แชร์

บทที่ 40

ผู้แต่ง: กวักทรัพย์เข้ากรุสมบัติ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
"ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ" ตอนนี้เฉินเวินเหยียนมั่นใจมาก!

เธอจึงมีความมั่นใจที่จะพูดออกมา

เจียงเย่าจิ่งมองเธอด้วยสายตาเมินเฉยพลางถามว่า "เงินขาดมืออีกหรือไง? คราวนี้อยากได้เงินเท่าไหร่ล่ะ?"

"ฉันไม่ได้มาขอเงิน ฉันท้องลูกของคุณ" เธอหนิบผลอัลตร้าซาวด์ออกมายื่นให้เขา

นี่เป็นผลอัลตร้าซาวด์ของซ่งอวิ้นอวิ้น ตอนที่เธอเจาะถุงน้ำคร่ำของซ่งอวิ้นอวิ้นก็ได้ทำเอาไว้แล้ว

แต่บนนั้นกลับเป็นชื่อของเธอ

เธอไม่ได้เจาะถุงน้ำคร่ำของซ่งอวิ้นอวิ้นเพื่อตรวจดูว่าเด็กเป็นลูกของเจียงเย่าจิ่งหริอเปล่า

แต่เพื่อเอามาให้เจียงเย่าจิ่งดูต่างหากล่ะ!

เจียงเย่าจิ่งไม่ตอบ แต่กลับทอดสายตามอง

เขากวาดสายตาผ่าน ๆ ก็เห็นว่าช่วงเวลาตรงกัน

แต่เขาก็ไม่เชื่อง่าย ๆ เพียงเพราะหลักฐานแค่นี้หรอก!

"ฉันรู้ว่าคุณคงจะไม่เชื่อ" เฉินเวินเหยียนเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว

เธอจึงมอบเซลล์ที่ได้จากการเจาะถุงน้ำคร่ำ เธอเก็บรักษาพวกมันเอาไว้ในกล่องเก็บความเย็นเป็นอย่างดี "ฉันเจาะถุงน้ำคร่ำมาแล้ว คุณเอาเซลล์ตัวอ่อนไปตรวจได้เลย"

เจียงเย่าจิ่งหน้าเปลี่ยนสีในท้ายที่สุด ไม่มีวี่แววที่จะดีใจเลยสักนิด แต่กลับมองเฉินเวินเหยียนด้วยความสง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 41

    บรรยากาศในรถทั้งคันบีบคั้นกดดันมากทีเดียว! เมื่อเจียงเย่าจิ่งกลับมาถึงบ้าน เขาก็ขึ้นไปชั้นบนแล้วถามอย่างไม่ใคร่ใส่ใจนักว่า "เธอหลับหรือยัง?" ป้าหวู่เอ่ยเสียงเบาว่า "คุณผู้หญิงยังไม่กลับมาเลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งชะงักไป เขายกมือขึ้นดูนาฬิกา เกือบสามทุ่มก็ได้เวลาเลิกงานแล้ว ถ้าเธอยังไม่กลับมายังจะไปที่ไหนได้อีกเล่า? ผู้หญิงคนนี้ช่างอยู่ไม่สุขเลยจริง ๆ! นอกจากจะทำให้คนหงุดหงิดแล้ว ก็ยังทำให้คนโกรธอีกต่างหาก! ทันใดนั้นเขาก็หันหลังเดินออกไปด้วยความโมโห! …… หลังเลิกงาน ซ่งอวิ้นอวิ้นก็ถูกรถแท็กซี่พาไปที่อื่น เมื่อเธอมาถึง เธอก็เลยรู้ว่ากู้ฮว๋ายเป็นคนจัดแจงให้คนขับรถแท็กซี่คนนั้นเอง เธอถูกกู้ฮว๋ายลักพาตัว! สถานที่ก็คือบ้านพักส่วนตัวของกู้ฮว๋าย เขามัดซ่งอวิ้นอวิ้นแล้วเหวี่ยงลงบนเตียง เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงพลางถือแก้วไวน์แดงเอาไว้ในมือ ระหว่างที่ชื่นชมซ่งอวิ้นอวิ้นก็แกว่งไวน์แดงในแก้วไปด้วย "คราวนี้ฉันจะดูซิว่าเธอจะหนีไปได้ยังไง" เขาหัวเราะ ซ่งอวิ้นอวิ้นจ้องเขาตาเขม็ง "คุณลักพาตัวคน เป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ!" กู้ฮว๋ายหัวเราะด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ "ฉันรู้ เธอลืมเอ่ย

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 42

    คราวนี้ถึงทีของกู้ฮว๋าย ถ้าหากเธอยังขัดขืนต่อไป กู้ฮว๋ายก็ยังคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้เธอไม่เพียงแต่จะให้ความร่วมมือ แต่ยังจะเล่นอะไรสนุก ๆ อีกต่างหาก ช่างเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลย "จริงเหรอ?" กู้ฮว๋ายสงสัย "คุณมัดฉันเอาไว้แบบนี้ ฉันยังจะเล่นอะไรได้อีกล่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยายามทำสีหน้าให้ผ่อนคลายและร่าเริงอย่างสุดความสามารถ กู้ฮว๋ายมองหน้าเธออยู่หลายอึดใจ บางทีอาจจะเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงยกกระเป๋าของเธอขึ้นมา เขาเจอยาอยู่ในนั้นจริง ๆ ด้วย กู้ฮว๋ายหยิบมาไว้ในมือแล้วอ่านฉลากที่บอกว่าไวอากร้า ซ่งอวิ้นอวิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า "ฉันไม่ได้โกหกคุณใช่ไหมล่ะ?" "ทำไมเธอต้องพกของพรรค์นั้นเอาไว้กับตัวด้วยล่ะ?" กู้ฮว๋ายขมวดคิ้วแน่น ซ่งอวิ้นอวิ้นทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ประกอบกับท่าทางที่ราวกับสาวงามพิสุทธิ์ หรือว่าเธอก็มีด้านที่เป็นนางมารด้วย? ! "คุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงดิบดีอะไรนักหนาหรือไง? ฉันมักจะเล่นเกมแมวไล่จับหนูกับคุณอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ รีบกินเข้าไปเถอะค่ะ เราจะได้มีเวลามาสนุกกัน!?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยกยิ้มมุมปาก เธอเป็นคนหน้าตาสวย ก็ตอนที่ยิ้มก็

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 43

    ในฐานที่เป็นหมอ เธอย่อมรู้ว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการแท้งบุตร สีหน้าของเธอซีดเผือด เจียงเย่าจิ่งสังเกตได้ว่าเธอมีบางอย่างผิดปกติแล้วถามว่า "เธอได้รับบาดเจ็บงั้นเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยายามทำตัวให้ดูมีชีวิตชีวาสุดกำลังแล้วส่ายหน้า "เปล่าหรอก" เมื่อเธอเดินออกมาจากห้อง เธอก็รักษาสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่จนเผยสีหน้าเจ็บปวดออกมา ถ้าเธอรักษาลูกเอาไว้ไม่ได้ เธอจะไม่มีทางปล่อยเฉินเวินเหยียนไปเด็ดขาด! ตอนที่เดินผ่านห้องรับแขก ซ่งอวิ้นอวิ้นก็เห็นบอดี้การ์ดหมดสติไปแล้ว ซ่งอวิ้นอวิ้นเคยเห็นคนพวกนี้มาก่อน พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นคนของกู้ฮว๋าย เธอเดินผ่านโดยไม่แยแสจนออกจากบ้านแล้วขึ้นรถ ทันทีที่เธอปิดประตูรถก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนอันน่าเวทนาดังมาจากบ้าน เป็นเสียงของกู้ฮว๋ายนั่นเอง เสียงที่ดังขึ้นแต่ละครั้งฟังดูชวนสังเวชยิ่งกว่าครั้งล่าสุดเสียอีก เธอไม่รู้ว่าเจียงเย่าจิ่งใช้วิธีอะไรกันแน่! ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่มีเวลาที่จะไปนึกถึงเรื่องนั้น เธอเอนตัวในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเพื่อให้ตัวเองได้พักผ่อนและไม่กล้าเคลื่อนไหวให้มากนัก! เสียงแผดร้องของกู้ฮว๋ายยังคงดังอยู่เป็นชั่วโมง กว่าเจียงเย่าจิ่งจะออกมา

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 44

    "หานซิน เธอมันโง่จริง ๆ รู้ตัวบ้างไหม? เธอไม่เข้าใจความคิดของสามีตัวเองเสียด้วยซ้ำไป ช่างน่าสมเพชเสียจริง" ไป๋ซิ่วฮุ่ยกอดอกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอวดดีว่า "สามีของของเธอคิดจะให้ลูกสาวของเธอแต่งงานกับตระกูลเจียงเพื่อจะได้เกี่ยวดองกับพวกเขามาตั้งแต่แรกแล้ว เพื่อที่จะควบคุมลูกสาวของเธอ เขาถึงได้ไม่ยอมหย่ากับเธอยังไงล่ะ แต่เธอกลับคิดอะไรโง่ ๆ ว่าเขายังมีความรู้สึกให้เธอ ถ้าเขามีความรู้สึกให้เธอจริง ๆ ล่ะก็ เขาจะอยู่กับฉันมาถึงยี่สิบปีงั้นเหรอ? เขาจะยอมให้ลูกสาวของเธอแต่งเข้าตระกูลเจียงได้ยังไงกัน? ตระกูลเจียงเป็นตระกูลที่ร่ำรวยก็จริง แต่เจียงเย่าจิ่งก็ขึ้นชื่อเรื่องความอารมณ์ร้าย ในเมื่อยกลูกสาวของเธอให้เขาไป เธอคิดว่าลูกสาวของเธอจะยังอยู่ดีมีสุขได้อีกเหรอ? ถ้าเธอฉลาดก็จงหย่ากับลี่เฉิงแต่โดยเร็ว ไม่นานลูกสาวของเธอก็จะได้รอดพ้นจากสภาพน่าสมเพชแบบนี้สักที" "ธะ… เธอพูดจาเหลวไหล!" หานซินตะคอกใส่ด้วยความโกรธจัด แต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงมากพอ หมดสิ้นแล้วซึ่งพละกำลัง! หลังจากซ่งอวิ้นอวิ้นได้ยินเช่นนี้เข้า ร่างกายของเธอก็ส่ายโงนเงน นับตั้งแต่ครั้งที่เธอยังเยาว์วัย ซ่งลี่เฉิงมักจะสั่งให้เธอเรียนอ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 45

    ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ต่อให้ปวดใจทว่าก็ยังสามารถทุเลาลงได้ เธอเปลี่ยนหัวข้อสนทนา "แม่คะ หนูได้ยินมาว่าแม่กำลังจะออกจากโรงพยาบาลเหรอคะ?" หานซินพยักหน้า "ใช่จ้ะ ตอนนี้แม่ดีขึ้นมากแล้ว แม่อยู่ในโรงพยาบาลมานานเหลือเกินจนอยากจะออกไปแล้วล่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ตอบตกลงทันที แต่กลับไปพบแพทย์เจ้าของไข้ที่ดูแลแม่ของเธอ แพทย์บอกว่าเธอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ขอเพียงใส่ใจดูแลตัวเองและหมั่นมาตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้บอกหานซิน ทว่ากลับบอกเธอว่า "แม่คะ แม่ต้องอดทนสักสองวันนะคะ" เธอต้องหาบ้านสักหลังเผื่อออกจากโรงพยาบาลไป ก็จะได้มีที่อยู่อาศัย หานซินพยักหน้าตอบตกลง "แม่คะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่ก็ตัดสินใจถามสิ่งที่คิด "แม่อยากจะหย่ากับพ่อหรือเปล่าคะ?" หานซินจึงพูดว่า "...ใช่" ซ่งอวิ้นอวิ้นเม้มปาก ถึงแม้ว่าเธอจะอยากให้คุณแม่ของเธอหย่าไปเสียเลย แต่ผ่านมาตั้งหลายปีขนาดนั้นท่านก็ยังไม่หย่า เมื่อสักครู่นี้ตอนที่เธอถามขึ้นมา หานซินเพียงแค่ตอบว่า "ใช่" แทนที่จะตอบว่า "อยากจะหย่า" "แม่คะ แม่ไม่ต้องห่วงเรื่องของหนูหรอกนะคะ หนูโตแล้ว หนูมีงานทำแล้วก็หาเงินได

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 46

    เสิ่นจือเชียนพยักหน้ารับ ร่างกายของซ่งอวิ้นอวิ้นแข็งทื่อ คล้ายกับโดนน้ำเย็นถ้วยใหญ่ เทลงไปที่หัวไหลเรื่อยลงไป เย็นตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ใช่ว่าเจียงเย่าจิ่งบอกว่า ไม่ชอบเฉินเวินเหยียนหรอกหรอ?ไม่ชอบ แต่ทำให้เธอท้อง?“อวิ้นอวิ้น เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เสิ่นจือเชียนเห็นว่าสีหน้าของเธอดูไม่สู้ดีนัก จึงถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ซ่งอวิ้นอวิ้นได้สติ รีบส่ายหน้าทันควัน “ฉันไม่เป็นอะไร” เมื่อเธอได้ยินว่าเฉินเวินเหยียนกำลังตั้งท้อง เธอรู้สึกเสียศูนย์อยู่ไม่น้อยแต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็คลายหายไป เจียงเย่าจิ่งจะทำดีกับใคร ก็ไม่ใช่ธุระของเธออีกทั้งเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจด้วยซ้ำ “อวิ้นอวิ้น เธอดูแปลก ๆ นะ ไม่ใช่ว่าเธอหลงรักเย่าจิ่งเข้าแล้วใช่ไหม?” เสิ่นจือเชียนกอดอกมองอย่างสงสัยหลังจากนั้นปฏิกิริยาของเธอก็เป็นตัวแสดงออกมาอย่างชัดเจน ซ่งอวิ้นอวิ้นเงยหน้ามองเสิ่นจือเชียน ถามออกไปว่า “ฉันเหมือนชอบเขารึไง?” เสิ่นจือเชียนพยักหน้า “ก็ใช่น่ะสิ”“ที่ฉันแสดงออกมาน่ะไม่ใช่เพราะชอบเจียงเย่าจิ่งหรอกนะ แต่เป็นเพราะความกังวัลน่ะ” เธอเดินไปที่ม้านั่งข้างทางเดินเพื่อนั่งลงแล้วพูดว่า “ฉันรู

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 47

    เจียงเย่าจิ่งมองเธออย่างเงียบ ๆ เฉินเวินเหยียนถูกจับจ้องจนรู้สึกกลัว ท้ายที่สุดในท้องของเธอไม่มีอะไร เธอจึงกังวลหลังจากนั้นไม่นานเขาก็เอ่ยปากพูดออกมาอย่างช้า ๆ “ถ้าในท้องของคุณเป็นลูกของผมจริง ๆ ผมก็จะรับ”เฉินเวินเหยียนดีใจจนแทบบ้า หากไม่ได้อยู่ต่อหน้าเจียงเย่าจิ่งไม่แน่เธออาจหัวเราะออกมาดังลั่น ถึงกระนั้น ใบหน้าที่เอ่อล้นไปด้วยความสุขและความตื่นเต้นก็ไม่อาจปกปิดได้มิด “ถ้าอย่างนั้นเพื่อเรื่องลูก คุณจะขอแต่งงานฉันแต่งงานไหมคะ?” ขณะที่เธอกำลังดีใจ จึงได้ถามออกไปน้ำเสียงเจียงเย่าจิ่งไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ เรียบเฉย เลือดเย็น ไร้หัวใจ “ไม่”เมื่อเฉินเวินเหยียนได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้ากลับต้องแข็งทื่อ “คุณหมายความว่ายังไงคะ?”“ง่ายมาก ฉันต้องการแค่ลูก” เจียงเย่าจิ่งใช้ความอดทนครั้งสุดท้าย พูดออกไปอย่างใจเย็นเฉินเวินเหยียนไม่สงบเสงี่ยมอีกต่อไป “ตอนนี้คุณกำลังจะพาฉันไปที่ไหน?”“โรงพยาบาล” ฮั่วซุนพูดขึ้น เขาหันกลับมามองเฉินเวินเหยียนเพียงครู่ “คุณจะได้คลอดลูก แต่แม่ของลูกจะเป็นใคร คนคนนั้นไม่มีวันเป็นคุณ”หากคำพูดเมื่อครู่ทำให้เธออยู่ไม่สุข ตอนนี้ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัว เธอถา

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 48

    เจียงเย่าจิ่งตื่นขึ้น กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อฉุน ๆ ลอยมาเตะจมูก เขาลุกขึ้นอย่างช้า ๆ “คุณเจียง” เลขายื่นมือมาเพื่อจะช่วยพยุงเจียงเย่าจิ่งส่ายมือ พูด “ไม่ต้อง”เขาถามออกไปอย่างช้า ๆ “ฮั่วซุนเป็นอย่างไรบ้าง?”“ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตค่ะ ทำการผ่าตัดเล็กเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้สติ ยังไม่ฟื้นค่ะ” เลขาตอบ“ท่านได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะเล็กน้อย คุณหมอบอกว่า ท่านต้องได้รับการพักผ่อนค่ะ ท่านจะนอนอีกสักครู่ไหมคะ?”เมื่อเจียงเย่าจิ่งนึกถึงเลือดบนขาของเฉินเวินเหยียนริมฝีปากเม้มเข้าหากัน เข้าสู่ความเงียบ และถามออกมาว่า “เฉินเวินเหยียนเป็นอย่างไรบ้าง?”“คุณหมอบอกว่า แท้งแล้วค่ะ มีรอยถลอกตามร่างกายเล็กน้อย ไม่มีอะไรร้ายแรง ตอนที่ดิฉันมาถึง เธอเองก็เพิ่งฟื้น อยู่ห้องพักฟื้นห้องข้าง ๆ ค่ะ” คุณเลขาลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ให้ไปเรียกเธอมาไหมคะ?”เจียงเย่าจิ่งยกมือขึ้น แสดงออกว่าเขาไม่ต้องการ ใจของเขารู้สึกสับสน เขารังเกียจเฉินเวินเหยียนถึงขั้นที่ไม่ยอมให้เธอมาเป็นแม่ของลูก แต่ทว่า เขาไม่เคยมีความคิดที่ว่า จะทอดทิ้งลูกของตัวเอง ตอนนี้ลูกไม่อยู่แล้ว เขาที่เป็นพ่อ ภายในใจก็เป็

บทล่าสุด

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 270

    เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 269

    ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 268

    เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 267

    ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 266

    พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 265

    ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 264

    "ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 263

    เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 262

    ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื

DMCA.com Protection Status