ลู่หานถิงมาหยุดยืนที่หน้าประตูห้องน้ำ แล้วยกมือขึ้นเคาะประตู “ก๊อก ก๊อก”ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกเซี่ยซีหว่านยืนแอบอยู่หลังประตู บนใบหน้าของเธอไม่ได้สวมผ้าคลุมหน้าไว้ แต่บานประตูนั้นบังใบหน้าเรียวเล็กของเธอเอาไว้เลยมองเห็นไม่ชัด นัยน์ตาที่เป็นประกายสดใสของเธอมองออกมาที่เขาผ่านประตู จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกมา “คุณลู่ ลำบากคุณแย่เลยค่ะ เอามาให้ฉันสิคะ”ลู่หานถิงยื่นผ้าอนามัยพร้อมกับเสื้อผ้าสะอาดสำหรับเปลี่ยนส่งให้เธอเซี่ยซีหว่านยื่นมือออกไปรับ แต่เขาไม่ปล่อยมือทำอะไรของเขา?เซี่ยซีหว่านดึงมือกลับมาเล็กน้อยเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอเงยหน้ามองไปที่เขาลู่หานถิงมองไปที่ดวงตาสดใสมีชีวิตชีวาของเธอที่ตอนนี้ใกล้จะโมโหเขาแล้ว เขาเม้มริมฝีปากบางเบา ๆ จากนั้นจึงยอมปล่อยมือเซี่ยซีหว่านรับเสื้อผ้ามาแล้วรีบปิดประตูลงทันทีเธอคิดว่าตอนนี้หน้าตัวเองทั้งแดงและร้อนผ่าว ผู้ชายที่ชื่อลู่หานถิงคนนั้นจะหยอกเธอมากไปแล้ว!......ลู่หานถิงกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ จากนั้นประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นเซี่ยซีหว่านที่กำลังเดินออกมา เธอสวมชุดเดรสกระโปรงยาวสายเดี่ยวสีแดงเชอร์รี่ สาย
ภายในห้องเพรสซิเดนท์สวีทอีกห้องหนึ่ง ลู่หานถิงอาบน้ำชำระร่างกายด้วยน้ำเย็น เขาเดินออกมาขณะที่สวมชุดนอนผ้าไหมสีดำกู้เยี่ยจิ่นยื่นไวน์แดงแก้วหนึ่งส่งให้เขา “ว่ากันตามจริงแล้ว คืนนี้เซี่ยซีหว่านไม่สามารถร่วมเตียงกับนายได้ แล้วเธอใช้วิธีไหนทำให้อารมณ์ของนายจากเศร้ากลายมาเป็นอารมณ์ดีได้?”ลู่หานถิงค่อย ๆ จิบไวน์แดงอย่างช้า ๆ “ฉันอารมณ์ดีจนดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ?”กู้เยี่ยจิ่นเอนตัวพิงไปบนเคาน์เตอร์บาร์ แล้วจิบไวน์แดงเข้าปากอย่างละเมียดละไม “ก็เพิ่งบอกคนอื่นเมื่อครู่เองว่านายอารมณ์ดีมาก”ลู่หานถิงเม้มริมฝีปากบางเข้าหากัน เขายอมรับว่าตอนนี้เขาอารมณ์ดีมาก เซี่ยซีหว่านหึงเขาจนวุ่นวายเรื่องสายโทรศัพท์นั่น เขาจะดีใจไม่ได้เหรอ?ขณะนั้นก็มีเสียง “กริ๊ง” จากกริ่งหน้าประตูดังขึ้นมีคนเคาะประตูเป็นเหยียนอี้นั่นเองเมื่อเธอได้รับโทรศัพท์ก็รีบตรงมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเธอก็กำลังสังเกตสีหน้าของลู่หานถิงอย่างระมัดระวัง “ท่านประธานคะ ท่านเรียกดิฉันมามีเรื่องอะไรหรือคะ?”ลู่หานถิงที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาก็พูดขึ้น “เลขาเหยียน ตอนนั้นที่หัวหรงรับโทรศัพท์ของผม ทำไมคุณไม่บอกผมเรื่องนี้?”ตอนน
มีสาวสวยจากตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงหลายคนรายล้อมอยู่ข้างกายของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ย คอยเอ่ยคำชื่นชมยินดีมากมายอย่างประจบ ใบหน้าเล็กสระสวยของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยมีความสุขและภูมิใจสะจนยิ้มแก้มปริขณะนั้นเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยก็มองไปเห็นเซี่ยซีหว่านพอดี เธอจึงรีบเดินออกไปด้านหน้า “ซีหว่าน เธอมาแล้วเหรอ? เมื่อครู่ฉันกังวลใจจะแย่เพราะนึกว่าเธอจะไม่มา และก็จะไม่ได้เป็นสักขีพยานในช่วงเวลาแห่งความสุขของฉันด้วยตาตัวเอง”จากนั้นสาวสวยจากตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นก็เดินเข้ามา“เสี่ยวเตี๋ย เธอนี่จิตใจดีจังเลย เซี่ยซีหว่านเคยเป็นคุู่หมั้นของคุณชายซูมาก่อน เธอเชิญหล่อนมาแล้วไม่กลัวว่าหล่อนจะอิจฉาจนพังงานแต่งเหรอ?”“เซี่ยซีหว่านแต่งงานกับสามีป่วยสวนโหย่วหลานคนนั้นไปแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำให้หล่อนต้องทุกข์ทนแค่ไหน ไม่แน่นะวันใดวันหนึ่งอาจจะทำให้หล่อนกลายมาเป็นม่ายเพียงชั่วพริบตาเลยก็ได้ คนเรานี่ก็ต่างกรรมต่างวาระกันจริง ๆ คนต่างจากหวัดที่มาจากชนบทยังไงก็เทียบลูกสาวสุดที่รักของเศรษฐีไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้เสี่ยวเตี๋ยของพวกเรายังเป็นภรรยาของคุณชายซูอีกด้วย”“คุณชายซูสายตาเฉียบคมมากที่ทิ้งแม่บ้านนอกคนน
เรื่องตลกของเซี่ยซีหว่านนั้น ทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับเหมือนเพิ่งผ่านการเล่นรถไฟเหาะมา ใบหน้าหล่อเหลาของซูซีตอนนี้ดูกระอักกระอวนเหมือนคนมีทุกข์ยิ่งกว่าตอนแรก เขาเงยหน้ามองเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยด้วยความขอไปทีอย่างไม่เต็มใจ “เสี่ยวเตี๋ย แต่งงานกับผมนะ จากนี้ไปผมจะทำให้คุณมีความสุข”เมื่อเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยฟังคำกล่าวสาบานขอแต่งงานที่สั้นห้วนประโยคนั้น ในใจก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที แต่เธอไม่อยากทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีก จึงยื่นมือของเธอออกไป“พี่ซูซี ฉันจะแต่งงานกับพี่ค่ะ”ซูซีนำแหวนเพชรที่อยู่ในมือค่อย ๆ สวมไปที่นิ้วนางของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทันใดนั้นก็มีเสียง “ติ๊ง” ดังขึ้น เป็นเสียงจากโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของซูซีที่มีข้อความสั้น ๆ ส่งเข้ามาซูซีขยับตัวหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างเชื่องช้า แล้วกดเปิดข้อความนั้นไม่กี่วินาทีต่อมา ร่างสูงโปร่งของเขาก็ตัวแข็งทื่อทันทีเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกำลังรอให้เขาสวมแหวนบนนิ้วนางให้เธอ ตอนนี้เธอเห็นเขาจ้องไปที่ข้อความสั้น ๆ นั้นตัวแข็งทื่อ เธอจึงเอ่ยถามออกไป“พี่ซูซี พี่เป็นอะไรไป ใครส่งข้อความนั้นมาหาพี่ ข้อความนั้นมีอะไรคะ?”ซูซีได้สติกลับมาแล้
เซี่ยซีหว่านเปิดประตูออก ด้านนอกมีคนอยู่ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกำหมัดแน่นและจ้องเขม็งมาที่เธอด้วยดวงตาแดงก่ำงานหมั้นวันนี้ถูกยกเลิกแล้ว เซี่ยเจิ้งกั๋วกับหลี่ยู่หลานจัดการปัญหาที่ตามมาและส่งแขกอยู่ที่ด้านล่าง เดิมทีเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยได้ก้าวขาเข้าไปในตระกูลซูแล้วข้างหนึ่งแต่แค่พริบตาเดียวกลับถูกดีดกลับออกมาที่เดิมจนกระทั่งกลายเป็นเรื่องซุบซิบของพวกขาเมาท์ปากตลาด เธอมีความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะบีบคอเซี่ยซีหว่านให้ตาย“เซี่ยซีหว่าน จริง ๆ แล้วแกใช้วิธีการอะไรมาหลอกล่อพี่ซูซีกันแน่ ข้อความนั่นเป็นแกใช่ไหมที่ส่งมา แกส่งมาว่าอะไร?”เซี่ยซีหว่านยกมุมปากขึ้น “คำถามพวกนี้เธอไปถามกับพี่ซูซีของเธอเอาเองก็ได้”“เซี่ยซีหว่าน ตอนนี้แกคงจะมีความสุขอิ่มเอมใจมากเลยสินะ?”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยรู้สึกพ่ายแพ้อย่างราบคาบ เธอพยายามอย่างหนักที่จะกำจัดเซี่ยซีหว่าน แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็มักจะโดนเซี่ยซีหว่านเอาคืนทุกครั้งไป ความพ่ายแพ้นี้ทำให้เธอหลั่งน้ำตาแห่งความโกรธแค้นออกมาเซี่ยซีหว่านมองเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยแล้วพูดว่า “เป็นพวกเธอเองไม่ใช่เหรอที่เชิญฉันมางานหมั้น พวกเธอพอใจกับของขวัญงานหมั้นชิ้นนี้ไหมล่ะ? อย่า
เซี่ยซีหว่านหมุนตัวกลับแล้วรีบวิ่งขึ้นไปข้างบนแล้วเข้าไปในห้อง…ที่ห้องนอนเซี่ยซีหว่านนั่งอยู่ที่ขอบเตียง ในหัวเธอมีแต่ภาพที่ลู่หานและหัวหรงเดินเข้ามาจากสนามหญ้าเมื่อครู่นี้ ไม่รู้ว่าทั้งคู่กำลังพูดคุยอะไรกัน แต่แววตาปรากฏรอยยิ้มขึ้นจาง ๆสายลมเย็นพัดผ่านมาเบา ๆ จนทำให้กระโปรงของหัวหรงพันเข้ากับขากางเกงสแล็คของเขา ดูแล้วช่างสนิทสนมและอบอุ่นวันนี้เธอคาดไม่ถึงว่าเขาจะพาผู้หญิงคนอื่นกลับบ้านแล้วเธอนับเป็นตัวอะไรกันผู้หญิงคนนั้นคือคนรักของเขาใช่หรือเปล่า?นิ้วมือเรียวขาวของเซี่ยซีหว่านนั้นขยุ้มเข้ากับกระโปรงของตัวเตง ในใจทั้งโมโหทั้งเป็นทุกข์ ความรู้สึกนี้มันแทบจะทำให้เธอหายใจไม่ออกในตอนนั้นเองที่ประตูห้องถูกเปิดออก ลู่หานถิงเดินเข้ามาแล้วเขามาแล้ว!เซี่ยซีหว่านเงยหน้าขึ้นมองไปที่เขา “คุณชายลู่ คุณกลับมาแล้วเหรอคะ?”เมื่อสักครู่นี้ลู่หานถิงเห็นเธอที่สนามหญ้าแล้ว แต่ว่าเธอรีบร้อนวิ่งขึ้นมาด้านบนแล้วขังตัวเองไว้ภายในห้อง ลู่หานถิงอดที่จะยกริมฝีปากขึ้นมาไม่ได้ “วันนี้ผมพาแขกมาคนหนึ่ง เธอคือ หัวหรง ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทเรา”ที่แท้ก็เป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพัน
ถ้าหากว่าในมือของเซี่ยซีหว่านยังมีลูกกวาดอยู่ก็ยังคงที่จะทุบลงไปบนหน้าหล่อเหลาอันแสนชั่วร้ายของลู่หานถิงอีกครั้งอย่างแน่นอน“แม่สาวใช้ตัวน้อย มานี่สิ” ในตอนนั้นเองที่ลู่หานถิงส่งสัญญาณออกคำสั่งเซี่ยซีหว่านลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาเขาลู่หานถิงเอื้อมมือกุมแขนเรียวขาวของเธอแล้วฉุดลงมา เซี่ยซีหว่านถลาตัวลงนั่งที่ต้นขาแข็งแรงของเขาโดยตรง“ทำอะไรของคุณเนี่ย?” เซ่ยซีหว่านอยากที่จะลุกขึ้น“โกรธแล้วเหรอ? เมื่อครู่ไม่ใช่คุณหรอกเหรอที่บอกว่าตัวเองเป็นสาวใช้ตัวน้อย”เขาพาผู้หญิงกลับมาที่บ้านด้วยขนาดนี้แล้ว ถ้าเธอไม่บอกว่าตัวเองเป็นสาวใช้แล้วจะให้เธอจัดการอย่างไร?เซี่ยซีหว่านมองไปยังชายหนุ่มด้วยสายตาที่เปล่งประกาย “ฉันบอกว่าฉันเป็นแม่บ้านผู้ซื่อสัตย์ แต่ไม่ใช่สาวใช้ที่มีหน้าที่ต้องเล่นกับคุณ!”ลู่หานถิงยกริมฝีปากขึ้นแล้วพูดถากถางว่า “ไม่ได้สวมหูแมวเอาไว้นี่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นสาวใช้ที่ไร้เครื่องแบบ เกรงว่าคุณจะเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับบทบาทของแม่บ้านแล้วล่ะนะ”“...”เซี่ยซีหว่านไม่เคยคิดเลยว่าชายคนนี้จะคิดเรื่องแม่บ้านไปถึงขั้นนี้ ลักษณะของเขาดูเป็นคนแต่งตัวหรูหราเรียบร้อย เคร่งขรึมเ
ร่างกายของอันบอบบาวของเซี่ยซีหว่านไถลลงมาจนสุดท้ายก็ลงไปนั่งกองอยู่บนพรมผืนนุ่ม เธองอเข่าทั้งสองข้างแล้วใช้แขนโอบกอดตัวเองเอาไว้เธอเตือนตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าความสัมพันธ์ของเธอกับลู่หานถิงนั้นก็แค่คนที่ร่วมมือกันครั้งนี้ที่เธอกลับมาเพราะว่ามีเป้าหมาย แถมเธอยังทำได้ดีมาก งานหมั้นของซูซีกับเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพังลงแล้ว สิ่งต่อไปที่เธอต้องทำก็คือการรอคอยอยู่เงียบ ๆ รอพวกเขาตอบโต้กลับมาแล้วเปิดเผยจุดอ่อน เธอก็จะสามารถจัดการพวกเขาที่ไร้หนทางเอาชีวิตรอดได้แต่ว่าตอนนี้เซี่ยซีหว่านไม่สามารถรักษาสติเอาไว้ได้ ในสมองของเธอนั้นเต็มไปด้วยลู่หานถิงเวลาผ่านไปจากหนึ่งวินาทีเป็นหนึ่งนาที ด้านนอกไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรแล้ว เขากำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับหัวหรงอยู่ใช่หรือเปล่า?ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ทำไมเขาต้องยั่วโมโหเธอด้วย?ความโศกเศร้าในใจของเซี่ยซีหว่านพลันถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ใช่แล้ว เธอใช้ชีวิตอยู่ดี ๆ ทำไมเขาต้องมากยั่วโมโหก่อกวนเธอด้วยจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้แล้วเซี่ยซีหว่านรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองอึดอัดและคับอกคับใจเป็นอย่างมาก ลู่หานถิงนั่นแหละที่ยั่วโมโหเธอก่อน เสร็จแล้วเธอต้องซ่อนตั
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ