ตอนที่ 55 ด้วยรักและแรงหึง“ยัยขี้แย เห็นไหมหน้าเลอะหมดเลย” เขาเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ก่อนจะยื่นนิ้วมือเรียวมาเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าสวย“อย่างนั้นเฮียก็ไปหาคนสวยๆ สิคะ” ฉันออกอาการงอนเขาทันที“หาไม่ได้แล้ว ไม่มีใครสวยกว่านี้แล้ว” เขาปากหวานใส่ พร้อมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น“เยอะแยะถมถืด” ฉันเชิดหน้าใส่เขา“ก็อยากได้แค่คนนี้ คนเดียวเท่านั้น” เขายังคงปากหวานใส่ฉันอย่างต่อเนื่อง“ไม่เชื่อหรอก อย่างคนระดับท่านเซบาสเธีย จะไม่มีสาวๆ ดาหน้ามาให้เลือกเลยหรอ” ฉันลองหยั่งเชิงถาม แต่ใจกลับเต้นตุ๊บๆ ต๊อมๆ กลัวคำตอบที่เขาจะตอบกลับมา“อืมมม ก็มีนะ” ฉันหน้าง้อทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว ไม่น่าหาเรื่องถามให้เจ็บใจเองเลย แต่ในขณะที่ฉันกำลังจะตอบโต้กลับไป...“แต่....ไม่มีใครทำให้ ‘รัก’ ได้เท่ากับคนที่อยู่ตรงหน้านี้ได้เลย” เมื่อสิ้นประโยคที่ออกจากปากของเขา คำที่ฉันรอคอยก็ออกมา ฉันอึ้งกับสิ่งที่ฉันได้ยินโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ขอบตาฉันเริ่มร้อนผ่าว น้ำใสๆ ที่แห้งเหือดไปเริ่มผุดออกมา ฉันหันหน้าไปหาเขาเพื่อขอให้เขาย้ำคำคำนั้นอีกครั้งให้ฉันได้แน่ใจว่าฉันไม่ได้หูฝาดไปและเขาก็รู้ความหมายในสาย
ตอนที่ 56 จะฆ่าให้หมดสิ้นประโยคที่เอ่ยออกมาจากปากหยักทรงเสน่ห์ คำว่า ‘ช็อค’ น่าจะเหมาะกับฉันที่สุดในตอนนี้ เมื่อฉันได้ยินคำตอบของเขา คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันทันทีด้วยความงงงวยและความคิดที่ตามมาว่า...คนอะไร คนที่ไหนที่จะอยู่ในโทรศัพท์ และเขาหึงใคร ในระหว่างที่ฉันยืนมึนอยู่ตรงนั้น เขาก็เดินมาช้อนร่างฉันอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วเดินไปยังรถสปอร์ตสุดหรูที่ลูกน้องเปิดประตูรถรอไว้อยู่แล้ว ก่อนจะวางฉันลงบนเบาะด้านข้างคนขับอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยเดินอ้อมไปขึ้นรถทางด้านคนขับและการกระทำทั้งหมดระหว่างเขากับฉันคงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครไม่เห็น เพราะตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน ทำให้มีพนักงานทะยอยกันออกมาหน้าบริษัทมากมายและแทบทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดฉันนั่งนิ่งอยู่บนรถโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ระหว่างนั้นรถก็แล่นออกมาจากบริษัท เพื่อมุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอันดับหนึ่งของประเทศ“โกรธเฮียหรอค่ะ” เขาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง เพื่อทำลายความเงียบ หลังจากที่ตั้งแต่ขึ้นรถมา ฉันไม่พูดกับเขาสักคำ“...............” ฉันเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรกลับไป เนื่องจากความรู
ตอนที่ 57 ได้ทุกอย่างยกเว้น...--- เซฟ Talk ---พอได้ฟังแต่ละประโยคที่เธอถามผมกลับมา มันทำให้ความโมโหผมพุ่งขึ้นมาทันที แค่คิดว่าเธอจะกลับไปหามัน ไอ้สารเลวคนนั้น แค่คิดว่าเธอจะไปเป็นของคนอื่น แค่คิดว่าเธอจะร้องครวญครางใต้ร่างใคร ผมก็แทบจะคลั่งตายให้ได้ ผมไม่มีทางยอมปล่อยเธอให้ไปเป็นของใครเด็ดขาด เธอต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้นและต้องเป็นของผมคนเดียวตลอดไปผมรู้ว่าด้านมืดของผมมันกำลังก่อตัวขึ้น ผมต้องหยุดมันเอาไว้ โดยการลงโทษคนที่กระตุ้นให้มันตื่นขึ้นมา...ผมจัดการดึงเธอที่กำลังเจือแจ้วยั่วอารมณ์โมโหของผมให้เข้ามาประชิดหน้า แล้วจัดการกดปากลงไปเพื่อปิดปากอวบอิ่มที่เอาแต่พูดทำร้ายจิตใจของผมไม่หยุด ผมออกแรงบดขยี้จนรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือดจางๆ ภายในปาก แม้ว่าเธอออกแรงดิ้นเล็กน้อย พร้อมกับส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ แต่ผมก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระหรอกทำไมผมจะไม่รู้ว่าเธอแกล้งยั่วโมโหผม ทั้งๆ ที่รู้ว่าผมหึงเธอ ผมหึงเธอกับไอ้สารเลวเคนอะไรนั้น เธอก็ยังจะเล่นกับความรู้สึกของผมอีก กับเธอผมคงไม่ทำอะไรและไม่มีวันทำอะไรที่รุนแรงกับเธออีกแล้ว เต็มที่ก็แค่กักขังเธอไว้ให้เป็นของผมคนเดียวตลอดชีวิต แต่กับมั
ตอนที่ 58 ห้อง VVIPฉันเดินนำหน้าเขาไปโดยที่ไม่รอเขา นั่นก็เพราะว่าฉันยังคงไม่พอใจเขาอยู่ คนอะไรดื้อด้านไม่ยอมฟังเหตุผลกันบ้างเลย แล้วมาหึงใครไม่หึงไปหึงคนแบบไอ้เคน ต่อให้เหลือมันแค่คนเดียวในโลกฉันก็ไม่มีทางกลับไปเอามันอีกเด็ดขาด แค่คิดก็ขยะแขยงแล้ว ฉันเดินจ้ำอ้าวสับขาหน้ามุ่ยไม่สนใจคนร่างสูงใหญ่ที่เดินก้าวขาตามมาติดๆเขารีบเดินมาด้วยความเร็วสูง แล้วมาคว้ามือฉันไว้เพื่อจะให้เดินไปพร้อมกัน ฉันพยายามที่จะสลัดมือปลาหมึกของเขาออก แต่ทำยังไงไอ้มือกาวนี้ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลย เลยทำได้แค่ปล่อยให้เขากอบกุมพาเดินไปยังร้านขายโทรศัพท์ยี่ห้อดังณ ร้านโทรศัพท์ XX“สวัสดีค่ะ คุณลูกค้าสนใจโทรศัพท์รุ่นไหนคะ” พนักงานสาววิ่งมาต้อนรับ ก่อนจะยืนอึ้งกับภาพความงามของชายหนุ่มที่ยืนทำหน้านิ่ง“มาเอาโทรศัพท์ที่สั่งไว้” เขาเอ่ยโดยไม่ได้หันไปมองหน้าพนักงานสาวที่พยายามส่งสายตาหยาดเยิ้มมาให้เมื่อเขาเห็นว่าพนักงานคนนั้นไม่มีท่าทีจะไปทำตามคำสั่งของเขา เขาจึงตะคอกเพื่อดึงสติพนักงานสาวคนนั้นให้กลับมา“เดี๋ยวนี้!! “พนักงานสาวที่กำลังเคลิบเคลิ้มในความหล่อของเขาอยู่ ถึงกับสะดุ้งกับเสียงอันทรงพลังของเขา จนทำให้สติที่กำลังต
ตอนที่ 59 อักษร A กับ Sสิ้นเสียงเรียกจากหน้าประตู สีหน้าแต่ละคนคือ... พี่กิต : (*0*) ฉัน : (-///-) คุณเซฟ : (-*-) “จังหวะนรกอีกแล้วกู” ฉันได้ยินเสียงพี่กิตงึมงำกับตัวเอง ในขณะที่ยืนก้มหน้าทำตัวไม่ถูก“มึงนี่นะ วันนี้ก้าวตีนข้างไหนออกนอกบ้านมาห๊ะ!! ถึงได้ขัดกูจริงๆ ” เป็นคุณเซฟที่เอ่ยออกมาอย่างหัวเสียส่วนฉันที่ตอนนี้นั่งซบหน้าเข้ากับต้นคอของคุณเซฟนิ่ง เพื่อหนีอาย ที่ทำอะไรไม่ระวังจนมีคนมาเห็นเข้าจนได้“มีอะไร!!” น้ำเสียงเข้มดุดันเอ่ยออกไปถามลูกน้องคนสนิท“คือจะมาบอกว่าโทรศัพท์ได้แล้วครับนาย ผมกลัวว่านายจะรอนานเลยรีบมาบอก” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถึงเหตุผลที่เข้ามาขัดจังหวะแบบไม่ได้ตั้งใจสายตาเขาที่จ้องไปยังลูกน้อง ถ้าเป็นมีด คงจะเฉือนคนตรงหน้าออกเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว“เอาเข้ามาสิ” เขาเอ่ยบอก ในขณะที่ยังให้ฉันนั่งคร่อมเขาอยู่เหมือนเดิม“ฮะ..เฮีย ปล่อยเอลิซให้นั่งดีๆ ก่อนไหมคะ ถ้าพนักงานมาเห็นเขาจะเอาไปนินทาได้นะ” ฉันพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาข้างหูของเขา บอกให้เขาปล่อยให้ฉันนั่งแบบปกติ เหตุผลเพราะฉันกลัวดูไม่ดี และฉันก็อายด้วย“นั่งแบบนี้แหละ ลองใครมันกล้าเอาเมียเฮียไปนินทา นั่นจะเป็นสิ่งสุดท้าย
ตอนที่ 60 สถานที่คุ้นเคยฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติของตัวเองให้กลับมา ก่อนจะรีบเก็บของเข้ากระเป๋าสะพาย แล้วจูงมือคนร่างโตให้เดินตามออกมา“ไปกันเถอะค่ะ เอลิซหิวแล้ว” ฉันบอกเขาโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้าเขาเลย เพราะฉันไม่อยากให้เขาเห็นดวงตาที่มีน้ำใสๆ คลอจนขอบตาแดงเขากระชับมือฉันแน่นเพื่อปลอบใจ และส่งสัญญาณบอกเป็นนัยๆ ว่าเขาอยู่ตรงนี้เสมอฉันยิ้มออกมาบางๆ ด้วยความรู้สึกขอบคุณเขาจากใจจริง แล้วนำหน้าพาเขาเดินไปเลือกร้านอาหารฉันเลือกร้านอาหารร้านหนึ่ง สไตล์อาหารเป็นแบบที่ฉันกับพ่อแม่ชอบกิน อาจจะเป็นเพราะฉันยังไม่สามารถที่จะสลัดความรู้สึกคิดถึงท่านทั้งสองได้หมด เลยทำได้แค่ทำในสิ่งที่เคยทำกับพวกท่านเพื่อเป็นการเยียวยาหัวใจดวงน้อยๆ ของตัวเอง“เอานี่ นี่ นี่ นี่ แล้วก็นี่ ค่ะ” ฉันจิ้มไปที่เมนูที่อยากกิน เพื่อบอกกับพนักงานที่มารับออเดอร์“เฮียเอาอะไรเพิ่มไหมคะ” ฉันหันไปถามเขา“เอาคนนี้” เขาชี้มาที่ฉันแล้วพูดหน้าตาเฉย จนพนักงานที่รับออเดอร์ทำตัวไม่ถูก ส่วนฉันก็ได้ร้อนรนเพราะอายที่พูดแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น“เฮีย!!” ฉันถลึงตาใส่เขา ขยันทำให้ฉันอายจริงๆ“เอาแค่นี้แหละ ขอด่วนเลยนะ เมียผมหิว!!”
ตอนที่ 61 ตามล่าหาความจริงฉันมองไปยังเคาน์เตอร์บาร์อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจหันไปบอกเขาว่า...“เฮียค่ะ เอลิซขอลงไปข้างล่างนะคะ”“จะลงไปทำไมคนเยอะแยะ อยู่บนนี้สบายๆ ดีกว่าไหมคะ” เขาเอ่ยโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉัน“แต่เฮียพาเอลิซมาเปิดหูเปิดตา ถ้าไม่ให้เอลิซลงไปสนุกข้างล่าง แล้วเฮียจะพาเอลิซมาทำไม” ฉันบอกไปตามความเป็นจริง“งั้นรอเฮียเคลียร์เอกสารตรงนี้เสร็จก่อนนะ เดี๋ยวเฮียพาลงไป” เขาตอบกลับโดยที่ใบหน้าคมก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองฉัน ยังคงวุ่นกับเอกสารบนโต๊ะ“แต่เอลิซจะลงไปเดี๋ยวนี้ ตอนนี้เลยค่ะ” ฉันเดินมายังหน้าโต๊ะทำงานของเขา แล้วกอดอกรอคำตอบ เพราะเริ่มไม่พอใจและร้อนใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังสงสัยอยู่เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ด้วยใบหน้าที่อ่อนลง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรเรียกพี่กิตให้เป็นคนพาฉันลงไปฉันเดินตามที่กิตลงมาเรื่อยๆ พร้อมกับจำทางเผื่อว่าเบื่อจะได้ขึ้นมาเองได้โดยที่ไม่ต้องให้พี่กิตหรือลูกน้องเขาไปรับ ถึงระยะจะแค่จากชั้นบนลงมาชั้นล่าง แต่ทางที่เดินลงมาดูซับซ้อน อย่างกับเขาวงกต พอเดินลงมาถึงชั้นล่าง ความรู้สึกคุ้นเคยก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น มันเหมือนกับว่า...ฉันรีบก้าวเท้าเดินมายั
ตอนที่ 62 การมาของใครบางคน--- เซฟ Talk ---ผมตั้งใจไว้อยู่แล้วว่า วันนี้จะพาเธอมาที่ผับแห่งนี้ ผับที่เราเจอกันครั้งแรก และทำให้เรามีความสัมพันธ์กันมาจนถึงทุกวันนี้ ผมเตรียมพร้อมสำหรับคำอธิบายไว้เรียบร้อยแล้ว รอแค่เธอเอ่ยถามมาแต่ว่าพอมาถึง เธอกลับดูตื่นตาตื่นใจไปเสียทุกอย่าง ทำตัวเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งออกมาเจอโลกภายนอกครั้งแรก เธอมองดูเหล่าลูกค้าของผมโยกย้ายแดนซ์กระจายอยู่ด้านล่าง ท่าทางเหมือนเธออยากจะลงไปแจมด้วยเสียเต็มที จนกระทั่ง...เธอหยุดมองไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เธอมองอยู่นานจนผมเองก็อดหวั่นใจไม่ได้ แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอเธอสอบสวนแน่นอนแล้วสิ่งที่ผมหวั่นใจก็เป็นจริง เมื่อเธอเกิดสงสัยขึ้นมาจริงๆ เธอมาขอผมลงไปข้างล่าง ตอนแรกผมแกล้งบ่ายเบี่ยง เพราะใจจริงอยากจะไปเคลียร์ไปรำลึกความหลังกันตรงนั้นเสียมากกว่าให้เธอรู้ความจริงแล้วงอนผมตุ๊บป่อง แต่ถึงเธอจะงอนผมก็ยินดีง้อ แต่ว่าง้อด้วยร่างกายนะ...หึหึผมให้กิตพาเธอไปด้านล่าง ในเมื่อเธออยากจะเป็นนาตาชาผมก็ไม่ขัด ผมก็จะให้เธอหาความจริงด้วยตัวเธอเอง ส่วนผมตั้งแต่เธอเดินลงไป ผมก็ละงานในมือมายืนดูเธอผ่านกระจกบานใหญ่ ที่ถ้าคนด้านนอกเ