ตอนที่ 47 อาณาจักรเซบาสเธียณ อาณาจักร SBTeir Corporateเมื่อก้าวเท้าเข้ามายัง อาณาจักร SBTeir Corporate ที่ยิ่งใหญ่ ที่ที่ฉันไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าจะได้มีโอกาสเข้ามา อาณาจักรที่ขึ้นชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของประเทศและยังกระจายไปอีกหลายทวีป ภาพตรงหน้าทำให้ฉันตื่นตาตื่นใจอย่างมาก ฉันหันซ้ายทีขวาที มองไปทั่วแทบไม่กะพริบตา จนคนร่างโตที่ยืนอยู่ข้างๆ อดไม่ไหวที่จะเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้ให้เดินไปพร้อมกันการมาของเจ้าของบริษัท อย่างท่าน เซบาสเธีย ธิพัฒน์เดชะไพศาล ทำให้บรรยากาศภายในบริษัทดูเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ทุกอย่างดูเป็นระเบียน ดูทันสมัย ดูน่าเชื่อถือ สมกับตำแหน่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ จนฉันที่ตื่นเต้นในตอนแรก แอบรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังดีที่ได้มืออันอบอุ่นของเขากอบกุมให้ฉันได้ผ่อนคลายฉันก้มมองไปยังมือที่แสนอบอุ่นของเขาที่กำลังกุมมือน้อยๆ ของฉันอยู่ ด้วยสายตาที่อิ่มเอมไปด้วยความสุข ความอบอุ่นที่ส่งมาเป็นเหมือนความนัยที่บอกว่าฉันสำคัญต่อเขาแค่ไหน ฉันช้อนตาขึ้นไปมองยังด้านข้างใบหน้าคมเข้มทรงเสน่ห์ด้วยหัวใจที่เต้นแรง เขายังคงทำหน้านิ่งไม่ยิ้มไม่พูดกับใครตลอดทางที่
ตอนที่ 48 พิสูจน์เรื่องอย่างว่าลมร้อนจากริมฝีปากร้ายยังคงเลื่อนรดลงมาตามแผ่นหลังเนียน มือหนาผละจากการกอดเอว สอดเข้ามาทางด้านหลังขยำเข้ากับสองเต้าอวบ นิ้วเรียวค่อยๆ แทรกเข้ามาที่แผ่นซิลิโคนที่ใช้ปกปิดปลายยอดเม็ดมุก จนกระทั่งแผ่นซิลิโคนถูกเขี่ยออกให้พ้นทาง“อ๊ะ...อืออออ..” เสียงคราวหวานลอยออกจากปากอวบอิ่มริมฝีปากร้อนยังไม่หยุดรุกเร้าแผ่นหลังสาว มันเข้าระรัวจู่โจมขบกัดเบาๆ พอกระตุ้นความกระสัน สองมือที่กำลังขยำสองเต้าอวบออกแรงบีบเคล้นช่วยเร่งกระตุ้นอีกแรงความรุนแรงจากการบีบสองเต้าจนเนื้อปริ ทำร่างบางกระเพื่อมไปตามแรงมือ การขยับขึ้นลงส่งผลให้กระโปรงหนังร่นขึ้นไปกองที่เอว จนเหลือแค่จีสตริงลายลูกไม้ตัวจิ๋วสีดำที่กันระหว่างเนื้ออวบอูมกับจุดกึ่งกลางที่ตอนนี้ท่อนเอ็นลำใหญ่กำลังแข็งปั๋งเมื่อการเสียดสีระหว่างจุดกึ่งกลางของคนทั้งสองทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ร่างกายก็ทำการส่งสัญญาณตอบสนองกลับมา“อืออออออ” เสียงครางเปล่งออกมาบ่งบอกถึงความเสียว ส่วนน้ำหวานที่ไหลซึมออกมาจากร่องสาวก็บ่งบอกถึงความต้องการของร่างกายเช่นกันความเปียกที่ชื้นเจิ่งนองทะลุออกมาจากจีสตริงลายลูกไม้สีดำ จนคนใต้ร่างรู้สึกได้ เขายก
ตอนที่ 49 มารยากวางน้อยฉันมองไปที่คนเจ้าเล่ห์ที่ทำสายตาหลุกหลิก เพราะน่าจะรู้ตัวเองดี ว่าบอกสิ่งที่ฉันอยากรู้ไม่หมด“มีอะไรจะพูดอีกไหมคะ” ฉันเอ่ยย้ำ พร้อมส่งสายตาจับผิดไปให้“ม่ะ..ไม่มีค่ะ” เขาตอบตะกุกตะกัก“แน่นะ” ฉันเอ่ยเสียงเข้มเน้นคำ“แหะๆ ....อ๋อนึกได้อีกอย่าง คือเอลิซอยากรู้ใช่ไหมคะว่าเฮียรู้ได้ยังไง” เขาแสร้งทำเป็นนึกออก ทำไมฉันจะดูไม่ออกฉันพยักหน้าตอบรับ“คือว่า...เอ่อ...เฮียแอบเอากล้องวงจรจิ๋วไปติดในห้องน้ำ” พอเขาพูดจบก็รีบซุกหน้าเข้ามาที่หน้าอกฉันเพื่อหนีความผิดทันที“เฮียยยย” ฉันตาโตขึ้นเสียงเรียกชื่อเขาทันที มันน่านัก โธ่เอ๊ย!!อายก็อาย โมโหก็โมโห อยากจะทุบให้แขนหักไปเลย แต่ก็ทำได้แค่ดิ้นอยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่รัดแน่นเท่านั้น“อย่าโกรธเฮียเลยนะคะ คนดี ที่เฮียทำไปทุกอย่างก็เพื่อเอลิซเลยนะคะ เห็นใจผัวตาดำๆ คนนี้เถอะน๊าาา...” เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉัน เมื่อเห็นว่าฉันหยุดดิ้นแล้ว ซ้ำยังมาทำหน้าทำตาอ้อนวอนขอร้องให้ฉันยกโทษให้อีกความจริงฉันก็ไม่ได้โกรธ หรือโมโหอะไรเขาแล้วแหละ เพราะรับรู้ถึงเจตนาที่ดี (หรือเปล่า) ของเขา และเมื่อรวมกับสิ่งที่เขากระทำกับฉันมาโดยตลอดตั้งแต่เขาขอโอกา
ตอนที่ 50 บางอย่างที่หายไป!!เสียงเคาะประตูห้องทำงานของเขาที่ดังขึ้น ทำให้เพลิงสวาทที่กำลังโหมกระหน่ำหยุดลงทันที เขาเงยหน้าขึ้นจากซอกคอขาวของฉันด้วยท่าทางหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ แต่มือหนายังกอบกุมสองมือของฉันไว้ที่เดิมส่วนตัวฉันเองตกใจกับเสียงเคาะประตู และกลัวว่าจะมีใครเข้ามาเห็นภาพน่าอายของฉันที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ จึงทำได้แค่เอียงหน้าหันเข้าหาพนักโซฟา เพราะมือทั้งสองข้างยังไม่สามารถที่จะหลุดออกจากพันธนาการของคนตรงหน้าได้เมื่อเขามองไปยังหน้าประตู เสียงเคาะเรียกเมื่อสักครู่ดูท่าจะเงียบไป เขาก็กลับมาโหมเพลิงสวาทที่กำลังจะมอดให้รุกโชนขึ้นมาอีกครั้งเขาคลายมือที่กอบกุมสองมือของฉัน แล้วเลื่อนใบหน้าไปตามลำตัว มีแวะหยอกล้อตามผิวเนียนที่อยู่ระหว่างทางที่จะไปถึงจุดที่เขาปรารถนาไว้ตั้งแต่ต้นเมื่อใบหน้าคมเลื่อนมาถึงจุดที่ใจคาดหวังไว้ นั่นก็คือจุดกึ่งกลางใจสาวที่อยู่ของดอกไม้กลีบอูมอิ่มที่ตอนนี้กำลังคลายน้ำค้างให้ไหลมาตามร่องกลีบ บ่งบอกถึงความบานสะพรั่งเพื่อรอรับลิ้นของเหล่าแมลงภู่ที่จะเข้ามาฉกฉวยดื่มกินน้ำหวานเขาค่อยๆ สอดมือทั้งสองข้างเข้ามายังชายกระโปรงหนังของฉัน การสัมผัสที่บางเบาแต่มั่นคงท
ตอนที่ 51 ขอแค่...ครืดด ~~เสียงเลื่อนปิดประตูหลังจากที่พี่กิตออกไปแล้วฉันลุกขึ้นยืน เดินรอบโซฟาอีกครั้ง มองมุมนู้นทีมุมนี้ที ก้มๆ เงยๆ เพื่อหาจีสตริงตัวจิ๋วของฉัน แต่ไม่ว่าจะหายังไงก็หาไม่เจอ“หาอะไรอยู่ค่ะ” เสียงทุ้มนุ่มจากด้านหลังเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของฉันที่เหมือนคนกำลังหาของ“ก็...จี...เอ่อ...ไม่มีอะไรค่ะ” ฉันตอบกลับโดยที่ไม่ได้หันหน้าไปมองคนถาม จึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มร้ายที่ฉายออกมาเขายังคงมองคนร่างบางที่ก้มๆ เงยๆ เดินวนไปมาแถวโซฟา ที่ดูท่าทางยังไงก็เห็นแน่ชัดว่ากำลังหาของอยู่ แต่เหมือนว่าเธอจะไม่อยากให้รู้ว่าอะไรหายไป“ก็นึกว่าหาไอ้นี่อยู่...” เขาชูจีสตริงจิ๋วสีดำ พร้อมใช้นิ้วเรียวควงไปมาเป็นวงกลม แล้วทำหน้าทะเล้นใส่ฉันหันไปตามเสียงที่บอก สิ่งที่เห็นอยู่ในมือเขาทำเอาฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่ใบหน้าสาวจะเห่อร้อนและแดงก่ำด้วยความอับอาย“เฮีย!!เอามานี่นะ เอาไปตั้งแต่เมื่อไรค่ะเนี้ย!!” ฉันกระวีกระวาดวิ่งไปยังที่โต๊ะทำงานของเขาทันทีเขารีบหยัดกายยืนขึ้นเต็มความสูง แล้วยกมือชูชั้นในตัวจิ๋วขึ้นสูงเลยหัว เพื่อไม่ให้ฉันเอื้อมหยิบฉวยได้ถึงฉันไม่ละความพยายามที่จะเอื้อมมือคว้า
ตอนที่ 52 รู้ไหมว่าเฮีย...ฉันเงยหน้ามองเขา ด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์คนเจ้าเล่ห์ ทุกอย่างที่ทำตัวเองก็มีแต่ได้กับได้ ยังจะมาทวงอะไรที่มากกว่าคำขอบคุณอีก ฉันนึกก่นด่าเขาในใจ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งยังโซฟาตัวเดิมขณะที่เขากำลังจะเดินมาหาฉัน...“หยุดเลยนะคะ กลับไปนั่งทำงานให้เสร็จได้แล้ว มัวแต่มาหื่นกามใส่เอลิซอยู่นั่นแหละ งานไม่เสร็จสักที...ฮึ” ฉันบ่นใส่เขาเป็นชุด นี่ตั้งแต่มาถึงบริษัท นอกจากเอกสารที่พี่กิตเอามาให้เซ็น ฉันยังไม่เห็นเขาทำอะไรเลยนอกจากมายุ่งวุ่นวายกับร่างกายของฉันเขาชะงัก!!หยุดฝีเท้าที่จะเดินมาหาฉันลงทันที ก่อนจะหันหลังทำหน้าจ๋อยเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานการกระทำของเขาทำให้รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย เพราะนึกขำกับการทำตัวเป็นเด็กของเขาเมื่อถึงเวลาที่เขาเริ่มทำงาน มันทำให้เห็นถึงศักยภาพของเขาขึ้นมาทันที ภาพที่อยู่ตรงหน้าในขณะที่เขาเข้าโหมดเป็นผู้บริหาร ออร่าความหล่อเท่ยิ่งพุ่งกระจาย จนฉันไม่สามารถละสายตาไปจากเขาได้เลย ความหล่อ ความมีเสน่ห์ ความสมาร์ต ความสุขุมนุ่มลึก ถูกแผ่ออกมาจากคนๆ เดียวที่อยู่ตรงหน้าฉันคนนี้ ภาพตรงหน้ามันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะนั่งมองเขาด้วยความชื่นชม และ
ตอนที่ 53 ไอ้ตัวมาร--- เซฟ Talk ---ผมส่งแชทให้ลูกน้องสั่งอาหารมาให้ เพราะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ผมพาคนร่างบางมาด้วย หลังจากที่ผมเข้าโหมดทำงาน ผมจะเป็นแบบนี้ทุกทีคือทำงานจนลืมวันลืมเวลา กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ลูกน้องเอาอาหารมาให้ ซึ่งพวกมันจะรู้ดีว่าไม่ต้องรอให้ผมออกคำสั่งแต่วันนี้ทั้งที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะเข้ามาเคลียร์งานที่บริษัทแค่แป๊บเดียว แล้วจะได้พาเธอออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก ตั้งใจไว้ว่าวันนี้จะตามใจเธอทุกอย่าง เธออยากจะไปไหนผมจะพาไปหมด แต่กลับมีงานและโครงการมากมายให้ต้องพิจารณา ซึ่งแต่ละโครงการก็ระดับพันล้าน เลยต้องใช้เวลาในการดูเอกสารนานพอสมควร จนผมอดพาเธอออกไปเที่ยวและหาอะไรกินข้างนอก มันทำให้ผมรู้สึกผิดต่อเธอมาก ทั้งที่ได้พาเธอออกมาแล้ว แต่กลับพาเธอมานั่งอุดอู้อยู่ในห้องทำงานนี้ ผมนี่มันแย่จริงๆหลังจากที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เพราะส่วนลึกก็เป็นห่วงความรู้สึกเธอ ผมพยายามสลัดความคิดเหล่านั้นออก แล้วรีบเคลียร์งานให้เสร็จให้เร็วที่สุด อย่างน้อยก็ยังมีเวลาพาเธอไปกินอาหารเย็นข้างนอก เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็รีบลงมือเคลียร์กองเอกสารด้านหน้าทันที แต่ก่อนจะเริ่มขอเงยหน้าขึ้นไปมองหน้า
ตอนที่ 54 คำที่รอคอยหลังจากที่เขารับอาหารมาจากพี่กิต เขาก็ปิดประตูใส่หน้าพี่กิตทันทีโดยที่ไม่พูดอะไร ฉันเห็นเงาพี่กิตเหมือนเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องทำงานสักพัก ก่อนจะเดินจากไป คงจะยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรพลาดไป“เฮียสั่งอาหารมาตั้งแต่ตอนไหนคะเนี้ย” ฉันพูด แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่ถาดอาหารที่ดูน่ากินไปหมด ความจริงฉันรู้สึกหิวมาได้สักพักแหละ แต่เกรงใจเขาที่กำลังยุ่งกับการเคลีย์งานเลยไม่อยากจะรบกวน“ก็ตอนที่นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้พกเมียมาด้วย” เขาหยอกฉันกลับแทนคำตอบฉันค้อนให้เขาทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้ ใครเป็นเมียตัวเองกันย่ะ ขี้ตู่ชะมัด...ชิเขาจัดแจงเตรียมจานข้าวและตักข้าวให้ฉัน โดยที่ไม่ให้ฉันช่วยอะไรเลย พอฉันอยากจะช่วยเขาก็บอกขอให้ฉันช่วยนั่งเป็นกำลังใจกับนั่งกินข้าวเป็นเมียเขาก็พอฉันไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา เลยทำตามที่เขาบอก จากนั้นเราทั้งสองคนก็ลงมือกินอาหารข้างหน้าทันที เรากินไปคุยไป เขาคอยตักอาหารให้ฉัน ฉันก็ตักให้เขาคืน มันเป็นความสุขเล็กๆ ที่ดูเรียบง่าย จนฉันนึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นภาพนี้ ภาพที่ท่านเซบาสเธียผู้ยิ่งใหญ่ จะมานั่งกินอาหารที่เรียบง่ายกับฉันสองคนได้ ฉันนั่งคิดอะไรเพลินๆ
ตอนพิเศษ : บทสรุปคนทรยศณ Penthouse เซบาสเธีย“จัดการสั่งสอนพวกมันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม...เออดี...พวกมันจะต้องจำไปจนตาย...”เสียงแข็งกร้าวกรอกเสียงไปตามสาย ก่อนที่ปากหยักสวยจะเหยียดยิ้มร้ายด้วยความสะใจผมที่ตื่นนอนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น จากลูกน้องที่โทรมารายงานถึงเรื่องราวที่ผมได้ให้มันไปสืบ ผมที่สั่งลูกน้องคนสนิทไปดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่อยู่ในร้าน เนื่องด้วยว่าผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จนถึงกับทำให้เธอคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนของผม ต้องเสียใจจนถึงขนาดเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อประชดชีวิตเขาที่แม้จะเดาได้ตั้งแต่แรก แต่พอได้ยินเองกับหู ก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าทันที ทั้งที่เธอแสนดีกับพวกมันขนาดนั้น แต่กลับถูกพวกมันทรยศหักหลัง จนหัวใจแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี และเธอที่ตัดสินใจประชดชีวิตไปแบบนั้น ถ้าเมื่อคืนไม่ใช่ผมที่ดูแลเธอ ชีวิตเธอตอนนี้จะเป็นยังไงหลังจากที่ผมได้ฟังในสิ่งที่ลูกน้องรายงาน รวมทั้งเรื่องที่ผมสั่งให้ไปกระทืบพวกมัน พอลูกน้องคนสนิทของรายงานจบผมก็ตัดสายทันทีและพลางนึกสะใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมอบความต้องการให้แก่เธอ ผมคงไปกระทืบมันด้วยตัวของผมเองแล
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(3)--- เอลิซ Talk ---ฉันที่ถึงกับร้องไห้โฮหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่คุณเซฟได้ไปสืบเรื่องการหายตัวไปของพ่อกับแม่ของฉัน เขาที่ตามเบาะแสทุกอย่าง เพราะอยากจะให้พวกท่านได้มาร่วมงานในวันแต่งงานของเราทั้งสองคน แต่ใครจะไปคิดว่ากลับไม่มีพวกท่านอยู่บนโลกนี้อีกแล้วคุณเซฟยังเล่าให้ฟังต่อว่า พวกท่านทั้งสองได้ถูกทำพิธีทางศาสนาไปทั้งนานแล้วโดยองค์กรนั้น และจัดการกับเถ้ากระดูกไปจนหมดสิ้นเนื่องจากไม่คิดว่าทั้งสองท่านยังมีญาติหลงเหลืออยู่ และนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจที่แม้แต่เถ้ากระดูกของพ่อกับแม่ตัวเอง ฉันยังไม่อาจจะสัมผัสได้ฉันร่ำไห้สะอื้นจนตัวโยนแม้จะตั้งท้องจนใกล้คลอด ฉันก็ยังอยากจะมีแม่ไว้คอยให้คำปรึกษาในเวลาที่ต้องเลี้ยงลูก ก่อนที่จะเฝ้าโทษตัวเองอยู่นาน ถ้าช่วงนั้นฉันเอะใจสักนิด และไม่ปล่อยให้ความเคยชินยามไม่มีพวกท่านมาทำให้ฉันไม่สนใจอะไร วันนี้เราพ่อแม่ลูกคงไม่ต้องมาพรากจากกันอย่างถาวรและนอกจากเรื่องราวของพ่อแม่ของฉันที่ฉันเพิ่งได้รับรู้ ก็ยังมีเรื่องราวที่น่าเซอร์ไพรส์มากกว่านั้น นั่นก็คือ...เพื่อนสนิทของคุณพ่อของฉันที่คอยช่วยเหลือท่านมาโดยตลอด เขาคนนั้นก
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(2)หลายปีต่อมา ~~จนกระทั่งเมื่อข่าวการป่วยหนักของผู้เป็นบิดาดังเป็นข่าวใหญ่ เขาที่แม้จะเสียใจกับสิ่งที่พ่อทำกับตนมากแค่ไหน แต่ด้วยความเป็นลูกและความรัก ความผูกพันที่ยังมีอยู่ จึงทำให้วันนี้เขาได้ตัดสินใจที่จะกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตัวเขาเองได้จากไปนานนับปีหลังจากที่เขากลับมายังประเทศบ้านเกิดและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาก็ได้รวบรวมความกล้ากลับมายังคฤหาสน์หลังงามที่คุ้นตา แต่ทว่า...วันนี้เขาไม่ได้มาแค่กับไอรินภรรยาที่เขารัก แต่ว่า...เขายังพาโซ่ทองคล้องใจมาด้วย...เอลิซ...ลูกสาวตัวน้อยหน้าตาน่ารักที่เขาหวังพามากราบชายผู้เป็นปู่ของเธอแต่ทว่า...ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสำหรับคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเขา ทั้งที่เขาจะสลัดทิฐิทิ้งไปแล้วพาตัวเองมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่คุ้นเคยได้แล้ว แต่ทว่า...ขาของเขามันกลับไม่ยอมก้าวเข้าไปเสียทีเขาที่ยืนลังเลอยู่หน้าบ้านสักพักใหญ่ ๆ ทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปดูใจผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยทิฐิที่กลับเข้ามาอยู่ในใจ บวกกับความลำบากตากตำที่ต้องพบเจอมาอยู่หลายปี สุดท้ายแล้ว...ทิฐิก็เป็นฝ่ายชนะ..
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(1)ณ คฤหาสน์ตระกูลฤธาทรัพย์ดำรง“ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านแค่ก้าวเดียว แกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย”เสียงดังประกาศกร้าวจากเจ้าปากของร่างชายสูงวัย พูดกับลูกชายคนเล็กด้วยตัวที่สั่นเทาด้วยความโกรธ“ป๊า...!!” ชายหนุ่มที่ประคองร่างอันสั่นเทาของผู้หญิงที่ตัวเองรักอยู่ในอ้อมแขน หันมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย“เฮียใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ” ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขา กลับเอื้อมมือขึ้นไปแตะที่มือเขาเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยพูดเมื่อเห็นเขาอารมณ์เริ่มปะทุ ด้วยไม่อยากให้ตนเองเป็นชนวนให้พ่อกับลูกต้องผิดใจกัน“ฉันเลือกผู้หญิงดี ๆ เพียบพร้อมเอาไว้แก แกดันไม่เอา แต่ดันไปเลือกผู้หญิงไม่มีหน้าตาในสังคม ผู้หญิงแบบนี้มันจะไปช่วยให้แกเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ยังไง...ห๊ะ...!!” ชายสูงวัยระเบิดอารมณ์ต่อ พร้อมกับค่อนแคะผู้หญิงของลูกชายเขา โดยที่เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับ“ป๊าครับ กรุณาให้เกียรติเมียของผมด้วย” ลูกชายพูดกดเสียงด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากพ่อของต้นดูดถูกผู้หญิงที่ตนรัก“ป๊าก็ใจเย็น ๆ ก่อนเถอะครับ แกก็ด้วยไอ้ชิน...” เสียงของผู้ที่เป็นทั้งลูกชายคนโตและยังเป็นพี่ชายเพียงคนเด
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(3)ผมตัดสินใจเดินลงมาหาเธอ ก่อนที่จะสูดหายใจลึก ๆ แล้วเอ่ยทักทายเธอออกไป..."คุณครับคุณ คุณครับ คุณครับ" ผมเรียกอยู่นานกว่าเธอจะตอบ"ค่ะ ว่าไงคะ" เธอหันมาหาพร้อมตอบรับ ถ้าผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เหมือนเธอจะตะลึงในความหล่อของผมอยู่เหมือนกัน"คุณ..ว่าไงครับ ผมรอคำตอบอยู่" โอ๊ยคนอะไรยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งน่ารักเป็นบ้า ขนาดใส่เสื้อผ้ายังน่ารักขนาดนี้ ถ้าหาก...(ไอ้เสือ...!! ใจเย็นดิว่ะ...หึหึ)"อะ...อะไรนะคะ" เหมือนเธอจะเริ่มเมาแล้ว แต่นั่นก็กลับยิ่งทำให้เธอน่ารักมากขึ้นไปอีก"ผมถามว่าผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ ผมมาคนเดียวเลยไม่อยากไปนั่งโต๊ะใหญ่ครับ" ผมถามโดยที่สายตามจับจ้องไปทั่วร่างของเธอ"ดะ..ได้ค่ะ" เธอตอบตะกุกตะกัก และนั่นมันก็ทำให้ผมดีใจมากที่เธอไม่ปฏิเสธผมเหมือนคนอื่น(นี่มันคือพรหมลิขิตใช่ไหม...ฟ้าเป็นใจใช่หรือเปล่า ~~)"คุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถามเธอออกไป ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก"คุณครับ ชื่ออะไรครับ" ผมสะกิดเธออีกครั้ง เพราะดูเธอจะเหม่อลอยไม่ทันได้ฟังที่ผมถาม"ห๊ะ...ว่ายังไงนะคะ"สายตาเย้ายวนเหลือเกิน ทนไว้ไอ้เซฟทนไว้" ผมถามว่าคุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถาม
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(2)อีกทั้งวันนี้เธอกำลังฉลองวันครบรอบของเธอกับแฟนของเธออยู่ด้วย...หึ...ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขยามที่เธอเตรียมขอขวัญไปเซอร์ไพรส์ให้มันนั้น ยามที่มันได้รับหน้ามันจะบานเป็นกระด้งขนาดไหน ทั้งที่พวกมันไม่สมควรจะได้รับความปรารถนาดีจากเธอเลยด้วยซ้ำ...!! ผมนึกย้อนไปถึงการกระทำของตัวเองที่ใช้ให้ลูกน้องไปคอยตามดูเธอ รวมทั้งไอ้แฟนสารเลวของเธอ แล้วก็...หึ..นังเพื่อนสุดเลวของเธอด้วย ผมมักจะได้รับรายงานถึงสิ่งที่เธอมักจะทำให้พวกมันอยู่เสมอ สิ่งที่ดี ๆ และความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมอบให้พวกมัน ทั้ง ๆ ที่พวกมันต่างทรยศหักหลังเธอ พวกมันไม่สมควรจะได้รับความรักและความใจดีแบบนั้นเลย... “แม่งเอ๊ย...!!” ผมที่สบถลั่นออกมาอย่างคนหัวเสีย ทำไมผู้ชายเลว ๆ แบบนั้นถึงได้ครอบครองหัวใจของเธอได้ว่ะ ทำไมกันวะ...ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้วะ...ทำไมไม่เป็นผมวะที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ และทำไมจังหวะชีวิตของเราถึงต้องไม่ตรงกันด้วยวะ.... ผมที่นั่งคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ก่อนจะปาแก้วเหล้าออกไปจนแตกกระจาย ประจวบกับที่ไอ้กิตที่เพิ่งเข้ามาก็ได้เห็นการก
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(1)ครืนนน ~~ เปรี้ยงงง..!! ซ่าาาา ~~เสียงฝนตกฟ้าที่กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา คล้ายกับว่าหยาดน้ำที่หลั่งรินลงมาจากฟากฟ้าสาดซัดลงมาเพื่อต้องการจะชำระล้างชีวิตของใครบางคนให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...ผมที่นั่งเหม่อลอยมองผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมา บรรยากาศที่ดูจะครื้นเครงสนุกสนานเฮฮา แต่ทว่า...กลับไร้ค่าสำหรับผมเหลือเกิน ผมที่แกว่งไกวแก้วบรั่นดีในมือเพื่อให้น้ำสีอำพันในนั้นโคลงเคลงไปมา ก่อนจะสาดซัดมันให้ลงไปในลำคอ แต่ทว่า...ความร้อนที่เกิดจากฤทธิ์ของน้ำสีอำพัน กลับสู้ความร้อนรนในใจของผมในตอนนี้ไม่ได้เลยเพราะเมื่อนึกไปถึงใบหน้าของหญิงสาวที่ผมเฝ้าตามหาและปรารถนามาตลอด รักแรกและรักเดียวของผม เธอที่ตอนนี้กำลังมีความสุขอยู่กับคนอื่น...ใช่...วันนี้เป็นวันครบรอบของการเป็นแฟนระหว่างเธอกับ...ไอ้ผู้ชายคนนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเธอ... ~~ผมที่รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ภาพที่ผมได้เห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น มันทำให้ผมปวดหนึบไปทั้งก้อนเนื้อที่อยู่ในอกข้างซ้าย ภาพที่เหมือนจะตอกย้ำว่าผมจะไม่มีวันได้ครอบครองหัวใจของเธออีกเลย...ย้อนไปก่อนหน้านั้นหลายปี ~~ผ
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(4)งานดำเนินไปพร้อมกับหัวใจของฉันที่ร้อนรุ่ม ฉันที่เฝ้ารอเพื่อให้ถึงเวลาที่จะได้เป่าเค้กเร็ว ๆ เพราะฉันรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า เขาได้ถูกคุณป้าเธียร่าแม่ของเขาบังคับให้ถือเค้กวันเกิดมาเพื่อเซอร์ไพรส์ฉัน (แม้ว่าจะมีเค้กเก้าชั้นอยู่ที่กลางงานแล้วก็ตาม) ฉันที่เหลือบตามองไปดูเขา ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความอึดอัดที่ถูกบังคับและแม้ว่าจะยังไม่บูดบึ้ง แต่ทว่ากลับเย็นชาจนฉันเองยังแอบหวั่นอยู่ในใจแต่ถึงกระนั้น...แม้ว่าฉันจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เต็มใจที่จะทำสิ่งนี้ให้กับฉันมากแค่ไหน แต่ทว่า...ส่วนลึกของหัวใจ ฉันกลับรู้สึกดีใจและสุขใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากฉันได้แสดงให้ทุกคนในงานได้เห็นแล้วว่าเขาคือคนของฉัน ฉันยังได้เห็นสายตาแห่งความริษยาที่ถูกส่งออกมาจากบรรดาผู้หญิงเกือบร้อยคนที่อยู่ในงานอีกด้วยจนกระทั่ง...เมื่อเวลาสำคัญมาถึง เค้กที่ถูกเขาคนนั้นเดินถือเดินเข้ามา พร้อมกับได้มายืนหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของฉัน มันทำให้วินาทีนั้นหัวใจของฉันพองโตและเต้นระรัวทันที♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday Happy birt
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(3)นับตั้งแต่วันนั้นเราทั้งสองตระกูลก็ยังคงไปมาหาสู่กันตลอด โดยทุกครั้งที่เขามาก็เพื่อที่จะมาเรียนรู้งานด้วยกันกับพ่อของเขา และการที่เขาต้องมาดูงาน บวกกับฉันเองที่ต้องเรียนรู้งานกับพ่อตัวเองด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้ฉันกับเขาได้มีโอกาสเจอกันบ่อยขึ้น สนทนากันด้วยภาษางานมากขึ้น และเมื่อพ่วงกับความพยายามของฉันที่มักจะตีมึนคอยเจื้อยแจ้วเจรจาชวนเขาคุยอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอดเวลาด้วยแล้ว มันจึงทำให้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นนั่นก็เพราะจากในช่วงแรกที่เขามักจะเดินหนีไปเสียทุกทีเวลาที่ฉันชวนคุย จนพักหลัง ๆ เขาเองก็เริ่มที่จะอยู่นิ่งแล้วฟังฉันคุยบ้างความสัมพันธ์ของเราสองคนดูจะพัฒนาขึ้น แม้ว่ามันจะดำเนินไปเหมือนหอยทากเป็นตะคริว แต่สำหรับฉันมันก็มากพอที่จะทำให้ฉันมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้งานไปพร้อม ๆ กันกับเขา ถึงแม้ว่าในใจลึก ๆ ของฉันยังอยากเรียกเขาว่าพี่เซฟ มากกว่าคุณเซบาสเธียก็ตาม...วันเวลาล่วงเลยไปพร้อมกับความใจแข็งที่เริ่มน้อยลงของเขา...จนกระทั่งวันหนึ่ง...มันเป็นวันที่ทำให้ฉันเห็นว่าสุดท้ายแล้วการกระทำด้วยความพยายามพากเพียรของฉันก็ได้ตอบสนองฉันแล้วเมื่อความสัมพ