ก้าวเดินจากไปฉินเกอหลงโยนท่อนฟืนใส่ในกองไฟสองสามท่อน ฟืนข้างๆกองไฟก็หมดลง เขาถอนหายใจยาว ก่อนที่ทหารยามที่ยืนอารักขาจะหอบฟืนอีกหนึ่งหอบมาวางตรงหน้าฉินเกอหลง“ฝ่าบาทเติมไฟอีกพ่ะย่ะค่ะอากาศเย็นมากแล้ว”ฉินเกอหลงถอนหายใจลุกขึ้นยืนก้าวเดินจากไป ต้าเหนิงที่หลบที่มุมมืดเองก้ถอนหายใจยาวกระโจมของหานจงเยี่ยนฉืหยุดยืนมองหานจงที่นอนบนแท่นนอนหลับไหล เยี่ยนฉือค่อยๆสอดกายเข้าไปในผ้าห่มแขนอุ่นกอดรอบเอวของหานจงหลวมๆซุกใบหน้าที่ซอกคอ“นอนด้วยคน ข้างนอกอากาศหนาว”“อะ ทะท่านอย่าทำแบบนี้”เยี่ยนฉือยิ้ม“คำห้ามที่อย่าทำเด็ดขาดคือคำว่าห้าม..แต่คำว่าอย่านี่ตีความหมายได้แค่ว่าไม่ควรทำแต่จะทำก็ทำได้ เช่นนั้นข้าจขะทำและอยากทำจึงทำได้”“ทำแบบนี้หากใครมาพบเข้า”หน้าแดงแจ๋ด้วยความอาย”“หือ ใครจะมาพบก่อนนั้นเมื่อก่อนเราสองคอนก็นอนร่วมแท่นนอนตั้งแต่จำความได้ ทำไมวันนี้ถึงได้เอามาพูดว่าหากใครมาพบเข้าหรือว่าก่อนนั้นใจหานจงยังไม่เตลิดเหมือนตอนนี้พอมาถึงตอนนี้จึงเห็นว่ามันไม่ควรเพราะคิดไปไกลเสียกว่าเมื่อก่อนนั้น”“คิดอะไร”พูดอ้อมแอ้ม”“ก็คิดว่า”เยี่ยนฉือพลิกร่างเล้กมาเผชิญหน้าสบตานิ่งก่อนจะค่อยๆกดริมฝีปากลงบนปากอุ่นของ
เชียวกงเล่อรีบถอยออกมาทว่าอี้เหมยก็เห็นว่าเชียวกงเล่อใกล้ชิดกับต้าเหนิงที่รีบเอาผ้าห่มคลุมหัวหูจนอี้เหมยมองไม่ออกว่าเป็นใคร “หือ อ๋อสามีภรรยาดูแลกันยามป่วยไข้ข้ามาผิดเวลาใช่ไหม”“สุ่ยจือถวายพระพรฮองเฮา”เปลี่ยนชื่อเป็นสุยจือเสีย“หืมมมเจ้านี่ข้ามองแล้ว เหมือนข้าเคยพบเจ้ามี่ไหนหรือไม่หรือว่าแค่คุ้นตาเปิดผ้าห่มออกให้ข้ามองหน้าเจ้าชัดๆ”เชียวกงเลฃ่อจับมีดสั้นที่ข้างเอวไว้แน่น“นางบาดเจ็บและยังเป็นโรคติดต่อร้ายแรงอาจติดต่อไปยังผู้อื่นเช่นนั้นข้าน้อยเยี่ยนฉือจึงให้นางใช้ผ้าปิดบังใบหน้าและลมหายใจไว้เสีย”อี้เหมยถอยหลังในทันทีเมื่อเยี่ยนฉือพูดแบบนั้น“นางกำนัลเอาผ้ามาคลุมหน้าข้า”“แค่ป้องกันได้ระดับหนึี่ทาที่ดีฮองเฮาก้ไม่ควรมาที่นี่ข้าน้อยและท่านเชียวกับน้องสาวท่านเเชียวพี่สามคนเท่านั้นที่แวะเวียนพวกเราล้วนยังไม่แสดงอาการแต่เราก็ใกล้ชิดแม่นางสุยจืออยู่ก่อนแล้วจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะพบนางฮองเฮาช่างน้ำใจล้นเหลือไม่กลัวว่าจะติดโรค”อี้เหมยถอยออกไปจนชิดประตู“เช่นนั้นขาไปก่อนดีกว่า ฝ่าบาทคงรอข้าแล้ว”รีบก้าวเดินจากไป ต้าเหนิงซ่อนยิ้ม“ทำไมยังไม่ให้ข้าพบนาง”เชียวกงเล่อก้มหน้าถอนหายใจยาว“แผนการของเราบา
“นางคือใคร”หานจงที่วิ่งมาหยุดยืนข้างๆฉินเกอหลง“ข้าน้อยเองก็สงสัย นางเหตุใดจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้”ฉินเกอหลงถอนหายใจ เชียวกงเล่อมารับต้าเหนิงลงจากหลังม้ามือสังหารถูกคุมตัว แต่เพียงอึดใจเดียวก็กลืนยาพิษ“เฮ๊ย ะตายไม่ได้นะขี้โกงนี่แล้วคนบงการเล่าต้าเหนิงส่งเสียงดัง”ท่านหมอเยี่ยนฉือที่พุ่งตัวเข้าไปซัดฝ่ามือเข้าที่แผ่นหลังของมือสังหาร ยาเม็ดเล็กหลุดออกากปาก“บังอาจ นักคิดจะหนีความผิดหรือ”ไฉหรานเดินมาซัดฝ่ามือเข้าใส่มือสังหารอีกคน“พอแล้วไม่อย่างนั้นคนผู้นี้ตายไปเราจะไม่สามารถสาวถึงคนบงการได้”“มีเรื่องอะไรกัน”เฉินอี้เหมยเดินนวยนาดออกมาด้านนอก ไฉหรานยิ้มมุมปาก ต้าเหนิงรีบหลบทว่าไม่ทันเสียแล้ว“อะอะเอ่อต้าเหนิงงงงง” พึมพำด้วยเสียงแหบแห้ง“ใช่ต้าเหนิงอย่างไรเล่าเอ่อต้าเหนิงคนที่เจ้าบังอาจ อุ๊ป”ท่านหมอเยี่ยนฉือรีบเอามืออุดปากไฉหรานด้วยความที่พูดอะไรไม่ทันคิด แต่ถึงจะไม่พูดความจริงก็เป็นแบบนั้นแต่ทว่าตอนนี้ฐานะของอี้เหมยไม่ใช่เฉินอี้เหมยบุตรี ไต้เท้าเฉินทว่าเป็นถึงฮองเฮา บุตตรีของท่านราชครูเฉิน ตอนนี้อำนาจอยู่ในมือนางไฉหรานอาจะตายได้ง่ายๆ“พวกเจ้าหลอกลวงข้า ข้อหาหลอกลวงเบื้องสูงโทษตายคงไม่น้อยไ
“เราจะไปไหนกัน”ต้าเหนิงเอ่ยปากถามเมื่อม้าวิ่งออกมาได้ระยะหนึ่งแล้วอีกคนกระชับอ้อมแขน“ทำทีราวกับคนที่มีสามี บุรุษผู้นั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่สามีเจ้า”ต้าเหนิงถอนหายใจ“เอ้าเพิ่งรู้หรือ ข้าจะบอกอะไรให้ข้าอะนะไม่ใช่สาวโสดมีสามีแล้วและก็เคยผ่านมือสามีของข้ามาแล้วด้วย ฝ่าบาทไม่กลัวว่าทำแบบบนี้จะผิดบาปหรือไรมายุ่งกับภรรยาคนอื่น”“ข้าเห็นเจ้าปฏิเสธว่าคนแซ่เชียวนั่นไม่ใชสามีด้วยสีหน้าและแววตา ไม่น่าแปลกที่เจ้าจะไม่เคยมีสามีมาก่อนในเมื่อ….”จะบอกอย่างไรว่ายังสาวยังสวยจนเขาก็ต้องเผลอมอง“หวั่นไหวไหมเล่า”ต้าเหนิงถามยิ้มๆนึกสนุกกับคำถาม“นี่เจ้า กิริยาเช่นเจ้าไม่เหมาะกับหญิงงาม”“ใครสน ข้าไม่อยากเป็นหรอกหญิงงามอะไรนั่น แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก555ข้สล้อเล่นแค่อยากจะเป็นต้าเหนิงในแบบของข้าไม่เป็นหญิงงามไม่เป็นอะไรทั้งนั้นเป็นแค่ผู้หญิงที่มีความสุขมีสามีที่รักและเข้าใจเคียงข้าง แต่สามีไม่อยู่นี่สิเฮ้อเสียดายจริงๆถ้าเขาอยู่ข้าจะแนะนำฝ่าบาทให้รู้จักกับเขาสามีข้าอะนะ….”ฉินเกอหลงรวบเอวบางให้แนบชิดอกกว้างสูดดมกลิ่นหอมที่เรือนผม“เล่ามาสามีเจ้าเป็นเช่นไร”ปล่อยม้าเยาะย่างไปบนทุ่งหญ้าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตารอคอยค
“ข้าหรือสามีเจ้า เช่นนั้น”ผลิกตัวต้าเหนิงมาตรงหน้า“อะนี่มันบนหลังม้านะ….จะทำอะไร”พูดไม่ทันจบปากที่กำลังเจื้อยแจ้วถูกกดปิดด้วยริมฝีปากอุ่น จูบเชิญชวนอ่อนหวานต้าเหนิงยกมือขึ้นดันอกกว้างไว้“อือออ จูบเลยหรือยังไม่บอกว่าเชื่อหรือเปล่าว่าฝ่าบาทคือสามีแล้วทำไมต้องจูบด้วยหากว่าต้าเหนิงเป็นของคนอื่นฝ่าบาทไม่เท่ากับทำผิดหรือ”ฉินเกอหลงเม้มริมฝีปากเสียดายจูบหวาน“แล้ว เจ้ากับเขารักกันมากแค่ไหน”ต้าเหนิงถอนหายใจ“ ไม่รุ้สิไม่เคยถามสักทีว่ารักมากแค่ไหนรักเท่าฟ้ามหาสมุทรหรือเท่าจักรวาล”ฉินเกอหลงยิ้ม“ข้าตอนนี้ไม่ได้รักเจ้านี่”ต้าเหนิงทำตาโต“ไม่รักแล้วมาจูบทำไม”“ก็แค่อยากจะลองดูว่าเจ้าพูดมาเชื่อได้แค่ไหนถ้าบอกว่าข้าคือสามีก็ต้องอยมให้ข้าจูบ”“ก็ยอมแล้วนี่ยังไม่เชื่ออีกหรือ”หน้าเง้าอีกคนกลับอมยิ้ม"นับปะคำสิเผื่อจะจำได้""นับทำไมกันปะคำอะไรนั่น เพราะอยากจูบจึงจูบ""ก็นั่นสินะจูบไปแล้วยังไม่เชื่อที่ต้าเหนิงพูดอีกหรือ"“แค่จูบมันจะพอหรือไร ที่ข้าอยากรู้ตอนนี้คือทำไมอี้เหมยถึงอุทานชื่อเจ้านางจะต้องรู้จักเจ้ามาก่อน และหากนางรู้จักเจ้าโกรธพวกเขาที่หลอกลวงนาง เรื่องเจ้าแสดงว่าเจ้าจะต้องเป็นคนสำคัญที่ทำให
“หานจง ให้ข้าไปช่วยท่านเก็บฟืน ดีไหม”หานจงโผล่ออกมาจากพุ่มไม้“อ่าา เอ่อ ขอรับพระสนม”“หือ เรียกข้าว่าต้าเหนิงดีไหมจะได้ไม่ต้องอึดอัดเวลาพูด”หานจงยิ้มเจื่อนๆ“ขอรับทางด้านนั้นไก่ป่ามากมาย ข้าน้อยยังหาวิธีที่จะดักจับมันมายังไม่ได้”“มีธนูไหม”ฉินเกอหลงส่งคันธนูที่เป้ด้านข้างตัวม้าของเขให้ต้าเหนิง“เหมาะเลยไปกันเถอะ”“ตะตะแต่ต้องอารักขาฝ่าบาทและท่านหมอบอกว่าใกล้ค่ำแล้วให้เตือนฝ่าบาทให้รีบกลับไปที่ด่านอูเอิน ท่านหมอห่งเรื่องความปลอดภัย”“เช่นนั้นก็เอาฝ่าบาทไปด้วย ข้าอะนะเป็นจอมยุทธ์หญิงของซูตงที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี มีคนแข็งแกร่งเช่นนี้อารักขาฝ่าบาทถึงสองคนยังต้องกลัวอะไรอีก”ฉินเกอหลงส่ายหน้า“เอาจริงๆฝ่าบาทวรยุทธ์สูงส่งกว่าข้าหานจง ท่านอาจารย์ในตอนนั้นยังกล่าวชมว่าฝ่าบาทเรียนรุ้เร็วและมีความสามารถมากกว่าหานจง”“เอาน่าไม่ต้องห่วงวันไหนว่างๆข้าฝึกฝนให้เจ้าดีไหม”ฉินเกอหลงถอนหายจใจอีกรอบ“ฝะฝ่าบาทว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ จะกลับไปที่ด้านอูเอินไหมหากไม่กลับท่านหมอจะต้องส่งคนตามมาอารักขาแน่ๆ”“ข้า อยากจะค้างที่นี่สักคืน เมื่อบ่ายแอบหยิบสุรามาด้วยเพื่อแก้หนาว”ต้าเหนิงทำตาโต“รอบคอบที่สุด”ฉินเกอหลงยิ
“ฝ่าบาทไม่ได้รักเจ้าอี้เหมยเลิกโง่งมได้แล้ว เราทำทุกทางแล้วเพื่อให้เขากลับมาเป็นฉินเกอหลงของเจ้าที่เคยมีเจ้าในสายตาแค่เพียงผู้เดียว”“ไม่จริงฝ่าบาทมีลูกอยู่ในหัวใจเสมอมา”เฉินตงลี่ส่ายหน้าไปมา“จนกระทั่งพบ เอ่อต้าเหนิงในเทศกาลดอกไม้ไฟ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าทำอะไรบ้างข้าที่ส่งคนจัดการกับบ้านตระกูลเอ่อ จนไม่เหลือใครตอนนั้นสวรรค์กับเมตตานางนางก็รอดมาได้เจ้ารู้ไหมใครเป็นคนช่วยนาง”“ท่านพ่อลูกโง่เขลา”“จริงที่สุดเจ้าโง่เขลาที่สุดคนที่ชวยนางออกมาก็คือฝ่าบาท พานางไปอาศัยที่วิหารเทียมฟ้ากับไทฮองไทเฮา แต่นางกลับหนีออกมาพบฝ่าบาทเพราะตอนนั้นกัวกั๋วฮ่องเต้ปราบดาภิเษก ข้าทำทุกวิถีทางไม่ให้นางได้พบฝ่าบาทในตอนนั้น ตั้งใจจัดฉากให้นางได้พบกัวกั๋วเพื่อะไรรู้ไหมก็เพื่อเจ้าทั้งที่ หากกัวกั๋วฮ่องเต้โปรดปรานนางตำแหน่งฮองเฮาอาจเป็นของนางคราวนั้นเรายิ่งควบคุมนางได้ยาก เอ่อต้าเหนิงนางเป็นหญิงที่ใจคอเด็ดเดี่ยว ไม่ยอมเป็นของกัวกั๋วเพื่อรอฝ่าบาทเพียงคนเดียวรักมั่นในฝ่าบาทเพียงคนเดียว แล้วเจ้าคิดว่าหากฝ่าบาทรู้เรื่องนี้ที่เรารู้จะไปโปรดปรานนางหรือไร แค่เพียงรู้ว่านางไม่ได้เป็นของกัวกั๋วนั่นในใจบุรุษก็อิ่มเอมเพราะว่านาง
ฉินเกอหลงเอื้อมมือโอบกอดต้าเหนิงแนบแน่นต้าเหนิงตาโตด้วยคาดไม่ถึง“อุ่นไหม”ต้าเหนิงยิ้มเศร้าๆน้ำตาไหลรินกลืนหยาดน้ำตาลงในอก“ไม่ไม่เคยอุ่นไม่เคยคิดว่ามันอุ่นเพราะอ้อมกอดนี้ไม่ใช่ของท่านอ๋องฉินเกอหลงของข้าไม่ใช่ไต้ซือคนเดิม”ฉินเกอหลงจุมพิตเบาๆที่หน้าผากเปลือกตา และหยุดที่ริมฝีปากจุบอ่อนหวานอย่างที่ไม่ต้องฝืนใจ“ใครกันหลงลืมใครกันลืมหญิงงดงามเช่นเจ้าได้ลงคอ”โน้มร่างบางของต้าเหนิงลงบนพื้นหญ้าอ่อนนุ่ม“ม่าย ไม่ ตราบใดที่ฝ่าบาทยังจำต้าเหนิงคนนี้ไม่ได้ อย่าได้สร้างตราบาปกับต้าเหนิงอีกเลย”ฉินเกอหลงถอนหายใจ พลิกร่างสูงลงนอนข้างๆยดมือกดศีรษะของต้าเหนิงให้นอนหนุนแขน“สัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ้าแปดเปื้อนข้าจะใช้เวลาต่อจากนี้ไตร่ตรองเรื่องของเจ้ากับข้าและหาวิธีที่จะจัดการกับคนชั่วที่หลอกลวงข้า”ต้าเหนิงซบหน้าลงบนออกกว้างความรู้สึกโหยหายหายไปแล้วรู้สึกดังว่าคตำพูดเมื่อครู่ของฉินเกอหลงคือคำบอกรัก“ อากาศหนาวแล้วนอนเสียเถิด”ฉินเกอหลงตวัดเสื้อคุลมห่มร่างสองร่างหลับไหลไปพร้อมกันเช้าสดใสเสียงนกอู่ผีอิงอู่ร้องบนต้นไม้ใหญ่เสียงฝีเท้ม้าเร่งจังหวะมาแต่ไกลท่านหมอเยี่ยนแือกับเชียวกงเล่อที่ควบม้าตรงมาที่ใต้ต้นไม้
ฉินเกอหลง ก่อนหน้านั้นเมื่อพันปีก่อนยืนโปรยเถ้ากระดูกของต้าเหนิง“ฝ่าบาท ท่านหมอเยี่ยนฉือกับหานจงขอประทานอนุญาตออกเดินท่องยุทธภพ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอนุญาติในครั้งนี้”เชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนบางอย่างแหว่งเว้าหายไป“ในที่สุดเราทุกคนก็ได้แค่เพียงเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปพร้อมกับสายลม ข้าเองแม้จะอยากทำตามใจเพียงใดสุดท้ายข้าก็ได้แค่เพียงสะกดกลั้นความคิดนั้นไว้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ..กงเล่อหมายถึงท่านปู่ของฮองเฮาเอ่อถูหวังซวน เสียใจที่ต้องสูญเสียคนของตระกูลเอ่อไปจนไม่เหลือใครแม้กงเล่อขอใช้แซ่ของตระกูลเอ่อแต่ท่านพ่อก็ยังเศร้าโศกเช่นเดิมกงเล่อเข้าใจดีว่าไม่อาจทดแทนกันได้”“จริงสินะในที่สุดตระกูลฉินก็ไม่อาจปกป้องตระกูลเอ่อไว้ได้ ข้าที่ทุ่มเทตั้งแต่วันแรกที่พบนางก็ยังไม่อาจช่วยเหลือนางได้ทันเช่นนั้นจึงเรียกว่าเป็นความผิดของข้า”“ไม่มีใครผิดพ่ะย่ะค่ะสวรรค์กำหนดไว้แล้วหากไม่มีฝ่าบาทบางที่ตระกูลเอ่ออาจไม่เหลือรอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกฆ่าล้างตระกูลฝ่าบาททำดีที่สุดแล้ว”“จริงสินะในครั้งแรกที่ข้าพยายามช่วยชีวิตเอ่อต้าเหนิงจากคนชั่ว และครั้งที่สองข้าที่พยายามช่วยชีวิตนางจากการสั่งกา
หนึ่งปีผ่านไป“โอ้ๆๆๆๆอย่าร้องนะคนดีมาให้พ่ออุ้มเร็ว”ฉินเกอหลงพูดไทยสำเนียงแปลกๆคุณหมอดนัย ส่ายหน้าไปมา“เมื่อไหร่จะพูดไทยแข้งแรงสักทีบอกให้สอนกันหน่อยก็ไม่เอาวันๆเอาแต่ผลิตลูกดูสินี่ก้ท้องอีกแล้วหัวปีท้ายปีเชียว”ต้าเหนิงยิ้มดวงตาเป็นประกาย“คุณแม่ฮับลูกชายหิวนมแล้วฮับ”เสียงออดอ้อนของฉินเกอหลง ทำเอาต้าเหนิงส่ายหน้า รับเอาร่างกระจ้อยมากอดแนบอก แกะกระดุมป้อนนมทารกในอ้อมแขนฉินเกอหลงดวงตาเป็นประกาย หมอดนัยวางยาที่จัดมาสำหรับแม่ลูกอ่อนลงตรงหน้าฉินเกอหลง“อิจแาต้าเหนิงจังมีสามีที่คอยดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกับข้าวกับปลาเลี้ยงลูกเตือนให้กินยา ถ้ามีแบบนี้รักตายเลย บ้านช่องก็เลยไม่กลับมาคตอยดูแลภรรยาตั้งสองสามเดือนแล้วธุรกิจที่นั่น ไม่ต้องห่วงหรือ”ฉินเกอหลงยิ้มกำลังเรียบเรียงคำพูด“ผมจัดเตรียมทุกอย่างและประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ในมุกเช้าจึงไม่ต้องห่วงอะไรหากว่ามีอะไรขัดข้องก็จะเรียกประชุมทันที ทางนี้ผมเองไม่อาจวางใจ ต้าเหนิงเขาต้องมีผมคอยดูแล เขาลำบากอุ้มท้องลุกของผม เขาต้องอุ้มเด็กอีกคนไว้ในท้องฉะนั้นผมเลยคิดว่าไม่มีใครจะดูแลต้าเหนิงได้ดีเท่าผมและควรจะดูแลต้าเหนิงอย่างดี”หมอดนัยส่าย
“คุณไม่อยากลองขอฉันแต่งงานดูอีกสักทีหรือ”อมยิ้มฉินเกอหลงเลิกคิ้วสูง“อยากสิ ถ้าอย่างนั้น แต่งงานกับผมนะครับ”คุกเข่าลงกับพื้นที่ด้านล่างมีกลับดอกเมหยสีชมพูดร่วงเกลื่อนกราดต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าขึ้นลง ฉินเกอหลงรวบร่างบางไว้แนบอกอีกครั้ง“ขอบคุณขอบคุณจริงๆ ที่ยอมแต่งกับผม”ยิ้มหว้างสดใสจนต้าเหนิงต้องยิ้มตาม““ความจริงแล้วเธอไม่ได้ติดค้างอะไรหรอกนะที่ตามหาเพราะต้องการชดเชยให้คุณอย่างไรเล่า ต้าเหนิง”ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฉินเกอหลงกระซิบข้างหูเบาๆ“คุณพูดอะไรนะ อย่าบอกนะว่าคุณ เพิ่งจะข้ามภพมา”ฉินเกอหลงเองก็เลิกคิ้วสูง“ข้ามภพหรือ แค่ความฝันหรือเปล่าสิ่งที่ผมฝันในทุกๆคืนนั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของผม เธอกำลังเจ็บปวดและทรมานผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามีหยาดน้ำตาทุกครั้ง ตั้งแต่จำความได้ พอโตขึ้นมาสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอดคือตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ให้จิตกรมาวาดภาพเธอคนนั้นไว้ในห้องนอนเพื่อให้ได้เห็นหน้าเธอในทุกๆวัน คุณอยากเห็นรูปผู้หญิงคนนั้นไหม”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง“คุณอยากเห็นก็คงต้องไปส่องกระจกแล้วล่ะ เพราะรูปนั่นเหมือนคุณอย่างกับแกะ”ดึงมือต้าเหนิงให้เดินเคียงข้างกันไป“คุณฝันถึ
ฉินเกอหลงจอดรถลงข้างทางที่ประดับด้วยไฟหลากสีใต้ต้น ดอกเหมยสีชมพูเบ่งบาน ผู้คนเดินจูงมือคู่รัก“คุณชอบดอกเหมยหรือ”ต้าเหนิงถามเบาๆ“ชอบ อยากให้ต้าเหนิงได้เหนมันไงเล่ากว่าจะผ่านไปแต่ละปีจะต้องทนนับวันนับเดือนที่ดอกเหมยบานและร่วงโรยครั้งแล้วครั้งเล่าลำพังเดียวดายตราบนานเท่านาน”ต้าเหนิงก้มมองมือในอุ้งมืออุ่นของฉินเกอหลง ยอมให้เขากุมมือไว้ราวกับคู่รักแต่ไม่ยอมฟังคำพูดเศร้าๆของเขา“ฮ่าาาพามาแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เรารึคิดไปไกลเยว่าจะพาไป…ทำมิดีมิร้าย”ฉินเกอหลงส่ายหน้าไปมา“วางใจเถอะไม่เอาไปขายหรอก”“หือ ไม่ขายแต่ฆ่าหั่นศพและแย่เชียวฮ่าๆๆๆๆ”ยังตลกได้อีกฉินเกิอหลงหันมาทำสีหน้าจริงจังต้าเหนิงขนลุกเกรียวหรือว่า หรือว่า“จูบได้ไหม”“หา จะจูบเลยหรือ”“ก็ต้องจูบสิคนที่เขาลองคบกันก็ต้องลองหลายๆอย่างว่าเขากันได้ไหม”“อย่าทำแบบนี้นะมาถึงก็จูบเลยหรือจะไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยหรือ”ฉินเกอหลงรวบร่างบางมากอดไว้แนบกายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมที่หอมละมุนเนิ่นนาน“เจ้าเข้าสู่โหมดโรแมนติกแล้วนะ คิดถึงจังสบายดีไหม”ทอดเสียงอ่อนโยนจนต้าเหนิงตัวเย็น มือที่ยกขึ้นกอดรอบเอวของฉินเกอหลงอย่างกล้าๆกลัวๆก็เย็นเฉียบ“คือๆๆๆค
ต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าหงึกหงักกำลังช่างใจว่ากัวกั๋วก็คือกํวกํ๋วหรือว่ากัวกํ่วคนนี้ไม่ใช่กัวกั๋ว“ขอบคุณ แต่จะว่าไปฉันไม่ได้หลงตัวเองนะแต่คุณสองคนกำลังแย่งฉันใช่ไหม”ฉินเกอหลงอมยิ้มกัวกั๋วงง“มีคนแบบนี้ด้วยหรือ คนที่คิดว่าคนอื่นกำลังแย่งคุณผู้หญิงไท่กัวเป็นแบบนี้ทุกคนไหมนะ”ฉินเกอหลงเปยเบาๆต้าเหนิงอมยิ้ม ความคนึงหาทีข้ามผ่านมาปีหนึ่งสิ้นสุดลง“เอาล่ะที่นี้ เราสองคนมาตกลงกันดีกว่าไหมพี่ใหญ่ว่าใครจะจีบก่อนจีบที่หลังไอ้ผมอะนะเริ่มชอบผู้หญิงไท่กัวคนนี้แล้ว”กัวกั๋วพูดขึ้นพร้อมกับใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารในจานวางตรงถ้วยข้าวตรงหน้าต้าเหนิง ฉินเกอหลงที่เห็นก็รีบคีบของกินที่คิดว่าต้าเหนิงจะชอบวางลงบนถ้วยข้าวของต้าเหนิงบ้างไฉหรานอมยิ้ม“ต้าเหนิงของเราฮอตน่าดู”หันไปพูดกับเฉินซือกวาน“ก็นะบอกแล้วไงว่าฉันอะนะกำลังโดนแย่งจากคนสองคน”อมยิ้ม“ใครบอก กัวกั๋วนายนะมาทีหลังหลบไปเถอะไม่มีการแย่งชิงอะไรทั้งนั้น”ฉินเกอหลงทรุดกายลงกับพื้นคุกเข่าตรงหน้าพร้อมกับหยิบกล่องกำมยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเปิดกล่องกำมยี่สีแดงออกแสงแวววาวจากเพชรเม้ดมะหึมาคงราวๆห้ากะรัตสุกสกาวต้องแสงไฟ ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง“แต่งานกบผมนะครับคุณต
“ใครจะบังอาจเล่าค่ะ ต้าเหนิงเองเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดมากหรือชอบนินทาใครต้าเหนิงเขาเป็นคนเรียบร้อยน่ารักที่สุด”ไฉหรานเชียร์เต็มที่ ต้าเหนิงยิ้มจื่อนๆ เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ในโรงรับจำนำเถอะ“เรียบ จริงหรือครับ”“อืมมม เรียบร้อยครับคุณฉินไม่ใช่เรียบเฉยๆ” เฉินซือกวานรีบพูดแทรกขึ้นกลัวว่าต้าเหนิงจะรู้สึกไม่ดี เปล่าต้าเหนิง ที่รีบก้มมองหน้าอกของตัวเองมันก็ไม่ได้ราบแบนเสียหน่อยบริกรนำอาหารมาเสริ์ฟบนโต๊ะ ฉินเกอหลงผายมือ“มีที่พักหรือยังครับอี้ตวนของเรามีที่พักมากมายในเครือให้คุณ …ได้เลือกพัก”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอมยิ้มแก้มป่องจากฝ่าบาทมากลายเป็นนักขายอย่างไรกัน“ต้าเหนิงเขาพักกับเราค่ะคุณฉินไม่ต้องห่วงเขามาที่นี่แค่5วันตั้งใจพาเที่ยว อย่างที่ต้าเหนิงอยากจะไปเรื่องที่พักก็เลยไม่ใช่ปัญหาที่บ้านของเราก็มีห้องวางอยู่หลายห้อง”ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง บริกรเดินถือช่อดอกกุหลาบสีแดงนับพันดอกมุ่งตรงมาที่ ต้าเหนิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม“ต้าเหนิงรับเอาดอกกุหลาบช่อโตหยิบการ์ดที่สอดไว้ด้านหน้าขึ้นมาอ่าน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้ว“ของใคร”ไฉหรานชะโงกมองเพราะความสงสัยแล้วหันไปสบตากับเฉินซือกวาน“เอ่อ คุณฉินกัวกั๋วครับ
ภัตตาคารหรูริมน้ำมองเห็นแสงสีสว่างไสวไปทั่งสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำสายใหญ่งดามท่ามกลางผู้คน ต้าเหนิงกับไฉหรานมาถึงแล้ว เฉินซือกวานรีบ เปิดประตูรถให้ทั้งสองคนลงมาจากรถด้วยท่าทีราวกับนักันไว้นั่นคือให้ช้าๆเข้าไว้ก็ต้าเหนิงไม่อยากพบเจ้าคนรวยอ้วนพุงพุ้ยและกินจุคนนั้นตั้งใจ ปิดภัตตาคารเพื่อจะได้กินอิ่มๆคนเดียวไม่ได้เพื่อให้ต้าเหนิงนั่งสบายหรือเปย์ต้าเหนิงหรอก“คุณครับ คุณฉินเชิญคุณทั้งสามบนชั้นสองขอรับ”บริกรก้มศรีษะนอบน้อม ต้าเหนิงเงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสองที่สว่างไสวเห็นเพียงใครบางคนที่นั่งนระเบียงภัตตาคารหรู ต้าเหนิงเบ้ปากเข้าใจเลือกมุมให้มองเห็นพวกต้าเหนิงก่อนแหมร้ายจริง“คุณผู้หญิงครับนี่คือของขวัญต้อนรับสำหรับการยินยอมมารับประทานอาหารกับ...คุณฉิน”“คุณฉิน ฉินอะไร”ต้าเหนิงรับเอากล่องน้ำหอมระดับโลกไว้ในมือไฉหรานยิ้มสดใสดีใจยิ่งกว่าต้าเหนิงเสียอีก“เห็นไหมต้าเหนิงเขาจริงใจแค่ไหน”กระซิบต้าเหนิงเบาๆต้าเหนิงส่ายหน้าไปมาเดินตามไฉหรานที่ดึงมือให้เดินตามเฉินซือกวานขึ้นไปข้างบนชั้นสองพอ้าเหนิงยืนอยู่ชั้นบนเสียงดนตรีก็ดังขึ้นนักดนตรีบรรเลงเพลงหนึ่งทำนองคุ้นหูเหลือเกินต้าเหนิงหยุดนิ่งอยู่กับท
“ทำไมต้องเป็นที่นั่น”อ่านชื่อภัตตาคารหรูริมแม่น้ำที่อาหารอร่อยมากตามรีวิวแต่ราคาแพงหูฉี่“หืออาหารอร่อยมากและที่สำคัญ…”ไฉหรานยิ้มดวงตาพร่างพราว"ฉันว่ามันมากไปฉันอยากกินของอร่อยๆก็จริงแต่ ก็ยังไม่อยากหมดตัวฮ่าาาา"ต้าเหนิงพูดไปยิ้มไปไฉหรานเองก็ยิ้ม"ฉันไม่สิคุณเฉินสามีฉันเขาบอกจะเลี้ยงเธอในฐานะที่เราไม่ได้ชวนเธอมางานแต่งของเราเขารู้ว่าฉันกับต้าเหนิงสนิทกันแค่ไหนก็แค่อยากจะเลี้ยงต้อนรับเธอสักครั้ง""มันหลายตังค์นะฉันเกรงใจ"ไฉหรานยิ้มอีกแล้ว"ไม่ต้องเกรงใจน่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องต้อนรับเธอให้ดีที่สุดให้เธอประทับใจที่สุดจนอยากจะอยู่ที่นี่เลยดีไหม""ไม่ใช่ล่ะ มันแปลกๆ ฉันว่ามันมีกลิ่นนะ เอาความจริงมาพูดกันเราสองคนคบกันมาตั้งปีหนึ่งฉันไว้ใจเธอมากเลยนะไฉหรานว่าเธอจะไว้ใจได้ และไม่โกหกฉัน"ไฉหรานยิ้มเจื่อนๆนั่งลงข้างๆต้าเหนิงเลื่อนแก้วกาแฟตรงหน้าต้าเหนิงอย่างเอาใจ“คุณเฉินเขานัดใครบางคนดูตัวเพื่อนสาวของเราต้าเหนิงซึ่งเขาก็แค่อยากจะกินข้าวแล้วก็ดูตัวต้าเหนิงไปด้วย คนคนนี้อะนะหล่อที่สุดนิสัยดีที่สุด และเอาใจเก่งที่สุด ที่สำคัญเป็นทายาทโดยตรงที่กำลังจะนั่งตำแหน่งท่านประทานของอี้ตวนในขณะนี้สาว
“แม่จ๋าหนูอยากจะไปเมืองจีน คุณแม่คนสวยใจดีที่สุดในโลกอนุญาตให้ลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ไหม”คุณปทุมยิ้มแกล้งมองไปทางอื่นเสีย“น่านะคุณแม่ขา ต้าเหนิงอยากจะไปจริงๆบรรพบุรุษเราเป็นคนจีนพ้นทะเลๆไม่ใช่หรือแล้วนี่ไม่ให้ต้าเหนิงไปพอต้าเหนิงตายไปจะกล้ามองหน้าบรรพชนได้อย่างไร”แอบเอาประโยคยอดนิยมในซีรีย์จีนมาพูดกับคุณปทุม“จะไปทำไม”“หนูอยาก…เป็นกำแพงเมืองจีนอยากไปพระราชวังต้องห้ามอยากจะเที่ยวจางเจี่ยเจีย”“มีเงินแล้วหรืถึงอยากจะไปพอให้แต่งกับผู้ชายจีนที่เป็นญาติห่างๆกันก็ไม่เอา ทีแบบนี้แล้วอยากจะไปไปคนเดียวมันอันตรายนะ แม่ไม่อนุญาต”“หนูไปแค่ไม่กี่วัน คุณแม่ไม่ต้องห่วงน่าแล้วตอนนี้ที่นั่นก็มีไฉหราน”“ไฉหรานอะไรของแกนั่นไว้ใจเขาได้หรือไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเขาสักหน่อยก็ไว้ใจเขา แม่ละท้อใจกับการไว้ใจคนและเข้ากับคนได้ง่ายๆอย่างหนูจังเลยแบบนี้ยิ่งจะทำให้คนชั่วมาตีสนิท”“ไฉหรานเขาไม่หลอกหนูหรอกค่ะเราพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างจนสนิทกันแล้วระยะเวลาเกือบปีมานี้หนูคิดว่าหนูดูเขาดีพอแล้วค่ะ”คุณปทุมถอนหายใจ“แล้วที่หลับที่นอน โรงแรมที่พัก เล่าจัดเตรียมไว้แล้วหรือ”“เรียบร้อยแล้วค่ะตั