เธอไปแล้วแม่บ้านอู๋หม่ายืนนิ่งอยู่กับที่มองดูร่างเพรียวบางของเซี่ยซีหว่านด้วยความอาลัยอาวรณ์ “คุณหว่านหว่านทำไมจากไปเร็วขนาดนี้ค่ะ ดิฉันคิดว่าเธอจะอยู่ต่ออีกสองสามวัน เธอจากไปอย่างกะทันหัน ฉันก็รู้สึกใจหายอีกแล้ว” จู่ ๆ ดวงตาของแม่บ้านอู๋หม่าก็เป็นสีแดงก่ำในทันทีหญิงชราทำใจไม่ได้ที่เซี่ยซีหว่านจะไปมากที่สุด แต่ท่านก็ไม่รั้งเธอไว้ ท่านรู้ว่าเพียงแค่ท่านอยู่ เซี่ยซีหว่านก็จะอยู่อย่างแน่นอนแต่ท่านไม่มีหน้าที่จะเอ่ยคำนี้แล้ว เซี่ยซีหว่านเคยเกือบตายเพราะลู่หานถิงมาครั้งหนึ่งแล้ว และตอนนี้จะให้คนตระกูลลู่เป็นภาระเธอได้อย่างไร?เธอไม่ใช่คุณนายลู่แล้ว และตระกูลลู่ไม่ได้ให้การคุ้มครองและเป็นเกียรติที่เหมาะสมกับเธอ แล้วจะเอาเหตุผลอะไรมาให้เธอทุ่มเทอยู่ที่นี่ต่อไปล่ะ?ไม่มีใครหยุดฝีเท้าของผู้หญิงคนนี้ได้ เธอควรไปได้ไกลกว่านี้และกลายเป็นตัวเองที่ดียิ่งขึ้นคุณท่านมองดูลู่หานถิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “อาถิง หลานไปส่งหว่านหว่านหน่อยสิ ตอนนี้ย่าสุขภาพดีแล้ว หลานยังไม่ได้คำนวณเงินเดือนให้หว่านหว่านใช่ไหม? หว่านหว่านไม่ใช่คนในครอบครัวอะไรของเรา เธอไม่ใช่อาสาสมัครที่จะมาทำให้เราฟรี ๆ หรอกนะ”ล
เมื่อทุกคนได้ยินเซี่ยซีหว่านพูดเช่นนี้ก็พากันถอนหายใจในทันที อะไรนะ เธอกล้าท้าทายดาวของมหาวิทยาลัย T ที่เรียนเก่งอย่างลี่เหยียนหลานเหรอ? ลี่เหยียนหลานไม่เพียงแต่เป็นคนดังและมีชื่อเสียงที่ดีเท่านั้น แต่เธอยังขยันอีกด้วย ทุกครั้งที่เธอส่งคำตอบคือทั้งถูกต้องและสวยงามไปหมด เธอเป็นที่ชื่นชอบของรองอธิการบดีโจว เธอช่างสูงส่ง และยังไม่มีใครกล้าท้าทายเธอเมื่อเซี่ยซีหว่านปรากฏตัวขึ้นที่ครั้งแรก เธอก็ไม่ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัย T จนถูกตีกลับมามหาวิทยาลัย A ซึ่งอยู่ในอันดับท้าย ๆ ของการสอบเอ็นทรานซ์ด้วย แต่ตอนนี้เธอกลับกล้าท้าทายลี่เหยียนหลานอย่างโจ่งแจ้ง เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนต่างตกตะลึงเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพากันมองเธอด้วยความประหลาดใจว่าเธอเอาความมั่นใจมาจากไหน? ลี่เหยียนหลานยิ้มเย้ยหยัน และพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน เธอพูดจริงเหรอ เธออยากจะท้าทายฉันจริง ๆ ใช่ไหม? ไม่งั้นเธอลองกลับไปคิดทบทวนดูอีกครั้งก่อนก็ได้นะ ฉันคิดว่าถ้าฉันตกลงรับคำท้าและต่อสู้กับเธอในเวทีประลองมันจะกลายเป็นว่าฉันรังแกเธอที่ไม่มีทางสู้น่ะสิ” ลี่เหยียนหลานพูดอย่างมั่นใจ เธอดูถูกเซี่ยซีหว่านในการสอบเอ็นทรานซ์ นี่ไม่ใ
เมื่อลี่เหยียนหลานเห็นลู่จื่อเซียน เธอก็นิ่งชะงักอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่คิดว่าลู่จื่อเซียนจะปรากฏตัวที่นี่ ลู่จื่อเซียนเป็นคุณชายรองของตระกูลลู่ แต่เขากลับไม่ค่อยมีรัศมีเปล่งประกายของตระกูลลู่มากนัก เขาเกิดมาเป็นบุตรแห่งสวรรค์เช่นกัน บรรยากาศโดยรอบของเขานั้นดูเยือกเย็น เขามีบุคลิกเย่อหยิ่ง ตั้งแต่เด็กเขาก็ไม่ค่อยมาเล่นคลุกคลีกับกลุ่มเพื่อนของเธอเลย ดังนั้นลี่เหยียนหลานจึงรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเขามากนัก . ลี่เหยียนหลานจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาอย่างรวดเร็วและส่งข้อความถึงเยี่ยหมิงจูลูกสาวคนโตผู้สูงส่งของตระกูลเยี่ยว่า “หมิงจู คนที่เธอชอบอยู่ที่มหาวิทยาลัย T ล่ะ” เสียง “ติ๊ง” ดังขึ้นอีกครั้ง เยี่ยหมิงจูตอบกลับภายในไม่กี่วินาทีว่า “ลู่จื่อเซียนไปที่มหาวิทยาลัย T เหรอ? เหยียนหลาน รีบถ่ายวีดีโอให้ฉันดูเร็วเข้า” ลี่เหยียนหลานเปิดวีแชทและถ่ายวิดีโอสั้น ๆ ส่งให้เยี่ยหมิงจูในทันที ทันใดนั้นร่างเพรียวบางสง่างามก็เดินเข้ามาหาลู่จื่อเซียนในทันที “ลู่จื่อเซียน” มือของลี่เหยียนหลานนิ่งชะงักในทันที เธอเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและเห็นเซี่ยซีหว่านกำลังเดินไปข้าง ๆ ลู่จื่อเซียน ลู่จื่อเซีย
เมื่อได้ยินคำพูดที่น่าเกลียดเหล่านี้ ใบหน้าเรียวเล็กอันงดงามของเซี่ยซีหว่านก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าแต่อย่างใด เธอเพียงแค่ขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย หลิวจ้าวตี้เป็นผู้หญิงที่สวยมาก เธอสวยมากจริง ๆ แต่นิสัยทั้งหมดของเธอสูงส่ง เอารัดเอาเปรียบผู้คน และการพูดจาของเธอนั้นสร้างความเจ็บแสบและดุดันเล็กน้อย ซึ่งทำให้ผู้คนไม่ชอบอย่างมากเซี่ยซีหว่านรู้สึกเสมอว่านิสัยเช่นนี้ไม่เข้ากับใบหน้านี้เลย ใบหน้าที่เหมือนกับของหลิวอิงลั่ว ในเวลานั้นหลิวอิงลั่วไม่ได้เป็นเพียงสาวงามอันดับหนึ่งในมหานครเอมพีเรียล แต่เธอยังเป็นผู้หญิงที่เยือกเย็นและมีความสามารถด้วยไอคิวระดับสูง เธอสวมชุดกระโปรงสีขาว กอดหนังสือสองสามเล่มไว้ที่อกและเดินอยู่ในมหาวิทยาลัย เธอเคยเป็นที่นิยมในยุคหนึ่งเซี่ยซีหว่านยื่นมือของเธอออกแล้วคืนเช็คให้หลิวจ้าวตี้ และพูดว่า “คุณผู้หญิงลู่คะ ในใจของคุณ คุณนั้นคิดว่าลู่จื่อเซียนลูกชายของคุณมีค่าแค่ไหน และขายราคาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมเหรอคะ” หลิวจ้าวตี้หยุดดื่มกาแฟในทันทีเซี่ยซีหว่านยิ้ม “หรือว่าฉันเข้าใจความหมายของคุณผิดเหรอคะ? ถ้าฉันเขียนห้าล้าน คุณอาจจะคิดว่าถูกไป คิดว่าลูกชายของตัวเองก็มีร
เซี่ยซีหว่านไม่คิดว่าเธอจะปะทะกับหลิวจ้าวตี้เป็นครั้งแรก หลิวจ้าวตี้โหดร้ายทารุณมาก เธอสามารถฆ่าคนได้อย่างสมบูรณ์จนเธอไม่ทันตั้งตัว แต่ถ้าเธอพบเยี่ยหลิงและได้สติแล้ว เธอจะไปชำระบัญชีกับหลิวจ้าวตี้แน่นอน ! ...หลังจากวางสายจากเซี่ยซีหว่าน พี่ฮวารีบกดหมายเลขโทรศัพท์มือถือของกู้เยี่ยจิ่นในทันที เธอมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของกู้เยี่ยจิ่นจึงโทรติดต่อไม่ติดขัด โทรศัพท์มือถืออันไพเราะดังขึ้นเพียงหนึ่งครั้ง ปลายสายก็กดรับในทันที เสียงทุ้มต่ำอันนุ่มนวลของกู้เยี่ยจิ่นก็ดังขึ้นว่า “ฮัลโหล” “ประธานกู้คะ แย่แล้ว เกิดเรื่องกับหลิงหลิงค่ะ !” พี่ฮวารีบพูดในเวลานี้ที่ความสูง 30,000 ฟุตในต่างประเทศ หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานของห้องเพรสซิเดนท์สวีท 6 ดาว กู้เยี่ยจิ่นเพิ่งเสร็จสิ้นการประชุมทางธุรกิจและกลับมาที่ห้อง เขาบีบโทรศัพท์ด้วยมือเดียว มือข้างหนึ่งดึงเน็กไทที่คอ เมื่อได้ยินพี่ฮวาพูดว่าเกิดเรื่องกับเยี่ยหลิงเลขาส่วนตัวในห้องเพรสซิเดนท์สวีทรู้สึกทันทีว่าอุณหภูมิในห้องทั้งห้องลดลงถึงจุดเยือกแข็ง เขากลัวมากจนแทบหยุดหายใจ กู้เยี่ยจิ่นหยุดดึงเน็กไทและพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้นคร
เซี่ยซีหว่านมีสายตาที่เฉียบแหลม และว่องไว เธอสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาสดใสของเธอก็ต้องเบิกกว้างขึ้นในทันทีเธอเห็นลู่หานถิงลู่หานถิงมาแล้ว !คืนนี้ลู่หานถิงสวมชุดสูทสีดำที่เข้าชุดมาอย่างดีตามแบบสไตล์ท่านประธาน ท่าทางของเขาดูสง่างาม และน่าเกรงขาม ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขางดงามราวกับงานแกะสลัก เมื่อเขาก้าวเข้ามาก็สามารถดึงดูดสายตาของทุกคนได้อย่างล้นหลามราวกับแม่เหล็กว้าวเซี่ยซีหว่านได้ยินเสียงสาว ๆ ที่ยืนอยู่ด้านข้างส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น พวกเธอมองลู่หานถิงอย่างหลงใหล และแทบจะพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วผู้คนส่วนใหญ่ที่มางานเลี้ยงส่วนตัวนี้เป็นบรรดานักธุรกิจที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร หรือไม่ก็ทายาทตระกูลผู้ร่ำรวยรุ่นที่สองที่ชื่นชอบความสนุกสนาน ลู่หานถิงเป็นนักธุรกิจที่มีอำนาจ และมีชื่อเสียง ดังนั้นจึงทำให้เขากลายเป็นที่สนใจของทุกคน โดยเฉพาะบรรดาสาว ๆ ในทันที เซี่ยซีหว่านหยุดชะงัก เขามาที่นี่ทำไม?เขามาเข้าร่วมงานเลี้ยงส่วนตัวแบบนี้จริง ๆ เหรอ?หากเป็นเมื่อก่อน เธอคงไม่เชื่อว่าคุณชายลู่จะมาร่วมงานเลี้ยงส่วนตัวแบบนี้ แต่ตอนนี
ลู่หานถิงรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นการเสแสร้งแกล้งทำ เธอต้องการทำให้เขาพอใจ แต่เขากลับรู้สึกอ่อนไหวกับการกระทำของเธอ“ประธานลู่คะ ทำไมคุณไม่พูดอะไรเลยล่ะคะ ประธานลู่คะ พาฉันเข้าไปข้างในหน่อยเถอะนะคะ ประธานลู่คะ”เธอเรียกเขาว่าประธานลู่อย่างไม่หยุดหย่อน น้ำเสียงของเธอช่างนุ่มนวลและอ่อนหวานผสมความโกรธเคืองเล็กน้อย ลู่หานถิงรู้สึกว่าร่างกายอันแข็งแกร่งของเขากำลังด้านชา เธอกำลังจะเรียกวิญญาณร้ายในตัวของเขาออกมา“นอกจากคำว่าประธานลู่ เธอเรียกอย่างอื่นไม่เป็นเหรอ?”เรียกอย่างอื่นอย่างนั้นเหรอ?เซี่ยซีหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็เงยขึ้น และกระซิบข้างหูของเขาว่า “คุณชายลู่คะ”คุณชายลู่สามคำนี้ทำให้หัวใจของลู่หานถิงเต้นแรงขึ้นในทันที จากนั้นภาพในความทรงจำจำนวนมากต่างหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเขาอย่างไรก็ตาม ภาพเหล่านั้นหายวับไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงจำอะไรไม่ได้เลย“คุณชายลู่คะ” เซี่ยซีหว่านเรียกเขาอีกครั้งลู่หานถิงเม้มริมฝีปากบางและกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งครั้ง เขาเป็นคนให้โอกาสเธอเองแถมยังปล่อยให้เธอยั่วยวนเขา และคนที่หวั่นไหวก็คือตัวเขาเอง ถ้าเธอยังคงเรียกเขาอยู่แบบนี้ เขาอาจจะคว
เซี่ยซีหว่านเอื้อมมือออกมาประคองตัวเยี่ยหลิงขึ้นมา และพูดว่า “หลิงหลิง ตอนนี้เราอยู่ที่งานเลี้ยงส่วนตัว ใครบางคนพาเธอมาที่นี่เพื่อทำการประมูล”“อะไรนะ?” เยี่ยหลิงรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก และพูดว่า “ใครเป็นคนทำ แล้วจุดประสงค์คืออะไรเหรอ?”“หลิงหลิง เรื่องนี้มันยาว เราค่อยพูดเรื่องนี้กันทีหลังเถอะ เธอรีบออกไปจากที่นี่เร็ว” เมื่อเซี่ยซีหว่านพูดจบก็ผลักเยี่ยหลิงออกไปด้านนอกทันทีเยี่ยหลิงจับมือเรียวเล็กของเธอ และพูดว่า “หว่านหว่าน เธอจะไม่ไปกับฉันเหรอ?”“ฉันไม่ไป ฉันจะขึ้นประมูลแทนเธอเอง”“ไม่ได้นะ !” เยี่ยหลิงปฏิเสธในทันที และพูดว่า “ถ้างั้นฉันจะอยู่กับเธอที่นี่เอง !”“หลิงหลิง เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับฉันโดยตรง เธอเข้าใจที่ฉันพูดไหม ตอนนี้เธอต้องแอบออกไปข้างนอกก่อน เมื่อการประมูลเริ่มขึ้น สายตาของทุกคนจะต้องจับจ้องมาที่ของประมูล และนี่คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเธอที่จะแอบหนีออกไป ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ฉันได้บอกกับคุณพ่อเซี่ยและคุณแม่หลานไว้แล้ว พวกเขาจะรอรับเธออยู่ด้านนอกงานเลี้ยง หลิงหลิง ฉันมีแผนของฉันแล้ว เธออย่ารั้งฉันไว้เลย เธอรีบไปเถอะ !”เซี่ยซีหว่านบอกเซี่ยปังและหลานเหยียนแล้ว
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ