ตอนที่ 22 สั่งสอน กลางห้องโถงเรือนใหญ่หลังหนึ่งในชิวโจว เชี่ยเฉิงนั่งเดินลมปราณนิ่งอยู่ตรงกลาง รอบข้างมีบุรุษอยู่สามสี่คนกำลังพูดคุย สีหน้าค่อนข้างตึงเครียดชายชราหนวดเคราสีดอกสะเดาผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น “...ก็แค่จัดการไม่ให้นางขึ้นประลองได้อีก...ก็น่าจะเพียงพอแล้ว” อีกคนส่ายหน้า “หากนางได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถปรากฏกายลงประลอง แม้ได้ตำแหน่งเจ้ายุทธภพมาแล้ว ทว่าหากมีคนไม่หวังดีปล่อยข่าวว่าเราทำร้ายอีกฝ่าย เราอาจจะไม่ได้ชื่อเสียงและอำนาจอย่างที่คาดหวัง” อีกคนพยักหน้าเห็นด้วย ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “แล้วหากทำร้ายกำลังภายในให้นางอ่อนแอก็พอเล่า?” ชายชรายิ้มเห็นด้วย “เช่นนั้นก็ส่งคนไปจัดการเถอะ ... เตือนพวกมันอย่าให้มีบาดแผล ให้เจ็บภายในเท่านั้น” สำหรับเด็กสาวที่ไม่มีสำนักหนุนหลัง จะทำสิ่งใดก็ใช่จะง่าย หลังจากสืบที่มาที่ไปของหวังเว่ยซินเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็มั่นใจว่าจัดการสั่งสอนได้เมืองหลวง หวังเว่ยซินมาถึงเรือนหลังจากทานมื้อเย็นร่วมกับครอบครัวเสร็จ นางก็ขอตัวเข้านอน ยามค่ำคืนฤด
ตอนที่ 23 อยากรู้แต่ไม่อยากถาม “ท่านต้องการอะไรกันแน่” หญิงสาวเอ่ยถามอีกครั้ง หลีเซียวหยวนนับเป็นบุรุษเต็มตัว บ่าไหล่ผายกว้าง รูปร่างเป็นสมส่วนหนักแน่นสง่างาม เมื่อยืนอยู่ประชันหน้ากับหวังเว่ยซินให้ ความรู้สึก กำลังข่มเหงให้หญิงสาวเปราะบางหวาดกลัว ทว่าในความจริง หลีเซียวหยวนกลับกำลังหวาดหวั่น เขากังวลหากเอ่ยปากถามจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ “เจ้าสลับวิญญาณกับกงฮูหยินหรือไม่?” หากถามออกไปอาจจะกลายเป็นคนไร้สติในสายตานาง หวังเว่ยซินหรี่ตามองหลีเซียวหยวนอย่างพินิจ วันนี้ท่าทางของชายหนุ่มดูผิดแปลกไม่สงบอย่างเช่นยามปกติ คิ้วดกดำดุจกระบี่แววตาจิ้งจอกดูอึมครึมมืดมิดยิ่งกว่ายามรัตติกาลในตอนนี้ชายหนุ่มลอบถอนหายใจยาว เขาขอตรวจสอบให้มั่นใจสักระยะ จึงตอบออกไป“ไม่มีสิ่งใด ข้าแค่ทำตามหน้าที่...ส่วนคนเหล่านี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางการ เจ้าก็ควรกลับเรือนได้แล้ว”ไม่รอให้หญิงสาวโต้ตอบ หลีเซียวหยวนก็เร้นกาย หนีไปทันที“หนีไปซะแล้ว...เป็นอะไรของเขานะ..สีหน้าจ้องมองยังกะเห็นผี” ในขณะที่ทุกคนกำลังแยกย้าย จางเคอที่กำลังควบคุมคนร้าย ก
ตอนที่ 24 ฟ้าประทาน หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ หวังเว่ยซินก็แอบไปดูหวังอี้หยางเล่าเรียน โจวชุนก็ลอบตามมาด้วยพวกนางกำลังดูเด็กน้อยจับหนังสืออ่านด้วยน้ำเสียงฉะฉาน เมื่อเขาอ่านไปถึงหนึ่งประโยค อาจารย์จางยอมื้อขึ้น เด็กหนุ่มหยุดอ่าน ... พลางครุ่นคิด “ท่อนนี้...เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร” “ผู้น้อยคิดว่า...” เห็นเด็กน้อยโต้ตอบอย่างชาญฉลาดและมีไหวพริบ ภายในใจของสตรีทั้งสองต่างรู้สึกตื้นเต้นปลาบปลื้ม สองตาของโจวชุนแดงรื้นแทบจะหลั่งน้ำตา นางเอ่ยพูด “หากไม่ใช่เพราะพี่สาวที่มีสายตากว้างไกล มองเห็นความสามารถของอี้หยาง หากเป็นข้าที่เป็นคนดูแลน้อง จนบัดนี้แม้กระทั่งอักษรเพียงหนึ่งตัว น้องชายก็คงอ่านไม่ได้” หวังเว่ยซินกระตุกยิ้มในใจ สายตากว้างไกลอันใด นี้ล่ะที่เขาเรียกชีวิตฟ้าประทาน หญิงสาวหันหน้ามา “พวกเราไปกันเถอะ...ข้าจะออกไปข้างนอก เจ้าอยากไปด้วยหรือไม่” ดวงตาของโจวชุนเป็นประกายขึ้น แต่เหมือนมีบางอย่างหยุดความคิดนางจึงพูดขึ้น “ข้าเกะกะพี่สาวเปล่า ๆ ท่านไปเถอะ ข้าจะอยู่ดูแลบ้านดูแลท่า
ตอนที่ 25 เป็นอิสระแล้วอย่างไร “ข้าหวังเว่ยซิน...ตอนนี้คือนายของพวกเจ้า...ข้ากำลังจะเปิดโรงเตี้ยม ทว่ายังขาดคนจำนวนมาก พวกท่านนับว่าเป็นกำลังสำคัญ หากใครติดตามข้า...ข้ารับรองว่าชีวิตนี้พวกเจ้าจะมีเสื้อผ้าห่มกาย ท้องอิ่มอุ่นไม่อดตายแน่นอน” หญิงสาวเว้นจังหวะยกกระดาษซื้อขายทาสขึ้น แล้วพูดต่อ“ทว่า...หากใครไม่ยินยอมติดตามข้า...มารับหนังสือไถ่ตัว พวกท่านเป็นอิสระแล้ว...” น้ำเสียงก้องกังวานอีกทั้งยังชัดทุกถ้อยคำแฝงความจริงใจ เหล่าทาสที่ได้ยินต่างตื่นตระหนก ทั่วบริเวณเกิดความเงียบงัน เป็นอิสระแล้ว คำนี้ก้องในใจของพวกเขา แต่ว่าพวกเขาไม่อยากจะเชื่อ หลายคนส่งสายตาสอบถามกัน ขณะนั้นก็มีเด็กคนหนึ่ง ตะโกนขึ้น “เย้ ข้าเป็นอิสระแล้ว...พี่สาวข้าจะไปที่ไหนก็ได้ใช่ไหม”ทุกคนต่างหันไปมอง เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มแย้มดวงตาเบิกกว้างสดใส หวังเว่ยซินยิ้มตอบอย่างเอ็นดู “ใช่จ๊ะ แต่ก่อนไปมารับหนังสือขายตัวเสียก่อนนะ...เอาล่ะหนูชื่ออะไร”จากนั้น นางก็คลี่กระดาษหาสัญญาขายตัวให้เด็กคนนั้นเหล่าทาสเริ่มตรึกตรอง เหมือนนายหญิงคนใหม่นี้จะไม่ได้โกหก พวกเป็นอิสระแล้วจริง ๆ
ตอนที่ 26 ที่นี่คือบ้านเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็มาถึงที่ก่อสร้าง หวังเว่ยซินหันมายิ้มแย้มพูดเสียงดัง “ต่อไปที่นี่จะเป็นบ้านของทุกคน” ผู้คนต่างชะงักงัน ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ คนงานทุกคนต่างหยุดมองกลุ่มคนใหญ่ แววตาเต็มไปด้วยความสงสัยพวกเขามาทำอะไรกัน ส่วนเหล่าทาสก็ตกตะลึง เบื้องหน้ากำลังก่อสร้างสถานที่บางอย่าง โดยรวมแม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็สามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็นที่ ที่ใหญ่โตมโหฬารไม่น้อย เมื่อสักครู่ได้ยินเสียงนายหญิงบอก “ที่นี่คือบ้าน” พวกเขาก็พากันครุ่นคิดกันใหญ่ แม้กระทั่งคนงานก่อสร้างเองก็ดูงวยงง หวังเว่ยซินหรี่ตามอง สายตาของเหล่าทาสดูผิดแปลกจากที่นางคาดหวัง ทำไมไม่ซาบซึ้ง ไม่ดีใจกันหรอก?ต้องมีอะไรผิดพลาดเหตุใด พวกเขาแววตาดูเหมือนสับสน นางอยากจะเอ่ยถามแต่ก็ยังลังเล ต่างคนง่ายเงียบเกิดบรรยากาศกระอักกระอ่วนผุดขึ้นโดยรอบมู่ฟางคนเดิมเอ่ยถามขึ้น “เรียนถามนายหญิง บ้าน คือ อะไรเจ้าคะ” พลันหวังเว่ยซินก็กระจ่างใจ นางหลุดเสียงหัวเราะทันที ถอนหายใจอมยิ้มขำ ๆ ตอบ “บ้านก็เรือนอย่างไรเล่า ที่นี่จะเป็น
ตอนที่ 27 ต้องการพบ หลีเซียวหยวนหลังจากตรวจเอกสารในหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรเสร็จ บ่ายแล้วตั้งใจจะออกไปทานมื้อเที่ยงที่โรงน้ำชา ทว่าเมื่อเดินออกมาสักพัก ด้วยความรู้สึกฉับไวมากกว่าผู้อื่น คิ้วเรียวจิ้งจอกของเขาขมวดพินิจผู้คนตรงหน้าแล้วเอ่ยถามจางเคอ “คนพวกนี้...เป็นใคร” สิ่งที่น่ากังวลคือสายลับจากแคว้นอื่นที่แฝงตัวเข้ามา แม้ไม่ได้มาสืบข่าวกระนั้นก็อาจจะเกิดความวุ่นวายได้ แต่ว่า...ส่งคนมามากมายขนาดนี้ แล้วยังโจ่งแจ้งไม่มีการหลบหลีก พวกเขาดูถูกข้าหรืออย่างไร จางเคอที่ออกไปสอบถามแค่เพียงอึกใจก็กลับมารายงาน เห็นสีหน้าของหลีเซียวหยวนอึมครึมก็ลังเลที่จะกล่าว สีหน้าของเขาดูลำบากใจ หลีเซียวหยวนขมวดคิ้วอีกขั้น กล่าวเสียงขรึม “มีอะไร เหตุใดไม่รายงาน” “เอ่อ...นายท่านสังเกตดูดีสิขอรับ คนเหล่านั้นก็คือทาสที่คุณหนูหวังไถ่ตัวเมื่อเช้า” หลีเซียวหยวนหันกลับไปมองอีกครั้ง ไม่ผิด นี่คือกลุ่มทาสกลุ่มนั้น เสียงพูดคุยของสตรีตรงหน้าดังขึ้น “เหตุใดถึงได้ซื้อมากมายขนาดนี้” ทาสคนที่ถูกทักรีบส่ายหน้าตอบ “หาใช
ตอนที่ 28 คิดเห็น หลังจากรายงาน จางเคอรายงานเขาก็ก้มหน้าลง รอคำตอบจากอีกฝ่ายเงียบ ๆ “ข้าจะไปหานางเอง” พริบตาหลีเซียวหยวนก็หายไป ชั่วอึกใจชายหนุ่มก็มาปรากฏกายข้างหวังเว่ยซิน หญิงสาวกำลังนั่งเอนกายดูดวงตาบนท้องฟ้า นางไม่หันมามองผู้ที่มา..เพราะคาดเดาเอาไว้หลายส่วน..คนที่ส่งคนมาคุ้มครองย่อมหนีไม่พ้นหลีเซียวหยวน แต่เหตุใดยังไม่กระจ่างใจเท่าไรนักจึงเอ่ยถาม “ท่านมีเหตุใดอันใด ต้องคุ้มครองข้า” “ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถชิงตำแหน่งเจ้ายุทธภพมาอย่างราบรื่น” เกี่ยวข้องกับตำแหน่งเจ้ายุทธภพ “ท่านไม่มีคนของท่านหรือ เอ่อ...คนที่ทางการแอบสนับสนุน” เรื่องนี้...หลีเซียวหยวนไม่สะดวกใจที่จะกล่าว นับว่าเป็นความลับ หากเรื่องที่ราชสำนักสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยว เปิดเผยออกไป จะเป็นผลร้ายที่ไม่สามารถประเมินได้ คิ้วเรียวหงส์ของหวังเว่ยซินขมวดเข้า นางรู้สึกขุนเคืองที่หลีเซียวหยวนระมัดระวังแม้กระทั่งกับตัวเอง แม้ว่านางจะเข้าใจเหตุผล ตอนนี้นางนับว่าเป็นคนอื่น กระนั้นก็อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ จึงเอ่ยขึ้น
ตอนที่ 29 ไม่เน้นตำแหน่ง พอรถม้าหรูหราคันใหญ่จอดนิ่งอยู่หน้าจวน คนเฝ้าประตูรีบกุลีกุจอเปิดแล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“คารวะซื่อจือขอรับ” กู้ซวินหันมาพยักหน้าเล็กน้อย ในขณะที่ก้าวเดินเข้าไป บ่าวไพร่ที่กำลังทำงานเมื่อมองเห็นเด็กหนุ่มก็ต่างหยุดทำความเคารพกู้ซวินพลางเดินใจลอยเล็กน้อย เมื่อคืนสิ่งที่อาจารย์กล่าว ทำให้เขาเหมือนถูกสายฟ้าฟาดตัวชาไปทั้งตัว จนกระทั้งตอนนี้ในหัวก็ยังรู้สึกหนึบ ๆ “หากข้าจะกล่าวว่า..ช่วงหนึ่งปีแรกที่เจ้ามาอยู่เมืองหลวง...มารดาเจ้าถูกวิญญาณอื่นเข้าสิง เจ้าคิดเห็นเช่นไร” อาจารย์มิใช่คนพูดจาเหลวไหลหากไม่มั่นใจเกือบสิบส่วนไม่มีทางเอ่ยเช่นนี้แน่นอนว่า เมื่อพูดถึงเหตุผลแม้กระทั่งตัวเขาเองก็รู้สึกแคลงใจกับการเปลี่ยนไปของมารดา ทว่าช่วงเวลาผ่านไป มารดาก็ยังคงเป็นมารดาเฉกเช่นเดิม ก็มีเพียงช่วงเวลานั้น ช่วงครึ่งปีแรก บ่าวรับใช้หน้าเรือนเห็นชายหนุ่มเดินมา ก็รีบออกไปต้อนรับ “ซื่อจือมาเยี่ยมคุณหนูสิบสามหรือเจ้าคะ” กู้ซวินพยักหน้า “พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง” “ปลอดภัยทั้งแม่และลูกเจ้าค่ะ ซ
ตอนที่ 33 แลกเปลี่ยนความคิด จางฮูหยินเสร็จงานที่ก่อสร้างก็เดินกลับ ถึงเรือนตะวันก็คล้อยต่ำเหลือแสงสว่างอยู่รำไร นางจึงรีบหุ่งข้าวเตรียมมื้อเย็น จางฉือพึ่งกลับมาถึงได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในครัวจึงเอ่ยถาม “ท่านแม่พึ่งกลับมาหรือขอรับ” “จางฉือหรือลูก...ไปนั่งพักก่อน แม่ทำอาหารสักครู่” จางฉือ วางกระเป๋าตำราลงพลางพับแขนเสื้อขึ้น แล้วเดินเข้าไปในครัว จางฮูหยินเห็นบุตรชายก็เอ่ย “มิต้อง ๆ ตรงนี้ไม่มีอันใด กับข้าวมีแล้ว...แม่แค่ต้มข้าวเพิ่มเท่านั้น...ลูกไปล้างหน้าล้างตาเสียแล้วค่อยมาทานข้าวกัน” จางฉือ มองไปยังกล่องอาหารแล้วเดินไปนั่งข้างมารดา พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ท่านแม่ต่างหากที่ต้องไปอาบน้ำ ข้าจะเป็นคนต้มข้าวเอง” จางฉือสบสายตามุ่งมั่นของบุตรชาย นางจึงจำยอม “ได้..เช่นนั้นแม่ไปล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้า...แล้วจะกลับมาทานอาหารที่เจ้าเตรียมให้..อย่าลืมอุ่นน้ำแกงด้วยนะ” จางฉือยิ้ม “ขอรับ...ท่านแม่วางใจได้” จางฮูหยินอาบน้ำเสร็จก็ได้กลิ่นอาหารหอมฉุน นางรีบเดินแล
ตอนที่ 32 มิใช่ว่าจะดูไม่ออก ส่วนทางเวทีในขณะนั้น เฟยอิงปรากฏกายตามที่คาดหลังจากที่ผ่านไปหนึ่งกระบวนท่าใบหน้าหญิงสาวก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด ไอ้บ้านี้ ร่างกายภายในบอบซ้ำอย่างหนักแทบจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว แต่ไม่ได้จะชนะ..แล้วให้คนเอ่ยเพราะ..นังคนนั้นไม่ได้ แม้เฟยอิงจะสามารถเอาชนะได้ภายในหนึ่งฝ่ามือ กระนั้นทุกครั้งที่ลงมือนางกลับถอนกำลังภายในออกทั้งหมด หวังยืดการประลองให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สีหน้าที่นางแสดงออกมาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ลมหายใจหอบถี่ดั่งกำลังต่อสู้อย่างหนักหน่วง ทว่าก็มิใช่ว่าทุกคนจะดูไม่ออก เสิ่นเยี่ยหงเห็นสถานการณ์บนเวที ก็ถอนหายใจโล่งอก ใบหน้าองค์รัชทายาทเองก็ผ่อนคลายลงไปหลายส่วน หันมาถาม “หลีเซียวหยวนไปไหนเสียแล้ว” เสิ่นเยี่ยหงแค่นเสียงหัวเราะ “กระหม่อมคาดว่าน่าจะตามไปดูอาการของคุณหนูหวังผู้นั้นพ่ะย่ะค่ะ” รัชทายาทยิ้มพลางเอ่ย “อายุของหลีเซียวหยวนก็ควรออกเรือนแล้ว ได้ข่าวมงคลท่านได้บุตรสาวเพิ่มอีกคนแล้ว” เสิ่นเยี่ยหง พยักหน้าตอบ “
ตอนที่ 31 ทำตามหน้าที่ ดวงตาของหวังเว่ยซินคล้ายมีเปลวไฟลุกโชน อารมณ์ของหญิงสาวขุ่นมัวสุดขีด อุตสาวางแผนเจ็บตัวให้สมจริงไปแล้ว การต่อสู้หลังจากนี้ก็ของจริงเช่นนั้น พริบตาหวังเว่ยซินก็พลิ้วกายวูบไหวไปมาบนเวที เพียะ!! ผลัวะ!! อั๊ก!! เชี่ยเฉิงถูกหวังเว่ยซินซ้อมจนร่างที่ยืนอยู่ซวนโซ ชายหนุ่มเอากระบี่ปักประครองตนเองแล้วตะโกนขึ้น “นังปีศาจ..!!” หวังเว่ยซินหยุดเคลื่อนไหวยืนนิ่งอยู่บนไม้ขอบเวที นางหรี่ตามองสภาพของอีกฝ่าย ด้วยแววตาผ่อนคลาย ได้ระบายโทสะทำให้หายใจคล่องขึ้น ส่วนหลีเซียวหยวนก็คลายมัดที่กำอยู่โดยไม่รู้ตัว “อย่าพึ่งตายนะ...ข้ายังไม่ได้เริ่มต้น” หวังเว่ยซินชัดกระบี่ออกไป พลิ้วไหวกายดุจสายลม ผู้คนเบื้องล่างเห็นเพียงประกายกระบี่มีเพียงพวกเหล่ายุทธภพที่มีฝีมือแก่กล้ามองเห็นสิ่งที่เคลื่อนไหว “นางกำลังทำอะไร” “ดูเหมือนว่า...จะกรีดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย” เมื่อนางหยุดการเคลื่อนไหว เสื้อผ้าของเชี่ยเฉิงก็ขาดกระจายออก “ว้าย!!” เสียงส
ตอนที่ 30 มีเคล็ดลับเช่นกัน แม้หวังเว่ยซินยังไม่ได้ลงไปร่วมการต่อสู้ แต่ได้เห็นฝีมือของเหล่าจอมยุทธก็นับว่าได้เปิดหูเปิดตา ยิ่งพอใกล้เที่ยงยิ่งปรากฏยอดฝีมือที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เสียงโห่ก็แทบทำให้แผ่นดินสะเทือน ทว่า...กระนั้น เชี่ยเฉิงยังไม่ปรากฏตัว หวังเว่ยซินก็เริ่มหวั่นใจหากเฟยอิ่งปรากฏกายก่อน นางมิต้องเป็นเจ้ายุทธภพหรือ หญิงสาวกวาดตามองไปรอบ ๆ คาดเดาแผนการที่วางไว้ของแต่ละฝ่าย หากฝ่ายใดปรากฏกายขึ้นก่อนอาจจะสูญเสียกำลังในการต่อสู้ พวกเขาจึงเก็บคนสำคัญไว้สุดท้าย แต่เหมือนว่า...ตอนนี้ฝ่ายของสำนักเงาจันทราของเชี่ยเฉิงพ่ายแพ้ต่อคนของสำนักม่านตะวัน สตรีอีกคนที่แข็งแกร่งไม่ต่างจากเฟยอิง หวังเว่ยซินปรายตาหญิงสาวที่ยืนเด่นเฉิดฉายบนเวที ด้วยแววตายกย่องเป็นประกาย ชื่นชมพวกนางอย่างน่าทึ่งสตรีเหล่านี้ ล้วนน่านับถือ ต้องฝึกฝนเท่าไร มุ่งมั่นเท่าไร จึงได้เก่งกาจเพียงนี้ ขณะนั้นความขุ่นเคืองที่มีต่อเฟยอิงก็ลดน้อยลงนับว่าการเดินเกมหญิงงามของหลีเซียวหยวนไม่ผิดพลาด ไม่นานเชี่ยเฉิงก็ปรากฏกายบนเวทีเป็นคู่ต่อสู้ให้หญิงงามรู
ตอนที่ 29 ไม่เน้นตำแหน่ง พอรถม้าหรูหราคันใหญ่จอดนิ่งอยู่หน้าจวน คนเฝ้าประตูรีบกุลีกุจอเปิดแล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“คารวะซื่อจือขอรับ” กู้ซวินหันมาพยักหน้าเล็กน้อย ในขณะที่ก้าวเดินเข้าไป บ่าวไพร่ที่กำลังทำงานเมื่อมองเห็นเด็กหนุ่มก็ต่างหยุดทำความเคารพกู้ซวินพลางเดินใจลอยเล็กน้อย เมื่อคืนสิ่งที่อาจารย์กล่าว ทำให้เขาเหมือนถูกสายฟ้าฟาดตัวชาไปทั้งตัว จนกระทั้งตอนนี้ในหัวก็ยังรู้สึกหนึบ ๆ “หากข้าจะกล่าวว่า..ช่วงหนึ่งปีแรกที่เจ้ามาอยู่เมืองหลวง...มารดาเจ้าถูกวิญญาณอื่นเข้าสิง เจ้าคิดเห็นเช่นไร” อาจารย์มิใช่คนพูดจาเหลวไหลหากไม่มั่นใจเกือบสิบส่วนไม่มีทางเอ่ยเช่นนี้แน่นอนว่า เมื่อพูดถึงเหตุผลแม้กระทั่งตัวเขาเองก็รู้สึกแคลงใจกับการเปลี่ยนไปของมารดา ทว่าช่วงเวลาผ่านไป มารดาก็ยังคงเป็นมารดาเฉกเช่นเดิม ก็มีเพียงช่วงเวลานั้น ช่วงครึ่งปีแรก บ่าวรับใช้หน้าเรือนเห็นชายหนุ่มเดินมา ก็รีบออกไปต้อนรับ “ซื่อจือมาเยี่ยมคุณหนูสิบสามหรือเจ้าคะ” กู้ซวินพยักหน้า “พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง” “ปลอดภัยทั้งแม่และลูกเจ้าค่ะ ซ
ตอนที่ 28 คิดเห็น หลังจากรายงาน จางเคอรายงานเขาก็ก้มหน้าลง รอคำตอบจากอีกฝ่ายเงียบ ๆ “ข้าจะไปหานางเอง” พริบตาหลีเซียวหยวนก็หายไป ชั่วอึกใจชายหนุ่มก็มาปรากฏกายข้างหวังเว่ยซิน หญิงสาวกำลังนั่งเอนกายดูดวงตาบนท้องฟ้า นางไม่หันมามองผู้ที่มา..เพราะคาดเดาเอาไว้หลายส่วน..คนที่ส่งคนมาคุ้มครองย่อมหนีไม่พ้นหลีเซียวหยวน แต่เหตุใดยังไม่กระจ่างใจเท่าไรนักจึงเอ่ยถาม “ท่านมีเหตุใดอันใด ต้องคุ้มครองข้า” “ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถชิงตำแหน่งเจ้ายุทธภพมาอย่างราบรื่น” เกี่ยวข้องกับตำแหน่งเจ้ายุทธภพ “ท่านไม่มีคนของท่านหรือ เอ่อ...คนที่ทางการแอบสนับสนุน” เรื่องนี้...หลีเซียวหยวนไม่สะดวกใจที่จะกล่าว นับว่าเป็นความลับ หากเรื่องที่ราชสำนักสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยว เปิดเผยออกไป จะเป็นผลร้ายที่ไม่สามารถประเมินได้ คิ้วเรียวหงส์ของหวังเว่ยซินขมวดเข้า นางรู้สึกขุนเคืองที่หลีเซียวหยวนระมัดระวังแม้กระทั่งกับตัวเอง แม้ว่านางจะเข้าใจเหตุผล ตอนนี้นางนับว่าเป็นคนอื่น กระนั้นก็อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ จึงเอ่ยขึ้น
ตอนที่ 27 ต้องการพบ หลีเซียวหยวนหลังจากตรวจเอกสารในหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรเสร็จ บ่ายแล้วตั้งใจจะออกไปทานมื้อเที่ยงที่โรงน้ำชา ทว่าเมื่อเดินออกมาสักพัก ด้วยความรู้สึกฉับไวมากกว่าผู้อื่น คิ้วเรียวจิ้งจอกของเขาขมวดพินิจผู้คนตรงหน้าแล้วเอ่ยถามจางเคอ “คนพวกนี้...เป็นใคร” สิ่งที่น่ากังวลคือสายลับจากแคว้นอื่นที่แฝงตัวเข้ามา แม้ไม่ได้มาสืบข่าวกระนั้นก็อาจจะเกิดความวุ่นวายได้ แต่ว่า...ส่งคนมามากมายขนาดนี้ แล้วยังโจ่งแจ้งไม่มีการหลบหลีก พวกเขาดูถูกข้าหรืออย่างไร จางเคอที่ออกไปสอบถามแค่เพียงอึกใจก็กลับมารายงาน เห็นสีหน้าของหลีเซียวหยวนอึมครึมก็ลังเลที่จะกล่าว สีหน้าของเขาดูลำบากใจ หลีเซียวหยวนขมวดคิ้วอีกขั้น กล่าวเสียงขรึม “มีอะไร เหตุใดไม่รายงาน” “เอ่อ...นายท่านสังเกตดูดีสิขอรับ คนเหล่านั้นก็คือทาสที่คุณหนูหวังไถ่ตัวเมื่อเช้า” หลีเซียวหยวนหันกลับไปมองอีกครั้ง ไม่ผิด นี่คือกลุ่มทาสกลุ่มนั้น เสียงพูดคุยของสตรีตรงหน้าดังขึ้น “เหตุใดถึงได้ซื้อมากมายขนาดนี้” ทาสคนที่ถูกทักรีบส่ายหน้าตอบ “หาใช
ตอนที่ 26 ที่นี่คือบ้านเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็มาถึงที่ก่อสร้าง หวังเว่ยซินหันมายิ้มแย้มพูดเสียงดัง “ต่อไปที่นี่จะเป็นบ้านของทุกคน” ผู้คนต่างชะงักงัน ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ คนงานทุกคนต่างหยุดมองกลุ่มคนใหญ่ แววตาเต็มไปด้วยความสงสัยพวกเขามาทำอะไรกัน ส่วนเหล่าทาสก็ตกตะลึง เบื้องหน้ากำลังก่อสร้างสถานที่บางอย่าง โดยรวมแม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็สามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็นที่ ที่ใหญ่โตมโหฬารไม่น้อย เมื่อสักครู่ได้ยินเสียงนายหญิงบอก “ที่นี่คือบ้าน” พวกเขาก็พากันครุ่นคิดกันใหญ่ แม้กระทั่งคนงานก่อสร้างเองก็ดูงวยงง หวังเว่ยซินหรี่ตามอง สายตาของเหล่าทาสดูผิดแปลกจากที่นางคาดหวัง ทำไมไม่ซาบซึ้ง ไม่ดีใจกันหรอก?ต้องมีอะไรผิดพลาดเหตุใด พวกเขาแววตาดูเหมือนสับสน นางอยากจะเอ่ยถามแต่ก็ยังลังเล ต่างคนง่ายเงียบเกิดบรรยากาศกระอักกระอ่วนผุดขึ้นโดยรอบมู่ฟางคนเดิมเอ่ยถามขึ้น “เรียนถามนายหญิง บ้าน คือ อะไรเจ้าคะ” พลันหวังเว่ยซินก็กระจ่างใจ นางหลุดเสียงหัวเราะทันที ถอนหายใจอมยิ้มขำ ๆ ตอบ “บ้านก็เรือนอย่างไรเล่า ที่นี่จะเป็น
ตอนที่ 25 เป็นอิสระแล้วอย่างไร “ข้าหวังเว่ยซิน...ตอนนี้คือนายของพวกเจ้า...ข้ากำลังจะเปิดโรงเตี้ยม ทว่ายังขาดคนจำนวนมาก พวกท่านนับว่าเป็นกำลังสำคัญ หากใครติดตามข้า...ข้ารับรองว่าชีวิตนี้พวกเจ้าจะมีเสื้อผ้าห่มกาย ท้องอิ่มอุ่นไม่อดตายแน่นอน” หญิงสาวเว้นจังหวะยกกระดาษซื้อขายทาสขึ้น แล้วพูดต่อ“ทว่า...หากใครไม่ยินยอมติดตามข้า...มารับหนังสือไถ่ตัว พวกท่านเป็นอิสระแล้ว...” น้ำเสียงก้องกังวานอีกทั้งยังชัดทุกถ้อยคำแฝงความจริงใจ เหล่าทาสที่ได้ยินต่างตื่นตระหนก ทั่วบริเวณเกิดความเงียบงัน เป็นอิสระแล้ว คำนี้ก้องในใจของพวกเขา แต่ว่าพวกเขาไม่อยากจะเชื่อ หลายคนส่งสายตาสอบถามกัน ขณะนั้นก็มีเด็กคนหนึ่ง ตะโกนขึ้น “เย้ ข้าเป็นอิสระแล้ว...พี่สาวข้าจะไปที่ไหนก็ได้ใช่ไหม”ทุกคนต่างหันไปมอง เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มแย้มดวงตาเบิกกว้างสดใส หวังเว่ยซินยิ้มตอบอย่างเอ็นดู “ใช่จ๊ะ แต่ก่อนไปมารับหนังสือขายตัวเสียก่อนนะ...เอาล่ะหนูชื่ออะไร”จากนั้น นางก็คลี่กระดาษหาสัญญาขายตัวให้เด็กคนนั้นเหล่าทาสเริ่มตรึกตรอง เหมือนนายหญิงคนใหม่นี้จะไม่ได้โกหก พวกเป็นอิสระแล้วจริง ๆ