“เกิดอะไรขึ้นคะ?” หลิงอี้หรานถามด้วยความสงสัย“ย้ำสิ่งที่เธอพูดกับฉันในรถวันนี้ทีสิ” เขาพึมพำเธอชะงักคิดเรื่องนั้นและพูดว่า “จิน ฉันต้องการคุณจริง ๆ คุณบอกฉันเองว่าห้ามแตะตัวคุณถ้าไม่ได้สนใจคุณ ตอนนี้ฉันแตะคุณแล้ว ก็แปลว่าฉันสนใจคุณ ทั้งหมดนี่ใช่สิ่งที่คุณอยากได้ยินไหมคะ?”“ใช่ พูดอีกทีสิ” เขาพูดซ้ำเธอไม่ได้ปฏิเสธ และพูดแบบเดิมซ้ำอีกครั้งเธอพูดซ้ำประโยคเดิมไปมาขณะที่เขากอดเธอเอาไว้ หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่ สุดท้ายเขาก็พูดออกมาว่า “จริงไหมที่เธอยังมีฉันอยู่ในใจ ยังรักฉัน และไม่เคยลืมฉันไป?”“ค่ะ เป็นคุณมาตลอด เพราะอย่างนั้นฉันเลยไม่เกลียดที่คุณจูบฉัน ก่อนหน้านี้ฉันไม่มั่นใจเท่าไหร่นักว่ายังรักคุณอยู่ไหม แต่ฉันก็รู้ตัวขึ้นมาว่าฉันรักคุณตอนที่กู้ลี่เฉินถามฉันวันนี้”หลิงอี้หรานสารภาพ “จิน มีหลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างเรา ความสัมพันธ์ของเรามีรอยร้าวเยอะแยะมากมาย ฉันไม่รู้ว่ามันจะเหมือนเดิมไหม แต่ฉันจะพยายามแก้ไขมัน คุณล่ะคะ? คุณอยากจะทำแบบเดียวกันนี้หรือเปล่า?”เขาตัวแข็งทื่อไปเล็กน้อย “เธออยากให้ฉัน... รักเธองั้นเหรอ?” เขาถาม“ค่ะ” เธอตอบ เธอรักเขาและก็ต้องอยากให้เขารักเธอตอบเช่น
‘คำถามคือ เขารู้หรือเปล่าว่าตัวเองพยายามยั่วยุให้ฉันก่ออาชญากรรม? โดยเฉพาะในตอนที่เขาถอดเสื้อผ้าแล้วสวมเข้าไปใหม่ เปิดเผยหุ่นแกร่งและกำยำของเขา นี่มันน่าสนใจเสียยิ่งกว่าโฆษณาบางตัวเสียอีก และทำให้คนอยากจะเอาเขามาเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น...’“ฉัน... กำลังท้องอยู่นะคะ” เธอพูดตรงประเด็น กล่าวอีกอย่างก็คือ ไม่ว่าเธอจะโดนยั่วยุหรือล่อลวงจากการมองเขาแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยสภาวะในตอนนี้ของตัวเอง“งั้นก็ชดเชยความรักของเธอให้ฉันซะตอนนี้สิ แล้วฉันจะให้เธอขึ้นหลังจากที่คลอดเด็ก ๆ ออกมาแล้ว”เธอรู้สึกราวกับว่าเลือดกำเดากำลังไหลออกมาจากจมูก ‘พระเจ้า! นี่มันบทสนทนาประเภทไหนกันเนี่ย?’หลิงอี้หรานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวานหวามในใจเมื่อคิดเรื่องนี้ เธอดูเหมือนจะผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากที่ได้พูดคุยกับจินในช่วงสองวันมานี้ เธอทำงานที่ยังค้างอยู่จนเสร็จ และเหลือเพียงคดีของโจวเชียนหยุนอยู่ในมือเพราะว่าพี่โจวมีประวัติอาชญากรรม หลิงอี้หรานจึงรู้สึกว่าพวกเขามีโอกาสที่จะแพ้คดีสิทธิ์การเลี้ยงดูบุตรครั้งนี้สูงมาก ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ทำได้เพียงดำเนินการต่อโดยไม่มีข้อแม้ใดเนื่องจากเธอตั้งท้อง และเพร
ถึงอย่างนั้นเธอถูกหยุดไว้ทุกครั้ง“ประธานเย่เป็นคนที่คุณอยากเจอก็เจอได้หรือไง? บ้าบอ! เราจะแจ้งตำรวจถ้าคุณทำแบบนี้อีก!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวอย่างหมดความอดทนในทันใดนั้นเองที่ร่างหนึ่งเดินเข้ามาและพูดว่า “ถอย ให้เธอเข้าไป ประธานเย่ต้องการพบเธอ”โจวเชียนหยุนตะลึงไปขณะที่มองชายคนนั้นตรงหน้าเธอ เธอ... เธอจำได้ว่าคนนี้คือเลขาของเย่เหวินหมิง และเขาก็เป็นอดีต... เพื่อนร่วมงานของเธอด้วย!ในตอนนั้นพวกเขาสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขายังคอยเตือนเธอหลายต่อหลายครั้งว่าเย่เหวินหมิงมีคนอื่นที่เขาสนใจอยู่แล้ว และขอให้เธออย่าลงทุนกับความสัมพันธ์ครั้งนี้มากเกินไป โชคไม่ดีที่เธอปฏิเสธจะฟังพวกเขาและเทใจให้ความสัมพันธ์ครั้งนั้นจนต้องจบลงแบบนี้โดยรวมแล้วเธอทั้งโง่เง่าและไร้เดียงสาจนหาเหาใส่หัวตัวเอง! เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยที่หยุดโจวเชียนหยุนไว้ตะลึงลาน พวกเขาไม่รู้เลยว่าผู้หญิงแบบนี้เข้าพบประธานเย่ได้ด้วย! จากนั้นพวกเขาก็คาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่าโจวเชียนหยุนเป็นใครโจวเชียนหยุนเดินตามเลขาคนนั้นเข้าไปในตึกพวกเขาไม่ได้พูดคุยอะไรกันจนกระทั่งนำโจวเชียนหยุนมาถึงห้องทำงานของเย่เหวินหมิงแ
“แน่นอน ฉันเชื่อจื่ออิน จื่ออินกำลังจะเป็นภรรยาของฉัน คนที่กำลังจะอยู่กับฉันไปตลอดชีวิต ถ้าไม่เชื่อจื่ออิน งั้นฉันต้องเชื่อเธอหรือไง?” เขาพูดอย่างเย็นชาคำพูดพวกนั้นทำเธอเจ็บราวกับโดนคมดาบเธอคิดว่าตัวเองจะชินชาและเฉยเมยต่อคำพูดเจ็บแสบที่เขาจะพูดใส่เธอได้ แต่กลับกลายเป็นว่า... แค่คำพูดธรรมดาแบบนี้ก็ยังมีผลต่อเธอมากเหลือเกิน“เย่เหวินหมิง ฉันขอร้องให้คุณเช็กหน่อยได้ไหมคะ? ฉันแค่ต้องการรู้ว่าเธอพาตัวอาหยันน้อยไปหรือเปล่า ถ้าเธอไม่ได้พาตัวเขาไปฉันก็จะกลับไปทันที ไม่มายืนขวางหูขวางตาคุณอย่างนี้หรอกค่ะ”“ผมต้องเช็กตามที่คุณบอกด้วยเหรอ? โจวเชียนหยุน คิดว่าตัวเองเป็นใครไม่ทราบ?” เย่เหวินหมิงถามด้วยความประชดประชันใบหน้าของโจวเชียนหยุนซีดขาว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะขอร้องผู้ชายตรงหน้าเธออย่างไร บางทีต่อให้เธอตายลงต่อหน้าต่อตาเขาก็คงจะไม่สนใจเลย“เย่เหวินหมิง ฉันรู้ว่าเรามีข้อพิพาทกันเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูอาหยันน้อย แต่การพิจารณาคดียังไม่เริ่มและคำตัดสินก็ยังไม่ออกมา คุณจะเอาอาหยันน้อยไปจากฉันในตอนนี้ไม่ได้ เข้าใจไหม?” เธอขอร้อง ด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อมที่สุดใบหน้าของเขาเย็นชา ครั้งหนึ่งเธอเคย
“เขาเป็นลูกฉันด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกนะที่กังวลเรื่องที่เขาหายตัวไป! เขาหายตัวไปที่ไหนและเมื่อไหร่?” เย่เหวินหมิงกล่าวอย่างเย็นชาหลังจากได้ข้อมูลที่จำเป็นแล้ว เขาก็เรียกให้คนของเขาไปตามหาลูกทันทีด้วยเหตุใดก็ไม่แน่ใจ โจวเชียนหยุนกลับรู้สึกโล่งใจในทันทีที่เห็นเย่เหวินหมิงส่งคนออกไปหาตัวลูก ตลกสิ้นดี! เย่เหวินหมิงเป็นคนสุดท้ายที่ทำให้เธอสบายใจได้สินะ!หรือบางที... เธออาจจะเหนื่อยกับการต้องจัดการทุกอย่างเองแล้วก็ได้ ดังนั้นในตอนนี้แม้แต่เย่เหวินหมิงก็ทำให้เธอสบายใจได้ในทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของโจวเชียนหยุนก็ดังขึ้น เธอรับสายโทรศัพท์และรีบออกไปจากห้องทำงานแทบจะทันทีทันใดหลังจากนั้นเย่เหวินหมิงวิ่งตามเธอไปจนถึงลิฟต์โดยไม่รู้ตัว “เกิดอะไรขึ้น?”“เราเจอเขาแล้วค่ะ เราเจอหยันน้อยแล้ว ฉันจะไปรับหยันน้อยที่โรพยาบาล!” โจวเชียนหยุนกล่าวอย่างรีบร้อน ก่อนหน้านี้เป็นสายจากอี้หราน เธอบอกว่าอี้จิ่นหลีช่วยหาตัวหยันน้อยเจอแล้ว แต่หยันน้อยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล“โรงพยาบาลเหรอ?” เย่เหวินหมิงขมวดคิ้วและพูดว่า “ฉันจะไปกับเธอด้วย”“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไป...”
“อยากรู้จริง ๆ เหรอคะ?” หลิงอี้หรานเหลือบมองเย่เหวินหมิงอย่างไม่พอใจ “พี่โจวถามอาหยันน้อยว่าทำไมเขาถึงต้องไปทะเลาะกับเด็กคนอื่นด้วย แล้วเหตุผลก็คือพวกเด็กที่โรงเรียนอนุบาลบอกว่าแม่ของเขาเป็นอาชญากร เป็นคนไม่ดี! คุณเย่คะ ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณคู่หมั้นของคุณที่ชื่อคงจื่ออินนะคะ ถ้าเธอไม่ได้ไปที่โรงเรียนอนุบาลและแพร่คำพูดพวกนั้น เด็ก ๆ ในโรงเรียนก็คงไม่รู้เรื่องนี้หรอก”สีหน้าของเย่เหวินหมิงอึมครึมในทันที เขามองไปยังโจวเชียนหยุนด้วยความรู้สึกที่หลากหลายขณะที่เธอร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดขมขื่น“คุณเย่ ตอนที่เกิดคดีของพี่โจวตอนนั้นแน่ใจนะคะว่าคุณมีจิตใจเป็นกลาง? คุณไม่เคยติดคุกอาจจะไม่รู้ว่าการติดคุกมามันรู้สึกยังไง แค่คำให้การพล่อย ๆ จากปากคุณ แต่มันจะเป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตของพี่โจวตลอดไป!” หลิงอี้หรานกล่าว เธอไม่มีความตั้งใจจะฟังคำตอบของเย่เหวินหมิงหลังจากที่พูดจบเธอก็เดินเข้าไปปลอบโจวเชียนหยุนหลังจากผ่านไปพักใหญ่การร้องไห้ของโจวเชียนหยุนก็ค่อย ๆ หยุดลง“พี่โจวไม่ต้องห่วงเรื่องเครื่องช่วยฟังของหยันน้อยนะคะ ฉันคุยกับจินแล้วว่าจะให้หมอทำเซ็ตใหม่ให้อาหยันน้อยเฉพาะเลยแเราจะได้ไม่ต้องผ่าตัด
“เขารักเธอ แต่อีกไม่นานเขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น อีกอย่างเขาเป็นคนที่ส่งผู้หญิงที่เขารักเข้าคุก ถึงวันหนึ่งเขาจะเสียใจในเรื่องนี้ แต่พี่โจวก็อาจจะไม่ให้อภัยเขาแล้ว ชีวิตพี่โจวทั้งชีวิตพังทลายไปแล้ว ถ้าเขามาเสียใจทีหลังจะไปได้อะไร?”หลิงอี้หรานรู้สึกว่านี่ไม่ยุติธรรมกับโจวเชียนหยุนเลย เธอตกหลุมรักกับผู้ชายที่ส่งเธอเข้าคุกตอนนี้เย่เหวินหมิงยังมีหน้ามาสู้กับเธอเพื่อแย่งสิทธิ์เลี้ยงดูอาหยันน้อยอีก!อี้จิ่นหลีตัวแข็งทื่อ “เธอคิดว่าโจวเชียนหยุนจะไม่มีวันให้อภัยเย่เหวินหมิงแม้ว่าวันหนึ่งเขาจะเสียใจกับสิ่งที่เขาทำ และขอร้องให้โจวเชียนหยุนให้อภัยงั้นเหรอ?”หลิงอี้หรานครุ่นคิดเรื่องนั้นและพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้สิคะ ฉันไม่ใช่พี่โจวสักหน่อย”“งั้น... ถ้าเป็นเธอล่ะ?” อี้จิ่นหลีถามอย่างไม่มั่นใจหลิงอี้หรานพูดว่า “ถ้าเป็นฉัน ฉันน่าจะไม่ให้อภัยเขา บางความผิดก็ให้อภัยกันได้ แต่บางความผิดก็ไม่สามารถให้อภัยได้ พูดให้ชัดก็คือ บางครั้งสิ่งที่เรียกว่าการให้อภัยจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคนคนนั้นไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกของคุณแล้ว พวกเขาเหมือนคนแปลกหน้าและไม่มีผลอะไรกับคุณอีกแล้ว”อี้จิ่นหลีรู้สึกเหมือน
รอยยิ้มของหลิงกว๋อจื้อชะงักค้าง และปกป้องตัวเองด้วยการพูดว่า “ตอนนั้นพ่อมันโง่เอง พ่อกับลูกสาวจะไปมีเรื่องระหองระแหงกันแค่ชั่วข้ามคืนได้ยังไง คุยกันตรงนี้คงไม่สะดวกเท่าไหร่ ทำไมเราไม่เข้าไปคุยกันข้างในล่ะ?”หลิงกว๋อจื้ออยากจะคุยหลังจากที่ผ่านประตูคฤหาสน์อี้เข้าไปแล้วหลิงอี้หรานกล่าวว่า “ฉันคิดว่าเราตัดขาดกันไปแล้วซะอีก? ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อบอกว่ารู้จักฉัน แค่เพราะการแต่งงานของฉัน งั้นก็ขอบอกไว้เลยว่าเราไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันอีก!”แม้ว่าเธอกับชายตรงหน้าจะมีสายเลือดเดียวกัน แต่สิ่งที่เขาเรียกกันว่าความรักของครอบครัวมันจางหายไปนานแล้ว!สีหน้าของหลิงกว๋อจื้อเปลี่ยนไป ตอนนี้ใบหน้าชราของเขาดูค่อนข้างอับอายเล็กน้อยหลิงอี้หรานพูดกับอี้จิ่นหลีว่า “จิน ไปกันเถอะ” หลิงกว๋อจื้อไม่เต็มใจที่จะปล่อยหลิงอี้หรานเดินจากไปแบบนี้ เขาอยากวิ่งเข้าไปจับลูกสาวคนโตไว้ ทว่าเพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหยุดเขาไว้ เขาจึงไม่มีทางเข้าใกล้หลิงอี้หรานได้เลยฟางซุ่ยเอ๋อเห็นแบบนี้ก็รีบพูดว่า “อี้หราน ถึงเธอ... ถึงเธอจะไม่อยากรู้จักพ่อเธอแล้ว แต่อย่างน้อยหาคนไปช่วยน้องสาวของเธอหน่อยสิ หวาลี่ฟางเป็นคนที่บอกให