ตอนที่ 242 ชาติหน้าแล้วกัน!!แต่แล้วความจริงที่ว่าเธอมีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว และเธอดูท่าจะรักมันมากอีกด้วย โดยที่มันคนนั้นยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของผมเสียอีก ความเป็นจริงเหล่านั้นมันกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกอิจฉาและยิ่งเกลียดมันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผมได้เห็นเธอมองมันด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก มันยิ่งทำให้ผมริษยาจนทนไม่ไหว จนต้องหอบหิ้วพาเธอให้มาอยู่ข้างกายด้วยกันตอนนี้ นั่นก็เพราะว่ามันเป็นสายตาที่ผมเองก็อยากจะให้เธอมองผมแบบนั้นเหมือนกัน...หลังจากที่ป้าแม่บ้านช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอจนเสร็จเรียบร้อย แกก็ได้มาเรียกจนผมหลุดออกจากภวังค์ความคิด จากนั้นผมก็ได้บอกให้ป้าแกเก็บสำรับอาหารกลับไป พร้อมกับบอกให้ทำอาหารอ่อน ๆ มาวางไว้แทน ก่อนที่ตัวผมเองจะลงไปนั่งด้านข้างของเธอแล้วมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยนลงผมจับไปที่ใบหน้าสวยหวานนั้นด้วยมือที่แผ่วเบา พร้อมกับนึกย้อนไปถึงตอนที่ผมเห็นเธอจากรูปที่พ่อของผมโยนมาให้ดูครั้งแรก และยังบอกให้ผมรีบจัดการเธอซะเพราะเธอเป็นผู้หญิงของไอ้เซบาสเธียซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของตระกูลเราผมที่จากตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไรและคิดว่าเป็นเรื่องง่ายที่ผมจะจัดการเธอ แต่ทว่า...
ตอนที่ 243 วันที่สายเกินไป...--- เอลิซ Talk ---หลังจากที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องเดิมอีกครั้ง ภาพความทรงจำสุดท้ายที่ฉายเข้ามาในโสตประสาทก่อนที่ฉันจะสลบล้มลงไป คือภาพที่ฉันกำลังอยู่กับคนชั่วอย่างเมฆินทร์ และความทรงจำนั้นก็ทำให้ฉันรีบเด้งตัวขึ้นมานั่งด้วยความรวดเร็วจากนั้นฉันก็รีบสำรวจตัวเองอีกครั้ง เพราะกลัวว่าอาจจะโดนเขาทำมิดีมิร้าย อีกทั้งฉันก็พบว่าเนื้อตัวและเสื้อผ้าของฉันถูกทำความสะอาดและเปลี่ยนใหม่ และนั่นก็ทำให้ฉันถึงกับตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ พร้อมกับรีบสำรวจตรงส่วนนั้นของตัวเองทันที“ตรงนั้นไม่เจ็บ...” ฉันพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อดูคราบต่าง ๆ ที่อาจจะหลงเหลืออยู่บนที่นอนและหลังจากที่ฉันตรวจดูเบื้องต้น แล้วไม่พบถึงสิ่งผิดปกติอะไรต่อร่างกาย อีกทั้งเมื่อสังเกตพื้นที่บริเวณโดยรอบก็ดูจะไม่ผิดปกติอะไร ความรู้สึกเบาใจก็ได้เกิดขึ้นทันที พร้อมกับร่างทั้งร่างที่ทิ้งตัวลงนั่งบนที่นอนด้วยความโล่งใจฟู่วววว ~~ฉันถอนหายใจออกมายาว ๆ และเมื่อความสบายใจบังเกิดขึ้น เจ้าสองแสบในท้องของฉันก็ประท้วงขออาหารทันทีโครก ~~ คราก ~~“แม่รู้แล้วจ้ะ...แม่รู้แล้วว่าพวกลูก ๆ หิว เดี๋ยวแม่หาอะไรให
ตอนที่ 244 คำสั่งเสีย!!ฉันปล่อยโฮออกมา ด้วยความรู้สึกเสียใจกับความรีรอและความไม่มั่นใจของตัวเองที่มีต่อเขาคนที่ฉันรัก ทั้งที่ฉันรู้ว่าในทุกครั้งที่เขาบอกรักฉัน เขาเองก็อยากจะได้ยินคำว่ารักจากฉันเช่นกัน แต่เพราะคนโง่อย่างฉันที่มัวแต่คิดว่าตัวเองยังไม่แน่ใจ ตัวเองยังไม่มั่นใจ และยังไม่พร้อมที่จะยอมรับความรักจากเขา นั่นก็เพราะความกลัว กลัวที่จะเจ็บเหมือนในอดีตที่ฉันเคยเจอมา จนฉันเองก็เผลอลืมไปเลยว่าเขากับอดีตคนนั้นของฉัน มันคนละคนกัน และฉันก็ไม่ควรที่จะเอาความเจ็บในอดีตครั้งนั้นมาตัดสินหัวใจที่รักจริงเขา จนสุดท้ายก็ทำให้ตัวเองต้องมานั่งเสียใจเอาตอนนี้และเมื่อยิ่งคิดว่าตัวเองอาจจะไม่มีโอกาสได้บอกรักเขาอีกแล้ว ความรู้สึกนั้นมันก็ยิ่งทำให้น้ำตาแห่งความเสียใจและเสียดายต่างพรั่งพรูออกมายังกับเขื่อนแตก“ฮืออออ ~~ ฮึก...ฮึก ฮืออออ ~~ เอลิซรักเฮีย ฮึก เอลิซรักเซบาสเธีย ฮืออออ เฮียได้ยินไหมว่าเอลิซรักเฮีย...ฮืออออ ~~” ฉันกดหน้าตัวเองลงไปกับหมอนสีขาว เพราะว่าไม่อยากให้เสียงร้องไห้เล็ดลอดออกไปให้คนที่เฝ้าอยู่ข้างนอกได้ยิน พร้อมกับเอามือข้างที่มีแหวนขึ้นมากำไว้ที่หน้าอกแน่น ก่อนจะพูดความรู้สึกที่อ
ตอนที่ 245 เป็นเมียฉันเถอะฉันที่กำมันส้อมเอาไว้แน่นเพื่อเตรียมพร้อมถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้นมาจริง ๆ“นี่...ฉันบอกว่าอย่าเข้ามาไง...ออกไปซะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ” ฉันทำใจดีสู้เสือร้ายอีกครั้งตะโกนเอ่ยห้ามเขาไปอีกหน พร้อมกับตั้งสติเตรียมตัวถ้าหากว่าเขาเข้ามาประชิดตัว“หึ...คนอย่างเธอจะทำอะไรฉันได้...เอลิซ” เขาแค่นยิ้มร้าย เอ่ยคำดูถูกฉัน โดยที่ยังไม่หยุดเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ฉัน“กับนายฉันคงทำไม่ได้แต่กับตัวเอง...ไม่แน่!!” ฉันมองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าวและหนักแน่นแสดงให้เห็นถึงว่าฉันเอาจริง พร้อมกับยกส้อมที่อยู่ในมือออกมาจี้เข้าไปที่ลำคอขาวระหงของตัวเอง“ออกไป...ซะ...ฉันไม่พูดเล่นหรอกนะ...” ฉันพูดพร้อมกับกดปลายส้อมลงไปที่คอ จนเนื้อบุ๋มลงไปทันทีที่เขาเห็นการกระทำของฉัน เมฆินทร์ก็ถึงกับหน้าเสีย“เห้ย...!! ใจเย็นก่อนดิวะ เอาส้อมออกจากคอก่อน” เมฆินทร์ร้องเอ่ยห้ามด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าฉันจะมีอาวุธอยู่ในมือ และไม่คาดคิดว่าฉันจะเลือกลงมือกับตัวเองแต่ไม่ใช่เขา“ออกไป...!!” ฉันจ้องเขาเขม็งดวงตาสั่นไหว อีกทั้งยังคงแสดงเจตจำนงของตัวเองด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นโดยการเอ่ยปากไล่เขา
ตอนที่ 246 รับเป็นพ่อของลูกในขณะที่ฉันยังพูดไม่จบ เขาก็ได้สวนคำพูดมาทันควัน...“กำลัง...ท้อง...” เขาตอบกลับมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด“นายรู้...!!” O_O ฉันตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน“ใช่...ฉันรู้...” เขาตอบน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับก้มหน้าหลบตาลงเล็กน้อย ส่วนฉันก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ว่าเขารู้ได้ยังไง“นายรู้ แต่นายก็ยังคิดที่จะเอาคนท้องไปเป็นเมียเนี้ยนะ...แล้วยิ่งเด็กในท้องนี้เป็นถึงเลือดเนื้อเชื้อไขของศัตรูนายด้วยอ่ะน่ะ” ฉันถามออกไปด้วยความรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจความคิดเขาอย่างมาก“เอ๊ะ...!! หรือว่านาย...” ฉันที่จู่ ๆ คิดถึงบางสิ่งออกมาได้ และความคิดนั้นก็ยิ่งทำให้ฉันกำส้อมเอาไว้แน่นและประจำการมันเอาไว้ที่คอเช่นเดิม“ฉันยอมรับว่าฉันเคยคิดจะกำจัดพวกเขา...แต่ว่า...ถ้าเธออยากจะเก็บพวกเขาไว้แล้วละก็...ฉันโอเค” เขาเอ่ยเสียงอ่อย“อะไรนะ!!...นายยอมที่จะเก็บลูกของศัตรูเอาไว้...เพียงเพราะต้องการจะอยู่กับฉันแค่เนี้ยนะ” ฉันที่ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจในความคิดของเขาเขาพยักหน้าก่อนจะพูดตอบฉันกลับ“ใช่ฉันจะยอมรับเด็กในท้องของเธอเป็นลูก เขาจะเป็นลูกของเรา”“ทำไม...?” ฉันถามเขาเสียงเบาด้วยความไม่เข้าใจ ที่คิดไม่ว่ามุมไ
ตอนที่ 247 แล้วมันจะได้รู้ซึ้ง...ฉันมองเขาด้วยสายตาที่หม่นลงเล็กน้อย ก่อนที่จะปรับเป็นพูดกับเขาดี ๆ“ถ้าเข้าใจแล้วนายก็ออกไปเถอะ...ฉันอยากจะพักผ่อน” ฉันเอ่ยปากเชิญกึ่งไล่เขาให้ออกไป“ขอนอนด้วยไม่ได้หรอ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเธอ” เขาเอ่ยน้ำเสียงออดอ้อนในแบบที่ฉันไม่คิดว่าคนร้ายกาจอย่างเมฆินทร์จะแสดงออกมา“ไม่...!!” ฉันปฏิเสธไปทันควันเขาฉายสีหน้าบูดบึ้งไม่พอใจขึ้นในทันที ก่อนจะเอ่ยขอร้องฉันอีกครั้ง“โธ่...ก็แค่นอนเฉย ๆ นอนเฉย ๆ จริง ๆ สาบาน” เขาทำท่าชูสามนิ้วประกอบคำพูด“ไม่ก็คือไม่ หรือว่านายอยากจะนอนกับศพล่ะ” ฉันเอ่ยขู่ พร้อมกับยกส้อมที่อยู่ในมือทำท่าขึ้นมาจ่อไปที่คอตัวเองอีกครั้ง“ไม่ๆๆ โอเคๆ ฉันยอมแล้ว” เมฆินทร์ที่เห็นภาพตรงหน้าก็มีสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาทันที พร้อมกับรีบเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนนุ่ม แล้วค่อย ๆ เดินถอยหลังไปที่ประตู จากนั้นเขาก็เปิดประตูแล้วออกไปจากห้องและเมื่อร่างสูงของเขาลับตาออกไป ก็เป็นนาทีที่ฉันรู้สึกโล่งสบายใจฉันรีบเดินตามเขาไปเพื่อล็อกประตูทันที ก่อนจะหาเก้าอี้มาค้ำไว้อีกชั้น และเมื่อเครื่องป้องกันที่ฉันทำถูกจัดวางไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เดินกลับมาล้มตัวล
ตอนที่ 248 ลูกที่พ่อไม่เอา!!“นายครับนาย มีสายรายงานมาว่าเจอคนของไอ้เมฆินทร์มาซื้อของครับ”กิตวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามารายงาน และนั่นก็ทำให้ผมรีบผละจากอ้อมกอดของแม่ตัวเอง แล้วหันไปหาลูกน้องคนสนิททันที“ว่ายังไงได้ตัวมันมาไหม...” ผมรีบผละตัวออกจากแม่ แล้วรีบเดินไปหากิต เพื่อที่จะฟังข่าวดี“เอ่อ...” กิตอ้ำอึ้ง“เอ่ออะไรวะ พูดมาเร็ว ๆ เข้า” ผมเร่งเร้ากิตและสิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นข่าวดีในวันนี้ ก็เหมือนกับจะล่องลอยหายวับไปกับตา หลังจากประโยคถัดมาของลูกน้องคนสนิท“เอ่อ เราตามไปแล้วครับนาย แต่ด้วยพื้นที่ที่เราไม่คุ้นเคยทำให้ลูกน้องที่ตามไปคลาดกับลูกน้องไอ้เมฆินทร์มันนิดเดียว จากนั้นลูกน้องมันก็หายไปเลยครับ” กิตก้มหน้ารายงานถึงเรื่องราวทั้งหมดด้วยใจหวาดหวั่น“แม่งเอ๊ย!!...คลาดกันได้ไงว่ะ แล้วจีพีเอส เครื่องติดตามล่ะ ห่าเหวพวกนี้ไม่มีเลยหรือไงว่ะ” ผมหัวเสียทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ลูกน้องรายงาน“เหมือนสัญญาณจะขาดหายไปครับนาย ทำให้พวกผมตามไม่ได้ครับ...เอ่อ...ผมขอโทษครับ” กิตก้มหน้าคุกเข่าเพื่อยอมรับการลงทัณฑ์อย่างไม่ลังเลผมที่แม้จะโกรธ แต่ก็รู้ดีว่าตลอดหลายวันมานี้ กิตมันไม่เคยย่อท้อและหยุดในการตา
ตอนที่ 249 ความช่วยเหลือจาก‘ศัตรู’“เดี๋ยวก่อน...”เสียงตะโกนดังออกมาจากโทรศัพท์จนรูหูของผมถึงกับสั่นสะเทือน“อะไรของมึงเนี้ย แหกปากมาได้” ผมด่าไอ้มาคินทร์ไปที“กูมีความคิดดี ๆ ถ้าการที่ไอ้เมฆินทร์มันลงมือทำแบบนี้ได้แล้วล่ะก็ มันต้องได้รับการสนับสนุนจาก...พ่...อ เอ่อ จากท่านผู้นำของกูแน่ ๆ” มาคินทร์เอ่ยบอกในสิ่งที่ตัวเองคิด“กูรู้แล้ว...แล้ว” ผมพูดแทรกทันที เพราะไม่เข้าใจว่ามันจะสาธยายให้ฟังทำไม“เออ...ก็ที่กูกำลังจะบอกเนี้ยไง ก็คือ...กูมีความคิดเห็นว่าเราควรไปจัดการคนตระกูลวงศ์เวชรุ่งเรืองก่อนดีไหม เพื่อเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงไม่ให้ทางนั้นส่งคนไปช่วยไอ้เมฆินทร์มันได้ และอีกอย่างกูมีเรื่องอยากให้มึงช่วย...” มาคินทร์เอ่ยบอกแผนในใจของเขา แถมยังเอ่ยขอร้องคนที่เขาไม่เคยคิดจะเป็นมิตรด้วยเลย“หึ...ว่ามา...แต่ถ้ามึงตุกติกโดยการคิดจะล่อกูไปฆ่าแล้วล่ะก็ กูบอกได้คำเดียวว่านั่นจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่มึงได้ทำบนโลกใบนี้” ผมแค่นเสียงเย็นใส่ โดยที่ผมไม่ใช่แค่พูดขู่“รับรองได้ว่าคนอย่างกูไม่คิดที่จะหักหลังใคร ถ้าคน ๆ นั้นไม่ทำกูก่อน...” น้ำเสียงของมาคินทร์มันก็ดูหนักแน่นและไม่ได้พูดเล่นเช่นกันเมื่อผมได้
ตอนพิเศษ : บทสรุปคนทรยศณ Penthouse เซบาสเธีย“จัดการสั่งสอนพวกมันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม...เออดี...พวกมันจะต้องจำไปจนตาย...”เสียงแข็งกร้าวกรอกเสียงไปตามสาย ก่อนที่ปากหยักสวยจะเหยียดยิ้มร้ายด้วยความสะใจผมที่ตื่นนอนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น จากลูกน้องที่โทรมารายงานถึงเรื่องราวที่ผมได้ให้มันไปสืบ ผมที่สั่งลูกน้องคนสนิทไปดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่อยู่ในร้าน เนื่องด้วยว่าผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จนถึงกับทำให้เธอคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนของผม ต้องเสียใจจนถึงขนาดเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อประชดชีวิตเขาที่แม้จะเดาได้ตั้งแต่แรก แต่พอได้ยินเองกับหู ก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าทันที ทั้งที่เธอแสนดีกับพวกมันขนาดนั้น แต่กลับถูกพวกมันทรยศหักหลัง จนหัวใจแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี และเธอที่ตัดสินใจประชดชีวิตไปแบบนั้น ถ้าเมื่อคืนไม่ใช่ผมที่ดูแลเธอ ชีวิตเธอตอนนี้จะเป็นยังไงหลังจากที่ผมได้ฟังในสิ่งที่ลูกน้องรายงาน รวมทั้งเรื่องที่ผมสั่งให้ไปกระทืบพวกมัน พอลูกน้องคนสนิทของรายงานจบผมก็ตัดสายทันทีและพลางนึกสะใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมอบความต้องการให้แก่เธอ ผมคงไปกระทืบมันด้วยตัวของผมเองแล
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(3)--- เอลิซ Talk ---ฉันที่ถึงกับร้องไห้โฮหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่คุณเซฟได้ไปสืบเรื่องการหายตัวไปของพ่อกับแม่ของฉัน เขาที่ตามเบาะแสทุกอย่าง เพราะอยากจะให้พวกท่านได้มาร่วมงานในวันแต่งงานของเราทั้งสองคน แต่ใครจะไปคิดว่ากลับไม่มีพวกท่านอยู่บนโลกนี้อีกแล้วคุณเซฟยังเล่าให้ฟังต่อว่า พวกท่านทั้งสองได้ถูกทำพิธีทางศาสนาไปทั้งนานแล้วโดยองค์กรนั้น และจัดการกับเถ้ากระดูกไปจนหมดสิ้นเนื่องจากไม่คิดว่าทั้งสองท่านยังมีญาติหลงเหลืออยู่ และนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจที่แม้แต่เถ้ากระดูกของพ่อกับแม่ตัวเอง ฉันยังไม่อาจจะสัมผัสได้ฉันร่ำไห้สะอื้นจนตัวโยนแม้จะตั้งท้องจนใกล้คลอด ฉันก็ยังอยากจะมีแม่ไว้คอยให้คำปรึกษาในเวลาที่ต้องเลี้ยงลูก ก่อนที่จะเฝ้าโทษตัวเองอยู่นาน ถ้าช่วงนั้นฉันเอะใจสักนิด และไม่ปล่อยให้ความเคยชินยามไม่มีพวกท่านมาทำให้ฉันไม่สนใจอะไร วันนี้เราพ่อแม่ลูกคงไม่ต้องมาพรากจากกันอย่างถาวรและนอกจากเรื่องราวของพ่อแม่ของฉันที่ฉันเพิ่งได้รับรู้ ก็ยังมีเรื่องราวที่น่าเซอร์ไพรส์มากกว่านั้น นั่นก็คือ...เพื่อนสนิทของคุณพ่อของฉันที่คอยช่วยเหลือท่านมาโดยตลอด เขาคนนั้นก
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(2)หลายปีต่อมา ~~จนกระทั่งเมื่อข่าวการป่วยหนักของผู้เป็นบิดาดังเป็นข่าวใหญ่ เขาที่แม้จะเสียใจกับสิ่งที่พ่อทำกับตนมากแค่ไหน แต่ด้วยความเป็นลูกและความรัก ความผูกพันที่ยังมีอยู่ จึงทำให้วันนี้เขาได้ตัดสินใจที่จะกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตัวเขาเองได้จากไปนานนับปีหลังจากที่เขากลับมายังประเทศบ้านเกิดและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาก็ได้รวบรวมความกล้ากลับมายังคฤหาสน์หลังงามที่คุ้นตา แต่ทว่า...วันนี้เขาไม่ได้มาแค่กับไอรินภรรยาที่เขารัก แต่ว่า...เขายังพาโซ่ทองคล้องใจมาด้วย...เอลิซ...ลูกสาวตัวน้อยหน้าตาน่ารักที่เขาหวังพามากราบชายผู้เป็นปู่ของเธอแต่ทว่า...ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสำหรับคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเขา ทั้งที่เขาจะสลัดทิฐิทิ้งไปแล้วพาตัวเองมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่คุ้นเคยได้แล้ว แต่ทว่า...ขาของเขามันกลับไม่ยอมก้าวเข้าไปเสียทีเขาที่ยืนลังเลอยู่หน้าบ้านสักพักใหญ่ ๆ ทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปดูใจผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยทิฐิที่กลับเข้ามาอยู่ในใจ บวกกับความลำบากตากตำที่ต้องพบเจอมาอยู่หลายปี สุดท้ายแล้ว...ทิฐิก็เป็นฝ่ายชนะ..
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(1)ณ คฤหาสน์ตระกูลฤธาทรัพย์ดำรง“ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านแค่ก้าวเดียว แกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย”เสียงดังประกาศกร้าวจากเจ้าปากของร่างชายสูงวัย พูดกับลูกชายคนเล็กด้วยตัวที่สั่นเทาด้วยความโกรธ“ป๊า...!!” ชายหนุ่มที่ประคองร่างอันสั่นเทาของผู้หญิงที่ตัวเองรักอยู่ในอ้อมแขน หันมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย“เฮียใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ” ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขา กลับเอื้อมมือขึ้นไปแตะที่มือเขาเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยพูดเมื่อเห็นเขาอารมณ์เริ่มปะทุ ด้วยไม่อยากให้ตนเองเป็นชนวนให้พ่อกับลูกต้องผิดใจกัน“ฉันเลือกผู้หญิงดี ๆ เพียบพร้อมเอาไว้แก แกดันไม่เอา แต่ดันไปเลือกผู้หญิงไม่มีหน้าตาในสังคม ผู้หญิงแบบนี้มันจะไปช่วยให้แกเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ยังไง...ห๊ะ...!!” ชายสูงวัยระเบิดอารมณ์ต่อ พร้อมกับค่อนแคะผู้หญิงของลูกชายเขา โดยที่เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับ“ป๊าครับ กรุณาให้เกียรติเมียของผมด้วย” ลูกชายพูดกดเสียงด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากพ่อของต้นดูดถูกผู้หญิงที่ตนรัก“ป๊าก็ใจเย็น ๆ ก่อนเถอะครับ แกก็ด้วยไอ้ชิน...” เสียงของผู้ที่เป็นทั้งลูกชายคนโตและยังเป็นพี่ชายเพียงคนเด
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(3)ผมตัดสินใจเดินลงมาหาเธอ ก่อนที่จะสูดหายใจลึก ๆ แล้วเอ่ยทักทายเธอออกไป..."คุณครับคุณ คุณครับ คุณครับ" ผมเรียกอยู่นานกว่าเธอจะตอบ"ค่ะ ว่าไงคะ" เธอหันมาหาพร้อมตอบรับ ถ้าผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เหมือนเธอจะตะลึงในความหล่อของผมอยู่เหมือนกัน"คุณ..ว่าไงครับ ผมรอคำตอบอยู่" โอ๊ยคนอะไรยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งน่ารักเป็นบ้า ขนาดใส่เสื้อผ้ายังน่ารักขนาดนี้ ถ้าหาก...(ไอ้เสือ...!! ใจเย็นดิว่ะ...หึหึ)"อะ...อะไรนะคะ" เหมือนเธอจะเริ่มเมาแล้ว แต่นั่นก็กลับยิ่งทำให้เธอน่ารักมากขึ้นไปอีก"ผมถามว่าผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ ผมมาคนเดียวเลยไม่อยากไปนั่งโต๊ะใหญ่ครับ" ผมถามโดยที่สายตามจับจ้องไปทั่วร่างของเธอ"ดะ..ได้ค่ะ" เธอตอบตะกุกตะกัก และนั่นมันก็ทำให้ผมดีใจมากที่เธอไม่ปฏิเสธผมเหมือนคนอื่น(นี่มันคือพรหมลิขิตใช่ไหม...ฟ้าเป็นใจใช่หรือเปล่า ~~)"คุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถามเธอออกไป ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก"คุณครับ ชื่ออะไรครับ" ผมสะกิดเธออีกครั้ง เพราะดูเธอจะเหม่อลอยไม่ทันได้ฟังที่ผมถาม"ห๊ะ...ว่ายังไงนะคะ"สายตาเย้ายวนเหลือเกิน ทนไว้ไอ้เซฟทนไว้" ผมถามว่าคุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถาม
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(2)อีกทั้งวันนี้เธอกำลังฉลองวันครบรอบของเธอกับแฟนของเธออยู่ด้วย...หึ...ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขยามที่เธอเตรียมขอขวัญไปเซอร์ไพรส์ให้มันนั้น ยามที่มันได้รับหน้ามันจะบานเป็นกระด้งขนาดไหน ทั้งที่พวกมันไม่สมควรจะได้รับความปรารถนาดีจากเธอเลยด้วยซ้ำ...!! ผมนึกย้อนไปถึงการกระทำของตัวเองที่ใช้ให้ลูกน้องไปคอยตามดูเธอ รวมทั้งไอ้แฟนสารเลวของเธอ แล้วก็...หึ..นังเพื่อนสุดเลวของเธอด้วย ผมมักจะได้รับรายงานถึงสิ่งที่เธอมักจะทำให้พวกมันอยู่เสมอ สิ่งที่ดี ๆ และความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมอบให้พวกมัน ทั้ง ๆ ที่พวกมันต่างทรยศหักหลังเธอ พวกมันไม่สมควรจะได้รับความรักและความใจดีแบบนั้นเลย... “แม่งเอ๊ย...!!” ผมที่สบถลั่นออกมาอย่างคนหัวเสีย ทำไมผู้ชายเลว ๆ แบบนั้นถึงได้ครอบครองหัวใจของเธอได้ว่ะ ทำไมกันวะ...ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้วะ...ทำไมไม่เป็นผมวะที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ และทำไมจังหวะชีวิตของเราถึงต้องไม่ตรงกันด้วยวะ.... ผมที่นั่งคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ก่อนจะปาแก้วเหล้าออกไปจนแตกกระจาย ประจวบกับที่ไอ้กิตที่เพิ่งเข้ามาก็ได้เห็นการก
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(1)ครืนนน ~~ เปรี้ยงงง..!! ซ่าาาา ~~เสียงฝนตกฟ้าที่กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา คล้ายกับว่าหยาดน้ำที่หลั่งรินลงมาจากฟากฟ้าสาดซัดลงมาเพื่อต้องการจะชำระล้างชีวิตของใครบางคนให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...ผมที่นั่งเหม่อลอยมองผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมา บรรยากาศที่ดูจะครื้นเครงสนุกสนานเฮฮา แต่ทว่า...กลับไร้ค่าสำหรับผมเหลือเกิน ผมที่แกว่งไกวแก้วบรั่นดีในมือเพื่อให้น้ำสีอำพันในนั้นโคลงเคลงไปมา ก่อนจะสาดซัดมันให้ลงไปในลำคอ แต่ทว่า...ความร้อนที่เกิดจากฤทธิ์ของน้ำสีอำพัน กลับสู้ความร้อนรนในใจของผมในตอนนี้ไม่ได้เลยเพราะเมื่อนึกไปถึงใบหน้าของหญิงสาวที่ผมเฝ้าตามหาและปรารถนามาตลอด รักแรกและรักเดียวของผม เธอที่ตอนนี้กำลังมีความสุขอยู่กับคนอื่น...ใช่...วันนี้เป็นวันครบรอบของการเป็นแฟนระหว่างเธอกับ...ไอ้ผู้ชายคนนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเธอ... ~~ผมที่รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ภาพที่ผมได้เห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น มันทำให้ผมปวดหนึบไปทั้งก้อนเนื้อที่อยู่ในอกข้างซ้าย ภาพที่เหมือนจะตอกย้ำว่าผมจะไม่มีวันได้ครอบครองหัวใจของเธออีกเลย...ย้อนไปก่อนหน้านั้นหลายปี ~~ผ
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(4)งานดำเนินไปพร้อมกับหัวใจของฉันที่ร้อนรุ่ม ฉันที่เฝ้ารอเพื่อให้ถึงเวลาที่จะได้เป่าเค้กเร็ว ๆ เพราะฉันรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า เขาได้ถูกคุณป้าเธียร่าแม่ของเขาบังคับให้ถือเค้กวันเกิดมาเพื่อเซอร์ไพรส์ฉัน (แม้ว่าจะมีเค้กเก้าชั้นอยู่ที่กลางงานแล้วก็ตาม) ฉันที่เหลือบตามองไปดูเขา ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความอึดอัดที่ถูกบังคับและแม้ว่าจะยังไม่บูดบึ้ง แต่ทว่ากลับเย็นชาจนฉันเองยังแอบหวั่นอยู่ในใจแต่ถึงกระนั้น...แม้ว่าฉันจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เต็มใจที่จะทำสิ่งนี้ให้กับฉันมากแค่ไหน แต่ทว่า...ส่วนลึกของหัวใจ ฉันกลับรู้สึกดีใจและสุขใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากฉันได้แสดงให้ทุกคนในงานได้เห็นแล้วว่าเขาคือคนของฉัน ฉันยังได้เห็นสายตาแห่งความริษยาที่ถูกส่งออกมาจากบรรดาผู้หญิงเกือบร้อยคนที่อยู่ในงานอีกด้วยจนกระทั่ง...เมื่อเวลาสำคัญมาถึง เค้กที่ถูกเขาคนนั้นเดินถือเดินเข้ามา พร้อมกับได้มายืนหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของฉัน มันทำให้วินาทีนั้นหัวใจของฉันพองโตและเต้นระรัวทันที♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday Happy birt
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(3)นับตั้งแต่วันนั้นเราทั้งสองตระกูลก็ยังคงไปมาหาสู่กันตลอด โดยทุกครั้งที่เขามาก็เพื่อที่จะมาเรียนรู้งานด้วยกันกับพ่อของเขา และการที่เขาต้องมาดูงาน บวกกับฉันเองที่ต้องเรียนรู้งานกับพ่อตัวเองด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้ฉันกับเขาได้มีโอกาสเจอกันบ่อยขึ้น สนทนากันด้วยภาษางานมากขึ้น และเมื่อพ่วงกับความพยายามของฉันที่มักจะตีมึนคอยเจื้อยแจ้วเจรจาชวนเขาคุยอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอดเวลาด้วยแล้ว มันจึงทำให้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นนั่นก็เพราะจากในช่วงแรกที่เขามักจะเดินหนีไปเสียทุกทีเวลาที่ฉันชวนคุย จนพักหลัง ๆ เขาเองก็เริ่มที่จะอยู่นิ่งแล้วฟังฉันคุยบ้างความสัมพันธ์ของเราสองคนดูจะพัฒนาขึ้น แม้ว่ามันจะดำเนินไปเหมือนหอยทากเป็นตะคริว แต่สำหรับฉันมันก็มากพอที่จะทำให้ฉันมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้งานไปพร้อม ๆ กันกับเขา ถึงแม้ว่าในใจลึก ๆ ของฉันยังอยากเรียกเขาว่าพี่เซฟ มากกว่าคุณเซบาสเธียก็ตาม...วันเวลาล่วงเลยไปพร้อมกับความใจแข็งที่เริ่มน้อยลงของเขา...จนกระทั่งวันหนึ่ง...มันเป็นวันที่ทำให้ฉันเห็นว่าสุดท้ายแล้วการกระทำด้วยความพยายามพากเพียรของฉันก็ได้ตอบสนองฉันแล้วเมื่อความสัมพ