แม้ว่าทุกคนจะเกรงกลัวโจวผิง แต่พวกเขาก็ยังชอบประสิทธิภาพในการทำงานของโจวผิงเช่นกัน เธอบอกว่าทดสอบก็คือทดสอบ และถามว่าโสมตังกุยอยู่ที่ไหนทันทีอันที่จริงการทดสอบในวันนี้นั้นรู้ผลชัดเจนอยู่แล้ว สมุนไพร 12,800 ชนิดใช้เวลาสามวันในการจดจำ ไม่มีใครสามารถทำได้มาก่อน นับประสาอะไรกับคนไร้ความสามารถอย่างเซี่ยซีหว่าน เซี่ยซีหว่านต้องพ่ายแพ้ในการทดสอบครั้งนี้เป็นแน่ดังนั้นเมื่อโจวผิงจึงถามเธอว่าโสมตังกุยอยู่ในตู้ยาหมายเลขอะไร ทุกคนต่างก็พากันยิ้มเยาะเย้ย และรอคอยที่จะได้เห็นเซี่ยซีหว่านอับอายภายใต้สายตาของทุกคนเซี่ยซีหว่านเม้มริมฝีปากของเธอด้วยท่าทีสงบ และตอบอย่างเสียงดังฟังชัดว่า “โสมตังกุยอยู่ทางด้านซ้ายมือในตู้ยาหมายเลข 63 ค่ะ”ตู้ยาหมายเลข 63?ซวงซวงรีบวิ่งไปเปิดตู้ยาหมายเลข 63 เธอหลับตาภาวนาว่าต้องเป็นโสมตังกุย ต้องเป็นโสมตังกุย!ซวงซวงกลั้นใจเปิดตามองลงไปในลิ้นชัก จากนั้นก็กระโดดอย่างมีความสุข “ผู้อำนวยการโจวคะ มีโสมตังกุยอยู่ในตู้ยาหมายเลข 63 จริง ๆ ค่ะ!”ฟู่ทุกคนต่างถอนหายใจ เซี่ยซีหว่านตอบถูก...ตอบถูกอย่างไม่คาดคิดเหรอ?นี่มัน...นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญชัด ๆ !โจวผิงก็รู้สึก
เซี่ยซีหว่านตั้งตารอคอยการตื่นขึ้นมาของอาหลินเพราะอยากจะค้นหาความจริงของปีนั้น แต่ตอนนี้เธอได้ยินข่าวที่ไม่คาดคิดออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ คุณปู่คือ...หัวหน้าผู้ดูแลบ้านของแม่อย่างนั้นเหรอ?นี่หมายความว่าอะไร?จากนั้นแม่ก็แต่งงานกับลูกหัวหน้าผู้ดูแลบ้าน...“อาหลินคะ หนูเข้าใจทุกคำพูดของอานะคะ แต่พอยาวมาเป็นประโยคแบบนี้หนูฟังไม่เข้าใจเลยค่ะ หนูมีคำถามมากมายในใจและอยากให้อาค่อย ๆ บอกหนูค่ะ”อาหลินมองไปที่เซี่ยซีหว่านด้วยความรัก “คุณหนูคะ ตราบใดที่คุณหนูอยากจะนำกล่องที่คุณผู้หญิงทิ้งไว้คืนมา คุณหนูจะเข้าใจทั้งหมดนี้ค่ะ” หลังจากพูดจบ อาหลินก็หลับตาลงอย่างอ่อนล้าและกลับเข้าสู่นิทราอีกครั้งหมอเข้ามาตรวจร่างกายให้อาหลิน และพูดจาแปลก ๆ ว่า “คุณหญิงเซี่ย สุขภาพของผู้ป่วยไม่ค่อยปกติดีมาตลอด แต่ดูเหมือนคนไข้จะเคยกินยาอะไรบางอย่างมาก่อน ยาเม็ดนี้ช่วยให้หัวใจของผู้ป่วยไม่ล้มเหลว”เมื่อสักครู่นี้เซี่ยซีหว่านได้จับชีพจรของอาหลินก็เป็นไปตามที่หมอบอก มียาช่วยรักษาชีวิตอยู่ในร่างกายของอาหลิน ครึ่งเดือนที่ผ่านมา ตอนที่เธอจับชีพจรของอาหลินนั้นเธอกลับไม่รู้สึกผิดปกติอะไรเล
อะไรนะ?สร้อยคอเส้นนั้นอยู่ที่เซี่ยซีหว่านเหรอ?บรรดาสาว ๆ ผู้โด่งดังแห่งเมืองไห่เฉิงต่างก็เบิกตากว้าง พวกเธอทุกคนต่างพากันจ้องมองไปที่เซี่ยซีหว่านในทันทีเซี่ยซีหว่านและเยี่ยหลิงมองหน้ากัน พวกเธอรู้นานแล้วว่าคืนนี้เซี่ยเหยียนเหยียนจะพาบรรดาสาว ๆ ผู้โด่งดังแห่งเมืองไห่เฉิงมาหาเรื่องเธอ“หว่านหว่าน วันนี้ตอนที่เธออยู่ที่สถาบันวิจัย เธอยังโอ้อวดต่อหน้าฉันอยู่เลยว่าเธอได้ครอบครองสร้อยเส้นนั้น แถมเธอยังบอกด้วยว่าคืนนี้เธอต้องการให้บรรดาสาว ๆ ผู้โด่งดังแห่งเมืองไห่เฉิงได้ชื่นชมสร้อยเส้นนั้นที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ ตอนนี้ที่ทุกคนต่างก็อยู่ที่นี่แล้ว เธออย่าลีลาอีกเลย รีบนำสร้อยเส้นนั้นออกมาให้ทุกคนดูเถอะ” เซี่ยเหยียนเหยียนพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเซี่ยซีหว่านมองไปที่ท่าทางเสแสร้งของเซี่ยเหยียนเหยียน คำพูดเหล่านั้นเธอไม่ได้พูดสักคำ แต่เซี่ยเหยียนเหยียนกลับกุเรื่องไร้สาระที่เกิดจากการจินตนาการของตนเองขึ้นมา เซี่ยเหยียนเหยียนตั้งใจที่จะยั่วโมโหเหล่าบรรดาสาว ๆ ผู้โด่งดังแห่งเมืองไห่เฉิง และทำให้พวกเธอทั้งหมดโจมตีเธอเซี่ยซีหว่านเม้มริมฝีปากสีแดงของเธอ จากนั้นก็ถอดสร้อยออกจากคอของเธออ
บรรดาสาว ๆ ผู้โด่งดังแห่งเมืองไห่เฉิงทั้งหมดต่างพากันมองไปที่ประตูทางเข้าบานใหญ่ของร้านบาร์ 1949 ลู่หานถิงมาจริง ๆ ด้วย!คืนนี้ลู่หานถิงสวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวสีดำ เสื้อผ้าราคาแพงที่ทักทอด้วยมือถูกรีดจนเรียบไม่มีรอยยับแม้แต่น้อย เขาเดินบนพรมแดงอย่างเชื่องช้า ใบหน้าของเขามีความเย่อหยิ่งและสง่างามโดดเด่น รวมถึงลักษณะนิสัยที่ชอบแปลกแยกดูเย็นชาและไม่สนใจใครจากนั้นกู้เยี่ยจิ่นและฮั่วซีเจ๋อก็เดินตามเข้ามา สามหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้นโดยที่ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกันบ้าง การรวมตัวของตระกูลลู่ ตระกูลกู้ และตระกูลฮั่วทั้งสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองไห่เฉิงได้ดึงดูดทุกสายตาที่อยู่ภายในห้องโถงร้านบาร์แห่งนี้อย่าง “กวาดเรียบ” มาตั้งแต่ต้น“ว้าว ประธานลู่หล่อมากเลยอ่า”บรรดาสาว ๆ ผู้โด่งดังแห่งเมืองไห่เฉิงมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของลู่หานถิงอย่างเว้าวอน แต่เนื่องจากเขากำลังคุยอยู่กับกู้เยี่ยจิ่นและฮั่วซีเจ๋อ พวกเธอจึงมองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มได้เพียงครึ่งเดียว และเห็นเพียงแสงนีออนประกายระยิบระยับที่สาดส่องความงามของแสงหลากสีไปบนครึ่งหน้าหล่อเหลาของลู่หานถิงบรรดาสาว ๆ ผู้โด่งดั
ทุกคนต่างตกตะลึงไปตาม ๆ กัน พวกเขามองไปที่เซี่ยซีหว่านราวกับเป็นคนบ้า จากนั้นก็มองไปยังลู่กานถิงคนที่มีหน้าที่ทำให้เตียงร้อนลู่หานถิงยืนอยู่ด้านนอกสักพักใหญ่พร้อมเอามือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เมื่อเขาเห็นเซี่ยซีหว่านเมาก็รู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้คิ้วเฉี่ยวคมของเขาขมวดเป็นปมเข้าหากันและเม้มริมฝีปากบางเบา ๆบรรดาสาว ๆ ผู้โด่งดังแห่งเมืองไห่เฉิงรู้สึกตาลายแทบจะเป็นลม เซี่ยซีหว่านมีสิทธิ์อะไร เธอมีสิทธิ์อะไรถึงพูดให้ประธานลู่อับอายแบบนี้?นางแม่มด ปล่อยประธานลู่มาให้พวกเราเดี๋ยวนี๋นะ!พวกเธอพยายามอดกลั้นที่จะไม่เอามือไปรุมทึ้งเซี่ยซีหว่านอย่างใจร้อน ดีล่ะ หล่อนเปิดเผยออกมาแล้ว พวกเธอก็แค่ต้องพยายามหลอกถามเธอต่อไป“เซี่ยซีหว่านพวกเราจำได้ว่าเธอแต่งงานแล้ว เธอคบกับประธานลู่แบบนี้ก็เป็นการนอกใจน่ะสิ เธอวางแผนที่จะมาคบกับประธานลูหลังจากหย่าร้างใช่ไหม?”ศีรษะเล็กของเซี่ยซีหว่านเริ่มมีอาการเวียนหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ และก็แทบจะได้ยินคำพูดของคนอื่นไม่ชัดแล้ว เธอจึงพูดพึมพำขึ้นว่า “นี่มันก็น่าเร้าใจจะตายไปไม่ใช่เหรอ? ประธานลู่ของพวกเธออยากจะเปลี่ยนมาเป็น...ตัวจริงเมื่อไหร่ มันก็แล้วแต่อ
เยี่ยหลิงมาเข้าห้องน้ำ แล้วใช้น้ำเย็นตบ ๆ ไปที่ใบหน้าเล็กของเธอ จากนั้นจึงเดินออกมาเมื่อเดินไปตามทางเดินใหญ่ก็มีลูกเศรษฐีคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอจากด้านหน้า สองตาของเขาคนนั้นมองตรงไปที่เยี่ยหลิง “เยี่ยคนสวย นี่คุณกลับมาที่เมืองไห่เฉิงแล้วจริง ๆ เหรอเนี่ย?”สายตาของเขามองไปที่เยี่ยหลิงอย่างหื่นกระหาย ตอนที่เธอไป เธออายุได้ 18 ปี ยังไม่ทันได้เติบโตสวยสะพรั่ง แต่สองปีที่ผ่านมานี้เธอกลับสวยสะพรั่งราวกับดอกกุหลาบ ดวงตาสดใสเย้ายวนคู่นั้นรับกับเครื่องหน้าทั้ง 5 ส่วนบนใบหน้าเป็นอย่างดี ไล่ลงมายังริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มสวยสดด้านล่างที่เปล่งอานุภาพดึงดูดทรมานใจชาย ลูกเศรษฐีมองรูปลักษณ์ที่สวยที่หาได้ยากโดยกำเนิดของเยี่ยหลิงที่แม้แต่สื่อต่างประเทศต่างก็ชื่นชมอย่างไม่ขาดปาก ชุดกระโปรงรัดรูปสีแดงเบอร์กันดี้ขับผิวขาวผ่องสุขภาพดีของเธอได้เป็นอย่างดี ผมลอนสีน้ำตาลเข้มปรกสยายไปบนไหล่ของเธอ“เยี่ยคนสวย สองปีมานี้คุณกลายเป็นดาราชื่อดังไปแล้ว พวกเราอยากจะเจอคุณก็ทำได้เพียงดูบนทีวี ในเมื่อวันนี้มันบังเอิญขนาดนี้แล้ว อย่างนั้นผมขอเชิญคุณดื่มสักแก้วนะครับ” ลูกเศรษฐียิ้มพูดอย่างร้ายกาจเยี่ยหลิงยืนนิ่งอยู่กั
กู้เยี่ยจิ่นมองเธอโดยไม่ได้พูดอะไรเยี่ยหลิงใช้มือเล็กทั้งสองข้างออกแรงดันไปบนแผ่นอกใหญ่ที่แข็งแกร่งของเขา แล้วผลักเขาออกอย่างแรงความคลุมเครือที่พัวพันระหว่างเขาทั้งสองคนก็พัดปลิวหายไปในทันที“เมื่อกี้นี้เซี่ยซีหว่านเพิ่งดื่ม...ไปแก้วหนึ่ง ค็อกเทลที่อยู่ในห้องวีไอพีแก้วนั้น เธอได้ดื่มเข้าไปด้วยหรือเปล่า?” กู้เยี่ยจิ่นถามเธอค็อกเทล One เหรอ?เยี่ยหลิงรีบขมวดคิ้วทันที เธอนึกไม่ถึงว่าค็อกเทลแก้วนั้นจะเป็น.. เมื่อครู่นี้หว่านหว่านเองก็ดื่มไปทั้งแก้ว“ฉันไม่ได้ดื่ม”เมื่อเธอพูดจบก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเซี่ยซีหว่านแต่ว่าโทรศัพท์ที่อยู่ปลายสายนั้นมีเสียงเรียกเข้าตั้งหลายรอบ แต่กลับไม่มีคนรับเลยเยี่ยหลิงเตรียมจะโทรไปอีกรอบ แต่กู้เยี่ยจิ่นเดินเข้ามาหยิบโทรศัพท์ของเธอไปเธอขมวดคิ้ว “พี่ทำอะไร เอาโทรศัพท์คืนมาให้ฉันนะ ฉันจะโทรหาหว่านหว่าน”“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าเธอเองก็อยากจะไปเป็นผู้ชมขณะที่พวกเขากำลังแสดงสด จ้ำ จี้ กันอยู่ใช่ไหม?”“...” เยี่ยหลิงไม่พูดอะไรอีกแล้วแย่งโทรศัพท์ของเธอกลับมาด้วยท่าทีโมโหกู้เยี่ยจิ่นยกริมฝีปากบางขึ้นพูดอย่างเนิบนาบ “ซีเจ๋อโทรไปหาหานถิงแล้ว เรื่
เยี่ยหลิงได้ 2 แต้ม และตอนนี้ทุกคนก็คึกคักเป็นอย่างมากที่จะรอดูความสนุกตรงหน้าต้องเข้าใจก่อนว่าเยี่ยหลิงคือสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองไห่เฉิง เธอเป็นจุดสนใจของผู้คนมาตั้งแต่เด็กจนโต และตอนนี้ยังเป็นถึงหนึ่งในสี่นักแสดงหญิงดาวรุ่งที่กำลังมาแรง มีผู้ชายไม่รู้กี่คนที่ใฝ่ฝันถึงเธอ การที่เธอมาร่วมเล่นเกมจริงหรือกล้าก็ต้องเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากอยู่แล้วคุณชายคนนี้ชอบเยี่ยหลิงมานานแล้ว เขาเปลี่ยนแฟนสาวไวราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่แฟนสาวของเขาแต่ละคนนั้นหาได้มาจากการนำรูปถ่ายของเยี่ยหลิงไปเทียบตอนนี้เขาถามเยี่ยหลิงอย่างร้อนรนเนื่องจากรอเวลานี้มานาน“ซุนเฉา ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเกมจริงหรือกล้า แต่คำถามนี้ของนายมันแรงไปไหม?” มีบางคนหัวเราะโห่ขึ้นมาคุณชายซุนเฉามองไปที่ใบหน้าเล็กที่งดงามจับใจของเยี่ยหลิงอย่างหื่นกาม “เยี่ยคนสวย แต่เมื่อครู่นี้พวกเราก็ตกลงกันชัดเจนแล้วนะว่าต้องทำตามกติกาเกม ดังนั้นคุณต้องตอบความจริงเรื่องนี้นะ”“ซุนเฉา นายนี่มันแย่จริง ๆ เลย ฮ่าฮ่าฮ่า”พวกผู้ชายที่อยู่บนโต๊ะไพ่โห่ร้องขึ้นมา พวกเขากำลังรอฟังคำตอบของเยี่ยหลิงอยู่เซี่ยเหยียนเหยียนและฮั่วเสวียนมองไปยังเยี่ยหลิงที่
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ