“ลุกขึ้นหยุดร้อง”เชียวกงเล่อฉินเกอหลงก้มหน้าดวงตาพร่ามัว ไม่ชอบหยาดน้ำตาของต้าเหนิงไม่ว่านางจะเสแสร้งหรือจริงใจ สติดับวูบด้วยอาการบาดเจ็บ“สามี๊ฮือออออออออออออย่าตายนะ”ถลาแหวกฝูงชนเข้าไปกอดร่างสูงแน่นิ่ง ตกใจไม่น้อยอันนี้ไม่ได้แกล้งละหน้าเสีย ถ้าฉินเกอหลงตายจริงๆต้าเหนิงก็แย่สิ จะต้องพบกับอะไรอีกหนอ คราวนี้กลายเป็นน้ำตาจริงน้ำตาแห่งความกลัวและตื่นตกใจ“ม่ายยยยยนะจะตายไม่ได้นะฮือออออออย่าทิ้งข้าไปนะฮือออออแย่แล้ว ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยด้วยพวกเจ้าใจดำอำมหิต…เหลือเกิน ทำไมอยู่ดูเฉยๆเล่าช่วยเขาหน่อยฮืออออออออ”“ต้าเหนิงอย่าร้องไห้”ฉินเกอหลงลืมตาขึ้นช้าๆพูดเบาๆ แล้วหมดสติไปอีกครั้งอาจเพราะต้าเหนิงเขย่าตัวหรือจะด้วยอะไรก็แล้วแต่“พวกเจ้าช่วยเขา”เชียวกงเล่อสั่งดังประกาศิต ลูกสมุนเหล่านั้นต่างกรูกันเข้ามาพยุงดึงแขนดึงขา รับเอาร่างไร้สติของฉินเกอหลงขึ้นไปบนหลังมาแล้วพากลับหมู่บ้านของพวกเขา“เจ้าจะมากับเราไหม”ต้าเหนิงส่ายหน้า เรื่องอะไรจะขึ้นไปบนหลังม้าตัวเดียวกับคนแปลกหน้า“อย่างนั้นก้วิ่งตามม้าไป ไม่แน่นะจากที่ร้องไห้ฟูมฟายว่าสามีเจ้าจะตายทิ้งเจ้ากับ..ลูกในท้องอาจจะเป็น เจ้าที่ตายก่อนสามี”“มี
กลางป่าหนทางมุ่งหน้าสู่สุ่ยจิง“ไหวไหม เยี่ยนฉือพยุงร่างอ่อนแรงของหานจงยังถ้ำเล็กๆที่แทบจะมองไม่เป็นปากถ้ำเพราะมีต้นไม้ปกคลุมเป็นดงหนา หานจงอดสงสัยไม่ได้ว่าเยี่ยนฉือรู้ได้อย่างไรว่ามีถ้ำอยู่ที่นี่ คนอื่รับรองไม่มีใครรู้แน่แม้แต่หานจงที่เข้ามาในตอนแรกมองไม่เห็นปากถ้ำด้วยซ้ำไปแจ่เยียนฉือกับแหวกดงไม้หนาพาหานจงเร้นกายเข้ามาในถ้า หากจะลึกลับเพียงนี้หานจงคิดอยู่ที่นี่ได้ยาวๆเพราะไม่มีทางที่ใครจะหาเขากับเยียนฉือพบ“พักก่อนคงไม่มีใครตามมาแล้ว จากที่ข้าคาดเดาพวกเขาหยุดที่จะค้นหาเราแล้ว เพราะได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว”“เขาได้ตัวหวางเย่กับสนมเอ่อไปแล้วหรือ”“เจ้าน่ะนะเลิกเรียกเอ่อต้าเหนิงว่าพระสนมได้แล้วไม่เห็นหรือไรว่านางเป็นตายไม่ยอมทอดกายให้กับกัวกั๋ว ทำไมเราไม่ให้เกียรติในสิ่งที่นางไม่อยากเป็น เลิกยัดเยียดคำว่าพระสนมให้นางเสียที”“เข้าใจแล้วน่า”“นั่งลงก่อนสิ”หานจงพยักหน้าเจ็บปวดไปทั่วตัวบาดแผลก็มีทั้งลึกทั้งตื้นสร้างความเจ็บปวดให้กับหานจงไม่น้อย“โอ๊ะๆๆเจ็บจัง”หานจงทำหน้าตาเหยเก ทิ้งตัวลงบนพื้นเยี่ยนฉือรีบเข้าประคอง”“ฝีมือกระบี่เจ้ายังต้องพัฒนาอีกไกล เห็นได้ชัดว่าไม่อาจเอาชนะผู้ที่ผ่านการฝึก
เรือนใหญ่กลางหมู่บ้าน เชียวกงเล่อยืนก้มศรีษะตรงหน้าบิดาเชียวกวงเล่อข้างหน้าสาวน้อยวัยสดใสทว่าท่าทีราวกับจอมยุทธ์หนุ่มเชียวไฉหรานยืนอยู่ข้างๆบิดากับมารดา เชียวหรูเหมินที่อยู่ในวัยกลางคนทว่ายังสาว“อาการบาดเจ็บของคนแปลกหน้าคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง”“ขอครับท่านพ่อ บาดเจ็บไม่น้อยแต่เพราะเพลงกระบี่ของเขาเยี่ยมยอดทีเดียวเลยทำให้ พวกเราไม่อาจล้มเขาได้ต้องใช้ คนของเราถึงสอบสองคนจึงทำให้เขานิ่งได้ขอรับ”เชียวไฉยาอ้าปากค้าง“พวกท่าน ไร้ความสามารถกันเองหรือเปล่าถึงได้ พ่ายแพ้แก่เขาเพลงกระบี่ใครกันจะยอดเยี่ยมกว่าเพลงกระบี่ซูตงของเราได้อย่างไรกัน”น้ำเสียงหยิ่งยโสไม่ได้น่าเอ็นดูเหมือนหน้าตา“ไฉหราน”เสียงมารดาปรามเบาๆคิ้วเรียวขาวขมวดเข้าหากัน เชียวกงเล่อยิ้มน้อยๆ“ลูกอ่อนหัดจริงๆท่านพ่อเพียงสองกระบวนท่าก็แพ้ให้กับคนแปลกหน้านั้น หากไม่ใช้คนหมู่มากเหมือนที่ฮูหยินเขากล่าวโทษว่าพวกเราเป็นหมาหมู่ ก็คงไม่อาจเอาชนะเขาได้”ไฉหรานยิ้มมุมปาก“คนแปลกหน้าป่าเถื่อนนั่นจะเก่งกว่าคนซูตงของเราได้อย่างไร”“ไฉหรานเจ้าผิดแล้วคนจากวังหลวง บางคนสามารถต่อกรกับนักรบของเราได้ถึงสิบคนได้ง่ายๆการที่จะรับหน้าที่องครักษ์ของอ่องเ
“ดีขึ้นหรือยัง”กงเล่อเอ่ปากทักเมื่อเห้นว่าต้าเหนิงนั่งสัปหงกเอามือเท้าคางมองฉินเกอหลงบนแท่นนอนไม้ไผ่ เขาวางผ้าห่มผืนใหม่ลงบนโต๊ะข้างๆ“ไม่ดีขึ้นไม่เห็นว่าเขาเอ๊ยสามีข้าจะฟื้นคืนสติ หมอหลวงเอ๊ยหมอของพวกท่านเชื่อถือได้หรือไม่”คิดถึงท่านหมอเทวดาเยี่ยนแือขึ้นมาทันที แล้วหานจงหากรู้ว่าหวางเย่ของเขาบาดเจ้บแบบนี้จะต้อง หนักใจอีกแน่ สองคนนั้นป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง“ถึงจะเป็นหมอบ้านป่าแต่ก้พอจะดูแลคนบาดเจ็บได้แน่ๆ และอาจจะไม่มียาดีเพราะนี่คือบ้านป่าแต่สมุนไพรหลายอย่างที่มีคุณภาพกว่าสุมนไพรแห้งๆ”ทรุดกายยลงข้างๆต้าเหนิงที่รีบลุกขึ้นยืนเชียวกงเล่ออมยิ้มขำกับท่าทีระวังตัวของต้าเหนิง“กล้วข้าหรือ”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงหงึกหงัก เชียวกงเล่อยิ้มบางๆ“กลัวก็บอกว่ากลัว นับถือนับถือแต่ไม่ต้องกลัวข้าเพราะข้าไม่นิยมขืนใจภรรยาชาวบ้าน”พูดที่เล่นที่จริงเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย“พูดแบบนี้แสดงว่าหากเป็นหญิงอื่นที่ผลัดหลงเข้ามาไม่มีสามีท่านก็จะขืนใจเช่นนั้นหรือ” เชียวกงเล่อยิ้มขำ แม่นางคนนนี้ช่างเจรจายิ่งนัก นางคงพูดจ้อได้ทั้งวันหากคนคนนั้นเป็นคนที่นางวางใจ“พูดแบบนี้ข้า เลยนึกขึ้นมาได้ว่าจะให้เสี่วจิ้งมาดูแลเจ้
“ไฉหรานเจ้าทำแบบนี้พี่ใหญ่เฉินของเจ้าจะแบกรับภาระไม่ไหวนะ”เชียวกงเล่อพูดยิ้มๆ“เชอะก็ข้าอยากจะฝึกกระบี่ให้เก่งกาจขึ้นกว่าเดิมจะได้ จัดการกับคนเร่รอนสองคนนั่นให้พวกเขาเห็นว่าคนซูตงเก่งกาจเพียงใด”“น้องสาวเจ้าก็เก่งอยู่แล้วนี่จะต้องกลัวอะไรแล้วใครกันทำน้องสาวข้าให้อยากเอาชนะเพียงนี้”“พี่ใหญ่เฉินท่านถามพี่ใหญ่เชียวดูสิเขาชื่นชมคนเหล่านั้นทำให้ข้าโดนท่านพ่อตำหนิแล้วยังห้ามไม่ให้ข้าจัดการพวกเขาเสียก่อนให้อยู่หมัดไม่เข้าใจริงๆว่าทำไมต้องเอาใจพวกเขาเพียงนั้น ถึงกับต้องรั้งพวกเขาอยู่ที่นี่”“นี่เจ้าแอบฟังข้ากับท่านพ่อคุยกันหรือไรไร้มารยาท”“พี่ใหญ่เฉินเห็นไหมพวกเขากันข้าออกจากฝูงแล้วเอาใจคนอื่น”เสียงยังออดอ้อน“ใครกันคนแปลกหน้าเหมือนว่าคนพวกนั้นจะทำให้ไฉหรานขุ่นเคืองไม่น้อยแล้วทำให้พี่ใหญเชียวของเราออกโรงปกป้องเพียงนั้น”“ฮะฮะฮะฮ่า อย่าได้สนใจเลยก้แค่คนเร่ร่อนธรรมดา ไฉหรานก็แค่หาใครในซูตง ประอลงด้วยไม่ได้ทุกคนต่างยอมแพ้ก็เลยคันไม้คันมือก็เท่านั้น ส่วนข้าก็ในฐานะจ้าวบ้านก็ต้องดูแลแขกบ้าน”“หือ คนในซูตงต่างยอมแพ้ไฉหรานหมดเลยหรือ ไม่น่าเชื่อว่าจะฝีมือก้าวหน้าเพียงนี้” เชียวกงเล่อยิ้มขำ“ใครบอกที
“ที่นี่คือ”“ซูตงขอรับ”“ซูตง”“ดินแดนซูตงที่โอบลอ้มไปด้วยหุบเขาและแมกไม้พวกท่านไม่มีทางผ่านเข้ามาได้หากไม่เคยมาที่นี่ และมีคนนำทาง”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงจริงด้วยเพราะตอนที่ขเ้ามาต้าเหนิงเอาแต่ห่วงฉินเกอหลงจนไม่มีเวลาได้ชื่นชมทิวทัศน์รอบๆตัวรู้แค่ว่ามันคือหุบเขาทางเข้าเป็นม่านน้ำตกข้างในเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนคงเคยเป็นปล่องภูเขาไฟแต่ตอนนี้มอดดับจึงเหลือแต่ความอุดมสมบูรณ์ของหมู่แมกไม้และสายน้ำลำธาร“เคยได้ยินคนผู้หนึ่งกล่าวถึงที่นี่เยียนฉือ เจ้ารู้จักท่านหมอที่ชื่อเยียนฉือหรือไม่”เสี่ยวจิ้งยิ้มดวงตาพร่างพราวท่านหมอวางหลวมยาพร้อมกับเดินเข้ามาจับชีพจร“ท่านหมอเทวดาเยี่ยนฉือคือคนที่สอนวิชาแพทย์แก้ข้าน้อย หากว่าท่านคือสหายเช่นนั้นข้าน้อยคงต้องดูแลท่านราวกับสหายคนหนึ่งเช่นกัน”ฉินเกอหลงถอนหายใจ“แหมท่านหมอนะหรือสนิทกันที่สุดเลยเป็นคนสนิท..อุ๊ป”รีบยกมืออุดปากตัวเองพูดมากไปแล้วต้าเหนิง“ท่านหมอกับเราสองคนมีมิตรภาพพี่ดีต่อกันอย่าพูดว่าเป็นดังสหายเรากับท่านหมอ รู้จักเพียงผิวเผิน”ฉินเกอหลงรีบแก้ต่าง ต้าเหนิงขมดคิ้วว่าทำไมไม่ขิงไปเลยว่าสนิทกับท่านหมอเทวดานั่นพวกเขาจะได้รู้สึกว่าเป็นคนกันเอง“โอ้ เ
“ไม่ต้องพูดได้ไหม”รีบเดินเลี่ยง ฉินเกอหลงที่เอนตัวพิงอยู่กับพนังห้องรีบคว้ามือบางไว้“เอ่อต้าเหนิงมีช่วงเวลานี้ด้วยหรือ”“ช่วงเวลาอะไร”ฉินเกอหลงยิ้มกรุ้มกริ่ม“ช่วงเวลาเขินอายข้าเห็นก่อนหน้านั้นยามที่ข้าไม่อยากเข้าใกล้เจ้า เจ้าก็หาทางเข้ามาใกล้ชิดข้าก่อน”“อย่ามาพูดแบบนี้นะ ก็ท่านอ๋องเอาแต่เก็กไม่ยอม… ไม่ยอมพูดกับต้าเหนิงนี่”ดวงตากลมโตหลุบตามองพื้นเสียกลัวอีกคนเป็นความในใจจากดวงตา“ใกล้ชิดเจ้าแล้วอย่างไรใกล้ชิดเจ้าแล้ว ข้าแทบจะหยุดหายใจ ข้าแทบจะสะกดกลั้นความรู้สึกเสน่หาเจ้าไม่ได้แล้วจะไม่ให้ทำที่ว่าเฉยชาได้อย่างไรกัน ขข้าแต่เดิมไม่เคยเข้าใกล้หญิงใดมาก่อนวันนี้ต้องมาใกล้ชิดกับสนมคนงามของกัวกั๋วที่นางพยายามจะเข้าใกล้ถูกเนื้อต้องตัวข้าตลอดเวลา เจ้าคิดว่าบุรุษที่ไม่เคยใกล้ชิดหญิงใดเช่นข้าบำเพ็ญเพียรเป็นนักบวชมาตั้งนานจะไม่ตะบะแตกหรือไร”“ นั่นมันเรื่องของท่านอ๋อง ต้าเหนิงไม่พูดด้วยแล้ว”เขินจนไม่รู้จะไปอย่างไร เดินเอาห่อยาไปยังเตาไฟเพื่อจะเคี่ยวยา“โอ้ไม่น่าเชื่อแค่เพียงคนเร่ร่อนรอนแรมเหตุใดได้มาพักในเรือนรับรองของแขกคนสำคัญของซูตงกันเลยนะ”เชียวไฉหรานเดินเข้ามาข้างในห้องอย่างถือวิสาสะ ไม่ท
“หวางเย่หมายความว่าอย่างไร ซือกวานท่านต้องตอบคำถามข้าแล้วล่ะ”“ท่านอ๋องฉินเกอหลง”เชียวกงเล่อ อ้าปากค้างยกมือประสานกันตรงหน้าอย่างนอบน้อม“สวรรค์มีตาแต่เชียวกงเล่อหามีตาไม่ ข้าน้อยเชียวกงเล่อน้อมรับหารลงทัณฑ์จากหวางเย่”ไฉหรานหยุดร้องไห้ยืนตลึงพรึงเพริศ ทั้งรุ้สึกผิดทั้งเสียดายฉินเกอหลง และทั้งเจ็บปวดที่เห็นฉินเกอหลงกระอักเลือด“อย่าเพิ่งห่วงเรื่องการลงทัณฑ์ ตอนนี้หวางเย่กำลังบาดเจ็บสาหัสคนของท่านตามหมอหลวงถึงไหนกันป่านนี้ยังไม่มา”ซือกวานร้อนรนรีบพยุงฉินเกอหลงยังแท่นบรรทมไม้ไผ่ต้าเหนิงเม้มริมฝีปากหน้าเสียเมื่อฉินเกอหลงนิ่งลงไปอย่างเห็นได้ชัดท่านหมอหอบหลวมยาเข้ามาหน้าตื่น เสี่ยวจิ้งตามมาติดๆ“นี่ยาขอรับ นายท่านรีบกลืนยานี่ก่อน”ต้าเหนิงรีบรินน้ำใส่ในจอกส่งให้ฉินเกอหลงเริ่มใจเสียน้ำตาปริ่มขอบตาฉินเกอหลงที่นั่งนิ่งหลับตาข่มความเจ็บปวด“อึกกๆๆฮืออ”“ต้าเหนิงอย่าร้องไห้”เพียงคำพูดนี้ของฉินเกอหลงทำเอาน้ำตาร่วงพรู“ฮือออออย่าเป็นอะไรน้าาาาา ฮืออออเจ็บไหมอึกกกกๆๆๆ”ฉินเกอหลงเอื้อมมือกอดรวบเอวบางของต้าเหนิงอย่างปลอบโยน“ข้าไม่ชอบให้เจ้าร้องไห้ไม่รู้หรือไร”เฉินซือกวานถอนหายใจ หมอหลวงส่ายหน้าไป
“ส่งข่าวบอกกับเสด็จย่า ข้ายังไม่สะดวกที่จะกลับไปแสวงบุญที่วิหารเทียมฟ้าอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้วเวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะโยกย้าย” หานจงถอนหายใจยาว หันหลังก้าวเดิน เสียงลูกดอกแหวกอากาศมาแต่ไกลพุ่งเข้าใส่ฉินเกอหลงที่นั่งนั่งทว่าฉินเกอหลงกลับใช้ประคำในมือตวัดเข้าใส่ดอกให้ตกลงข้างกายหานจงพุ่งตัวตามต้นตอของลูกดอก บุรษที่สวมอาภรณ์พรางตัว พุ่งตัววิ่งลัดเลาะบนกำแพงหนีออกจากวัดไปง่ายดาย“ไม่ต้องตาม”“หวางเย่ แย่แล้วใครกันที่คิดทำร้ายหวางเย่ได้อีกก็ในเมื่อร่างข้อตกลงว่าจะไม่ ทำร้ายและสังหารหวางเย่แล้วนอกจากนั้นหวางเย่ยังมีใครที่คิดจะทำร้ายอีก”ฉินเกอหลง ขมวดคิ้วดกดำ“นั่นสินะ ข้าไร้สามารถที่จะบอกว่าใครเป็นคนที่คิดจะจัดการกับข้า”“หวางเย่ ควรจะคิดเสียใหม่เถิด ใครจะปล่อยให้ศัตรูยังมีชีวิตอยู่เป็นหอกข้างแคร่ไปวันๆ”“นั่นสินะข้าเองที่เข้าใจผิดไปเองว่ายอมถอยแล้วกัวกั๋วฮ่องเต้จะปล่อยข้าไป” หมู่บ้านซูตง“เรีบบร้อยหรือไม่”“ขอรับท่านจ้าวบ้านข้าน้อยแค่ทำให้ฉินเกอหลงรู้ว่ามีคนปองร้าย”“ดีมากจัดการ ต่อไปได้เรื่อยๆ จนกว่าเขาจะยอมเดินทางกลับวังหลวง” เอ่อถูหวังซวนยิ้มมุมปาก“อีกไม่นานอีกไม่นานเท่านั้นฉินเกอหลงจะต้อง
บ้านเฉิน“นางกำนัลที่ชื่อเจายี่”“เจ้าค่ะคุณหนูรอง พูดคุยกับนางแล้วเจ้าค่ะ นางยินดีรับเงินที่คุณหนูรองมอบให้นางและนางยินดีทำตามคำสั่งของคุณหนูรองเจ้าค่ะ”“ดีมากมอบยาให้นางหรือยัง”“เจ้าค่ะ ข้าน้อยสงสัยเจ้าค่ะยานั่นไม่ทำให้ตายทำไมคุณหนูไม่ให้ยาที่ทำให้ตายได้เลยเจ้าคะจะยื้อเวลาไปทำไมกัน พระสนมเอ่อตายได้ก็สาวมาไม่ถึงคุณหนูรองอยู่ดี เพราะท่านเฉินเป็นถึงผู้นำสี่ตระกูลใหญ่”“ข้าตั้งใจให้นางค่อยๆ ป่วยและตายไปในที่สุดกว่าทุกอย่างจะพร้อมให้นางอยู่ในฐานะสนมให้สบายพอท่านอ๋องกลับมานางก็จากไปพอดีช่างน่าสมเพชยิ่งนัก” สาวใช้นิ่งงันคิดไม่ถึงว่าเฉินอี้เหมยจะมีความคิดที่ร้ายกาจเช่นนี้“ส่งยาเข้าไปเรื่อยๆ คงอีกสักพักว่านางจะล้มป่วย”ตำหนักสิบหก“เครื่องเสวยที่ฝ่าบาทประทานมาให้กับพระสนมเอ่อเป็นเครื่องเสวยที่ได้วัตถุดิบจากโพ้นทะเล อีกอย่างอาหารทะเลพวกนี้หายากยิ่งแล้วกว่าจะส่งมาต้องใช้กล่องไม้ที่สั่งทำเป็นพิเศษใส่น้ำทะเลลงไปให้สัตว์น้ำที่ต้องการ นำมาถวายเป้นเครื่องบรรณาการกับฝ่าบาทได้อาศัยและยังต้องให้อาหารเลี้ยงดุจนพวกมันอ้วนท้วนส่งมาถึงนี่เพื่อปรุงเครื่องเสวยที่สดใหม่” ขันทีตัวเค่อเดินยกปูม้าตัวใหญ่สองสาม
“ไม่มีจริงๆ แล้วสินะ ต้าเหนิง ลูกแม่แกเสียใจไหม” คุณปทุมถาม ต้าเหนิงน้ำเสียงเศร้าๆ“ไม่นี่แม่ ไม่ได้รู้สึกอะไรโล่งใจด้วยซ้ำ”“ต้าอย่าทำเป็นฝืนใจเลยต้า แม่ขอโทษ ที่ทำให้..หนูอายคนอื่นเขา”“ไม่ใช่แม่สักหน่อย เป็นคนพวกนั้นต่างหากที่ตั้งใจมาหลอกเราจะว่าไปได้ที่ดินตั้งเกือบร้อยไร่เพื่อต่อทุนทำไมพวกเขาไม่ยอมมาแต่งนะ” ตั้งข้อสังเกตคุณปทุมถอนหายใจยาว“ป๊าส่งคนตามกวนหยงแล้ว แต่จนป่านนี้ยังไม่ได้ข่าว”“ช่างเถอะค่ะใครสนกันไม่แต่งก็ไม่แต่งก็แค่ดูตัวไปเรื่อยๆ จะยากอะไร”คุณปทุมยิ้มเศร้าๆ“แม่กับป๊าไม่น่าบังคับต้าเลย” ต้าเหนิงกอดรอบเอวอวบของคุณปทุม“อย่าคิดมากน่าคุณนายปทุมใครเขาโทษป๊ากับแม่เล่า ดีจะตายไม่ได้แต่งไม่งั้นคืนนี้ไม่ได้หลับได้นอน” คุณปทุมขำกับความทะลึ่งของต้าเหนิง“ดีสิแบบนั้นแม่จะได้มีหลานเร็วๆ”“ไม่อย่างนั้นสิคะ ที่ไม่ได้นอนเพราะเอาแต่คิดรายรับรายจ่ายจนหัวหมุนกว่าจะขาดทุน” คุณปทุมอมยิ้ม“ป๊าแกก็เสียใจป่านนี้คงโทรไปต่อว่าคนพวกนั้น ดึกขนาดนี้ใครจะรับโทรศัพท์ ต้าไปนอนได้แล้วลูกเกือบจะตีหนึ่งแล้ว” ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงอย่างว่าง่ายเดินขึ้นไปชั้นบนห้องนอนของต้าเหนิงที่ถูกจัดเป็นห้องหอผ่าน
วันนี้ต้าเหนิงถูกคุณปทุมคุมตัวมานั่งที่ห้องด้านล่างเพื่อใช้สำหรับแต่งตัว ไมไ่ด้จัดงานที่โรงแรมอย่างที่ควรจะเป็นเพียงจัดที่บ้านหลังใหญ่ราคาหลายสิบหลานที่ป๊าของต้าเหนิงเป็นคนสร้างมันขึ้นเองกับมือไม่มีแขกมีแค่ญาติผู้ใหญที่มาคอยดูความสำเร้จของลูกหลาน ตามธรรมเนียมไทยแท้“วาสนาจริงๆ นะคะเนี๊ยะ ดูสิสินสอดตั้ง100ล้านทำบุญด้วยอะไรคะเนี๊ยะ” หนึ่งในญาติผู้ใหญ่ที่แม่บอกต้าเหนิงแต่ความจริงแล้วก้แค่เพื่อนสมัยปฐมของแม่ที่ยังแวะเวียนกินข้าวเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน ตั้งประเด็นให้คนอื่นพลอยชื่นชมสิ่งที่ต้าเหนิงและคุณปทุมกำลังจะได้รับ“มีลูกสาวสวยก้บแบนี้แหละค่ะ ว่าแต่หนูต้านี่26แล้วใช่ไหมคะทำไมหน้าเด็กๆ แล้วยังสวยกว่าดาราบางคนอีก” เพื่อนอีกคนที่มักจะชอบพูดไปในด้านดีเสียหมดพูดขึ้นบ้างคุณปทุมยิ้มจะได้โอกาสคุยโม้ก็วันนี้แหละ“ยัยต้านะเหรอคะโอ๊ย เขาก็หน้าเด็กแบบนี้แหละค่ะ แต่สมองอะนะเกินตัวคิดอะไรนี่อย่างกับคอมพิวเตอร์ มียัยต้าคนเดียวสบายแปดอย่างนี่เขาเหมือนพ่อเขานะ เดินทางสายอสังหาเหมือนกันเดือนๆ หนึ่งยัยต้าขายบ้านได้เป็นสิบๆ หลังได้เงินมาก็คงไปแต่งสวยเขาแหละแม่กับพ่อไม่เคยขอสักบาทแต่จะว่าไปของแทร่ทั้งนั้น
“ต้องแต่งแล้วหรือคะ ตายแล้วต้ายังไม่ได้บอกเพื่อนๆ เลยเรื่องนี้ ไวไปไหมคะ”จะมีกี่คนกันศัตรูจะมากมากกว่าสินะฮ่าาาาคุณปทุมส่ายหน้าระอาใจ“สมัยนี้เขาก็แต่งกันสายฟ้าแลบแบบนี้แหละ ใครๆเขาก็ทำกัน”“เขาแน่ใจหรือคะ ว่าเขาอยากจะแต่งหนูหน้าก็ยังไม่เคยเป็นกันสักครั้ง” นัดสองครั้งต้าเหนิงก็แกล้งไปไม่ตรง เวลาจนผู้ชายคนนั้นไม่รอใครจะรอเล่าไปสายสองชั่วโมงแต่มาบอกกับคุณปทุมว่า เป็นฝ่ายชายที่ไม่มาให้ต้าเหนิงรอเก้อถึงอย่างนั้นแม่กับพ่อก็ยังไปตกลงให้ต้าเหนิงแต่งกับเขาอีก“อย่างไงก็ต้องแต่ป๊าแกตกลงกับ พ่อกับแม่เขาไว้แล้ว”“แม่ ผู้ชายคนนั้นไม่มาดูตัวต้าเลยนะแม่คิดว่าเขารักลูกแม่จริงหรือ….” คุณ ปทุมถอนหายใจ“ป๊าแกอะ ตอนนี้ยังอยู่กับก๊วนเพื่อนตีกอล์ฟอยู่เมืองจีน เขาบอกว่าผู้ชายเขาเตรียมขันหมากมาแล้วเราแค่จัดสถานที่ไว้รอ เขาไปกินข้าวกับพ่อกับแม่ของผู้ชายตกลงกันแล้วเรียบร้อย ต้าก็แค่ยอมแต่งไปเขามีกิจการใหญ่โต กำลังขยายกิจการมาลงทุนในไทย แล้วต้าอะนะปีนี้26แล้วอยู่นานไปไม่ดีนะคนจีนเขาว่ายิ่งแต่งไวยิ่งสบายไปข้างหน้า แม่จ้างออแกไนท์ไว้แล้วเราแค่จัดสถานที่พรุ่งนี้ขันหมากก็มา”ต้าเหนิงขมวดคิ้วทำมต้องเป็นฝ่ายหญิงที
ภัตตาคารแห่งหนึ่งต้าเหนิงหอบกระเป๋าวิ่งเข้าไปข้างในเลยเวลานัดอีกแล้วจูหรานนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งคอยมองผู้หญิงที่ใส่เดสสีขาวสะอาดนั่นก็คือต้าเหนิง“สวยไม่เบา” พูดขึ้นเบาๆกวนหยงหลุบตามองโต๊ะอาหาร สวยสิสวยจนเขาตกตะลึงสวยกว่าจูหรานไม่น้อยเขานิยมผู้หญิงสวยหวานเวลานอนร่วมเตียงยามที่กำลังนัวเนียกัน จะหวานขนาดไหน แต่พูดไปเสียอีกทาง“นัดบ่ายสี่โมง มาหกโมงเย็น ใครจะรอ”“คุณอย่างไรเล่า คุณสือกวนหยงที่นั่งรออยู่ที่นี่แต่ไม่ไปพบ”“การนัดหมายของเราสองคนสิ้นสุดแล้วเขาไม่มาตอนสี่โมงก้เท่ากับไม่มาถ้าผมแสดงตัวว่ารอเขาตั้งสองชั่วโมงเขาก็จะหัวเราะเยาะหาว่าผมอยากแต่งกับเขาจนตัวสั่นสินะ”จูหรานยิ้มบางๆ“ผู้หญิงคนนี้เขาจะสำนึกไหมว่าตัวเองมาสายเลยทำให้ไม่เจอคุณ คุณไม่ออกไปพบเขาหน่อยหรือ”“ความจริงผมก็อยากจะพบเขานะแต่ จะลองนัดไปดูอีกครั้งว่าจะมาสายอีกไหม” จูหรานอมยิ้ม“สวยไหม”“ไม่เท่าไหร่” ลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปชะโงกแต่รีบหันหลังไม่ให้ต้าเหนิงเห็นเพราะต้าเหนิงที่เดินจ้ำกลับมาทางเดิมพร้อมกับคุยโทรศัพท์กับคุณปทุม“ไม่เจอค่ะคุณแม่คนอะไรให้ต้ามารอตั้งนานต้าไม่รอแล้วนะคะกลับบ้านดีกว่าค่ะเสียเวลา” กวนหยงยิ้มมุมปาก
“เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจจริงๆ เลยครับ”“ผมเคยไปดูตัวมาแล้วผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะเป็นโสดจนตาย” หนุ่มคนหนึ่งพูดนินทาให้หนุ่มคนหนึ่งฟังเรื่องต้าเหนิง“เราพบผู้หญิงคนเดียวกันใช่ไหม”“นั่นใช่นางเลยแหละต้าเหนิงคนนั้นคนที่ ปากจัดเหลี่ยมเยอะ” ต้าเหนิงที่นั่งหันหลังอยู่อีกฝั่งของชายหนุ่มทั้งสองยิ้มมุมปากคุณปทุมส่ายหน้าไปมา“แย่จริง พรุ่งนี้แม่นักคนดูตัวให้อีกคนจากประเทศจีนอีกแล้ว”“ใครคะ”“ญาติห่างๆๆๆๆ กับเรา เขามีธุรกิจเป็นของตัวเองหล่อรวยและโปรไฟล์ดี”“ก็แบบนี้ทุกคน แต่คนนี้ไม่เชิงว่าดูตัวแม่กับพ่อลงความเห็นกันแล้วเราแค่อยากให้พวกลุกได้พบกันความจริงเราทาบทามและหาฤกษ์ดีไว้แล้ว”ต้าเหนิงเลิกคิ้ว ใช้ตะเกียบในมือพันเส้นหมี่ฮกเกี้ยนในจาน“มัดมือชกเลยหรือ”“กินข้าวกันสองสามครั้งแล้วแต่งเลยพรุ่งพบกันที่ร้านเดิมที่แม่เคยนัดหนุ่มๆ ไว้ให้ต้านั่นแหละลูก” ต้าเหนิงถอนหายใจเฉิงตู“ยังโสดครับท่าน ชื่อว่าคุณต้าเหนิงโสดสนิท มีคนมาดูตัวแต่ก็ไม่เคยตกลงกับใคร” ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง “หาทางพามาที่นี่ได้หรือยัง” หานจงถอนหายใจ (หานจงก็มา) “ยังไม่รู้ว่าจะเอาแบบไหนเลยครับผมไม่รู้จะจัดการอย่างไร ถ้าเป็นที่นี่ใครๆ
ต้าเหนิง เดินทอดน่องอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า“กริ้งๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นรีบเอาแนบหู“สวัสดีค่ะ” ปลายสายพูดเบาๆ“ใครคะรู้จักเราด้วยหรือคะ”“ไม่รู้จักแค่จะโทรมาด่า อินังสารเลวอิชั่วแย่งผัวชาวบ้านอิหน้าด้าน อิ กระ…” ต้าเหนิงสตั้นแป็บ“นี่มาได้กันแบบนี้เลยหรือฉันไปทำอะไรให้คุณ”“ผัวฉันพูดถึงเธอทุกวัน คอยดูนะแม่จะบุกไปตบให้” ต้าเหนิงถอนหายใจ“ฉันแค่ขายบ้านผัวเธอชื่ออะไรฉันจะได้ไม่ต้องขายบ้านให้เคสนี้ขอผ่าน” เสียงปลายสายบ่นงึมงำ“คุณ กำธร” ต้าเหนิงถอนหายใจยาว“ขอบคุณ รอรับผลกรรมได้เลย” วางสายพร้อมกับยิ้มหยันยี่สิบนาทีต่อมา“เห็นไหมฉันอยู่กับใคร” ต้าเหนิงนอนบนเตียงด้วยชุดนอนบางเบา แกว่งเนกไทในมือไปมาวีดีโอคอลให้สาวคู่กรณีเมื่อครู่ได้เห็น“แกๆๆ นางต้าเหนิงแกเอาผัวฉันไปกกหรือ”“ฮะๆๆๆ ฮ่า ฉันไม่ได้กกเขา แต่เขากกฉันจริงไหมคะคุณกำธร อย่าลืมโอนเงินค่ามักจำบ้านด้วยนะคะเพิ่มอีก6แสน สำหรับเรื่องบนเตียงในวันนี้ของเรา ฮ่าาาา” หันไปทางด้านหลังทำหน้าเหยเกเหมือนกำลังกำลังโดนกระทุ้งด้วยอะไรบางอย่างอยู่ที่บั้นท้าย ปลายสายหน้าถอดสี“กรี๊ดดดดดดดฉันจะฆ่าแก แกนังต้าเหนิงฉันจะฆ่าแก” ต้าเหนิงกดวางสาย ยิ้มมุมปากเ
วิหารเทียมฟ้า“ไทฮองไทเฮาเพคะ มีคนผู้หนึ่งอยากจะไทฮองไทเฮาเพคะ”ร่างท้วมหยุดชะงักเงยหน้าขึ้นมองรูปสลักองค์พระประติมาที่แกะสลักจากหยกขาวสูงตระหง่านในวิหารเทียมฟ้า“เชิญเขาเข้ามาได้” ร่างสูงสวมหมวกปิดบังใบหน้า หนวดสีเทายาวลงมาที่กลางอกเดินเข้ามายืนตรงหน้าไทฮองไทเฮาที่หน้าถอดสี“ท่านผู้นี้ ท่านยังไม่ตายหรอกหรือ” เอ่อถูหวังชวนเงยหน้าขึ้นยิ้มน้อยๆ“ซีโหยว ท่านยังความทรงจำเกี่ยวกับข้าอีกหรือ”“ความทรงจำมากมายด้วยเรื่องของเราสามคน” ไทฮองไทเฮาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นน้อยๆ“ฮะฮะฮ่าาาา ข้ามาดีไม่ได้มาทวงความแค้นอะไรกับท่านหรอกแค่อยากจะบอกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้”“เรื่องคนของตระกูลเอ่ออย่างนั้นหรือ ไท่ซางหวงพยายามตลอดมาที่จะให้คนในตระกูลเอ่ออยู่สบายแต่พอสิ้นไท่ซางหวง” ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปถึงจะบอกว่าพยายามก็ไม่อาจบังคับกะเกณฑ์ใครได้ ตอนนี้จึงได้ภาวนาให้นางรอดพ้นวิกฤติ” หมายถึงอะไรยังมีเหลือคนของตระกูลเอ่ออยู่อีกหรือไร”“ท่านไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้หรือ ข้าไม่อาจห้ามปรามนางได้นางเข้าวังไปอาศัยบารมีของไทเฮา นางช่างเดียงสานักไม่รู้หรือไรว่ากำลังขี่หลังเสืออยู่ เดิมข้าคิดแค่เพียงว่านางเข้าไปเพื่อพบ…ฉินเกอห