ตอนนี้เขาไม่รู้แล้วว่าต้องทำอะไร และต้องทำแบบไหนเพื่อขอร้องให้เธอยกโทษให้! ...โจวเชียนหยุนและคุณนายโจวกลับถึงบ้านแล้วบอกให้บอดี้การ์ดทั้งสองของอี้จิ่นหลีกลับไปโดยไม่ต้องคอยเฝ้าที่นี่ไว้ เพราะที่พักของเธอนั้นเล็กเท่ารูหนูและไม่เหมาะให้พวกเขาอยู่หลังจากบอดี้การ์ดสองคนนั้นจากไปแล้ว คุณนายโจวก็โผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างแล้วเห็นรถของเย่เหวินหมิงจอดอยู่ด้านล่างข้างหน้าอะพาร์ตเมนต์ เย่เหวินหมิงยืนอยู่ข้างรถและหันมาทางอะพาร์ตเมนต์โดยไม่ขยับเขยื้อนคุณนายโจวขมวดคิ้ว “ผู้ชายคนนี้จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานแค่ไหน?”“แม่คะ อย่าไปสนใจเขา เขาจะยืนนานแค่ไหนก็เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเรา” โจวเชียนหยุนกล่าวเสียงแผ่วเบาจนเกือบไม่ได้ยินคุณนายโจวถามอย่างสับสน “แต่ทำไมอยู่ ๆ ท่าทีของเขาถึงเปลี่ยนไปแบบนี้? เขารู้แล้วเหรอว่าคงจื่ออินเป็นคนจัดฉากเรื่องแท้งในตอนนั้น? เพราะแบบนั้นหรือเปล่าเขาเลยมาขอโทษ?”อย่างไรเสียข่าวเสียหายของคงจื่ออินที่กระจายอยู่ทั่วถนนเส้นนั้นและเป็นที่สนใจของหลายคนจนแม้แต่คนแก่ ๆ อย่างคุณนายโจวเองก็ยังรู้เรื่องนี้“นั่นก็แค่เหตุผลหนึ่งค่ะ เขารู้แล้วด้วยว่าหนูคือคนที่บริจาคไขกระดูกให
เขาขอโทษเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เธอกลับรู้สึกเพียงว่ามันช่างน่าขัน เขาทำลายชีวิตเธอจนตอนนี้คำขอโทษก็ไม่มีประโยชน์อะไร“เชียนหยุน เธอจะตีฉัน ด่าฉัน หรือลงโทษฉันได้ตามที่เธอต้องการก็ได้ แต่ฉันแค่ต้องการชดใช้ในสิ่งที่ฉันทำผิด และได้ปกป้องเธอ...”เธอขัดเขาในทันที “ไม่ต้องพูดแล้ว! กล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกมา? คุณไม่เคยเชื่อฉันตอนที่ฉันบอกคุณซ้ำ ๆ ว่าฉันไม่ได้ผลักคงจื่ออิน แต่ตอนนี้กลับเชื่องั้นเหรอ? เป็นเพราะคุณรู้แล้วว่าคงจื่ออินไม่ใช่คนที่ช่วยชีวิตคุณ เพราะแบบนั้นคุณเลยเชื่อว่าฉันโดนใส่ร้ายใช่ไหม? ถ้าเธอเป็นคนที่บริจาคไขกระดูกให้คุณ ตอนนี้คุณจะยังทำแบบนี้อยู่เหรอ?”เย่เหวินหมิงตะลึงไป ชั่วขณะหนึ่งเขาไม่รู้ว่าต้องปฏิเสธเธออย่างไร“เย่เหวินหมิง คุณแค่อยากจะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นด้วยการพูดเรื่องพวกนี้ คุณทำให้ฉันเข้าคุกด้วยมือของคุณเอง อาหยันน้อยต้องสูญเสียการฟังไปเพราะฉันเป็นไข้และโดนบังคับให้กินยาลดไข้ที่ไม่เหมาะกับคนท้องภ์ คุณคิดว่ามีอะไรที่ชดใช้กับการติดคุกของฉันและทำให้อาหยันน้อยได้ยินเหมือนเด็กปกติได้ไหม?”คำถามของเธอทำให้เย่เหวินหมิงเซไปเล็กน้อย‘การติดคุกของเธอเป็นการจบการแก้แค้นข
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะ... เขารักเธอ! เขารักเธอลึกซึ้งมากมายจริง ๆ !“เชียนหยุน ฉันรักเธอ!” ในตอนนั้นเขาก็ได้พูดคำที่เขาเก็บกลั้นไว้ในใจออกไปจู่ ๆ โจวเชียนหยุนก็หยุดดิ้น เธอเงียบลงและไม่ตอบสนองราวกับเป็นตุ๊กตาในอ้อมแขนของเขาเขาอดไม่ได้ที่จะกอดเธอแน่นอีกเล็กน้อยเหมือนตอนที่เขาเคยกอดเธอในอดีต “ฉันรักเธอ ฉันรักเธอมาตลอด ฉันแค่ไม่กล้ายอมรับ รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอแค่ไหนตอนที่เธอแทงเศษกระจกเข้าท้องตัวเอง? ฉันยังหวังว่าตัวเองจะเจ็บแทนเธอได้ด้วยซ้ำ”‘ฉันควรจะรู้ตัวว่าฉันรักเธอมากมายเท่าไหร่!’“เชียนหยุนฉันตาบอดเพราะความเกลียดชังในอดีต แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว ฉันจะดูแลเธอให้ดีด้วยทุกอย่างที่ฉันมี ฉันจะล้างมลทินให้ชื่อเธอและให้เธอได้มีชีวิตแบบที่เธอต้องการ ฉันจะเอาตับให้เธอถ้าเธอต้องการ ถ้าครั้งแรกไม่สำเร็จ ฉันจะให้เธอเป็นครั้งที่สอง ที่สาม... จนกว่าเธอจะหายดี!” เขาจะใช้ชีวิตของเขาเพื่อช่วยเธอ! เขาจะยอมจ่ายได้ทุกอย่างตราบเท่าที่สามารถช่วยเธอได้เธอตกตะลึงเมื่อรู้ว่าเขารู้ถึงอาการป่วยของเธอแล้ว‘ตับเขา? ฉัน... หวังว่าเขาจะอยากช่วยฉัน แต่จากนั้นฉันก็รู้แล้วว่าไม่ควรฝากความหวังไว้ที
“เธอเกลียดฉัน... มากขนาดนั้นเลยเหรอ?” เขาพึมพำและหวังว่าจะไม่ได้ยินคำปฏิเสธของเธอทว่าสิ่งที่เขาได้ยินคือ... “ใช่ ฉันแค่ไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก”“ถ้า... ฉันไม่ได้บังคับให้เธอคุกเข่ากราบขอโทษคงจื่ออินต่อหน้าตระกูลคงวันนั้น เราะยังมีโอกาสเปลี่ยนเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไหม? เธอจะเต็มใจยกโทษให้ฉันไหม?” น้ำเสียงของเขาแหบมาก เขารู้สึกราวกับว่ามีก้อนอะไรจุกอยู่ในคอถึงอย่างนั้นเธอก็แค่เพียงมองเขาอย่างเย็นชา “ฉัน... ฉันจะชดเชยความอับอายที่เธอต้องทุกข์ทน ฉันแค่ขอให้เธอยกโทษได้ไหม อย่างน้อยที่สุดก็อย่าปฏิเสธตับของฉันเลยนะ!”ขณะที่พูดเรื่องนี้จบ เข่าของเขาก็กระแทกพื้นและคุกเข่าลงตรงหน้าเธอดวงตาของโจวเชียนหยุนเบิกกว้างในทันทีขณะที่เธอมองคนตรงหน้าอย่างประหลาดใจ เธออ้าปากค้างและไม่เคยคิดเลยว่าเย่เหวินหมิงจะคุกเข่าลงอย่างนี้จากนั้นเธอก็มองเขาก้มหน้าลง และกราบขอขมาเธอ หนึ่ง... สอง... สาม... เขายังคงกระแทกหน้าผากลงกับพื้นจนมีเสียงดังออกมาอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะเลยบ่ายสามมาแล้ว และมีคนเดินอยู่แถวบ้านไม่มาก แต่บางครั้งก็ยังมีคนเดินผ่านอยู่บ้างพวกเขาอดไม่ได้ที่จะหยุดดูหลังจากที่เห็นเย่เหวินหมิงกราบขอ
เย่เหวินหมิงนั่งอยู่ในรถและเหม่อมองโจวเชียนหยุนที่มารับลูกชายของพวกเขาที่โรงเรียนอนุบาลด้วยความมึนงงแม่และลูกชายเดินจับมือกันไปยังป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้ ๆ เขามีโอกาสเดินเข้าไปหาพวกเขา แต่เขาก็ทำลายมันไปพวกเขาอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ แต่เขาไม่สามารถเข้าไปใกล้สองแม่ลูกได้เลยเขาคิดว่าเขาประสบความสำเร็จในการชุบชีวิตตระกูลเย่!แต่เขาล้มเหลวอย่างใหญ่หลวง เพราะคนเดียวที่เขารักไม่อยากเจอเขาหลังจากที่เธอตายด้วยซ้ำ!ลูกชายของเขาที่ควรจะเป็นเด็กสุขภาพแข็งแรงดีก็ต้องมาสูญเสียการได้ยินไปเพราะการแก้แค้นของเขา!ทุกอย่างในอดีตนำพาควาวมเจ็บปวดมาหาเมื่อเขานึกถึงมัน!เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ความเจ็บปวดนี้จะหยุดเสียที! บางที... มันคงจะเจ็บมากขนาดนี้ไปจนกระทั่งถึงวันที่เขาตาย! เย่เหวินหมิงยกมือขึ้นจับหัวใจตนเอง ทุกจังหวะการเต้นของหัวใจทำให้เขาเจ็บปวดแสนสาหัส! ...กลางคืนที่คฤหาสน์อี้ อี้จิ่นหลีช่วยประคองหลิงอี้หรานกลับไปยังเตียงด้วยการดูแลที่ดีที่สุดหลังจากที่แช่เท้าของเธอในน้ำอุ่นและประคบยาสมุนไพรบนหลังมือของเธอแล้วหลิงอี้หรานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางระมัดระวังของเขา “คุณไม่ต้องระวังขนาด
“เย่เหวินหมิง?” หลิงอี้หรานตะลึงไป‘ตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว เย่เหวินหมิงมาที่นี่เพื่อเจอฉันเหรอ? แล้วเขาก็เมาด้วยเนี่ยนะ?’“ฉันจะออกไปเจอ!” หลิงอี้หรานพูดในทันทีและพยายามรีบลุกออกจากเตียง“เดี๋ยวก่อน!” อี้จิ่นหลีจับข้อมือของเธอไว้และพูด“ให้ผมไปดูเขาแล้วคุณก็พักผ่อนดีกว่าไหม?”“ฉันไปดูเขาเองดีกว่า ฉันกลัวว่าเขาน่าจะมาที่นี่เพราะเรื่องของพี่โจว” หลิงอี้หรานกล่าวอี้จิ่นหลีถอนหายใจและพูดกับพ่อบ้านว่า “ให้คนไปพาเย่เหวินหมิงเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นที”พูดจบเขาก็หันไปหาหลิงอี้หรานและกล่าวว่า “ถึงคุณจะไปเจอเขา อย่างน้อยก็ต้องสวมรองเท้าแล้วก็เสื้อผ้าเพิ่มอีกสักตัวสองตัวนะ”เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอพลางพูดเขาจับเท้าของเธอและสวมรองเท้าให้เธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะออกไปพ่อบ้านได้เหลือบไปเห็นอี้จิ่นหลีที่คุกเข่าลงตรงหน้าหลิงอี้หราน เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมากับตัวเอง ‘มีแค่นายหญิงนี่แหละที่ทำให้นายน้อยทำอะไรแบบนั้นได้‘คนในตระกูลอี้ไม่โหดร้ายเกินไปก็แสนดีเกินไป!‘นายท่ายเป็นคนไร้หัวใจ แต่ลูกของนายท่านกับหลานชายต่างก็แสนดีกับคนที่พวกเขารัก พวกเขาอุทิศตนด้วยทั้งหมดของความรู้สึกให้กับผู้หญิง
ทันใดนั้นเย่เหวินหมิงก็ยิ้มออกมา แต่ดูราวกับเขากำลังร้องไห้“อี้จิ่นหลี... รู้ไหมผมอิจฉาคุณแค่ไหน? คุณได้อยู่กับ... หลิงอี้หราน แต่เชียนหยุนกับผม...” อี้จิ่นหลีเม้มปากเข้าด้วยกันแน่นสายตาเมามายของเย่เหวินหมิงเบือนหนีออกจากใบหน้าของอี้จิ่นหลีและใช้เวลานานมากกว่าสุดท้ายที่สายตาของเขาจะสามารถจดจ้องที่ใบหน้าของหลิงอี้หรานได้“หลิงอี้หราน คุณ... คุณเป็นเพื่อนเชียนหยุน ช่วยบอกผมทีว่า อะไร... อะไรที่ผมต้องทำ เพื่อให้เธา... เธายอมรับตับของฉันและยอมเข้ารับ... การผ่าตัด...” เสียงของเขายิ่งแหบแห้งลงไปเมื่อออกเสียงพูดและลมหายใจก็ไม่สม่ำเสมอหลิงอี้หรานตะลึง “เกิดอะไรขึ้น? คุณบอกพี่โจวเรื่องบริจาคตับ แล้วพี่โจวก็ปฏิเสธที่จะรับงั้นเหรอ?”ทันใดนั้นเย่เหวินหมิงก็ยิ้มขมขื่นและดวงตาแดงก่ำ “ใช่ เธอปฏิเสธที่จะรับ เธอ... เธอไม่อยากให้อะไรจากตัวผมไปอยู่ในร่างเธอ... เธอยอมตายดีกว่ารับตับจากผม!”‘แต่ฉันต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่! ฉันอยากเห็นเธอมีชีวิตและเป็นสุขในโลกนี้ ไม่ว่าเธอจะให้อภัยฉันหรือไม่ก็ตาม แต่ฉันอยากให้เธอยังมีชีวิตอยู่!’ใบหน้าของหลิงอี้หรานเศร้าซึมในทันใดการปลูกถ่ายตับในตอนนี้เป็นโอกาสเ
หลังจากนั้นอี้จิ่นหลีก็กอดหลิงอี้หรานไว้จากทางด้านหลังเขากอดเธอไว้อย่างทะนุถนอมขณะที่หายใจรดหูเธอ “ถ้าเป็นฉันล่ะ? เธอจะให้อภัยฉันไหม ถ้าฉันทำอะไรผิดและร้องไห้แบบนั้นขึ้นมา?”หลิงอี้หรานหัวเราะ “คุณพูดเรื่องอะไรคะ? ฉันพูดเรื่องเย่เหวินหมิงนะ ทำไมอยู่ ๆ คุณถึงพูดถึงตัวเองขึ้นมาล่ะ? อีกอย่างคุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ทำไมคุณถึงจะร้องไห้ล่ะ?”“ฉันก็แค่... ถามไง สมมุติน่ะ” เขาพึมพำ ริมฝีปากของเขาจูบบนใบหูของเธออย่างแผ่วเบา เขาลุ่มหลงในผู้หญิงคนนี้และทั้งยังหวาดกลัวมากร่างกายของเธอสั่นและแก้มของเธอก็เป็นสีแดง เธอรู้สึกได้ถึงริมฝีปากของเขาบนหูของเธอ ‘ไม่เอาน่า นี่เขาไม่รู้เหรอว่าเขา... ยั่วยวนฉันให้มีอารมณ์ได้ด้วยการทำแบบนี้น่ะ?’ เธอหันไปมองเขาด้วยแก้มสีแดงเรื่อ “เธอจะให้อภัยฉันไหม? หรือ... เธอจะเป็นแบบโจวเชียนหยุน และเป็นแบบที่เขาทำกับเย่เหวินหมิงในตอนนี้? ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย...”ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่กล้าพูดต่อ บางทีอาจเพราะเขากลัวมากเกินไปว่านี่อาจเป็นการย้ำในสิ่งที่เขาคิด นี่เขาวิตกกังวลขนาดนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ดูเหมือนว่าทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอจะทำให้เขารู้สึกตัวลีบลงหลิงอี