คู่จิ้นหรือคู่จริงบาลีเหมือนถูกกระชากให้ตื่นจากความฝัน เมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเสียงโทรศัพท์จากอัณญา บอกข่าวสำคัญที่ทำให้หัวใจเธอเหมือนกำลังแหลกสลาย มีภาพหลุดของอัทธ์กับเมทิตาเดินเข้าห้องพักของฝ่ายชาย แม้ซุป’ ตาร์สาวจะสวมหมวกสวมแมส และใส่แว่นตาอันใหญ่ปิดบังใบหน้า แต่นั่นใช่ว่าจะปิดบังรูปร่างหรือลักษณะอันโดดเด่นของนางเอกสาวได้ ภาพที่หลุดออกมานั้นอัณญาบอกว่าไม่ใช่จากกล้องวงจรปิดของโรงแรม แต่มุมกล้องแอบถ่ายจากแขกที่พักที่บังเอิญเจอทั้งสองพอดีอัณญาบอกว่าจะไปเช็กกล้องวงจรปิดอีกที จริงๆ แต่บาลีบอกเพื่อนสนิทไปแล้วว่าไม่ควรทำ มันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของทั้งสอง บาลีไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวของเธอไปทำเรื่องแบบนั้น[งั้นตามใจแกแล้วกัน เพราะถ้าดูกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด คนที่เข้าห้องพักพี่อัทธ์บ่อยที่สุดน่าจะเป็นแกเองนั่นแหละ]ตอนนี้ในสื่อสังคมออนไลน์ และเพจเกี่ยวกับข่าวดารา ต่างแสดงความคิดเห็นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนใหญ่ลุ้นให้คู่จิ้นได้รีเทิร์นรักอีกครั้ง โดยไม่สนว่าเมทิตานั้นมีคนที่คบหาอยู่แล้ว และไม่สนว่าอัทธ์จะกลายเป็นที่สามสำหรับความรักของเมทิตากับแฟนหนุ่มไฮโซฯ [ฉันล่ะงง แฟนคลับคู่
ลูกชายหลับไปแล้ว ส่วนป้ามอญกับลุงปราบก็เข้าห้องนอนแล้ว เด็กรับใช้ก็กลับเรือนพักตัวเองไปแล้วเช่นกัน เพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้การมาของอัทธ์ บาลีจึงไปรอหน้าบ้าน เมื่ออีกฝ่ายมาถึง ก็ให้จอดรถข้างกำแพง เยื้องทางประตูเข้าบ้านไปหน่อย เธอก็เดินให้เปิดประตูเล็กให้เขาแล้วเดินขึ้นเรือนตรงไปยังห้องนอนของเธอทันที พอประตูห้องปิดลง อัทธ์ก็ดึงเธอไปกอด บาลียอมอยู่ในอ้อมแขนนิ่งๆ รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังต้องการกำลังใจ เธอจึงกอดตอบ แล้วบอกเขาเสียงแผ่ว“นั่งก่อนค่ะ เดี๋ยวลีเอาน้ำมาให้” เธอพาไปนั่งยังมุมโซฟา แล้วเดินไปเอาหยิบน้ำจากตู้เย็นเล็กบนเคาน์เตอร์บาร์มาให้ชายหนุ่ม“ตกใจมากเลยสิ ที่เห็นข่าว”“ก็...บ้างค่ะ” อยากจะบอกเขาว่ามากกว่าตกใจคือแปลบๆ ที่ใจ แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ เพราะอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมากกว่า“เมื่อคืนหลังจากกลับจากบ้านลี กำลังจะเข้าห้องพักเมก็โทร. หา...” อัทธ์บอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้บาลีฟังทั้งหมด รวมทั้งเหตุผลที่พาเมทิตาเข้าไปในห้องพักด้วย แน่นอนไม่ลืมที่จะบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขากับเมทิตา นอกจากช่วยเหลือกันแบบเพื่อนร่วมงานและอดีตคนรักเท่านั้น ที่สำคัญเขานอน
ข่าวมาแรง เมทิตาดูคลิปสัมภาษณ์ของอัทธ์จบ เธอก็เหวี่ยงโทรศัพท์ลงบนที่นอนอย่างหงุดหงิด สรุปที่อัทธ์ไม่ยอมทำตามคำขอร้องของวีราวรรณกับผู้จัดการของเขา เรื่องให้คนเข้าใจเธอกับเขากำลังคบหากัน เพราะอัทธ์มีคนที่คบหาอยู่อย่างงั้นเหรอ!เมทิตาอยากรู้ว่านั่นคือเรื่องจริง หรืออัทธ์แค่อยากหาเหตุผลในการปฏิเสธเธอ ทั้งที่เธอยังไม่ทันได้เริ่มต้นที่จะจีบเขาอีกครั้งด้วยซ้ำ ตราบใดที่อัทธ์ยังไม่ยอมเปิดเผยผู้หญิงที่คบหามา เธอจะคิดว่าเขาหาข้ออ้างลงจากเรื่องของเธอแล้วกัน เพราะอัทธ์ไม่อาจทำตามคำขอของวีราวรรณกับผู้จัดการตัวเองได้ เพราะเขาไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นมือที่สามในความรักของเธอกับไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นมากกว่า แม้แฟนคลับที่เชียร์จะมีมากกว่า แต่บางกลุ่มที่เคร่งศีลธรรมจรรยามากล้นทั้งหลาย ก็ไม่เห็นด้วยกับการที่เขาจะมาเป็นมือที่สามในความรักของคนอื่น!เมทิตาหยุดความคิดไว้แค่นั้น เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ เบอร์ใหม่ที่ไม่คุ้น เธอไม่รับเพราะกลัวจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ก็ยังพยายามโทร. หาไม่หยุด เมทิตาจึงกดรับ“เป็นไงล่ะ อุตส่าห์ทิ้งฉันเพื่อจะไปหามัน สุดท้ายมันก็ไม่เอาเธอเหมือนกัน สมน้ำหน้า ฮ่าๆ” น้ำเสียงเยาะเย้
บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่บนยอดเขาในฤดูหนาว นอกจากจะใจสั่นเพราะความสูง แถมมีม่านหมอกปกคลุม หายใจแทบไม่ออก เพราะกลั้นหายใจเป็นระยะ ลุ้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นบาลีเปรียบเปรยบรรยากาศบนโต๊ะอาหารในตอนนี้ มื้อค่ำที่เธอคิดว่าแสนวิเศษ เพราะเพื่อนรักมาร่วมโต๊ะ โดยที่บาลีบอกกับอัณญาว่าธรินท์ไม่อยู่บ้าน ออกไปแฮงเอาต์กับเพื่อนในตัวเมือง แต่เมื่อทุกคนกำลังเริ่มต้นกินมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อย จู่ๆ ธรินท์ก็โผล่เข้ามาในห้องกินข้าว เดินไปคดข้าวใส่จาน แล้วมานั่งร่วมโต๊ะหน้าตาเฉย แถมนั่งตรงข้ามอัณญาอีก อดีตคู่รักวัยใส นอกจากจะไม่เอ่ยทักทายกันแล้ว แต่ยังจ้องหน้ากันเหมือนอยากระโจนเข้าฟัดกัน“หนูเอยกินเยอะๆ นะ” ป้ามอญพยายามคลี่คลายบรรยากาศมาคุ ด้วยการตักแกงส้มไข่ปลา เมนูโปรดของอัณญาใส่จานให้“ขอบคุณค่ะ” อัณญาเมินสายตาของธรินท์หันไปพูดกับป้ามอญต่อ“เอยกินที่ไหนกินแกงส้มไข่ปลาที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าฝีมือป้ามอญเลยค่ะ” “อูย หนูเอยก็ปากหวานใส่คนแก่”“หวานมาก ระวังน้ำตาลขึ้น” ธรินท์ทะลุกลางปล้อง ทำเอาทั้งป้ามอญและอัณญาถลึงตาใส่ ส่วนลุงปราบนั้นกระทุ้งศอกใส่สีข้าง เพื่อให้เจ้าตัวหุบปาก“กินไป ไม่ต้องพูดมาก” ลุงปราบว่า“ลุ
เมทิตาโบกมือให้เพื่อนๆ ขณะแยกย้ายกันออกจากผับดังในเวลาเที่ยงคืนกว่า ใบหน้าเธอหายเป็นปกติ ไร้ร่องรอยช้ำ พรุ่งนี้จะกลับไปถ่ายละครที่ไร่แสงอุษา เธอเลยนัดเพื่อนๆ มาแฮงเอาท์ ก่อนกลับไปลุยงาน คืนนี้เมทิตารู้สึกปลอดโปร่งใจ หลังจากหมกตัวอยู่ในห้องเพื่อรอให้รอยช้ำบนใบหน้าหายดี แม้จะผิดหวังในเรื่องอัทธ์ แต่เธอก็ไม่ได้ท้อเสียทีเดียว เพราะถ้าอัทธ์ไม่ได้โกหก แต่สถานะของคนคุยมันก็ไม่ได้มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว และเธอกับเขาก็กลับมาใกล้ชิดกันแบบนี้ โอกาสของเธอก็มีมากพอ เมทิตายิ้มกริ่มขณะกดรีโมทรถ เปิดประตูเข้าไปนั่งหน้าพวงมาลัย แล้วเคลื่อนรถออกจากบริเวณลานจอดของผับ เพื่อตรงไปยังคอนโดฯ เพราะดึกมากแล้วถนนค่อนข้างโล่ง แต่ระหว่างที่ติดไฟแดง เมทิตาก็สะดุ้ง เมื่อมีของเย็นเฉียบมาจ่อที่ลำคอ พร้อมกับเสียงกร้าวที่เย็นยะเยือกไปถึงหัวใจที่ดังมาจากด้านหลัง“กูว่ามึงอย่าเพิ่งกลับห้องเลยนะ ไปที่รีสอร์ตของกูดีกว่า” “พี่พัท!”“เออ ยังดีนะที่ยังจำเสียงผัวเก่าได้!” “พี่พัท จะทำอะไร!” เมทิตาพยายามจะเบี่ยงรถจอด “ขับไปเรื่อยๆ ถ้าหน้ามึงไม่อยากมีแผลเหวอะ!” เขาเอาปลายมีดจ่อข้างแก้ม “พี่พีท อย่า!” หากใบหน้าเธอเป็นแผล ชีวิ
“ไปดิน เรามีเรื่องต้องด่วนต้องทำกันแล้ว” “อะไรของมึงไอ้วิน เราเพิ่งเข้าห้องพัก กูเพลียจะแย่แล้ว มึงจะยังไปต่อที่ไหนอีก” วันนี้ธรินท์กับวินมางานแต่งของเพื่อนคนหนึ่งในอยุธยา และเพิ่งจะกลับจากงานเลี้ยงฉลองสมรถ กำลังจะเอนตัวบนเตียง วินที่เพิ่งคุยโทรศัพท์กับใครสักคน ก็ชวนเขาไปต่ออีก“พี่วีราโทร. มาบอกว่าน้องเมถูกคุณพัทกำลังพาตัวมาที่รีสอร์ตที่นี่”“แล้วไงวะ คงคืนดีกันแล้วมั้ง”“คืนดีพ่องมึงสิ ไอ้นั่นมันน่าจะข่มขู่ลักพาตัว เออ กูก็ไม่รู้รายละเอียดหรอก ตอนนี้พี่ภาวีกับพี่วีราไม่กล้าแจ้งตำรวจ ถึงแจ้งไปก็ไม่รู้ว่าเขาจะกล้ามาจับไอ้คุณพัทไหม”“ถ้าคิดว่าคุณเมจะเกิดอันตรายก็แจ้งไปเลยสิวะ มัวแต่กลัวไรอยู่วะ” “งั้นมึงลุกก่อน!”“เออ แล้วไงต่อ!” “เหมือนว่าพวกเขายังมาไม่ถึง เราก็ไปป้วนเปี้ยนแถวทางเข้ารีสอร์ตก่อน ถ้ามาถึงเมื่อไหร่เราก็พาคุณเมหนีไปก่อน” รู้สึกโชคดีที่เลือกมาพักรีสอร์ตนี้ เพราะมันอยู่ใกล้สถานที่จัดงานแต่งของเพื่อน“มึงคิดเป็นพระเอกละครไปได้ เกิดไอ้คุณพัทมีปืน เขาก็จะยิงมึงกับกูก่อนไหม”“เออ เรื่องนั้นค่อยๆ คิด” วินพูดพร้อมกับดึงข้อมือธรินท์ให้ลุกจากที่นอน“มึงร้อนรน ทำยังกับเป็นแฟนตัว
ความลับไม่มีในโลก “ไอ้วิน มึงจะกินไหมข้าวเนี่ย มันเย็นหมดแล้วนะ” ธรินท์ถามเสียงห้วน เมื่อเห็นเพื่อนสนิทนั่งหน้ามุ่ยอยู่เฉลียงบ้านพักของเขานานแล้ว เรียกมากินข้าวก็ทำเฉย ทั้งที่เขาอุตส่าห์ลงมือทำมื้อค่ำด้วยตัวเอง ซึ่งปกติก็ไปกินที่บ้านใหญ่ แต่วันนี้วินมาพักด้วย ก็เลยไม่อยากรบกวนบ้านใหญ่เหตุที่วินมาพักด้วย เพราะอีกฝ่ายต้องมาช่วยงานพี่สาวในกองถ่ายละครเรื่องไร่แสนเสน่หา“กูไม่หิว!”“เฮ้ย มึงไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เที่ยงแล้วนะ หรือมึงจะลดหุ่น”“เออ เผื่อกูจะหุ่นดีเหมือนมึงไง!”“ถ้ามึงจะมาหุ่นแบบกู มันไม่ได้ง่ายๆ แค่มึงอดมื้อค่ำหรอกโว้ย มึงต้องไป...”“เออๆ กูคงต้องไปวิ่งไล่ลูกบอลให้เก่งเหมือนมึงใช่ไหม ไอ้คนหุ่นดี ไอ้พระเอกตัวจริง!”“เฮ้ย ไอ้เวร ประชดแบบนี้ คือมึงหึงกูเหรอวะ” เพราะคลิปที่ธรินท์จับมือเมทิตาวิ่งหนีไอ้คุณพัทเมื่อสองวันก่อน กลายเป็นคลิปไวรัล มีคนมาเมนต์ชอบหุ่นและความหล่อธรินท์มากมาย บางคนก็บอกเป็นพระเอกตัวจริงของเมทิตา ซึ่งตอนนี้นางเอกสาวคนดังได้แจ้งความว่าอดีตแฟนเคยทำร้ายร่างกายและพยายามลักพาตัว ซึ่งธรินท์กับวินได้ให้ปากคำตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคืนนั้นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนอกจา
“ป่านนี้ไม่หน้าบานเป็นจานเชิงเหรอ!” อัณญาพูดพลางเบ้ปากนิดๆ เหมือนเหม็นความหล่อของคนในคลิป หลังจากดูจบ สองสาวนัดกันมานั่งในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากไร่แสงอุษา เพื่อมากินมื้อค่ำด้วยกัน“เอ้า ประชดแบบนี้ยังไง หึงคุณเมหรือไง”“บ้าสิ ใครจะไปหึง!” “ก็ทำสุ่มเสียงประชดขนาดนั้นก็แอบคิดไปไกลนะ” บาลีว่าแล้วทำหน้าล้อเลียน “จ้า อารมณ์ดีมากเลยนะ แฟนหลุดพ้นข้อหามือที่สามแล้วนี่”“แน่นอนสิ ว่าแล้วก็ รีบกลับบ้านเหอะแก ฉันจะได้ติดรถไปหาพี่อัทธ์ที่โรงแรม” “โอ๊ย ใจคอแกจะไปถวายตัวให้พี่เขาถึงที่เลยหรือไง” “แล้วแกจะให้พี่เขาไปหาฉันที่บ้านหรือไงล่ะ” บาลีย้อนกลับ “ก็น่าจะลองดูนะ บางทีอาจเสี่ยงน้อยกว่าที่แกไปหาพี่เขาที่โรงแรม เพราะอาจมีคนเห็น”“ฉันจะใส่หมวกแก็ป สวมแมส และแว่นกันแดด” “สงสัยแกจะดูละครมากไปแล้วลี” “ก็เผื่อมีคนแอบถ่าย ก็จะได้ไม่เห็นหน้าฉันไง” “จ้า แม่คนฉลาด” “ไปเถอะๆ คิดถึงพี่เขามากๆ ไม่ได้เจอกันหลายวันแล้วนะ” อัณญาทั้งส่งค้อนปนหมั่นไส้กับท่าทีอยากจะไปหาแฟน ของบาลี ขอให้ให้เป็นความลับตลอดไปเท่าที่อยากจะให้เป็นก็แล้วกัน แต่เอ...ในโลกนี้ความลับไม่มีในโลกนะ แค่รอวันเปิดเผยเท่านั้น!
“จำได้ค่ะ วันนั้นพี่กินก็มาฉลองที่บ้านเราด้วย” จะลืมได้อย่างไร เพราะหลังฉลองวันเกิดอายุสิบห้าของเธอไปแค่คืนเดียว รุ่งขึ้นเขาบอกเลิกเธอทันที “วันนั้นพ่อเรียกดินมาคุย บอกเขาให้เลิกกับเอย เพราะเขาไม่เหมาะกับเอย”“คุณพ่อ!” อัณญาตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน “พ่อพูดจาไม่ดีกับเขา เพราะกลัวว่าเขาจะมาเกาะลูก ดูถูกที่เขาจน และห้ามไม่ให้เขามาเหยียบบ้านเราอีก”“คุณพ่อ ฮือๆ ทำไมพูดกับพี่เขาแบบนั้น ฮือๆ” อัณญาปล่อยโฮออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้ เพราะความสงสารธรินท์ ไม่คิดจริงๆ เบื้องหลังคำบอกเลิกที่คิดว่าใจดำและโหดร้ายกับเธอนั้นจะเกิดจากเหตุผลนี้ “พ่อเสียใจ แต่ตอนนั้นพ่อคิดว่าเขาอาจจะ...”“พอเถอะค่ะ” อัณญาไม่อยากฟังคำหวังดีที่สุดท้ายแล้ว พ่อก็คือคนที่ทำร้ายหัวใจของเธอ ไม่ใช่เขา“ต่อไปนี้พ่อจะไม่ยุ่งเรื่องนี้อีกแล้ว ถ้าเอยอยากกลับไปคบกับดิน พ่อก็ยินดี”“เขาคงอยากกลับมาหรอก!” อัณญาพูดจบก็หมุนตัวเดินออกจากห้องนั่งเล่น ความคิดที่อยากจะไปทำงานนั้นจบลงแล้ว เธอเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอน ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนแรงทั้งสับสน ทั้งเสียใจ และเสียดายกับวันเวลาที่เธอเอาแต่จงเกลียดจงชังธรินท์ เพราะเหตุผลที่เขาทิ้งเธอไปมีค
เรื่องที่ไม่เคยลืม อัณญารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยเมื่อโทร. หาน้องชายให้มารับกลับบ้าน โทร. อย่างไรก็ไม่ติด เพื่อนมาจากกรุงเทพฯ เพื่อปรับทุกข์เรื่องแฟนนอกใจ เธอก็เลยทั้งปลอบใจและดื่มเป็นเพื่อนจนเมากันทั้งคู่ ขับรถกลับบ้านไม่ไหวจะโทร. หาคนขับรถของบิดา มันก็ดึกมากแล้ว ลุงไกรก็คงหลับไปแล้ว เมื่อโทร. หาน้องชายตัวดีไม่ติด อัณญากับเพื่อนก็เลยตัดสินใจจะเรียกไรเดอร์ทางแอพฯ แต่ยังไม่ทันจะกดเรียก เสียงห้าวทุ้มของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น“ท่าทางจะเมา ให้พี่ไปส่งแล้วกัน”อัณญาหันไปมองแล้วทำท่าครุ่นคิด ยอมรับว่าตั้งแต่คุยกันเรื่องความสัมพันธ์กับบาลีวันนั้นแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเขาบ่อยๆ“ใครอะ หล่อจุง” เพื่อนที่เพิ่งคร่ำครวญว่าถูกผู้ชายทิ้ง ดื่มหนักและตัดพ้อชีวิตว่าต่อไปนี้จะครองตัวเป็นโสดให้ผู้ชายเสียดายเล่น กลับมอง ธรินท์ตาเป็นประกายเยิ้ม ทั้งจากความเมาส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็แพ้คนหล่อ “สวัสดีครับ ผมดินครับ เป็นคนบ้านเดียวกับเอย”“งั้นก็ไว้ใจได้สิ ไปส่งพวกเราเถอะ”“ได้ครับ” แล้วเขาก็แบมือขอกุญแจรถจากอัณญา หญิงสาวก็ไม่มีทางอื่น นอกจากยื่นให้อีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะอยากกลับบ้านไปนอนเต็มที่ ทั้ง
วันนี้ยกกองฯ เร็ว เพราะเมทิตาลาป่วยทั้งวัน อัทธ์เห็นอาการป่วยของเมทิตาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว เพราะเข้าฉากด้วยกันอยู่ดีๆ เจ้าตัวก็หน้ามืดเป็นลมวันนี้เขาจึงเข้าฉากกับน้องอิฐเป็นหลัก และนักแสดงคนอื่นๆ จนกระทั่งหกโมงเย็น ทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พัก ส่วนเขาเดินกลับบ้านกับน้องอิฐ เพราะต้องไปเล่นฟุตบอลกันต่อสักครู่ชั่วโมง ก่อนมื้อค่ำในเวลาหนึ่งทุ่มตรง วันนี้นอกจากมีธรินท์กับวินแล้ว ก็มีเพื่อนซี้ของน้องอิฐชื่อเตเต้มาเล่นด้วย เมื่อเล่นฟุตบอลเสร็จธรินท์กับวินก็แยกย้ายไปหามื้อค่ำกินข้างนอกตามประสาหนุ่มโสด ที่ต้องการใช้เวลาหลังมื้อค่ำเพื่อแฮงเฮาท์ต่อกับกลุ่มเพื่อน ส่วนอัทธ์นั้นหลังมื้อค่ำ ก็ยังใช้เวลากับบาลีและน้องอิฐต่อ กระทั่งถึงเวลานอนน้องอิฐ เขาก็ขอตัวกลับที่พักโดยที่ไม่รู้ว่าขณะที่กำลังเปิดประตูห้องเข้าไปนั้น ผู้หญิงที่เขาไม่อยากเจอหน้าที่สุด กำลังเดินออกมาจากห้องพักที่อยู่เยื้องจากเขาไปเล็กน้อย น้ำส้มถึงกับกระตุกยิ้มอย่างหมายหมาด เพราะตอนนี้เธอรู้แล้วว่าอัทธ์พักอยู่ห้องไหน เอาเถอะ จะปล่อยเขาไปสักวัน เพราะวันนี้เธอแต่งตัวจัดเต็มความแซ่บ เพื่อล่าเหยื่อหนุ่มๆ ในค่ำคืนนี้แล้ว เพราะอดเซ็กซ
แต่อย่าคิดว่าคนอย่างน้ำส้มจะหมดหนทางในเรื่องผู้ชาย เพราะอัทธ์ก็เป็นคนที่เพอร์เฟกต์ไม่แพ้คริส เธอจะทำให้อัทธ์กลับมาหลงใหลเธอเหมือนสมัยก่อนให้ได้ ตอนนั้นไม่น่าทิ้งเขาไปกิ๊กคริส ขนาดเคยทิ้งอัทธ์ไว้ในห้องทั้งที่เขาไม่สบาย เพื่อไปเริงรักกับคริส แถมยังรีบร้อนไปเรียนต่อเมืองนอกพร้อมกับเขาอีก ถ้าเธอไม่ทำแบบนั้น บางทีเธอกับอัทธ์อาจคบหากันจริงจัง และป่านนนี้อาจแต่งงานมีลูกกันไปหลายคนแล้วก็ได้แต่ไม่เป็นไร เธอจะทำให้อัทธ์กลับมาเป็นของเธอให้เร็วที่สุด จะทำให้คริสรู้ว่า คนอย่างเธอ ไม่เคยไร้ผู้ชายดีๆ ข้างกาย “ขอเบอร์พี่อัทธ์หน่อยสิ”“ต้องขออนุญาตมันก่อน” นนท์บอก“นี่คนกันเองนะคะ ต้องขอด้วยเหรอ”“ก็เคยมีสาวสวยขอเบอร์มันจากพี่ พี่ก็คิดว่ามันคงดีใจที่มีคนสวยๆ อยากทำความรู้จักมัน ปรากฏว่ามันด่าพี่แทบเสียคน น่ะสิ” นนท์ให้เหตุผล “งั้นก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวส้มจัดการเอง” ทั้งสองคุยกันไปดื่มกันไปจนนนท์เมาพับคาเก้าอี้ น้ำส้มได้หยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา สแกนนิ้วของคนหลับ ไม่นานเธอก็หาเบอร์ของอัทธ์ได้จากนั้นก็เดินตัวปลิวออกจากห้องวีไอพีไปทันที โดยไม่สนใจคนเมาหลับแม้แต่น้อยในตอนบ่ายของวันรุ่งขึ้น น้ำส้มโทร.
คนในอดีตอัทธ์เดินเข้าไปในผับที่นัดแนะกับนนท์ไว้ด้วยท่าทีเอื่อยๆ เพราะเขาเพิ่งเสร็จจากงานถ่ายโฆษณาชิ้นหนึ่ง ซึ่งขออนุญาตผู้จัดพักกองถ่ายละครมาสัปดาห์หนึ่งแล้ว กำลังจะกลับบ้านไปพักผ่อน แต่นนท์โทร. มาเร่งเร้าอยากให้มาเจอที่ร้านประจำ ซึ่งหลังจากไปถ่ายละคร เขาไม่เคยมาที่นี่เลย ส่วนหนึ่งคือพักอยู่ที่เขาใหญ่เลย ถ้าไม่มีงานในกรุงเทพฯ ก็แทบไม่ได้เข้ามา อีกส่วนคือเขาใช้เวลาว่างหลังเลิกงานกับบาลีและน้องอิฐ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีมาก เขาชอบช่วงเวลาแบบนั้นมากกว่ามาสังสรรค์กินเหล้าเคล้านารีกับนนท์ ที่ตอนนี้เจ้าตัวคร่ำครวญว่าเพิ่งเลิกกับแฟนสาวคนล่าสุดไปไม่กี่วันนี่เองนี่คือเหตุผลที่เขาต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี มาปลอบใจและกินเหล้าเป็นเพื่อนอีกฝ่าย แต่พอเดินเข้าไปในห้องวีไอพี ห้องประจำเท่านั้น คนที่เพิ่งบอกว่าอกหักกำลังหัวเราะอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง คนที่เพ่งมองดีๆ แล้วคุ้นมาก ถึงมากที่สุด!“พี่อัทธ์ ดีใจจังเลยที่เจอกันอีก” หญิงสาวถลาเข้ามาโถมกอดเขาทั้งตัว เนื้อตัวที่นอกจากนุ่งสั้นแค่คืบ แต่ช่วงบนก็เกาะอกโชว์อกตูม แบบไม่ไว้หน้าใครเสียด้วย อัทธ์ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ เพราะไม่คิดว่าจะเจอหญิงสาวอีกครั้ง ในเ
“บ้านน่าอยู่มากค่ะ” บาลีเอ่ยขึ้น หลังมื้อค่ำจบลง อัทธ์ก็พาเธอกับลูกชายมาที่บ้านส่วนตัวของเขาที่อยู่ในอาณาเขตเดียวกับครอบครัว แต่ระยะห่างกันค่อนข้างมาก แถมยังถูกกางกั้นด้วยรั้วต้นไม้พุ่มที่ถูกตัดแต่งสวยงาม เป็นบ้านสีขาวไม่ต่างจากคฤหาสน์ของครอบครัว ทว่าหลังเล็กกว่า แต่สวยน่าอยู่ไม่แพ้กัน ที่นี่ยังเป็นโฮมออฟฟิศของอัทธ์ เพราะมีห้องสตูดิโอ สำหรับซ้อมดนตรีและบันทึกเสียงด้วย อัทธ์พาชมทุกห้องของบ้าน ก่อนพาแม่ลูกมายังห้องพักที่อยู่ข้างๆ ห้องของเขา “พักผ่อนตามสบายนะ น้องอิฐท่าจะง่วงมากแล้ว”“ค่ะ” บาลีกับลูกชายรีบอาบน้ำ เมื่ออยู่ในชุดนอนเรียบร้อย เธอก็พาลูกเข้านอน เพราะเพลียกับการเดินทาง ทั้งสองจึงหลับไปในเวลารวดเร็ว ตื่นมากินมื้อเสร็จ อัทธ์ก็พาเธอกับลูกเดินทางกลับไร่แสงอุษา โดยที่บาลีไม่ได้ปิดบังทางบ้านอีกต่อไป เพราะคิดว่าไหนๆ ธรินท์ก็รู้แล้วว่าเธอกับอัทธ์คบกัน บาลีจึงบอกป้ามอญกับ ลุงปราบ ซึ่งทั้งสองก็มีตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่คนที่บาลียังไม่ได้บอกอย่างเป็นทางการคือลูกชายตัวเอง เพราะฉะนั้นคืนนี้หลังจากกินมื้อค่ำเสร็จ เธอกับลูกนอนอ่านหนังสือด้วยกันในห้องนอนของลูก บาลีจึงเปรยเ
เมื่ออัทธ์เคลื่อนรถเข้ามาในคฤหาสน์ของครอบครัวในตอนเย็นของวัน บาลียอมรับว่าตื่นเต้น ลูกชายของเธอก็น่าจะมีอาการไม่ต่างกัน เพราะเจ้าตัวเอาหน้าแนบกระจกรถเพื่อมองไปยังด้านนอก สีหน้าก็บ่งบอกอาการไม่ต่างจากผู้เป็นแม่แต่บาลีไม่ได้ตื่นเต้นที่เห็นบ้านหลังใหญ่และบริเวณกว้างขวาง เพราะบ้านไร่แสงอุษาเธอก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร แต่ความรู้สึกที่ว่ากำลังจะได้เจอครอบครัวของอัทธ์ต่างหากที่ทำให้บาลีรู้สึกแบบนั้น“เป็นอะไร มือเย็นเชียว” อัทธ์ถามขึ้นด้วยความแปลกใจเมื่อลงจากรถหน้าเทอเรซ จับมือสองแม่ลูกเพื่อจะเดินเข้าบ้าน แต่พบว่ามือของบาลีนั้นค่อนข้างเย็น“ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ” บาลีบอกไปตามตรง“ไม่นิดหน่อยมั้งครับ แต่จะบอกว่าไม่มีหรอก ที่บ้านรู้ว่าแล้วว่าพี่คบกับลีอยู่ ทุกคนโอเค” “จริงๆ นะคะ” บาลีไม่ได้กังวลเรื่องหน้าตาหรือฐานะ เพราะแม้จะไม่ได้เทียบเท่าเขา แต่เรื่องสถานะที่เป็นผู้หญิงมีลูกแล้วนี่สิ ก็ไม่ต่างจากแม่ม่าย ทั้งที่ความเป็นจริงเธอก็เป็นเพียงคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเท่านั้น “จริง และที่บ้านเห็นภาพน้องอิฐตอนฟิตติ้งละคร ทุกคนก็อยากเจอตัวจริงทั้งนั้น พ่อกับแม่และพี่สาวพี่ บอกว่าน้องอิฐหน้าเหมือนพี่ตอนเป็นเด็ก
ร่างที่หลับใหลไปอย่างเต็มอิ่ม ค่อยๆ ลืมตา ภายในห้องที่ยังสลัวลาง แต่รับรู้ได้ว่าใกล้ฟ้าสาง เขากวาดสายตามองรอบห้อง ถึงรู้ว่าตัวเองหลับอยู่ในห้องนอนรับรองแขก แขกที่ว่านั่นคือเขาหันขวับไปด้านข้างทันที ภาพที่อยู่ตรงหน้า มีเด็กชายตัวป้อมซุกอยู่ข้างลำตัวเขา มองข้ามเจ้าตัวป้อมไป ก็เห็นใบหน้าที่เขามองว่าน่ารักนั้นหลับพริ้มอยู่ และท่อนแขนเรียวเสลานั้นก็กอดเจ้าตัวป้อมไว้อย่างหวงแหน ช่างเป็นความรู้สึกที่แปลกเหลือเกิน จู่ๆ เขาก็อยากเห็นภาพนี้ไปตลอดชีวิต ภาพครอบครัวเล็กๆ พ่อ แม่ ลูก เป็นภาพที่ไม่เคยอยู่ในหัวเขามาก่อนเขาไม่เคยคิดอยากจะมีลูก นอกเหนือจากที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มั่นใจจะเลี้ยงดูให้เป็นคนดีในสังคม ที่มีสิ่งยั่วยุมากมายขนาดนี้ การมีลูกสำหรับเขา มันเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับคนที่ชอบใช้ชีวิตอย่างอิสระ และไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่น แต่ตอนนี้ยอมรับว่าบาลีกำลังทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนความคิดนั้นทีละนิด“ตื่นแล้วเหรอคะ” เสียงหวานๆ ที่ทักทายนั้นทำให้อัทธ์หลุดจากห้วงคิด เขาส่งยิ้มให้แล้วขานรับ“อือ ขอโทษด้วยนะเผลอหลับ แย่งเตียงแม่ลูก” “ไม่เป็นไรค่ะ เตียงออกกว้าง”“พูดแบบนี้แปลว่าคืนต่อไปก็มานอ
บาลียิ้มปากฉีกขณะนั่งมองพ่อลูกกำลังเล่นเตะบอลด้วยกันบนชายหาดอย่างสนุกสนาน ตอนนี้เธอยังสวมแว่นกันแดด กับหมวกแก็ป ไม่ได้สวมแมส อัทธ์บอกว่ามันดูจงใจปกปิดใบหน้าจนคนจะสงสัยเอาเสียด้วยซ้ำ ทำให้บาลีคล้อยตาม เพราะอาจเป็นจุดสนใจ แทนที่จะได้อยู่แบบเงียบๆ แบบไม่มีคนสนใจอย่างที่ต้องการ “แม่ครับ อาอัทธ์ให้มาชวนเล่นน้ำด้วยกัน” “ไม่ดีกว่า ลูกเล่นกับอาอัทธ์สองคนเถอะ” เกิดมีคนเห็น แอบถ่ายภาพ มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่น่ะสิ“อาอัทธ์บอกว่า ถ้าแม่ไม่ไป อาอัทธ์จะมาอุ้มแม่ลงทะเลเอง” “เฮ้ยได้ไงล่ะ!” บาลีเผลอร้องขึ้นอย่างตกใจ “ก็อาอัทธ์บอกแบบนั้นจริงๆ นั่นไง อาอัทธ์มาแล้ว” บาลีตกใจที่เห็นอัทธ์เดินตรงดิ่งมาที่เธอกับลูก ท่าทีขึงขัง จนเธอไม่ไว้ใจ กลัวว่าเขาจะอุ้มเธอลงทะเลจริงๆ แถมมีสาวๆ ที่นั่งถ่ายรูปเล่นบนชายหาด หันมากรี้ด แล้วร้องเรียกชื่อเขาอีก “พี่อัทธ์หล่อมาก เท่มาก กรี๊ดดด” บาลีรีบผุดลุกจากพื้นทราย เพียงไม่กี่ก้าวที่เขาจะมาถึงตัวเธอ บาลีตัดสินใจวิ่งไปยังผืนน้ำ แล้วพุ่งตัวลงกระแทกใส่คลื่นที่โถมเข้าหาฝั่งพอดี เสียงหัวเราะของสองพ่อลูกแว่วแทรกเสียงมาให้ได้ยิน บาลีคิดว่าถูกอัทธ์แกล้งแน่นอน ลูกชายของเธอก็