ไฉหรานวิ่งไปปาดน้ำตาไปไม่หยุดอยากจะร้องให้หนักกว่านี้แต่รู้ว่ามันเปล่าประโยชน์เขาไมไ่ด้เปลี่ยนไปหากแต่เฉินซือกวานเขาลืมทุกอย่างและที่ผ่านมาไมไ่ด้สนใจต่างหากเล่า“ไฉหราน ท่านน้าทำไมร้องไห้”ต้าเหนิงคว้าข้อมือของไฉหรานที่หลับหูหลับตาวิ่งตั้งใจไปซบที่ไหล่ของเชียวกงเล่อ“ขะขะข้าเปล่านะไมไ่ด้ร้องแค่ฝุ่นผงมันเข้าตา”เชียวกงเล่อเองตกใจไม่น้อยกับสภาพของน้องสาวเพียงคนเดียวที่เห็น“เกิดอะไรขึ้นมาข้าไม่อยู่เพียงไม่กี่ชั่วยามเจ้ากลับถูกรังแกใครกันบังอาจรังแกเจ้า”เชียวกงเล่อจับที่ไหล่บางถามคาดคั้น ทุกคนในที่นั้นต่างก็ตกใจ“พี่ใหญ่ ฮือออออพี่ใหญ่เชียวมันไม่ได้เป้นอย่างที่ท่านคิด ข้าไม่ได้”“อ่าปากแข้งพูดความจริงมาเกิดอะไรขึ้นเชียวไฉหรานหาใช่คนที่ร้องไห้ฟูมฟายเช่นนี้”ต้าเหนิงรีบกอดปลอบคนยิ่งร้องพี่ชายเชียวยิ่งดุ“เฉนิซือกวานพี่ใหญ่เฉิน….อึกๆๆๆๆๆ”“เฉินซือกวาน…..บังอาจนัก”เชียวกงเล่อพุ่งตัวออกจากตรงนั้นเป้าหมายคือเฉินซือกวาน“พี่ใหญ่เชียวท่านท่านจะๆไปไหน””แหรานตะโกนตามหลังแต่อีกคนเครื่องติดแล้วพุ่งตัวออกไปไม่เหลียวหลัง“หานจงตามไป”ฉินเกอหลงสั่งดังๆๆหานจงรีบวิ่งตมเชียวกงเลฃ่อไปติดๆท่านหมอเยี่ยนฉือเองก็ร
“ฝ่าบาท พะพูดจริงๆใช่ไหมคำพูดนี้เชื่อถือได้ใช่ไหม”ฉินเกอหลงกอดร่างบางแนบกาย“รู้สึกใจหายบ้างไหมเวลาไม่พบหน้าข้า ความรู้สึกนี้ตอนนี้มันสุมอยู่เต็มอกของข้าและบอกข้าว่าอย่าให้เจ้าจากข้าไปไหนอีกอย่าปล่อยให้ต้องรู้สึกใจหายอีกจงให้เจ้าอยู่ข้างๆหันไปข้างๆตรงพบเจ้าเสมอ”ต้าเหนิงยิ้มสดใสยกแชนชึ้นกอดฉินเกอหลงอย่างแนบแน่นเช่นกันวังหลวง“ฝ่าบาทเสด็จกลับแล้วววววว”เสียงขันทีขานดังๆ”ฉินเกอหลงกำมือต้าเหนิงเดินผ่านประตูวังเข้ามา พร้อมด้วยไฉหราน กลเล่อและหานจงปิดท่ายขบวนด้วยเฉินซือกวาน“ฝ่าบาท”ราชครูฉินที่รีบจับชายเสื้อคลุมสาวเท้าลงมาด้านล่างทรุดกายลงแสดงความจงรักภักดีอย่างออกนอกหน้า ทั้งที่ในใจผิดหวังที่เห้นว่าฉินเกอหลงกลับมาอย่างสวัสดิ์ภาพ“ข้าน้อยเฉินตงลี่ถวายพระพรฝ่าบาททรงพระจริญหมื่นปีหมื่นๆปี”ต้าเหนิงไปหลบด้านหลีงฉินเกอหลงเสีย“ขอบคุณท่านราชครูที่ส่งคนไปรับข้ากลับมา”เงยหน้ามองหาไป๋ลู่“ข้าน้อยมอบหมายให้เฉินซือกวานถวายการอารักขาฝ่าบาทจากด่านอูเอินหวังว่าการเดินทางจะปลอดภัยราบรื่น”ฉินเกอหลงยิ้มมุมปาก“เอ่อ เอ่อต้าเหนิง”เหมือนเพิ่งจะเห็นต้าเหนิงต้าเหนิงยิ้มโบกมือหยอยๆ“ฝ่าบาทเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเป็น
อารักขาฝ่าบาทอารักขาฝ่าบาท องครักษ์พวกเจ้าไปไหนเสียหมด”ต้าเหนิงตะโกนดังๆกลัวว่าฉินเกอหลงจะเป็นอันตรายองครักษ์มากมายวิ่งเข้ามารุมล้อมเฉินตงลี่ไว้ร่างสูงของเฉินซือกวานทรุดกายลงในอ้อมแขนของไฉหรานล้มลงไปด้วยกันท่ามกลางความตกตะลึงของคนทั้งหมด“เชียวกงเล่อตามท่านหมอเทวดาเยี่ยนฉือ”ฉินเกอหลงพูดเบาๆ เชียวกงเล่อประสานมือรีบกลับออกไปทางด้านหน้าประตูวัง “ทะท่านพ่อ พอเสียทีเถิดอย่าทำผิดมากไปกว่านี้”ดวงตาเจ็บปวดนั้นหันมองเฉินตงลี่“ม่ายยยยยยยยยยยยลูกพ่อม่ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”ถลาเข้ากอดเฉินซือกวานไว้แน่นผลักไฉหรานให้ถอยห่าง“หมอหมอท่านหมอรีบมาใครก็ได้ตามท่านหมอข้าราชครูเฉินสั่งพวกเจ้าไม่ได้ยินหรือไรตามท่านหมอมาดูลูกชายข้าเร็วเข้าฮือออออเจ้าต้่องไปไม่เป้นอะไร ซือกวานจะต้องนั่งบัลัลงก์แทนฉินเกอหลงคนนั้นพ่อปูทางมาให้เจ้าแล้วตระกูลเฉินข้าลงทุนมาเพียงนี้ไม่เพื่อบัลลังกืจะเพื่ออะไร ข้าส่งไป๋ลู่จัดการฉินเกอหลงเขาไปไหนเสียเจ้าคนชั่วไป๋ลู่นั่นปล่อยฉินเกอหลงกลับวังได้อีก”หานจงถอนหายใจส่ายหน้าไปมา ต้าเหนิงซบหน้าลงบนอกกว้างของฉินเกอหลงฉินเกอหลงกัดฟันจนเป็นสันนูนเฉินซือกวานหลับตาไล่ความเจ็บปวดเลือดสีแดงยังไหลออกจากบ
“ลาก่อนเชียวไฉหรานยินดีที่ได้พบเจ้า ข้าเมื่อก่อนหน้านั้นไม่ได้รังเกียจเจ้านะแปต่เพราะไป๋ลู่อยู่ที่นั่นข้ากลัวว่าจะเสียเรื่อง ข้าเองเจ็บปวดๆไม่น้อยกับหยาดน้ำตาของเจ้าแค่กๆแต่ตอนนี้ได้พูดความจริงออกไปก็สบายใจแล้วเจ้าไม่โกรธข้าใช่ไหมแค่กๆ”ไฉหรานส่ายหน้าไปมาน้ำตาร่วงพรู“ไม่โกรธไม่ทางโกรธ ท่านจะต้องไม่เป็นไรหากท่านทิ้งข้าไปตอนนี้ข้าจะโกรธท่านแน่”ซือกวานยิ้มเศร้าๆดวงตาอ่อนล้าโรยแรง“ข้าอยากจะอยู่อยากจะอยู่ที่นี่กับเจ้ากับพวกเขาทุกคนแต่ทว่าสวรรค์ให้โอกาสข้ามาแค่นี้แค่กๆๆๆจึงยินดีที่พบทุกคนวันนี้จึงถือโอกาสลาเสียทีซือกวานล่วงเกินอะไรพวกท่านต้องของอภัย”พยายามยกมือประสานตรงหน้าต้าเหนิิงเบือนหน้าหนีทำไมมันเจ็บปวดอย่างนี้ทำไมมันเศร้าอย่างนี้“อย่าห่วง ข้าจะละเว้นโทษตายกับบิดาเจ้าเฉินซือกวาน”ฉินเกอหลงพูดออกมาพร้อมกลบักลืนน้ำลายคอช้าๆเจ็บปวดไม่แพ้กัน กับจุดจบที่ไม่อยากให้เป็นแบบนี้“ขอบพระทัยฝ่าบาท”เอื้อมมือจับมือไฉหราน“เชียวกงเล่อ พี่ใหญเชียวฝากท่านดูแลน้องเล็กไฉหรานให้ดี ข้าไม่มีโอกาสได้ดูแลนางแล้วแค่กๆๆๆๆ ต้าเหนิงข้าขอโทษเจ้าแทนบิดาข้าแทนอี้เหมยแม้สิ่งที่บิดาข้ากับอี้เหมยที่ทำกับเจ้าตลอดมาเจ้
ก่อนหน้านั้นเรื่องราวทุกอย่างจบลงแล้ว อย่างนั้นหรือที่ห้องบรรทมของฉินเกอหลง ฉินเกอหลงดึงมือต้าเหนิงนั่งลงบนเก้าอี้"กลัวหรือไม่"ต้าเหนิงส่ายหน้า"แค่รู้สึกว่าชีวิตคนมันสั้นเหลือเกิน"ฉินเกอหลงปลดมวยผมสางผมให้ต้าเหนิงช้าๆ"คนที่ควรตายกลับไม่ได้รับอนุญาตให้ตายคนที่ไม่ควรตายกับรับบาปเคราะห์แทนคนที่สมควรตาย"ต้าเหนิงยิ้มเศร้าๆเฉินอี้เหมยเดินเข้ามาในห้องอย่างที่เคยทำประจำ เหลือบตามองมือเรียวของฉินเกอหลงที่กำลังสางผมให้ต้าเหนิงแล้วก้มหน้าลงเสีย เจ็บปวดใจจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ฉินเกอหลงไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้กับอี้เหมยแม้สักครั้งถึงจะสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กๆก็ตาม"ฝ่าบาท อี้เหมยได้ยินมาว่าฝ่าบาททรงปลดอี้เหมยจาก...จาก"น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ“ฝ่าบาทจะทำแบบนี้ไม่ได้ฝ่าบาทแต่ตั้งอี้เหมยเป็นฮองเฮาแล้ว แล้วทำไมถึงได้ทำร้ายกันได้ลงคอ เห็นว่าข้าไร้ที่พึ่งแล้วอย่างนั้นหรือบิดาถูกคุมขังพี่ชายก็ตายไปเสียแล้ว แล้วฝ่าบาท รักนางหรืออย่างไรในเมื่อความทรงจำหายไปเพียงนี้ยังอ้างว่ารักนางได้กระนั้นหรือ”อี้เหมยสะอื้นอย่างหนัก“แล้วอย่างไรเจ้าต้องการอะไร บิดาเจ้าสารภาพกับข้าทั้งหมดแล้ว”“สารภาพสารภาพอะไรกัน อย
ไม่เจ้าจะต้องไม่เป็นอะไรวิ่งอุ้มร่างโชกเลือดวิ่งเข้าไปในห้องเยี่ยนฉือที่เพิ่งวางมือจากการจัดการศพของเฉินซือกวานหันหน้ามาดวงตาเบิกค้าง รีบปัดข้าวของบนโต๊ะให้วางต้าเนิงลงบนนั้นต้าเหนิงยิ้มอดขำไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วตัวต้าเหนิงก็ต้องมานอนที่นอนเดียวกันกับซือกวานที่ตายไปแล้วสัจธรรมสินะในที่สุดก็ไม่มีใครหนีความตายพ้น “ฝ่าบาทวางนางบนแท่นนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินเกอหลงลังเลต้าหนิงกลับยิ้ม“ฝ่าบาท วางใจเถิดท่านหมอจะต้องช่วยต้าเหนิงได้”ฉินเกอหลงคอยๆวางร่างโชกเลือดลงบนแท่นนอนสูงโดยมีเยี่ยนฉือและหานจงช่วยกันประคอง“หานจง คุมตัวเฉินอี้เหมยที่คุกมืดห้ามให้นางเห็นเดือนเห็นตะวันรอจนกว่าต้าเหนิงอาการดีขึ้นข้าจะให้ให้ต้าเหนิงตัดสินโทษเฉินอี้เหมยด้วยตัวเอง”ดวงตาแข้งกร้าวหานจงรีบประสานมือต้าเหนิงคว้ามือฉินเกอหลงไว้ ฉินเกอหลงก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของต้าเหนิงเบาๆข้าไม่มีทางให้เจ้าเป็นอะไรข้าขอดทษของโทษทุกอย่างข้าไม่อาจไปรับเจ้าที่ซุตง้าไม่อาจจดจำเรื่องของเราได้แต่ตอนนี้ข้าได้เจ้ากลับคืนมาแล้วจดจำเรื่องราวทุกอย่างไรได้หวังแค่ได้ชดเชยให้เจ้าต้าเหนิงอย่าเพิ่งเป็นอะไรให้โอกาสข้าได้ทำเพื่อเจ้าบ้าง”“ฝ่าบาทรู้ไหมต้า
ความเศร้าโศกยังไม่จางหายไป เชียวกงเล่อกับเชียวไฉหรานวิ่งเข้ามาในเรือนรักษา ด้านหลังนั้นหานจงตามเข้ามาติดๆเยี่ยนฉือมองสบตาคนทั้งสามส่ายหน้าไปมา ฉินเกอหลงยังคงกอดร่างบางไว้แนบอก เลือดสีแดงไหลเปรอะอ้อมกอดของฉินเกอหลงแต่เขาก็ยังคงกอดต้าเหนิงไว้อย่างนั้น“ฝ่าบาท นางจากพวกเราไปแล้ว" หานจงก้มลงกระซิบเบาๆเสียงแหบแห้งเจ็บปวดในใจไม่แพ้กันฉินเกอหลงยิ้มทั้งน้ำตา ไม่ยอมปล่อยมือเป้นทางเดียวที่เขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดมากไปกว่านี้นั่นคือต้าเหนิงยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา ตรงนี้ผิดตรงที่นางยิ้มให้เขาไม่ได้ นางหัวเราะและพูดคุยไม่ได้ก็เท่านั้น“ขอบคุณท่านหมอ ยาของท่านไม่ทำให้ต้าเหนิงทรมานจริงอย่างที่บอกขอบคุณที่ให้นางไม่ต้องทรมาน”เชียวไฉหรานหลับตาไล่หยาดน้ำตา เชียวกงเล่อยังคงทอดถอนใจรอบที่ร้อยในวันนี้“ลาก่อนต้าเหนิง”ไฉหรานพึมพำเบาๆ ฉินเกอหลงยังคงกอดรวบร่างบางที่เปรอะไปด้วยเลือดไว้เป็นภาพที่ทำให้สลดหดหู่หัวใจที่สุด“เฉินอี้เหมยนำนางไปขังไว้ที่คุกมืดหรือยัง”“ขอรับ”หานจงประสานมือ“ให้นางออกมา ที่คุกหลวงด้านนอก ท่านหมอเยี่ยนฉือข้าคงต้องให้ท่านช่วยเรื่องฟื้อฟูจิตใจอี้เหมยให้ดีดังเดิม”เยี่ยนฉือประสานมือ“ฝ่าบาท
ร่างไร้วิญญาณของต้าเหนิงถูกวางลงบนโลงสีทอง มีดอกไม้หอมมากมายโรยทับบนร่างขาวซีด ฉินเกอหลงกลับรู้สึกว่าหัวใจแหว่งเว้าหายไป เหมือนใจจะขาดเสียให้ได้“ฝ่าบาทได้เวลาแล้ว”เยี่ยนฉือกระซิบเบาๆ เชียวกงเล่อถือคบเพลิงในมือส่งให้ฉินเกอหลง ยืนก้มหน้าข่มหยาดน้ำตาไว้ ไฉหรานนั่นเล่า สะอื้นไห้อย่างหนัก เปลวไฟในมือของฉินเกอหลงถูกวางลงบนร่างไร้วิญญาณของต้าเหนิง“ลาก่อน ฮองเฮาของข้า”เปลวไฟลุกโชติช่วง ไฉหรานปาดน้ำตาไหลรินเยี่ยนแือหานจงและเชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้าน้อมส่งต้าเหนิงครั้งสุดท้านไฉหรานย่อกายลงพร้อมกับหยดน้ำตาอาบแก้ม“ข้าไม่มีทางปล่อยมือจากเจ้าเราจะต้องมาพบเจอกันไม่ว่าจะชาติหน้าหรือชาติไหนๆ”ฉินเกอหลงตะโกนก้อง เยี่ยนฉือสูดลมหายใจเข้าลึกๆหานจงไม่ทนอีกต่อไปสะอื้นอย่างหนักไฉหรานเองไม่ยอมปาดป้ายน้ำตาปล่อยให้รินไหลแม้แต่เชียวกงเล่อเองก็มีหยาดน้ำตาไหลรินเช่นกัน“สะกุลเอ่อสิ้นแล้วจริงหรือ”เอ่อถูหวังซวนหลับตาลงช้าๆเจ็บปวดในใจที่สุดเมื่อคลี่จดหมายจากบกอินทรีย์ที่เยี่ยนฉือส่งมา แม้จะได้รับข่าวดีเรื่องที่ฉินเกอหลงจะไม่มีทางรุกรานซูตงอีกแล้วตลอดมาก็ได้ท่านหมอเยี่ยนฉือที่คอยส่งข่าวให้หลบเร้นซ่อนกายพาคนข
“ส่งข่าวบอกกับเสด็จย่า ข้ายังไม่สะดวกที่จะกลับไปแสวงบุญที่วิหารเทียมฟ้าอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้วเวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะโยกย้าย” หานจงถอนหายใจยาว หันหลังก้าวเดิน เสียงลูกดอกแหวกอากาศมาแต่ไกลพุ่งเข้าใส่ฉินเกอหลงที่นั่งนั่งทว่าฉินเกอหลงกลับใช้ประคำในมือตวัดเข้าใส่ดอกให้ตกลงข้างกายหานจงพุ่งตัวตามต้นตอของลูกดอก บุรษที่สวมอาภรณ์พรางตัว พุ่งตัววิ่งลัดเลาะบนกำแพงหนีออกจากวัดไปง่ายดาย“ไม่ต้องตาม”“หวางเย่ แย่แล้วใครกันที่คิดทำร้ายหวางเย่ได้อีกก็ในเมื่อร่างข้อตกลงว่าจะไม่ ทำร้ายและสังหารหวางเย่แล้วนอกจากนั้นหวางเย่ยังมีใครที่คิดจะทำร้ายอีก”ฉินเกอหลง ขมวดคิ้วดกดำ“นั่นสินะ ข้าไร้สามารถที่จะบอกว่าใครเป็นคนที่คิดจะจัดการกับข้า”“หวางเย่ ควรจะคิดเสียใหม่เถิด ใครจะปล่อยให้ศัตรูยังมีชีวิตอยู่เป็นหอกข้างแคร่ไปวันๆ”“นั่นสินะข้าเองที่เข้าใจผิดไปเองว่ายอมถอยแล้วกัวกั๋วฮ่องเต้จะปล่อยข้าไป” หมู่บ้านซูตง“เรีบบร้อยหรือไม่”“ขอรับท่านจ้าวบ้านข้าน้อยแค่ทำให้ฉินเกอหลงรู้ว่ามีคนปองร้าย”“ดีมากจัดการ ต่อไปได้เรื่อยๆ จนกว่าเขาจะยอมเดินทางกลับวังหลวง” เอ่อถูหวังซวนยิ้มมุมปาก“อีกไม่นานอีกไม่นานเท่านั้นฉินเกอหลงจะต้อง
บ้านเฉิน“นางกำนัลที่ชื่อเจายี่”“เจ้าค่ะคุณหนูรอง พูดคุยกับนางแล้วเจ้าค่ะ นางยินดีรับเงินที่คุณหนูรองมอบให้นางและนางยินดีทำตามคำสั่งของคุณหนูรองเจ้าค่ะ”“ดีมากมอบยาให้นางหรือยัง”“เจ้าค่ะ ข้าน้อยสงสัยเจ้าค่ะยานั่นไม่ทำให้ตายทำไมคุณหนูไม่ให้ยาที่ทำให้ตายได้เลยเจ้าคะจะยื้อเวลาไปทำไมกัน พระสนมเอ่อตายได้ก็สาวมาไม่ถึงคุณหนูรองอยู่ดี เพราะท่านเฉินเป็นถึงผู้นำสี่ตระกูลใหญ่”“ข้าตั้งใจให้นางค่อยๆ ป่วยและตายไปในที่สุดกว่าทุกอย่างจะพร้อมให้นางอยู่ในฐานะสนมให้สบายพอท่านอ๋องกลับมานางก็จากไปพอดีช่างน่าสมเพชยิ่งนัก” สาวใช้นิ่งงันคิดไม่ถึงว่าเฉินอี้เหมยจะมีความคิดที่ร้ายกาจเช่นนี้“ส่งยาเข้าไปเรื่อยๆ คงอีกสักพักว่านางจะล้มป่วย”ตำหนักสิบหก“เครื่องเสวยที่ฝ่าบาทประทานมาให้กับพระสนมเอ่อเป็นเครื่องเสวยที่ได้วัตถุดิบจากโพ้นทะเล อีกอย่างอาหารทะเลพวกนี้หายากยิ่งแล้วกว่าจะส่งมาต้องใช้กล่องไม้ที่สั่งทำเป็นพิเศษใส่น้ำทะเลลงไปให้สัตว์น้ำที่ต้องการ นำมาถวายเป้นเครื่องบรรณาการกับฝ่าบาทได้อาศัยและยังต้องให้อาหารเลี้ยงดุจนพวกมันอ้วนท้วนส่งมาถึงนี่เพื่อปรุงเครื่องเสวยที่สดใหม่” ขันทีตัวเค่อเดินยกปูม้าตัวใหญ่สองสาม
“ไม่มีจริงๆ แล้วสินะ ต้าเหนิง ลูกแม่แกเสียใจไหม” คุณปทุมถาม ต้าเหนิงน้ำเสียงเศร้าๆ“ไม่นี่แม่ ไม่ได้รู้สึกอะไรโล่งใจด้วยซ้ำ”“ต้าอย่าทำเป็นฝืนใจเลยต้า แม่ขอโทษ ที่ทำให้..หนูอายคนอื่นเขา”“ไม่ใช่แม่สักหน่อย เป็นคนพวกนั้นต่างหากที่ตั้งใจมาหลอกเราจะว่าไปได้ที่ดินตั้งเกือบร้อยไร่เพื่อต่อทุนทำไมพวกเขาไม่ยอมมาแต่งนะ” ตั้งข้อสังเกตคุณปทุมถอนหายใจยาว“ป๊าส่งคนตามกวนหยงแล้ว แต่จนป่านนี้ยังไม่ได้ข่าว”“ช่างเถอะค่ะใครสนกันไม่แต่งก็ไม่แต่งก็แค่ดูตัวไปเรื่อยๆ จะยากอะไร”คุณปทุมยิ้มเศร้าๆ“แม่กับป๊าไม่น่าบังคับต้าเลย” ต้าเหนิงกอดรอบเอวอวบของคุณปทุม“อย่าคิดมากน่าคุณนายปทุมใครเขาโทษป๊ากับแม่เล่า ดีจะตายไม่ได้แต่งไม่งั้นคืนนี้ไม่ได้หลับได้นอน” คุณปทุมขำกับความทะลึ่งของต้าเหนิง“ดีสิแบบนั้นแม่จะได้มีหลานเร็วๆ”“ไม่อย่างนั้นสิคะ ที่ไม่ได้นอนเพราะเอาแต่คิดรายรับรายจ่ายจนหัวหมุนกว่าจะขาดทุน” คุณปทุมอมยิ้ม“ป๊าแกก็เสียใจป่านนี้คงโทรไปต่อว่าคนพวกนั้น ดึกขนาดนี้ใครจะรับโทรศัพท์ ต้าไปนอนได้แล้วลูกเกือบจะตีหนึ่งแล้ว” ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงอย่างว่าง่ายเดินขึ้นไปชั้นบนห้องนอนของต้าเหนิงที่ถูกจัดเป็นห้องหอผ่าน
วันนี้ต้าเหนิงถูกคุณปทุมคุมตัวมานั่งที่ห้องด้านล่างเพื่อใช้สำหรับแต่งตัว ไมไ่ด้จัดงานที่โรงแรมอย่างที่ควรจะเป็นเพียงจัดที่บ้านหลังใหญ่ราคาหลายสิบหลานที่ป๊าของต้าเหนิงเป็นคนสร้างมันขึ้นเองกับมือไม่มีแขกมีแค่ญาติผู้ใหญที่มาคอยดูความสำเร้จของลูกหลาน ตามธรรมเนียมไทยแท้“วาสนาจริงๆ นะคะเนี๊ยะ ดูสิสินสอดตั้ง100ล้านทำบุญด้วยอะไรคะเนี๊ยะ” หนึ่งในญาติผู้ใหญ่ที่แม่บอกต้าเหนิงแต่ความจริงแล้วก้แค่เพื่อนสมัยปฐมของแม่ที่ยังแวะเวียนกินข้าวเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน ตั้งประเด็นให้คนอื่นพลอยชื่นชมสิ่งที่ต้าเหนิงและคุณปทุมกำลังจะได้รับ“มีลูกสาวสวยก้บแบนี้แหละค่ะ ว่าแต่หนูต้านี่26แล้วใช่ไหมคะทำไมหน้าเด็กๆ แล้วยังสวยกว่าดาราบางคนอีก” เพื่อนอีกคนที่มักจะชอบพูดไปในด้านดีเสียหมดพูดขึ้นบ้างคุณปทุมยิ้มจะได้โอกาสคุยโม้ก็วันนี้แหละ“ยัยต้านะเหรอคะโอ๊ย เขาก็หน้าเด็กแบบนี้แหละค่ะ แต่สมองอะนะเกินตัวคิดอะไรนี่อย่างกับคอมพิวเตอร์ มียัยต้าคนเดียวสบายแปดอย่างนี่เขาเหมือนพ่อเขานะ เดินทางสายอสังหาเหมือนกันเดือนๆ หนึ่งยัยต้าขายบ้านได้เป็นสิบๆ หลังได้เงินมาก็คงไปแต่งสวยเขาแหละแม่กับพ่อไม่เคยขอสักบาทแต่จะว่าไปของแทร่ทั้งนั้น
“ต้องแต่งแล้วหรือคะ ตายแล้วต้ายังไม่ได้บอกเพื่อนๆ เลยเรื่องนี้ ไวไปไหมคะ”จะมีกี่คนกันศัตรูจะมากมากกว่าสินะฮ่าาาาคุณปทุมส่ายหน้าระอาใจ“สมัยนี้เขาก็แต่งกันสายฟ้าแลบแบบนี้แหละ ใครๆเขาก็ทำกัน”“เขาแน่ใจหรือคะ ว่าเขาอยากจะแต่งหนูหน้าก็ยังไม่เคยเป็นกันสักครั้ง” นัดสองครั้งต้าเหนิงก็แกล้งไปไม่ตรง เวลาจนผู้ชายคนนั้นไม่รอใครจะรอเล่าไปสายสองชั่วโมงแต่มาบอกกับคุณปทุมว่า เป็นฝ่ายชายที่ไม่มาให้ต้าเหนิงรอเก้อถึงอย่างนั้นแม่กับพ่อก็ยังไปตกลงให้ต้าเหนิงแต่งกับเขาอีก“อย่างไงก็ต้องแต่ป๊าแกตกลงกับ พ่อกับแม่เขาไว้แล้ว”“แม่ ผู้ชายคนนั้นไม่มาดูตัวต้าเลยนะแม่คิดว่าเขารักลูกแม่จริงหรือ….” คุณ ปทุมถอนหายใจ“ป๊าแกอะ ตอนนี้ยังอยู่กับก๊วนเพื่อนตีกอล์ฟอยู่เมืองจีน เขาบอกว่าผู้ชายเขาเตรียมขันหมากมาแล้วเราแค่จัดสถานที่ไว้รอ เขาไปกินข้าวกับพ่อกับแม่ของผู้ชายตกลงกันแล้วเรียบร้อย ต้าก็แค่ยอมแต่งไปเขามีกิจการใหญ่โต กำลังขยายกิจการมาลงทุนในไทย แล้วต้าอะนะปีนี้26แล้วอยู่นานไปไม่ดีนะคนจีนเขาว่ายิ่งแต่งไวยิ่งสบายไปข้างหน้า แม่จ้างออแกไนท์ไว้แล้วเราแค่จัดสถานที่พรุ่งนี้ขันหมากก็มา”ต้าเหนิงขมวดคิ้วทำมต้องเป็นฝ่ายหญิงที
ภัตตาคารแห่งหนึ่งต้าเหนิงหอบกระเป๋าวิ่งเข้าไปข้างในเลยเวลานัดอีกแล้วจูหรานนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งคอยมองผู้หญิงที่ใส่เดสสีขาวสะอาดนั่นก็คือต้าเหนิง“สวยไม่เบา” พูดขึ้นเบาๆกวนหยงหลุบตามองโต๊ะอาหาร สวยสิสวยจนเขาตกตะลึงสวยกว่าจูหรานไม่น้อยเขานิยมผู้หญิงสวยหวานเวลานอนร่วมเตียงยามที่กำลังนัวเนียกัน จะหวานขนาดไหน แต่พูดไปเสียอีกทาง“นัดบ่ายสี่โมง มาหกโมงเย็น ใครจะรอ”“คุณอย่างไรเล่า คุณสือกวนหยงที่นั่งรออยู่ที่นี่แต่ไม่ไปพบ”“การนัดหมายของเราสองคนสิ้นสุดแล้วเขาไม่มาตอนสี่โมงก้เท่ากับไม่มาถ้าผมแสดงตัวว่ารอเขาตั้งสองชั่วโมงเขาก็จะหัวเราะเยาะหาว่าผมอยากแต่งกับเขาจนตัวสั่นสินะ”จูหรานยิ้มบางๆ“ผู้หญิงคนนี้เขาจะสำนึกไหมว่าตัวเองมาสายเลยทำให้ไม่เจอคุณ คุณไม่ออกไปพบเขาหน่อยหรือ”“ความจริงผมก็อยากจะพบเขานะแต่ จะลองนัดไปดูอีกครั้งว่าจะมาสายอีกไหม” จูหรานอมยิ้ม“สวยไหม”“ไม่เท่าไหร่” ลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปชะโงกแต่รีบหันหลังไม่ให้ต้าเหนิงเห็นเพราะต้าเหนิงที่เดินจ้ำกลับมาทางเดิมพร้อมกับคุยโทรศัพท์กับคุณปทุม“ไม่เจอค่ะคุณแม่คนอะไรให้ต้ามารอตั้งนานต้าไม่รอแล้วนะคะกลับบ้านดีกว่าค่ะเสียเวลา” กวนหยงยิ้มมุมปาก
“เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจจริงๆ เลยครับ”“ผมเคยไปดูตัวมาแล้วผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะเป็นโสดจนตาย” หนุ่มคนหนึ่งพูดนินทาให้หนุ่มคนหนึ่งฟังเรื่องต้าเหนิง“เราพบผู้หญิงคนเดียวกันใช่ไหม”“นั่นใช่นางเลยแหละต้าเหนิงคนนั้นคนที่ ปากจัดเหลี่ยมเยอะ” ต้าเหนิงที่นั่งหันหลังอยู่อีกฝั่งของชายหนุ่มทั้งสองยิ้มมุมปากคุณปทุมส่ายหน้าไปมา“แย่จริง พรุ่งนี้แม่นักคนดูตัวให้อีกคนจากประเทศจีนอีกแล้ว”“ใครคะ”“ญาติห่างๆๆๆๆ กับเรา เขามีธุรกิจเป็นของตัวเองหล่อรวยและโปรไฟล์ดี”“ก็แบบนี้ทุกคน แต่คนนี้ไม่เชิงว่าดูตัวแม่กับพ่อลงความเห็นกันแล้วเราแค่อยากให้พวกลุกได้พบกันความจริงเราทาบทามและหาฤกษ์ดีไว้แล้ว”ต้าเหนิงเลิกคิ้ว ใช้ตะเกียบในมือพันเส้นหมี่ฮกเกี้ยนในจาน“มัดมือชกเลยหรือ”“กินข้าวกันสองสามครั้งแล้วแต่งเลยพรุ่งพบกันที่ร้านเดิมที่แม่เคยนัดหนุ่มๆ ไว้ให้ต้านั่นแหละลูก” ต้าเหนิงถอนหายใจเฉิงตู“ยังโสดครับท่าน ชื่อว่าคุณต้าเหนิงโสดสนิท มีคนมาดูตัวแต่ก็ไม่เคยตกลงกับใคร” ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง “หาทางพามาที่นี่ได้หรือยัง” หานจงถอนหายใจ (หานจงก็มา) “ยังไม่รู้ว่าจะเอาแบบไหนเลยครับผมไม่รู้จะจัดการอย่างไร ถ้าเป็นที่นี่ใครๆ
ต้าเหนิง เดินทอดน่องอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า“กริ้งๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นรีบเอาแนบหู“สวัสดีค่ะ” ปลายสายพูดเบาๆ“ใครคะรู้จักเราด้วยหรือคะ”“ไม่รู้จักแค่จะโทรมาด่า อินังสารเลวอิชั่วแย่งผัวชาวบ้านอิหน้าด้าน อิ กระ…” ต้าเหนิงสตั้นแป็บ“นี่มาได้กันแบบนี้เลยหรือฉันไปทำอะไรให้คุณ”“ผัวฉันพูดถึงเธอทุกวัน คอยดูนะแม่จะบุกไปตบให้” ต้าเหนิงถอนหายใจ“ฉันแค่ขายบ้านผัวเธอชื่ออะไรฉันจะได้ไม่ต้องขายบ้านให้เคสนี้ขอผ่าน” เสียงปลายสายบ่นงึมงำ“คุณ กำธร” ต้าเหนิงถอนหายใจยาว“ขอบคุณ รอรับผลกรรมได้เลย” วางสายพร้อมกับยิ้มหยันยี่สิบนาทีต่อมา“เห็นไหมฉันอยู่กับใคร” ต้าเหนิงนอนบนเตียงด้วยชุดนอนบางเบา แกว่งเนกไทในมือไปมาวีดีโอคอลให้สาวคู่กรณีเมื่อครู่ได้เห็น“แกๆๆ นางต้าเหนิงแกเอาผัวฉันไปกกหรือ”“ฮะๆๆๆ ฮ่า ฉันไม่ได้กกเขา แต่เขากกฉันจริงไหมคะคุณกำธร อย่าลืมโอนเงินค่ามักจำบ้านด้วยนะคะเพิ่มอีก6แสน สำหรับเรื่องบนเตียงในวันนี้ของเรา ฮ่าาาา” หันไปทางด้านหลังทำหน้าเหยเกเหมือนกำลังกำลังโดนกระทุ้งด้วยอะไรบางอย่างอยู่ที่บั้นท้าย ปลายสายหน้าถอดสี“กรี๊ดดดดดดดฉันจะฆ่าแก แกนังต้าเหนิงฉันจะฆ่าแก” ต้าเหนิงกดวางสาย ยิ้มมุมปากเ
วิหารเทียมฟ้า“ไทฮองไทเฮาเพคะ มีคนผู้หนึ่งอยากจะไทฮองไทเฮาเพคะ”ร่างท้วมหยุดชะงักเงยหน้าขึ้นมองรูปสลักองค์พระประติมาที่แกะสลักจากหยกขาวสูงตระหง่านในวิหารเทียมฟ้า“เชิญเขาเข้ามาได้” ร่างสูงสวมหมวกปิดบังใบหน้า หนวดสีเทายาวลงมาที่กลางอกเดินเข้ามายืนตรงหน้าไทฮองไทเฮาที่หน้าถอดสี“ท่านผู้นี้ ท่านยังไม่ตายหรอกหรือ” เอ่อถูหวังชวนเงยหน้าขึ้นยิ้มน้อยๆ“ซีโหยว ท่านยังความทรงจำเกี่ยวกับข้าอีกหรือ”“ความทรงจำมากมายด้วยเรื่องของเราสามคน” ไทฮองไทเฮาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นน้อยๆ“ฮะฮะฮ่าาาา ข้ามาดีไม่ได้มาทวงความแค้นอะไรกับท่านหรอกแค่อยากจะบอกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้”“เรื่องคนของตระกูลเอ่ออย่างนั้นหรือ ไท่ซางหวงพยายามตลอดมาที่จะให้คนในตระกูลเอ่ออยู่สบายแต่พอสิ้นไท่ซางหวง” ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปถึงจะบอกว่าพยายามก็ไม่อาจบังคับกะเกณฑ์ใครได้ ตอนนี้จึงได้ภาวนาให้นางรอดพ้นวิกฤติ” หมายถึงอะไรยังมีเหลือคนของตระกูลเอ่ออยู่อีกหรือไร”“ท่านไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้หรือ ข้าไม่อาจห้ามปรามนางได้นางเข้าวังไปอาศัยบารมีของไทเฮา นางช่างเดียงสานักไม่รู้หรือไรว่ากำลังขี่หลังเสืออยู่ เดิมข้าคิดแค่เพียงว่านางเข้าไปเพื่อพบ…ฉินเกอห