หมิงซีชี้คนรับใช้ที่อยู่บนพื้นแล้วพูดว่า “เพราะเธอเตะขาของฉัน ขาฉันจึงงอ...”หมิงซีไม่ทันพูดจบ มีคนหันใบหน้าของเธอฟู่ซือเยี่ยนหรี่ตาลง บนใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามของหญิงสาว หน้าผากของเธอมีรอยฟกช้ำและรอยนิ้วมือของเธอเป็นสีแดงพราวฟู่ซือเยี่ยนเห็นรอยเหล่านี้ เขาโกรธ พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ใครทำ"หมิงซีไม่ทันได้ตั้งตัวกับคำถามนี้ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอรู้สึกฟู่ซือเยี่ยนกำลังเป็นห่วงเธอเธอรู้สึกเธอเป็นโรคโลหิตจางอีกครั้ง เธอเข้าใจผิดอีกครั้งหมิงซีไม่ได้คิดอะไร เธอยื่นมือออก และชี้ซ่งซินฟู่ซือเยี่ยนเหลือบมองซ่งวินอย่างเย็นชา ซ่งซินตัวสั่นโดยไม่รู้ตัวเธอรีบแก้ตัว"พี่ซือเยี่ยน เธอเป็นคนแรกที่ไม่เคารพผู้ใหญ่ และไร้ยางอาย หนูแค่ช่วยพี่สั่งสอนเธอ"หลังจากซ่งซินพูดจบ เธอชิดใกล้คุณย่าของเธอมากขึ้นโดยเธอไม่รู้ตัว“เหรอ?” ฟู่ซือเยี่ยนพูดอย่างไร้อารมณ์ เขาจ้องซ่งซิน ไม่มีใครรู้ตอนนี้ฟู่ซือเยี่ยนอยากทำอะไรต่อ "ผมต้องขอบคุณหนูเรื่องที่ช่วยพี่สั่งสนพี่สะใภ้ของหนูเหรอ?"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ความเครียดของซ่งซินผ่อนคลายลง และเธอมั่นใจว่า พี่ซือเยี่ยนจะไม่มีวันเอาเรื่องกับเธอเพราะผู้หญิงนั้น
ถ้วยชาแตกที่เท้าของฟู่ซือเยี่ยน และมีน้ำกระเด็นออกเขาหรี่ตาและเห็นสร้อยข้อมือไม้จันทน์สีแดงใบเล็กๆ อยู่บนพื้น จากนั้นเขามองแผลฟกช้ำบนหน้าผากของหมิงซีใช่เลยเขาโกรธจัด และสั่งบอดี้การ์ดว่า "ไปแจ้งตาทวดและคุณตาว่า คุณหญิงชราเป็นโรคสมองเสื่อมและจำคนไม่ได้ วันนี้ต้องส่งเธอไปบ้านพักคนชรา"“คุณกล้าดียังไง!” คุณหญิงชราเหวินตะโกนเธออายุน้อยกว่าพ่อของเหวินฉี่แปดปี และตอนนี้มีอายุเพียง 60 ต้น ๆ เท่านั้น กำลังเป็นเวลาที่เธอกำลังใช้ชีวิตสบาย ๆ แต่สัตว์ร้ายตัวน้อยตัวนี้กล้าขังเธอไว้เขาเป็นคนที่ไม่ได้ใช้นามสกุลเหวิน มีสิทธิ์อะไรมาสั่งการ?เธอพูดอย่างเคร่งเครียด "ฉันแค่สั่งสอนภรรยาของคุณ เธอเสียมารยาท เธอทำแจกันแตกและไม่เคารพผู้ใหญ่ ฉันสั่งสอนเธอไม่ได้หรือไง"ฟู่ซือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ“คุณหญิง หมิงซีทำอะไร ผมอนุญาตหมด วันนี้ต่อให้เธอทุบห้องของคุณพังหมด ผมก็ปล่อยเธอทำไป!”ทันทีที่เขาพูดคำพูดเหล่านี้ออก หญิงชราและซ่งซินต่างก็เปลี่ยนสีหน้าสำหรับฟู่ซือเยี่ยน ผู้หญิงคนนี้สำคัญขนาดนี้เลย??เป็นไปได้ยังไง?ซ่งซินเป็นคนแรกที่ไม่เชื่อเพราะเธอได้เห็นความโปรดปรานของฟู่ซือเยี่ยนที่มีต่อหลินเสว
ชายคนนั้นอุ้มเธอขึ้นรถ แล้วสั่งคนขับรถด้วยเสียงเย็นชา "ไปโรงพยาบาล"เมื่อพวกเขามาถึงโรงพยาบาล หมิงซียังมึน ๆ อยู่ทุกอย่างในเมื่อกี้เกิดขึ้นเร็วเกินและวุ่นวายเกิน เหมือนในฝันเมื่อพวกเขาลงจากรถ ฟู่ซือเยี่ยนอุ้มเธอ เธอยังไม่รู้ตัวฟู่ซือเยี่ยนหลับตาลง เขาขมวดคิ้ว รู้สึกกังวลเล็กน้อยเขาเดินไปที่ประตูแผนกและสั่งว่า: "ให้กู้เหยียนโจวมาเดี๋ยวนี้!"หมิงซีจึงรู้สึกตัว เธอดิ้นรน พูดว่า "ฉันจะเดินเอง"ฟู่ซือเยี่ยนปฏิเสธและอุ้มเธอไปที่เตียงของห้อง VIP และห่มผ้าให้เธอ“อย่าขดิ้น เหยียนโจวกำลังรีบมาตรวจร่างกายให้คุณ”น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากตอนที่เขาอยู่ที่บ้านของตระกูลเหวินเมื่อกี้นี้หมิงซีเกือบจะกระโดดขึ้น เธอก็ปฏิเสธอย่างหนัก: "ไม่ต้อง ไม่ต้อง ฉันไม่ได้เป็นอะไร!"ถ้าให้กู่เหยียนโจวมาตรวจสอบเธอจริงๆ เธอคงปิดบังความลับไม่ได้แล้วขณะที่เธอพูด เธอก็ดึงผ้าห่มออก ลุกจากเตียง แต่ชายคนนั้นกดเธอลงบนเตียง“ถ้าคุณไม่ตรวจสร่างกาย เธอห้ามไปไหน” เขาพูดอย่างเผด็จการ“ฉันสบายดี ไม่ต้องตรวจจริง ๆ ”หมิงซีพูดและส่ายแขน เธอพยายามพิสูจน์ว่า ตอนนี้เขาสบายดี แต่ทันทีที่เธอยื่นมื
ปัง--!มีเสียงดังทื่อ ๆ ดังอยู่ข้างหลังหมิงซีหมิงซีหันกลับมาอย่างลังเลร่างกายที่ทั้งสูงและใหญ่ของชายคนนั้นนอนราบกับพื้น ไม่ขยับตัวสักนิดหมิงซีตกใจและลังเลเธอมองมือของเธอ มือเธอแรงขนาดนี้ได้ยังไงเวลานี้ควรหนีทันทีแต่ท้ายที่สุด อารมณ์ก็เอาชนะเหตุผลได้ หมิงซีรีบเดินไปข้างผู้ชายคนนั้นใบหน้าหล่อเหลานั้นตอนนี้ขาวซีดเผือด และมีเม็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขาเธอผลักเขาเบา ๆ " ฟู่ซือเยี่ยน... ฟู่ซือเยี่ยน... "ฟู่ซือเยี่ยนไม่มีปฏิกิริยาใด ๆทีนี้หมิงซีกลัวจริง ๆ น้ำตาไหลทันที เธอเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของฟู่ซือเยี่ยน " ฟู่ซือเยี่ยน คุณเป็นอะไรไป? ตื่นเถอะ อย่าทำให้ฉันกลัว..."เธอคุกเข่าลง อยากพยุงฟู่ซือเยี่ยนลุกขึ้น แต่เธอรู้สึกมีอะไรเหนียวๆ ที่หลังคอของเธอกลิ่นเลือดเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอเอามือไปจังคอ แล้วดู——มืออันขาวของฉันเธอเปื้อนไปด้วยเลือดจริง ๆ!เลือดนี่...คือไม้แท่งนั้น..."โอ้ก--!"(เสียงอาเจียน)เธอพยายามระงับความรู้สึกอาเจียน และยืนขึ้นเพื่อเรียกคนมาช่วย: "ช่วยด้วย ช่วยด้วย!"กู้เหยียนโจวรีบวิ่งเข้าห้อง เขาเห็นฟู่ซือเยี่ยนนอนบนพื้น เขาตกใจอย่างมากวินาทีต่อมา เขาต
หมิงซีดอดไม่ได้ที่ต้องเอื้อมมือไป ใช้ปลายนิ้วลากคิ้วอันหล่อเหลา ดั้งจมูก และคางของเขาพระเจ้าทรงเอ็นดูเขาจริง ๆ ทุกส่วนประณีตมากมือของเธอไปสัมผัสลูกกระเดือกโดยไม่ได้ตั้งใจ นี่เป็นสิ่งที่เธอคิดมานานแล้วส่วนโค้งนูนของลูกกระเดือกฟู่ซือเยี่ยนนั้นดูเซ็กซี่มาก ราวกับยอดเขาสูงตระหง่านเมื่อก่อนอยู่บนเตียง เธอเรียบร้อยมาก และไม่กล้ามีพฤติกรรมใด ๆ ที่ตามใจชอบแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่า ในเมื่อไหน ๆ เธอจะหย่าอยู่ดี ถ้าไม่ทำอะไรตามใจชอบ เธอจะเสียเปรียบจู่ๆ ลูกกระเดือกที่อยู่ใต้ปลายนิ้วก็ขยับหมิงซีไม่ทันจะเอามือกลับ ฟู่ซือเยี่ยนลืมตาแล้วสองคนสบตากันรูม่านตาของชายคนนั้นดำราวกับอัญมณี และเมื่อเขามองผู้คน ดูเหมือนว่ามีวังวนกำลังพยายามดูดพวกเขาเข้าไปหัวใจของหมิงซีพองขึ้นทันทีเธออยากถอนปลายนิ้วออก แต่กลับถูกเขาจับนิ้วของเธอแน่น ๆ“คุณหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำอะไรอยู่ ?”เสียงของฟู่ซือเยี่ยนเย็นชา และในเสียงนั้นไม่มีความรู้สึกความเหนื่อยหมิงซีตื่นตระหนก และเธอไม่ทันคิดหาข้ออ้าง รีบตอบ "มีแมลงค่ะ""แมลงเหรอ?"“ใช่ค่ะ แต่ฉันปัดให้คุณแล้วค่ะ”หมิงซีพูดจาไร้สาระด้วยความจริงจัง ด้วยความตื่นตระหนก
หัวใจของหมิงซีแทบจะกระโดดออกจากหน้าอกของเธอ และเธอรีบเอื้อมมือไปบังเขาอาจเป็นเพราะโดนแผลของเขา ฟู่ซือเยี่ยนเปลี่ยนสีหน้า เขาขมวดคิ้ว“อย่าขยับ ผมทำอะไรไม่ได้” เขาพูดอย่างใจเย็นใบหน้าของหมิงซีงแดงหมือนแอปเปิ้ล เธออายมากเธออยากดุเขา แต่กลัวโจวมู่จะได้ยินอยู่นอกประตู ดังนั้นเธอได้แต่เบาเสียงลงและจ้องฟู่หมิงซี “คุณรังแกฉันอีกแล้ว”แต่เธอไม่รู้หรอกว่า แก้มของเธอที่เป็นสีแดงและเสียงความโกรธที่เธอระงับนั้นมีเสน่ห์ขนาดไหนฟู่ซือเยี่ยนรู้สึกลำคอของตัวเองดึง ดวงตาของเขาลึกราวกับสระน้ำเธอพูดถูก ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเขากำลังบาดเจ็บอยู่ เขาคงอยากจะจัดการเธอในตอนนี้จริง ๆแต่หมิงซีไม่รู้เขามีความคิดนี้หรอก เพราะเธอยังไม่ลืมเรื่องต่าง ๆ ในงานเลี่ยงของวันนี้ฟู่ซือเยี่ยนช่วยชีวิตของเธอ นี่เป็นเรื่องจริง แต่เขาผลักเธอ นี่เป็นเรื่องจริงด้วย...แววในดวงตาของเธอหายไป เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เธอไม่สามารถมองข้ามได้"เพี๊ยะ"เสียงที่ไม่เบาไม่หนักดังจากต้นขาของเธอ ทำให้หูของหมิงซี เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอขมวดคิ้วและมองฟู่ซือเยี่ยน "คุณกำลังทำอะไรอยู่?""กำลังแกล้งคุณอยู่ครับ" เสียงของฟู่ซือเยี่ยน
“ข้อที่สาม นั่นก็คือ...”หมิงซีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายตัดสินใจพูดออก "ก่อนที่เราจะหย่ากันอย่างเป็นทางการ ฉันหวังว่าคุณจะไม่มีลูกนอกสมรส ฉันรับไม่ได้ คุณปู่และคนอื่น ๆ รับไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นฉันหวังว่าพวกคุณป้องกันหน่อย"จริง ๆ แล้วนี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายยากที่จะพูด แต่หมิงซีรู้สึกต้องพูดให้ชัดเจนเธอไม่อยากให้ลูกมีพ่อที่มีลูกกับคนอื่นนอกสมรสแม้ว่าเธอจะไม่บอกลูกว่าใครเป็นพ่อก็ตามฟู่ซือเยี่ยนตอบอย่างเย็นชา "ไม่มีข้อที่สี่เลยเหรอ? ให้ผมพูดแทนไหม ให้ผมปล่อยพวกคุณสองคนอยู่กันอย่างมีความสุขไหม?"หมิงซีขมวดคิ้ว “ฉันกับรุ่นพี่…”ฟู่ซือเยี่ยนไม่รอเธอพูดจบ และขัดจังหวะเธออย่างเย็นชา "คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าคุณปู่รู้เรื่องนี้ คุณปู่จะเป็นยังไง เพื่อผู้ชายคนนี้ คุณไม่สนใจสุขภาพของคุณปู่เลยเหรอ?'แตก'!แปะป้ายใหญ่ขนาดนี้หมิงซีไม่เข้าใจ เธอแค่คุยกับเพื่อนตามมารยาท ทำไมต้องถึงขั้นที่ทำลายร่างกายของคถณปู่ล่ะคุณปู่ไม่เคยห้ามเธอหาเพื่อนเลยแต่ตอนนี้ เธอไม่อยากเถียงเขา แต่อยากเสนอวิธีแก้ปัญหาที่พวกเขาสองคนรับได้“คุณปู่จะรู้ได้อย่างไรถ้าคุณไม่บอกเขา ไคุณม่ต้องกังวล ฉันจะซ่อนเร
เขาหมายถึงอะไร?หมิงซีไม่ค่อยกล้าเชื่อเลย เขาไม่ได้ทำเรื่องนั้นกับหลินเสวี่ยเวยได้ยังไง?แล้วเขาบินไปต่างประเทศหลายครั้ง เขาไปทำอะไร?เธออยู่กับฟู่ซือเยี่ยนมาสองปี หมิงซีรู้ดี เขาต้องการสิ่งนั้นมากแค่ไหน เขาไม่ใช่คนรักบริสุทธิ์แต่ดูเหมือนเขาไม่จำเป็นต้องโกหก เหมือนอย่างที่บอกเธอเรื่องการหย่าอย่างตรงไปตรงมา...ฟู่ซือเยี่ยนชอบเธอประพฤติตัวดี เขาวางเธอลงอย่างแรง กอดเธอแน่น และพูดอย่างชัดเจนว่า "เธออยู่เแย ๆ อย่าทำให้ผมโกรธ"หมิงซีไม่ได้พิจารณาความหมายของคำพูดของเขา และจ้องมองเขา“คุณไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับหลินเสวี่ยเวย จริงๆ เหรอ?”ฟู่ซือเยี่ยนจับผมของเธอไว้ในมือของเขา เล่นกับมัน และตอบอย่างเฉยเมย "ไม่เคย"“จริงเหรอ?” หมิงซีอดไม่ได้ที่ต้องถามอีกครั้งฟู่ซือเยี่ยนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย จากนั้นเขาบีบปากของเธอแล้วถาม "คุณสงสัยอะไร""แต่......"ก่อนที่เธอจะพูดจบ ชายคนนั้นก็เข้ามาอีกครั้งและพูดว่า "จูบหน่อย"พูดจบ ริมฝีปากของเขาก็ไปจรดใบหูส่วนล่างของเธอ ค่อย ๆ | ดูดและบิดช้า ๆ...การกระทำนี้บีบคั้นจิตใจสุดๆหมิงซีหดตัวโดยไม่รู้ตัว วันนี้สมองของเธอมึนทั้งวันตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกส
ทันใดนั้นดวงตาของหลินเสวี่ยเวยก็เบิกกว้างขึ้นเป็นไปได้ยังไง......เธอวางแผนอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอป่วยหรือเรื่องที่เธอถูกลักพาตัว เธอมั่นใจเธอไม่ได้ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ผู้ชายคนนี้ต้องโกหกเธอแน่ ๆ เลยใช่ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆหลินเสวี่ยเวยอดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสและยังคงแสร้งทำเป็นโง่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา " พี่อาเยี่ยน พี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรคะ หนูฟังไม่รู้เรื่องเลย... "“ยาฉีดของหนูมาจาก ประเทศ L แล้วรถที่ชนหน้าผาและระเบิด โจวมู่พบรถที่วิ่งผ่านที่เกิดเหตุในเวลานั้น กล้องติดรถได้บันทึกไว้ว่า รถสูญเสียการควบคุมเบรกอย่างเห็นได้ชัด คนพวกนั้นยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อได้เงินสิบล้าน แต่กลับเตรียมรถที่มีปัญหาเบรกไว้”ฟู่ซือเยี่ยนเล่าอย่างใจเย็น " หลินเสวี่ยเวย หนูคิดว่ายังไงก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์อยู่แล้ว ดังนั้นคุณจึงคิดว่าผมเป็นคนโง่เหรอ"น้ำเสียงของชายคนนั้นสงบมาก ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงมื้อเย็นว่าจะกินอะไรดีแต่ทุกคำพูดทำให้หลินเสวี่ยเวยรู้สึกมือและเท้าชาไปหมด เธอรู้สึกขนลุกเธอร้องไห้อย่างน่าสงสารและเธอก็ส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง "ไม่ ไม่... พี่อาเยี่ยน พี่ฟังหนูอธิบ
ดวงตาของฟู่ซือเยี่ยนจ้องลึก "ระวังปากของคุณ อะไรที่ไม่ควรชักชวน อย่าชักชวน"ดูเหมือนซูเนี่ยนเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว เธอพูดตรงประเด็นว่า "คุณฟู่ คุณคิดว่าหมิงซีจะให้อภัยคุณใช่ไหม"เมื่อมองดูใสีหน้าของฟู่ซือเยี่ยน ซูเนี่ยนรู้ตัวเองเดาถูกดูเหมือนว่านิยายที่เธออ่านไม่ได้หลอกลวงเธอไฮโซหนุ่มที่ทั้งหน้าตาดีและร่ำรวยมีความมั่นใจอย่างพิเศษในความรักซูเนี่ยนจะยอมพลาดโอกาสอย่างแก้แค้นให้เสี่ยวซีได้ยังไง"ไม่ต้องกังวล คุณฟู ฉันจะไม่พูดเรื่องไร้สาระ แต่ -"เธอหยุดชั่วคราวและพูดตรงประเด็น "เมื่อหมิงซีตัดสินใจอะไร เธอจะเด็ดขาดมากกว่าที่คุณคิด"ฟู่ซือเยี่ยนกระชับฝ่ามือของเขาและยืนอยู่ที่นั่นสองสามวินาทีจึงเดินเข้าห้องผู้ป่วยหลินเสวี่ยเวยเห็นฟู่ซือเยี่ยนกลับมา เธอถามอย่างกังวล " พี่อาเยี่ยน พี่ได้เอาปากกาบันทึกเสียงกลับมาหรือเปล่า"เธอเห็นฟู่ซือเยี่ยนตามออกไป เธอก็คิดว่าเขาจะช่วยเธอเอาปากกาบันทึกเสียงคืนมาดูสิ ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอะไร พี่อาเยี่ยนก็ยังปล่อยเธอไปไม่ได้ครั้งที่แล้วเขาไม่ได้ติดตามเรื่องการเปลี่ยนใบรับรองผลการตรวจการเป็นบิดาไม่ใช่เหรอครั้งนี้เธอถูกหมิงซีทุบตีหนักขนาดแนี้ และป
ซูเนี่ยนหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เธอเม้มริมฝีปากอันสีแดงของเธอ " หลินเสวี่ยเวย บ้านคุณไม่มีกระจกเหรออิจฉาใบหน้าของคุณที่เต็มไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิกมากเกินไปหรืออิจฉาคุณเก่งเรื่องแย่งสามีของคนอื่นหรืออิจฉาคุณทำแบ้วทันทีเมื่อเห็นผู้ชาย หรืออิจฉาคุณมีทักษะการแอบแรดเหรอ"ทุกคำพูดของซูเนี่ยนแทงทะลุหัวใจของหลินเสวี่ยเวยถ้าฟู่ซือเยี่ยนไม่ได้อยู่ที่นั่น เธอคงรีบเข้าไปฉีกปากของซูเนี่ยนเป็นชิ้น ๆ แล้วในเวลานี้ ฟู่ซือเยี่ยนค่อย ๆ ดึงมุมเสื้อผ้าของเขาออกจากมือของหลินเสวี่ยเวย เขาก้มหัวหมองหลินเสวี่ยเวย“ เสวี่ยเวย ครั้งที่แล้วพี่พูดอะไรไป หนูลืมแล้วเหรอ”เขาหมายถึงคำเตือนที่เขาพูดในคืนที่เขาจับตัวป้าหลินไปความเย็นจากฝ่าเท้ากระจายไปทั่วร่างกาย หลินเสวี่ยเวยรู้สึกหนาวจนตัวสั่น เธอบีบตัวเองแรง ๆ และน้ำตาก็ไหลอาบหน้าทันที“ พี่อาเยี่ยน ไม่ใช่หนูจริง ๆ อย่าเชื่อเธอ เธอเข้าข้างหมิงซี เธอต้องช่วยหมิงซีแน่…”"ฮือ ๆ " ซูเนี่ยนประชด:"ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันยอมจ้างองค์กรมืออาชีพทำการประเมินเพื่อดูว่าเสียงนี้เป็นเสียงที่ถูกตัดแปลงขึ้นมาหรือเปล่า"“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลย” หลินเสวี่ยเวยดุอย่างแรง“พวกคุ
หลินเสวี่ยเวยยังไม่ทันโต้ตอบ ซูเนี่ยนรีบถาม "ในเมื่อคุณบอกว่าหมิงซีตีคุณ ฉันขอถามคุณก่อนว่าทำไมเธอถึงตีคุณ"ใบหน้าของหลินเสวี่ยเวยแข็งทื่อทันที และความไม่สบายใจอย่างรุนแรงก็พลุ่งพล่านอยู่ในใจของเธอเธอพูดด้วยความตื่นตระหนก "ฉันบอกว่าเธอมีปัญหาทางจิต ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่..."รอยยิ้มบนใบหน้าของซูเนี่ยนหายไป และน้ำเสียงของเธอก็จริงจัง“คุณด่าว่าเธอเป็นสุนัขจรจัดที่ถูกคุณฟู่ทิ้งไม่ใช่เหรอ คุณยังบอกว่า ของในท้องของเธอเป็นตัวร้ายและตายแล้วดีมากเลย คุณยังด่าว่าเธอเป็นดวงซวยของทั้งครอบครัว..."ทุกคำพูดเป็นเหมือนการเล่าขานยิ่งหลินเสวี่ยเวยฟังมากเท่าไร สีหน้าของเธอก็ยิ่งแย่ลง และเธอก็อุทาน "คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระ"เมื่อก่อนหลินเสวี่ยเวยด่าหมิงซีนังตัวแสบ แต่ไม่เคยเห็นหมิงซีบอกใครเลย แต่คาดไม่ถึง คราวนี้หมิงซีเล่าทำคำให้ซูเนี่ยนฟังแต่แล้วยังไงได้ล่ะ เธอกล้าด่าอย่างนั้น ยอมไม่กลัวหมิงซีฟ้องอยู่แล้วอีกอย่างไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่จะพิสูจน์ว่าเธอพูดเช่นนั้นซูเนี่ยนยิ้มและพูดต่อ "อย่ากังวล ฉันยังพูดไม่จบ คุณยังบอกด้วยว่าคุณเปลี่ยนใบรับรองผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดาและ
ฟู่ซือเยี่ยนได้ยินคำพูดนี้ เขาขมวดคิ้วทันทีหลินเสวี่ยเวยตกใจมากจนเธอซ่อนตัวอยู่ข้างหลังของฟู่ซือเยี่ยน และตกใจ "ทำไมคุณถึงบุกเข้าไปในหอผู้ป่วยของคนอื่น"เธอรู้ซูเนี่ยนเป็นเพื่อนสนิทของหมิงซี พวกเธอไม่คุ้นเคยกันแต่เคยพบกันที่งานปาร์ตี้“ไม่เป็นไร ฉันรีบไปแล้ว พวกคุณสามารถไปต่อได้หลังจากที่ฉันออกไปแล้ว”ก่อนจะเข้าห้อง ซูเนี่ยนจูงใจทาลิปสติกสีแดงสดเป็นพิเศษ ในขณะนี้ เธอเม้มริมฝีปากและยิ้มเต็มไปด้วยทรงพลังหลินเสวี่ยเวยนึกว่าซูเนี่ยนมาตามหาฟู่ซือเยี่ยนเพื่อแก้แค้นให้หมิงซี ดวงตาของเธอก็ฉายแววด้วยความชั่วร้าย และเธอก็พูดอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง "คุณซู นี่คือห้องของฉัน เชิญออกไปเดี่ญวนี้เลยค่ะ"ถ้าเป็นตระกูลซูในปีที่แล้ว เธอยังคงพูดสุภาพกับซูเนี่ยน มากกว่านี้ เพราะครอบครัวของเธอยังพอแข่งกับตระกูลหลินได้แต่ตอนนี้ ตระกูลซูถูกลู่จิ่งสิงปราบปรามจนไม่เหลืออะไรแล้ว เธอได้ยินมาว่า พวกเขาทั้งหมดต้องพึ่งพาคุณซูขายตัวเพื่อช่วยบริษัทหญิงขายตัวไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะถือรองเท้าให้เธอ ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องสุภาพกับหญิงโสเพณีคนนี้ซูเนี่ยนเยาะเย้ย "ถ้าฉันออกไป ฉันจะเห็นคุณเห้อยตัวบนสามีของคนอื่
คำถามนี้ทำให้หัวใจของหลินเสวี่ยเวยเต้นเร็วขึ้นเธออยู่ในสภาพที่น่าสังเวชขนาดนี้ ฟู่ซือเยี่ยนกลับไม่เรียกคุณหมอมารักษาเธอก่อน แต่สนใจเรื่องนี้ก่อนยิ่งไปกว่านั้น กระดูกสะบ้าของเธอยังเจ็บอยู่ และเธอไม่รู้ว่ากระดูกนี้ถูกนังเลวนั้นเหยียบแตกหรือเปล่าหลินเสวี่ยเวยโกรธในใจ แต่ใบหน้าของเธอสงบและดวงตาของเธอก็เปียกน้ำขณะที่เธอพูดว่า“หนูไปเยี่ยมเธอเฉย ๆ หนูไม่รู้เลย เราคุยแค่สองประโยคเอง หมิงซีก็รีบวิ่งเข้ามาหาหนูอย่างบ้าคลั่ง หนูกลัวจะตาย”“หนูพูดอะไรในสองประโยคนี้” ดวงตาสีเข้มของฟู่ซือเยี่ยนมองดูเธออย่างลึกซึ้งด้วยความหมายที่ไม่ชัดเจนหลินเสวี่ยเวยไม่คาดคิดฟู่ซือเยี่ยนจะไล่ถามเธออย่างนี้ ไม่ว่าผู้ชายที่หล่อเหลาเช่นนี้จะมองเธอกี่ครั้ง เธอก็จะรู้สึกตื่นตระหนกในใจโดยไม่รู้ตัวดวงตาของเธอสั่นไหวและเธอก็ร้องไห้ "หนูแค่ถาม' หมิงซี คุณเป็นอะไรไป ทำไมคุณดูแย่มาก' จู่ ๆ เธอก็รีบวิ่งเข้ามาตีหนู"ฟู่ซือเยี่ยนจ้องมองไปที่ใบหน้าที่บวมของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หนูไม่ได้พูดอะไรทำให้เธอโกรธเหรอ"หลินเสวี่ยเวยปฏิเสธทันที "ไม่ค่ะ หนูจะทำได้ยังไง เธอเป็นคนที่เอาแต่พูดอยู่เสมอว่า พวกเราเป็นคนที่ฆ่
"ออกไป"ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ซีดเซียวของหมิงซีแสดงความรังเกียจโดยไม่ปิดบังมือของฟู่ซือเยี่ยนแข็งนิ่งในอากาศ และสีหน้าของเขาแย่มากเป็นพิเศษทันใดนั้นหลังของเขาก็ตึงขึ้น และมีคนเข้ามากอดเขาดูเหมือนว่าหลินเสวี่ยเวยเจอคนช่วยชีวิต เธอกอดฟู่ซือเยี่ยน อย่างแน่น ร่างกายของเธอสั่นเทาเธอตกใจมากจนพูดไม่ออก " พี่อาเยี่ยน หมิงซีบ้าไปแล้ว หัวเข่าของหนู... ถูกเธอเหยียบ หนูเจ็บมากค่ะพี่ ช่วยหนูด้วย เธอมันบ้า เธออยากฆ่าหนูด้วย"......"ผู้ดูแลเข้ามาในเวลานี้ เธอเห็นห้องรกอย่างนี้ เธอตกใจมาก เธอรีบก้าวไปข้างหน้าและช่วยหมิงซีไปที่เตียงบาดแผลที่หู หมิงซี เปิดออกอีกครั้งเพราะ หลินเสวี่ยเวย เพิ่งกระแทกเธอลงบนรถเข็น และมีเลือดไหลออกมา แต่ดูเหมือนเธอจะหมดสติและมองดูชายและหญิงที่พันกันอย่างเย็นชาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความประชดฟู่ซือเยี่ยนพาหลินเสวี่ยเวยไปนั่งที่รถเข็น แต่หลินเสวี่ยเวยยังคงจับมือของฟู่ซือเยี่ยนไว้แน่นและร้องไห้จนตัวสั่นไปทั่วทั้งตัว ราวกับว่าเธอหวาดกลัวจริง ๆแสดงก็ดีจริง ๆถ้าเป็นหมิงซีคนก่อน เธอคงกลัวถูกเข้าใจผิดและรีบอธิบายด้วยความตื่นตระหนกแน่นอนแต่ตอนนี้หัวใจของหมิงซีว่างเปล่า
หมิงซี หัวเราะเยาะ" หลินเสวี่ยเวย ฉันขอบอกคุณละกัน ฉันนี่แหละ เป็นคนทิ้งฟู่ซือเยี่ยน ขยะที่โดนฉันทิ้ง คุณจะมาอวดทำไม"หลินเสวี่ยเวยไม่รู้สึกโกรธเลย แต่รู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่งด่าไปเถอะ ด่าแรงกว่านี้สิเธอไม่เชื่อหรอกว่า นังเลวนี้ด่าแรงขนาดนี้ พี่อาเยี่ยนยังอยากได้ผู้หญิงเลวคนนี้คงลากเธอไปหย่าในวินาทีหน้าหมิงซีค่อย ๆ พูดต่อ "ในเมื่อคุณต้องการเก็บขยะที่ฉันใช้แล้ว ฉันจะช่วยพวกคุณละกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้หญิงสำส่อนกับผู้ชายเหี้ยคงอยู่ตลอดไป และผู้ชายหน้าหม้อคู่กับหญิงโสเพณี รักกันนาน ๆ ”ประโชคสุดท้ายทำให้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังหยุดก้าวเท้า ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเริ่มน่ากลัวผู้ชายชั่ว ผู้ชายหน้าหม้อเหรอหมิงซีเริ่มพูดเก่งขนาดนี้เมื่อไรหลินเสวี่ยเวยไม่ชอบคำพูดนี้เหมือนกัน เธอโกรธและพูด "คุณด่าใครผู้หญิงชั่ว ใครหญิงโสเพณี"“โอ้ ฉันเกือบลืมไป อาชีพของคุณควรจะเป็นเมียน้อย”คำพูดเหล่านี้ทำให้หลินเสวี่ยเวยอายจริง ๆหมิงซีขดริมฝีปากขึ้นและเยาะเย้ย "อย่ากังวลสิ แม้ว่าคุณจะเป็นเมียหลวงได้ มันจะไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าคุณเป็นต้นเหตุที่ทำให้สามีภรรยาคู่อื่นหย่าร้าง ประวัติศาสตร์อันร้ายนี
ทันใดนั้นรอยยิ้มที่ผิดปกติก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินเสวี่ยเวย เธอมองหมิงซี ดูเหมือนเธอกำลังมองคนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา“คุณยังคิดว่าพี่อาเยี่ยนไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม”หมิงซีตัวแข็งทื่อและเธอก็พึมพำ "คุณหมายความว่ายังไง"หลินเสวี่ยเวยมองสีหน้าของหมิงซี เธอรู้หมิงซีไม่รู้เรื่องนี้นั่นน่ะสิ พี่อาเยี่ยนบอกเธอเรื่องนี้ทำไมหลินเสวี่ยเวยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ พี่อาเยี่ยนรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่เพราะเป็นเกี่ยวฉัน เขาจึงไม่ติดตาม”สมองของหมิงซีว่างเปล่าไปครู่หนึ่ง จากนั้น เธออยากจะหัวเราะมากหัวเราะความโลภ ความโกรธ ความหลงไหล และความโง่เขลาในอดีตของเธอเธอกล้ามั่นใจว่า แม้ว่าเธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับหลินเสวี่ยเวยได้ แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นทางเลือกสองทางเดียวของฟู่ซือเยี่ยนแต่เธอลืมไปว่า ในโลกนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่เคยมีสองเลยแม้ว่าฟู่ซือเยี่ยนจะรู้ถึงความชั่วร้ายของหลินเสวี่ยเวย แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะแม้ว่าผู้หญิงคนนี้เกือบจะทำร้ายเนื้อตัวของตัวเขาเองแล้วไงล่ะเมื่อเผชิญหน้ากับผู้คนที่เขาต้องการปกป้องในใจ หลักการและเส้นตายของเขาสามารถถอยกลับได้ครั้งแล้วครั้งเล่าในที่สุ