‘แต่ว่า จะเป็นไปได้ยังไง?’ผู้ชายคนนี้คือ… อี้ จิ่นหลีอย่างนั้นหรือ?‘นายน้อยอี้ที่เป็นคนปกครองเมืองเฉินและข่มขู่ใครหลายคน เป็น ‘น้องชาย’ ที่อี้หรานเอ่ยถึงเหรอ?’‘แต่ว่า... ... ฉันจำได้ว่านิตยสารฉบับหนึ่งเคยระบุไว้ว่าอี้ จิ่นหลีเป็นลูกคนเดียวของตระกูลอี้ และเขาไม่มีพี่น้อง’‘ยิ่งไปกว่านั้น สายตาที่อี้ จิ่นหลีมองอี้หรานและคำพูดของเขาที่พูดกับกู้ ลี่เฉินในตอนนี้ดูไม่เหมือนน้องชายพูดคุยกับพี่สาวเลยสักนิด แต่... ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่รักอี้หรานอย่างมาก!’‘อี้ จิ่นหลีกับกู้ ลี่เฉิน ผู้ชายสองคนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเมืองเฉินกำลังทะเลาะกันเพราะ... อี้หรานอย่างนั้นเหรอ?’กวอ ซิ่นหลี่รู้สึกราวกับว่าสมองของเขากำลังจะระเบิดเมื่อคิดถึงเรื่องนี้หวา ลี่ฟางเดินเข้ามาหากู้ ลี่เฉิน เธอกัดริมฝีปากและถามคำถามอย่างน่าสมเพชว่า “ลี่เฉิน … คุณตกหลุมรักอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่” กู้ ลี่เฉินตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขารู้ว่าหวา ลี่ฟางมีความรู้สึกต่อเขา แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับเธอเขาสามารถปฏิบัติต่อเธอในฐานะผู้ช่วยชีวิตของเขา แต่ไม่ใช่ในฐานะคนรัก เธอดูไม่คุ้นเคยกับเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เข
“ลี่ฟาง ผมคิดว่าเราไม่ควรแสดงท่าทีสนิทสนมกันมากเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงข่าวลือที่ไม่จำเป็นจากบุคคลภายนอก” กู้ ลี่เฉินพูดก่อนหน้านี้ เขายังไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ดังนั้นเขาจึงยอมให้ลี่ฟางหลอกคนอื่นว่าเธอเป็นแฟนของเขาเขาไม่ได้พูดอะไรทั้งที่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ อย่างไรเสีย เธอก็เป็นผู้ช่วยชีวิตของเขา และเขาคงไม่รู้สึกรังเกียจหากเธอต้องการใช้เขาเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองแต่ตอนนี้... มันแตกต่างออกไป!ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขารักหลิง อี้หราน และเขาไม่ต้องการให้อี้หรานเข้าใจเขาผิดใบหน้าของหวา ลี่ฟางซีดเผือดขึ้น เธอก้มศีรษะลงอย่างงุ่มง่ามและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น... ฉัน... ฉันจะใส่ใจกับเรื่องนี้ให้มาก ๆ”น้ำเสียงของเธอฟังดูน่าสงสารเล็กน้อย แต่ทันทีที่เธอก้มหน้าลง ดวงตาของเธอก็เผยให้เห็นถึงความขุ่นเคือง ขณะที่มือของเธอกำกระโปรงแน่น‘ทั้งหมดเป็นเพราะหลิง อี้หราน!’‘ตอนนี้ลี่เฉินเว้ยระยะห่างจากฉันก็เพราะหลิง อี้หราน! ไม่ต้องพูดถึงในอนาคต เขาอาจจะทำมากกว่านี้แน่ ๆ!’‘ถ้าหลิง อี้หรานคบกับลี่เฉิน บางทีหลิง อี้หรานอาจจะบอกความจริงกับลี่เฉิน’‘ลี่เฉินคงจะเชื่อหลิง อี้หรานมากฉันอย่างแน่
‘ให้ความอบอุ่นกับมือของเขา...’ หลิง อี้หรานรู้สึกเศร้าในทันที ‘ตอนนั้นมันดีมาก มันดีมากเมื่อฉันคิดว่าฉันจะได้มีครอบครัวจริง ๆ เสียที’แต่ว่ายิ่งดีมากเท่าไร กลับยิ่งดูโหดร้ายมากขึ้นเท่านั้นเขาเอนตัวเข้าไปใกล้เธอ เขามีใบหน้าที่สามารถทำให้ผู้หญิงเหลียวหลังกลับมามองได้อย่างง่ายดาย “หรือเป็นเพราะกู้ ลี่เฉิน? ตั้งแต่เขาสารภาพรักกับเธอ เธอก็อดทนกับสัมผัสของฉันไม่ได้เลยเหรอ?”ลมหายใจอุ่นของเขารดโรยรินบนใบหน้าของเธอ ดวงตาสีพีชแสนสวยคู่นั้นกลับดูเย็นชาขึ้น“มันไม่เกี่ยวอะไรกับกู้ ลี่เฉิน” หลิง อี้หรานพูด“จริงเหรอ?” ดวงตาของเขาเป็นประกายเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น เธอก็ไม่ได้รักกู้ ลี่เฉินใช่ไหม?”“ฉันจะรักเขาหรือไม่มันก็ไม่สำคัญอะไร นอกจากนี้ เราไม่ใช่คู่รักกัน เราเป็นแค่พี่น้อง ถ้าฉันตกหลุมรักเขาแล้วมันจะเป็นยังไงล่ะ?” เธอไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ และโพล่งประโยคเหล่านี้ออกมาสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที และบรรยากาศในรถก็ตึงเครียดขึ้นหลิง อี้หรานรู้สึกหายใจไม่ออก ใบหน้าของอี้ จิ่นหลีค่อย ๆ เขยิบเข้ามาใกล้แก้มของเธอและสัมผัสมันเบา ๆน้ำเสียงของเขาแผ่วเบา ราวกับขนนกที่คอเคลียกับใบหูของเธอ “เธ
“อี้ จิ่นหลี เมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบลงสักที?” เธอถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบามือของเขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอและส่งยิ้มให้เธอเหมือนกับรอยยิ้มที่เขาเคยมอบให้เธอตั้งแต่ที่พวกเขาอยู่ห้องเช่าด้วยกัน“พี่สาว เรื่องของเรามันไม่มีวันสิ้นสุดหรอก!” เขาพูดเขาไม่มีวันยอมให้เธอยุติความสัมพันธ์นี้เด็ดขาด!...หลิง อี้หรานนอนไม่หลับเพราะมีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น ในวันรุ่งขึ้น ทันทีที่เธอมาถึงบริษัทกฎหมาย ทนายกู้ก็ถามเธอว่า “เมื่อวานคุณเป็นอะไรไหม? คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร?”เธอโทรหาเขาเมื่อวานนี้ แต่สายของพวกเขากลับถูกตัดระหว่างทางอย่างกะทันหัน และเมื่อเขาโทรกลับไปหาเธอ เธอกลับไม่ได้รับสายของเขา ซึ่งทำให้เขาเป็นกังวลอยู่ครู่หนึ่ง เขาเกือบจะโทรแจ้งตำรวจด้วยซ้ำโชคดีที่เธอโทรหาเขาในภายหลังและบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงโล่งใจที่ได้ยินว่าเธอปลอดภัยดีหลิง อี้หรานตอบว่า “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ไว้ฉันจะตรวจสอบผลการสอบสวนของตำรวจทีหลัง”ทนายกู้พูดว่า “ไม่เป็นไร ผมไปสถานีตำรวจมาเมื่อเช้านี้ คนที่ทำร้ายคุณเมื่อวานคือแฟนคลับของซูซี เขาจ้างคนมาทำร้ายคุณถึงสองครั้งก่อนหน้าน
แม้ว่าเธอจะมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกฎหมาย แต่เธอก็อาจจะถูกๆล่ออกได้หากเธอตะเกียกตะกายจะเป็นทนายความอีกครั้งโดยไม่หาประสบการณ์ก่อนทนายกู้พูดว่า “โล่งอกไปทีที่คุณไม่ใช่คนคิดมาก ผมจะเริ่มให้คุณจัดการกับคดีเล็ก ๆ คุณจะได้กอบกู้ชื่อเสียงห้ตัวเองก่อน และมันจะเป็นประโยชน์แก่คุณในอนาคต”“ขอบคุณค่ะ” หลิง อี้หรานพูดหลังจากหลิง อี้หรานออกมาจากห้องทำงานของทนายกู้ พนักงานต้อนรับก็ได้บอกกับเธอว่าคุณกวอกำลังรอเธออยู่หลิง อี้หรานเดินไปที่ห้องรับแขกและพบว่ากวอ ซิ่นหลี่รอเธออยู่ที่นั่นทันทีที่กวอ ซิ่นหลี่เห็นใบหน้าของหลิง อี้หราน ใบหน้าของเขาแดงก่ำราวกับว่าเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับลืมไปเสียสนิทว่าเขาต้องการจะพูดอะไร“เกิดอะไรขึ้นคะ? คุณพูดกับฉันได้ทุกอย่างที่คุณต้องการเลยนะ” หลิง อี้หรานพูด“ผม... ผมมาที่นี่ในวันนี้เพราะได้ยินมาว่าเราเริ่มมีหวังกับคดีของอาหลีแล้ว ดูเหมือนว่าซูซีจะถูกเพิ่มเป็นจำเลย! ผมได้ยินจากพ่อแม่ของอาหลีว่าทนายกู้โทรมาบอกพวกเขาว่าคุณหาเบาะแสได้แล้ว ผมเลยอยากจะมาขอบคุณคุณ!” กวอ ซิ่นหลี่รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว“ที่ฉันหาหลักฐานชิ้นสำคัญได้ก็เพราะว่าคุณบอกฉันว่าวันนั้
นั่นเป็นเพราะเขายังมีเรื่องอื่นที่ต้องดูแล!แต่ว่ากู้ ลี่เฉินกลับเต็มใจฆ่าใครสักคนเพื่อเธอ!เขาเต็มใจที่จะทำอะไรสุดโต่งเช่นนั้นเพื่อหลิง อี้หราน ราวกับว่าเขาสนใจเพียงหลิง อี้หรานคนเดียวเท่านั้น!แม้กวอ ซิ่นหลี่จะเดินออกไปแล้ว แต่หลิง อี้หรานยังคงตกตะลึงกับคำพูดของเขาอยู่‘กู้ ลี่เฉินเกือบจะฆ่าซูซีเพราะฉันเหรอ?’‘เป็นไปได้ยังไง? ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาห่วงใยฉันเพราะเขาคิดว่าฉันคือคนที่เขาตามหา’‘แต่ตอนนี้เขามีน้องลี่ฟางอยู่ข้าง ๆ แล้วทำไมเขาถึง...’เหตุการณ์ที่สถานีตำรวจเมื่อวานนี้แวบเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง เขาแสดงออกด้วยท่าทีจริงจังและบอกเธอว่าเขารักเธอเหมือนกับที่เขาเคยบอกว่าเขาจะตามหาเธอและจะทำดีกับเธอด้วยสีหน้าจริงจังเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็กท่าทางจริงจังของเขาดูเหมือนเคย มันไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาหลายปี...…หลิง อี้หรานกำลังเดินออกจากบริษัท ทันใดนั้น กู้ ลี่เฉินก็เข้ามาขว้างทางเธอเสียก่อน“ทำไมเราไม่ไปกินข้าวเย็นด้วยกันล่ะ? เมื่อวานมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเยอะเลย” เขาพูดหลิง อี้หรานจ้องมองคนที่อยู่ข้างหน้าเธอด้วยสายตาว่างเปล่า จา
ผู้หญิงหลายคนที่อยู่ในร้านอาหารจ้องมองมาทางกู้ ลี่เฉิน หลิง อี้หรานรู้สึกคิดผิดที่พาเขามาที่นี่บางทีพวกเขาน่าจะไปร้านอาหารที่มีห้องส่วนตัวหลังจากพวกเขาสั่งอาหารไปสองสามอย่างแล้ว หลิง อี้หรานก็จ้องมองไปที่กู้ ลี่เฉิน “ฉันได้ยินมาว่าคุณช่วยตามหาฉันหลังจากที่ฉันหายตัวไปเมื่อวานนี้ ขอบคุณมากนะคะ”“อืม ผมก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักหรอก” กู้ ลี่เฉินยกยิ้ม“ยังไงก็ขอบคุณ แต่ว่า…” หลิง อี้หรานหยุดและจ้องมองคนตรงหน้าเธอด้วยท่าทางจริงจัง “เมื่อวานคุณบอกว่าคุณจะรอคำตอบของฉัน ฉันจะให้คำตอบกับคุณนะคะ ฉันไม่รักคุณ และคุณไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับฉัน”กู้ ลี่เฉินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกผู้หญิงปฏิเสธ!ไม่ว่าเขาจะเข้าใจผิดว่าเธอเป็นคนอื่นในอดีตหรือที่เขาตกหลุมรักเธอในตอนนี้ เธอก็ยังปฏิเสธเขาอยู่ดี“คุณปฏิเสธผมเพราะจิ่นหลีใช่ไหม?” เขาถามอย่างเฉยชา ราวกับว่าการปฏิเสธของเธอจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขา“ไม่ใช่ค่ะ” เธอพูดพร้อมส่ายหัวแม้ว่าอี้ จิ่นหลีจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอก็ยังจะปฏิเสธเขาอยู่ดีเธอไม่มีอารมร์มานึกถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แล้ว เธอเหนื่อยเกินกว่าจะรักใครได้อีก“คุณคิดว่า
เขาลุกขึ้นยืนและโน้มตัวลงบนโต๊ะก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของเธอ“อ๊ะ!” เธอร้องออกมาและพยายามดึงมือของเธอกลับไปทว่า เขากลับคว้ามือของเธอไว้แน่นก่อนจะจับมันไปวางไว้บนหน้าอกของเขา“คุณรู้สึกไหม? มันเต้นเร็วกว่าปกติ” เขาพึมพำขณะที่ขนตาสีดำหนากระพือเล็กน้อย “รู้ไหมว่าเมื่อวานมันเต้นเร็วแค่ไหนตอนที่ผมเห็นชายคนหนึ่งจ้องจะทำร้ายคุณและพาคุณออกจากรัศมีของกล้องวงจรปิดไป?”เขาหัวเราะเบา ๆ “มันเต้นเร็วมากจนเหมือนกับว่าหัวใจของผมกำลังจะระเบิด ผมรู้สึกหายใจลำบาก มือของผมสั่นอย่างแรงจนผมแทบจะไม่สามารถถือแก้วน้ำได้”คำพูดและน้ำเสียงไพเราะดังเล็ดลอดเข้ามาในหูของเธอเธอจ้องมองเขาอย่างตั้งใจ ทุกคำของเขากำลังหนักอึ้งอยู่ในหัวใจของเธอ“หลิง อี้หราน คุณยังคิดว่าผมไม่รักคุณอยู่อีกเหรอ?” นัยน์ตาฟีนิกซ์จ้องมาที่เธอ ขณะที่แววตาประหลาดใจของเธอสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขาเธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะพูดแบบนี้กับเธอมือของเธอที่แนบอยู่กับหัวใจของเขากำลังร้อนแรงขึ้นราวกับไฟ“คุณ...” เธออ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอกลับไม่รู้ว่าเธอยากจะพูดอะไรกันแน่“อี้หราน” เขาเรียกชื่อเธอ “คุณจะสงสัยอะไรก็ได้ แต่ที่ว่าผมรักค