"ภาคินจะไปหาลูกเหรอ" ภาคินหยุดชะงักเมื่อเสียงของมารดาดังขึ้นขณะกำลังจะเดินผ่านห้องโถง เท้าใหญ่เปลี่ยนทิศทางก้าวตรงไปนั่งลงข้างมารดาแทน "ใช่ครับ" "พาสองแฝดมาเล่นกับแม่บ้างนะ หากลูกไม่พามาแม่จะไปหาที่บ้านเอง" คุณหญิงทิพาวดีพยักหน้ารับ ก่อนพูดต่อพร้อมกับระบายยิ้มบางๆ เมื่อนึกถึงความน่ารักของเด็กน้อยสองคนเธอรู้สึกดีใจมากเมื่อรู้ว่าทั้งสองเป็นหลานของเธอจริงๆ "ครับ แต่ดูถ้าแม่เขาจะไม่ยอมง่ายๆ ครับ พอเห็นหน้าผมก็ตั้งท่าไล่ตะเพิดอย่างเดียวเลย" ร่างสูงเอ่ยอย่างปลงๆ จนคนเป็นแม่ต้องตบไหล่เบาๆ เชิงให้กำลังใจ "ลูกก็พยายามเข้าอย่าท้อ ลูกต้องเข้าใจนะว่าตัวเองทำอะไรกับหนูเอวาไว้บ้างจะให้เธอให้อภัยลูกในเวลาอันรวดเร็วมันก็ไม่ได้ต้องให้เวลาเธอหน่อย พิสูจน์ให้เธอเห็นว่าจริงๆ แล้วลูกไม่ใช่คนเลวโดยเนื้อแท้ที่ทำไปเป็นเพราะความแค้นบดบังตาบดบังใจ""ผมไม่ยอมแพ้หรอกครับม๊า เอวาเป็นคนจิตใจดี อ่อนโยนผมเชื่อว่าสักวันเธอจะต้องใจอ่อนยอมให้อภัยผม" ใบหน้าหล่อเหลาดูมีความสุขขึ้นเมื่อพูดถึงแม่ของลูก ตอนแรกเขาก็แค่อยากจะทำดีไถ่โทษหญิงสาวเพื่อไม่ให้ตัวเองจมกับความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ทว่าตอนนี้ดูเหมือนความคิด ความรู้สึก
ภาคินใช้ความคิดนานนับนาทีก่อนยกยิ้มออกมาเมื่อคิดได้ว่าจะทำยังไงให้สองแฝดเรียกเขาว่าพ่อดวงตาคมกริบสอดส่องมองหาแม่ของสองแฝดทั่วรอบบ้านเมื่อไม่เห็นร่างบางจึงหันกลับมาถามสองแฝดเพื่อความั่นใจว่าเธอจะไม่ออกมาขัดจังหวะตอนเข้าพูดกับเด็กๆ "มามี๊ไปไหนครับ""มามี๊ตากผ้าอยู่หลังบ้านครับ" "ครับ" สิ้นเสียงอลันร่างสูงก็กระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนนั่งลงบนโซฟาวางถุงของเล่นไว้ข้างตัวแล้วเริ่มทำตามแผน "อยากได้ของเล่นในถุงทั้งหมดไหมครับ""อยากได้ครับ"" อยากได้ค่ะ" อลัน อลินดาตอบด้วยความตื่นเต้นมองถุงของเล่นตาเป็นมันและนั่นยิ่งเข้าทางคนเป็นพ่อ มือหนาล้วงไปหยิบหุ่นยนต์กับตุ๊กตาบลายธ์ในถุงออกมายั่วสองแฝด แล้วโน้มใบหน้าไปพูดใกล้ๆ ทั้งสอง "งั้นต้องเรียกลุงว่าแด๊ดดี๊ก่อน แล้วของเล่นในถุงทั้งหมดจะเป็นของอลันกับอลินดา และวันหลังลุงจะพาออกไปเที่ยวด้วยนะ""อื้มมมมม" สองแฝดยกมือขึ้นเคาะคางตัวเองเบาๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างใช้ความคิด ก่อนอลินดาจะตอบเสียงเจื้อยแจ้วเพราะของเล่นล่อตาล่อใจเธอเหลือเกิน "เรียกก็ได้ค่ะ แด๊ดดี๊" ร่างสูงยกยิ้มอย่างพึงพอใจยื่นมือไปลูบศีรษะเล็กทุยของบุตรสาวด้วยความเอ็นดูคงมีแต่อลันที่ยังนั่งคิดหนั
หลังจากอาหารถูกนำมาวางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้วสี่คนพ่อแม่ลูกก็ลงมือทานอาหารกันโดยภาคินให้บุตรชายนั่งข้างตนส่วนอลินดาก็นั่งข้างมารดาฝั่งตรงข้าม บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างราบรื่นมีเสียงของสองแฝดดังขึ้นเป็นระยะๆเอวาลอบปรายตามองร่างสูงตรงหน้าที่กำลังแกะเนื้อปลาให้ลูกอย่างตั้งอกตั้งใจด้วยแววตายากเกินคาดเดาได้ในตอนนี้เขาช่างดูอ่อนโยนและอบอุ่นผิดจากตอนนั้นมาก หากไม่ติดว่าเขาเคยทำเลวมาก่อนเขาคงเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่งดูแลเอาใจใส่ลูกดีเลยทีเดียว เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเพอร์เฟ็กทุกอย่างหากเขาไม่ทำเลวกับเธอบางทีเธออาจจะตกหลุมรักไปแล้วก็ได้ หากความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาเกิดขึ้นด้วยความรู้สึกดีๆ ในตอนนี้คงเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขที่สุดดวงตากลมโตรีบกลุบลงมองจานข้าวเมื่ออีกคนแกะปลาให้ลูกเสร็จแล้ว ก่อนตักข้าวเข้าปากทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภาคินระบายยิ้มน้อยๆ มองคนที่ก้มหน้าก้มตาทางข้าวนิ่งๆ นานนับนาทีแล้วเลื่อนสายตามองลูกสองคนต่อเขายอมรับเลยว่าตอนนี้รู้สึกมีความสุขไม่น้อยแต่มันจะดีกว่านี้หากแม่ของสองแฝดยอมให้อภัยและยอมสร้างครอบครัวกับเขา"แด๊ดดี๊ครับกินข้าวเสร็จไปเล่นรถบังคับกับอลันนะครับ" เสี
วันต่อมา@โรงพยาบาลเอวาพาลูกๆ มาเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลแต่เช้าตรู่หลีกเลี่ยงการพบเจอกับพ่อของสองแฝดเธอต้องการอยู่กับตัวเองโดยไม่มีเขาเข้ามาวุ่นวายเพื่อคิดไตร่ตรองเรื่องเมื่อวานว่าควรจะทำอย่างไรดี"เป็นอะไรลูกมีเรื่องหนักใจเหรอ หน้าเครียดเชียว" เสียงของมารดาทำให้เอวาที่นั่งคิดไม่ตกเรื่องพ่อสองแฝดอยู่บนโซฟาหลุดออกจากห้วงความคิด เธอลอบถอนหายใจเบาๆ มองหน้ามารดาอย่างชั่งใจว่าจะปรึกษาท่านดีหรือไม่เพราะเธอนอนคิดนั่งคิดตั้งแต่เมื่อคืนแล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้สักที ใจหนึ่งก็อยากจะบอกลูกๆ ว่าชายหนุ่มคือพ่อแท้ๆ ของพวกเขาและยอมให้ชายหนุ่มทำหน้าที่พ่อแต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกกังวลกลัวว่าเขาจะแยกลูกๆ ออกจากตัวเองเด็กๆ ก็ดูจะชอบเขามากเสียด้วยลมหายใจหนักๆ ถูกพ่นออกจากจมูกโด่งครั้งแล้วครั้งเล่าระคนหนักอกก่อนเธอจะตัดสินลุกเดินไปยืนข้างๆ เตียงมารดาแล้วพูดขึ้น "หนูขอถามความคิดเห็นแม่หน่อยนะคะ หากพ่อของลูกๆ กลับมาทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อและยอมรับผิดชอบทุกอย่างเป็นแม่ แม่จะทำยังไงคะ" "ถ้าเป็นแม่เหรอ" ดวงเดือนทำหน้าครุ่นคิดนานเกือบห้านาทีก่อนเปล่งเสียงตอบ "หากพ่อของลูกดีและดูรักลูกๆ มากแม่ก็จะยอมนะเพราะมันไม่ได้
'บรืน บรืน' เสียงรถหรูบีเอ็มดับเบิลยูคันสีดำขลับเคลื่อนตัวมาจอดลงยังหน้าบ้านของเอวาในช่วงเช้าของวันใหม่ ก่อนจะเผยให้เห็นร่างสูงโปร่งของภาคินในชุดกางเกงยีนส์สีดำเสื้อยืดสีกรมสวมรองเท้าผ้าใบสีดำดูทะมัดทะแม้งเปิดประตูลงมาจากรถเดินไปกดกริ่งหน้ารั้ว วันนี้เขาจะพาสามคนแม่ลูกไปเที่ยวเลยเลือกแต่งตัวแบบธรรมดาไม่ใช่ชุดสูทเป็นทางการเหมือนเช่นทุกวันเสียงกริ่งหน้ารั้วทำให้คุณแม่ลูกสองที่กำลังจะพาลูกไปอาบน้ำหยุดชะงัก คิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมระคนสงสัยว่าใครกันที่มาบ้านเธอตั้งแต่เช้าตรู่"อลัน อลินรอแป๊บนะคะ มามี๊ไปดูก่อนว่าใครมา" เสียงหวานเอ่ยบอกกับลูกๆ ก่อนเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนสายเดี่ยวแล้วเดินออกไปยังหน้าบ้าน เท้าเล็กหยุดชะงักอัตโนมัติเมื่อเห็นร่างสูงหน้ารั้วดวงตากลมโตกลมมองสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองผ่านๆ พลางใช้มือมัดเชือกเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นแล้วก้าวเท้าเดินต่อ"คุณมาทำไมแต่เช้าเนี่ย" ดวงตากลมโตมองค้อนคนนอกรั้วอย่างไม่ชอบใจขณะใช้มือไขกุญแจรั้วไปด้วย ร่างสูงไม่ได้สนใจเสียงบ่นสักนิดตอนนี้สายตาและจิตใจจดจ่ออยู่กับอย่างอื่นมากกว่า เขาลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ คงลำคออึกใหญ่เมื่อสายตาดันเผลอมอ
@สวนสนุกรถหรูบีเอ็มดับเบิลยูที่มีสี่คนพ่อแม่ลูกนั่งอยู่ด้านในเคลื่อนตัวมาจอดลงยังสวนสนุกเด็กใจกลางเมืองกรุง"อลัน อลินเลิกเล่นได้แล้วค่ะถึงแล้ว" เอวาหันไปบอกกับสองแฝดที่นั่งเล่นกันอยู่เบาะหลัง ส่วนเธอนั้นนั่งด้านหน้าเบาะข้างชายหนุ่ม สิ้นเสียงพูดดวงตากลมโตด็ตวัดกลับมามองร่างสูงข้างๆ ด้วยความไม่พอใจ เธอไม่เต็มใจมาด้วยเลยสักนิดแต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับเสียงรบเร้าและออดอ้อนของสองแฝด"ทำหน้าให้มันดีหน่อยสิคุณ" ภาคินมองสบดวงตากลมโตพร้อมฉีกยิ้มกว้าง มือหนาเอื้อมไปบีบพวงแก้มนวลของคนที่ทำหน้าบึ้งตึงมองเขาเขม็งด้วยความมันเขี้ยวยิ่งทำให้อีกคนโกรธเข้าไปอีกเพี๊ยะ!"อย่ามาทำรุ่มร่าม" เสียงหวานแว้ดใส่เจ้าของมือหนาดังลั่น มือเรียวตีลงบนแขนแกร่งสุดแรงทำเอาคนคนโดนตีร้องโอดโอยด้วยความเจ็บรีบหดมือกลับอย่างเร็ว "ผมเจ็บนะ ตัวก็เล็กตีเจ็บชะมัด" "สมน้ำหน้าใครใช้ให้คุณมาทำรุ่มร่ามกับฉัน" ร่างบางยิ้มเยาะออกมาอย่างสะใจก่อนเบะปากใส่แล้วรีบเปิดประตูลงจากรถไม่เปิดโอกาสให้ร่างสูงได้ตอบกลับ"แสบเหมือนกันแฮะแม่เจ้าแฝด" ร่างสูงยกยิ้มมุมปากมองตามร่างบางที่ก้าวลงจากรถด้วยแววตาทอประกายยิ่งได้ใกล้ชิดได้เห็นเธอในมุมต่าง
ผ่านไปสามชั่วโมงที่สองแฝดลากพ่อกับแม่ขึ้นเล่นเครื่องเล่นนู้นลงเครื่องเล่นนี้จนหนำใจจึงพากันมานั่งพักบนเก้าอี้ใต้ร่มไม้"วันนี้อลินสนุกและมีความสุขมากเลยค่ะ" "อลันก็สนุกมากเลยครับ วันหลังแด๊ดดี๊กับมามี๊พาอลันกับน้องมาเที่ยวอีกนะครับ" อลันกับอลินดาที่นั่งระหว่างกลางพ่อแม่เอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมฉีกยิ้มจนตายีวันนี้ทั้งสองมีความสุขมากจริงๆ ส่วนเอวาก็พลอยสนุกและมีความสุขไปด้วยทำให้ลืมเรื่องน่าอายไปเสียสนิท ทว่าพออยู่นิ่งๆ เรื่องน่าอายนั้นกลับย้อนเข้ามาในสมองอีกครั้งยิ่งเผลอสบสายตากับร่างสูงที่กำลังนั่งเธออยู่ใจดวงน้อยก็พานเต้นแรงขึ้นมาดื้อๆ ใบหน้าสวยคมเริ่มแดงระเรื่อด้วยความอายบ้าจริงเธอไม่ชอบอาการแบบนี้เลย"อลัน อลินหิวน้ำไหมคะเดี๋ยวมามี๊ไปซื้อให้" เสียงหวานเปล่งถามสองแฝดเพื่อเป็นข้ออ้างในการปลีกตัวออกไปก่อนเธอจะเก็บอาการไว้ไม่ไหวจนอีกคนจับได้"หิวครับ หิวค่ะ" สิ้นเสียงตอบสองแฝดร่างบางก็หยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วส่าวเดินตรงไปร้านขายน้ำทันที เธอใช้เวลาซื้อน้ำเพียงห้านาที แต่ยืนดึงสติตัวเองนานเกือบสิบนาทีจึงกลับไปหาสามคนพ่อลูกหลังจากจัดการกับความรู้สึกของตัวเองเสร็จตุ้บ!"ว้าย!" เสียงหวานร้องอ
@บ้านวิโรจน์อัครโชติ"ว้าว" สองแฝดตาลุกวาวร้องวาวด้วยความตื่นเต้นเมื่อรถหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่โตโออาบนเนื้อที่กว่าหนึ่งร้อยไร่ "นี้บ้านแด๊ดดี๊เหรอคะหลังใหญ่มากเลยค่ะ ใหญ่กว่าบ้านคุณตาที่นอร์เวย์อีกค่ะ" อลินดาลุกขึ้นยืนเกาะเบาะชะโงกหน้าไปถามบิดาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว "ใช่ครับ อลินชอบไหม" ภาคินเอียงตัวพูดกับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มพร้อมระบายยิ้มบางๆ "ชอบค่ะอลินชอบบ้านหลังใหญ่ อลินกับพี่อลันจะได้วิ่งเล่นกันค่ะ" อลินยิ้มตอบตายีจนคนเป็นพ่อต้องยกมือขึ้นยี้ผมด้วยความเอ็นดู"งั้นชวนมามี๊มาอยู่ที่นี่กับแด๊ดดี๊สิครับ" เสียงทุ้มเอ่ยกับบุตรสาวแต่ดวงตาคมกริบกลับจับจ้องร่างบางข้างๆ คนถูกกล่าวถึงหันมาค้อนควับกัดฟันพูดด้วยความไม่พอใจ "เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ทำไมฉันต้องมาอยู่กับคุณด้วย เลิกใช้ลูกเป็นตัวช่วยเลยนะ" "อลันกับอลินลงไปก่อนนะครับ แด๊ดดี๊ขอคุยธุระกับมามี๊แป๊ป" ร่างสูงไม่ได้ตอบโต้กลับหันไปเอ่ยกับลูกๆ แทนเพราะเขาต้องการคุยกับหญิงสาวให้ชัดเจนสักทีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ"ครับ ค่ะ" สองแฝดพยักหน้ารับน้อยๆ แล้วเปิดประตูลงจากรถ หลังจากลูกๆ ลงไปภายในรถก็ถูกปกคลุ
5 ปีต่อมาวันเวลาหมุนเวียนดำเนินไปเรื่อย ๆ นี่ก็ผ่านมาห้าปีแล้วที่เอวากับภาคินได้สร้างครอบครัวด้วยกัน ทั้งสองคนได้ตกลงแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสามปีก่อนมีลูกเป็นโซ่ผูกใจด้วยกันสามคนก็คืออลัน อลินดา อคิน และยังมีบุตรสาวบุตรธรรมอีกหนึ่งคนชื่อพะพายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอคินบุตรชายคนสุดท้อง"มามี๊ แด๊ดดี๊พี่อลันแกล้งพะพายอีกแล้วครับ" เสียงของอคินเด็กน้อยวัยสี่ขวบเศษ ๆ หน้าตาหล่อเหลาตั้งแต่เด็กวิ่งเข้ามาฟ้องบิดากับมารดาที่นั่งอยู่ในบ้านเสียงดั่งลั่น ภาคินกับเอวาที่กำลังนั่งคุยกันถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนลุกเดินตามบุตรชายคนเล็กออกไปยังลานหน้าบ้าน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกชายคนโตอย่างอลันทะเลาะกับลูกบุตรธรรมแต่มันเกิดขึ้นตลอดตั้งแต่พวกเขารับพะพายเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดู "พะพาย! ยัยตัวแสบกล้าทำฉันเลือดออกเหรอห๊ะ""พะพายไม่ได้ตั้งใจนะ ก็พี่อลันแกล้งพะพายก่อน""ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่ใช่พี่เธอ" เสียงของอลันกับพะพายที่กำลังทะเลาะกันดังแว่วมาทำให้ภาคินต้องรีบเดินเข้าไปห้ามศึก "ทะเลาะอะไรกันอลัน พะพาย" อลันกับพะพายเงียบปากลงทันทีมองหน้าผู้เป็นบิดาตาปริบ ๆ ภาคิน
วันต่อมา"แด๊ดดี๊ มามี๊ๆ" เสียงร้องตะโกนของสองแฝดที่ดังอยู่หน้าห้องปลุกให้คนเป็นพ่อแม่อย่างเอวากับภาคินที่กำลังนอนกอดกันอยู่ภายในห้องรู้สึกตัวตื่น"คุณนอนต่อเถอะผมไปเปิดประตูให้ลูกเอง" ภาคินยกมือขึ้นรั้งไหล่เมียสาวที่กำลังจะลุกให้นอนลงเหมือนเดิมเพราะอยากให้เธอพักผ่อนเมื่อคืนเขาเล่นต่อแขนต่อขาให้ลูกจนเธอแทบหมดแรง ก่อนเขาจะลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้ลูกแทน"กู๊ดมอร์นิ่งค่ะแด๊ดดี๊" อลินดาเอ่ยทักทายเสียงใสพร้อมฉีกยิ้มจนตายีทันทีที่บิดาเปิดประตูออกมา"มอร์นิ่งคิดส์ครับคนสวย" ภาคินย่อตัวลงหอมแก้มซ้ายแก้มขวาของบุตรสาวฟอดใหญ่แล้วหอมแก้มบุตรชายต่อ "มอร์นิ่งคิดส์ครับคนหล่อ""มอร์นิ่งครับแด๊ดดี๊" อลันยิ้มตอบบิดาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในห้อง"ทำไมไม่นอนต่อ" ใบหน้าหล่อเหลาเลิ่กคิ้วขึ้นถามเมื่อเห็นว่าร่างบางนั่งพิงหัวเตียงอยู่"นอนไม่หลับแล้ว" เอวาระบายยิ้มตอบชายหนุ่มแล้วหันไปถามไถ่สองแฝดต่อ "เมื่อคืนนอนกับคุณปู่ คุณย่าเป็นไงบ้างคะ""สบายมากครับ สบายมากค่ะ" สองแฝดตอบเสียงเจื้อยแจ้วก่อนอลินดาจะกระโดดขึ้นเตียงไปนั่งทับหน้าขามารดาที่นั่งยืดขายาวเหยียด การกระทำของบุตรสาวสร้างความ
"ว๊าย!""ภาคินปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ" เอวาร้องท้วงเสียงดังลั่นเมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มก็เดินอ้อมมาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวขณะที่เธอกำลังลงจากรถหลังจากรถมาจอดลงหน้าบ้านวิโรจน์อัครโชติแล้ว"ปล่อยแน่...แต่หลังจากต่อแขนต่อขาให้ลูกแล้วนะ" ภาคินตอบหน้าระรื่นไม่ได้สนใจเสียงโวยวายของคนในวงแขนสักนิดอุ้มเธอเดินดุ้ม ๆ เข้าบ้าน "ฉันท้องอยู่นะ คุณคงจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ ไม่ได้" คนฟังถึงกับอ้าปากเหวอเมื่อได้ยินคำพูดจากริมฝีปากหนาทำได้เพียงส่งเสียงร้องท้วงไม่กล้าดิ้นหรือขัดขืนอะไรยกมือขึ้นคล้องคอร่างสูงไว้แน่นเพราะกลัวตกตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วร่างบางถูกภาคินอุ้มมาวางบนเตียงอย่างแผ่วเบาก่อนเขาจะตามขึ้นไปคร่อมเธอเอาไว้จับจ้องใบหน้าคมที่ห่างกันเพียงคืบด้วยแววตาหวานเยิ้ม "ผมรักคุณนะ"เอวาระบายยิ้มหวานให้คนด้านบนมองสบแววตาหวานเยิ้มด้วยแววตาอ่อนโยนยกมือขึ้นประคองใบหน้าหล่อเหลาพร้อมเอื้อนเอ่ยความรู้สึกในใจออกมา "ตอนนี้ฉันยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองรักคุณแล้วหรือเปล่า แต่ฉันมีความสุขและรู้สึกอบอุ่นที่มีคุณอยู่ใกล้ ๆ ฉันเชื่อว่าสักวันคุณจะทำให้ฉันกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าฉันรักคุณ ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้ทำ
วันเวลาหมุนเวียนมาจนถึงวันงานประมูลเครื่องเพชร รถลีมูซีนคันหรูที่มีสองหนุ่มสาวนั่งอยู่เบาะหลังเคลื่อนตัวมาจอดลงยังหน้าโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองกรุงซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประมูลเครื่องเพชรร่างสูงในชุดสูทสีเทาเข้มเข้ารูปเปิดประตูลงจากรถด้วยท่าทางสง่าผ่าเผยก่อนเดินอ้อมไปเปิดประตูรถอีกฝั่ง"ขอบคุณค่ะ" เอวาในชุดเดรสเปิดไหล่แขนพองสีเทาอ่อนยาวเสมอเข่าผ่าข้างเล็กน้อยโชว์เรียวขาขาวเนียนเรียบหรูดูดีก้าวลงจากรถพร้อมระบายยิ้มหวานให้ชายหนุ่มเชิงขอบคุณ "พร้อมไหม" ชายหนุ่มระบายยิ้มบาง ๆ พร้อมยกแขนขึ้นให้อีกคนคล้อง มือเรียวสอดเข้ามาคล้องแขนแกร่งอย่างว่าง่ายพยักหน้าแทนคำตอบว่าเธอพร้อมแล้วจากนั้นทั้งสองก็เดินควงคู่เข้าไปในงานทันทีที่ภาคินกับเอวาย่างกรายเข้ามาในงานทุกสายตาก็มองมายังทั้งสอง ก่อนเสียงซุบซิบจะเริ่มดังขึ้นทุกคนต่างให้ความสนใจกับผู้หญิงหน้าตาสะสวยข้างกายนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังเพราะเขาไม่เคยควงผู้หญิงออกงานเลยสักครั้ง กล้องจากนักข่าวหลายสำนักก็กดชัตเตอร์รูปของสองหนุ่มสาวระรัวก่อนจะมีนักข่าวสองสามคนเดินเข้ามาสัมภาษณ์ "สวัสดีค่ะคุณภาคิน""สวัสดีครับ" ภาคินตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนปรายตามองสี
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างกระจกเข้ามากระทบเปลือกตาบางของร่างสูงที่นอนกอดลูกบนเตียงคิงไซส์ให้รู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็ได้เจอหน้าลูกเมียเป็นอันดับแรกเขาหยัดกายลุกขึ้นนั่งก่อนโน้มไปจูบหน้าผากบุตรชายที่นอนข้าง ๆ อย่างแผ่วเบาแล้วเลื่อนไปจูบหน้าผากบุตรสาวต่อจากนั้นก็ลงจากเตียงเดินอ้อมไปริมเตียงอีกฝั่งที่แม่สองแฝดนอนอยู่โน้มลงจูบหน้าผากมนเบา ๆ "ผมรักคุณกับลูกนะ" ดวงตาคมกริบไล่มองใบหน้าสามคนแม่ลูกที่นอนหลับบนเตียงด้วยความอิ่มเอมใจ ก่อนละสายตาออกแล้วจัดการอาบน้ำแต่งตัวหยิบโน้ตบุ๊คเดินลงมานั่งทำงานที่ห้องนั่งเล่นปล่อยให้เมียกับลูกนอนต่อโดยไม่คิดจะปลุกเพราะเมื่อคืนทั้งสามคนนอนดึกเพราะมัวแต่พูดคุยหยอกล้อกับเขาอยู่"คุณน้าจะไปไหนครับ" ภาคินเปล่งเสียงถามขึ้นเมื่อเหลือบสายตาาไปเห็นมารดาของหญิงสาวกำลังเดินถือตะกร้าผ่านห้องนั่งเล่นไป ดวงเดือนหยุดชะงักหันไปตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มกว่าที่ผ่านมา "ว่าจะออกไปจ่ายตลาดหน่อยนะ" ทำคนฟังอย่างภาคินแปลกใจไม่น้อยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของดวงเดือนทั้งที่ที่ผ่านมาเธอมักจะแยกเขี้ยวใส่เขาตลอดบาง
วันต่อมา"มามี๊คะเมื่อไรแด๊ดดี๊จะกลับมา อลินคิดถึงแด๊ดดี๊แล้วค่ะ" เสียงของอลินดาดังขึ้นทำลายความเงียบขณะที่ทุกคนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ "อีกสองวันแด๊ดดี๊ก็จะกลับแล้วค่ะ อดทนอีกหน่อยนะคะ" เอวาวางช้อนลงเอื้อมมือไปลูบศรีษะเล็กทุยอย่างเอ็นดูเธอเองก็คิดถึงชายหนุ่มมากเหมือนกันไม่รู้ทำไมถึงคิดถึงมากขนาดนี้ "อลันก็คิดถึงแด๊ดดี๊ครับ" อลันพูดเสริมอีกเสียงพร้อมทำหน้าเหงาหงอยจนคนเป็นแม่ต้องเลื่อนไปลูบศีรษะปลอบประโลม "เดี๋ยวแด๊ดดี๊ก็กลับมาแล้วครับ""ครับ ค่ะ" สองแฝดพยักหน้ารับรู้แล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อเมื่อเสร็จก็ขอมารดาขึ้นไปนอนดูการ์ตูนบนห้องนอน ส่วนเอวาก็ช่วยมารดาเก็บจานล้างจากนั้นก็มานั่งคุยกันต่อที่โซฟา"แม่ว่าลูกดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ" ดวงเดือนไล่สายตามองบุตรสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนพูดลอย ๆ เพราะดูบุตรสาวมีน้ำมีนวลอวบอิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก "สงสัยช่วงนี้คงเจริญอาหารค่ะ" คนโดนทักตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ดวงเดือนไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อพูดคุยเรื่องอีกแทนผ่านไปครึ่งชั่วโมงเธอจึงขอแยกตัวออกไปข้างนอกเพราะมีนัดกับเพื่อน ๆ"เฮ้อ" เอวาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เอนกายพิงพนักโซฟาแล้วค่อย ๆ หลับตาลงด้วยสมองหนัก
วันเวลาหมุนเวียนดำเนินไปเรื่อยๆ จากวันเคลื่อนไปเป็นเดือนนี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วที่ภาคินคอยตามดูแลเอวาและลูกๆ ดูเหมือนทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ วันแรกเป็นยังไงวันนี้เขาก็ยังเป็นแบบนั้นความเสมอต้นเสมอปลายทำให้เอวายอมเปิดใจให้เขาในระดับหนึ่ง ความรู้สึกดีๆ เริ่มก่อตัวเธอยอมรับเลยว่ารู้สึกอบอุ่นใจไม่น้อยที่มีเขาคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ "เป็นอะไรลูกนั่งหน้าหงอยเชียว คิดถึงภาคินเหรอ" เสียงของดวงเดือนทำให้คนที่นั่งดูทีวีแต่จิตใจกลับเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหลุดจากภวังค์ ก่อนหันรีบหันไปปฏิเสธทันควัน "หนูจะคิดถึงเขาทำไมกันละแม่" "ใจลูก ลูกย่อมรู้ดีว่าทำไม" ดวงเดือนระบายยิ้มบางๆ มองบุตรสาวด้วยความเอ็นดูเธออาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมจะดูไม่ออกว่าบุตรสาวเปลี่ยนไปตั้งแต่พ่อของสองแฝดหายไปเพราะต้องบินไปดูงานที่ต่างประเทศหนึ่งอาทิตย์"..." เอวาเพียงระบายยิ้มให้มารดาถึงปากเธอจะบอกออกไปแบบนั้นแต่ในใจเธอก็คิดถึงเขาจริง ๆ นั่นแหละ ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาชายหนุ่มทำตัวติดเธอกับลูกตลอดไม่เว้นแม้แต่เวลานอนขนาดเธอกลับมาอยู่กับมารดาเขาก็ยังตามมานอนด้วยโดยให้เหตุผลว่าอยากนอนกับลูก ทุกวันเธอจะได้ยินคำหยอดหวาน ๆ จากปากเขาตลอ
หลายวันต่อมาเอวายังคงอยู่ที่บ้านของภาคินเหมือนเดิมไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่วันนั้นแล้วเหตุผลก็คงไม่ต้องบอกเพราะลูกๆ ของเธอยังไงละออดอ้อนให้อยู่ต่อ ดูเหมือนสองแฝดจะติดปู่กับย่าเอามากก็ผู้ใหญ่ทั้งสองเล่นตามใจหลานขนาดนั้นหลานจะไม่ชอบได้ยังไงคนลำบากก็เห็นจะมีแต่เธอนี่แหละถูกพ่อสองแฝดแทะโลมทางสายตา ทางคำพูดและการกระทำทุกวัน เวลานอนก็แอบย่องมานอนกอดเธอทุกคืนถึงแม้จะไม่มีอะไรเกินเลยก็ตามเถอะพอด่าเขาก็ทำหน้ามึนกลายเป็นเธอเสียเองที่ประสาทเสียอย่างเช่นตอนนี้เพี๊ยะ!"ภาคินคุณช่วยตั้งใจขับรถหน่อยได้ไหม" หญิงสาวตีลงบนมือปลาหมึกของร่างสูงที่อยู่ไม่นิ่งยื่นมาวางบนหน้าขาของเธอทั้งที่กำลังขับรถอยู่อย่างแรง"โอ้ย! ผมเจ็บนะ" คนโดนตีร้องโอยด้วยความเจ็บรีบหดมือกลับก่อนหัวเราะออกมาเบา ๆ มิหน่ำซ้ำยังพูดจาเย้าแหย่ให้อีกคนหัวเสียอีก "ผัวจับนิดจับหน่อยไม่ได้หรือไงครับเมีย""พูดจาให้มันดี ๆ ลูกอยู่เห็นไหม" ใบหน้าคมหันขวับไปมองค้อนคนข้างๆ ตาเขียว มือเรียวเอื้อมไปหยิกเอวหนาด้วยความหมั่นไส้"โอ้ยๆ เจ็บๆ" เสียงทุ้มร้องโอดโอยเบาๆ พลางเด้งเอวหนีมือเรียว เอวายกยิ้มมุมปากอย่างสะใจก่อนปล่อยมือออกจากเอวหนาและไม่มีที่จะพูดข
"ภาคิน! อะไรของคุณเนี่ยฉันจะนอน เมื่อกี้ยังไม่พอหรือไง" เอวาเอี่ยวหน้าต่อว่าร่างสูงที่นอนซ้อนหลังเธอภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยน้ำเสียงดุเพราะเขาเอาแต่กดจูบที่ไหล่สลับกับคลอเคลียซอกคอ มือก็อยู่ไม่นิ่งสอดผ่านเอวคอดกิ่วมาลูบวนหน้าท้องแบนราบแล้วแบบนี้เธอจะข่มตานอนได้ยังไงก่อนหน้านี้เขาก็ตักตวงความสุขจากร่างกายเธอนับครั้งไม่ถ้วนทั้งที่บอกว่าขอแค่ครั้งเดียวซึ่งครั้งเดียวของเขาไม่มีอยู่จริงเล่นเอาน้องสาวเธอบวมช้ำเจ็บแสบไปหมด"ครับๆ ไม่กวนแล้วครับ" ภาคินยอมหยุดการกระทำนอนกอดร่างบางนิ่งๆ ก่อนกดจูบหนักๆ บนศีรษะเล็กทุยจากนั้นจึงหลับตาลง เอวาไม่ได้ขัดขืนอะไรยอมหลับตาลงในอ้อมกอดของร่างสูงอย่างว่าง่ายเพราะรู้สึกเหนื่อยจากกิจกรรมก่อนหน้านี้อยากพักผ่อนเต็มทีแล้วเพียงไม่นานทั้งสองก็ผล็อยไป'ก็อก ก็อก'หลายชั่วโมงต่อมาเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นปลุกให้ชายหนุ่มที่นอนกอดร่างบางรู้สึกตัวตื่น มือหนายกขึ้นขยี้ตาเบาๆ ไล่อาการงัวเงีย ก่อนผงกหน้ามองคนในอ้อมกอดก็พบว่าเธอยังหลับอยู่ เขาค่อยๆ ดึงแขนออกจากเอวคอดกิ่วขยับตัวลงจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวทำให้อีกคนตื่น แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวจากนั้นก็เดินไ