1 เดือนต่อมาด้านนินิวหลังจากที่กลับมางานแต่งของพี่น๊อตป๋าและม๊าไม่ยอมให้ฉันกลับสวิตซ์พร้อมกับยัยเซ เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ตั้งแต่แรกจริง แถมพวกท่านทั้งสองยังให้ฉันอยู่ช่วยงานบริษัทของพี่น๊อตและพี่รินนาที่ร่วมกันเปิด ตั้งแต่ที่ฉันกลับมาไทยฉันก็ใช้ชีวิตปกติและสองวันที่ผ่านมา ฉันนัดเจอยัยเชอรีนและยัยมีนนามาเจอ อีกเรื่องที่ฉันได้ทราบตอนนี้พี่ริกเขามีคู่หมั้นแล้ว นั้นคืออีกเรื่องที่ฉันได้ยินจากปากยัยเชอรีน ฉันกลับไปอยู่ที่ลำปางสองอาทิตย์ก่อนที่จะกลับมาอยู่ที่คอนโดฉันเหมือนเดิม และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ฉันต้องประเดิมงานกับพี่น๊อตและพี่รินนาเป็นวันแรกดูถ้าก็จะสายซะแล้วเป็นไงละฉัน เจ้าของฉายาสวยและสายเสมอของฉัน ร่างบางก้มมองนาฬิกาข้อมือเหลือเวลาอีกแค่สิบนาทีก็จะเริ่มประชุม และวันนี้ก็ไม่ได้มีแค่คนในบริษัทของพวกเรา ยังมีบริษัทที่ว่าจ้างของบริษัทพวกเราด้วย ที่ฉันสายเพราะฉันไม่ชินเส้นทางเนื่องจากวันนี้เรามีประชุมที่ บริษัท ซัม อาร์เป็นบริษัทที่ว่าจ้างบริษัทเรามาอีกทีหนึ่ง ฉันเลยคลาดกาลเวลาผิดไปนิดหน่อยร่างบางอันสมส่วนด้วยชุดเดรทแขนกุดสีแดงเข้มสวมทับด้วยสูททรงยาวสีดำ เดินเข้าบริษัท ที่พี่ชายนั้นน
23.40 น ที่ผับ Skyอีกด้านของคลับหรูย่านใจกลางเมือง ร่างสูงของทั้งสี่หนุ่มอย่าง ริว อรัณ และเรียวตะ นั่งดื่มกีลาเต้กันด้วยท่าทีอารมณ์ดี ทั้งสามหนุ่ม หัวเราะและพูดคุยกันตามประสา ซึ่งต่างจากริก พอมาถึงก็ไม่ยอม เอ่ยปากหรือพูดไม่จากับใคร มือหนาเอาแต่ลูบรอยแผลที่มุมปากหยักของตนด้วยสีหน้าอันบึ่งตึง เรียวตะและอรัณเห็นรอยเคี้ยวที่มุมปากของเพื่อนต่างขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เว้นแต่ริวเท่านั้นที่เอาแต่นั่งหลุดขำพี่ชาย ที่เอาแต่นั่งลูบรอยแผลที่นินิวนั้นได้ฝากเอาไว้ ไม่คิดว่าการที่ตนปล่อยริกไว้กับนินิวแค่แปบเดียว ริกถึงกับปากแตกเลือดตกอย่างออกแบบนี้ สงสัยคงจะคิดถึงเจ้าของรอยเคี้ยวสินะ ไอ้ริกถึงกับนั่งลูบมันไม่หยุด จะสมหน้าหรือสงสารพี่ชายดี แต่รอยเคี้ยวที่มุมปากหนาของริกก็ไม่หลุดพ้นสายตาของอรัณและเรียวตะได้"ไอ้ริกปากนั้นมึงไปโดนอะไรมาวะ" คนขี้สงสัยอย่างอรัณได้แต่เอ่ยเพื่อนมา ที่ริกเอาแต่ลูบคลำรอยแผลหยุด รอยเคี้ยวมันชัดขนาดนี้คงไม่พ้นโดนสาวกัดปากมาชัวร์ แต่ว่าจะเป็นสาวคนไหนของมันละ อย่างนัตตี้ก็ไม่หน้าจะเป็นไปได้ เพราะตั้งแต่ริกได้หมั้นหมาย กับนัตตี้ เพื่อนเขาก็ไม่ได้แตะต้องเธอเลยด้วยซ้ำ ก็รู้กันอยู่
พอคอยหลังน๊อตริกก็ไม่รอช้า เมื่อได้โอกาสร่างสูงก็มาหยุดที่หน้าประตูห้องทำงานของนินิวทันที เขาอยากจะถามเธอนักเหตุใดทำไมเธอถึงไปสวิตช์โดยไม่บอกเขาเรื่องนี้มันยังค้างคาภายในใจเขาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา"ก๊อก ก๊อก""เชิญคะ" ร่างบางที่นั่งอ่านเอกสารถึงในมือถึงกับต้องซะงักเมื่อคนที่เดินเข้ามาไม่ใช่พี่มิ้นท์เลขาของพี่น๊อตและกับเป็นพี่ริก ฉันสบตาเข้ากับสายตาคมเข้มที่เดินเข้ามายังโต๊ะทำงานของฉัน นี่เขามาทำไมถ้าเป็นเรื่องงานวันนี้เธอไม่มีคิวคุยงานกับเขา"คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ" ร่างบางถามด้วยเสียงเรียบ ริกถึงกับชะงักที่นินิวเรียกเขาซะห่างเหิน บวกกับสายตาและท่าทีของเธอแสดงออกมาชัดเลยว่าเธอลืมเขาไปแล้วจริงๆ"ก็มีนะ" ริกตอบพร้อมกับปรายตาจ้องมองคนตัวเล็กที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่คิดที่จะสนใจเขาเลยซักนิด"งั้นก็รีบพูดเรื่องของคุณมาเถอะคะ ฉันจะได้ทำงานต่อ" ร่างบางบอกพร้อมกับอ่านเอกสาร ริกที่เห็นท่าทีของนินิวที่เมินตนถึงกับหงุดหงิดขึ้นมาทันที ให้ตายเถอะนี้เธอไม่คิดจะมองหน้าเขาเลยหรือไง ไปอยู่เมื่อนอกได้ไม่ทันไรลืมผัวเธอแล้วหรือไง ให้มันได้แบบนี้สิ"ไปอยู่สวิตช์ไม่คิดจะบอกกันบ้างหรือไง" ร่างสูงไ
"คุณกำลังหึงฉัน ทั้งที่คุณเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว" ร่างสูงถึงกับชะงักที่นินิวนั้นรู้ว่าเขานั้นมีคู่หมั้น นินิวมองหน้าริกด้วยสายตาว่างเปล่าเธอไม่พอใจที่เขาเข้ามาจูบเธอ ร่างบางเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความโกรธจัด ริกที่เห็นเช่นนั้นได้แต่ถอยออกมา เขาใจร้อนและวู่วามจนเกินไป"ออกไปจากห้องทำงานฉันได้แล้วคะ" นินิวบอกด้วยเสียงแข็ง คนตัวโตมองหน้านินิวเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานของเธอไปด้านนินิวหลังจากที่พี่ริกออกไปจากห้องทำงานของฉันไป เธอเองก็อึดอัดใจเช่นกันที่ต้องร่วมทำงานกับคนใจร้ายอย่างพี่ริก นินิวจึงขอถอนตัวจากการร่วมงานกับทางบริษัทซัมอาร์ ทีมที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดในอีกสองวันข้างหน้า ขอให้พี่มินท์ผู้ช่วยของเธอไปแทน น๊อตเองถึงกับหัวเสียที่นินิวไม่ยอมไปทำงานต่างจังหวัดร่วมกับตน เมื่อบอกพี่ชายจบร่างบางก็เดินออกจากห้องทำงานของน๊อตทันที และในจังหวะนั้นสายตานินิวกับสะดุดเข้ากับริกและนัตตี้ที่กำลังจะออกไปข้างนอกด้วยกัน ร่างสูงสบตากับเธอเล็กน้อย รินนาที่เดินออกจากห้องมาก็เจอกับนัตตี้และริกเข้าพอดี"ยัยนัตฉันคิดว่าแกจะไม่มาแล้วซะอีก"รินนาเอ่ยทักเพื่อนตามประสา นัตตี้ผู้หญิงคนนี่ที่เธอเคยเจ
หลังจากที่กลับเข้าห้องพักภายโรงแรมได้ไม่นานร่างบางก็เผลอหลับไปเนื่องจากขับรถมาถึงเธอก็ไปดูงานต่อเลยทำให้รู้เพลียๆ นินิวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในเวลาสองทุ่มมือเรียวสมาร์ตโฟนขึ้นมาเป็นไลน์จากพี่น๊อตนั้นเองที่ชวนเธอไปทานมื้อเย็นข้างนอก แต่พี่น๊อตไลน์มาเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วฉันจึงบอกกับพี่น๊อตขอทานแถวนี้ก็แล้วกัน หลังจากที่ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ร่างบางอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำธรรมดากับกางเกงยีนขาสั้นสีซีดไม่แต่งอะไรมากมายแค่จะออกไปเดินเล่นเพราะเห็นริมหาดของโรงแรมมีค่าเฟ่ ร่างบางจึงเลือกออกไปรับลมทะเลตรงนั่นนินิวเลือกสั่งอาหารเพียงไม่กี่อย่างมานั่งทานเล่น สายตาทอดยาวไปยังท้องทะเลมีเสียงเพลงคลอมาและลมพัดทะเลที่พัดปลิวไสวมา บรรยากาศดีแบบนี้ถ้ามีใครซักคนมานั่งด้วยก็คงจะดี นินิวนั่งอยู่เช่นนั้นนานนับชั่วโมง นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้มาทะเลที่ลมพัดเย็นๆ แบบนี้ จำได้ว่ามาครั้งล่าสุดงาน วันเดอร์ฟูล อ่า ไม่น่าคิดเรื่องวันนั้นเลย ทำไมการมาทะเลของฉันในครั้งนี้ต้องมีเขามาด้วย นินิวพยายามสลัดภาพริกและคู่หมั้นของเขา ออกจากหัวของเธอ ตอนนี้พวกเขาคงสนุกอยู่ที่ไหนซักแห่ง"ทำไมฉันต้องมานั่งคิดเรื่องของพวกเ
ร่างสูงระดมจูบคนตัวเล็กไปทั่วทั้งใบหน้า จนมันเกิดเสียงภายในห้อง อารมณ์ภายในกายหนาสูบฉีดตอนนี้ต่อให้เอาอะไรมาฉุดก็คงไม่อยู่ เมื่อร่างบางตรงหน้านั้นหอมหวานยากที่จะถอยตัวกลับ ถึงมันจะไม่ถูกต้องแต่มาขนาดนี้แล้ว ก็ต่อให้จบไปเลยละกัน คนใต้ร่างเองก็แสนพยศฝ่ามือใหญ่ลูบลงไปยังหน้าขาของคนใต้ล่างขณะที่มือเล็กยังคงกำคอเสื้อของริกเอาไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างปัดแต่ขัดขืนคนตัวโตที่พยายามจะลวงเข้าตรงส่วนนั้นของเธอ อ่า.... ทั้งสองอึดสู้กันอยู่ซักพักแต่นั้นใช่ว่าคนตัวเล็กจะสู้แรงมหึมาของคนตัวโตได้ฉันกำลังจะขาดอากาศหายใจ เธอเมื่อคนใจร้ายไม่ยอมถอนจูบออกจากฉัน แต่เขากับเพิ่มความเกลียดชังให้ฉันโดยการใช้นิ้วร้ายแทกเข้ามายังร่องแคบของฉัน เขาใจร้ายกับฉันมักมาก นิ้วร้ายแทกเข้ามาอย่างเชื่องช้า จนทำเอาฉันถึงกับขนลุกสู้ขึ้นมา ให้ตายเถอะทำไมฉันต้องมารู้สึกมีอารมณ์กับคนๆ นี้ด้วยคนใต้ร่างได้แต่บิดตัวเล็กน้อยเมื่อโดยสิ่งแปลกปลอมแทกเข้ามายังร่างกายของเธอ"ฮือๆ ..." ร่างบางหลุดเสียงร้องออกมาเมื่อคนตัวโตถอนจูบออก ริกมองคนตรงหน้ามาอย่างแนบชิด ก่อนที่จะค่อยๆ ถอดนิ้วร้ายๆ ออกจากกายสาวของคนใต้ร่าง เมื่อเห็นว่านินิวเลิกโวยวา
รุ่งเช้าริกออกจากห้องพักของนินิวในเวลาหกโมงกว่าๆ เมื่อคืนกว่าจะได้หลับก็หลายชั่วโมงอยู่เหมือนกันด้านรินนาและน๊อตตื่นมาเพื่อที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมชายหาด รินนาที่เดินออกจากห้องมาก่อนสามีหญิงสาวถึงกับชะงัก ที่เห็นริกนั้นเดินออกจากห้องนอนของนินิว รินนาถึงกับนิ่งเงียบ นี้มันเกิดอะไรขึ้น ความสงสัยทุกอย่างมันวิ่งเข้ามาในหัวเธอ แต่ยังถือว่าโชคดีที่ริกไม่เห็นเธอ และน๊อตเองยังไม่ออกจากห้องมา "นินิว ริก" รินนาแทบจะหลุดเสียงออกมา ถ้าสามีเธอรู้เรื่องระหว่างนินิวและริกนั้น มันคงเป็นเรื่องใหญ่มากแน่ๆ รินนาพยายามนึกย้อนกลับไปวันที่นินิวเข้าบริษัทริกวันแรกพึ่งจะมาเอะใจกับพวกเขาทั้งสองคน หึ! มิน่าละทั้งริกและนินิวพวกเขาดูท่าทางแปลกๆ กันทั้งคู่ ไหนจะเรื่องที่นินิวสนิทกับริวอีก มันคงไม่ได้เป็นอย่างที่เธอกำลังคิดหรอกใช่ไหม รินนารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ที่เธอต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ก่อนที่จะออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นร่างบางของนินิวรู้สึกตัวอีกทีในเวลาสิบโมงกว่าๆ เนื่องจากเสียงสมาร์ทโฟนนั้นดังรบกวนเวลานอนของเธอ มือบางหยิบขึ้นมาดูเป็นสายเรียกเข้าจากพี่น็อตนั้นเอง อ่าให้ตา
ด้านน๊อตรินนาสองสามีภรรายาหลังจากที่พรุ่งนี้ทั้งสองนั้นมีประชุมจึงต้องกลับก่อน น๊อตเก็บรายละเอียดของโครงการก่อสร้างคอนโดเสร็จ ทั้งน๊อตและรินนาเดินทางกลับเพื่อที่จะเข้าประชุมบริษัทในวันพรุ่งนี้ ส่วนเนื้องานอีกนี่สิบเปอร์เซ็นต์นั้นให้นินิวเข้ามาทำต่อจากตน ตอนแรกรินนาเองก็ไม่เห็นด้วยกับสามีที่ให้นินินั้นอยู่ที่นี่เพียงลำพัง เพราะเธอนั้นแอบเก็บความลับของริกและนินิวนั่นไว้ แต่ก็ต้องยอมตามคำสั่งของน๊อตเพราะงานในวันพรุ่งนี้ก็สำคัญมากไม่แพ้กัน ทั้งน๊อตรินนาและนัตตี้นั้นต่างก็กลับกรุงเทพไปตั้งแต่ช่วงห้าโมงเย็นด้านริกจากที่เคลียร์งานเสร็จร่างสูงและแยกกับกลุ่มเพื่อน รีบกลับเข้ามาที่พักภายในโรงแรม เพราะวันนี้เขาตั้งใจจะพานินิวนั้นออกไปทานมื้อเย็นข้างนอก ร่างสูงมาหยุดที่หน้าห้องพักของคนตัวเล็ก"ก๊อก...ก๊อก" แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าคนด้านในจะเปิดประตูออกมาเสียที"นินิว เปิดประตูหน่อยสิ" เสียงทุ่มเอ่ยผ่านมาประตู แต่ด้านในก็ยังคงเงียบสนิท ริกรออยู่หน้าห้องของนินิวราวสิบนาที แต่ก็ยังคงเงียบสนิทเหมือนเดิม ริกถึงกับรู้สึกถึงความผิดปกติที่ไม่ได้ยินเสียงของนินิว ริกร้อนรนและกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก กลัวว่าเ
@คฤหาสน์ นินิวหลังจากที่พี่ริกพาฉันและเรนิสออกไปทานอาหารเสร็จแล้ว และตอนนี้พี่ริกเขาก็พาฉันและเจ้าตัวแสบกลับมาถึงคฤหาสน์ในเวลา สองทุ่ม เศษๆ โดยมีคุณย่าสุดสวยและคุณปู่ ที่นั่งรอรับเจ้าตัวแสบในห้องรับแขก ที่มีคุณแม่ของพี่ริกนั้นโทรตามพวกเราแทบจะทุกสิบนาที เนื่องจากท่านเป็นห่วงเรนิส เพราะพี่ริกนั้นพาเรนิสออกไปตั้งแต่เมื่อเช้า คุณแม่ท่านเป็นห่วงเจ้าตัวแสบมากกว่าลูกชายทั้งสองของท่านซะอีก ส่วนเจ้าตัวแสบพอเห็นคุณปู่คุณย่าที่นั่งอยู่บนโซฟา ก็ลงจากอ้อมแขนของพี่ริก เดินเข้าไปออดอ้อนคุณปู่คุณย่าอย่่างรู้งานตามประสาของเด็กขี้อ้อนที่มักจะทำเช่นนี้กับคุณปู่คุณย่าของเขาทุกวัน ฉันเห็นภาพนี้ที่ไรถึงกับอดยิ้มให้กับความน่ารักน่าซังของลูกสาวไม่ได้ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ครอบครัวของพี่ริกนั้นรักฉันและเรนิสมากๆ"เรนิสคะมาหาคุณย่า นะคะลูก หือ...ย่าคิดถึงหนูที่สุดเลยคะลูก" ห่างกันไม่ถึงวันคุณหญิงปรางทิพย์ก็อดคิดถึงเจ้าตัวแสบนั้นไม่ได้ ที่นับวันยิ่งรู้ความมากขึ้น คุณย่่าสุดสวยพอหลายสาวเดินเข้าหา ก็ทั้งฟัดทั้งหอมเจ้าตัวแสบ ส่วนคนโดนอย่างหลานสาวตัวจ้ำม่ำก็เอาแต่หัวเราะคลิกๆ มาอย่างชอบใจ จนฉันเองอดหมั้นใส้เรนิสไม่ไ
2 ปีต่อมาด้านริกหลังจากที่นินิวตัดสินใจกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ไทยกับผม จากที่เรากลับจากสวิตซ์ได้ประมาณ 3 เดือนนินิวก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวสุดที่รัก โดยนินิวนั้นคลอดก่อนกำหนด ทำให้เจ้าตัวแสบนั้นค่อนข้างที่จะตัวเล็ก โดยน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2,238 กรัม เรื่องหน้าตาของเรนิส นั้นถอดแบบมาจากผมมากกว่านินิวนะครับ นี่แหละคือสิ่งภาคภูมิใจของผมที่ลูกสาวหน้าตาคล้ายผมมากกว่าแม่ของเขา หลังจากที่นินิวคลอดเรนิสได้ประมาณ 3 เดือน ผมและนินิวเราก็ได้เข้าพิธีแต่งงาน โดยที่นินิวเธอไม่ได้ต้อง การ จัดใหญ่โตอะไรมากมาย แค่เชิญคนสนิทมาร่วมเป็นสักขีพยานในความรักของเรา และยังมีเจ้าตัวแสบอย่างเรนิสนั่นร่วมเป็นพยานความรักของผมและนินิวอีกด้วย เรียกได้ว่างานแต่งของเราเป็นอะไรที่เพอร์เฟคและลงตัวสุดๆ ถึงจะเป็นงานที่ไม่ได้จัดใหญ่โตอะไรแต่สำหรับผม ตั้งแต่มีนินิวและเรนิสเพิ่มเข้ามาในชีวิต ผมก็กลายเป็นคนที่ชอบอะไรที่เรียบง่าย ขอแค่มีพวกเขาร่วมเดินทางไปกับผมชีวิตนี้แค่นี้ก็พอแล้วครับ@บริษัทซัมอาร์วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เหล่าพนักงานในบริษัทนั้นไม่เคยได้เห็น เมื่อคุณพ่อยังหนุ่มในคราบผู้บริหาร ร่างสูงของริกในชุดสูทสีกลม เดินเข้าม
กลุ่มฉันเราก็นั่งกันพวกผู้หญิง ที่มียัยเซนั้นทำหน้าที่เป็นเด็กเอ็นสมัครเล่นในงานเลี้ยงเล็กๆ ของค่ำคืนนี้นั่งกันไปได้ซักพักยัยมีนนาที่กระดกไม่หยุด อีกไม่นานก็คงจะคอพับ ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งทานน้ำเปล่าและนั่งมองพวกเพื่อนๆ ที่นั่งดื่มกัน ยัยไรราที่มองฉันมา"ยัยนินิวจะคลอดแล้ว กูก็ยังเงียบกริบเลยค่ะ" จู่ๆ ยัยไรราที่โดนฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำถึงกับเข้าไปเอ่ยถึงเรื่องลูกขึ้นมากับพวกฉัน"แกก็รีบมีซะสิ เรนิสคลอดมาจะได้มีเพื่อนเล่น" ฉันเอ่ยกับยัยไรรา พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ ที่นางอยากจะมีเจ้าตัวเล็กมาวิ่งเล่นในบ้านบ้าง"ฉันลุ้นทุกเดือนอะแก" ยัยไรราเอ่ยกับพวกฉันมา"ดูอย่างยัยรีนสิ มาครั้งเดียวสองคนเลย รวดเร็วทันใช้มาก" ฉันว่าและหันมองหน้ายัยเชอรีนที่มาครั้งนี้ นางไม่ยอมพาเจ้าแฝดมาด้วย เสร็จจากเซอร์ไพรส์ฉันพรุ่งนี้พวกเพื่อนๆ ฉันก็แยกย้ายกันไปสวีทกับผู้ของพวกนางต่อ"เออ ที่แกไม่มีเพราะไอ้ตินไม่มีน้ำยาหรือเปล่า" จากที่นั่งดื่มเงียบๆ เอ่ยขึ้นมาบ้าง พวกฉันถึงกับลั่นขำกันห้อง แต่มีไอ้ติณคนเดียวที่ขำไม่ออก หน้านิ่งมาเชียว"ใครเสียงใคร ว่าฉันไม่มีน้ำยา นินิวเธอว่าฉันเหรอ" ไอ้ออสติณหูเพี้ยนที่ได้ยินเป็นเสียง
วันต่อมาหลังจากที่ฉันไปค้างที่โรงแรมกับพี่ริกมา และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวัน ที่ฉันยังไม่ได้กลับไทย แต่เราตกลงกันแล้ว ว่าฉันจะกลับไปคลอดเรนิสที่เมืองไทย ส่วนเรื่องที่ฉันท้องพี่น๊อตและคุณน้าแนะนำให้ฉันบอกป๊าม๊าเพราะอีกไม่กี่เดือนฉันก็จะคลอด ตอนแรกฉันก็กลัวนะกลัวม๊าจะดุจะด่า ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วยังไงม๊าก็ต้องทราบเรื่องนี้อยู่ดี อย่างที่บอกม๊าฉันเป็นคนที่ค่อนข้างหัวโบราณ ฉันวิดีโอคอลหาและบอกเรื่องฉันจะคลอดเท่านั้นแหละ ม๊าฉันแทบจะช็อค แต่ยังดีหน่อยที่ฉันมีพี่น๊อตและพี่รินนาคอยพูดช่วยอีกแรง เรื่องป๊าม๊าของฉันนั้นตอนนี้ก็ตัดออกไปได้เลยส่วนแก๊งค์เพื่อนสนิทของฉันพอฉันบอกว่าจะกลับไปคลอดที่ไทย ยัยไรรา และยัยเชอรีน นิเตรียมต้อนรับฉันแล้วค่ะ ส่วนยัยมีนนา รายนั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า นางถึงขั้นจะจองร้านเหล้าตอนรับฉัน ฮ่าๆ ดูเอาเถอะสภาพท้องหลายเดือนจะไปร้านเหล้ายังไงให้ไหวก่อน ให้ฉันไปนั่งดมกลิ่นบุหรี่กระดกน้ำเปล่าหรือไงเถอะ พอยัยมีนนารู้ว่าฉันท้องตอนแรกนางก็ดีใจมากเลยนะ แต่อีกใจนางขาดคู่ขาไปเที่ยวผลับ ไม่รู้จะขำหรือสงสารเพื่อนดีใบหน้าหวานของนินิวที่นั่งอ่านไลน์กลุ่มเพื่อนๆ ของเธอถึงกับยิ้มไม่หุบและวัน
เช้าวันต่อมาร่างบางรู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน ฉันลืมตาขึ้นมาแต่กับไม่เจอคนที่นอนร่วมห้องมาด้วยตลอดทั้งคืนใบหน้าหวานที่งัวเงียอยู่นั้นถึงกับขมวดคิ้วมาด้วยความสงสัย นินิวกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องแต่กับไม่เจอเจ้าของห้อง ให้ตายเถอะ นี่เขาหายไปไหน ของเขากั" พี่หายไปไหนกันน๊าพี่ริก " เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาขณะที่ยังนั่งอยู่บนเตียงนอนภายในห้องเพียงลำพัง หรือเขาจะพลานโกรธเรื่องเมื่อคืนที่ฉันไม่ยอมให้เขานอนร่วมเตียงด้วย"เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้พี่คงไม่ได้ถอดใจหนีฉันกลับไทยไปหรอกใช่ไหม" ฉันพยายามที่จะคิดในแง่ดี แค่คิดว่าเขากลับไทยโดยไม่มีฉันจู่ๆ อารมณ์ความน้อยอกน้อยใจมันก็วิ่งขึ้นมาจุกภายในอกฉัน"หึ...! ตื่นแล้วไม่คิดจะปลุกฉันเลยหรือไงคนบ้า แล้วยังหนีหายไปไม่บอกไม่กล่าวฉันอีก เมื่อคิดได้ดังนั้นมือเรียวบางหยิบกระเป๋าใบเล็กคว้าหาสมาร์ตโฟนขึ้นมาเพื่อจะโทรหาเขา แต่ใบหน้าหวานกับต้องชะงักอีกครั้ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าฉันไม่มีเบอร์พี่ริกเลย ความน้อยใจของอารมณ์คนท้องมันเริ่มมีมากขึ้น อารมณ์ที่มีคนคอยเอาอกเอาใจเราทุกอย่าง แต่จู่ๆ เช้ามากลับหายไปแบบนี้ ร่างบางแทบจะร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทั้งๆที่ ผ่
"ไม่เจอหน้านินิวสองวันพี่คิดถึงจะแย่" ร่างสูงเอ่ยมาเสียงนิ่ง นินิวรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของคนตัวโต"คุณไม่ได้ป่วยอย่างที่ยัยเซบอกฉันนิ" นินิวถึงกับหันมองคนป่วย!! แค๊ก แค๊ก !! เมื่อเจอคำถามของคนตัวเล็กร่างสูงถึงกับไอ ขึ้นมาทันทีนินิวมองหน้าคนป่วยและไม่เหมือนเลยซักนิด อ่า...นี้ฉันโดนยัยเซ หลอกเข้าให้แล้วละสิ แต่นั้นริกกับเสยิ้มและมองหน้านินิวมา"เพี้ยะ" ฝ่ามือบางฟาดเข้าที่ลำแขนแกร่งของร่างสูงทันที" นิแน่..." คุณกับยัยเซรวมหัวกันแกล้งฉันใช่ไหม อ่า...ฉันไม่น่าหลงกลคนเจ้าเล่ห์อย่างยัยเซเลย คอยดูเถอะกลับไปฉันจะถลกหนังยัยนั้นออกเสียให้เข็ด"พี่เปล่านะครับ พี่ไม่ได้แกล้งป่วย พี่ไม่สบายจริง แต่ตอนนี้พอเห็นหน้าเมีย พี่ค่อยยังชั่วและดีขึ้นแล้วครับ" ริกเอ่ยมาพร้อมกับสบตาคนตัวเล็กพร้อมกับจับมือนินิวให้อังหน้าผากตัวเองที่ตัวยังลุ่มๆ เขาป่วยจริงแต่ตอนนี้ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วจริง"ถ้าคุณไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ฉันก็จะกลับ" นินิวไม่บอกเปล่าร่างบางลุกขึ้น แต่กับโดนคนตัวโตนั้นรั้งเอาไว้ เมียอุตส่าห์เป็นห่วงและมาเยี่ยมเขาทั้งที จะปล่อยกลับไปง่ายๆ นี้ก็ไม่ใช่เขาละสิ อยากง้อ อยากหอม อย่ากคืนดีกับเมียจะแย่ ร่าง
ร่างสูงจับแขนคนตัวเล็กให้ออกมาคุยกับเขาที่อีกมุมของภายในร้านอาหาร ซึ่งเวลานี้เหลือเพียงพนักงานในร้าน 2-3 และเซบาสเตียนเก็บร้านอยู่อีกมุม ร่างสูงเสมองใบหน้าเรียวเล็กของนินิว ที่ดวงตากลมเล็กกำลังมีน้ำใสๆ ไหลออกมา เขาไม่โกรธหรือโทษนินิวเลยซักนิดที่เธอปิดบังเขาสายตาคมจับจ้องไปยังหน้าท้องนูนของร่างบาง"ไม่เป็นไรใช่ไหม นินิวและตัวเล็กในท้องสบายดีใช่ไหมครับ" ริกเอ่ยถามนินิวมาเสียงเรียบ นินิวถึงกับรู้สึกจุกขึ้นมาในทรวงอก ใบหน้าที่เคยหล่อเหลากับซูบผอมลงจนดูผิดตา"ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันสบายดี" นินิวเอ่ยตอบและพยายามจะไม่ให้เสียงสั่น แต่นั้นกับทำให้ริกนั้นเผยรอยยิ้มออกมาที่มุมปากหยักของตน"เจอหน้าพี่ถึงกับร้องไห้เลยเหรอครับ ไม่ร้องสิ เดี๋ยวตัวเล็กในท้องก็ร้องตามหรอก" ริกเอ่ยบอกพร้อมกับปลายนิ้วสัมผัสแก้มนวลใสของคนตัวเล็กริกเช็ดคราบน้ำตาออกให้กับนินิวมาอย่างเบามือ"พี่มาได้ยังไงกัน ไกลขนาดนี้พี่ยังตามฉันมา อีกเหรอ" นินิวเอ่ยถามร่างสูงมาด้วยเสียงเรียบ พร้อมกับสบตาเข้ากับใบหน้าคมสันของคนตรงหน้า"พี่มาตามเมียกับลูกกลับบ้านของเราครับ พี่ขอโทษ อย่าหนีพี่มาไกลขนาดนี้เลยนะครับ พี่ขอโทษที่ไม่เคยชัดเจนกับเร
"มึงหมายความว่าไง นินิวไม่ได้แท้งลูกอย่างที่บอกกับกูใช่ไหม..." ริกถามมาด้วยสีหน้ามีความหวัง"ก็คงงั้น""ไอ้ห่าน๊อตไอ้เพื่อนเวร มึง...""กูไม่ใช่เพื่อนมึงไอ้เวรริก กูพี่เมียมึงไอ้สัสริกให้เกียรติกูด้วยครับ" น๊อตเอ่ยมาพร้อมกับเสมองหน้าเพื่อน"มึงพูดจริงใช่ ไหม ไอ้น๊อต ลูกกูยังอยู่ใช่ไหม เขายังไม่ได้เป็นอะไรไปอย่างที่กูเข้าใจใช่ไหม" ริกได้แต่เขย่าตัวน๊อต พร้อมกับถามเพื่อนซ้ำๆ นินิวไม่ได้แท้งลูกอย่างที่บอกกับเขา ริกทั้งดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกมันปะปนกันไปหมด น๊อตได้เผยรอยยิ้มและให้กำลังใจเพื่อนมา"อืม..." คำตอบของน๊อต ทำเอาริกถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ปล่อยให้น้ำใสๆ ไหลออกมา อย่างไม่รู้สึกอายน๊อตเลยซักนิดเดียว เขารู้สึกทั้งดีใจและเสียใจ ดีใจที่นินิวไม่ได้แท้งลูกยังมีโอกาสได้เกิดมา แต่อีกใจก็เสียใจมาก ที่ไม่ได้มีส่วนดูแลนินิวเลยเนี้ยสิ ริกร้องไห้ออกมาต่อหน้าต่อตาน๊อต และกลับเป็นน๊อตเสียเองที่ต้องมานั่งปลอบใจเพื่อน เข้าใจแหละเมียท้องทั้งทีและน้องสาวนั้นก็ใจร้ายเกิน ทำกับไอ้ริกผู้บอบบางได้ลงคอ น๊อตได้แต่กลั้นขำเพราะไม่คิดว่าตนต้องมานั่งปลอบใจเพื่อนที่พวงตำแหน่งน้องเขย"น้องกูมั
วันต่อมา ด้านริกหลังจากที่รับรู้ว่าตนและนินิวนั้นสูญเสียลูกไป มันเป็นอะไรที่ทำให้เขารู้สึกทรมานใจที่สุด ไหนจะสภาพจิตใจของนินิวที่เธอเป็นคนอุ้มท้องลูกของตน แต่กับต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายอะไรเช่นนี้ ใบหน้าคมสันของริกถึงกับคิดหนัก เขาไม่อยากจะทำอะไรเช่นนี้เลย แต่ก็ยอมให้คนที่ทำร้ายนินิวและลูกนั้นลอยนวลและผ่านไปง่ายๆ เขาเองก็ยอมมันไม่ได้เช่นกัน ร่างสูงไม่รอช้าต่อสายหาณัฐลูกน้องคนสนิทและให้ทำหน้าที่ตามคำสั่งของตนทันทีด้านนัตตี้หลังจากที่เรื่องในวันนั้นเกิดขึ้นกับยัยนินิว สายของฉันรายงานมาว่าลูกของนังนินิวมันตาย ดีซะอีก โดนฉันผลักแค่นั้นลูกของริกกับนังนินิวตายๆ ไปได้ยิ่งดี ริกจะได้รู้ซะบ้างว่าการสูญเสียมันเป็นยังไง เขาจะต้องไม่มีความสุข ริมฝีปากแดงของนัตตี้นั่งดื่มไวน์ของตนด้วยท่าทีที่มีความสุข และความสุขนั้นก็อยู่กับเธอได้ไม่นานRrrrrrr Momเมื่อกดรับสายจากมารดาที่อยู่อีกซีกโลก นัตตี้ถึงกับต้องตกใจอีกครั้ง"แกนังโง่ คิดแต่จะทำอะไรโง่ๆ เพราะแกคนเดียวที่ต้องให้แด๊ดแกโดนฝั่งคุณไพโรจน์ นั่นถอนหุ้นออกจากบริษัท ไหนจะสินสอดของหมั้นที่แกควรจะได้ ตาริกก็ยึดของแกไปหมด เพราะความโง่ของแกคนเดียวนังเด็