เขา เพราะว่าตอนนี้เขากำลังครุ่นคิดถึงแต่น้ำตาล มีเรื่องหลายอย่างที่เขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะสะสางกับหล่อนในระหว่างที่จันทร์เจิดเดินทางไปอเมริกายืนเคลียคลอร่ำลากับมาร์เซโล่ได้อีกครู่สั้นๆ ต่อมา ประกาศของสายการบินที่ดังลั่นก้องไปทั้งอาคารผู้โดยสาร ก็ทำให้จันทร์เจิดต้องเดินไปขึ้นเครื่องมาร์เซโล่มองส่งจนร่างของจันทร์เจิดลับเข้าไปในช่องทางเดินเพื่อไปขึ้นเครื่อง ก่อนจะเดินกลับมายังรถที่จอดเอาไว้ด้านหน้าอาคาร“น้ำตาล... อยู่ไหน”มาร์เซโล่กดโทรศัพท์หาน้องเมีย หลังจากได้รู้จากปากของป้านวลว่าหล่อนออกไปสมัครงาน“ตาลนั่งรอสัมภาษณ์งานอยู่ค่ะ”น้ำตาลตอบกลับมา ตอนนั้นหล่อนกำลังนั่งรอสัมภาษณ์งานอยู่พอดี“งานอะไร?”เสียงของมาร์เซโล่เข้มขึ้น“งานเลขาค่ะ”น้ำตาลตอบ ที่เลือกสมัครงานเลขาก็เพราะว่าหล่อนเรียนจบมาทางสาขานี้“บริษัทอะไร?”พี่เขยถามกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วน“เอ่อ... ”น้ำตาลอึกอักที่จะบอกความจริง“อ้าว... หูหนวกหรือยังไง พี่ถามว่าบริษัทอะไร?”“ก็... ” “เดี๋ยวนี้ริอ่านมีความลับกับพี่แล้วหรือ?”มาร์เซโล่รีบกล่าวขึ้นแทรก เพราะรู้สึกว่าน้ำตาลกำลังปิดบังอะไรสักอย่าง“บริษัทอะไร... บอกมาดีๆ อย่า
“ทำไมต้องห้ามไม่ให้พี่ไปรับ” มาร์เซโล่ถามกลับด้วยความสงสัย ตอนนั้นเขาใกล้จะถึงแล้ว เพราะว่าบังเอิญผ่านมาทางเส้นทางซึ่งใกล้กับบริษัทของนาวินพอดี“ยังไม่ตอบอีก... ทำไมไม่อยากให้พี่มารับ”มาร์เซโล่ถามอีกเมื่อยังไม่ได้คำตอบ“ที่ไม่อยากให้มารับก็เพราะไม่อยากให้พี่มาร์คมีปัญหากับคุณจันทร์เจิด”“คุณจันทร์ไม่อยู่... เพิ่งไปอเมริกาเมื่อเช้านี้ กว่าจะกลับก็อาทิตย์หน้า”มาร์เซโล่รีบบอก สิ่งที่ได้ยินทำให้น้ำตาลรู้สึกปวดแปลบในใจ ที่พี่เขยพูดออกมาเช่นนี้ก็เพราะว่าหล่อนมีค่าแค่ ‘ตัวสำรอง’ ของเขาเท่านั้น จะมีค่าก็ตอนว่าที่เจ้าสาวของเขาไม่อยู่“จะถึงแล้ว... รออยู่ข้างในก็ได้ เดี๋ยวพี่เข้าไปทักทายไอ้วินสักหน่อย”มาร์เซโล่ตัดสายแล้วเลี้ยวรถเข้ามาจอดในช่องจอดรถของผู้บริหาร เขาเคยแวะมาหานาวินบ่อยๆ ทำให้ยามและพนักงานออฟฟิศส่วนหน้ารู้จักเขาดี สาวๆ ในที่ทำงานของนาวินพากันกรี๊ดกร๊าดทุกครั้งที่หนุ่มสเปนหน้าตาหล่อเหลาเร้าใจอย่างมาร์เซโล่แวะมาหานาวินที่บริษัทที่หน้าห้องทำงานของนาวิน“พี่วินคะ... วันนี้ตาลคงออกไปทานข้าวกับพี่ไม่ได้แล้ว”น้ำตาลบอก“อ้าว... ทำไมล่ะ”นาวินทำหน้าผิดหวังอย่างเห็นไ
มาร์เซโล่ตอบโดยไม่มองหน้าหล่อน สายตามองตรงไปยังถนนเบื้องหน้า“แต่ตาลอยากใช้คืนค่ะ ทิ้งไว้สักวันมันจะกลายเป็นหนี้บุญคุณ... ถ้าตาลใช้คืนหมดเราจะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างกันอีก”หญิงสาวหารู้ไม่ว่าสิ่งที่พูดออกมาทำให้มาร์เซโล่โกรธจัด“กลัวนักหรือที่จะมีอะไรติดค้างกับพี่... รังเกียจนักหรือที่จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่”“ตาลแค่อยากใช้หนี้ให้หมด”“ก็ได้... ถ้าอยากใช้หนี้นักเดี๋ยวพี่จัดให้”มาร์เซโล่วาดวงเลี้ยวเข้าไปในซอยข้างทาง แลเห็นป้ายบอกว่า “วิมานฉิมพลี” ซึ่งก็คือโรงแรมม่านรูด“พี่มาร์คจะทำอะไร”น้องเมียถามเสียงสั่น“ก็อยากใช้หนี้ไม่ใช่หรือ... งั้นขอพี่เอาสักที จะถือว่าเป็นการลบล้างหนี้... ถือว่าเราไม่เคยมีบุญคุณต่อกัน”เสียงของม่าร์เซโล่ฟังดูเยียบเย็นเหมือนคนไร้หัวใจ น้ำตาลนิ่งฟังข้อเสนออำมหิตของพี่เขยด้วยความรู้สึกขมขื่นใจ เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นข้อแลกเปลี่ยนด้วยวิธีนี้ ทำให้รู้ว่าสุดท้ายหล่อนก็มีค่าแค่เพียง ‘นางบำเรอ’ ของเขาเท่านั้นเมื่อเข้ามาอยู่ในห้องของโรงแรมม่านรูด พี่เขยจอมเถื่อนกระชากร่างของน้ำตาลลงมานอนปลุกปล้ำบนเตียงโดยไม่สนใจเสียงวิงวอนน่าเวทนา“อย่านะคะ... พี่มาร์คอย่าทำตาล”
มาร์เซโล่เห็นเข้าก็รีบเอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นไปบีบขยำทรวงอกอวบใหญ่ “นมใหญ่เหลือเกิน”เขาพูดพลางค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อของหล่อนออกทีละเม็ดจนสุดแนวสาบเสื้อ จากนั้นก็รั้งสายบราเซียเส้นน้อยลงมากองไว้ที่เอว ทำให้เต้านมอวบใหญ่ของน้องเมียผุดพุ่งออกมาอวดความอะร้าอร่าม“โอ้ว... ”ทำเอามาร์เซโล่ปากคอสั่นกับความขาวผุดผาดจนแลเห็นเส้นเลือดสีเขียวกระจายเป็นสายรางๆ อยู่ภายใต้หนั่นเนื้อนุ่มแน่นที่มือของเขากำลังบีบเค้นเมามันบางครั้งมาร์เซโล่ลืมตัวบีบแรงจนหนั่นเนื้อสีขาวปลิ้นออกมาตามซอกนิ้ว“อูยยย... พี่มาร์คมือหนักจัง นมตาลช้ำหมดแล้ว”น้ำตาลเปล่งเสียงครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน ดวงตาหรี่ปรือส่งสัญญาณให้เขาเพลามือลงบ้างมาร์เซโล่ชักลำนิ้วออกมาจากรูเนื้อฟิตแน่น เพื่อจะใช้สองมือบีบขยำสองเต้าเต่งตึง เขาบีบแล้วก็ใช้ปลายลิ้นตวัดเลียปลายหัวนมทั้งสองข้างสลับไปมาจนแข็งตั้งเป็นตุ่มไตอยู่ในอุ้งปาก“หยุดเถอะค่ะตาลเสียว... ฮึ่ก”หญิงสาวเหมือนจะขาดใจ ได้ทีพี่เขยหื่นรีบครอบริมฝีปากไล้เลียลึกลงมาถึงวงป้านหัวนม ดูด... อม... ดูด... อมเสียงดังอั่กๆ เหมือนจะสำลักความอวบใหญ่ของหนั่นเนื้อขาวผ่องที่ฟอนเฟ้นจนแดงช้ำ“ตาลเสียวค่ะ
ด้วยริมฝีปากที่ผนึกแน่นเข้าหากัน มาร์เซโล่รีบสอดปลายลิ้นเข้ามารัดเลียกับเรียวลิ้นนุ่มอ่อนของน้องเมียอย่างรู้จังหวะลีลา เพราะว่าสองคนนี้เคยจูบกันมาแล้วก่อนหน้านี้ จึงไม่แปลกที่รู้จังหวะจะโคนเข้าพระเข้านางกันเป็นอย่างดีน้ำตาลยอมรับว่ามาร์เซโล่จูบเก่งเหลือเกิน เรียวลิ้นร้อนๆ ของเขาที่ชำแรกเข้ามาไล้เลียอยู่ในร่องปากแสนหวานของหล่อน สร้างความวูบวาบหวั่นไหวจนเลือดในกายสูบฉีดรุนแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน“อูยยย... เสียวเหลือเกิน”หญิงสาวละล่ำละลักบอก เมื่อริมฝีปากที่ผนึกแน่นคลายออกจากกัน ภายหลังจากจูบปากแลกลิ้นกันอยู่นานเป็นครู่ทว่ามาร์เซโล่ก็ยังไม่หยุดกระแทกกระทั้นท่อนเนื้อเข้าใส่โพรงสวาทของน้องเมียที่ขมิบรัดความแข็งแกร่งของเขาเอาไว้แน่น“อ๊อย... ตาลเจ็บค่ะ”หญิงสาวร้องอุทธรณ์เสียงกระเส่า ความใหญ่ยาวของมาร์เซโล่ที่เสียบกระแทกเข้ามาด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ทำให้แผ่นหลังของน้องเมียกระแทกเข้ากับพนักหัวเตียงดังกึกกักตามจังของบั้นท้ายบึนหนาที่บดเน้นดุ้นเนื้อเข้ามาอย่างหน่วงหนักจนมีน้ำหล่อลื่นใสๆ ทะลักสวนออกมาตามจังหวะแก่นกายที่เสียบใส่แล้วถอนออกมาเป็นจังหวะต่อเนื่องสม่ำเสมอบลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ“มะ
โล่หลงใหลจนนึกไม่ออกว่าจะเป็นยังไง? ในวันที่จะต้องสูญเสียหล่อนไปเป็นของผู้ชายอื่น“หลับสักเดี๋ยวก็ได้นะ... หรือจะให้พี่ต่ออีกยก”มาร์เซโลแกล้งถาม เพราะรู้ว่าหล่อนต้องรับไม่ไหวแน่ๆ ถ้าเขาจะต่ออีกยก แค่นี้น้ำตาลก็ระบมไปทั้งร่าง“ตาลไม่ไหวแล้ว... ครั้งเดี๋ยวก็แทบขาดใจตายแล้วค่ะ”“พี่ขอโทษ... อย่าโกรธพี่นะ ที่พาตาลมาทำแบบนี้”ความรู้สึกผิดทำให้พี่เขยกระซิบบอกข้างหู“ไม่โกรธพี่ใช่ไหม”มาร์เซโล่ถาม น้ำตาลไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็กอดเขาแน่นขึ้น อาการออกัสซั่มรุนแรงเมื่อครู่ทำให้หญิงสาวยังตกอยู่ในห้วงภวังค์อันวาบหวิว รู้สึกราวกับว่าตัวเบาคล้ายปุยนุ่นที่กำลังลอยล่องอยู่ในเวิ้งวิมาน ลองกำมือดูก็รู้ว่าเบาหวิวเหมือนร่างกายไม่มีแรงน้ำตาลยอมรับว่าพี่เขยคนนี้ทำให้หล่อนมีความสุขจนบรรยายออกมาไม่ถูก ซึ่งมาร์เซโล่ก็รู้ได้ด้วยอาการที่หล่อนหายใจหอบกระเส่า ซบซุกใบหน้าอยู่กับอกของเขาเหมือนจะไม่ยอมแยกจากน้ำตาลหลับลงครู่สั้นๆ ในอ้อมอกอุ่นของพี่เขย ครั้นเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาหล่อนก็ทำท่าว่าจะขยับ ด้วยจู่ๆ หญิงสาวก็รู้สึกสับสนใจกับสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่ในตอนนี้‘ไม่... มาร์เซโล่ไม่ได้รักหล่อน... จันทร์เจิดต่างหากที่เ
หัวคิ้วของมาร์เซโล่ชิดเข้าหากัน“ค่ะ... ป้าก็เพิ่งรู้เหมือนกัน คุณตาลเพิ่งบอกกับป้าเช้านี้”ป้านวลกล่าว มาร์เซโล่หน้าเครียด รีบเดินออกมาจากห้องทานอาหาร อึดใจเดียวก็กลับขึ้นมาที่ห้องนอนของน้ำตาลซึ่งอยู่ชั้นสอง “จะไปไหน” ด้วยสีหน้าถมึงทึงหาเรื่อง มาร์เซโล่ถามเสียงเข้มหลังจากก้าวยาวๆ เดินลงส้นเท้าหนักๆ เพื่อบอกให้คนอยู่ในห้องรู้ว่าเขาโกรธน้ำเสียงห้วนและแววตาดุๆ ที่จ้องมองเข้ามากวาดสำรวจความเป็นไปภายในห้อง ทำให้คนใช้ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวพม่าสองคนรีบเผ่นออกไปจากห้อง เหมือนรู้ว่าถ้าขืนยังอยู่เกะกะขวางหูขวางตาอาจโดนลูกหลงเข้าง่ายๆ“ไปอยู่ข้างนอก”น้องเมียตอบโดยไม่มองหน้าเขา “จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาพี่ก่อน... เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะเรา นับวันยิ่งปีกกล้าขาแข็งจนมองไม่เห็นหัวพี่เขยคนนี้”มาร์เซโล่ต่อว่าราวกับความการที่หล่อนจะย้ายออกจากบ้านของเขานั้นเป็นความผิดมหันต์“ตาลจำได้ว่าเคยบอกเรื่องนี้กับพี่มาร์คแล้วนะคะ”หญิงสาวหมายถึงเรื่องที่หล่อนกำลังจะย้ายออกไปจากบ้านของเขา“พี่ไม่ให้ไป”มาร์เซโล่ทำราวกับว่าเขาเป็นเจ้าชีวิตของหล่อน เขาจะสั่งจะบงการซ้ายหันขวาหันอย่างไรก็ได้“จะให้
น้ำตาลเริ่มเป็นกังวลว่าหล่อนควรจะทำยังไงกับอนาคตในภายภาคหน้าถ้าขืนปล่อยให้ความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างหล่อนกับพี่เขยดำเนินต่อไปเช่นนี้... ฐานะของหล่อนก็คงไม่ต่างอะไรกับการเป็น ‘นางบำเรอ’ ของมาร์เซโล่น้ำตาลรู้ดีว่าความรักความหลงจะทำให้หล่อนตกอยู่ในสภาพ ‘เมียน้อย’ ของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในที่สุดวันต่อมาใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง มาร์เซโล่ก็พาน้องเมียมาถึงเชียงรายในตอนบ่ายแก่ๆ ด้วยภูมิประเทศของจังหวัดเชียงรายนั้นโอบล้อมไปด้วยขุนเขาและผืนป่าเขียวขจี ไม่ว่าจะทอดสายตาแลไปทางไหน ก็พบแต่ความรื่นรมย์ ทำให้น้ำตาลหลงใหลมนต์เสน่ห์ของเชียงรายในทันทีที่มาเห็น โดยเฉพาะในไร่กาแฟของมาร์เซโล่“ตาลไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่มาร์คมาซื้อไร่กาแฟเอาไว้ที่นี่”หญิงสาวกล่าว มาร์เซโล่หันมามองหน้าหล่อนแล้วส่งยิ้มหวานก็แน่ล่ะสิ... มาร์เซโล่ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครมาก่อน แม้แต่ป้านวลซึ่งเป็นคนเก่าแก่ที่ทำงานอยู่ในบ้านของเขามาหลายปีก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้ แต่ป้านวลก็เคยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมมาร์เซโล่มักจะหายหน้าไปจากบ้านบ่อยๆ บางครั้งก็นานเป็นสัปดาห์ ที่แท้ก็มาพักผ่อนอยู่ที่ไร่กาแฟในจังหวัดเชียงรายนี่เอง“ตาลคงแปลกใจเรื่