“ทำใจดีๆ ไว้วาวา! ข้าจะรีบไปตามหมอหลวงทั่วทั้งวังมาดูอาการของเจ้า... รอข้า... เดี๋ยวข้ามา” รับสั่งพร้อมรีบผละออกจากร่างอรชรที่นั่งเอนหลังอยู่บนตั่ง พลางหันกลับไปกำชับนางกำนัลคนสนิทของหญิงสาว “มู่อิง! เจ้าคอยดูแลองค์หญิงให้ดี... เดี๋ยวข้ามา” รับสั่งด้วยความร้อนรน “พระองค์มิต้องทรงเป็นห่วง มู่อิงจะดูแลองค์หญิงให้ดีเพคะ” มู่อิงรีบตอบกลับไปอย่างรู้งาน รัชทายาทหนุ่มพยักพระพักตร์ขึ้นลงครั้นทรงได้ยินเช่นนั้นพร้อมลุกประทับรีบพระดำเนินออกจากพระตำหนัก แต่แล้วกลับต้องทรงหยุดชะงักเมื่อทอดพระเนตรองค์หญิงจากแคว้นเยว่ยังคงอยู่ “นี่เจ้ายังอยู่อย่างนั้นรึ! ข้านึกว่ากลับไปแล้วเสียอีก” รับสั่งถามด้วยความแปลกพระทัย “หม่อมฉันมาเยี่ยมองค์หญิงนะเพคะ ยังไม่ทันเข้าเยี่ยมเลยจะให้กลับไปได้อย่างไรกัน” รับสั่งตอบกลับไป “ถ้าเช่นนั้นรีบเยี่ยมก็รีบกลับไปเสียองค์หญิง วาวาของข้าจะได้พักผ่อน” สุรเสียงรับสั่งกำชับ “เพคะ” องค์หญิงแคว้นเยว่รับสั่งตอบกลับไปสั้นๆ ก่อนจะแสยะยิ้มเหยียดด้วยความสะพระทัยเมื่อได้ทอดพระเนตรองค์หญิงแคว้นฉู่มีสภาพเช่นนั้น ท่ามกลางสายพระเนตรของจอมมารชินซางที่กำลังทอดพระเนตรผ่านช่องลับอยู่ในขณ
ห้องพระบรรทม ร่างระหงนั่งอยู่บนตั่งที่ประทับ ภายในมือถือถ้วยชาค้างเอาไว้นั่งเหม่อลอยกำลังครุ่นคิดเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อชั่วยามก่อน ภาพเหตุการณ์ขององค์หญิงเยว่วาวาตัวจริงทำให้หญิงสาวเฝ้าครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา และทำให้เธอนึกถึงบทละครซึ่งสวมบทบาทเป็นตัวละครดังกล่าว “นางมารร้ายตำหนักบูรพา ที่อ้างอิงมาจากตำนานโบราณกล่าวถึงองค์หญิงเยว่วาวาของแคว้นเยว่ที่กลายเป็นนางมารเพราะฝึกวิชาของเผ่ามารเพื่อกลับมาแก้แค้นฮ่องเต้ที่ทำลายล้างราชวงศ์ แต่เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นองค์หญิงตัวจริงดันตายไปแล้ว เพราะถูกกลุ่มกบฏสังหารแล้วใครกลับมาแก้แค้นแทนหว่า” หญิงสาวพยายามทบทวนความทรงจำพลางใช้ความคิดอย่างหนัก “อีกอย่างทำไมฉันถึงได้เห็นภาพเหตุการณ์ในอดีตขององค์หญิงเยว่วาวาตัวจริงได้ด้วยนะ มันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเราหรือเปล่าที่เห็นภาพเหตุการณ์แปลกๆ ล่วงหน้าแบบนี้ ตกลงตำนานโบราณเชื่อถือไม่ได้แล้วล่ะสิ เพราะเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมันเป็นหนังคนละม้วนไปเลย” หญิงสาวรำพึงรำพันด้วยความสงสัยพลางครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา ทันใดนั้นเอง “ครืนนนน!!!” เสียงเคลื่อนตัวของห้องที่อยู่ด้านหลังเลื่อนออกพร้อมพระวรกายสูงใหญ่
ตำหนักพายัพตำหนักที่ประทับฟางหยางฮ่องเต้ ในยามนี้พระเนตรสีดำสนิทของโจวฟางหยางฮ่องเต้ ทรงทอดพระเนตรพระพักตร์งามขององค์หญิงจากแคว้นเยว่ ซึ่งมาขอเข้าเฝ้าพระองค์อย่างเร่งด่วน พร้อมนำสาสน์จากชินอ๋องที่ยกเลิกการแต่งงานกับพระนางมาร้องขอให้ฟางหยางฮ่องเต้ทรงจัดการให้ได้รับความยุติธรรมกลับคืน “องค์หญิงเยว่วาวา! ที่เจ้าขอเข้าเฝ้าเป็นการด่วนเพราะต้องการให้ข้ารีบจัดพิธีอภิเษกสมรสให้เจ้ากับชินอ๋องอย่างเร่งด่วน ทั้งๆ ที่อนุชาของข้าได้บอกแล้วว่าเจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นพระชายาเอก แต่เจ้ากลับหาญกล้ากระทำการฝืนใจชินอ๋อง เช่นนี้มิเกรงกลัวว่าจะถูกว่าที่พระสวามีของเจ้าลงโทษทัณฑ์ร้ายแรงอย่างนั้นรึ” ฟางหยางฮ่องเต้รับสั่งถามหยั่งเชิงออกไป ในยามนี่องค์หญิงจากแคว้นเยว่เต็มไปด้วยแรงเคียดแค้นและอารมณ์หึงหวงอย่างยิ่งยวด พระนางได้รับความอับอายอย่างถึงที่สุดเมื่อถูกองค์หญิงแคว้นฉู่กระทำการไม่ไว้หน้าพระนางเช่นนั้น อีกทั้งยังล่วงรู้ความลับสุดยอดที่ปกปิดมาโดยตลอด และคนที่ล่วงรู้ความลับทุกคนจะต้องตายเพื่อให้ความลับดังกล่าวตายไปพร้อมกับคนผู้นั้น และนางร้ายหน้าสวยจากอนาคต คือชีวิตที่พระนางต้องหาทางกำจัดให้เร็วที่
ตำหนักประจิม พระวรกายงามระหงขององค์หญิงจากแคว้นเยว่ก้าวเข้าตำหนักรับรองส่วนพระองค์ ทันทีที่พระบาทก้าวเข้าสู่พระตำหนัก สายพระเนตรพลันกระทบเข้ากับบรรดาข้าราชบริพารนับหลายสิบชีวิตที่ติดตามเสด็จมากับขบวนเจ้าสาวจากแคว้นเยว่ต่างพากันนั่งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ แต่ละคนนั่งก้มหน้ามองแต่พื้นหามีผู้ใดเงยหน้าขึ้นมาแม้แต่น้อย “นี่พวกเจ้าเป็นอะไรกัน!เหตุใดจึงมานั่งเรียงรายอยู่ด้านนอกตำหนักเช่นนี้” รับสั่งถามออกไปทันที ทว่าหามีผู้ใดเอื้อนเอ่ยถ้อยเจรจาออกมาแม้แต่เพียงครึ่งคำ พระนางกวาดสายพระเนตรไปทั่วบริเวณก่อนจะพบว่าทหารอารักขาที่ยืนรายล้อมรอบตำหนักประจิมอยู่ในขณะนี้ ล้วนติดผ้าชายธงซึ่งปักตราสัญลักษณ์ของชินอ๋องอยู่บนผืนผ้าผูกติดกับปลายทวนและปลายด้ามด้วยกันทั้งหมด ก่อนจะได้ยินเสียงของทหารระดับรองแม่ทัพเอ่ยขึ้นอยู่ทางด้านหลัง “ทูลเชิญองค์หญิงเสด็จเข้าไปประทับด้านในด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” รองแม่ทัพคนดังกล่าวกราบทูลพลางผายมือให้ร่างอรชรเดินเข้าไปด้านใน “พวกเจ้าล้วนเป็นทหารของชินอ๋องเหตุใดจึงมารายล้อมตำหนักของข้า”รับสั่งถามกลับไปด้วยความแปลกพระทัย “ทูลเชิญเสด็จเข้าไปประทับด้านในก็จะทรงทราบเองพ่ะย่ะค
พระตำหนักทรงงานฟางหยางฮ่องเต้“เสด็จพ่อนี่คือรายการสินสอดที่จะประทานให้วาวาของลูกพ่ะย่ะค่ะ ทรงตรวจสอบด้วยเถิดว่ายังมีสิ่งใดที่ตกหล่นอีกหรือไม่ ลูกจะได้รีบจัดหาให้ครบครัน” รัชทายาทรูปงามรับสั่งพร้อมยื่นรายการสินสอดให้พระราชบิดาทอดพระเนตรฟางหยางฮ่องเต้ทรงรับม้วนไม้ไผ่ที่บันทึกรายการสินสอดทั้งหมดเพื่อมอบให้องค์หญิงแคว้นฉู่จากพระโอรส พระพักตร์ส่ายไปมาเมื่อทอดพระเนตรความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับรัชทายาทของพระองค์“นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้ากระตือรือร้นจัดเตรียมงานอภิเษกทุกอย่างด้วยตัวเองเช่นนี้ แม้กระทั่งสินสอดที่จะต้องมอบให้กับว่าที่พระชายาเอกของเจ้า แสดงว่าองค์หญิงผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวเชียว” รับสั่งพร้อมเปล่งเสียงพระสรวลออกมาพระพักตร์คมคายที่แย้มยิ้มอยู่ตลอดเวลาพยักขึ้นลงเป็นการยอมรับในถ้อยรับสั่งดังกล่าว“เป็นความจริงดั่งรับสั่งของเสด็จพ่อทุกประการพ่ะย่ะค่ะ ไม่มีงานแต่งงานครั้งใดที่ลูกภูมิใจและอยากเร่งวันคืนให้มาถึงโดยเร็ววันเฉกเช่นครั้งนี้มาก่อน เพราะในที่สุดก็ได้พบสตรีที่พึงปรารถนาได้แล้ว... นางเพียบพร้อมทุกอย่าง โฉมสลักตราตรึงเหนือสตรีใดทั่วหล้า ถึงแม้ว่าในยามนี้รูปโฉมของนางอาจจะผิ
พระตำหนักบูรพาตำหนักที่ประทับชินอ๋องร่างงามระหงของเฉินวาวายืนเอามือไพล่หลังเหม่อมองไปที่ศาลากลางน้ำ ด้วยเพราะกำลังคิดถึงพี่ชายใจดีอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเธอสามารถสัมผัสกับความรู้สึกที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจบุรุษเจ้าของเกศาสีเงินได้เป็นอย่างดี จนทำให้หญิงสาวสงสารจนบอกไม่ถูก ในขณะเดียวกันคำสัญญาที่เธอให้ไว้เมื่อค่ำคืนวานทำให้เธอเฝ้ายืนครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวผุดขึ้นในความทรงจำขึ้นมาทันใด“สัญญาว่าจะไม่หนีจากข้าไป... สัญญาสิ” รับสั่งขอคำสัญญาจากหญิงสาวเฉินวาวาได้แต่ยืนนิ่งครั้นได้ยินเช่นนั้น ดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังมองเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกว่ากลัวที่จะเสียของที่ตนรักมากที่สุดในชีวิต หญิงสาวยื่นมือเรียวสวยออกไปข้างหน้าพร้อมชูนิ้วก้อยของเธอขึ้นมาทันที“เสี่ยววาวาสัญญาว่าจะไม่หนีจากท่านไปอย่างแน่นอน สัญญาของข้าคำไหนคำนั้น” เธอพูดพลางตรงเข้าเกี่ยวนิ้วก้อยพี่ชายใจดีทันใดในขณะที่จอมมารทรงเคยพบการให้สัญญาของเสี่ยววาวามาแล้วในงานเทศกาลลอยโคมประทีป ครั้นทรงถูกโฉมงามเกี่ยวก้อยเข้าไว้ด้วยกันเช่นนั้น พระหัตถ์หนากำเข้าหากันทันใดพร้อมหมุนวนนำหัวแม่นิ้วโป้งมาจรดเข
“หรือว่าชินอ๋องทรงล่วงรู้แล้วว่าองค์หญิงคือบุคคลเดียวกันกับที่กำลังค้นหาตัวอยู่ ก็เลยมัดมือชกจับองค์หญิงให้แต่งงานกับพระองค์ด้วยเสียเลย อาจเป็นไปได้นะพ่ะย่ะค่ะ” และนั่นทำให้นางมารร้ายจากยุคอนาคต ถลึงตาใส่คนสนิทของเธอทันทีพร้อมเอ็ดเสียงเขียวกลับไป “เจ้าพูดแต่ละอย่างให้มันมีความเป็นไปได้หน่อยจะได้ไหมลู่เหอ! มีเหตุผลอะไรที่อ๋องปีศาจผู้นั้นจับข้ามัดมือชกให้แต่งงานด้วยแบบนี้! บอกตรงๆ เลยนะข้าคิดว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว” เฉินวาวากล่าวพร้อมยกมือขึ้นเท้าคางพลางครุ่นคิดตาม แต่แล้วเพียงครู่ความคิดหนึ่งพลันแล่นขึ้นอยู่ในสมองทันที ในขณะที่ลู่เหอซึ่งกำลังนั่งนิ่งไปชั่วขณะเอ่ยทูลถามกลับมาทันใด “องค์หญิงทรงคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับที่สิ่งทรงอยากรู้ใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ” ลู่เหอเอ่ยคำถามที่ให้ผู้อื่นได้ฟังแล้วไม่เข้าใจออกไปด้วยเพราะนางกำนัลมู่อิงนั่งอยู่ด้วยนั่นเอง ใบหน้าที่สวมหน้ากากทองคำปิดบังเอาไว้ในขณะนี้พยักหน้าขึ้นลงครั้นได้ยินเช่นนั้น จังหวะที่ดวงตากลมโตเห็นขบวนสินสอดกำลังทยอยขนเข้ามาภายในพระตำหนักบูรพาอย่างไม่ขาดสาย ประกาศให้ล่วงรู้ว่าชินอ๋อง ผู้เป็นเจ้าบ่าวตั้งใจมอบสิ่ง
ท่ามกลางเหล่านางกำนัลจากกองงานพระภูษา ต่างช่วยกันเข็นชุดเจ้าสาวโบราณมาอย่างพร้อมเพรียงกันก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ “ชินอ๋องทรงให้นำชุดเจ้าสาวมาให้องค์หญิงเพคะ” นางกำนัลจากกองงานพระภูษากราบทูลรายงาน ในขณะที่ดวงตากลมโตของเฉินวาวาได้แต่ยืนมองอยู่เช่นนั้นนิ่งนาน ภาพความฝันที่เธอเคยเห็นปรากฏขึ้นมาทันที เมื่อเธอเห็นตัวเองสวมชุดเจ้าสาวเหมือนแบบนี้ทุกประการ นั่งคอยเจ้าบ่าวอยู่ในห้องหอ และบุรุษที่เข้ามาในห้องหอซึ่งนำพัดออกจากหน้าเธอก็คือชินอ๋องนั่นเอง “นี่ฉันฝันเห็นเหตุการณ์ในอนาคตล่วงหน้ามาก่อนแล้วหรือนี่! ความฝันกลับกลายเป็นจริง” หญิงสาวพูดพร้อมกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเอ่ยถามกลับไป “นี่เป็นชุดเจ้าสาวที่ข้าเคยสวมใส่มาก่อนหน้านี้แล้วมิใช่เหรอ” เธอถามกลับไปทันที บรรดานางกำนัลกองงานพระภูษาต่างหันกลับมามองหน้ากัน ครั้นได้ยินว่าที่พระชายาเอกของชินอ๋องรับสั่งออกมาเช่นนั้น “กราบทูลองค์หญิงนี่คือชุดเจ้าสาวที่ถูกตัดเย็บโดยช่างของวังหลวงจากกองงานพระภูษาเพคะ ชินอ๋องทรงมีพระบัญชาให้ทำการตัดเย็บเมื่อวันก่อนและจะต้องให้เสร็จภายในวันนี้สำหรับฉลองพระองค์เจ้าสาว ส่วนฉลองพระองค์อีกสี่ชุดที่เหลือ ทั่วทั้
พระราชวังจำลองพิธีอภิเษกสมรสในซีรีส์เรื่องดัง ถ่ายทำฉากกราบไหว้ฟ้าดินระหว่างนางมารร้ายตัวเอกของเรื่องและชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินวาวาด้วยความรู้สึกยากเกินจะบรรยายออกมาได้ ด้วยทุกอย่างตรงกับพิธีที่การทุกอย่างในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่โดยรอบ บรรดาข้าราชบริพารที่ยืนประจำจุดของตน รวมไปถึงตำแหน่งที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนเหมือนกันทุกอย่าง“อะ... อะไรกันนี่!” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวโบราณในพิธีเตรียมพร้อมเข้าฉากถึงกับยืนตะลึงไปโดยพลันในขณะที่อู๋ชิงเหยียนก็มีอาการไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ไม่คาดคิดว่าพิธีแต่งงานในยุคโบราณจะยิ่งใหญ่อลังการถึงขนาดนี้“โอ้โฮ! วาวาเธอนี่โคตรโชคดีเลยให้ตายสิ! ได้เข้าฉากแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ราวกับว่าเข้าไปมีชีวิตในซีรีส์เรื่องนี้เลยนะ” แม่ผู้จัดการสาวกล่าวออกมาตามความรู้สึก“ฉันเคยเข้าพิธีแบบนี้มาแล้วกับชินอ๋องแห่งเทียนโจว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ฉันจะได้เข้าพิธีแบบนี้อีก แตกต่างตรงที่คนที่ฉันจะเข้าพิธีในครั้งนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องของฉัน”
งานแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรเฉินวาวานั่งเงียบงันอยู่บนรถ SUV ของบริษัทฯ ซึ่งเธอเดินทางมาร่วมงานในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JCS GOLD MASTER ใบหน้างดงามลึกล้ำถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเฉิดฉายน่ามองชวนหลงใหลอย่างยิ่งยวด หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีแต่ความหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากแม่ผู้จัดการสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกลุ้มใจกับอาการของเพื่อนรัก“วาวา! ถึงงานแล้วไม่ลงเหรอ นั่งเหม่อมาตลอดทาง ไม่ใช่สิ นั่งเหม่อมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแบบนี้จะสองอาทิตย์แล้วนะ ถามจริงเถอะ! เมื่อไรอาการแบบนี้จะหายไปจากตัวแกเสียที” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อนรัก“ไม่หาย! ไม่มีใครรักษาฉันหายหรอกเหยียนเหยียน ป่วยกายรักษาด้วยยาหายได้ แต่ป่วยใจคนที่รักษาได้คือคนรักของฉันเท่านั้น มีเพียงท่านอ๋องคนเดียวที่ทำได้” กล่าวพร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที“แปะ!” น้ำตาร่วงหล่นลงมาทันใด“อั้ยยะ! อย่าร้องนะ! อย่าร้อง... ห้ามร้องเด็ดขาดเลย จะต้องเข้าไปในงาน
มณฑลเสฉวน ณ โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องคนไข้พิเศษพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารชินซางยังคงอยู่ในห้วงญาณหลับใหลมาโดยตลอด พระพักตร์หล่อเหลาตราตรึงรัญจวนจิต รับกับขนตางามงอนเป็นแพยาวสวย พระนาสิกโด่งสันสวยขึ้นเป็นสันคม ภายใต้เกศาสีเงินยาวสยายเต็มหมอนที่กำลังถูกนางพยาบาลใช้แปรงหวีพระเกศาสีเงินยาวสยายอย่างเบามือ“ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีกเลยเนอะ พระเอกบางคนยังหล่อสู้ไม่ได้เลย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงมีเส้นผมสีบลอนด์เงินแบบนี้ สีเงินสม่ำเสมอไม่ใช่สีขาวเพราะผมหงอกก่อนวัยด้วย แถมสูงเกือบสองเมตร หุ่นก็ดี๊ดี... กล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วนเลย เช็ดตัวให้ทีไรมีความสุขจริงๆ เลยนะเธอ” นางพยาบาลสองคนที่ช่วยกันดูแลคนไข้ปริศนา ต่างคุยกันอยู่ใกล้เตียงด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่งยวดตั้งแต่จอมมารถูกช่วยขึ้นจากน้ำตกในอุทยานแห่งชาติที่เดียวกันกับเฉินวาวา หากแต่พบพระองค์ห่างไกลออกไปนอนหมดสติอยู่ทางต้นน้ำ หลังจากนั้นได้ถูกช่วยจากเจ้าหน้าที่อุทยานนำส่งโรงพยาบาลเฉิงตู หลังพระชายาเข้าทำการรักษาไปแล้วหนึ่งวัน นับ
ร่างระหงตรงดิ่งเข้าสวมกอดนางพยาบาลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ในขณะที่อีกฝ่าย อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนางร้ายหน้าสวยจึงรู้จักชื่อของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“คุณเฉินวาวารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ” นางพยาบาลที่เหมือนมู่อิงราวเป็นคนเดียวกันถามทำลายความเงียบหญิงสาวที่กำลังสวมกอดด้วยความดีใจ ยิ้มกว้างพร้อมหยาดน้ำตาก่อนจะปล่อยร่างนั้นออกจากอ้อมกอดของเธอเพื่อสำรวจใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ครั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนมู่อิงในยุคอดีตทำให้เฉินวาวายิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้นไปกว่าเดิม“ขอโทษด้วยคะ พอดีคุณเหมือนกับคนที่ฉันรู้จักมากๆ เธอมีชื่อและหน้าตาเหมือนกับคุณพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน ก็เลยทำให้นึกถึงและคิดถึงมากด้วย”หญิงสาวตอบพลางส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาทันทีนางพยาบาลสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับมือเรียวสวยของนางร้ายที่เธอชื่นชอบ พร้อมเอ่ยปลอบโยน“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคนที่คุณรู้จักถ้ารู้ว่าร้องไห้เพราะคิดถึงแบบนี้จะไม่สบายใจเอาได้ ร้องไห้มากตาบวมเดี๋ยวไม่สวยนะคะ”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีเม
ยุคอนาคตมณฑลเสฉวน ณ.โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องพิเศษบัดนี้ร่างงามระหงของเฉินวาวา กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาล หญิงสาวได้กลับคืนสู่ยุคอนาคต และยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เธอหลับใหลตั้งแต่อยู่ในอดีตกาลจนกระทั่งกลับมาสู่อนาคตอย่างไม่คาดฝันร่างของเธอถูกพบอยู่บริเวณน้ำตกในอุทยานแห่งชาติในชุดเกราะและสวมหน้ากากทองคำอยู่ด้วยในขณะนั้น แผลจากคมธนูที่ถูกฮ่องเต้แคว้นเยว่ยิงปักถูกร่างนั้น ถูกเย็บและได้รับรักษาเป็นอย่างดีจากแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่การพบนางร้ายหน้าสวยเฉินวาวาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหญิงสาวหายสาบสูญไปนานกว่าหนึ่งเดือน อันเป็นระยะเวลาของโลกอนาคตที่ดำเนินอยู่ ซึ่งแตกต่างจากยุคอดีตที่จากมากาลเวลาในยุคอดีตผ่านไปแล้วหนึ่งปีในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนักข่าวต่างรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น เมื่อข่าวการค้นพบของเฉินวาวา นางร้ายหน้าสว
ฉับพลันสุรเสียงของจอมมารชินซางดังกระหึ่มท่ามกลางทะเลเพลิง“มันผู้ใดหาญกล้าแตะต้องราชินีของข้า!” สุรเสียงของจอมมารดังกึกก้อง พร้อมพระวรกายค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงทิวเขาต่อหน้ากองทัพของทั้งสามแคว้นท่ามกลางสายตาของมนุษย์ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนของสองฝั่งแม่น้ำ ต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษสวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินปลิวยายสยาย ในขณะที่รองแม่ทัพซึ่งล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อเห็นชินอ๋องทรงฟื้นขึ้นดั่งเดิมและปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางทะเลเพลิงอยู่ในขณะนี้“ชินอ๋องทรงฟื้นแล้ว! พระองค์ช่วยพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้กำลังจะจับพระชายาถ่วงน้ำ!” รองแม่ทัพตะโกนแทรกออกไปทันทีและนั่นทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้ถึงกับชะงักงันเมื่อบุรุษสูงใหญ่ตรงพระพักตร์แท้จริงแล้วคือชินอ๋องผู้วายชนม์ไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อนแต่บัดนี้กลับมาปรากฏพระวรกายด้วยร่างที่ยังคงรูปมิเน่าเปื่อยแต่อย่างใด“เป็นไปไม่ได้! คนตายแล้วฟื้นคืนกลับมาอย่างนั้นรึ!” รับสั่งรำพึงรำพันในขณะเดียวกันพระวรกายสูงใหญ่ทะ
ในขณะเดียวกันตำหนักลับทันทีที่เฉินวาวาราชินีปีศาจของจอมมาร ปลดปล่อยไอปีศาจจนทำลายแคว้นเยว่พินาศวอดวาย พระวรกายของจอมมารที่ตกอยู่ในห้วงญาณแห่งการหลับใหลมีความรู้สึกขึ้นมาโดยพลัน“ตึก ตึก ตึก” พระวรกายใหญ่เริ่มกระตุกติดต่อกันอย่างไม่รู้สาเหตุแรงกระตุกดังกล่าวราวกับทรงสัมผัสได้ว่าราชินีของพระองค์ตกอยู่ในห้วงอันตราย และทันทีที่ร่างระหงล้มลงหมดสติจอมมารชินซางก็ทรงตื่นจากห้วงญาณแห่งการหลับใหลขึ้นมาทันที“พรึ่บ!” เปลือกพระเนตรเปิดขึ้นทันใดพระเนตรสีเลือดวาววับขึ้นมาทันที พระวรกายใหญ่ลุกพรวดพราดจากฟูกบรรทมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“วาเอ๋อร์! วาเอ๋อร์ของข้า!” รับสั่งเพรียกหาพระชายาพระวรกายใหญ่ลุกจากแท่นพระบรรทมโดยพลัน ก่อนจะซวนเซไปมาเมื่อพระองค์หลับใหลไปนานเกือบสามเดือนแต่ต้องตื่นก่อนกำหนดเพราะความรักที่ทั้งสองมอบให้แก่กันสื่อสัมผัสให้จอมมารชินซางออกจากญาณหลับใหลก่อนกำหนดที่ควรจะเป็น ทำให้การรวบรวมพลังเวทและตบะขั้นที่แปดหวนคืนกลับมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นบัดนี้พระเนตรสีเล
แคว้นเยว่เมืองหลวงมี่โจแผนผังวางระเบิดตามจุดถูกกางออกอยู่ตรงหน้านางร้ายจากยุคอนาคตในขณะนี้ หญิงสาวนั่งอยู่บนหลังม้ามองตรงไปจากเนินเขาสูง เบื้องล่างคือเมืองหลวงแคว้นเยว่ นามว่ามี่โจเป็นเมืองที่มีอาณาเขตกว้างขวาง แต่มีสิ่งปลูกสร้างไม่แออัดหรือสร้างติดต่อกัน ด้วยเป็นเมืองที่เพิ่งจะผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเดิมถูกเผาทำลายเมืองครั้งผลัดเปลี่ยนราชวงศ์และการแย่งชิงความเป็นใหญ่ดังกล่าวจึงทำให้แคว้นเยว่มิได้เจริญเติบโตเท่าที่ควรจะเป็น เจ้าผู้ครองแคว้นฝักใฝ่ในการทำสงครามโดยมิประมาณตนว่ากองทัพมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด พื้นที่กว้างใหญ่แต่ไม่มีบุรุษลงมือทำการเกษตรเพราะถูกเกณฑ์เข้ากองทัพเพื่อไปรบทำสงครามจนหมด“จุดชนวนแล้วระเบิดกำแพงเมืองที่โอบล้อมให้พังทลายลงทั้งหมด ระเบิดคลังแสงของทหาร ตัดกำลังอาวุธ ระเบิดพระราชวังหลวงเพื่อข่มขวัญฮ่องเต้แคว้นเยว่ ระเบิดวังหลวงให้หมดทุกตำหนักและทุกที่ สุดท้ายระเบิดคลังเสบียงแล้วนำไปแจกจ่ายให้กับชาวเมือง หลังจากนั้นสายน้ำดำที่ฝังอยู่นอกตัวเมืองทุกจุด ให้ระเบิดขึ้นพร้อมก
แคว้นเยว่ ในขณะเดียวกันท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงดั่งขุนเขาต่อหน้ากองทหารของราชินีปีศาจ และกองทหารแคว้นเยว่ที่ควบคุมตัวเฉินวาวาเอาไว้ตั้งแต่คราแรก หากแต่ในเวลานี้ต่างยอมจำนนกันหมดสิ้นทุกสายตาต่างยืนมองทะเลเพลิงเบื้องหน้าอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าม้าคล้ายกองกำลังทหารกลุ่มใหญ่วิ่งมาหยุดอยู่ด้านหลัง พร้อมกำลังทหารกระจายล้อมรอบไปทั่วบริเวณ“อะไรกันนี่! แคว้นเยว่ถูกทำลา