เยี่ยหลิงเป็นดาราดัง ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนนักข่าวก็มักจะตามไปแอบถ่ายรูปเธอ ดังนั้นวันนี้เธอจึงสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่เป็นที่สังเกตมากนักบนตัวของเยี่ยหลิงสวมเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง คลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำ และกระเป๋าใบเล็ก ๆ ประดับพู่ระย้าที่กำลังเป็นที่นิยม เดิมทีเป็นการแต่งกายที่เรียบง่าย แต่เมื่อสวมใส่บนร่างกายของเยี่ยหลิงนั้นก็ทำให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปจากคนอื่น เธอดูสวยสดใสและมีชีวิตชีวา อีกทั้งขาขาวเรียวทั้งสองข้างของเธอนั้นช่างเรียวยาวเย้ายวนสายตาเป็นอย่างมากเนื่องจากกลัวว่าผู้คนจะจำได้ เยี่ยหลิงจึงสวมหมวกแก๊ป ผมหยิกสีน้ำตาลยาวประบ่าและใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือสวมใส่แว่นกันแดดทรงกว้างคู่หนึ่งซึ่งดูปกปิดมิดชิดเป็นอย่างมาก แต่เมื่อสาวงามริมฝีปากแดงคนนี้เดินเข้าไปในสนามบินก็ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นและดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมากเซี่ยซีหว่านโบกมือเล็ก ๆ ของเธอ อารมณ์ของเธอเปลี่ยนจากมืดมนเป็นสดใสขึ้นในทันที “หลิงหลิงทางนี้”เยี่ยหลิงเหลือบมองแล้วเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว เธอยื่นมือออกมาบีบใบหน้าเล็กที่งดงามของเซี่ยซีหว่านและพูดว่า “จุ๊ ๆ หว่านหว่าน ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันเธอทำให้ฉันประหลา
“จูบ...ตรงไหนล่ะ?” เมื่อมองไปยังแววตาที่มีเลศนัยของเยี่ยหลิง เซี่ยซีหว่านจึงพูดด้วยความเขินอายว่า “แค่จูบเหนือต้นคอเอง!”เยี่ยหลิงค่อนข้างประหลาดใจและพูดว่า “หว่านหว่าน เมื่อครู่นี้ฉันเพิ่งพูดว่าประธานลู่เป็นนักพรตผู้ยิ่งใหญ่ ความเป็นผู้ใหญ่ของผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่แค่การพูดและท่าทางของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมั่งคั่งและอำนาจที่ทับซ้อนกันอีกด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของอารมณ์ทางเพศนั้นจะแสดงให้เห็นว่าเขามีความเป็นผู้ใหญ่มากแค่ไหน”ใบหน้าที่เล็กและงดงามของเซี่ยซีหว่านแดงก่ำราวกับกุ้งต้ม “หลิงหลิง!”“ฉันคิดว่าประธานลู่น่าจะเข้าใจดีเลยทีเดียวล่ะ ส่วนเธอเป็นเพียงกระต่ายขาวตัวน้อยไร้เดียงสาที่ตกลงไปในถ้ำหมาป่าของเขา เขาจะอดทนไม่แตะต้องเธอได้ยังไงกัน”เซี่ยซีหว่านไม่อยากคุยอีกต่อไป…เยี่ยหลิงมองไปยังแววตาอันสดใสของเซี่ยซีหว่านที่เปล่งประกายราวกับแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ เธอรู้ได้ในทันทีว่าเซี่ยซีหว่านตกหลุมรักลู่หานถิงเข้าแล้ว แต่เยี่ยหลิงกลับไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด เซี่ยซีหว่านที่ยังอายุไม่ถึง 20 ปี และได้พบกับลู่หานถิงในปีนี้นั้นเป็นเรื่องยากที่จะไม่หวั่นไหวหลังจากที่เธอได้พบก
กู้เยี่ยจิ่นถอนหายใจและพูดว่า “วางล่ะนะ”เขาต้องการที่จะวางสายโทรศัพท์ขณะเดียวกันลู่หานถิงก็พูดขึ้นอย่างแผ่วเบาว่า “คนที่ทำให้คุณแข็งแกร่งกลับมาแล้ว คนที่ตระกูลกู้ของพวกคุณรับไปเลี้ยงตอนยังเป็นเด็ก น้องสาวในนามของคุณ เยี่ยหลิง เธอกลับมาแล้ว”กู้เยี่ยจิ่นนิ่งงันไปเป็นชั่วขณะหนึ่ง“ดูแลเยี่ยหลิงดี ๆ หน่อย อย่าปล่อยให้เธอทะเลาะกับฉันเรื่องคุณนายลู่ของฉันอีก”โทรศัพท์ส่งเสียงดัง “ตู๊ด ตู๊ด” กู้เยี่ยจิ่นได้กดวางสายโทรศัพท์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว...วันรุ่งขึ้น เซี่ยซีหว่านและเยี่ยหลิงมาที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่วันนี้เซี่ยซีหว่านสวมเสื้อสเวตเตอร์ถักสีขาวสไตล์แชนแนลพร้อมเข็มขัดประดับพู่ที่ผูกเอาไว้รอบเอว เสื้อสเวตเตอร์ถักยาวคลุมหัวเข่าของเธอ เธอสวมใส่รองเท้าส้นสูงประดับคริสตัลคู่หนึ่งที่เท้า ไม่จำเป็นต้องแต่งเติมอะไรให้มากมาย เธอก็สดใสและสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติแล้วส่วนเยี่ยหลิง เธอสวมชุดเซ็ทสูทกระโปรงสีเทา เนื้อผ้าเกรดA อวดสัดส่วนโค้งเว้าของเธอเป็นอย่างดี และสวมรองเท้าบู๊ตสีดำผูกเชือกคู่หนึ่งที่เท้าของเธอ เธอดูสดใสอีกทั้งยังดึงดูดสายตาผู้คนได้เป็นจำนวนมากทั้งสองสวมหมวกแก๊ปไว้บนศีร
พระเจ้า!กู้เยี่ยจิ่นชอบเซี่ยเหยียนเหยียน เซี่ยเหยียนเหยียนมีความหมายต่อลู่หานถิง ลู่หานถิงและกู้เยี่ยจิ่นเป็นพี่น้องที่ดีที่เติบโตมาด้วยกัน...เซี่ยซีหว่านปะติดปะต่อความสัมพันธ์ของทั้งสามคน เรื่องราวมันเป็นแบบนี้...ใช่ไหม?“คิดไม่ถึงเลยว่าเซี่ยเหยียนเหยียนจะทรงพลังถึงเพียงนี้ คน ๆ เดียวสามารถทำให้ผู้คนมากมายชื่นชอบตนเองได้” เซี่ยซีหว่านอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเยี่ยหลิงหยิบชุดนอนผ้าไหมสีนู้ดขึ้นมา เธอยื่นให้เซี่ยซีหว่าน “อย่าปล่อยให้มันมากระทบอารมณ์ของพวกเราเลยนะ ประธานลู่จะต้องชอบชุดนอนตัวนี้อย่างแน่นอน เธอเข้าไปลองดูสิ”“...”มันคือชุดนอนของเธอ ทำไมลู่หานถิงถึงต้องชอบมันล่ะ?...กู้เยี่ยจิ่นและเซี่ยเหยี่ยนเหยียนกำลังยืนพูดคุยกันที่บริเวณประตู เซี่ยเหยียนเหยียนพูดด้วยเสียงอันไพเราะว่า “เยี่ยจิ่น ฉันเพิ่งกลับมาที่ประเทศจีนเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อไหร่คุณจะสะดวกโทรเรียกประธานลู่ให้ออกมาเที่ยวเล่นด้วยกันล่ะคะ?”ดวงตาสีดำของกู้เยี่ยจิ่นมองไปในร้านขายเสื้อผ้าและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ฉันสามารถช่วยคุณบอกเขาได้ แต่เขาจะมาหรือไม่มานั้นเป็นเรื่องของหานถิง”“ไม่เป็นไรค่ะเยี่ยจิ่น ขอบคุณคุณมากนะคะ”
เซี่ยซีหว่านหยิบแบล็คการ์ดที่ลู่หานถิงมอบให้ออกมา การ์ดประเภทนี้ทุกคนต่างก็รู้จักดี มันเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งที่ไม่มีใครเหมือนและสั่งทำขึ้นเองโดยตัวบุคคลนั้นพนักงานรีบรับบัตรอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ได้ค่ะ ได้ค่ะคุณผู้หญิง โปรดชำระบิลทางนี้ด้วยค่ะ”เซี่ยซีหว่านเดินไปที่แคชเชียร์เพื่อชำระบิลฮั่วเสวียนอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อ จากนั้นเธอพูดว่า “คนบ้านนอกคอกนาอย่างเซี่ยซีหว่านจะมีแบล็คการ์ดแบบนี้ได้ยังไงกัน อีกอย่างเมื่อครู่นี้ฉันเห็นว่าบนการ์ดมีตัวอักษรสีทองสลักคำว่า...ลู่เอาไว้ด้วย”ฮั่วเสวียนไม่ค่อยรู้เรื่องลู่หานถิงมากนัก เพราะลู่หานถิงไม่ได้สนิทกับเธออย่างไรก็ตามในเมืองไห่เฉิง เมื่อเห็นคำว่า “ลู่” ทุกคนก็จะนึกถึงลู่หานถิงบุคคลที่มีอำนาจล้นฟ้าเซี่ยเหยียนเหยียนเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียง เธอทั้งมีเสน่ห์และสง่างามเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับเกิดรอยร้าวขึ้นบนใบหน้าของเธอ สิ่งที่ฮั่วเสวียนเพิ่งคิดได้ เซี่ยเหยียนเหยียนกลับคิดไว้ตั้งนานแล้ว แซ่ลู่ แถมยังมีแบล็คการ์ดอีก ต้องเป็นลู่หานถิงแน่ ๆ !เซี่ยซีหว่านมีการ์ดของลู่หานถิงได้อย่างไรกัน?เซี่ยซีหว่านชำระบิลเสร็
กู้เยี่ยจิ่นมองลงไปดูที่สมุดทำเล็บจริง ๆเซี่ยซีหว่านมองไปที่ใบหน้าของกู้เยี่ยจิ่นที่งดงามราวกับหยก เขาหล่อเหลาพอ ๆ กับลู่หานถิง ร่างกายที่สูงโปร่งของเขาสวมใส่ด้วยชุดสูทอย่างดี รูปลักษณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ดูมีการศึกษา อ่อนโยน และหล่อเหลาของเขานั้นแสดงให้เห็นถึงความยับยั้งชั่งใจและความห่างเหินที่เย็นชา ผู้ชายแบบนี้ทำให้คนอยากเข้าใกล้ แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ในเวลาเดียวเซี่ยซีหว่านแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เยี่ยหลิงพูดเมื่อกี้ เขาชอบผู้หญิงที่สวยที่สุด เล็บก็จะเลือกสีแดงสดด้วย คุณชายกู้ท่านนี้น่าจะไม่ใช่คนผิวเผิน ดังนั้นเซี่ยซีหว่านจึงแกล้งตายแค่ต้องการพิสูจน์สักหน่อยในขณะนั้นกู้เยี่ยจิ่นยื่นนิ้วออกมาชี้ “แบบนี้ดี”เขาชี้ที่...สีแดงซึ่งเป็นสีที่เยี่ยหลิงทำ เซี่ยซีหว่านรู้สึกพูดอะไรไม่ออก “...”ทันใดนั้น เยี่ยหลิงก็ออกมาจากข้างใน “พี่ชาย มาแล้วเหรอคะ?” กู้เยี่ยจิ่นลืมตาดูเธอ สายตาก็สแกนไปที่เล็บที่เธอเพิ่งทำใหม่“พี่คะ เล็บที่หนูทำสวยไหมคะ?” เยี่ยหลิงยื่นมือเล็ก ๆ ของเธอออกมาแล้วส่ายไปส่ายมาต่อหน้าเขา สวยดี จะดูไม่สวยได้อย่างไร?เยี่ยหลิงเกิดในครอบครัวที่มีชื่อเสียง เธอม
เยี่ยหลิงชูนิ้วกลางขึ้น ไม่รู้ว่าชูให้เขาหรือชูให้เซี่ยเหยียนเหยียนกับฮั่วเสวียนที่อยู่ข้างหลังสีหน้าของเซี่ยเหยียนเหยียนกับฮั่วเสวียนสลับเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก กู้เยี่ยจิ่นใช้ลิ้นดุนเข้ากับแก้มขวาและเบ้ริมฝีปากบาง ๆ เขายกมือขึ้นและใช้ปลดกระดุมระหว่างคอออกอย่างแรง...หลังจากส่งเซี่ยเหยียนเหยียนกับฮั่วเสวียนแล้ว กู้เยี่ยจิ่นก็จอดรถไมบัคข้างล่างตึกจุ้ยหยูฮวน เขาเงยหน้ามองขึ้นไปที่แสงสีเหลืองสดใสที่ส่องแสงอยู่ด้านบน ขณะนั้นเสียง “ติ๋ง” ก็ดังขึ้น ข้อความของลู่หานถิงส่งมาว่า “วันนี้เยี่ยหลิงพาคุณนายลู่ของฉันไปเที่ยวที่ไหนมาเหรอ?” วันนี้ลู่หานถิงได้รับข้อความการใช้บริการบัตรเครดิตระหว่างการประชุมที่บริษัท เขาให้บัตรเครดิตสีดำทองกับเซี่ยซีหว่านไป แต่นั่นก็ผ่านมานานมากแล้วที่เธอไม่เคยใช้ คุณนายลู่ของเขามีความยืนหยัดและหยิ่งยโสเล็กน้อยดังนั้นวันนี้เขาจึงค่อนข้างแปลกใจเมื่อได้รับข้อความการใช้บริการบัตรเครดิต ขณะเดียวกันนั้นเขาก็ยิ้มมุมปากออกมาในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทนั้นเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาเอาศูนย์เข้าบัญชีไปกี่ตัวกู้เยี่ยจิ่นตอบกลับไปหนึ่งข้อความ “ทำไมนายไม่ไปถามค
หญิงสาวคนนั้นน่าจะมีสติปัญญาและดวงตาที่เปล่งประกายเหมือนกับเซี่ยซีหว่าน แล้วเธอก็มีความเย่อหยิ่งและความแข็งแกร่งเล็กน้อยที่สามารถทำให้ผู้คนตกหลุมรักได้ก่อนที่จะพบกับเซี่ยซีหว่านนั้นลู่หานถิงไม่เคยคิดว่าหญิงสาวคนนั้นจะเป็นอย่างไรต่อมาเมื่อได้พบกับเซี่ยซีหว่าน ลู่หานถิงก็รู้สึกว่าเธอทำให้เขาพอใจกับจินตนาการทั้งหมดของเขาหญิงสาวคนนั้นน่าจะเป็นอย่างเธอตอนนี้ลู่หานถิงกำลังนอนอยู่บนหมอนของเซี่ยซีหว่าน บนหมอนยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างกายเธอติดอยู่ ครั้งแรกที่เขาได้ดมกลิ่นหอม ๆ จากร่างกายของเธอนั้น เขาก็รู้สึกคุ้นเคยราวกับว่าเป็นกลิ่นที่เขาค้นหามานานแสนนานจนทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหลงใหลลู่หานถิงยกมือขึ้นบังที่มุมสีตาแดงก่ำของเขา ลำคอของเขาเหมือนถ่านร้อนที่กลิ้งไปมา ในหัวเต็มไปด้วยภาพที่เธอสวมชุดนอนผ้าไหมสีเนื้อลู่หานถิงรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำเย็นในห้องน้ำ...เซี่ยซีหว่านได้รับวีแชทของลู่หานถิง “ฉันเพิ่งอาบน้ำเย็น ๆ มา เลยคิดถึงคุณ”เขาส่งอะไรมาเนี่ย?ใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันใดนั้นวีแชทของลู่หานถิงก็ส่งมาอีกครั้ง “ที่แท้ผู้หญิงก็สามารถทรมานคนได้”เซี่ยซีห
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ