เช้านี้อากาศเย็นเล็กน้อยเธอใช้มือทั้งสองข้างกอดแขนตัวเองไว้ถ้าเธอบอกหานซินเร็วกว่านี้อีกหน่อยคงจะดี อย่างน้อยสองคนนั้นก็ยังได้เจอกันซ่งลี่เฉิงจากไปอย่างไม่สงบ เป็นเพราะไม่ได้เจอกับหานซินเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า“คิดอะไรอยู่?” เสียงที่ดังขึ้นตามด้วยเสื้อที่คลุมไปบนไหล่ของซ่งอวิ้นอวิ้น!ซ่งอวิ้นอวิ้นหันกลับไปมองเจียงเย่าจิ่ง ใบหน้าของเขานั้นลึกล้ำ ไม่เหมือนกับรูปลักษณ์ที่พิถีพิถันและเนี้ยบ เขาดูสับสนเล็กน้อยในขณะนี้ เขาดูเข้าถึงง่ายกว่ามาก เธอค่อย ๆ ดึงสายตากลับมา “ฉันเพิ่งโทรไปหาแม่ ถ้าฉันบอกแม่เร็วกว่านี้น่าจะดี ฉันกลัวว่าแม่จะไม่ได้เจอหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย…”“ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย พวกเขาก็มีความคิดและทางเลือกของพวกเขาเอง” ถ้าเขาทั้งสองยังรักกัน ก็คงไม่ห่างกันในเมื่อเลิกกันแล้ว มันก็เป็นสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจ ไม่ใช่คนรอบข้างเป็นคนตัดสินยิ่งกว่านั้นพวกเขาเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องมีความคิดเป็นของตัวเองดังนั้น ความจริงซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ต้องรู้สึกทุกข์ใจ!ซ่งอวิ้นอวิ้นหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูด “ยังมีเวลาอีกนิดหน่อย คุณไปนอนพักเถอะ เพราะฉันคุณถึงไม่ได้พักผ่อนทั้งคืน”“ไม่เป็นไร ฉันจ
ที่จริงคือซ่งรุ่ยเจี๋ย“รุ่ยเจี๋ย!”ไป๋ซิ่วฮุ่ยรีบวิ่งไปด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าลูกชายของเธอจะตาย!เธอยกชั้นวางขึ้นไป กอดลูกชายที่หมดสติเอาไว้ แล้วตบเบา ๆ ที่แก้ม “รุ่ยเจี๋ยฟื้นขึ้นมาสิ อย่าทำให้แม่ตกใจ ฮือฮือ…”ไป๋ซิ่วฮุ่ยร้องไห้ ร้องไห้จริง ๆ เธอมีลูกชายแค่คนเดียว อีกทั้งยังฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เขาถ้าเกิดอะไรที่ไม่ดีกับซ่งรุ่ยเจี๋ย เธอก็คงอยู่ไม่ได้เธอทำอะไรมากมายก็เพื่อลูกชาย!“แกโง่เหรอ ไปช่วยผู้หญิงที่จะแย่งสมบัติของแกไปทำไม?”เข่าของซ่งอวิ้นอวิ้นมีเลือดไหลออกมา เธอก็ไม่ได้สนใจที่จะดูแลตัวเอง แล้วยังล้วงเอาโทรศัพท์มากดโทร 120เธอเดินกะเผลก ๆ เพื่อจะไปดูอาการของซ่งรุ่ยเจี๋ยว่าหนักหรือเปล่า ไป๋ซิ่วฮุ่ยคิดว่าเธอจะทำร้ายลูกชายของตัวเองอีก เลยผลักเธอ “อย่าจับลูกชายของฉัน!”ซ่งอวิ้นอวิ้นแทบทรงตัวไม่อยู่“ถ้าไม่อยากให้ลูกชายของคุณเป็นอะไรไปมากกว่านี้ก็ให้ฉันดู ฉันเป็นหมอ ฉันไม่ทำอะไรเขาหรอก” เธอพูดเสียงเรียบไป๋ซิ่วฮุ่ยกอดลูกชายไว้ด้วยความเจ็บปวด แล้วตำหนิ “ถ้าไม่ใช่เธอ ลูกชายฉันคงจะไม่เป็นแบบนี้…”“เป็นเพราะคุณตั้งใจจะทำร้ายคนอื่น ลูกชายของคุณก็เลยเดือดร้อนไปด้วย” ซ่งอ
เธอรู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นแม่เลยเธอไม่สามารถทำให้ลูกมีครอบครัวที่สมบูรณ์ได้ แล้วก็ไม่ได้อยู่กับลูกอย่างเต็มที่“พ่อของลูก…” หานซินพูดขึ้นซ่งอวิ้นอวิ้นเงยหน้าขึ้นมองแม่ของตัวเอง สีหน้าของหานซินไม่ค่อยดี ดูออกว่าต้องร้องไห้มาแน่ ๆ“แม่ ขอโทษนะคะ ที่ไม่ได้บอกให้เร็วกว่านี้ ทำให้แม่ไม่ได้เจอพ่อเป็นครั้งสุดท้าย” เธอรู้สึกผิดหานซินไม่โทษเธอ ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดกับตนเองครั้งก่อน แต่เธอไม่สนใจ เธอถอนหายใจ “ถึงแม้จะทำให้เขาไม่พอใจและบ่นเขา ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว เรื่องเมื่อก่อนก็ลืมไปหมดแล้ว แม่กลับมาก็เพราะความสัมพันธ์ของสามีภรรยา เพื่อส่งเขาเป็นครั้งสุดท้าย”“ซวงซวงยังเล็ก ลูกพาซวงซวงกลับไปก่อน แม่กลับเองได้” หานซินเอาของของซวงซวงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นห่วงเธอ “ฉันจะไปกับแม่…”“ซวงซวงยังเล็ก ไม่ต้องพาเขาไปหรอก แม่ไปคนเดียวได้” หานซินดูเข้มแข็ง อารมณ์ก็ดูนิ่งสงบซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าหานซินยังมีความรู้สึกดี ๆ กับซ่งลี่เฉิงอยู๋ ไม่อย่างนั้นคงหย่าไปนานแล้วตอนนี้จู่ ๆ ซ่งลี่เฉิงก็จากไป ในใจของหานซินต้องเจ็บปวดมากแน่ ๆถึงแม้ต่อหน้าเธอจะแสดงออกว่าไม่รู้สึกอะไร แต่จริง ๆ คงไม่
เมื่อพูดออกไป เธอก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นอุ้มเด็กอยู่ เธอรีบเดินเข้าไป แล้วถาม “เด็กน้อยคนนี้มาจากไหนคะ?”ไม่รอช้าให้ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบกลับ เธอก็รีบทาย “ลูกของคุณอันใช่ไหม?”อันลู่มองไปทางทางซ่งอวิ้นอวิ้น มุมปากของเธอโค้งขึ้น ซ่อนความรู้สึกอ่อนโยนไว้ “ฉันคิดว่า ฉันไม่ได้มีชีวิตที่ดีขนาดนั้น”ป้าหวู่รู้สึกแปลกใจ “งั้นของใครกัน?”“ของฉันเองค่ะ” ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดป้าหวู่ตาโต “คุณผู้หญิง… คุณ คุณพูดอะไร เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร?”ไม่นานเธอก็คิดออก “เป็นของคุณผู้ชายหรือคะ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นส่ายหัว “ไม่ใช่”“อะไรนะคะ? !!” ป้าหวู่ไม่สามารถทนฟังได้ “ไม่ใช่ของคุณผู้ชาย แล้วอย่างนั้นของใคร? คุณคลอดลูกของผู้ชายคนอื่นหรือ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ปฏิเสธ “อืม”“อวิ้นอวิ้น” เสียงโกรธเข้ม ที่ดังมาจากข้างหลังของเธอซ่งอวิ้นอวิ้นหันไป ก็เห็นนายท่านเจียงยืนถือไม้เท้าอยู่ ยืนอยู่ตรงบันได มองดูท่าทางของเขาคงได้ยินเสียงของป้าหวู่ ใบหน้าซีดลง เขาพูดอย่างใจเย็น “เธอตามฉันมา”เมื่อพูดเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องหนังสือของเจียงเย่าจิ่งพ่อบ้านเฉียนมองซ่งอวิ้นอวิ้น ด้วยสายตาเย็นชา เหมือนจะต่อว่าซ่งอวิ้นอวิ้นเมื่อก่อนนายท
หัวใจของซ่งอวิ้นอวิ้นรู้สึกเหมือนใครมาบีบมันจนหายใจไม่ออก“เธอคงจะไม่ค้านใช่ไหม?” นายท่านเจียงเดาสีหน้าเธอได้ยาก “เธอจะให้เด็กคนนั้นเรียกเย่าจิ่งว่าพ่อหรือ? เธอคิดว่าทำได้หรือ? เย่าจิ่งจะรับได้ไหม? ฉันจะรับได้ไหม?”ซ่งอวิ้นอวิ้นคิดไม่รอบคอบจริง ๆ เธอมองข้ามไปเรื่องหนึ่งเจียงเย่าจิ่งเป็นทายาทของตระกูลเจียง เขามีเงินมากมายนับไม่ถ้วนยิ่งครอบครัวใหญ่เท่าไหร่ ยิ่งต้องระวังมากขึ้นเท่านั้นแม้เจียงเย่าจิ่งจะพูดว่าไม่สนใจ สามารถทำเหมือนเป็นลูกในสายเลือดได้ แต่ว่านายท่านเจียงจะยอมให้เลี้ยงดูคนที่ไม่มีสายเลือดตระกูลเจียงเหรอ?ถ้าเกิดว่าเป็นคนในครอบครัวทั่วไป คงจะดีตระกูลเจียงเป็นตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพลไม่เพียงแต่สามารถสืบทอดตระกูลได้ แต่ต้องมีเงินด้วยตอนนี้ดู ๆ แล้ว เธอคงคิดเพ้อเจ้อพอคิดถึงตนเองและเจียงเย่าจิ่ง เธอมองข้ามหลาย ๆ อย่างไปและยังไม่สนใจว่าเด็กจะเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหน กลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อจิตใจของเด็กไหมเธอสนใจแต่ตัวเอง แต่มองข้ามลูกของตัวเองไปเธอควรให้ลูกของตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ดีกว่าต้องให้เขาอยู่ในครอบครัวที่ซับซ้อนแบบนี้“ฉันจะไปเองค่ะ”
“ฉันกล่อมเขาหลับไปแล้วตอนนี้” อันลู่พูดขึ้น ตอนนี้เธอเป็นห่วงซ่งอวิ้นอวิ้น เมื่อกี้สีหน้าของนายท่านเจียงคาดเดายาก ห่วงว่ามันจะยากสำหรับอวิ้นอวิ้นซ่งอวิ้นอวิ้นส่ายหัว “พวกเราไปกันเถอะ”“ไปไหน?” อันลู่ถามจริง ๆ ซ่งอวิ้นอวิ้นก็ยังไม่รู้…เธอรู้แค่ว่าตอนนี้ เธอควรพาซวงซวงออกไปจากที่นี่อันลู่ช่วยเธอจัดการ“อวิ้นอวิ้นเธอไม่เป็นอะไรจริงเหรอ?” อันลู่คาดเดาสีหน้าของเธอไม่ออก“ฉันคิดว่า ฉันทำผิดหลายเรื่อง…” ซ่งอวิ้นอวิ้นเสียงเบา จริง ๆ นายท่านเจียงปรากฏตัวขึ้นก็ทำให้เธอเห็นอะไรชัดเจนมากขึ้นอารมณ์ทำให้เธอมองสิ่งต่าง ๆ ไม่เห็นจริง ๆ เธออยากจะอยู่กับเจียงเย่าจิ่ง แล้วตอนนี้มีซวงซวงอาจจะทำให้พวกเขามีช่องว่างระหว่างกัน บ้านของเจียงเย่าจิ่งนั้นซับซ้อนเกินไป คนที่เป็นคนนอกคงอยู่ไม่ได้ถ้าหากซวงซวงอยู่ที่ตระกูลเจียง ลูกของเธอคงจะไม่ได้รับความยุติธรรม!“เธอทำอะไรผิด?” อันลู่ถาม“ฉันไม่ควรพาซวงซวงมาที่บ้านตระกูลเจียง วันนี้นายท่านยังดีกับฉัน น่าจะเพราะนึกถึงเรื่องปู่ของฉัน ไม่งั้นฉันกับซวงซวงคงจะหายไป”เป็นเพราะเธอที่ไม่ได้คิดอย่างรอบคอบนายท่านเจียงไม่ได้ผิดอันลู่ถอนหายใจ ไม่รู้ต้องป
“ฉันกับลี่เฉิงยังไม่ได้หย่ากัน คนที่ไม่มีสถานะคือเธอ” หานซินไม่ได้พูดอะไรรุนแรง แค่เถียงกลับไปเล็กน้อย เพื่อทำให้ไป๋ซิ่วฮุ่ยไม่สามารถเถียงเธอได้!ไป๋ซิ่วฮุ่นไม่ได้แต่งงานกับซ่งลี่เฉิง ทำให้มีแค่ตัวตนเท่านั้นยิ่งหานซินพูด มันยิ่งกว่าซ่งอวิ้นอวิ้นที่ทำให้เธอโกรธ อีกทั้งซ่งรุ่ยเจี๋ยยังบาดเจ็บอีก เธอกลั้นหายใจและทันใดนั้นก็ระเบิดออกมา หมายยกมือขึ้นจะตบไปที่หน้าของหานซินซ่งอวิ้นอวิ้นเดินไปข้างหน้า แล้วจับมือของไป๋ซิ่วฮุ่ยไว้ “พ่อของฉันเพิ่งตาย อย่ามาทำเป็นปากร้ายนักเลย”ไป๋ซิ่วฮุ่ยหันไปมองซ่งอวิ้นอวิ้น ดวงตาของเธอแทบจะหลุดออกมา “ได้ พวกเธอสองคน ตอนพ่อเธอป่วยก็ไม่เห็นพวกเธอมาดูแล แต่วันที่เขาตาย คิดอยากจะมาแย่งสมบัติเหรอ? ฉันจะบอกอะไรพวกเธอ สมบัติของตระกูลซ่งทั้งหมดเป็นของรุ่ยเจี๋ย!”เธอหันมามองด้วยสายตาที่ดุร้ายมากขึ้น “ซ่งอวิ้นอวิ้นเธอทำให้ลูกชายฉันบาดเจ็บ ฉันไม่ยอมเธอแน่!”ซ่งอวิ้นอวิ้นขี้เกียจทะเลาะกับเธอ และไม่สนใจเธอ “อย่าสร้างปัญหาอีก!”เรื่องทั้งหมด ต้องรอจนกว่างานเผาศพเสร็จไป๋ซิ่วฮุ่ยต้องอดทน เพราะเธอไม่สามารถเอาชนะซ่งอวิ้นอวิ้นกับหานซินได้สักพักเธอก็คิดถึงลูกชายตัวเอง
ก่อนที่ทนายจะอ่านเนื้อหา ไป๋ซิ่วฮุ่ยรอไม่ไหว เลยคว้าเอกสารมา เธอรีบเปิดดูเนื้อหาข้างใน เต็มไปด้วยความสุขที่รอคอย ที่จะได้สมบัติของตระกูลซ่งอย่างไรก็ตาม…ใบหน้าของเธอซีดลงสุดท้ายก็ไม่เหลือแม้แต่เลือด“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ลี่เฉิงไม่น่าจะทำแบบนี้กับฉัน ต้องเป็นเรื่องโกหก เรื่องโกหกแน่นอน!” เธอเหมือนคนบ้าแล้วฉีกเอกสารเป็นชิ้น ๆทนายไม่ได้ห้ามเธอ เพราะเอกสารแผ่นนี้ ไม่ใช่ต้นฉบับ ถึงเธอจะฉีกไปก็ไม่เป็นไร“พวกเธอวางแผนแกล้งฉัน!” เธอมองไปที่ทนายและหันไปมองซ่งอวิ้นอวิ้นและหานซิน “พวกเธอสองคนต้องเป็นพวกเธอสองคนที่ทำแบบนี้!”ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่อยากจะเสียเวลากับไป๋ซิ่วฮุ่ย ก็เลยให้ทนายอ่านพินัยกรรมต่อ!ไป๋ซิ่วฮุ่ยไม่ยอมแพ้ ซ่งรุ่ยเจี๋ยดึงเธอไว้ แล้วพูดว่า “แม่ ทนายเฉินเป็นคนที่พ่อไว้ใจที่สุด เขาไม่โกหกหรอก อย่าก่อเรื่องวุ่นวายอีก”“รุ่ยเจี๋ย ฉันเป็นแม่แกนะ…” “ผมรู้ว่าแม่คือแม่ผม ตอนนี้แม่ก่อเรื่องวุ่นวาย แล้วมันจะได้อะไร?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยถามเธอไป๋ซิ่วฮุ่ยพูดไม่ออกก็แค่ไม่อยากฟังการอ่านพินัยกรรม“ผมได้รับความไว้วางใจจากซ่งลี่เฉิง เมื่อเปิดพินัยกรรม เขาแบ่งสมบัติอย่างเท่าเทียม กองทุนของตระก
เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล
ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ
เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น
ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย
พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที
ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่
"ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ
ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื