“โอ๊ย... อลัน...” ก็คงหนีไม่พ้นต้องยอมโอนอ่อนตาม ริมฝีปากหนากดจูบลงใต้คางของเธอที่เชยหน้าพริ้มตาปิดสนิทแน่น ความรู้สึกขนลุกชูชันมาพร้อมซุ่มเสียงหวานปะปนไปกับเสียงหัวเราะ“นี่... มันไม่ได้เสียวเลยนะ... มันจั๊กจี้หนวดค่ะ”“โกนให้หน่อยสิ” กระซิบเบา ๆ เขากดริมฝีปากลงอีกครั้งบนเนินอกไหวสะท้าน กระเพื่อมตามลมหายใจหอบสั่นและมันคงเป็นที่สุดท้ายเพราะถ้าหากว่าไปต่อเขาไม่มีทางหยุด...พอมอบอิสรภาพให้คนใต้ร่างโดยที่เขาพลิกตัวกลับไปนั่งพิงหัวเตียงเพื่อรออย่างตื่นเต้นดีใจ หญิงสาวถึงกับถอนหายใจแรงเพราะอารมณ์หวามไหวเธอตั้งใจจะลุกไปดูแลเขาอย่างที่เคยทำ ทว่าความเจ็บระบมทำเอาน้ำตาแทบไหลแค่ขยับตัว สุดท้ายก็ไม่สามารถหยัดกายขึ้นนั่งจากที่นอนได้จริง ๆ จนต้องหันกลับไปตาละห้อยมองคนข้างกาย“อลัน... มัน... เจ็บมากเลย”เป็นเรื่องน่าอายที่สุดของนัชชาเมื่อเธอต้องลากสังขารในสภาพเหยียบย่องเท้าเยี่ยงนินจาไปหาหมอตรวจภายใน ในโรงพยาบาลเอกชนของตัวเมืองระยอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก หลังรับประทานอาหารเช้าด้วยขนมปังแค่สองชิ้นกับนมหนึ่งแก้วพบแพทย์เสร็จแล้วได้ทั้งยาทา ยากินแก้อักเสบมาเพราะเจอหนอนน้อยน่ารักอันเท่าแขน! ต
กระเป๋ามาส่งถึงหน้าห้องพร้อมไวน์ ได้อยู่กันตามลำพังสองต่อสอง หญิงสาวก็ทำตามรับปาก เริ่มจากส่งสายตากรุ้มกริ่ม ถอดเสื้อตัวโตโยนทิ้งลงบนพื้น เหลือแค่กางเกงขาสั้นดวงตาคู่สีฟ้าครามประกายตามติดแผ่นหลังบางบนร่างเย้ายวนไป เพราะคิดว่าเธอจะรอเขาเป็นฝ่ายตามเข้าห้องน้ำ กลายเป็นว่าอุปกรณ์สองสามอย่าง มีดคมในมือเรียว ขวดครีมกับผ้าหนึ่งผืนวางลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนที่เธอจะนั่งลงบนที่นอน“จะให้โกนหนวดให้ไหมคะ?”“อืม... มาสิ” ตอบพลางจับจ้องอยู่กับหน้าอกเต่งตึงรูปทรงสวยล้นทะลักจากบราเซียร์สีดำ ที่ต้องแหกขี้ตาตื่นไปเลือกซื้อให้เองกับมือทั้งที่ได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงมันก็คงไม่ใช่ของแบรนด์เนมราคาแพงอะไร ในเมื่อไม่มีให้เลือกมากนักในเวลาเช้าตรู่ ห้างสรรพสินค้าเล็ก ๆ จุดพักรถเท่านั้นแหละที่มีขาย แต่ลูกคุุณหนูอย่างเธอกลับไม่ว่าอะไรเขาสักคำ“นอนลงไปนิ่ง ๆ นะคะ”ได้ยินเท่านั้น ความรู้สึกตื่นเต้นเกิดขึ้นในใจ เมื่อสาวน้อยนักศึกษาที่ไม่ได้เรียบร้อยนักกำลังจะกลายร่างเป็นแมวยั่วสวาท เธอยกมือขึ้นผลักหน้าอกเบา ๆ เหมือนเป็นแรงมหาศาล ร่างหนาเหยียดตัวลงนอนอย่างว่าง่าย“ทำไมทำตัวน่ารักแบบนี้... หืม...?”“รับรองว่าปริมน่า
มือเรียวเล็กลูบหน้าท้องไปมา ก้มหน้าลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “วันนี้ต้องเดินหน่อยนะลูก แม่จะเดินระวัง ๆ แม่จะกินเยอะ ๆ นะ”ได้ยินจากคุณหมอมาว่าระบบการได้ยินของทารกจะเริ่มพัฒนาเมื่ออายุครรภ์ 24-26 สัปดาห์ขึ้นไป วงหน้าหวานบึ้งตึงเบะปากเป็นเด็กเล็ก ขณะมองไปทางร่างบางสมส่วนในเดรสสายเดี่ยวยาว เปิดหลังโชว์ความเซ็กซี่ตามสไตล์นัชชา“แกว่าลูกจะได้ยินที่ฉันพูดไหมอ่ะ ปริม...““เป็นอะไรอีกล่ะ? คุณแม่ ทำหน้าสวย ๆ หน่อยสิคะ ลูกรู้อยู่แล้วน่าว่าคุณพ่อ คุณแม่กำลังจะแต่งงาน” เสียงหวานทัก ยกสองมือขึ้นลูบไหล่มนอย่างให้กำลังใจในตลอดชีวิตของปรายลดา ความรักของเธอและพ่อเลี้ยงถูกเก็บไว้ในก้นบึ้งของหัวใจมานาน กว่าจะยอมรับกันและกัน ได้ใช้เวลาร่วมกันเช่นคู่รักในหลายเดือนมานี้มันจึงเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ทว่าเธอก็เอาแต่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง“ฉันยังไม่ได้คิดชื่อลูกเลยอ่ะ... คือคิดนะ แต่มันคิดวนไปวนมา สุดท้ายไม่รู้จะให้ชื่ออะไรดี”“ฉันว่า... ถ้าเป็นผู้หญิงให้ชื่อ ‘กอหญ้า’ เป็นผู้ชายให้ชื่อ ‘กอไผ่’ ดีมะ เพราะว่าคุณแม่ชื่อ ‘พุทรา’” ออกความเห็นด้วยความเข้าใจฮอร์โมนคุณแม่ดีหน้ากระจกบานใหญ่ในห้อ
“แล้วพี่เปาจะให้ชื่ออะไรคะ? อเล็กซานเดอร์ เมสซี่ คริสเตียโน ลีโอนาโดเลยไหม?” เธอประชดหน้านิ่ง ขณะที่ลมโชยมาเบา ๆ ในช่วงหัวค่ำพอรู้สึกเย็นขึ้นเมื่อไร สามีก็จะกอดประคองคอยให้ความอบอุ่นกับเธอและลูกอยู่ตลอดเวลา“อืม... ใช้ได้ทุกชื่อ รสนิยมดีนะเรา แต่จะมีลูกให้ครบทีมฟุลบอลเนี่ย พุดกับพี่ต้องทำการบ้านหนักน่าดู”“บ้า...” ว่าแล้วก็ยกมือตีบ่ากว้างอย่างเขินอายปรเมษฐ์ชะโงกคอมองเห็นว่าแขกเข้างานกันไปหมดแล้ว มีเพลงเปิดคลอไปอย่างที่เขาตั้งใจเอาไว้ว่าไม่อยากให้มันเป็นทางการมากเกิน เขาและภรรยารวมถึงแขกเหรื่อจะได้มีเวลาอิ่มเอมกับบรรยากาศโรแมนติกริมทะเล ก่อนก้มหน้าลงมองคนตัวเล็กที่เชยมองเขาด้วยสีหน้าเป็นสุข“พี่อยากมีลูกกับพุดอีกคน แต่พี่อายุเยอะแล้ว พี่ว่าคลอดคนนี้เสร็จพักแผลหน่อยแล้วมีต่อเลยจะดีมาก”“พุดว่าไม่ดีมั้ง เลี้ยงลูกหัวฟูเลยนะ”“ไม่เป็นไรครับ พี่เลี้ยงได้ ถึงพี่จะเลี้ยงเด็กไม่เก่งเท่าแม่อนงค์ เพราะเมื่อก่อนพี่ไม่ได้เป็นคนเลี้ยงพุดบ่อย ๆ” พูดพลันโน้มตัวลงคว้ามือเล็กข้างหนึ่งขึ้นมากุมมือไว้ ยังคงโอบบ่ามนอยู่แนบกาย แววตาคู่คมเข้มประกายสั่นไหวมองไปทางรูปใบใหญ่ของเธอและเขาในชุดแต่งงานท่ามกลางวิว
“ผมว่าคนในวัยเที่ยวเล่นไม่สละเวลาไปขายเสื้อผ้า ทำอะไรเหนื่อย ๆ ปริมเป็นคนเก่ง ขยันเรียน ขยันทำงาน” คำแย้งในความชื่นชมเกือบทำคะแนนได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดเพื่อคนทั้งสอง แต่เป็นนัชชา“อันนี้เห็นด้วยอยู่ ผมแค่ไม่ชอบเรื่องนี้ ปริมยังเด็ก ไม่ใช่วัยที่จะมีความสัมพันธ์...” เสียงที่เงียบไปในแววตาวาวโรจน์ แค่นึกว่าใครพาเด็กสาวที่เลี้ยงมากับมือไปปู้ยี่ปู้ยำ แบร์นาร์ดไม่แม้จะมองหน้าอดีตเพื่อนร่วมงาน“ลูกฉันไม่เด็กหรอก ฉันสอนลูกทุกอย่างแม้แต่เพศศึกษา ฉันเองก็มีผัวมาแล้วยังมีอีกได้เลย... ลูกฉันคงไม่ถือ...”“ครับ ขอบคุณที่บอก แต่ผมถือ... ผมพูดจริงนะคุณนาย วันนี้ผมอาจจะเตะปากหนุ่มคนไหนของเธอสักคนก็ได้ เอาเป็นว่าผมจะลากไปข้างหลังเงียบ ๆ แล้วกัน” พูดพลันฉีกยิ้มกว้างประชด แม้ว่าบุคคลตรงหน้าจะเป็นพ่อปู่แม่ย่าเขาก็ไม่สน! ชายหนุ่มเดินอาด ๆ หนีไป‘มีผัวมาแล้วยังมีอีกได้เลย... ลูกฉันคงไม่ถือ...’แต่ก็นั่นแหละ! ฝังเข้าไปในหัวสมองของเขาอยู่ตลอดเวลาในบรรดาลูกเศรษฐี ‘นัชชา ธนทรัพย์สกุล’ นับว่าเป็นสาวไฮโซพอตัว ทั้งโลกโซเชียลและผ่านทางเพื่อนฝูงปาร์ตี้ ใคร ๆ ต่างก็รู้จักเธอ ด้วยความที่คุณแม่ชอบพาลูกสาวไปเปิดตัวตา
ดอกไม้หล่นตุบในมือของคนที่กำลังยืนโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงวงหน้าหล่อเหลาขมวดมุ่นมองดอกกุหลาบสีขาว ตามสัญชาตญาณของเขาที่คว้าไปโดยไม่ได้คิดอะไร ฉับพลันกับที่จะต้องอ้าแขนตะครุบเข้าอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเจ้าของร่างบางกระโดดโผตัวปลิวมาจากเวทีหนุ่มหล่อผู้มีวี่แววว่าจะได้เป็นเจ้าบ่าวคนต่อไปรับได้ทั้งสาวทั้งดอกไม้พาเสียงโห่ร้องดังจากผู้คนในงานอีกรอบอลันไม่ได้อยู่ในอารมณ์ดีนัก เขาเพิ่งปะทะคารมกับนายธามไทและคุณนายนิตยามา อีกคนเลยไม่ยอมปล่อยมือที่ล็อกคอไว้ ขณะสองขาแตะลงพื้นสองหนุ่มสาวไม่ได้สนใจสายตาหลายคู่และเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี“ตามแบบฉบับของหนังฝรั่ง ปริมว่าเราต้องจูบปรับความเข้าใจกันหรือเปล่า?”“ไม่... เด็ดขาด ผมไม่ชอบทำเรื่องวาบหวิวในที่สาธารณะ”“งั้น... เราไปหาที่เงียบ ๆ อยู่กันสองคน...” เสียงแผ่วเบาบอกอย่างจงใจให้อีกคนคอยอ่านปากเขาได้ยินชัดทุกถ้อยคำ! ลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างหื่นกระหาย พร้อมอารมณ์ร้อนวูบวาบระลอกหนึ่ง หายหงุดหงิดไปเสียเฉย ๆ“ยังไม่เลิกงานเลย...”“ไม่เป็นไร ปริมรอได้ ขอรับดอกไม้เจ้าสาวไปก่อนละกัน” บอกแล้วก็ยื้อแย่งดอกกุหลาบขาวจากมือหนาที่จำต้องยอมยกมันให้ ด้วยว่าเขาคงจะต้องท
ร่างบางในเสื้อสีหวาน กางเกงยีนสีซีดในลุคเปรี้ยวจี๊ดขึ้นรถยนต์ดี คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วเอนเบาะนอน ไม่รอฟังคำบ่น ต่อให้บ่นเธอก็คงจะไม่สนใจอย่างน้อยนัชชาก็ทำให้ทุกคนมีความสุขในวันนี้การเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จากโรงแรมริมทะเลเมืองพัทยา ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงบางครั้งคนโดยสารก็ลืมตาขึ้นมางัวเงียถามว่าเขาง่วงไหมระหว่างทาง ถึงรู้คำตอบอยู่แล้วว่าสารถีส่วนตัวไม่เคยปล่อยให้เธอขับรถให้แม้สักครั้งอลันจำได้ว่าครั้งเดียวตอนเขาป่วยแค่นั้น อารมณ์ร้อน ๆ พอจะทุเลาลงบ้างในรถยนต์แอร์เย็นฉ่ำที่มีเสียงเพลงเปิดคลอไปเบา ๆ แม้ว่าเขายังคงหงุดหงิดกับโทรศัพท์สั่นดัง ซึ่งเขาต้องเป็นคนรับและบอกว่าเธอหลับ ปลายสายคือแม่คนจึงปล่อยให้ลูกสาวพักผ่อนเรื่องที่นัชชาไม่ค่อยได้นอนนั้นไม่ใช่เรื่องโกหกเหมือนปวดท้องปวดหัวเธอให้ความใส่ใจกับเรื่องการขายเสื้อผ้าร้านปรายลดามาก ถึงขั้นว่าอาสาขับรถไปรับของที่สนามบินแทนเพื่อนที่คงไม่สะดวกเดินทาง นำเสื้อผ้าแฟชั่นมากองไว้ที่คอนโดมิเนียมเพื่อคัดแยก รับออเดอร์กับแอดมินประจำร้าน รวมไปถึงช่วยไลฟ์ขายสินค้าในช่องทางโซเชียลที่หลายคนรู้ก็คงเพราะแอบตามอยู่ห่าง ๆ ทั้งน้องชายของเขาคือเจมส์ บางคร
พอคนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก เขาไม่รีรอโน้มตัวลงประกบเรียวปากอิ่มงามเคลือบลิปสติกสีชมพู มือกระตุกโบว์เกะกะลูกตามาตั้งแต่หัวค่ำให้คลายออก ลู่ลงไปตามแรงโน้มถ่วงริมฝีปากหนาสั่นเต็มไปด้วยความหิวกระหาย ปลายลิ้นหนาแทรกเข้าไปรวดเร็ว ลิ้มชิมความหวานแต่ก็เพียงไม่นาน ความปรารถนาพาให้สั่นสะท้านไปทั้งกายลมหายใจหอบสั่นของคนตรงหน้าบอกว่ากำลังต้องการเขาเช่นกัน“คืนนี้ผมไม่เกรงใจนะ ที่รัก... รับปากว่าจะปรนนิบัติยันเช้า... ลุกไปทำงานให้ไหวละกัน” น้ำเสียงแผ่วเบาแฝงความโกรธอยู่ลึก ๆ ชายหนุ่มระบายมันออกมาด้วยการตะบมจูบบ้าคลั่ง รวบสะโพกกลมกลึงขึ้นสูง ร่างบางก็ยกตัวขึ้นกอดเกี่ยวเอวสอบด้วยขาทั้งสองข้างไม่ต่างจากน้ำมันกับไฟก็เธอกับเขานี่ล่ะ!ปลายลิ้นหนากระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กพร่ำสอนบทเรียนเดิม คนฉลาดอย่างนัชชากลับไม่สามารถตามการรุกรานได้ทัน พออากาศอันน้อยนิดถูกช่วงชิงไปเรื่อย ๆ ลิ้นไม่ประสีประสาก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้และเมื่อร่างสูงทิ้งตัวลงบนที่นอนยวบยุบตามน้ำหนัก สะบัดรองเท้าออก ดันหัวเข่าขึ้นชันต้นขาด้านในของเธอไว้อย่างใจร้อน ก่อนจะผละจูบออกอย่างนวยนาด ด้วยกลัวว่าอีกคนจะขาดใจตายเสียก่อนเสียงเต้นตึกดัง
อลันไม่ได้กลับไปทำงานกับเจ้านายเก่าอย่างปรเมษฐ์ เมื่อคุณนายนิตยาไม่ยอม หล่อนรั้งเขาไว้ด้วยคำว่าจะไม่ยกลูกสาวให้คำเดียว เขาจึงต้องลาออกเป็นการถาวรแต่ส่งน้องชายคือเจมส์ไปฝึกงานเลขาฯ แทนชีวิตแต่งงานเรียบง่ายที่มีความสุขในทุก ๆ วัน จะมีทะเลาะกันบ้างเพราะความเอาแต่ใจประสาเด็กสาว หรือเรื่องความขี้หึงของอลันมาถึงจุดหมายปลายทางในช่วงบ่าย ผ่านด่านตรวจคนเข้ามาเมืองมาอย่างง่ายดาย คนเป็นสามีก็ทำหน้าที่ผู้นำครอบครัว เรียกรถแท็กซี่ บอกทางที่จะไปด้วยภาษาท้องถิ่น ช่วยคนขับรถเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไว้ข้างหลัง“พี่พูดได้กี่ภาษาอ่ะ? ทำไมปริมไม่เคยถามพี่เลยนะ” เสียงหวานบ่นถามทั้งตัวเองและคนที่ปิดประตูนั่งตามในที่นั่งข้างหลัง“ภาษาไทย... โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษครับที่รัก...”ความสนิทสนมกันเกินไป มีบางอย่างที่ไม่รู้... หญิงสาวชะงักนิ่งไปหลังนับนิ้วจนครบว่าไม่ผิดแน่“ตั้งห้า... ภาษา แล้วปริมเคยว่า...” เธอหน้าตาตะลึงมองเขาที่แค่ยิ้มกับคำดูถูกคราแรกพบหน้ากัน แน่ว่าอลันจำมันได้แม่น!‘เลขาฯ แม่ฉัน คุณแบร์นาร์ด หนุ่มฝรั่งเศสพูดได้ตั้งสี่ภาษา...’“ตอนสักอายุสิบห้า พ่อแม่พี่ไม่ค่อยว่าง พี่กลับมาอยู่บราซิลกับ
“ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ต้องร้อง...”สองหนุ่มสาวกอดกันตัวกลม สองหนุ่มบอร์ดี้การ์ดมองหน้ากันก็ตรงไปสะสางเรื่องให้เรียบร้อย เจ้าของห้องที่ใบหน้าลำคอเต็มไปด้วยรอยข่วนไม่ได้หนีหรือมีท่าทีหวาดกลัวอานนท์เป็นคนส่งการ์ดกุญแจห้องให้เธอเดินออกไปเฉย ๆ และแค่มองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดชายอื่นด้วยแววตาเศร้าหมองจนเธอจากไป-------------------------------เรื่องวุ่นวายทั้งหมดถึงหูคุณนายที่มารออยู่ข้างล่างเพนเฮ้าส์ของนายอานนท์พร้อมกับแบร์นาร์ดนิตยาเพิ่งรู้ว่าลูกสาวมีปัญหากับปิ่นแก้ว ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นเรื่องใหญ่โตจนเกิดการทำร้ายร่างกาย คุณแม่ที่กำลังเกรี้ยวโกรธจึงส่งทนาย โทรบอกพวกพ้องให้จัดการกับคนผิดอย่างถึงที่สุดนัชชาไม่ใช่เด็กที่จะร้องไห้เพราะความกลัว แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเพราะถูกเลี้ยงดูมาเช่นนั้นวันนี้เธอแค่ทำตัวเป็นเด็กเล็ก ๆ ตั้งแต่อ้อนกอดผู้ชายตัวโต ให้เขาต้องอุ้มขึ้นรถในที่นั่งข้างหลัง ในสายตาของหลายคนรวมถึงพ่อแม่คงไม่ขัดหรือห้ามปราม เพราะคงจะห้ามกันไม่ได้กับการที่คุณหนูของบ้าน โตเป็นสาว ได้ตกหลุมผู้ชายสักคนหัวปักหัวปำเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำแล่นฉลิวในความเงียบ มีโอกาสได้นั่งกันตามลำพังข้า
ก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่าตัวต้นเหตุยังวนเวียนอยู่แถวนี้ หลังจากที่เขาขับรถมาสมทบกับเจมส์ ยังมีบอร์ดี้การ์ดนอกเครื่องแบบอีกสองคน ตามคำสั่งของคุณนายว่าให้เฝ้าลูกสาวไว้ “พวกสวะน่ะพอได้ ตำรวจต้องการตัวอยู่แล้ว ซัดทอดความผิดไปว่าเก็บกันเอง ขัดผลประโยชน์ แต่คุณนักธุรกิจคนดังคนนั้น ใจเย็น ๆ หน่อย” “อย่างมากก็กลับไปอยู่บราซิล...” พูดจบก็เหน็บอาวุธไว้ด้านหลัง ก่อนลงจากรถยนต์อย่างไม่รอช้า แน่นอนว่าเขาจะใช้มันในยามจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น ถุงมือถักทอด้วยเส้นใยโพลีเอสเทอร์บางละเอียด ใช้กับงานที่ป้องกันคราบเหงื่อและรอยนิ้วมือจะทำให้เขาไม่ทิ้งรอยนิ้วมือเอาไว้ถูกสวมทีละข้าง ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉย ลอบมองซ้ายขวามือกระตุกหมวกแก้ปให้ปกใบหน้าลงมาเล็กน้อย เปลวไฟในดวงตาคู่คมสีฟ้าครามลุกโชน จับจ้องอยู่กับรถยนต์สีดำอีกสองคันถัดไป คนขับนั้นเป็นพี่น้องห่าง ๆ หน้าตา ความสูง และรูปร่างเป็นล่ำสันใกล้เคียงกันกับเขา สองคนข้างหลังที่เพิ่งจะขึ้นรถไปต่างหากคือเป้าหมาย... ------------------------------- สิ่งที่นัชชาไม่ต้องการมากที่สุด คือความเจ
“พี่ให้โอกาสน้องขอโทษน้องสาวพี่แล้วนะคะน้องปริม แต่น้องยังทำปากดี ช่วยไม่ได้”แทนที่นัชชาจะกลัว กลับแค่นหัวเราะ “ฮึ! แกคิดดีแล้วเหรอ? ที่มายุ่งฉันน่ะ”“ไม่ได้ยุ่ง แค่มาเป็นกามเทพ... กับเป็นเพื่อนเจ้าสาว พี่คงต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้า” เสียงหัวเราะดัง ยกมือขึ้นป้องปากด้วยท่าทางเสแสร้ง ความคับแค้นใจสะท้อนขึ้นในแววตากร้าวของนัชชา หยัดกายลุกขึ้นนั่งในท่าเตรียมพร้อมปะทะ!“ฉันว่าแกควรไปพบจิตแพทย์นะนังปิ่น ไม่ก็หัดเข้าวัดเข้าวาซะบ้าง ผู้ชายเขาไม่เอาทำพาลไปทั่ว รับรองได้ว่าแม่ฉันเอาเรื่องแกแน่ ๆ” เสียงขู่ฟ่อหลุดรอดจากไรฟัน หญิงสาวอีกคนก็ขยับก้าวช้า ๆ มาหยุดลงข้างเตียงอย่างท้าทาย“แม่น้องไม่เอาเรื่องพี่หรอก... ดีเสียอีก... พี่มาช่วยให้เรื่องมัน Happy ending พี่ไม่ได้มาฆ่าใคร ไม่ได้ทำร้ายอะไรเราเลยนะ” ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของปิ่นแก้วแม้กระการแต่งตัวสบาย ๆ เสื้อยืดกางเกงยีน ทุกอย่างเหมือนเป็นเรื่องของคนกันเองตามปากว่าเป็นความสะใจล้วน ๆ ในเมื่อหล่อนอุตส่าห์อยู่เงียบ ๆ แลัวนังเด็กปากดี! ยังไปเอาเรื่องปานทิพย์ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยความคิดแค้นของปิ่นแก้วไม่น้อยไปกว่านัชชา ดวงตาคู่สวยคมฟาด
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาในเชิ้ตสีดำสนิทนั่งตัวเกร็ง มือกุมพวงมาลัยแน่น เครื่องปรับอากาศอุณหภูมิปรกติในรถให้ความรู้สึกเย็นยะเยียบ เขาจึงต้องกดปลายเท้าเหยียบลงอีก เพื่อให้ถึงจุดหมายเร็วขึ้น“ขับช้า ๆ หน่อยสิคุณอลัน จะรีบไปไหนกัน บ้านฉันก็อยู่แค่นี้” ใบหน้าสดสวยของสาววัยสี่สิบห้าละจากแท็บเล็ตในมือ สารถีประจำตัวก็ลดความเร็วลงเล็กน้อย โดยที่ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญหลายวันมานี้เขาเหนื่อยหน่ายกับการพูดเรื่องเดิม ๆ คือมาขอลูกสาว เมื่อคุณนายนิตยาทำเป็นไม่สนใจยังให้เหตุผลว่าลูกสาวของหล่อนเด็กเกินจะมีครอบครัว“ลูกปริม... มีเงินใช้หรือเปล่า?”“ปริมหาเงินใช้เอง แต่ถ้าวันไหนไม่มีหรือไม่พอ ผมไม่เคยปล่อยให้เมียลำบาก ผมโอนไวครับ”เมีย ย้ำชัดหนักแน่น คนข้างหลังปิดตาลงเพื่อสะกดกลั้นความโกรธ ก่อนจะเหน็บแนมด้วยถ้อยคำร้ายกาจ“ทรัพย์สมบัติพ่อ ทำไมไม่เอาไปลงทุน จะรอแต่งงานกับผู้หญิงไทยเอากรีนการ์ดค่อยกว้านซื้อที่ดินหรือว่ายังไง?”“ผมจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร? ผมไม่ได้อยากได้สัญชาติไทย เลิกให้คนไปสืบเรื่องของผมนะครับคุณนาย ที่ดินที่ผมไปดูมาคือเรือนหอของผมกับปริม ผมจะให้เธอเลือกเองว่าอยากได้บ้านแบบไหน”“แบร์นาร์ดบอกฉัน
ความสัมพันธ์อันดีของเขาจบลงที่การปล่อยมือจากสาวร้อนแรงอย่างปิ่นแก้ว ไม่ว่าเป็นใครก็คงจะต้องเสียดายอยู่ อานนท์คิดว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า“รอบนี้แกรับเสื้อมาจากจีนกี่กระสอบอ่ะ? ฉันต้องหุ้นกับแกเท่าไร” พูดไปพร้อม ๆ กับที่จดขยุกขยิกลงในโทรศัพท์ขนาดพอดีมือ สีหน้าจริงจังของนัชชาคงเฉพาะเวลาเรียน และธุรกิจเล็ก ๆ ของเธอกับเพื่อนสาวปรายลดาเป็นคนริเริ่มร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นในคราวแรก สุดท้ายก็ทำคนเดียวไม่ไหว โดยเฉพาะตอนนี้ที่ท้องโตมากจนเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวไปมา คราวเด็กน้อยในท้องถีบแขนถีบขา อีกไม่ถึงสองเดือนคลอดลูกแล้วคงจะได้ยุ่งวุ่นวายมากกว่านี้“ชุดนอนแขนสั้น กางเกงผ้าฝ้าย แจ็คเก็ตยีน อย่างละสามกระสอบ พวกงานลิขสิทธิ์เก็บไว้ก่อน ล่อซื้อเยอะไม่อยากเสี่ยง ทั้งหมดเท่าไรแกคิดเลย”กองเสื้อผ้าตรงหน้ามีที่ขายไม่ออก ตัวไหนขายดีปรายลดาก็จะสั่งมาอีกเป็นล็อต ๆในห้องพักแบ่งแยกเป็นสัดส่วน ห้องสตูดิโอของคอนโดมิเนียมกลายเป็นที่เก็บเสื้อผ้านับพันตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่างคนมีความเห็นตรงกันว่าไม่ควรไปเสียเงินเช่าห้องเก็บเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ด้วยค่าเช่าหลักครึ่งแสนต่อเดือนในเมื่อห้องนี้ก็ไม
“งานหมั้นเหรอ... น้ายกเลิกไปเพราะอะไรรู้ไหม?” ถามพลางยกมือป้องปากหัวเราะเป็นเรื่องตลกขบขัน ก่อนที่จะพิงแผ่นหลังบนเก้าอี้มีพนักของผู้บริหาร ใบหน้าสดสวยฉาบประกายเย็นยะเยือก“น้าไม่อยากให้ลูกสาวติดโรค เพราะไปคลุกคลีกับพวกมักมากในกาม เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อย”“ผมเป็นผู้ชายนี่ครับ... มีกินเล็กกินน้อยบ้าง ก็เป็นเรื่องปรกติธรรมดา แต่ผมจริงจังกับน้องปริม ถ้าผมหมั้นกับน้อง ผมจะไม่มีใครอีกทั้งนั้น” คนที่มีสีหน้าเข้มเครียดมาเพื่อแก้ความเข้าใจผิด อานนท์ไปพูดกับผู้ใหญ่ให้กลับมาคุยกับนิตยาอีกครั้ง ทว่าหล่อนก็ทำเป็นเมินเฉยจนเขาต้องเข้ามายืนทนโท่อยู่ตรงนี้“ลูกสาวน้าคบอยู่กับทายาทซีเพิร์ลจ้ะ น้าต้องขอโทษด้วย เราคงไม่อยากให้พ่อมีปัญหาเนอะ” เป็นข้ออ้างของคนฉลาดกว่า ชายหนุ่มในชุดสูทหล่อเหลาที่ยืนอยู่ในฝั่งตรงข้ามกันจึงเลิกคิ้วขึ้น“อะไรนะครับ? คุณน้า ผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องหุ้นของพ่อ... คุณน้าอย่าลืมสิครับ ผมเป็นนักธุรกิจ ทำงานหาเงินใช้เอง”“ไม่ได้ลืม แค่เตือนด้วยความหวังดี ในฐานะคนทำงานมานานกว่า เรื่องผลประโยชน์ครอบครัวมันควรจะต้องมาก่อนตั้งตัวได้อย่างน้านะ นนท์” สีหน้าของนักธุรกิจสาวรุ่นแม่เต็มเปี่ยมไปด้ว
ร่างกำยำส่งแรงกระแทกแต่ละครั้งหนักหน่วงจนศีรษะกระทบเข้ากับหมอนที่รองรับอยู่บนหัวเตียง ประกายเร่าร้อนดิบเถื่อนฉายออกมาทางแววตา“อ๊า... อื้ม... อลัน เอาแรง ๆ อีก...” คนบ่นสั่งสูดลมเข้าปากอย่างซ่านสยิว ราวกับว่าร่างกายปรับเปลี่ยนขนาดไปเองตามธรรมชาติสรรค์สร้าง ร่องทางรักขยายตัวอย่างเหมาะสม ปลดปล่อยและดูดดึงมันกลับเข้าสู่กลางกาย ร่างบางบิดเร่าแอ่นเอวรับทุกอย่างที่เป็นเขา ส่งเสียงครางหวานในสีหน้ายุ่งเหยิง ไม่ต่างจากว่าเธอได้กลายเป็นทาสบำเรอกามของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ“อลัน...! ปริมจะเสร็จ... อ๊า... อีกนิด... เร็ว ๆ!” เธอส่งเสียงหวีดร้องก่อนยกมือขึ้นปิดป้องปากไว้ ด้วยความเกรงใจห้องข้าง ๆ จังหวะเร่งเร้าของบุรุษผู้พกพาความร้อนแรงมาชนิดจัดเต็ม ไม่มีพักหรือหยุดสักนาที สวรรค์ของเธออาจอยู่ใกล้กว่าขณะที่อีกคนไม่ได้ทำตามคำขอ หยุดพื้นพรมอันสวยงามเบื้องหน้าให้ชะงักนิ่งบางครั้งอลันก็ชอบที่จะแกล้งเธออย่างนั้น เขามักพาเธอไปแค่ครึ่งทางก่อนค่อยบรรเลงบทเรียนสวาทต่อ ให้มันเป็นไปอย่างช้า ๆ อย่างดุเดือดเลือดร้อน...มือหนาตะปบเข้าท้ายทอยน้อย จับพลิกให้นอนคว่ำหน้าโดยไม่ปล่อยให้ส่วนสอดสวมกันหลุดออก แม้ว่ามันจะลื่
ร่างสูงโน้มตัวลงประกบลงบนเรียวปากอิ่มงาม ขณะที่เธอตอบรับจุมพิตหวานฉ่ำ เลื่อนมือขึ้นล้อมกรอบใบหน้าหล่อเหลา แม้ว่าเขาจะยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับมืออาชีพที่พลอดรักกันได้ทุกเช้าเย็นปากอุ่นนุ่มเผยอเชื้อเชิญให้เธอเป็นฝ่ายสอดแทรกลิ้นน้อยเข้าหาความหวาน จากนั้นปลายลิ้นหนาก็กระหวัดเกี่ยวอย่างช่ำชองงานงานที่นัชชาทำได้ดีที่สุดและได้รับคำชมเชยจากครูผู้สอนเสมอคือจูบ... หากว่าเป็นเรื่องอย่างอื่นแล้วคนฉลาดหัวไว ผ่านการดูอะไรต่อมิอะไรมามาก เทียบไม่ได้สักครึ่งหนึ่งของคู่ขาในอดีตของอลัน ทว่าเขากลับเสพย์ติดเรือนร่างนิ่มนวลนี้มากที่สุด เสพย์ติดทุกอย่างที่เป็นเธอผ่านริมฝีปากนุ่มละมุนคราวขยับอย่างเป็นผู้นำให้อีกคนเผยอรั้งปากตาม ชายหนุ่มคอยแต่จะแย่งสูดลมหายใจของเธอไว้ให้เป็นของเขา มือลูบไล้หน้าท้องแบนราบเข้าไปในสาบเสื้อ แต่เพียงหยุดไว้เท่านั้นหลายนานกับการผลัดแลกรสจูบแสนหวานแทนคำบอกรัก ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดมาแทนที่กันและกันได้ ก็จะต้องเป็นเขาเท่านั้น ก่อนที่ชายผู้แสนดีจะมอบอิสรภาพให้ เขาผ่อนลมหายใจหอบสั่นอันเต็มไปด้วยความปรารถนา“ไป... ขึ้นห้องนอนกันดีกว่า”นัยน์ตาคู่คมสีฟ้าครามหลุบมองร่างเป