Share

บทที่ 2

Penulis: lianlian
last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-25 08:05:12

ฟู่หยวนเพ่ยหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจถวายตัวแล้ว จึงกลับตำหนักชุนชิวที่พี่สาวของนางพักอยู่ เนื่องจากเป็นพระประสงค์ของลี่เฟยที่ต้องการให้น้องสาวอยู่ใกล้ๆ หวงตี้ จึงมีรับสั่งให้ยกเรือนฝั่งปีกซ้ายของตำหนักชุนชิวให้เป็นที่อยู่ของนาง เด็กสาวเดินเข้าไปยังภายในโดยไม่ลืมไปยังตึกฝั่งปีกขวาของตำหนักเพื่อคารวะลี่เฟยที่มีศักดิ์สูงกว่าตามธรรมเนียม ที่นั่นลี่เฟยหรือฟู่หยวนฉุน พี่สาวของนางกำลังจะเสวยมื้อเช้าอยู่พอดี

“ถวายพระพรพระสนมเพคะ”

ลี่เฟยลุกขึ้น เผยให้เห็นครรภ์นูนกลมวัยห้าเดือนของนาง ลี่เฟยผู้นี้ใบหน้านวลผ่องแจ่มใส สวมชุดสีเขียวอ้ายฉ่าว[1] ปักลายกรอบล้อมบุปผา ทาแป้งแต้มชาดสีเฟิ่นหงหอมละมุน ตรงบริเวณหน้าผากติดฮวาเตี้ยน[2]ตามสมัยนิยม แม้จะมีองค์รัชทายาทอยู่ในครรภ์ แต่ก็ยังไม่สิ้นไร้ซึ่งความงาม ตรงข้ามวันนี้นางกลับดูงดงามเฉิดฉายกว่าทุกๆ วันด้วยซ้ำ แม้กระทั่งเสียงที่เรียกหยวนเพ่ยนั้นก็หวานนุ่มนวล อย่าว่าแต่หวงตี้เลย สตรีแม้ได้ยินก็ใจอ่อน

“พระสนมอันใด เราเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ลุกขึ้นเถิด”

ฟู่หยวนเพ่ยลุกขึ้น ก่อนปล่อยให้ลี่เฟยที่เดินมาหาจูงมือนางเข้าไปนั่งยังโต๊ะที่มีสำรับอาหารน่ากินวางรออยู่หลายจาน ก่อนที่นางจะสั่งให้นางกำนัลนำถ้วยชามและตะเกียบมาเพิ่มอีกชุดหนึ่ง

“ก็รู้อยู่หรอกว่าเจ้าเพิ่งกลับจากตำหนักใหญ่ คงอยากพักผ่อน แต่ตั้งแต่เจ้ามาอยู่ที่นี่พี่ก็เริ่มรู้สึกว่ากินข้าวคนเดียวไม่อร่อยแล้ว จึงให้เด็กๆ อุ่นอาหารรอเจ้ากลับมา”

หยวนเพ่ยค้อมศีรษะน้อยๆ “ขอบพระทัยพระสนม”

“เรียกพี่ใหญ่เถอะ”

“เพคะ พี่ใหญ่” ฟู่หยวนเพ่ยยิ้มอ่อนบาง ก่อนรับถ้วยน้ำแกงใบบัวข้นที่นางกำนัลตักให้ มาตักกินไปคำหนึ่ง รสชาติหวานกลมกล่อม มีกลิ่นหอมสดชื่นของใบบัวอ่อนๆ ชวนให้เจริญอาหาร

“เป็นอย่างไรบ้าง ฝ่าบาทรังแกเจ้าหรือไม่” ลี่เฟยเอ่ยถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ไม่เพคะ ฝ่าบาทใจดีกว่าที่หม่อมฉันคิดมากทีเดียว” หยวนเพ่ยตอบพลางเปลี่ยนไปตักข้าวต้มแปดรัตนะแทน

มีแต่นางน่ะสิที่จะรังแกเขา...ไม่สิ...พูดไม่ถูก...นางรักษาอาการไหล่ติดให้ก่อนจะสายเกินการณ์มากกว่า

“แล้ว...พระองค์โปรดเจ้าหรือไม่” ลี่เฟยเอ่ย แม้น้ำเสียงจะนุ่มนวล แต่ฟังแล้วคล้ายฉายแววไม่พอใจ

ครานี้ฟู่หยวนเพ่ยกลอกตาไปมา ถ้าภายในสองสามวันนี้เขาออกว่าราชการได้โดยปากไม่เบี้ยว ก็นับว่าโปรดก็แล้วกัน “...ถวายตัวคราแรก มิอาจบ่งชัดว่าโปรดไม่โปรดเพคะ”

“ไม่ต้องมาปดพี่ ลี่กงกงที่อยู่งานที่ตำหนักใหญ่เมื่อคืนมาเล่าให้ฟังว่า ฝ่าบาทพอพระทัยมาก จนกระทั่งเช้าวันนี้ไม่ทรงออกว่าราชการด้วยซ้ำ”

เด็กสาวกะพริบตาปริบ นอกจากทึ่งในด้านการหาข่าวสารในวังที่รวดเร็วทันใจของผู้เป็นพี่สาวแล้ว ยังอดสมเพชในหูของขันทีหน้าตำหนักที่คิดว่าเสียงร้องโอดโอยราวสัมภเวสีนั้นเป็นเสียงกระเส่าของชายหญิงที่ร่วมอภิรมย์ไปได้

เอาเถอะ จะคิดอะไรก็คิดไป “หม่อมฉันแค่ถวายการนวดให้ฝ่าบาท ถ้าฝ่าบาทจะส่งเสียงอันใดออกมา ก็มาจากสาเหตุนั้นเพคะ พี่สาวอย่าได้กังวล”

“เจ้าเด็กคนนี้ พูดอันใดก็ไม่รู้” ลี่เฟยหัวเราะเสียงใสขณะที่คีบอาหารให้หยวนเพ่ยอีกมากมาย น้ำเสียงท่าทีเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง “เพียงแต่เจ้าเคยบอกว่าเจ้าไม่ชอบฝ่าบาท พี่ก็แค่กลัวว่าพระองค์จะบังคับฝืนใจ ทำให้เจ้าทนทุกข์”

อา...ฟังดูเหมือนห่วงใย แต่ไม่ใช่

ก็ไม่แปลกหรอก พี่น้องต่อให้รักมากเพียงใด แต่ถ้าต้องใช้สามีร่วมกัน ความรู้สึกหึงหวงย่อมก่อเกิด...เช่นนั้นที่นางชิงตอบว่าไม่ชอบนั้นนับว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว

วังหลวงแห่งนี้มีเหตุการณ์พลิกผันได้ตลอดเวลา วันนี้รักกันดั่งพี่น้อง วันหน้าอาจหยิบดาบประหัตประหารกัน...นางขอเพียงอยู่อย่างสงบและรอคอยให้หลานตัวน้อยของนางถือกำเนิดขึ้นมาอย่างปลอดภัยดีกว่า

ชีวิตก่อนหน้าลำบากทนทุกข์แสนสาหัส พอจะสุขสบายเข้าหน่อยก็มาจากโลกนี้ไป ชาตินี้ได้เกิดในตระกูลร่ำรวย มีพี่สาวเป็นถึงพระสนมสูงศักดิ์ เพียงเท่านี้นางก็พอใจแล้ว

ในช่วงสองสามวันนี้ ฟู่หยวนเพ่ยถือว่าอยู่อย่างสงบสุขที่สุด

เช้าไปคอยดูแลปรนนิบัติลี่เฟยที่กำลังตั้งครรภ์ แม้จะมีการนวดถวายบ้าง แต่ก็จะกระทำด้วยความระมัดระวัง โดยจะเน้นการนวดกดจุดที่แขน ขา และหลังเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการที่ร่างกายต้องรับหน้าที่แบกน้ำหนักทารกเท่านั้น และที่สำคัญคือจะไม่นวดที่หน้าท้องเด็ดขาด ซึ่งถือว่าเป็นกฎเหล็กสำคัญที่คนทำอาชีพนวดต้องพึงระลึกไว้เสมอ

หลังจากเสร็จสิ้นการดูแลพี่สาว หยวนเพ่ยมักไปอาสานวดแป้งหมี่ที่ห้องเครื่องของตำหนักชุนชิวเป็นประจำ ซึ่งตำหนักนี้เป็นตำหนักเดียว ไม่นับตำแหน่งหวงโฮ่วที่มีห้องเครื่องสามารถประกอบอาหารได้โดยไม่ต้องรออาหารจากห้องเครื่องหลวง อีกทั้งยังมีพ่อครัวจากหยางโจวที่เป็นบ้านเกิดของนางและลี่เฟยที่หวงตี้ว่าจ้างให้มาทำอาหารขึ้นชื่อให้กินจนหายคิดถึงบ้านอีก…

นี่สินะที่เรียกว่าสิทธิพิเศษของคนโปรด…

หยวนเพ่ยอาศัยการนวดแป้งนี้ฝึกกำลังนิ้ว มือ แขน และเอวเพื่อให้มีพละกำลังในการนวดมาตั้งแต่อยู่ที่บ้านเกิด ตอนแรกท่านปู่ท่านย่าก็ดูจะไม่ค่อยพอใจนักที่คุณหนูอย่างนางไปขลุกอยู่แต่ในครัว แต่เมื่อได้เห็นนางสำแดงผลจากการที่ฝึกฝนนวดคลายเส้นแบบราชสำนักตำรับสำนักอู๋ฝอซื่อจนกระทั่งอาการปวดเมื่อยหายขาด หยวนเพ่ยก็ขึ้นเป็นหลานสาวคนโปรดในจวนสกุลฟู่ไป จากนั้นเวลานางหายเข้าไปในครัวครั้งต่อไปจึงไม่มีใครคอยตำหนิติเตียนอีก

เด็กสาวเทแป้งหมี่ลงมาที่โต๊ะ เว้นให้เป็นหลุมตรงกลาง เติมเกลือ น้ำตาล และน้ำ จากนั้นจึงค่อยตะล่อมนวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน มือเล็กเปี่ยมเรี่ยวแรงบีบนวดขยำ จินตนาการว่าเป็นผิวเนื้อของผู้ที่มานวด แล้วจึงฝึกเน้นระดับความหนักเบาเพื่อไม่ให้ลืมว่า คนในช่วงใดต้องใช้น้ำหนักมือในการนวดแบบไหน

พวงแก้มเด็กสาวแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดพรายที่หน้าผากจากการได้ออกแรง ใบหน้ามอมแมมไปด้วยแป้งหมี่ แต่ยังมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า คล้ายเด็กสาวชาวบ้านที่ช่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ต่างจากทุกทีที่ทำหน้าเคร่งขรึม ยิ่งคนรอบข้างได้เห็นยิ้มหวานๆ ก็ชวนให้ดวงตาพร่าลาย

หลังจากนวดแป้งเสร็จ นางจึงเอาผ้าชุบน้ำหมาดๆ คลุมแป้งไม่ให้แห้งแข็ง ในขณะที่กำลังชื่นชมผลงานของตนเองอยู่นั้น พลันได้ยินเสียงหวีดร้องจากด้านนอกพร้อมกับเสียงสั่นเครือ

“ถะ...ถวายพระพรฝ่าบาท”

ฟู่หยวนเพ่ยหุบยิ้ม ไม่ยอมหันไปมองด้านหลัง

ฝ่าบาท? หรือว่าที่นวดไว้เมื่อคราวก่อนจะ…

“ฟู่หยวนเพ่ย”

“.........!?” หยวนเพ่ยสะดุ้งโหยง ก่อนค่อยๆ หันมา ก็เห็นสีพระพักตร์จริงจังของหวงตี้ ร่างกายเขายังอยู่ครบสามสิบสอง ปากไม่เบี้ยว คอและไหล่ไม่ผิดรูป ซ้ำยังมีท่าทีกระฉับกระเฉงแข็งแรงจนแผ่รังสีน่าครั่นคร้ามออกมา

“ถะ...ถวายพระพรฝ่าบาท” หยวนเพ่ยย่อกายคารวะ แต่ไม่ทันจะยืดตัวขึ้น เขาก็ก้าวประชิดตัว สองมือจับที่แขนของนางแน่น พลางเอ่ยด้วยเสียงที่แสดงความปรารถนาออกมาเต็มเปี่ยม

“ฟู่หยวนเพ่ย เราต้องการเจ้า”

"ต้องการหม่อมฉัน?"

ฟู่หยวนเพ่ยกะพริบตาปริบๆ หรือว่าคืนนั้นนางนวดแรงเกินไปจนไปกระทบสมองของโอรสสวรรค์ผู้นี้ จึงได้เกิดพิศวาสนางขึ้นมา

เขาพยักหน้า "เราต้องการเจ้าเดี๋ยวนี้"

น้ำเสียงนั้นแฝงความดื้อดึงเอาแต่ใจ ยังมิทันเอ่ยปากปฏิเสธ นางก็ถูกเขาดึงมือให้เดินตามเขาไป ทั้งได้ยินเสียงเขาร้องถามนางกำนัลว่าห้องนอนของนางอยู่ที่ใด

เมื่อได้รับคำตอบ เขาก็กึ่งเดินกึ่งจูงฟู่หยวนเพ่ยมายังห้องด้านในที่เป็นห้องนอนของนาง จากนั้นจึงให้นางนั่งบนเตียง มองเขาค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นจนเห็นร่างกายกร้าวแกร่งขัดกับผิวกายขาวผ่องนั้น

"ฝ่าบาท..." ฟู่หยวนเพ่ยอ้าปากค้าง มองเขาที่หอบน้อยๆ จากการกระทำอันบ้าบิ่นของตนเอง จากนั้นจึงนั่งลงใกล้ๆ นาง หยวนเพ่ยเขยิบตัวหนี แต่เขากลับคว้ามือนางไว้ อย่างไรก็ไม่ให้นางหนี

"ฟู่หยวนเพ่ย นับตั้งแต่คืนนั้นเราก็ไม่อาจลืมเจ้า ไม่อาจลืมรสมือ (และเท้า) ที่ได้สัมผัสตัวเรา..."

นางขยับปากขึ้นลง ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ ไฉนคำพูดเขาคล้ายเท้าความความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างชายหญิง

นั่นนวด! นวดนะ!

"ฟู่หยวนเพ่ย เราขอร้อง ใช้เท้าของเจ้าเหยียบข้าอีกครั้งนะ"

[1] หมายถึงสีของต้นโกฐจุฬารัมพา

[2] ดอกไม้โลหะ ที่วาดหรือติดบนหว่างคิ้ว
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 3

    ฟู่หยวนเพ่ยใช้เวลาอึดใจหนึ่งทำความเข้าใจกับที่บุรุษตรงหน้าเอ่ยขึ้นมา "ให้หม่อมฉันใช้เท้าเหยียบพระองค์หรือเพคะ?"อีกฝ่ายพยักหน้า "เหยียบเรา แบบที่เจ้าทำเมื่อสองวันก่อน"ทีแรกพระองค์นอนปวดกายอยู่บนเตียง ขยับไม่ได้แม้เพียงปลายนิ้ว แม้พยายามขยับก็ปวดร้าวแทบขาดใจ ไม่นึกเลยว่าตนเองต้องมีสภาพน่าสมเพชอยู่ถ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-25
  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 4

    การที่หยวนเพ่ยเอ่ยออกมาเช่นนั้นเพราะไม่อยากให้เรื่องราวของนางไปบิดเบือนประวัติศาสตร์โดยไม่จำเป็น เคยมีคนกล่าวว่า แม้ผีเสื้อขยับปีกย่อมเกิดผลกระทบใหญ่หลวง ถ้าเกิดว่าวิชาของนางทำให้ประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยนไป ตัวนางเองหรือแม้แต่คนอื่นๆ บนภพภูมิที่จากมา อาจได้รับผลกระทบที่น่าหวาดหวั่นตามมา นางคิดเพียงว่าแ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-25
  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 5

    ว่าจบนางก็ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดคลึง สลับกับกด-ปล่อย ทำเช่นนี้สลับกันไปอีกห้าหกครั้ง จากทีแรกที่หวงตี้หนุ่มรู้สึกตื้อๆ หน่วงๆ พลันรู้สึกง่วงงุนโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้พระองค์จะสะบัดหน้าหลายครั้งก็มิอาจบรรเทา“หยวนเพ่ย...เจ้าทำอะไร...”“หม่อมฉันลืมบอกว่าจุดเสินเหมินนั้นนอกจากบำรุงหัวใจแล้ว ยังช่วยทำให้เกิดอ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-25
  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 6

    เผือกร้อน! สิ่งของเหล่านี้คือเผือกร้อนชัดๆฟู่หยวนเพ่ยครุ่นคิดขณะที่เดินนำขันทีคนสนิทของหวงตี้นำถาดเครื่องประดับมูลค่ามหาศาลตรงไปยังห้องทรงพระอักษรนางอยู่อย่างสงบแล้วแท้ๆ พอใจกับความเป็นอยู่ในตอนนี้แล้ว พระองค์โปรดอย่าได้โยนอาจมมาให้นางเลยใช้เวลาเดินไม่นานนักก็มาถึงตำหนักใหญ่ รอให้ลี่กงกงเป็นผู้ปร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-26
  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 7

    “คงเป็นของที่ฝ่าบาทพระราชทาน” หยวนฉุนยกจอกที่มีน้ำชาเย็นขึ้นดื่ม น้ำชาลอยดอกโม่ลี่ (มะลิ) ทั้งหอมทั้งเย็นชื่นใจรั่วเยียนได้ยินเช่นนั้นกลับหัวเราะเบาๆ“คุณหนูรองคงกลัวพระสนมมาก”หญิงสาวแค่นเสียงเฮอะ “กลัวข้าหรือ ก็คงมีส่วน”“แล้วอีกอย่าง นางเป็นคนในตระกูลสาขา สมควรเรียกนางว่าคุณหนูรองหรือ นางมิสิทธิ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-26
  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 8

    ฟู่หยวนเพ่ยครุ่นคิดอยู่ตลอดทั้งวัน รู้ตัวอีกทีก็เป็นยามซวี[1]ซึ่งเป็นเวลาหลังจากหวงตี้สวดมนต์เป็นจริยาวัตรเสร็จ เวลาต่อจากนั้นเป็นเวลาเข้านอนเด็กสาวถูกห่อตัวด้วยผ้านวมหนาเดินทางมายังตำหนักใหญ่ เนื่องจากเป็นการถวายงานอย่างเป็นทางการที่มีการลงไว้ในบันทึกแดง ฟู่หยวนเพ่ยถูกแบกมาในท่านอนหงาย จึงเห็นใบหน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-26
  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 9

    “A secret make a woman...woman เพคะ” หยวนเพ่ยเอ่ย“หืม?”“เป็นสำนวนที่เคยได้ยินจากชาวต่างชาติตอนที่ตามท่านพ่อไปคุมงานซ่อมแซมว่านหลี่ฉางเจิ้น แถบเส้นทางสายไหมน่ะเพคะ” นางเอ่ย ไม่กล้าบอกว่าเป็นคำพูดที่มาจากการ์ตูนเด็กแว่นนักสืบที่เป็นการ์ตูนเรื่องโปรด “แปลว่า ความลับทำให้สตรีเป็นสตรี ผู้หญิงเราที่เถร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-26
  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 10

    หลังกลับจากตำหนักใหญ่ในช่วงบ่าย นอกจากเครื่องประดับและแพรพรรณเป็น ‘ค่าจ้าง’ ในการถวายงานเป็นที่พอพระทัยแล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าฟู่หยวนเพ่ยไม่มีนางกำนัลรับใช้เป็นของตนเอง มีแต่นางกำนัลของลี่เฟยที่นางแบ่งมาให้เรียกใช้ตามความเหมาะสม ซึ่งจะให้เป็นแบบนี้ก็ไม่สมฐานะสตรีชั้นสูงที่ถวายงานฝ่าบาทอย่างเป็นทางการ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-26

Bab terbaru

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 36

    ตำหนักเซียวซูเฟยคึกคักอย่างยิ่งในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากตอนนี้เซียวซูเฟยตั้งครรภ์ได้สองเดือน จึงมีขุนนางบางส่วนส่งของขวัญมาให้ไม่แพ้กับตอนช่วงที่ลี่เฟยตั้งครรภ์ อีกทั้งวันนี้ข่านแห่งซีซย่ายังพาธิดามาเยี่ยมท่านอาหญิง ในวังวันนี้จึงคึกคักยิ่งกว่าเดิมข่านซีซย่ารูปร่างกำยำล่ำสัน ผิวคล้ำแดดจาก

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 35

    นับตั้งแต่องค์ชายน้อยจื่อหยวนถือกำเนิด น้อยครั้งนักที่หวงตี้จะเสด็จมาประทับที่ตำหนักใหญ่ อาจเป็นเพราะเกิดก่อนกำหนดเกือบเดือน ทำให้ช่วงแรกร่างกายอ่อนแอไม่น้อย แม่นมต้องใช้วิธีดื่มยาบำรุงหลายถ้วยจนมั่นใจว่ายาจะเข้ากระแสเลือดแปรเปลี่ยนเป็นน้ำนมให้เสวย ทำเช่นนี้อยู่สองเดือน จากทารกน้อยที่ตัวเล็กแดงราวลู

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 34

    "นานแล้วที่ฝ่าบาทไม่เสด็จมายังตำหนักชุนชิวนี้" ลี่เฟยคลี่ยิ้มอ่อนโยน ขณะรินชาถวายหวงตี้ อีกฝ่ายเพียงรับมาดื่มเงียบๆ ขณะที่พระองค์ประทับอ่านหนังสือในพระหัตถ์เงียบๆชายหนุ่มมองใบหน้าสดสวยของลี่เฟยนิ่ง...นางยังงามไม่สร่าง กิริยาอ่อนหวานนุ่มนวลไม่เปลี่ยนแปลง ครรภ์นูนกลมคล้อยลงต่ำมากกว่าเมื่อสองเดือนที่แ

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 33

    หลังจากเดินมาได้ประมาณชั่วยามหนึ่ง หวงตี้ก็ตกลงว่าจะเดินดูอะไรอีกเล็กน้อยแล้วจึงกลับวังหลวง หยวนเพ่ยจึงเลือกเดินซื้อขนมและของกินเพื่อเอาไปฝากหยุนรุ่ยกับเมิ่งหลาน ซึ่งหวงตี้กับฉู่หวางได้แต่เดินตามอยู่ข้างหลังเงียบๆ คล้ายพี่ชายที่เฝ้ามองน้องสาวเล่นซน จนนางหยุดอยู่ที่ร้านขายเครื่องประดับแห่งหนึ่ง ใบหน้

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 32

    หลังจากที่ขบวนเกี้ยวเคลื่อนออกไปจากจวนเจ้ากรมโยธาได้ไม่ไกลนัก หวงตี้พลันมีรับสั่งให้คนหยุดเกี้ยวแล้วเดินออกมารับหยวนเพ่ยที่เดินออกจากเกี้ยวตามโดยไม่มีสีหน้าตกใจเท่าใดนัก ต่างจากฉู่หวางที่ย่นคิ้วน้อยอย่างไม่เข้าใจนัก"เสด็จพี่""ข้าจะไปเที่ยวงานเทศกาลกับเพ่ยเอ๋อร์" หวงตี้เอ่ย ก่อนหันไปทางผู้เป็นอนุชา

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 31

    หยวนเพ่ยเห็นทั้งสองหมดกำลังใจ จึงพามารดาไปนั่งที่ แล้วจึงเดินมาหาพวกเขา จากนั้นจึงเอ่ยเสียงค่อย"มารดาหม่อมฉันตาบอดมาตั้งแต่หม่อมฉันจำความได้ ดังนั้นจึงอาจพูดหรือกระทำสิ่งใดเสียมารยาท ขอทั้งสองพระองค์โปรดอย่าได้ถือสานางเลยนะเพคะ""ช่างเถอะ พวกเราไม่ถือสาหรอก" หวงตี้ยิ้มบาง พลางโบกมือไล่นาง "หาที่นั่

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 30

    จวนเจ้ากรมโยธา ฟู่ถิงเฟิง นั้นอยู่ไม่ไกลจากวังหลวงเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับขุนนางอื่นๆ ในราชสำนัก ภายในเป็นเรือนสี่ประสานขนาดกะทัดรัด มีการขุดบ่อปลูกบัวเลี้ยงปลาไว้ในสวน รอบๆ ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีแปลงผักสวนครัว และเล้าไก่เล็กๆ สื่อให้เห็นว่าเป็นขุนนางตงฉินที่ใช้ชีวิตสมถะอย่างยิ่งในโถงรับแข

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 29

    เมื่อถึงยามโหย่ว (17.00 น.-18.59 น.) หวงตี้ที่สะสางงานทุกสิ่งจนเสร็จสิ้นในห้องทรงพระอักษรมุ่งหน้ากลับสู่ตำหนักใหญ่ ที่นั่นหยวนเพ่ยในชุดฮั่นฝูสีเหลืองอ่อน สายรัดอกและชายแขนเสื้อขลิบสีน้ำเงินเข้ม เกล้ามวยฉุยเลี่ยนจี้[1] มีเครื่องประดับเล็กน้อยเสริมให้ร่างนั้นดูน่ารักน่าทะนุถนอมราวคุณหนูสกุลสูงยืนอยู่

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 28

    ครั้งสุดท้ายที่หยวนเพ่ยเป็นลม คือตอนที่อ่านหนังสือเตรียมสอบปลายภาคโต้รุ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาท่องจำอยู่หลายวัน วันละหลายๆ ชั่วโมง หลังจากที่สอบเสร็จ คล้ายกับความตึงเครียดที่สะสมมาตลอดขาดสะบั้นในคราเดียว จากนั้นเธอก็ล้มทั้งยืน ลำบากให้เพื่อนต้องคอยมาพัดวีจนฟื้นนี่เป็นครั้งแรกหลังจากย้อนกลับไปในอดีต ที่เ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status