หน้าอกอันแข็งแรงราวกับกำแพงของลู่หานถิง ไม่ว่าเธอจะผลักหรือดันเท่าไหร่ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย เขาหรี่ตาลงมองดวงตาสดใสของเธอที่ฉายแววโกรธจัด เขาพูดพลางยิ้มเย้ยหยันเธอว่า “ผมน่ารังเกียจตรงไหน คุณพูดให้ชัดเจนนะ” แค่...น่ารังเกียจไปทั้งตัว ! เซี่ยซีหว่านกำมือของแน่นจนกลายเป็นสีแดงแล้วทุบเขาสองทีอย่างแรงและพูดว่า “ปล่อยฉันนะ ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว !” เธอไม่เคยเมินเฉยกับเขาขนาดนี้มาก่อน ลู่หานถิงคิดว่าเธอคงไม่ชอบเขาอีกต่อไปแล้ว เขาจับข้อมือเรียวเล็กของเธอแล้วกดลงไปที่ผนัง จากนั้นก็เลื่อนริมฝีปากบางมาแนบชิดกับติ่งหูขาวราวกับหิมะของเธอแล้วพูดว่า “ผมก็แค่ถามคุณเท่านั้นเอง คุณได้อยู่กับลู่จื่อเซียนหรือเปล่าล่ะ เมื่อก่อนผมตัดใจทำคุณไม่ลง ผมจึงอยากรู้ว่าคุณมอบตัวเองให้กับคนอื่นแล้วหรือยัง?” เซี่ยซีหว่านได้กลิ่นลมหายใจที่สะอาดและเย็นชาของบนตัวของเขา เธอถูกขังอยู่ในอ้อมอกของเขาโดยที่เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย “ลู่หานถิง เราหย่ากันแล้ว คุณนอกใจฉันก่อน คุณไม่ต้องการฉันก่อน ถ้าตอนนี้ฉันจะทำอะไรกับผู้ชายคนอื่นก็ไม่เกี่ยวกับคุณ ของที่คุณไม่ต้องการแต่ก็ไม่อนุญาตให้คนอื่นครอบครองด้
สายตาของลู่จื่อเซียนจ้องมองไปที่เซี่ยซีหว่านอีกครั้ง เธอรู้จักคนเหล่านั้นหรือไม่ หรือว่า มีคนของเธออยู่กับคนเหล่านั้นหรือไม่ลู่จื่อเซียนรู้สึกว่าตัวเองแทบไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้เลย ทันใดนั้นเสียงหวานของแอร์โฮสเตสก็ดังขึ้นมาจากการเครื่องกระจายเสียงว่า “ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ เครื่องบินเที่ยวบินที่ C81 พร้อมที่จะออกเดินทางไปนครเอมพีเรียลแล้วค่ะ ขอเชิญผู้โดยสารทุกท่านขึ้นเครื่องบินได้ที่…” เริ่มขึ้นเครื่องบินกันแล้ว “คุณชายรอง เราจะผ่านการสแกนก่อนขึ้นเครื่องจากจุด VIP ตรงนี้ก่อนเหรอครับ?”เดิมทีลู่จื่อเซียนต้องการโดยสารเที่ยวบินพิเศษไป แต่เขากลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายกับเซี่ยซีหว่าน ดังนั้นเขาจึงจองเที่ยวบินเดียวกันกับเซี่ยซีหว่าน ลู่จื่อเซียนไม่ได้พูดอะไร ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของเขาก็ดังขึ้น มีสายเรียกเข้า และหมายเลขผู้โทรแสดงขึ้น “แม่” หลิวจ้าวตี้โทรมา ลู่จื่อเซียนเงยขึ้นมองเซี่ยซีหว่าน จากนั้นก็หันหลังกลับและเดินไปที่มุมเงียบสงบมุมหนึ่งเพื่อรับโทรศัพท์ “สวัสดีครับ แม่” “จื่อเซียน ลูกจะขึ้นเครื่องแล้วใช่ไหม คุณป้าอินอินของลูกบอกกับแม่ทางโทรศัพท์ว่าลูกพบผู้หญิงท
เซี่ยซีหว่านมองดูคุณท่านลู่อย่างน้ำตาคลอ เธอพบว่าผมสีขาวบนหัวของคุณท่านก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่ยเบาอย่างกระอักกระอ่วนว่า “คุณย่าคะ”“จ้ะซี่หว่าน !” คุณท่านตอบรับแล้วเดินเข้าไปโอบกอดเซี่ยซีหว่านเอาไว้พลางลูบผมยาวของเธอไปมาด้วยความรักใคร “เด็กดี หนูจากไปนาน ย่าคิดถึงหนูมากเลยจ้ะ”เซี่ยซีหว่านก็คิดถึงคุณท่านเช่นกัน แต่เมื่อเธอกับลู่หานถิงมาถึงจุดนี้แล้ว เธอไม่กล้าไปเยี่ยมหญิงชราเพราะเธอกลัวท่านจะคิดว่าเธอกำลังมีแผนการบางอย่าง “คุณย่าคะ เขาเป็นอะไรคะ ทำไมเขาต้องกินยานอนหลับทั้งขวดเข้าไปด้วยคะ เขานอนหลับไม่สนิทหรือจิตใจของเขาแย่ลงคะ?”คุณท่านส่ายหัว “หานถิงเด็กคนนี้ไม่ได้บอกอะไรย่าเลย พอย่ามาถึงโรงพยาบาลถึงรู้ว่าเขากินยานอนหลับไปหนึ่งขวด เมื่อกี้หมอบอกว่าตัวบ่งชี้ทางจิตใจต่าง ๆ ของเขาผิดปกติมาก ตอนนี้อาการป่วยของเขาอาจจะหนักกว่า... กว่าเมื่อสามปีก่อนนั้น เขาจึงทำได้เพียงแค่กินยานอนหลับเท่านั้น”น้ำตาของเซี่ยซีหว่านไหลพรั่งพรูออกมาอย่างหนักมากขึ้น หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บเจียนจะตายแล้ว เธอมองไปที่ลู่หานถิงด้วยความรู้สึกโกรธแค้นและเกลียดชัง คนโง่ คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากจะห
เซี่ยซีหว่านเปิดประตูห้องทำงานและชำเลืองมองเข้าไปด้านใน ภายในห้องทำงานมีศาสตราจารย์ทางการแพทย์จากต่างประเทศหลายคน ทุกคนล้วนเป็นบุคคลชั้นนำในด้านประสาทวิทยา พวกเขาทุกคนถือเวชระเบียนของลู่หานถิงเอาไว้ในมือและโต้เถียงกันอย่างดุเดือดอย่างหน้าดำหน้าแดงกันไปหมดเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างจนเสียงดังโวยวายออกมานอกห้อง และสุดท้ายก็พากันส่ายหัวไปมาสายตาของเซี่ยซีหว่านจ้องมองไปที่หน้าต่างบานหนึ่ง ทันใดนั้นหน้าต่างก็ถูกเปิดออก และมีร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่นั่นอย่างสงบนิ่ง การทะเลาะวิวาทของคนเหล่านี้ไม่มีผลกับเขา ปลายนิ้วของเขาเต็มไปด้วยควันบุหรี่ และเมื่อเขาได้ยินเสียงเปิดประตู เขาก็หันมามองเธอด้วยดวงตาทั้งสองข้างที่มีสีดำสนิทเหมือนสีน้ำหมึก สองวินาทีต่อมาเขาจึงเดินกลับมาที่ข้างโต๊ะทำงาน มือข้างหนึ่งของเขาล้วงอยู่ในกระเป๋า เขาโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อเอาบุหรี่ที่เหลือครึ่งหนึ่งออกจากปลายนิ้วและดับลงในที่เขี่ยบุหรี่ ขณะที่เขากำลังก้มลงนั้นพู่เข็มกลัดที่ติดอยู่ที่หน้าอกบนเสื้อกั๊กสไตล์นักธุรกิจก็แกว่งไปมาในอากาศอย่างงดงาม เซี่ยซีหว่านเคยเห็นลู่ซือเจี๋ยในนิตยสารธุรกิจแล้ว แต่ตอนนี้เธอกล
ลู่ซือเจี๋ยหยุดชะงัก เขามองไปที่เซี่ยซีหว่าน ดวงตาที่สดใสและเปล่งประกายของหญิงสาว กำลังคาดคั้นคำตอบจากเขาอย่างดื้อรั้น เธอถามเขาว่าเขารักอาถิงหรือไม่ภายในห้องทำงานเงียบลง ไม่นานนักลู่ซือเจี๋ยก็พยักหน้า และพูดว่า “รักสิ”เซี่ยซีหว่านโค้งตัวที่เรียวยาวของเธอลง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่สามารถทิ่มแทงหัวใจของผู้ฟังได้ทุกถ้อยคำว่า “อย่าลืมสิ่งที่คุณลุงพูดกับฉันในวันนี้เด็ดขาดนะคะ เขามีอนาคตที่ดี ในอีก 20 ปี หรือ 30 ปีข้างหน้าเขาจะกลายเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จและมีอำนาจมากกว่าคุณลุงอย่างแน่นอนค่ะ เขาไม่ต้องการให้ฉันใช้เส้นสายเพื่อปูทางให้กับเขา คุณลุงลู่คะ ฉันขอมอบชีวิตและอนาคตที่สดใสของฉันไว้ในมือของคุณลุงนะคะ ฉันยังมีความฝันและหลายสิ่งในชีวิตที่ยังทำไม่สำเร็จ แต่ฉันรักเขา ฉันขอมอบความรักของฉันที่มีต่อเขาให้กับคุณลุงค่ะ และฉันหวังว่าในอนาคตคุณลุงจะรักเขามากกว่าฉันเป็นสองเท่านะคะ”ลู่ซือเจี๋ยตกอยู่ในความเงียบ เขาจ้องมองที่เซี่ยซีหว่านเป็นเวลานานเซี่ยซีหว่านหยิบรูปภาพขึ้นมาทีละใบ เธอเก็บมันกลับเข้าไปในซอง จากนั้นก็ใส่ลงในกระเป๋าเสื้อของเธอแล้วลุกขึ้น ก่อนจะออกไปเธอพูดว่า
ร่างสูงโปร่งของลู่หานถิงแข็งทื่อ หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “คุณชายลู่พวกเราไปทริปฮันนีมูนกันสักห้าวันเถอะค่ะ”ราวกับขนนกปลิวว่อนไปทั่วก้นบึงของทะเลสาบหัวใจและทำให้เกิดระลอกคลื่นขึ้น ข้อมือเรียวของเธอยังคงอยู่ในมือของเขา ผิวของหญิงสาวเนียนราวกับผ้าไหมนั้นช่างอ่อนนุ่มราวกับไร้ซึ่งกระดูก กลิ่นของเธอเหมือนกับชุดนอนสายเดี่ยวสีแชมเปญที่เขาซ่อนไว้บนเตียงทุกประการ เขาพึมพำว่า “คุณรู้แล้วเหรอว่าต้องทำอย่างไร?”เขาตื่นตัวโดยธรรมชาติ และได้ค้นพบความผิดปกติของเธอแล้วเซี่ยซีหว่านพยักหน้า และพูดว่า “ค่ะ ฉันรู้ทุกอย่างที่ฉันควรรู้ค่ะ”ดวงตาคมคายของลู่หานถิงฉายแววหงุดหงิดราวกับว่ามีพายุลูกเล็ก ๆ สะสมอยู่ในนั้น มันดูคาดเดาไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ไม่นานนักเขาก็กัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงไร้ความปรานีว่า “ใครเป็นคนบอกคุณ ผมจะไปจัดการกับพวกเขา !”เขาปล่อยเธอไป“ลู่หานถิง !” เซี่ยซีหว่านเรียกเขาจากทางด้านหลัง และพูดว่า “คุณไปสิ แต่ถ้าคุณไป หลังจากนี้คุณจะไม่เห็นฉันอีก !”ลู่หานถิงหยุดชะงัก เขาหันกลับมา จากนั้นก็สบตากับดวงตาสีแดงก่ำของหญิงสาว ภายในดวงตาที่สดใสของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาเธอกำลังจะร
ลู่หานถิงนึกถึงซูซีคนนั้น เขาไม่ค่อยรู้จักซูซีมากนัก ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลมั่งคั่งแห่ง เมืองไห่เฉิง ในสี่ตระกูลนี้ตระกูลซูเป็นตระกูลที่มีสถานะต่ำต้อยที่สุด และการปรากฏตัวของซูซีคนนี้ก็มีน้อยมาก เขาปรากฏตัวตอนที่เซี่ยซีหว่านกลับมายังเมืองไห่เฉิงเท่านั้น ตอนนี้เมื่อได้คิดไปคิดมาแล้ว คน ๆ นี้ก็มีความลึกลับมากมายเช่นเดียวกันลู่หานถิงรู้สึกว่าเขาได้ละเลยบุคคลนี้อย่างจริงจัง อันที่จริงบุคคลนี้อยู่ที่นี่เสมอ และมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ทั้งหมดลู่หานถิงยื่นชามลายครามในมือของเขาให้กับเซี่ยซีหว่านและพูดว่า “ผมเคยได้ยินมาว่าคุณและซูซีโตมาด้วยกัน พวกคุณเป็นคู่รักในวัยเด็กกันอย่างนั้นเหรอครับ?”“ใช่แล้วค่ะ แม่ของฉันชอบซูซีมาก และซูซีก็เป็นหนุ่มน้อยคนโปรดของแม่ฉันค่ะ”“แม่ของคุณเหรอครับ” ดวงตาอันเฉี่ยวคมของลู่หานถิงฉายแววสงสัย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยถามถึงเรื่องแม่ของเธอเลย และเธอก็ไม่เคยพูดถึงท่านด้วยเซี่ยซีหว่านอยากจะพูดบางอย่างต่อ แต่ในขณะเดียวกันน้าจ้าวก็เดินเข้ามา ท่านพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูหว่านหว่านคะ น้าได้ยินมาว่าวันนี้คุณหนูอยากกินบะหมี่ เมื่อครู่นี้น้าเพิ่งไปบดแป้งมาและตอนน
หลังจากตากเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เซี่ยซีหว่านก็เงยหน้าขึ้น เมื่อเธอเห็นกางเกงในของทั้งสองคนตากติดกันเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขราวกับคนบ้า เธอรู้สึกว่าช่วงเวลานี้ช่างมีความสุขเหลือเกินขณะที่เธอถือกะละมังแล้วหันกลับมา เซี่ยซีหว่านก็สบตากับลู่หานถิง เขาเข้ามาในห้องนานแล้ว ตอนนี้ร่างสูงโปร่งกำลังยืนพิงกำแพงด้วยท่าทางสบาย ๆ เขามองมาที่เธอด้วยแววตาอ่อนโยนจนเธอแทบจะละลายทันใดนั้นติ่งหูสีขาวของเซี่ยซีหว่านก็กลายเป็นสีแดง เธอพูดว่า “คุณชายลู่คะ ทำไมคุณถึงไม่มีมารยาทแบบนี้คะ เข้าห้องหญิงสาวทำไมถึงไม่เคาะประตูคะ?”ลู่หานถิงเลิกคิ้วรูปดาบขึ้น ดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขามองมาที่เธอ และพูดว่า “ตอนนี้คุณพูดเรื่องมารยาทกับผมอย่างนั้นเหรอครับ เมื่อครู่นี้คุณยืนมองเสื้อผ้าของผมแล้วยิ้มราวกับคนบ้า แบบนั้นเรียกว่ามีมารยาทเหรอครับ?”“...”เซี่ยซีหว่านรู้สึกว่าเธอไม่เคยเถียงแพ้ใคร แต่ทว่าตั้งแต่ได้พบกับชายคนนี้เธอก็ไม่เคยเถียงชนะเขาเลยเธอวางกะละมังกลับที่เดิม เซี่ยซีหว่านยืนมองเขาด้วยแววตาสดใสอยู่ข้างเตียง เธอเอื้อมมือเรียวเล็กของเธอออกมาสะกิดเขาเบา ๆ และพูดว่า “มานี่สิคะ”นี่คือห้องส่วนตัวที่แท้จริงของเธ
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ