“น้องหมิงซี ”ใบหน้าของกู้เหยียนโจวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ "หนูมาแล้วเหรอ รีบตามพี่มา!"จากนั้นเขาก็เหลือบตามองป๋อซือเหนียน และส่งแววตาบอกผู้ช่วยของเขามันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ ถ้าฟู่ซือเยี่ยนรู้น้องหมิงซีมาโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมคนอื่น ๆ ไอ้หมอนั้นต้องทุบโรงพยาบาลพังหมดแน่ ๆตอนนี้ไม่ว่าหมิงซีมาหาใครก็ตาม ยังไงเธอก็ต้องไปหาฟู่ซือเยี่ยน ไม่ว่าเธอจะอยากไปหาหรือเปล่าก็ช่างเขาไม่สนใจใครเลย ลากหมิงซีขึ้นไปชั้นบนข้างหลังเขา ป๋อซือเหนียนอยากตามไป แต่ถูกผู้ช่วยของกู้เหยียนโจวห้าไว้“คุณป๋อ ขอโทษครับ รบกวนอย่าตามไป”......ในลิฟต์หมิงซีถามอย่างเป็นกังวล “ทำไมฟู่ซือเยี่ยน ถึงดื่มเหล้าเยอะขนาดนี้?”กู้เหยียนโจวตอบ "จะเพื่อใครอีกล่ะ นอกจากหนูคนเดียวนี่แหละ พี่ไม่เคยเห็นเขาหงุดหงิดเพื่อใครถึงขนาดนี้"“หนูเหรอ?” หมิงซีเกือบนึกว่าเธอฟังผิด“ใช่สิหนู ก่อนหน้านี้ยังเห็นหนูกับเขายังดี ๆ อยู่เลย ทำไมจู่ ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?”หมิงซีลดขนตาลงและไม่พูดอะไรกู้เหยียนโจวถอนหายใจเบา ๆ “ถ้าหนูอยากพูดอะไร ทำไมหนูไม่พูดตรง ๆ หมิงซี หนูอยู่ในใจของซือเยี่ยนน่ะ”หมิงซีรู้สึกหัวใจเต้นผิดปกติ สมองของเธอ
“หนูจะเทียบกับพี่ได้ยังไงล่ะ”คำพูดของกู้เหยียนโจวเหมือนมีดเล่มหนึ่ง แทงหัวใจของหมิงซีเธอเป็นคนที่เทียบกับคนอื่นไม่ได้ต่างหากหลินเสวี่ยเวยไม่ต้องปรากฏตัวด้วยซ้ำ แค่แปะชื่อของเธอไว้ตรงนั้น หมิงซีก็แพ้แล้วหมิงซีกัดริมฝีปากและเสียงของเธอก็สั่น “ศาสตราจารย์กู้ ปล่อยเถอะ หนูรู้สึกไม่สบาย หนูต้องกลับบ้านแล้วค่ะ”กู้เหยียนโจวจึงสังเกต สีหน้าของหมิงซีดูแย่มาก ใบหน้าของเธอซีดเซียวเขาปล่อยมือ ในขณะที่เขากำลังจะถามหมิงซีเป็นอะไร โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นหมิงซีหันหลังและจากไปกู้เหยียนโจวรับสาย เขาได้ยินเสียงที่เย็นชาและทุ้มลึก“ห้ามหมิงซีไว้ ”เขามองไปนอกประตูและสงสัย "เธอยังไม่ออกไป เธอกำลังรอรถที่ประตู เธอกับแกสองคนเป็น-"ก่อนที่เขาจะพูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายไปแล้วฟู่ซือเยี่ยนวางโทรศัพท์ เขาไม่ห่วงแผลของเขา กระโดดลงจากเตียงโดยแต่หลินเสวี่ยเวยลากฟู่ซือเยี่ยนไว้ และพูดด้วยสีหน้าที่กังวล: "พี่อาเยี่ยน พี่ยังเจ็บผลอยู่เลย พี่จะวิ่งอย่างนี้ได้ยังไงคะ หนุไปอธิบายให้หมิงสีฟังละกัน"ฟู่ซือเยี่ยนสบัดมือของหลินเสวี่ยเวยออก ถามเธออย่างเย็นชา "เมื่อกี้หนูตั้งใจทำแบบนั้นใช่ไหม?"บังเอิญหมิงซ
คนขับรีบตะโกน “ฉันจะไปเอาเงินจากใครดี”ในเวลานี้ โจวมู่มาหยุดคนขับ และพูด "คุณครับ ตามผมมาครับ"หมิงซีนั่งอยู่หลังรถ เธอรู้สึกมึน ๆ ไปหมดเสียงพายุฝนฟ้าคะนองกระทบใจเธอเรื่อย ๆการทุบตีนั้นทำให้เธอรู้สึกตัวหนาวมากแต่เดิมเธอคิดว่า เธอสามารถยอมรับความจริงที่ว่า ฟู่ซือเยี่ยน และหลินเสวี่ยเวยอยู่ด้วยกัน แต่การได้เห็นทั้งสองนอนนอนด้วยกันด้วยตาของเธอเองก็ยังทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจและอยากจะบ้าไปเหมือนเดิมเธอรู้สึกตัวเองตลกมากเธอเลิกความรู้สึก หลอกตัวเองตัวเองทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลก!ทั้ง ๆ ที่เธอบอกกับตัวเองว่า จะไม่เสียใจเพราะเขา แต่เธอควบคุมตัวเองไม่ได้หัวใจของเธอเจ็บมาก เธอพยายามวางมือบังหัวใจ แต่ก็ไม่ได้ผล"เพี๊ยะ——"เสียงแหลมหมิงซี โน้มตัวไปข้างหน้าทันที ถ้าเธอไม่คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ เธอคงถูกโยนออกไปแล้วหลังจากที่คนขับเบรกกระทันหัน เขาก็ตะโกนใส่รถคันที่ขวางอยู่ตรงหน้ารถของเขา“อีบ้า มึงขับรถเป็นไหม?”ในท้องฟ้าที่ฝนตกชายคนนั้นยืนตระหง่าน เขากำลังเดินฝ่าพายุที่รุนแรงมาเขาเปิดประตูหลัง มองผู้หญิงตัวเล็กที่เบียดเสียดอยู่ข้างใน ดวงตาของเขามืดลง"ลงรถ"หมิงซีตกตะลึงเ
ภายในไม่กี่วินาที เธอรู้สึกริมฝีปากของเธอชาและเจ็บเสื้อผ้าของเขาเปียกไปหมด เมื่ออยู่ใกล้กัน หมิงซีรู้สึกร้อนมากมันทั้งร้อนทั้งหนาว หมิงซีรู้สึกเหมือนกำลังจะตายคนขับอายุมากแล้ว รู้สึกเมื่อเห็นภาพที่น่าเร้าใจแบบนี้ เขารู้สึกไม่รู้ทำยังไงดี ถ้าเขานั่งดู ท้ายที่สุด เขาต้องทนความอยากทางเพศของเขา เขาเลยตัดสินใจปิดตาไม่มองในรถม้าที่เงียบงัน เสียงของริมฝีปากและฟันของคนสองคนที่ประสานกันนั้นชัดเจนเป็นพิเศษเมื่อหมิงซีคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ฟู่ซือเยี่ยนก็ปล่อยมือที่กุมคางของเธอไว้ และมือลงอย่างอ่อนแรงจากนั้นครึ่งหนึ่งของร่างกายของเขาก็กดลงบนหมิงซีเธอกอดเขาโดยไม่รู้ตัว ในใจรู้สึกตื่นตระหนกอย่างอธิบายไม่ถูกเธอเห็นเลือดที่หลังคอของชายคนนั้นไหลลงมาตามสะบักของเขาไปที่มือของเธอหมิงซีร้องไห้ ดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดง และเธอพูดอย่างสั่นเทา: "พี่คะ ไปโรงพยาบาล ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!"อยู่ข้างเตียงของโรงพยาบาลฟู่ซือเยี่ยนมีไข้เนื่องจากบาดแผลติดเชื้อจากการโดนฝนกู้เหยียนโจวอธิบายสั้น ๆ ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้อง เขาอดไม่ได้ที่ต้องพูด" หมิงซี พี่รู้ว่าหนูไม่เชื่อ แต่จริง ๆ แล้ว ซือเยี่ยนห
ในห้องผู้ป่วย เมื่อคุณหมอบอกซูเนี่ยนว่า พ่อของเธอพ้นอันตรายชั่วคราว ซูเนี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเธอดูแย่ทั้งตัว แต่เธอไม่มีเวลาสนใจตัวเอง เฝ้าคุณพ่อของเธอข้างเตียงของผู้ป่วยเธอมองผมสีขาวทั่วศีรษะของพ่อ เธอก็ยิ่งเกลียดตัวเองมากยิ่งขึ้นคุณพ่อมีอายุมากแล้ว ยังต้องรับผิดชอบแทนลูกสาวเธอทำผิดเรื่องโง่ ๆ นั่นก็คือ ผู้ชายมายั่วยุลู่จิ่งสิงแต่อีกสิบกว่าวัน เขาจะแต่งงานแล้ว ทำไมเขาถึงไม่ปล่อยเธอไป? เป็นไปได้ไหมที่เขาวางแผนที่จะรักษาความสัมพันธ์แบบนี้กับเธอหลังแต่งงาน และปล่อยให้เธอกลายเป็นหญิงชู้ที่ไร้ยางอาย?ความคิดนี้ทำให้เธอรู้สึกหมั่นไส้ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่เธอเคยทำในชีวิตคือการตกหลุมรักลู่จิ่งสิง ซึ่งเป็นคนเจ้าเล่ห์หลังจากผ่อนคลาย ความง่วงก็ตามมาเลยทีเดียวเมื่อเธอเลอะเลือน เธอรู้สึกหลังคอหนาว มีคนจับเอวของเธอแล้วดึงเธอขึ้นไปบนตักของใครบางคนทันใดนั้นเธอเบิกตา ชายที่ตรงหน้าเธอก็ทำให้เธอรู้สึกวิงเวียน และเธอก็ขดตัวตามธรรมชาติลู่จิ่งสิงหรี่ตาเล็กน้อย ลิ้มรสความกลัวจากดวงตากลมโตคู่นั้นเธอกลัวเขามากสิ่งนี้ทำให้เธอพอใจซูเนี่ยนพูดด้วยริมฝีปากที่สั่น “คุณมาที่นี่
"ตูม——"ด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ ซูเหนียนกระแทกเข้ากับมุมฉากของโต๊ะข้างเตียงเธอเหงื่อแตก เธอเจ็บจนต้องขดตัว ตอนนี้เธอขดตัวเหมือนกุ้งตัวหนึ่งที่สุกแล้วเธอโดนกระแทกอย่างหนักซูเนี่ยนไม่สามารถยืนขึ้นได้เป็นครู่หนึ่ง เธอต้องพิงกำแพง เธอรู้สึกเจ็บมากดวงตาของลู่จิ่งสิงมืดลงหนึ่งวินาที เขากลับเก็บโทรศัพท์และตัดสินใจจะไม่ถ่ายรูปอีกเขากลับมาเป็นคนเข็นชาทันที เขายิ้มพูด “ตื่นเต้นทำไม เพื่อนผมอยากดูบ้าง เขาบอกว่าคุณเซ็กซี่มาก เขาอยากเจอคุณบ้าง”ดวงตาของซู่เหนียนเบิกกว้าง และใบหน้าของเขาก็ซีดลงเธอไม่เคยคาดหวังว่า Lu Jingxing จะอยากถ่ายรูปความลำบากใจของเธอโชว์ให้เพื่อน ๆ ของเขาดูมีใครเห็นมันมาก่อนหรือไม่?เมื่อเธอคิดว่าอาจมีคนเห็นภาพของเธอด้วยความเขินอาย กลิ่นของสนิมก็อบอวลไปทั่วลำคอ ร่างกายของเธอก็สั่นไม่หยุด เธอรู้สึกเหมือนจะบ้าไปแล้ว“คุณ...คุณต้องการอะไร?”เธอถามอย่างอ่อนแรงโดยไม่รู้ว่าเธอกลังกระโดดเข้าสู่กับดักของปีศาจอีกครั้ง“จะเดทกับเพื่อนผมหน่อย เป็นไง”ลู่จิ่งสิงพูดอย่างเฉยเมยราวกับว่านี่เป็นเรื่องธรรมดามากซูเนี่ยนกำลังจะบ้า ตัวเขา... คนเดียวยังไม่พอ และเขาต้องแบ่งปันกับเ
ลู่จิ่งสิงกัดริมฝีปากของเธออย่างแรงจนเลือดไหลทันทีซูเนี่ยนน้ำตาไหล แต่ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่า เธอเจ็บตรงไหนมากไปกว่ากัน เอว มือ และริมฝีปากของเธอได้รับบาดเจ็บหมดหลังจากกัดเธอ ลู่จิ่งสิงยังจงใจเอานิ้วถูบาดแผลนั้น ทำให้เลือดไหลมากขึ้นซูเนี่ยนร้องเสียงแหบแห้ง แต่เธอไม่กล้าหลบหนี เพราะลู่จิ่งสิงมีวิธีจัดการเธอหลายร้อยวิธี เขามีของเล่นเต็มห้อง เขาเลือกของเล่นตามใจของเขา แค่นี้อะ ก็ทำให้เธอแย่จะตายแล้ว“เจ็บไหม” เขาถามเธอทั้งที่นิ้วหัวแม่มือยังมีเลือดอยู่ซูเนี่ยนพยักหน้าอย่างหนัก การเชื่อฟังจะทำให้เธอมีชีวิตดีขึ้น และมันก็จะทำให้ตระกูลซูมีชีวิตดีขึ้นด้วยตอนนี้ ลู่จิ่งสิงเหมือนกับการต้มกบในน้ำอุ่น ค่อย ๆ ต้มไป จนกระทั่งกบทนไม่ไหว ตายไปเอง เขากดดันตระกูลซูบ้าง และปล่อยตระกูลซูบ้าง มันขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาถ้าเธอทำให้เขาพอใจ ตระกูลซูจะมีเวลาพักหายใจได้ และความดันโลหิตของพ่อเธอจะไม่พุ่งสูงขึ้นถ้าเธอทำให้เขาโกรธ เขาอาจจะกำจัดตระกูลซูเลยทีเดียวตอนนี้ซูเนี่ยนรู้สึกเมื่อกี้เธอโง่เกินไปแล้ว ทำไมเธอต้องโต้เถียงเขาสิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้คือ อดทนและรอจนกว่า ลู่จิ่งสิง และลูกสาวคนโตของตร
สองครั้งแล้ว เธอเหนื่อยล้ามาก และเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วลู่จิ่งสิงเดินเข้าหาเธอ เขาเยาะเย้ยและบีบหลังคอของเธอแล้วผลักเธอชิดผนังโดยหันหลังให้เขา“เฉินเจียว เป็นชื่อที่คุณเรียกได้เหรอ?”ซูเนี่ยนรีบกล่าวคำขอโทา“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะดูหมิ่นคุณเฉินค่ะ”ลู่จิ่งสิงขมวดคิ้ว "ที่รัก คุณควรฉลาดกว่านี้นะ จำไว้ ผมป็นคนตั้งกติกา คุณมีหน้าที่ทำตามคำสั่งแค่นั้น เข้าใจไหม?"ซูเนี่ยนพยักหน้าด้วยความยากลำบาก เพื่อแสดงให้ลู่จิ่งสิงรู้ว่า เธอเข้าใจแล้วแต่การเข้าใกล้ของลู่จิ่งสิงทำให้เธอเหงื่อแตก ทำไมเขาถึงเริ่ม... อีกครั้ง?เฉินเจียวกำลังจะมาถึง และเขายังทำแบบนี้อีก เขาอยากให้เธอตายจริง ๆเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ในใจ ร่างกายของซูเนี่ยนก็ตึงเครียดไปหมดหลู่จิงซิ่งตบเธอแล้วพูดด้วยอารมณ์ที่เสีย "อย่าเกร็งตัวสิ"ซูเนี่ยน "..."หลังจากนั้นไม่นาน กริ่งประตูก็ดังขึ้น และลู่จิ่งสิงก็รีบเสร็จ ก่อนที่ซูเนี่ยนจะรู้ตัว เขาได้ยัดเธอเข้าไปในตู้เสื้อผ้าแล้วในตู้เสื้อผ้ามืดมาก หลังจากซูเนี่ยนถูกปล้นและตกในภูเขา ซูเนี่ยนก็เป็นโรคกลัวที่แคบเวลานี้ ความกลัวแพร่กระจายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเธอทำได้เพียงกอดเข
ทันใดนั้นดวงตาของหลินเสวี่ยเวยก็เบิกกว้างขึ้นเป็นไปได้ยังไง......เธอวางแผนอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอป่วยหรือเรื่องที่เธอถูกลักพาตัว เธอมั่นใจเธอไม่ได้ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ผู้ชายคนนี้ต้องโกหกเธอแน่ ๆ เลยใช่ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆหลินเสวี่ยเวยอดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสและยังคงแสร้งทำเป็นโง่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา " พี่อาเยี่ยน พี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรคะ หนูฟังไม่รู้เรื่องเลย... "“ยาฉีดของหนูมาจาก ประเทศ L แล้วรถที่ชนหน้าผาและระเบิด โจวมู่พบรถที่วิ่งผ่านที่เกิดเหตุในเวลานั้น กล้องติดรถได้บันทึกไว้ว่า รถสูญเสียการควบคุมเบรกอย่างเห็นได้ชัด คนพวกนั้นยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อได้เงินสิบล้าน แต่กลับเตรียมรถที่มีปัญหาเบรกไว้”ฟู่ซือเยี่ยนเล่าอย่างใจเย็น " หลินเสวี่ยเวย หนูคิดว่ายังไงก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์อยู่แล้ว ดังนั้นคุณจึงคิดว่าผมเป็นคนโง่เหรอ"น้ำเสียงของชายคนนั้นสงบมาก ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงมื้อเย็นว่าจะกินอะไรดีแต่ทุกคำพูดทำให้หลินเสวี่ยเวยรู้สึกมือและเท้าชาไปหมด เธอรู้สึกขนลุกเธอร้องไห้อย่างน่าสงสารและเธอก็ส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง "ไม่ ไม่... พี่อาเยี่ยน พี่ฟังหนูอธิบ
ดวงตาของฟู่ซือเยี่ยนจ้องลึก "ระวังปากของคุณ อะไรที่ไม่ควรชักชวน อย่าชักชวน"ดูเหมือนซูเนี่ยนเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว เธอพูดตรงประเด็นว่า "คุณฟู่ คุณคิดว่าหมิงซีจะให้อภัยคุณใช่ไหม"เมื่อมองดูใสีหน้าของฟู่ซือเยี่ยน ซูเนี่ยนรู้ตัวเองเดาถูกดูเหมือนว่านิยายที่เธออ่านไม่ได้หลอกลวงเธอไฮโซหนุ่มที่ทั้งหน้าตาดีและร่ำรวยมีความมั่นใจอย่างพิเศษในความรักซูเนี่ยนจะยอมพลาดโอกาสอย่างแก้แค้นให้เสี่ยวซีได้ยังไง"ไม่ต้องกังวล คุณฟู ฉันจะไม่พูดเรื่องไร้สาระ แต่ -"เธอหยุดชั่วคราวและพูดตรงประเด็น "เมื่อหมิงซีตัดสินใจอะไร เธอจะเด็ดขาดมากกว่าที่คุณคิด"ฟู่ซือเยี่ยนกระชับฝ่ามือของเขาและยืนอยู่ที่นั่นสองสามวินาทีจึงเดินเข้าห้องผู้ป่วยหลินเสวี่ยเวยเห็นฟู่ซือเยี่ยนกลับมา เธอถามอย่างกังวล " พี่อาเยี่ยน พี่ได้เอาปากกาบันทึกเสียงกลับมาหรือเปล่า"เธอเห็นฟู่ซือเยี่ยนตามออกไป เธอก็คิดว่าเขาจะช่วยเธอเอาปากกาบันทึกเสียงคืนมาดูสิ ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอะไร พี่อาเยี่ยนก็ยังปล่อยเธอไปไม่ได้ครั้งที่แล้วเขาไม่ได้ติดตามเรื่องการเปลี่ยนใบรับรองผลการตรวจการเป็นบิดาไม่ใช่เหรอครั้งนี้เธอถูกหมิงซีทุบตีหนักขนาดแนี้ และป
ซูเนี่ยนหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เธอเม้มริมฝีปากอันสีแดงของเธอ " หลินเสวี่ยเวย บ้านคุณไม่มีกระจกเหรออิจฉาใบหน้าของคุณที่เต็มไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิกมากเกินไปหรืออิจฉาคุณเก่งเรื่องแย่งสามีของคนอื่นหรืออิจฉาคุณทำแบ้วทันทีเมื่อเห็นผู้ชาย หรืออิจฉาคุณมีทักษะการแอบแรดเหรอ"ทุกคำพูดของซูเนี่ยนแทงทะลุหัวใจของหลินเสวี่ยเวยถ้าฟู่ซือเยี่ยนไม่ได้อยู่ที่นั่น เธอคงรีบเข้าไปฉีกปากของซูเนี่ยนเป็นชิ้น ๆ แล้วในเวลานี้ ฟู่ซือเยี่ยนค่อย ๆ ดึงมุมเสื้อผ้าของเขาออกจากมือของหลินเสวี่ยเวย เขาก้มหัวหมองหลินเสวี่ยเวย“ เสวี่ยเวย ครั้งที่แล้วพี่พูดอะไรไป หนูลืมแล้วเหรอ”เขาหมายถึงคำเตือนที่เขาพูดในคืนที่เขาจับตัวป้าหลินไปความเย็นจากฝ่าเท้ากระจายไปทั่วร่างกาย หลินเสวี่ยเวยรู้สึกหนาวจนตัวสั่น เธอบีบตัวเองแรง ๆ และน้ำตาก็ไหลอาบหน้าทันที“ พี่อาเยี่ยน ไม่ใช่หนูจริง ๆ อย่าเชื่อเธอ เธอเข้าข้างหมิงซี เธอต้องช่วยหมิงซีแน่…”"ฮือ ๆ " ซูเนี่ยนประชด:"ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันยอมจ้างองค์กรมืออาชีพทำการประเมินเพื่อดูว่าเสียงนี้เป็นเสียงที่ถูกตัดแปลงขึ้นมาหรือเปล่า"“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลย” หลินเสวี่ยเวยดุอย่างแรง“พวกคุ
หลินเสวี่ยเวยยังไม่ทันโต้ตอบ ซูเนี่ยนรีบถาม "ในเมื่อคุณบอกว่าหมิงซีตีคุณ ฉันขอถามคุณก่อนว่าทำไมเธอถึงตีคุณ"ใบหน้าของหลินเสวี่ยเวยแข็งทื่อทันที และความไม่สบายใจอย่างรุนแรงก็พลุ่งพล่านอยู่ในใจของเธอเธอพูดด้วยความตื่นตระหนก "ฉันบอกว่าเธอมีปัญหาทางจิต ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่..."รอยยิ้มบนใบหน้าของซูเนี่ยนหายไป และน้ำเสียงของเธอก็จริงจัง“คุณด่าว่าเธอเป็นสุนัขจรจัดที่ถูกคุณฟู่ทิ้งไม่ใช่เหรอ คุณยังบอกว่า ของในท้องของเธอเป็นตัวร้ายและตายแล้วดีมากเลย คุณยังด่าว่าเธอเป็นดวงซวยของทั้งครอบครัว..."ทุกคำพูดเป็นเหมือนการเล่าขานยิ่งหลินเสวี่ยเวยฟังมากเท่าไร สีหน้าของเธอก็ยิ่งแย่ลง และเธอก็อุทาน "คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระ"เมื่อก่อนหลินเสวี่ยเวยด่าหมิงซีนังตัวแสบ แต่ไม่เคยเห็นหมิงซีบอกใครเลย แต่คาดไม่ถึง คราวนี้หมิงซีเล่าทำคำให้ซูเนี่ยนฟังแต่แล้วยังไงได้ล่ะ เธอกล้าด่าอย่างนั้น ยอมไม่กลัวหมิงซีฟ้องอยู่แล้วอีกอย่างไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่จะพิสูจน์ว่าเธอพูดเช่นนั้นซูเนี่ยนยิ้มและพูดต่อ "อย่ากังวล ฉันยังพูดไม่จบ คุณยังบอกด้วยว่าคุณเปลี่ยนใบรับรองผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดาและ
ฟู่ซือเยี่ยนได้ยินคำพูดนี้ เขาขมวดคิ้วทันทีหลินเสวี่ยเวยตกใจมากจนเธอซ่อนตัวอยู่ข้างหลังของฟู่ซือเยี่ยน และตกใจ "ทำไมคุณถึงบุกเข้าไปในหอผู้ป่วยของคนอื่น"เธอรู้ซูเนี่ยนเป็นเพื่อนสนิทของหมิงซี พวกเธอไม่คุ้นเคยกันแต่เคยพบกันที่งานปาร์ตี้“ไม่เป็นไร ฉันรีบไปแล้ว พวกคุณสามารถไปต่อได้หลังจากที่ฉันออกไปแล้ว”ก่อนจะเข้าห้อง ซูเนี่ยนจูงใจทาลิปสติกสีแดงสดเป็นพิเศษ ในขณะนี้ เธอเม้มริมฝีปากและยิ้มเต็มไปด้วยทรงพลังหลินเสวี่ยเวยนึกว่าซูเนี่ยนมาตามหาฟู่ซือเยี่ยนเพื่อแก้แค้นให้หมิงซี ดวงตาของเธอก็ฉายแววด้วยความชั่วร้าย และเธอก็พูดอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง "คุณซู นี่คือห้องของฉัน เชิญออกไปเดี่ญวนี้เลยค่ะ"ถ้าเป็นตระกูลซูในปีที่แล้ว เธอยังคงพูดสุภาพกับซูเนี่ยน มากกว่านี้ เพราะครอบครัวของเธอยังพอแข่งกับตระกูลหลินได้แต่ตอนนี้ ตระกูลซูถูกลู่จิ่งสิงปราบปรามจนไม่เหลืออะไรแล้ว เธอได้ยินมาว่า พวกเขาทั้งหมดต้องพึ่งพาคุณซูขายตัวเพื่อช่วยบริษัทหญิงขายตัวไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะถือรองเท้าให้เธอ ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องสุภาพกับหญิงโสเพณีคนนี้ซูเนี่ยนเยาะเย้ย "ถ้าฉันออกไป ฉันจะเห็นคุณเห้อยตัวบนสามีของคนอื่
คำถามนี้ทำให้หัวใจของหลินเสวี่ยเวยเต้นเร็วขึ้นเธออยู่ในสภาพที่น่าสังเวชขนาดนี้ ฟู่ซือเยี่ยนกลับไม่เรียกคุณหมอมารักษาเธอก่อน แต่สนใจเรื่องนี้ก่อนยิ่งไปกว่านั้น กระดูกสะบ้าของเธอยังเจ็บอยู่ และเธอไม่รู้ว่ากระดูกนี้ถูกนังเลวนั้นเหยียบแตกหรือเปล่าหลินเสวี่ยเวยโกรธในใจ แต่ใบหน้าของเธอสงบและดวงตาของเธอก็เปียกน้ำขณะที่เธอพูดว่า“หนูไปเยี่ยมเธอเฉย ๆ หนูไม่รู้เลย เราคุยแค่สองประโยคเอง หมิงซีก็รีบวิ่งเข้ามาหาหนูอย่างบ้าคลั่ง หนูกลัวจะตาย”“หนูพูดอะไรในสองประโยคนี้” ดวงตาสีเข้มของฟู่ซือเยี่ยนมองดูเธออย่างลึกซึ้งด้วยความหมายที่ไม่ชัดเจนหลินเสวี่ยเวยไม่คาดคิดฟู่ซือเยี่ยนจะไล่ถามเธออย่างนี้ ไม่ว่าผู้ชายที่หล่อเหลาเช่นนี้จะมองเธอกี่ครั้ง เธอก็จะรู้สึกตื่นตระหนกในใจโดยไม่รู้ตัวดวงตาของเธอสั่นไหวและเธอก็ร้องไห้ "หนูแค่ถาม' หมิงซี คุณเป็นอะไรไป ทำไมคุณดูแย่มาก' จู่ ๆ เธอก็รีบวิ่งเข้ามาตีหนู"ฟู่ซือเยี่ยนจ้องมองไปที่ใบหน้าที่บวมของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หนูไม่ได้พูดอะไรทำให้เธอโกรธเหรอ"หลินเสวี่ยเวยปฏิเสธทันที "ไม่ค่ะ หนูจะทำได้ยังไง เธอเป็นคนที่เอาแต่พูดอยู่เสมอว่า พวกเราเป็นคนที่ฆ่
"ออกไป"ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ซีดเซียวของหมิงซีแสดงความรังเกียจโดยไม่ปิดบังมือของฟู่ซือเยี่ยนแข็งนิ่งในอากาศ และสีหน้าของเขาแย่มากเป็นพิเศษทันใดนั้นหลังของเขาก็ตึงขึ้น และมีคนเข้ามากอดเขาดูเหมือนว่าหลินเสวี่ยเวยเจอคนช่วยชีวิต เธอกอดฟู่ซือเยี่ยน อย่างแน่น ร่างกายของเธอสั่นเทาเธอตกใจมากจนพูดไม่ออก " พี่อาเยี่ยน หมิงซีบ้าไปแล้ว หัวเข่าของหนู... ถูกเธอเหยียบ หนูเจ็บมากค่ะพี่ ช่วยหนูด้วย เธอมันบ้า เธออยากฆ่าหนูด้วย"......"ผู้ดูแลเข้ามาในเวลานี้ เธอเห็นห้องรกอย่างนี้ เธอตกใจมาก เธอรีบก้าวไปข้างหน้าและช่วยหมิงซีไปที่เตียงบาดแผลที่หู หมิงซี เปิดออกอีกครั้งเพราะ หลินเสวี่ยเวย เพิ่งกระแทกเธอลงบนรถเข็น และมีเลือดไหลออกมา แต่ดูเหมือนเธอจะหมดสติและมองดูชายและหญิงที่พันกันอย่างเย็นชาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความประชดฟู่ซือเยี่ยนพาหลินเสวี่ยเวยไปนั่งที่รถเข็น แต่หลินเสวี่ยเวยยังคงจับมือของฟู่ซือเยี่ยนไว้แน่นและร้องไห้จนตัวสั่นไปทั่วทั้งตัว ราวกับว่าเธอหวาดกลัวจริง ๆแสดงก็ดีจริง ๆถ้าเป็นหมิงซีคนก่อน เธอคงกลัวถูกเข้าใจผิดและรีบอธิบายด้วยความตื่นตระหนกแน่นอนแต่ตอนนี้หัวใจของหมิงซีว่างเปล่า
หมิงซี หัวเราะเยาะ" หลินเสวี่ยเวย ฉันขอบอกคุณละกัน ฉันนี่แหละ เป็นคนทิ้งฟู่ซือเยี่ยน ขยะที่โดนฉันทิ้ง คุณจะมาอวดทำไม"หลินเสวี่ยเวยไม่รู้สึกโกรธเลย แต่รู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่งด่าไปเถอะ ด่าแรงกว่านี้สิเธอไม่เชื่อหรอกว่า นังเลวนี้ด่าแรงขนาดนี้ พี่อาเยี่ยนยังอยากได้ผู้หญิงเลวคนนี้คงลากเธอไปหย่าในวินาทีหน้าหมิงซีค่อย ๆ พูดต่อ "ในเมื่อคุณต้องการเก็บขยะที่ฉันใช้แล้ว ฉันจะช่วยพวกคุณละกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้หญิงสำส่อนกับผู้ชายเหี้ยคงอยู่ตลอดไป และผู้ชายหน้าหม้อคู่กับหญิงโสเพณี รักกันนาน ๆ ”ประโชคสุดท้ายทำให้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังหยุดก้าวเท้า ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเริ่มน่ากลัวผู้ชายชั่ว ผู้ชายหน้าหม้อเหรอหมิงซีเริ่มพูดเก่งขนาดนี้เมื่อไรหลินเสวี่ยเวยไม่ชอบคำพูดนี้เหมือนกัน เธอโกรธและพูด "คุณด่าใครผู้หญิงชั่ว ใครหญิงโสเพณี"“โอ้ ฉันเกือบลืมไป อาชีพของคุณควรจะเป็นเมียน้อย”คำพูดเหล่านี้ทำให้หลินเสวี่ยเวยอายจริง ๆหมิงซีขดริมฝีปากขึ้นและเยาะเย้ย "อย่ากังวลสิ แม้ว่าคุณจะเป็นเมียหลวงได้ มันจะไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าคุณเป็นต้นเหตุที่ทำให้สามีภรรยาคู่อื่นหย่าร้าง ประวัติศาสตร์อันร้ายนี
ทันใดนั้นรอยยิ้มที่ผิดปกติก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินเสวี่ยเวย เธอมองหมิงซี ดูเหมือนเธอกำลังมองคนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา“คุณยังคิดว่าพี่อาเยี่ยนไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม”หมิงซีตัวแข็งทื่อและเธอก็พึมพำ "คุณหมายความว่ายังไง"หลินเสวี่ยเวยมองสีหน้าของหมิงซี เธอรู้หมิงซีไม่รู้เรื่องนี้นั่นน่ะสิ พี่อาเยี่ยนบอกเธอเรื่องนี้ทำไมหลินเสวี่ยเวยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ พี่อาเยี่ยนรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่เพราะเป็นเกี่ยวฉัน เขาจึงไม่ติดตาม”สมองของหมิงซีว่างเปล่าไปครู่หนึ่ง จากนั้น เธออยากจะหัวเราะมากหัวเราะความโลภ ความโกรธ ความหลงไหล และความโง่เขลาในอดีตของเธอเธอกล้ามั่นใจว่า แม้ว่าเธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับหลินเสวี่ยเวยได้ แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นทางเลือกสองทางเดียวของฟู่ซือเยี่ยนแต่เธอลืมไปว่า ในโลกนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่เคยมีสองเลยแม้ว่าฟู่ซือเยี่ยนจะรู้ถึงความชั่วร้ายของหลินเสวี่ยเวย แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะแม้ว่าผู้หญิงคนนี้เกือบจะทำร้ายเนื้อตัวของตัวเขาเองแล้วไงล่ะเมื่อเผชิญหน้ากับผู้คนที่เขาต้องการปกป้องในใจ หลักการและเส้นตายของเขาสามารถถอยกลับได้ครั้งแล้วครั้งเล่าในที่สุ