“....” มายูเธอเลือกที่จะพยักหน้าแทนการพูดตอบเพราะในตอนนี้เธอทั้งเจ็บทั้งจุกปะปนกันไปหมดไม่ชินสักทีกับขนาดของพี่มิวนิค ใบหน้าเรียวเล็กได้รูปเริ่มมีเม็ดเหงื่อซึมทำคนพี่ที่มองเห็นรีบประคองใบหน้าสวยจับเข้าที่ปลายคางจูบซับไปตามกรอบหน้ารูปไข่“เดี๋ยวก็ไม่เจ็บลองขยับขึ้นลงดูสิ!!!” เขาพูดบอกเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมทั้งเริ่มเผยตัวตนแสดงความเจ้าเล่ห์ออกมา ใบหน้าหล่อเหลายิ้มร้ายขึ้นมือหนาจับเข้าที่เอวคอดพร้อมทั้งยกร่างเธอให้ขยับขึ้นลงครอบครองแก่นกายของเขา มายูมองหน้าว่าที่คู่หมั้นหนุ่มด้วยแววตาหวานหยาดเยิ้มค่อยๆขยับโน้มใบหน้าหมายจะเข้าไปจูบที่ริมฝีปากได้รูปนั่น ชายหนุ่มที่รู้ว่าคนน้องต้องการที่จะทำอะไรก็รีบผละใบหน้าถอยห่างอย่างต้องการที่จะกลั่นแกล้งเธอ ทำเอาร่างบางเริ่มชักสีหน้าไม่พอใจ มิวนิคยกยิ้มโน้มใบหน้าเข้าใกล้เธอพร้อมกระซิบเข้าไปใกล้ใบหูขาวเนียนของคนตัวเล็ก“อยากจูบพี่เหรอ? ถ้าอยากจูบพี่เราต้องช่วยพี่ขย่ม พี่อยากโดนเราทำโทษ!!” สายตาหื่นกระหายไล่มองทั่วเรือนร่างเย้ายวนและเมื่อเขาพูดบอกเธอเสร็จก็เริ่มใช้ปลายลิ้นปาดเลียไปตามใบหูทำคนน้องขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัวหญิงสาวเอียงตัวหันหนีลิ้นร้ายแซ
“ไม่เช้าแล้วนี่ 10โมงแล้ว~” หญิงสาวหรี่ตามองไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ขณะนี้เป็นเวลาสิบโมงเข้าไปแล้ว อยู่ดีๆก็พลันนึกขึ้นมาได้ถึงเรื่องที่เพื่อนสนิทได้โทรเข้ามาบอก มายูรีบกดเปิดแอพพลิเคชั่นไอจี เปิดแล้วแทบช็อค เมื่อเห็นภาพภาพนั้น ภาพเธอกับพี่มิวนิคที่หันหน้าเข้าหากัน ใบหน้าแนบชิดสนิทกัน ไม่สิไม่ใช่เพียงแค่ใบหน้าแต่ส่วนต่างๆของร่างกายก็แนบชิดสนิทกันไปเสียทุกส่วน“เดี๋ยวนะ! นี่มันรูปอะไรเนี่ย กรี๊ด~”ร่างเล็กกรีดร้องขึ้นเธอดึงผ้าห่มออกจากตัว หมายที่จะลุกขึ้นนั่งแต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อพบว่าตัวเธอเองนั้นไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยแม้แต่เพียงสักชิ้นและที่มากไปกว่านั้นก็คือเธอพบว่าข้างกายของเธอยังมีพี่มิวนิคที่กำลังนอนคว่ำหน้าแถมยังเปลือยกายนอนหลับอยู่อย่างสบายใจหญิงสาวรีบเอามือปิดปากรู้ได้ในทันทีว่าเมื่อคืนทั้งเธอและเขาคงหนีไม่พ้นทำเรื่องอย่างว่าอีกแล้วแน่ๆเลย เธอแทบอยากจะดึงทึ้งเส้นผมของตัวเอง อะไรถึงทำให้มันเกิดเรื่องอย่างว่าขึ้นได้อีก ร่างบางพยายามครุ่นคิดแต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก“เอาไงดีๆ” มายูพึมพำออกมาเบาๆแล้วตัดสินใจเลือกที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างเงียบๆ ร่างเล็กค่อยๆขยับถอยห่างหมายที่จะล
“พอพี่บอกว่าพี่ไม่ทำเพราะเราเมาอยู่ เราก็เลยเอามือบังคับใบหน้าพี่ไว้ แล้วเอาหน้าอกของเราน่ะเอามาป้อนเข้าปากพี่” มิวนิคเม้มปากแน่นพร้อมกับทำสีหน้าจริงจังสายตาคมที่เขาใช้มองมาทำร่างเล็กรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันใดอีกทั้งเขายังเอานิ้วมือจิ้มที่เนินหน้าอกของเธออีกด้วย“…..” ฉันนี่ถึงกับอึ้งไปเลยนี่ฉันทำอย่างนั้นจริงๆใช่มั้ย มายูเอ๋ยทำอะไรลงไปแล้วฉันจะมีหน้ามองหน้าพี่เขาได้อีกมั้ยเนี่ย “มายูครับ..พี่พยายามฝืนสุดกำลังแล้วแต่พี่สู้แรงเราไม่ไหวจริงๆ” ใบหน้าหล่อเหลาแสร้งพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอเงียบไม่ได้ตอบกลับอะไรเขา พี่มิวนิคทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เหมือนโดนฉันกำลังพรากความบริสุทธิ์อย่างไรอย่างนั้นมิวนิคที่เห็นใบหน้าและแววตาของมายูที่เหมือนจะเริ่มคล้อยตามไปกับสิ่งที่เขาบอกก็ยิ้มอย่างพึงพอใจแต่ก็เพียงแค่แปบเดียวเท่านั้นแล้วเขาก็ปรับสีหน้าให้เศร้าเหมือนเดิม เมื่อโกหกแล้วมันต้องเล่นให้สุดต้องเฟคให้ถึงสุด~“พอแล้วค่ะ ไม่อยากฟังแล้ว” ร่างบางยกมือขึ้นปิดหูตัวเองในตอนนี้ไม่อยากรับฟังอะไรทั้งนั้น มิวนิคดึงมือเธอออกโน้มใบหน้าเข้าใกล้ ยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นเพียงนิดแล้วปรับสีหน้าเป็นปกติเหมือนเดิม“เดี๋ยว
เสียงลมหายใจเหนื่อยหอบของคนทั้งคู่ดังออกมาไม่หยุด มิวนิคมองไปยังร่างบางที่เอาแต่นอนหายใจเหนื่อยก็เอ่ยแซวเธอ “อีกรอบได้มั้ย?”ทำร่างบางหันหน้าขวับจ้องหน้าเขาด้วยแววตากรุ่นโกรธนี่เขาจะมากเกินไปแล้วนะพึ่งจับเธอกินไปเมื่อวานแท้ๆแล้วยังมาตอนเช้านี่ก็อีกแล้วยังจะมีหน้ามาพูดว่าอีกรอบได้มั้ยอีกเหรอเดี๋ยวเหอะ!! เดี๋ยวจะตีให้ตายเลยนี่!!“มายูครับ พวกเราเป็นแฟนกันดีมั้ย?” อยู่ดีๆพี่มิวนิคก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมาทำเอาฉันนี่สตั้นไปเลยทำไมเขาถึงได้คิดที่จะขอฉันเป็นแฟนทั้งๆที่พวกเราก็มีสถานะเป็นว่าที่คู่หมั้นกันอยู่แล้วและเมื่อเห็นว่าฉันเงียบเอาแต่จ้องมองเขา เขาจึงได้ถามกันออกมาอีกครั้ง“ได้ยินที่พี่ถามมั้ย?” มิวนิคถามย้ำอีกครั้งอย่างมีความหวังลึกๆว่าเธอคงจะตอบตกลงและยอมรับรักเป็นแฟนกับเขา ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นขอกันตรงๆแบบนี้แล้วจะให้เธอตอบเขาว่าอย่างไรในเมื่อเธอยังมีเรื่องที่ค้างคาใจอยู่เลย“แฟนเหรอคะ? ทำไมพี่ถึงได้อยากเป็นแฟนกับมายูละคะทั้งๆที่ต่อไปพวกเราก็คงต้องหมั้นกันอยู่ดี”“พี่อยากคบอยากเป็นแฟนกับเรา อยากลองใช้ชีวิตด้วยกันดู อยากไปเที่ยว อยากเปิดตัวอยากไปในทุกๆที่กับเราครับ..มายู” ดวงตากลมโ
“เราพูดจริงนะ ไม่ได้หรอกให้พี่ดีใจใช่มั้ยเนี่ย พี่จะดูแลเราเป็นอย่างดี พี่สัญญา” รอยยิ้มกว้างฉายชัดอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาดวงตาของเขาเป็นประกายวิบวับด้วยความตื่นเต้น หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูกรู้สึกโลกทั้งโลกกำลังมีดอกไม้ร่วงหล่นลงมาและเป็นดอกไม้สีชมพู~“แล้วเรื่องที่พี่บอกว่าถ้าดื่มเหล้าแล้วจะมีอารมณ์ งั้นพี่เลิกดื่มได้มั้ยคะ?” มายูเอียงคอถามไปยังเรื่องดื่มเหล้าแล้วจะมีอารมณ์ของชายหนุ่มว่าที่คู่หมั้น ถ้าดื่มแล้วมันทำให้เกิดอารมณ์งั้นลองเลิกดื่มดีมั้ยแล้วเขาจะยอมทำตามที่เธอบอกหรือเปล่า“สำหรับเราแค่พี่ได้มองเห็นใบหน้าสวยๆของเรา ไอ้เจ้าลูกชายของพี่ก็ขึ้นแล้วครับไม่ต้องพึ่งเหล้าพึ่งเบียร์หรืออะไรเลย” ร่างหนาพูดพร้อมกับจับมือเล็กให้ไปสัมผัสกับเจ้าลูกชายตัวดีของเขาที่มันกำลังเริ่มขยายพองลำตัว ร่างบางรีบดึงมือกลับเมื่อรู้สึกได้ว่ามันกำลังผงาดดูน่ากลัวเหลือเกิน “บ้า~ เอาเป็นว่าพี่อย่าดื่มเยอะอีกนะคะแล้วก็จะไปไหนก็ต้องบอกมายูก่อน โอเคมั้ยคะพี่จะรู้สึกอึดอัดหรือเปล่า?” ใบหน้าแดงปลั่งอมชมพูสะพรั่งเริ่มออกคำสั่งปนห้ามปรามคนพี่พร้อมทั้งหันหน้าเมินหนีมองไปทางอื่น เธอไม่มีความกล้าแม้กระทั่งจะสบสายตาค
-บ้านกิจขจรเลิศชัย-จวบจนเลยเวลาเข้าสู่ช่วงเวลาบ่ายโมงทั้งคู่ได้ขับรถเดินทางมายังบ้านของมิวนิคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร่างบางที่อยู่ในชุดกระโปรงเดรสสีหวานหยิบกระจกขึ้นมาส่องดูความมั่นใจของตัวเองอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาบ้านของมิวนิคและมาในฐานะแฟนสาวของเขาอีกด้วยทั้งคู่ยิ้มให้กันและกันก่อนที่จะเปิดประตูและก้าวเดินลงจากรถ มิวนิคเดินเข้ากอบกุมมือของแฟนสาวเอาไว้ เขารู้ว่าเธอคงตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่จะได้มาเจอกับครอบครัวของเขา“ไม่ต้องตื่นเต้นนะ พ่อกับแม่พี่พวกท่านใจดี” มิวนิคบอกกับแฟนสาวก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้ามาถึงประตูหน้าบ้าน ร่างบางที่ได้ยินคำพูดปลอบโยนก็หันหน้ามองเขาพร้อมกับฉีกยิ้มสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่“อ้าวมิวนิคจะมาไม่เห็นบอกแม่เลย” เสียงหวานดังขึ้นทำให้พวกเราทั้งคู่หันหน้ากลับไปมองทางด้านหน้าก็พบว่าแม่ของพี่เขากำลังเดินลงมาจากบันไดพร้อมกันกับผู้เป็นพ่อ“ผมรีบมาน่ะครับเลยลืมบอกแม่ไปเลย พ่อแม่สวัสดีนะครับ” มิวนิคยกมือขึ้นไหว้พ่อกับแม่ของเขา ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มกว้างด้วยความคิดถึงพวกท่านทั้งสองคนเป็นอย่างมาก มายูที่มองทั้งสามสลับกันก็รีบยกมือขึ้นสวัสดีพวกท่านทั้ง
“หึ อยู่แล้วครับ” น้องชายรีบยักไหล่อย่างยอมรับว่าเขาน่ะโชคดีตามที่พี่สาวได้บอกนั่นแหละ เขาไม่เถียงเพราะมายูเป็นคนที่ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิตของเขา มิวนิคหันมาส่งยิ้มให้กับมายูแล้วเริ่มเล่าเรื่องสามพี่น้องของเขาให้เธอได้ฟังคร่าวๆ“พี่มาร์กี้เป็นพี่สาวคนโต พี่แมทเป็นคนกลางส่วนพี่เป็นคนเล็กสุดท้องน่ะ บ้านพี่มีพี่น้อง3คน”“แล้วพี่แมท..” ร่างเล็กพยักหน้าเข้าใจและอยู่ดีๆปากดันถามไปถึงพี่แมทที่ช่วงนี้เธอไม่ได้เห็นหน้าเขา เลยพลั้งปากถามออกไปทำเอามิวนิคหุบยิ้มทันควันอารมณ์หงุดหงิดเริ่มฉายแววแสดงออกมาอย่างลืมตัว“ไปถามถึงพี่แมททำไม? หรือว่าเรายัง..” ความหงุดหงิดทำคนใจร้อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วดูดุจนคนฟังเริ่มรับรู้และสังเกตได้ ร่างเล็กอึ้งไปชั่วครู่เหมือนกำลังคิดชั่งใจอย่าบอกนะว่าที่เขาเป็นแบบนี้เพราะคิดว่าเธอยังชอบพี่แมทอยู่ชัวร์! เขาต้องคิดอย่างนั้นอยู่แน่ๆ~“เปล่าค่ะก็แค่ถามมั้ยคะแล้วพี่จะมาหงุดหงิดอะไร หรือพี่คิดว่ามายูยังชอบพี่แมทอยู่” มายูส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมทั้งถามเขาว่าจะมาหงุดหงิดอะไรแต่ปากไวไปหน่อยเลยพูดไปตามความรู้สึกนึกคิดเขาคิดได้ยังไงว่าฉันยังชอบพี่แมทอยู่บ้าจริง ฉันเลิกชอบพ
“วันนี้ยกเลิกประชุมช่วงเย็นค่ะแม่ ก็เลยกลับบ้านไวและหนูก็อยากกินข้าวที่บ้านฝีมือแม่ด้วยค่ะ” มาร์กี้ยิ้มหวานแล้วเดินเข้าไปกอดร่างบอบบางของผู้เป็นแม่ เธอหอมแก้มนิ่มของแม่เพื่ออยากเอาใจท่านอย่างรู้ดีที่สุดว่าแม่ของเธอต้องการให้ลูกๆหอมแก้มเธอเหมือนครั้งเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ“ปากหวานอีกแล้วว่าแต่หนูมายูไปไหนแล้ว” แม่ตีมือลูกสาวคนโตเบาๆสายตามองไปทั่วแต่กลับไม่เจอมายูจึงได้เอ่ยถามลูกๆทั้งสอง หางตาของมาร์กี้เหลือบไปเห็นว่ามายูกำลังเดินเข้ามาพอดีจึงรีบชี้ไปทางเธอจนผู้เป็นแม่รีบมองตามไปด้วยทันที“นั่นไงคะแม่ว่าที่ลูกสะใภ้คนสวยของแม่ เดินมานั่นแล้ว” แม่หันหน้าไปยิ้มให้กับว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านจนเมื่อเธอเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว เธอจึงรีบคว้ามือของมายูแล้วพาเธอเดินไปยังโต๊ะอาหารของบ้านทันที“ไปจ้ะหนูมายูไปกินข้าวกัน” และทันทีที่มาถึงยังบริเวณโต๊ะอาหารหญิงสาวเลือกที่จะขอแม่มิวนิคนั่งข้างๆเก้าอี้ของท่านเพราะเธอเห็นว่ามิวนิคนั้นเดินไปนั่งยังฝั่งตรงข้ามของเธอ“หนูนั่งตรงนี้นะคะคุณแม่”“งั้นผมขอนั่งตรงนี้” มิวนิครีบเดินข้ามฝั่งมานั่งลงยังเก้าอี้ข้างกายมายูในทันที ทำร่างบางยู่หน้าอย่างไม
“ยินดีด้วยน้าเจ้าสาวคนสวย~” อลิสที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำก็รีบเดินปรี่เข้ามาหามายูและพราวพร้อมทั้งแสดงความยินดีไปยังเพื่อนสาวคนสวยที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอ“ขอบใจนะอลิส”“มายูกับพราวมีลูกแฝดชายหญิงแล้วแกอะอลิสเมื่อไหร่จะมีลูกสักทีฉันอยากช่วยเลี้ยงหลานแล้วเนี่ย” ชะเอมที่เดินตามอลิสมาติดก็เอ่ยปากแซวอลิสทันที เธออยากเห็นเด็กตัวน้อยที่เป็นลูกของอลิสเพื่อนรัก อลิสหันกลับมามองพี่สะใภ้ใหญ่แล้วรีบเอ่ยแซวเธอกลับไปทันควัน ตัวเธอเองก็อยากมีและพึ่งเริ่มปล่อยไปตามธรรมชาติยังไงคงต้องรออีกสักพักละมั้ง“ฉันพึ่งเริ่มปล่อยธรรมชาติเองคงต้องรอแหละว่าเด็กน้อยจะมาเมื่อไหร่แล้วแกอะชะเอมถามแต่ฉันอยู่ได้ พี่สะใภ้ใหญ่ต้องมีก่อนสะใภ้เล็กสิคะจริงมั้ย” ชะเอมนิ่งไปทันทีพร้อมกับกรอกตามองบนไปอย่างนั้นแต่ความจริงแล้วเธอก็อยากมีเหมือนกันติดก็เพียงว่าเมื่อไหร่เด็กน้อยจะมาเกิดในท้องเธอก็เท่านั้น “พักก่อนเอาไว้ให้แกมีก่อนฉันค่อยมี”หลังจากที่พวกเธอคุยกันไปได้สักพักพิธีกรก็ได้เรียกเจ้าบ่าวและเจ้าสาวขึ้นไปบนเวที พิธีเริ่มดำเนินการไปเรื่อยๆจนมาถึงพิธีการโยนช่อดอกไม้ เหล่าบรรดาสาวงามที่ยังโสดต่างก็พากันมายืนรอรับช่อดอก
“ผมได้ลูกแฝดเหรอครับคุณหมอ” ทันทีที่สติเริ่มกลับคืนมามิวนิคก็เริ่มถามย้ำเพื่อให้ตัวเองแน่ใจอีกครั้งว่าเขาไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย คุณหมอพยักหน้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มจริงจังเพื่อเป็นการยืนยันว่าเรื่องที่พูดไปเธอไม่ได้โกหกและแถมเธอยังชี้ไปในภาพตรงจุดที่น้องแฝดอยู่“ใช่แล้วค่ะ ตรงนี้คือน้องคนแรกและตรงนี้คือน้องคนที่สองนะคะ”“ทางคุณพ่อกับคุณแม่อยากทราบเพศของน้องแฝดมั้ยค่ะ สามารถตรวจ NIPT ได้นะคะจะสามารถรู้เพศได้ตรวจเพื่อหาความเสี่ยงทางพันธุกรรมต่าง ๆ ของทารกในครรภ์น่ะค่ะ”“ตรวจค่ะ พี่มิว~ มายูตรวจนะคะ” มายูหันมองมิวนิคเธอต้องการที่จะตรวจหาความเสี่ยงก่อนและเธอก็อยากที่จะรู้เพศของลูกๆในท้องเธออีกด้วยเพื่อที่จะได้ค่อยๆเลือกซื้อหาเสื้อผ้าและอุปกรณ์เลี้ยงเด็กมาเตรียมเอาไว้“พี่ตามใจเราครับ” มิวนิคบีบมือมายูแน่นรู้สึกดีใจจนน้ำตาเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง เขาก็คิดแบบเธอตรวจแล้วจะได้รู้เพศของลูกน้อยเลยและในวันนั้นมายูก็ได้ฝากครรภ์กับทางคุณหมอคนนี้เป็นที่เรียบร้อย ทั้งคู่พากันขับรถกลับมายังคอนโดของตัวเอง21.00น.ท่ามกลางความเงียบสงบในยามค่ำคืนเสียงแอร์ที่ดังเพียงเล็กน้อยเขาตั้งอุณหภูมิเอาไว้ที่ 25องศาซึ่งเป็นอ
มิวนิคพยักหน้าเดินจูงมือไปพร้อมกับหญิงสาวคนรักและในตอนนี้มายูก็ได้เดินไปหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณทุ่งดอกไม้สีม่วงเป็นที่เรียบร้อย มิวนิครีบหยิบโทรศัพท์ของเขานำมันขึ้นมากดถ่ายรูปให้คนรักรวมไปถึงถ่ายรูประหว่างเขาและเธอโดยที่มีพื้นหลังคือทุ่งดอกไม้สีม่วงนั่นเองและในระหว่างที่หญิงสาวกำลังชื่นชมไปกับความงามของทุ่งดอกไม้นานาชนิดอยู่นั้น มิวนิคก็เรียกชื่อของเธอออกมา “มายูครับ”“ว่าไงคะ..พี่มิว~”มายูหันหลังกลับมามองตามเสียงที่เรียกก็พบว่าพี่มิวนิคได้นั่งคุกเข่าในมือถือกล่องแหวนที่เปิดเอาไว้อยู่แล้ว ภายในกล่องมีแหวนเพชรที่ขนาดกำลังพอดี ร่างบางขนลุกซู่ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะขอเธอแต่งงานในเวลาแบบนี้เธอยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรทั้งนั้น“แต่งงานกับพี่นะ” มิวนิคยิ้มกว้างแล้วเอ่ยขอเธอแต่งงาน มายูเม้มปากแน่นเริ่มมีน้ำตาไหลซึมรู้สึกดีใจที่เขาขอเธอแต่งงานในวันสำคัญของเธอแบบนี้“แต่งค่ะ ฮึก~” มายูตอบตกลงโดยทันทีน้ำตาที่ไหลออกมาทำให้เสียงของเธอสั่นคลอนไปด้วย ร่างบางดึงรั้งท่อนแขนมิวนิคให้ลุกขึ้นยืน ทั้งคู่สวมกอดกันด้วยความรักและความเข้าใจ เขาและเธอต่างก็ดีใจเป็นอย่างมากที่มีกันและกันมาจนถึงวันนี้วันที่เขา
“อ๊า มายูไม่ไหว อะ อื้อ~” แม้ว่าเธอจะพยายามกลั้นเสียงหวีดร้องสักแค่ไหนแต่ก็มีเผลอหลุดออกมาง่ายๆโดยที่ควบคุมไม่อยู่ ร่างบางสั่นสะท้านไปถ้วนทั่วทั้งตัวความรู้สึกเสียวที่กำลังได้รับทำให้เธอโน้มใบหน้าเข้าหาลำคอขาวเนียนของเขามายูขบเม้มสร้างรอยรักแล้วค่อยๆใช้ปลายลิ้นเลียไปตามซอกคอไล่ไต่ระดับลงมายังบริเวณหัวนมเม็ดเล็กสีน้ำตาล เธอเปรยตามองเขาเพียงนิดก่อนที่จะแลบลิ้นดูดหัวนมของคนพี่ ลิ้นระรัวไปมาสร้างความเสียวซ่านให้กับมิวนิคเป็นอย่างมากจนแทบจะแตกอยู่รอมร่อ เขารีบเร่งสวนสะโพกขึ้นลงด้วยความร้อนแรงอีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะเสร็จสมอารมณ์หมาย“มายูหนูทำดีมากเลย พี่ใกล้แล้วครับคนสวย” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบข้างใบหูในขณะที่เธอยังคงดูดเลียหัวนมปรนเปรอเขาไม่หยุด ร่างกายสาวบิดเร่าเกร็งไปทุกสัดส่วนตรงบริเวณนั้นรับรู้ได้เลยว่าตัวเองคงใกล้ที่จะเสร็จเต็มที เธอผละใบหน้าออกจากหัวนมของชายหนุ่มแล้วรีบประกบริมฝีปากทาบทับปากเรียวเล็กได้รูปของเขาแล้วในไม่ช้าเธอก็เสร็จถึงจุดสุดยอด“อร้ายย~” มายูถึงจุดสุดยอดภายในพริบตาสะโพกสั่นกระตุกไม่หยุดอย่างควบคุมไม่ได้ตัวสั่นระริกปลดปล่อยทุกอย่างออกมาจนหมดเนื้อตัวชาวาบ
“ขอกินนมรสสตอร์เบอรี่หน่อยสิ~” สายตาที่จ้องมองมาอย่างจาบจ้วงทำเอาใบหน้าสวยร้อนผะผ่าวคงไม่ต้องบอกว่าเขาหมายถึงอะไรร่างบางส่ายหน้าพร้อมทั้งเขยิบถอยไปข้างหลังแต่แล้วเธอกลับโดนมือแกร่งรวบเข้าที่เอวเล็ก ออกแรงยกเธอให้ขึ้นมานั่งอยู่บนตักแกร่งของตัวเอง“อะ~ พี่มิวอย่าแกล้ง!! หยุดมองหน้าอกของมายูสักที เขินนะ!” มายูรีบส่งเสียงตะโกนบอกให้เขาเลิกจ้องหน้าอกของตัวเองสักที โดนมองนานๆแบบนี้เป็นใครบ้างที่จะไม่เขิน แล้วก็นะถึงจะอยู่ด้วยกันมานานหลายปีเธอก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะชินได้เลย“อืม พี่ไม่มองก็ได้~” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับอย่างเข้าใจพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาหน้าอกของแฟนสาวในเมื่อไม่ให้มองถ้าแบบนั้นก็คงต้องทำอย่างอื่น เช่น ดูดๆเลียๆผสมๆกันไป“อะ พี่มิว อะ อื้อ~ อย่าเลีย! อื้อ อึก สะ เสียว อ๊า~” ในทันทีที่โดนลิ้นสากแตะลงบนยอดอก ร่างบางก็สะดุ้งขึ้นมาทันที ความเอาแต่ใจของพี่มิวนิคนี่เธอคงต้องขอยอมแพ้ พี่เขาเป็นพวกอยากได้หรืออยากทำอะไรเขาต้องได้ต้องทำเดี๋ยวนั้นเลยปลายลิ้นเลียวนรอบฐานอกสีหวานสายตาเจ้าเล่ห์แหงนหน้ามองแฟนสาว มือหนาทั้งสองจับเข้าที่สะโพกสวยออกแรงยกขึ้นเพียงเล็กน้อย เขาค่อยๆกดจุดหวงแหนของคนต
ทันทีที่เข้ามาในห้องพัก ภาพตรงหน้าทำให้มายูเบิกตากว้างยิ้มเล็กๆเริ่มกลับกลายเป็นยิ้มกว้างขึ้นจนสุด เธอกวาดตามองไปรอบๆห้องอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าความฝันของตัวเองในวัยเด็กจะเป็นจริงขึ้นมาในวันนี้“หูย ในห้องวิวก็ยังสวย~” ร่างบางเดินเข้ามาในห้องพักเดินไปยืนหยุดอยู่ตรงจุดชมวิวที่มีอ่างอาบน้ำจากุชชี่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่และไม่รอช้าหญิงสาวรีบหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดถ่ายรูปบรรยากาศของที่นี่มิวนิคเดินเงียบๆเข้ามาหยุดยืนอยู่ทางด้านหลังแฟนสาวคนสวย มือแกร่งโอบกอดเอวบางของมายูเอาไว้ทำเอาร่างบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเพราะเธอมัวแต่ให้ความสนใจไปกับความถ่ายรูปวิวทิวทัศน์“อะ พี่~”“สวยมากๆเลยใช่มั้ย? ถูกใจเราเลยสิท่า วิวก็ดีแบบนี้เหมาะที่จะ..” เสียงทุ้มแหบพร่าพูดขึ้นริมข้างหูแต่ชายหนุ่มสุดเจ้าเล่ห์ไม่เพียงแค่พูดเพียงอย่างเดียวแต่เขายังพูดไปพลางก็เป่าลมใส่หูของเธอไปด้วยนี่น่ะสิ“จะอะไรเหรอคะ..นี่ยังกลางวันอยู่เลยนะพี่มิว” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นสิ่งที่เขาพูดออกมา เธอเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าแฟนหนุ่มสุดหล่อนั้นหมายถึงอะไร แต่นี่มันยังตอนกลางวันอยู่เลยนะ“ก็ไม่มีใครเห็นสักหน่อย ได้มั้ยครับ” เสียงอ้อนดังขึ
2ปีต่อมาวันรับปริญญาของมายูและผองเพื่อนชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาเดินยิ้มถือช่อดอกไม้เดินฝ่าฝูงชนเข้ามาหาหญิงสาวผู้เป็นที่รัก เขายื่นช่อดอกไม้นั้นให้กับเธอพร้อมกับหอมแก้มขาวเนียนที่ตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง“ดอกไม้สำหรับแฟนสาวคนสวยของพี่ครับ”“ขอบคุณนะคะ พี่มิวน่ารักที่สุดเลย รู้ใจไปหมดทุกอย่างว่ามายูชอบดอกไม้ดอกนี้” มายูรับช่อดอกไม้จากมือแฟนหนุ่มด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้างอย่างสดใส วันนี้เป็นที่ดีของเธอเป็นวันที่เธอได้รับปริญญา หลังจากที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมาตลอดทั้ง 4 ปี“เมียทั้งคนจะไม่รู้ได้ไง จริงมั้ย?” มิวนิคฉีกยิ้มหวานจนบรรดาผู้หญิงสาวรอบข้างต่างพากันยืนอิจฉามายูกันทั้งนั้นที่ได้แฟนหล่อๆแบบนี้ ร่างบางแนบชิดเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัดพอประมาณ เธอต้องการให้พวกผู้หญิงที่อยู่รอบๆกายเธอได้ยินไปกับประโยคที่เธอพูดออกมา“ยังไม่ได้แต่งยังไม่ต้องเรียกเมียก็ได้นะคะ” ร่างบางฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเอนศีรษะอิงซบไหล่กว้างของมิวนิค เหลือบสายตามองไปทางกลุ่มหญิงสาวที่กำลังมองตาหวานเยิ้มมองจ้องแฟนหนุ่มของเธออยู่ เหล่าผู้หญิงพวกนั้นพอได้ยินสิ่งที่มายูได้พูดออกมาก็รีบหันหน้าหนีเลือกที่จะเ
“อะ พี่มิว..” มายูสะดุ้งเฮือกหันมองไปทางด้านหลัง มือหนาโอบกอดร่างกายของเธอไว้แน่นพลางเอ่ยถามไปยังคู่หมั้นสาวที่กำลังเหม่อลอยอยู่ ถึงขนาดที่ว่าเขาเดินเข้ามาเธอยังไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ“กำลังคิดอะไรอยู่เหรอพี่เดินเข้ามาถึงได้ไม่รู้ตัว” เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นข้างใบหูอยากรู้นักว่าเธอกำลังใจลอยคิดอะไรอยู่ มายูพลิกหมุนร่างกายหันหน้ามาเผชิญหน้าแฟนหนุ่มพลางส่งยิ้มหวานละมุน“มายูกำลังคิดว่าวันนี้มายูมีความสุขมาก คิดไปถึงเรื่องที่พวกเราเล่นแอพหาคู่แล้วเจอกันค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าแอพนั่นจะทำให้พวกเราได้คุยกัน โลกกลมจริงๆ” เธอพูดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายชัดขึ้นบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด“พี่รู้สึกชอบเราตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันเลย แต่เราดูเหมือนไม่ชอบขี้หน้าพี่แถมครั้งแรกที่พวกเราได้เจอกัน พี่ยังอยู่ในสภาพนั้นแล้วอยู่กับผู้หญิงคนอื่นด้วยอีก ถ้าย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้พี่จะไม่ทำตัวเจ้าชู้เป็นเสือผู้หญิงแบบที่แล้วมา ขอโทษสำหรับเรื่องที่มันได้ผ่านไปแล้วด้วยนะ”“พี่มิวไม่ต้องขอโทษแล้วนะคะ เรื่องพวกนั้นมันได้ผ่านไปแล้ว ยังไงตอนนี้พวกเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะคะ” มายูส่ายหน้าไปมาเรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ขอใ
“ยินดีด้วยนะจ้ะน้องมายู ยินดีตอนรับสู่ครอบครัวของเราน้า” มาร์กี้ที่เดินเข้ามาจากทางด้านหลังก็ส่งเสียงทักทายมายังเจ้าของงานในวันนี้ มายูและมิวนิครีบหันหลังจากไปมองและก็เป็นมายูที่เดินเข้าไปโอบกอดร่างบางของพี่สาวคนโตของพี่มิวนิค“ขอบคุณค่ะพี่สาว หนูก็ดีใจที่จะมีพี่สาวเพิ่มอีกคน”และเมื่อทั้งคู่กอดกันเสร็จแล้ว มายูก็ผละตัวออกเธอเห็นกลุ่มเพื่อนสนิทของตัวเองยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของงานไม่รอช้าเธอจึงขออนุญาตเพื่อที่จะเข้าไปพวกเขา“งั้นมายูขอตัวเดินเข้าไปหาเพื่อนก่อนนะคะ พี่มิวเดี๋ยวมายูมานะคะ” ร่างบางไม่ลืมที่จะหันหน้าไปมองคู่หมั้นหนุ่มก่อนที่จะเดินออกไปจากตรงนั้น มายูเดินเข้ามาหากลุ่มเพื่อนสาวที่ต่างก็กำลังยืนอยู่กับแฟนหนุ่มของตัวเองยกเว้นก็แต่ชะเอม..ที่ยังไม่พามาเปิดตัวสักที“ไงจ้ะคนสวยเหนื่อยมั้ยเนี่ย” พราวพูดขึ้นทันทีที่เห็นมายูเดินเข้ามาใกล้“นิดหน่อยแต่มีความสุขมาก” มายูยิ้มกว้างตอบกลับเพื่อนกลับไปถึงวันนี้จะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขมากเช่นกัน เธอคิดว่าความสุขที่ได้รับในวันนี้คงมากกว่าความเหนื่อยอย่างแน่นอน“พี่ยินดีด้วยนะ” ธาวินแฟนหนุ่มของพราวพูดขึ้นหลังจากที่แฟนสาวของตัวเองได้พูดแสดงความยิน