ้าในตอนกลางคืนแทนการซักในตอนกลางวันเนื่องจากไม่มีเวลานั่นเอง เธอจึงเลือกที่จะไม่สะสมลมปราณในช่วงที่การถ่ายทำยังไม่จบสิ้น อีกอย่างคือลมปราณธรรมชาติที่นี่มีจำนวนน้อยแสนน้อย ฟู่หยุนชิงจึงไม่คิดมากเรื่องการสะสมลมปราณมากนัก อย่างไรตอนนี้เธอก็มีลมปราณถึงขั้นสามอยู่แล้ว ช่วงสายวันต่อมาหลังจากฟู่หยุนชิงกินอาหารและซักผ้าเสร็จแล้ว เสียงเตือนในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฟู่หยุนชิงรีบไปดูว่าใช่ยอดเงินเข้าของละครที่เธอเล่นตามที่ทีมงานบอกเอาไว้หรือไม่ ฟู่หยุนชิงเปิดโ
เมื่อลิฟท์เปิดออก ฟู่หยุนชิงรีบเดินไปที่ป้ายบริษัทเจิ้งกั๋วทันที เธอสอบถามพนักงานต้อนรับของบริษัทเหมือนที่เคยทำ พนักงานพอรู้ว่าเธอมาคัดเลือกนักแสดงก็ส่งเอกสารให้เธอกรอกข้อมูลส่วนตัวเหมือนครั้งก่อน ฟู่หยุนชิงกรอกเอกสารไม่นานนักก็ส่งกลับให้พนักงาน พนักงานตรวจสอบสักครู่ก่อนจะบอกให้ฟู่หยุนชิงเดินไปที่หน้าห้องอีกด้านหนึ่งเพื่อรอการคัดเลือกตอนเก้าโมงเช้า ฟู่หยุนชิงมองไปตามมือที่พนักงานชี้บอกแล้วจึงขอตัวไปที่นั่นทันที เธอไม่รู้ว่าวันนี้จะมีคนมาคัดเลือกเยอะมากหรือไม่ แต่อย่างน้อย ๆ เธอก็ไม่อยากเป็นคนสุดท้ายที่ต้องเข้าคัดเลือกหรอกนะ ฟู่หยุนชิงเดินไปถึงที่นั่นแล้วจึงพบว่ามีนักแสดงมาถึงก่อนหน้าเธอแล้วเกือบสิบคน ดีที่เธอยังมาถึงในเวลาไม่สายมากเกินไปนัก เธอจำหวงเหมยหงที่เคยแสดงหนังกับเธอในครั้งก่อนได้ ฟู่หยุนชิงไม่คิดว่าหวงเหมยหงจะมาแคสติ้งบทนี้เช่นเดียวกับเธอ หวงเหมยหงที่เห็นฟู่หยุนชิงมาที่นี่เช่นกันก็ได้แต่เบ้ปากอย่างเหยียดหยาม เธอกล่าวกับฟู่หยุนชิงเหมือนกับตัวเองเหนือกว่าฟู่หยุนชิงมากมายนักด้านการแสดง“อย่างเธอยังกล้ามาแคสติ้งบทยาก ๆ แบบนี้ด้วยเหรอฟู่หยุนชิง อย่าคิดนะ
กรรมการเมื่อเห็นว่าฟู่หยุนชิงพร้อมแล้วจริง ๆ พวกเขาก็พยักหน้าให้เธอลองแสดงได้เลย พวกเขาอยากรู้เหมือนกันว่านักแสดงหญิงคนนี้จะตีความบทบาทที่ได้รับออกมาได้ดีเพียงใด ฟู่หยุนชิงใช้บทที่ได้รับมาแทนกระบี่ จากนั้นเธอก็ร่ายรำกระบี่ไปตามที่ใจนึก ทุกท่วงท่าไม่มีผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย มันทั้งสวยงามและอ่อนช้อยมากจริง ๆ แถมในช่วงท้ายของการร่ายรำกระบี่ยังรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของการฟาดฟันกระบี่อีกด้วย หลังจบกระบวนท่าแล้ว ฟู่หยุนชิงก็คำนับคณะกรรมการทั้งสามคนและบอกว่าเธอตีความบทบาทการแสดงเป็นเช่นนี้ ไม่ทราบว่าคณะกรรมการคิดเห็นเช่นไร หรือมีสิ่งใดต้องปรับปรุงบ้างก็สามารถบอกเธอได้เลย กรรมการทั้งสามคนที่ยังคงตกตะลึงก็ได้สติขึ้นมาเมื่อฟู่หยุนชิงพูดสอบถามพวกเขานั่นเอง กรรมการทั้งสามต่างปรบมือให้ฟู่หยุนชิงอย่างถูกอกถูกใจ พวกเขาบอกฟู่หยุนชิงว่าไม่มีอะไรจะต้องปรับปรุงเลยแม้แต่น้อย และเธอแสดงได้ดีมาก
เมื่อกลับถึงหอพักแล้ว ฟู่หยุนชิงนำบทมาอ่านดูคร่าว ๆ คราวนี้เธอมีเวลามากถึงสองสัปดาห์ในการเตรียมตัวแสดงบทใหม่นี้ เท่าที่เจ้าหน้าที่บอกเธอมาที่การถ่ายทำต้องล่าช้าก็เพราะต้องเตรียมประสานงานเรื่องสถานที่ถ่ายทำที่เมืองโบราณนั้นล่าช้าตามระบบราชการ ไหนจะเรื่องนักแสดงสมทบและตัวประกอบที่ทีมงานยังจัดการไม่ครบอีก จึงทำให้ฟู่หยุนชิงมีเวลาที่จะอ่านบทและทดลองแสดงถึงสองสัปดาห์เช่นนี้ หลังอ่านบทแล้วฟู่หยุนชิงก็อาบน้ำเข้านอนอย่างสบายใจ คราวนี้เธอน่าจะเก็บเงินได้อีกก้อนหนึ่ง หากการถ่ายทำเสร็จสิ้นลง ฟู่หยุนชิงก็จะก้าวเข้าใกล้ความฝันที่จะมีเงินซื้อคอนโดสักห้องหนึ่งแล้ว รุ่งเช้าวันต่อมา ฟู่หยุนชิงรีบไปซื้ออาหารเช้ามาเช่นเคย หลังจากวันนี้ไปจนกว่าจะถึงวันนัดถ่ายทำ ฟู่หยุนชิงจะต้องศึกษาบทและทดลองแสดงให้ดีเหมือนที่เคยซ้อมแสดงกับละครเรื่องก่อนหน้านี้ ฟู่หยุนชิงรู้ดีว่าร่างเดิมไม่มีทักษะด้านการแสดงมากนัก ตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว ฟู่หยุนชิงจึงยิ่งต
ระหว่างทางไปยังบริษัท เลขารายงานเรื่องเมื่อวานให้กับเหอจิ้งเกาทราบทุกอย่าง อีกทั้งวันนี้เขาจะไปหาทนายของบริษัทเพื่อให้ทำเรื่องแจ้งความและส่งฟ้องหวงเหมยหงและลี่ลี่อีกครั้งหนึ่ง“คุณทำได้ดีมาก รอสิ้นปีผมจะเพิ่มโบนัสให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกที ถือว่าเป็นรางวัลสำหรับการช่วยรักษาชื่อเสียงภรรยาของผมก็แล้วกัน”“ขอบคุณครับเจ้านาย” เลขากับบอดี้การ์ดที่ช่วยเหลืองานเมื่อวานนี้ไม่คิดว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลในการทำงานครั้งนี้ด้วย นับว่าเจ้านายใจดีมากขึ้นตั้งแต่มีครอบครัว พวกเขาที่ได้รับเงินเดือนไม่น้อยต่างก็ดีใจที่เจ้านายมีความสุขและเผื่อแผ่ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้พวกเขาเช่นนี้ ฟู่หยุนชิงที่อยู่บ้านกับเหอเสี่ยวหมิงวันนี้ เธอเรียกอาหยงกับอาเหว่ยมาสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่สามีทำให้เธออยู่เบื้องหลัง เธอแน่ใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที
เหอจิ้งเกาใช้เวลาไม่นานในการซื้อของ เขาอยากรีบกลับไปทำอาหารให้ฟู่หยุนชิงจะแย่แล้ว บอดี้การ์ดเองก็รีบขับรถกลับบ้านให้เจ้านายตามที่พวกเขาเห็นว่าเจ้านายดูเร่งรีบไม่น้อย เมื่อถึงบ้านแล้ว เหอจิ้งเกาก็เห็นพ่อบ้านมายืนรออยู่แล้ว บอดี้การ์ดช่วยถือวัตถุดิบอาหารเข้าไปยังห้องครัวให้กับเหอจิ้งเกา เขาบอกพ่อบ้านว่ามื้อเย็นเขาจะทำอาหารเอง ให้แม่บ้านทำอาหารให้กับพวกบอดี้การ์ดกับพวกเขาก็พอ พ่อบ้านรับคำเหอจิ้งเกาแล้วเดินไปบอกกับแม่บ้านทั้งสองคนให้ไปทำอาหารที่ครัวของอีกตึกหนึ่งซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่ คราแรกแม่บ้านทั้งสองคิดว่าเจ้านายไม่พอใจอาหารของพวกเธอก็พากันตกใจไม่น้อย แต่พอพ่อบ้านบอกว่าเจ้านายอยากทำอาหารให้นายหญิงด้วยตัวเองเท่านั้น พวกเธอจึงได้เบาใจลง พวกเธอไม่อยากหางานใหม่เพราะอายุที่มากแล้วและที่นี่ก็ให้ค่าตอบแทนสูงมากอย่างน่าตกใจแต่ก็ต้องแลกมาด้วยการต้องพักที่นี่และทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ช่วยกันทั้งสี่คน  
หวงเหมยหงกับลี่ลี่ที่ถูกเหอจิ้งเกาจัดการไม่ให้มีงานในวงการก่อนหน้านี้พอได้ข่าวเรื่องเหอจิ้งเกากับฟู่หยุนชิงก็ได้แต่คิดอิจฉาและแค้นใจที่เหอจิ้งเกาทำกับพวกเธอแบบนี้ ทั้งสองคนไม่อยากให้พวกเขาอยู่กันอย่างมีความสุขง่าย ๆ จึงได้จ้างโกสต์เพื่อแพร่ข่าวว่าฟู่หยุนชิงวางยาเหอจิ้งเกาจนต้องรับผิดชอบในปีนั้น แถมยังสร้างข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ของฟู่หยุนชิงมากมายอีกด้วย เลขาที่ให้คนคอยติดตามข่าวอยู่ตลอดรู้ในทันทีที่มีข่าวแพร่ออกมา เขารีบแจ้งให้เจ้านายทราบอย่างเร่งด่วนว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง“ให้คนสืบว่าใครเป็นคนทำ และปิดข่าวอย่าให้ฟู่หยุนชิงรู้ เดี๋ยวเธอจะไม่สบายใจ”“ได้ครับเจ้านาย แล้วถ้ารู้ตัวคนทำแล้วจะให้ทำยังไงต่อไปดีครับ”“ค้นหาเรื่องราวของคนทำที่ทำเรื่องสกปรกออกมาให้หมด แล้วส่งให้สำนักข่าวทุกสำนัก รวมทั้งให้คนกระจายข่าวออกไปตามสื่อโซเชียลด้วย หลังจากได้หลักฐานว่าใครเป็นคนสร้างข่าวเสีย
หลังทานอาหารเสร็จแล้ว เหอจิ้งเกาให้พ่อบ้านพาเขาไปดูห้องที่จัดเตรียมเอาไว้ให้เขากับฟู่หยุนชิงและเหอเสี่ยวหมิง พ่อบ้านรีบรับคำและเดินนำเจ้านายทั้งสามไปอย่างช้า ๆ เขารู้มาก่อนแล้วว่านายหญิงกำลังท้องอยู่จึงไม่กล้าเดินเร็วเกินไปนักด้วยกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าเจ้านายจะจับมือนายหญิงอยู่ก็เถอะ เขาก็ควรจะต้องระวังเอาไว้ให้มากจะดีที่สุด พ่อบ้านพาทุกคนไปดูห้องใหญ่ของเหอจิ้งเกากับฟู่หยุนชิงก่อนที่ปีกซ้ายชั้นสองของบ้าน ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำกว้างขวางในตัว รวมทั้งยังมีตู้เสื้อผ้าแบบบิวอินที่กว้างพอ ๆ กับห้องอีกห้องหนึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำและมีประตูเปิดเข้าไปได้ อีกด้านหนึ่งของห้องมีระเบียงกว้าง โต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ด้านหลังบ้านซึ่งมองเห็นทะเลสาบและสวนดอกไม้อยู่ ฟู่หยุนชิงกับเหอเสี่ยวหมิงที่เห็นทุกอย่างตามที่พ่อบ้านอธิบายก็พอใจมากกับห้องที่เขาเลือกให้เธอและเหอจิ้งเกา หลังจากที่สำรวจดูคร่าว ๆ แล้ว ฟู่หยุนชิงจึงบอกพ่อบ้า
เลขารีบลงจากรถมาแนะนำชื่อของพ่อบ้าน แม่บ้านทั้งสองคนและคนสวนให้กับเหอจิ้งเกา ฟู่หยุนชิงและเหอเสี่ยวหมิงรู้จัก เหอจิ้งเกาทำเพียงพยักหน้าให้กับทั้งสี่คน ส่วนฟู่หยุนชิงเองก็ทำเพียงแค่มองพวกเขาด้วยสายตานิ่งเรียบเท่านั้น เหอเสี่ยวหมิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเหอจิ้งเกาได้แต่กระซิบถามพ่อของเขาว่าเขาจะต้องเรียกคนเหล่านี้ว่าอย่างไร“ลูกก็เรียกคุณลุงพ่อบ้าน คุณป้าแม่บ้านกับคุณอาคนสวนสิครับ ตกลงไหม?”“ตกลงครับพ่อ สวัสดีครับลุงพ่อบ้าน ป้าแม่บ้านกับอาคนสวน ผมชื่อเหอเสี่ยวหมิงเป็นลูกชายของคุณพ่อกับคุณแม่ครับ” เหอเสี่ยวหมิงแนะนำตัวเองอย่างน่ารักให้กับผู้อาวุโสกว่าที่ถึงแม้พวกเขาจะเป็นเพียงลูกจ้างของเหอจิ้งเกา แต่เขาก็สอนลูกให้รู้จักเคารพผู้ที่มีอายุมากกว่า ฟู่หยุนชิงได้แต่ลูบหัวของลูกด้วยความรัก เธอดีใจที่เหอจิ้งเกาไม่สอนให้ลูกถือตัวว่าร่ำรวยจนไม่เห็นหัวใคร ยิ่งอยู่กับเหอจิ้งเกานานเข้า ฟู่หยุนชิงก็พบแต่ข้อดีของเขามากขึ้นทุก
เหอจิ้งเกาที่ทำอาหารเสร็จแล้วก็เรียกสองแม่ลูกมาทานข้าว ฟู่หยุนชิงจึงได้บอกลาเหล่าผู้ติดตามในเว่ยป๋อว่าเธอต้องไปทานอาหารเย็นแล้ว และฟู่หยุนชิงยังบอกให้พวกเขาไปทานอาหารด้วยเช่นเดียวกันก่อนจะปิดเว่ยป๋อแล้วลุกขึ้นเดินจูงมือลูกชายไปที่ห้องครัว“รีบนั่งกันเร็วเข้า วันนี้ผมทำของชอบคุณกับลูกเยอะแยะเลย”“ขอบคุณมากนะคะ”“ขอบคุณครับพ่อ” สองแม่ลูกรีบนั่งตรงที่ประจำของตัวเอง เหอเสี่ยวหมิงปีนเก้าอี้ขึ้นไปอย่างชำนาญ เหอจิ้งเกาเห็นเช่นนี้ก็ได้แต่ดีใจที่เจ้าตัวเล็กสามารถดูแลตัวเองได้แล้วในอายุเพียงเท่านี้ ระหว่างทานข้าว ฟู่หยุนชิงขออนุญาตเหอจิ้งเกาถ่ายกิจวัตรประจำวันหลังจากย้ายบ้านใหม่ทางเว่ยป๋อ เธออยากอวดพัฒนาการของลูกชายและลูกในท้องให้เหล่าแฟนคลับได้เห็นบ้างหลังจากข่าวออกไปแล้ว“ได้สิ คุณถ่าย
หลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้ว ช่วงบ่าย เหอจิ้งเกาก็พาลูกกับภรรยาไปซื้อเสื้อผ้าครอบครัวต่อทันที แน่นอนว่าผู้จัดการแนะนำร้านที่ชั้นสองให้กับเหอจิ้งเกา ซึ่งมีเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำมากมายจัดจำหน่ายอยู่ เหอจิ้งเอาจึงพาทุกคนเดินลงบันไดเลื่อนไปยังชั้นดังกล่าว เสียงเล็ก ๆ ของเหอเสี่ยวหมิงแสดงออกว่าดีใจที่จะได้เลือกเสื้อผ้าเองสักที หลังจากที่เขาจะต้องสวมเสื้อผ้าที่พ่อเลือกให้เท่านั้น“นี่ลูกไม่ชอบชุดที่พ่อเลือกให้หรือยังไง หืม?”“ก็ผมโตแล้วนี่ครับ พ่อยังจะให้ผมใส่ชุดนอนพวกหมี หมู วัว กระต่าย พวกนั้นอีกเหรอครับ ขอชุดนอนแบบธรรมดาเหมือนที่พ่อใส่บ้างสิครับ” ฟู่หยุนชิงพอฟังลูกชายบอกว่าตัวเองโตแล้วก็ถึงกับหัวเราะเบา ๆ เจ้าตัวเล็กนี่นะที่โตแล้วยังให้พ่ออุ้มอยู่เลย“ถ้าลูกโตแล้วก็ต้องนอนคนเดียวได้แล้วนะเสี่ยวหมิง ลูกยังอยากโตแล้วอยู่หรือเปล่าล่ะ? อีกอย่างแม่ก็เห็นว่าชุดนอนที่พ่อเลือกให้ก็น่ารักสมวัยกับลูกแล้วนะ”“โธ่ แ
ฟู่หยุนชิงปรายตามองคนถามอย่างเย็นชา เธอไม่คิดว่าจะต้องตอบคำถามซ้ำกับสามีเช่นนี้“ฉันเองก็พบกับเขาครั้งแรกในกองถ่ายที่เขาว่านั่นแหละค่ะ และเราก็ได้ร่วมงานกันในรายการแข่งขันการเอาตัวรอดอย่างที่ทุกคนเคยดูรายการนี้ไปแล้ว ฉันเองก็ไม่คิดว่าคนรวย ๆ อย่างเขาจะมีความสามารถมากจนน่าประทับใจอย่างในรายการเช่นกัน แต่ฉันเองก็ไม่คิดว่าเขาจะสนใจนักแสดงตัวเล็ก ๆ อย่างฉันจนถึงกับขอแต่งงานเอาดื้อ ๆ เมื่อห้าปีก่อนเช่นเดียวกัน แต่ในเมื่อฉันเองก็ไม่ได้รังเกียจเขา ฉันที่ตัวคนเดียวในตอนนั้นจึงตอบตกลงอย่างไม่คิดอะไรมากเช่นกัน และฉันก็ไม่ได้คิดผิดที่แต่งงานกับเขา เขาดูแลฉันและลูกดีมากมาตลอดตั้งแต่เริ่มตั้งท้องเสี่ยวหมิงจนกระทั่งถึงทุกวันนี้” จากเสียงที่เย็นชาในตอนแรก แต่พอพูดถึงสามีของตัวเองนั้น น้ำเสียงของฟู่หยุนชิงก็ดูอบอุ่นมากขึ้นเป็นเท่าตัว ทำเอานักข่าวทั้งหลายต่างกลืนน้ำลายไปตาม ๆ กัน ด้วยพวกเขาตามอารมณ์ของเธอไม่ทันนั่นเอง
ขบวนของเหอจิ้งเกาที่กำลังเดินเข้าไปยังเวทีที่มีโต๊ะแถลงข่าวตั้งอยู่นั้น ต่างได้รับความสนใจจากผู้คนที่มารวมตัวดูเรื่องสนุก รวมทั้งเหล่านักข่าวที่ต่างพากันถ่ายรูปพวกเขาเอาไว้ แม้ว่าจะเห็นแต่บอดี้การ์ดเป็นส่วนใหญ่ก็เถอะ อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็สามารถเก็บภาพเอาไว้ได้ก่อนที่เหอจิ้งเกา ฟู่หยุนชิงและเหอเสี่ยวหมิงจะขึ้นไปนั่งบนโต๊ะแถลงข่าว โดยเหอจิ้งเกาวางเหอเสี่ยวหมิงเอาไว้ตรงกลาง ส่วนเขากับฟู่หยุนชิงก็นั่งประกบลูกชายพร้อมทั้งบอกให้เหอเสี่ยวหมิงอย่ามองแฟลชกล้องที่กำลังถ่ายพวกเขาอยู่เพื่อป้องกันดวงตาน้อย ๆ ของลูกพวกเขา เลขาของเหอจิ้งเกานำไมค์จากทีมงานมากล่าวทักทายเหล่านักข่าว ก่อนที่เหอจิ้งเกาจะเริ่มทำการแถลงข่าวพร้อมกับฟู่หยุนชิง“สวัสดีนักข่าวทุกสำนักที่สนใจเรื่องราวของท่านประธานของเรา วันนี้ท่านประธานและครอบครัวจึงถือโอกาสมาแถลงข่าวให้กับสื่อมวลชนทุกท่าน พร้อมทั้งแขกที่มารอฟังอยู่รอบ ๆ เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างท่านประธานกับนายหญิง เชิญท่านประธานกล่า