เธอมาหาเขาที่บริษัทลู่กรุ๊ปจริง ๆ !ลู่หานถิงไม่เคยคิดว่าเธอจะมาหาเขาที่นี่ ในช่วงสามวันที่ผ่านมา เขาพยายามห้ามใจไม่ให้ตัวเองไปรบกวนเธอ แต่เขามองโทรศัพท์อยู่บ่อยครั้งโดยคาดหวังว่าเธอจะติดต่อเขามาบ้างตราบใดที่เธอกล้าก้าวหนึ่งก้าว เขาก็กล้าที่จะก้าวออกมาเก้าสิบเก้าก้าวด้วยเช่นกันแต่โทรศัพท์มือถือของเขาเงียบมากในช่วงสามวันนี้ และไม่มีข้อความใด ๆ จากเธอเลยแต่ตอนนี้เธอมาหาเขาที่บริษัทลู่กรุ๊ปจริง ๆเขาไม่เข้าใจว่าเธอกล้ามาที่นี่ได้อย่างไร?เธอไม่รังเกียจ และหวาดกลัวคนแบบเขาอย่างนั้นเหรอ?ทำไมเธอถึงต้องหยุดรอเขาอยู่ด้านหน้า?เขาพูดว่า คุณมาที่นี่ทำไม คุณได้คำนึงถึงผลที่จะตามบ้างไหม?เซี่ยซีหว่านยกเท้าขึ้น เธอเตะเขาอย่างแรงและพูดว่า “คนบนเตียงคือหว่านหว่าน แต่พอลงจากเตียงคือเซี่ยซีหว่านอย่างนั้นเหรอ? คุณชายลู่คุณนี่มันเกินไปแล้วจริง ๆ”พนักงานที่แผนกต้อนรับและบรรดาผู้บริหารระดับสูงต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่เข้าใจว่าเซี่ยซีหว่านหญิงสาวคนนี้กำลังทำอะไรอยู่ เธอไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ เธอกล้าดีอย่างไรที่มาเตะประธานของพวกเขา?บังอาจ… นักนะ!รปภ. รปภ. รีบมาทางนี้หน่อ
ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ลู่หานถิงกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของเธอมาโดยตลอด ถามไม่ได้ ไม่กล้าถาม ในเมื่อตอนนี้เธอมาหาเขาถึงที่นี่ เขาก็จะทำตามอำเภอใจ ยังไงเขาก็ต้องดูบาดแผลบนร่างกายของเธอให้ได้เสื้อชีฟองลายดอกถูกยกขึ้นเผยให้เห็นผิวขาวของเธอ รอยช้ำจากการถูกกัดหายดีแล้ว และไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่ ผิวของเธอขาวเนียนละเอียดราวกับน้ำนม“เลิกมองได้แล้วค่ะ”ขณะเดียวกันเซี่ยซีหว่านดันมือใหญ่ของเขาที่สวมใส่นาฬิกาหรูลง เธอใช้มือของเธอปกปิดร่างกายเพื่อไม่ให้เขามองมันอีกลู่หานถิงเงยหน้าขึ้นและมองที่เธอ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า “หายดีแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?”“ใช่ค่ะ อาการบาดเจ็บไม่ได้รุนแรงมากนัก ฉันทาแค่ยาขี้ผึ้งอาการบาดเจ็บก็ดีขึ้นแล้ว แต่ว่า… ยังเจ็บตรงนี้อยู่นิดหน่อยค่ะ” เซี่ยซีหว่านจับมือใหญ่ของเขาวางลงบนคอสีชมพูอันบอบบางของเธอลู่หานถิงมองดู ตอนนั้นเขากัดเส้นเลือดของเธอลงไปค่อนข้างลึก บาดแผลที่อื่นต่างก็หายดีแล้ว แต่ตรงนี้ยังมีรอยหลงเหลืออยู่เล็กน้อย มันยังเห็นรอยฟันของเขาได้แบบไม่ชัดเจนมากนัก เขาสามารถจินตนาการได้ว่าตอนนั้นเขากัดเธออย่างโหดเหี้ยมมากแค่ไหนลู่หานถิงซุกใบหน้าที่หล่อเ
ซวงซวงเป็นผู้หญิงร่างท้วมจริง ๆ แต่เธออ้วนและน่ารัก ทุกคนต่างก็ปฏิบัติต่อเธอด้วยความใจดีเธอรู้ว่าจ้าวลี่หยิงไม่ชอบตัวเอง แต่เธอคิดไม่ถึงว่าจ้าวลี่หยิงจะเกลียดตนเองถึงเพียงนี้ ถึงขนาดพูดว่าเนื้อบนร่างกายของเธอเองน่าคลื่นไส้ท้ายที่สุดซวงซวงก็เป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ความภาคภูมิใจในตนเองของเธอถูกโจมตีอย่างหนัก ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว“จ้าวลี่หยิง คืนโทรศัพท์าให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!” ซวงซวงต้องการที่จะลุกขึ้น แต่เมื่อครู่จ้าวลี่หยิงผลักเธอแรงจนเกินไป ทำให้เข่าของเธอได้รับบาดเจ็บ และมีเลือดไหลออกมาจ้าวลี่หยิงหัวเราะเยาะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เขาพูดว่า “ฉันคงจะต้องขอยืมโทรศัพท์ของคุณก่อน ฉันไม่สามารถคืนให้กับคุณได้ในตอนนี้ พรุ่งนี้จะมีการแสดงที่ดีให้ดูแล้ว!”หลังจ้าวลี่หยิงพูดจบ เขาก็ขึ้นรถหรู จากนั้นก็เหยียบคันเร่งและขับออกไป ทิ้งให้ซวงซวงอยู่บนทางด่วนจริง ๆซวงซวงพยายามจะลุกขึ้นยืน เข่าของเธอยังคงมีเลือดไหลอยู่ เธอรู้สึกเจ็บปวดทุกย่างก้าวที่นี่ไกลจากบ้านของเธอมากจนเกินไป มันจะต้องใช้เวลาถึงแปดชั่วโมงในการเดินกลับท้องฟ้าเริ่มมืดลงและจู่ ๆ
เซี่ยเจิ้งกั๋วไม่เคยคิดอยากจะไปเยี่ยมลูกเขยคนนั้นที่สวนโหย่วหลานเลย สวนโหย่วหลานตั้งอยู่ระหว่างภูเขา มันไม่ได้อยู่ในเขตเมือง เขารู้สึกเสมอว่ามันเป็นดินแดนผีสิง และทำให้โชคไม่ดีเซี่ยเจิ้งกั๋วรีบพูดอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่า “เหยียนเหยียน พ่อจะไม่ไปที่นั่นหรอก พ่อจะไปเยี่ยมลูกเขยคนนั้นทำไมกัน ทุกคนต่างก็บอกว่าเขาป่วยหนักมาก ไม่แน่บางทีวันสองวันนี้เขาอาจจะตายก็ได้ พ่อไม่อยากไปที่นั่นจริง ๆ”นี่คือสิ่งที่เซี่ยเหยียนเหยียนต้องการ เธอต้องการเปิดโปงสามีผีแห่งสวนโหย่วหลานต่อหน้าสาธารณชน เพื่อที่จะทำให้ความคิดเห็นของผู้คนร้อนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้เซี่ยซีหว่านมีปัญหา“พ่อคะ หนูไม่รู้ว่าหว่านหว่านไปรู้จักกับประธานลู่ได้อย่างไร และไม่รู้ว่าเธอไปโกหกอะไรประธานลู่ไว้ ผู้ชายแบบประธานลู่ แม้ว่าหว่านหว่านจะหย่าร้างแล้ว พ่อคิดเหรอคะ ว่าประธานลู่จะมาแต่งงานกับหว่านหว่านจริง ๆ?”“ไม่มีทาง เซี่ยซีหว่านไม่ได้มีดีอะไร ประธานลู่จะต้องดูถูกเธออย่างแน่นอน ตอนนี้เธอก็แค่สดใหม่เท่านั้นเอง เหยียนเหยียน คนที่ประธานลู่จะแต่งงานด้วยต้องเป็นลูกอย่างแน่นอน” เซี่ยเจิ้งกั๋วพูดออกมาจากใจจริงเขาพูดความจริง
เมื่อได้ยินเรื่องที่ลู่หานถิงเล่าเช่นนี้ ร่างเพรียวบางของเซี่ยซีหว่านก็สั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ดึงมือเล็ก ๆ ของตัวเองกลับมา และหยุดฝังเข็มให้เขาทันทีลู่หานถิงลืมตาขึ้น แล้วเอ่ยถามว่า “เป็นอะไรไป?”ใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่านบึ้งตึงเล็กน้อย “อ้อ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่คิดว่าเธอน่าจะเป็นเจ้าสาวของคุณชายลู่ แต่กลับถูกน้องชายของคุณแย่งไป และยังกลายเป็นน้องสะใภ้ของคุณอีก คุณชายลู่คงรับไม่ได้หรอกใช่ไหมคะ...”ลู่หานถิงเม้มริมฝีปากบางของเขาแล้วยกมือขึ้นหยิกใบหน้าเล็กเรียวเล็กของเธออย่างรวดเร็ว “คนขี้หึง หึงอีกแล้วเหรอ? เด็กน้อยที่ไร้เดียงสา ในหัวของเธอบำรุงอะไรเข้าไปบ้างเนี่ย?”เซี่ยซีหว่านมองดูเขา “นี่ก็ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้ว เด็กน้อยตอนนั้นคงจะเติบโตขึ้นมากแล้ว แต่กลับทำให้คุณชายลู่คิดถึงในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ได้ และยังทำให้แม่ของคุณชายลู่รู้สึกชื่นชอบเด็กหญิงตัวน้อยขนาดนั้นอีกด้วย ไม่แน่ว่าอาจจะเติบโตขึ้นมาอย่างงดงามราวกับเทพธิดาบนสวรรค์ก็ได้ค่ะ”“ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เพื่อนเก่าแม่ของผมก็หายตัวไปจากโลกนี้พร้อมกับลูกสาวของเธอ ดังนั้นตอนที่เธอเติบโตขึ้น ผมก็ไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย”
คืนนี้ลู่หานถิงไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เซี่ยซีหว่านสามารถคาดเดาได้อย่างคร่าว ๆ ว่าเขาเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมครอบครัวที่ผิดปกติแบบใดอันที่จริงเซี่ยซีหว่านสนใจเรื่องราวของพ่อและแม่ของลู่หานถิงมาก ความรักและความเกลียดชังที่รุนแรงแบบไหนกันที่ทำให้พวกเขาทั้งสองมาถึงจุดนี้ได้ที่แน่ชัดคือลู่หานถิงเป็นเหยื่อของคนสองคนนี้ บางคนรักษาหายในวัยเด็ก บางคนพยายามรักษาตอนเด็กให้หายลู่หานถิงเป็นคนแบบหลังเซี่ยซีหว่านรู้สึกเสียใจกับลู่หานถิง เธอยื่นมือเล็ก ๆ ออกมาและกอดเอวอันหนาแน่นของเขาไว้ แล้วพยักหน้าอย่างแรง “คุณชายลู่ ถ้าคุณไม่หนี ฉันก็ไม่ทิ้งคุณค่ะ”ท่อนแขนอันแข็งแกร่งของลู่หานถิงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นทันที เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับห่วงเหล็ก ตอนที่เซี่ยซีหว่านกำลังจะหลับ ก็ได้ยินเขาพูดเสียงแผ่วเบาว่า “หว่านหว่าน ผมจะต้องอาการดีขึ้นอย่างแน่นอน...”...เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่หานถิงขับรถพาเซี่ยซีหว่านไปส่งที่คณะวิจัยซูมี่ เมื่อรถหรูโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมหายลับตาไป เซี่ยซีหว่านถึงเข้าไปในประตูของสถาบันวิจัยเมื่อเธอเดินเข้ามาก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะทุกคนมองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ แถมยังชี้นิ้วไปม
เมื่อซวงซวงหันกลับมามองสายตาของเธอก็ประสานเข้ากับดวงตาอันสดใสของเซี่ยซีหว่าน เซี่ยซีหว่านจับมือเธอเบา ๆ และพูดกับเธอว่า “ซวงซวง ฉันเชื่อในตัวเธอ” ภายในใจของซวงซวงรู้สึกสงบนิ่งราวกับมีความอบอุ่นไหลเวียนอยู่ “หว่านหว่าน ฉันไม่ได้ทำจริง ๆ จ้าวลี่หยิงกำลังโกหก ทั้งหมดที่เขาพูดไม่เป็นความจริง”“ฉันรู้” เมื่อพูดจบ เซี่ยซีหว่านก็จับมือซวงซวงแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าจ้าวลี่หยิงเมื่อบรรดาผู้คนที่คอยสอดแนมเรื่องของคนอื่นเห็นเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามา ก็ค่อย ๆ พาตัวเองถอยห่างออกไปเล็กน้อย พวกเขาสงสัยมากว่าเซี่ยซีหว่านจะทำอะไรเซี่ยเหยียนเหยียนมองไปที่เซี่ยซีหว่าน เธอต้องการดูว่าเซี่ยซีหว่านจะมาไม้ไหนอีกทันใดนั้นก็มีคนสองคนเดินมาจากทางเดิน คือ ผู้ชายที่ชอบนอนหลับและลูกน้องของเขาลูกน้องพูดว่า “คุณชายรองครับ...” ลู่จื่อเซียนยกมือข้างหนึ่งขึ้นซึ่งหมายความว่า เขาต้องการให้ลูกน้องคนนั้นเงียบปากลูกน้องของเขาจึงเงียบปากอย่างรวดเร็วเซี่ยซีหว่านมองไปที่จ้าวลี่หยิง ดวงตาใสของเธอแสดงความเย็นชาออกมา “หัวหน้าจ้าวคะ ฉันเคยเห็นคนไร้ยางอายมาแล้ว แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นคุณขนาดนี้ ตอนนี้ได้โ
อะไรนะ?โจวผิงมองไปที่จ้าวลี่หยิงด้วยสายตาจริงจัง “หัวหน้าจ้าว ที่เซี่ยซีหว่านพูดเป็นความจริงเหรอ?” จ้าวลี่หยิงไม่ยอมรับผิดอย่างแน่นอน “ไม่จริงครับ ผู้อำนวยการโจวอย่าฟังเรื่องไร้สาระของเซี่ยซีหว่านนะครับ เซี่ยซีหว่าน เธอจะแจ้งตำรวจ เธอมีหลักฐานไหม?”เซี่ยซีหว่านมองดูจ้าวลี่หยิงด้วยสายตาดูถูก “มีหลักฐานแน่นอน ซวงซวงขึ้นรถของคุณด้านนอกประตูของบริษัทลู่กรุ๊ป และคุณก็แย่งโทรศัพท์มือถือของซวงซวงบนทางด่วนแล้วทิ้งซวงซวงไว้ หัวหน้าจ้าว คุณอาจจะคิดว่าด้านนอกบริษัทลู่กรุ๊ปหรือทางด่วนไม่มีกล้องวงจรปิด ฉันแค่ตรวจกล้องวงจรปิดออกมาก็สามารถเห็นหน้าที่น่าเกลียดของคุณและความหน้าซื่อใจคดของคุณในตอนนี้!”สีหน้าของจ้าวลี่หยิงซีดเผือดไปหมด “ไม่ เซี่ยซีหว่าน เธอคิดว่าเธอเป็นใคร เธออยากตรวจกล้องวงจรปิดก็สามารถตรวจได้อย่างนั้นเหรอ ?” “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ลองดูว่าฉันจะสามารถนำภาพจากกล้องวงจรปิดเหล่านั้นออกมาตรวจได้หรือไม่!” จ้าวลี่หยิงมองไปที่เซี่ยซีหว่านซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา ขณะนี้เธอเป็นเพียงเด็กสาวอายุ 19 ปี แต่ดวงตาสีดำอันสดใสของเธอกลับดูน่าเกรงขามราวกับว่าความหน้าซื่อใจคดและความสกปรกทั้งหมดในโลกนี้ข
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ