“ข้ากับเจ้า เราไม่ได้พบกันอีกเลยตั้งแต่ที่เข้าพาเจ้าไปซ่อนตัวที่วิหารเทียมฟ้า”“แล้วก่อนหน้านั่นเล่า”“ก่อนหน้านั้นเจ้าไม่มองข้าด้วยซ้ำไปเจ้าจำได้หรือไม่ว่าใครคนหนึ่งเดินตามเจ้าไปทั่วตลาดเข้าทุกร้านที่เจ้าเข้าไปซื้อของ”ต้าเหนิงตะลึงงัน เขากับเอ่อต้าเหนิงรักกันอย่างนั้นหรือไต้ซือวังหลวง“สี่ตระกูลใหญ่มีไว้ทำไมกัน เหตุใดต้องพึ่งพาสี่ตระกูลในเมื่อทีวังหลงมีไทเฮามีราชครู“ไทเฮาตั้งข้อสังเกต“พ่ะย่ะค่ะ แล้วกำลังพลของทั้งสี่ตระกูลเล่า ไทเฮาทรงคิดว่าทำอย่างไรเราจะได้กำลังคนเหล่านั้นมา”“สี่ตระกูล มีกลำงพลรวมๆแล้วสองแสนคนของท่านก็ห้าหมื่อนที่เหลืออีกหนึ่งแสนห้าหมื่นคนหากผู้นำสามตระกูลถูกข้าล้มล้างท่านก็รับกำลังคนพวกนั้นไว้เสีย”“แล้วมีวิธีไหนที่จะจัดการพวกเขา”“ส่งราชโองการให้สามตระกูลใหญ่มอบกำลังคนของพวกเขาให้กับไทเฮาอ้างว่าตอนนี้ไม่ไว้ใจอ๋องฉินที่หนีไปเพื่อเตรียมก่อการกบฎ พวกเขาทั้งสามตระกูลมอบคนก็ถือว่าภักดีไม่มอบจึงถือว่วกบฎตั้งใจสั่งสมกำลังพลเพื่อช่วยฉินอ๋อง จะมอบหรือไม่มอบเราก็ได้เปรียบ”เฉินตงลี่ออกคำสั่งไทเฮายิ้มหวานหยด มีเฉินตงลี่คนเดียวก็วางหมากได้ชนะทั้งกระดานบ้านเฉิน“เตรียมเข
“ไม่อยู่ได้ไหมอ่าาา ท่านอ๋องใจร้ายกับต้าเหนิงที่สุดเลย”อ้อมแขนแข็งแรงกอดรวบร่างบางแนบแน่นไม่สนใจสายตาของเยี่ยนฉือกับหานจงที่เขินไปตามๆกัน“ไมไ่ด้ใจร้ายแต่เพราะห่วงเจ้ากลัวเจ้าจะได้รับอันตราย หวางเฟยของข้าอยู่ที่นี่รอไม่นานข้าจะรีบสะสางทุกอย่างในทันทีเพื่อมารับเจ้าให้เร็วที่สุด มอบตำแหน่งฮองเฮาให้กับเจ้า”เยี่ยนฉืออมยิ้ม หานจงถอนหายใจด้วยความโล่งอกในที่สุดฉินเกอหลงก็พร้อมที่จะชิงบัลลังก์พร้อมที่จะทวงทุกอย่างคืน ต้าเหนิงซุกหน้ากับอกกว้างยกมือขึ้นกอดรอบเอวหนา“สัญญาว่าจะรีบมาก็ต้องรีบมา ห้ามช้าแม้แต่วันเดียว ไม่อย่างนั้นต้าเหนิงไม่พูดด้วยนะ” ฉินเกอหลงกระชับอ้อมกอดแนบแน่น“ใจร้ายไปจริงๆเพิ่งจะแต่งกันหวางเย่ควรให้เวลาชายาของท่านสักหลายวันหน่อย”“ไม่ต้องห่วงหรอกท่านหมอ ข้าอยากจะฝากอ๋องน้อยไว้กับหวางเฟยข้าดว้ยซ้ำไป”เยี่ยนฉือยิ้ม หานจงก้มหน้าเขินอาย“เยี่ยนฉือมียาดี กินไปสองสามวันรับรองได้ข่าวดีเรื่องอ๋องน้อย หวางเย่ต้องลองว่าแล้วหานจงเราไปเคี้ยวยากัน จะได้ข่าวดีเรื่องอ๋องน้อยเร็วๆ”คว้ามือหานจงให้เดินตามปล่อยให้ฉินเกอหลงอยู่กับต้าเหนิงเพียงลำพัง“สัญญาว่าจะรอข้า รอว่าอีกไม่นานจะกลับมาทวงความท
วังหลวงตระกูลลู่ “ฮูหยินหนีไปนหนีไปหนีไปซะ"ลู่สือห่าวตะโกนบอกฮูหยินดังๆหลังจากที่มีบาดแผลทั่วร่าง ไม่ยอมส่งมอบกำลังพลแล้วยังส่งคนของตระกุลลุ่ไปที่สุ่ยจิงไทเฮามีบัญชาให้กวาดล้างกบฎซึ่งก็คือตระกูลลู่ส่วนตระกลูจางกับตระกูลลี่ รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ ลี่ฟ่านฟ่านและจางเหมียนรีบมอบตราหยกควบคุมกำลังคนของทั้งสองตระกูลในทันทีที่ได้รับราชโองการ สี่ตระกูลใหญ่ไม่มีอีกต่อไปแล้ว“สามีทะทะท่าน ท่านอยู่ข้าอยู่ท่านตายข้าจะอยู่ได้อย่างไร”วิ่งเข้าประคองร่างโชกเลือดของใต้เท้าลู่“ฮูหยินชาติหน้าจึงพบกัน อ้ากกกกก”ความเจ็บปวดนี้ไม่อาจแบ่งปันผู้ใดใต้เท้าลู่ได้แต่ขอให้สวรรค์เมตตา“หวางเย่จะต้องล้างแค้นให้ข้า”ตะโกนดังลั่น ก่อนที่จะฟุบกายลงกับพื้น“ตัดหัวส่งไปยังสุ่ยจิงเพื่อข่มขวัญอ๋องฉิน”เสียงสั่งดังประกาศิตของไทเฮาชวีเยว่ ที่ได้ยินเรื่องที่ใต้เท้าลู่ส่งคนไปสุ่ยจิงศีรษะของลู่ซือห่าวขาดกระเด็นหลุดออกจากบ่า ใบหน้าเหยเกทว่ากลับมีดวงตาแข็งกร้าวอาฆาตแค้นไทเฮาชวีเยว่ยิ้มเย็น"ต่อไปก็ถึงคิวเจ้าแล้วฉินเกอหลง"หมู่บ้านกลางหุบเขาซูตงถึงจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ต้องตัดใจลาจูบหนักหน่วงในค่ำคืนแสนหวานบทรักอ้อยอิ่งที่ไม่อยาก
ในที่สุดคนทั้งหมดก็มาถึงสุ่ยจิงยามค่ำแล้ว ใบไม้แห้งถูกลมพัดปลิวไปบนถนนรกร้างว่างเปล่าราวกับเมืองร้าง ไม่มักคนที่อยู่ตรงนั้นผู้คนที่สัญจรต่างหลบเข้าที่พักอาศัย อากาศเย็นจนหนาว ฉินเกอหลงและผู้ติดตามต่างชักม้าเข้าไปในเมืองบนซุ้มประตูเมืองนั้น ศีรษะของลู่ซือห่าวแห้งเกรอะกรัง ห้อยต่องแต่งน่าขนลุกฉินเกอหลงแหงนคอมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ลู่ซือห่าวภักดีกับเขาตลอดมาไม่น่ามีจุดจบแบบนี้ กำบังเหียนม้าไว้แน่นสัญญาว่าจะต้องแก้แค้นให้กับใต้เท้าลู่ให้ได้“หวางเยว่ แย่แล้วการมาของเราไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว”ซือกวานพูดขึ้นเบาๆ สีหน้าของทุกคนต่างเป็นกังวล และสลดใจกับภาพสยดสยองตรงหน้า“ฉินเกอหลงคารวะใต้เท้าลู่ ข้าน้อยทำผิดต่อท่าน มาช้าไป จำต้องทำคุณไถ่โทษจะทวงแค้นคืนให้ท่านด้วยตัวเอง”ซือกวาน เยี่ยนฉือและหานจงต่างประสานมือนอบน้อมไว้อาลัยให้กับใต้เท้าลู่พร้อมกัน“หวางเย่เราจะทำอย่างไรกันดี ในเมื่อใต้เท้าลู่ไม่อยู่แล้ว”เยี่ยนแือถามขึ้นชักม้ามาเคียงข้างระแวดระวังภัยรอบๆตัวฉินเกอหลง“ถามหาตระกูลจง”ฉินเกอหลงพูดขึ้นเบาๆ“ซือกวานอารักขาหวางเย่ข้ากับหานจงจะไปเคาะประตูถามถึงตระกูลจงกับชาวบ้านที่เอาแต่
“ปลดท่านลู่ลงมา”ฉินเกอหลงประกาศดังๆ ทัพของตระกูลจงกับฉินเกอหลงที่ย้อนกลับมาที่ประตูเมืองสุ่ยจิงปลดเอาศีรษะของลู่ซือห่าว เพื่อทำพิธีศพฉินเกอหลงแม่ทัพจง เยี่ยนฉือซือกวานและหานจงต่างประสานมือนอบน้อมเพื่อพาศีรษะของท่านลู่ผ่านไป“อนาถนัก เห็นทีจะต้องเร่งยกทัพอยู่ที่นี่เป็นเป้านิ่งไม่ได้แล้ว พวกเขาประกาศดังรู้ว่าเรากำลังตั้งใจจะทำอะไร หวางเย่ทัพของตระกูลจงตอนนี้พร้อมแล้ว”“ทหารของเราฝึกปรือฝีมือถึงขั้นไหนแล้ว”“คนทั้งหมดนี้เป็นทหารที่ผ่านการฝึกฝนมากือบสามปีแล้วตั้งแต่ครั้งที่หวางเย่ออกผนวช ท่านลู่ส่งคนมาฝึกฝนอีกทั้งยังมีการรับคนเพิ่มในทุกๆเดือน เบี้ยหวัดพวกเขาล้วนมาจากเงินของท่านลู่ ดีที่ท่านลู่มีเพียงฮูหยินและคนรับใช้ไม่ได้มีบุตรีบุตรชายให้้องเลี้ยงดูพวกทหารเหล่านี้เปรียบเสมือนลูกหลาน มีทั้งคนที่รับเบี้ยหวัดจำนวนน้อยกับบางส่วนสมัครใจเพราะทนการกดขี่ของกัวกั๋วฮ่องเต้ไม่ได้ ทุกคนจึงตั้งใจฝึกฝนเพื่อรอวันนี้”“เช่นนั้นก็ถือว่าดี จำนวนทหารทั้งหมดกี่นาย”ฉินเกอหลงยิ้มบางๆรู้สึกขอบคุณใต้เท้าลู่ผู้ล่วงลับไม่น้อย“ตอนนี้จำนวนทหารเก่าใหม่รวมทั้งหมด450000นายพวกที่เพิ่มมามาจากคนที่เคยเป็นกำลังพลของสี่
“ปึก เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆสำเร็จแล้ว”ไฉหรานกระโดดตัวลอย ต้าเหนิงยิ้มภูมิใจอย่างที่สุดกับไก่ป่าตัวแรก “ข้ายกให้เจ้าเป็นที่สองในการแม่นธนูเลยทีเดียว”“แล้วใครเป็นที่หนึ่ง”“ไม่น่าถามก็ต้องข้าอยู่แล้วหรือเปล่า ข้าในซูตงนี่ไม่มีใครกล้าท้าดวลกับข้า”“นั่นเพราะหากเจ้าแพ้เจ้าก็จะไปเซ้าซี้ของท้าประลองอยู่แบบนั้นจนไม่มีใครกล้าประลองกับเจ้าจึงยกให้เป็นที่หนึ่ง เอาล่ะข้าเป็นที่สองก็ได้ แต่ไม่ให้เจ้าเป็นที่หนึ่ง”“อ้าวแล้วใครจะเป็นที่หนึ่ง”“ที่หนึ่งไม่มี มีเพียงข้าที่เป็นอันดับสองอิ_อิเจ้าแพ้ข้าแล้วไฉหราน”ไฉหรานยิ้ม มิตรภาพกำลังงอกเงยไม่มีสิ่งใดให้ต้องห่วงทุกอย่างกำลังจะเข้ารูปเข้ารอยต่อจากนี้ ต้าเหนิงยิ้ม ฉินเกอหลงจะต้องประหลาดใจถ้าต้าเหนิงจะยิงไก่ป่ามาย่างให้เขากิน“เจ้าเก่งเพียงนี้ท่านแม่ยังบอกให้เจ้าหัดเย็บถุงหอมตามอย่างของหญิงงามแต่ข้ากลับคิดว่าหญิงงามนั่งเย็บถุงหอม หญิงกล้าแกร่งเช่นเราหัดยิงธนูเหมาะสมกันแล้ว”“ไปเย็บถุงหอมกันเถอะ”“เย็บถุงหอม? เจ้าอยากเป็นหญิงงามที่เพียบพร้อมเหมือนที่ท่านแม่พร่ำพูดกับข้าหรือไร”“ข้าอยากจเย็บถุงหอมให้กับหวางเย่ของเจ้าอย่างไรเล่า ตามประสาภรรยาที่ดีคราวหลังข้าจะได้ไ
“เคลื่อนทัพ”ฉินเกอหลงพร้อมด้วยเยี่ยนฉือหานจงซือกวานและแม่ทัพจงต่างเคลื่อนทัพออกจากสุ่ยจิงในเช้าตรู่ของปีฉินหลางที่3มุ่งหน้ายังแควันฉินเพื่อทวงบัลลังก์คืนซูตง“ท่านแม่ดูสิต้าเหนิงนางเย้บถุงหอมได้สวยกว่าลูกเป็นไหนๆทำไมนางทำได้แล้วลูกทำไมทำไม่ได้”มารดาหรูเหมินยิ้มน้อยๆหยิบถุงหอมของต้าเหนิงขึ้นมาดู“ลวดลายละเอียดงดงามเจ้าปักลายอะไรกันจึงสวยเช่นนี้ สิ่งนี้คือสัตว์ชนิดใด”“หมูเด้งสัตว?ชนินี้เรียกว่าหมูเด้ง อืมต้าเหนิงเกือบลืมไปแล้วว่ามันคือฮิปโปไม่ใช่หมู”หมูเด้ง ฮิปโป เจ้าหมายถึงสัตว์ชนิดใด”มารดาหรูเหมินกับไฉหรานถามขึ้นพร้อมกัน”“ฮิปโปที่กำลังเป็นกระแส ข้าเหมือนหมูเด้งอย่างไรเล่าดีดตลอดเวลา”“ฮิปโป”“อ่อฮิปโปก็คือสัตว์ชนิดหนึ่งที่เหมือนช้างแต่ตัวเล็กกว่าและเด้งได้”“มีสัตว์ที่มีอุปนิสัยเช่นนั้นด้วยหรือ”มารดาหรูเหมินทำสีหน้าสงสสัยอย่าที่สุด”“เจ้าค่ะทว่ามันอยู่ในที่ไกลแสนไกลหากอยู่ใกล้ๆต้าเหนิงจะพาท่านป้าไปเยี่ยมชมหมูเด้ง”ฮูหยินหรูเหมิน ยิ้มอ่อนโยน“เจ้านี่ช่างน่าเอ็นดูเสียจริงเผื่อแผ่คนอื่นจนไม่คิดถึงตัวเอง”“หวางเย่จะต้องชอบหมูเด้งของเจ้าแน่นอน”ไฉหรานพูดยิ้มๆวังหลวงเฉินอี้เหมยกลืนน้ำลา
“เจ้ารู้เรื่องนางในดวงใจของฉินเกอหลงด้วยหรือ อืมมมช่างเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ที่เข้าอกเข้าใจกันดีจริงๆ เอ่อต้าเหนิงนะเอ่อต้าเหนิงทำบุรุษคลั่งไคล้ทั้งๆที่ นางหักหลังข้าหลายครั้งแต่ข้าก็อดที่จะคิดถึงนางไม่ได้นางมีดีอะไร หรือเพียงเพราะนางไม่ยอมทอดกายข้าจึงหลงไหลนาง”เฉินอี้เหมยกัดฟันจนเป็นสันนูน เฉินอี้เหมยก็ไม่เคยยินยอมมอบกายผิดต่างกันตรงไหน แล้วทำไมกัวกั๋วอ่องเต้ถึงไม่ยอมข่มเหงเอ่อต้าเหนิง หรือเพราะนางมีฐานันดรสูงส่งกว่าอี้เหมย ครั้งนั้นก็เหมือนกันครั้งที่ฉินเกอหลงเอาแต่เฝ้าวนเวียนเดินตามเอ่อต้าเหนิงที่ตลาด แต่เฉินอี้เหมยที่ต้องฝึกกิริยาเพื่อหวังว่าเขาจะเลือกเฉินอี้เหมยในฐานะไท่จือเฟย แต่เขากลับเอาเวลาทั้งหมดที่เฉินอี้เหมยฝึกฝนกิริยามารยาทไปทุ่มเทให้กับเอ่อต้าเหนิงที่หยิ่งยะโสคนนั้น“แล้วอี้เหมยที่ไม่ยอมทอดกายทำไมฝ่าบาทจึงข่มเหงเพียงนี้”“ฮะฮะฮ่าาาาเจ้าคิดว่าอย่างไรข้าจำต้องอธิบายด้วยหรือ”ยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่ปูดบวม“ข้าชอบเจ้าในแบบนี้ชอบน้ำตาของเจข้าหากแต่เอ่อต้าเหนิงข้าชื่นชมรอยยิ้มของนางข้าไม่อยากจะเห็นหยาดน้ำตาของนาง นางเหมาะกับรอยยิ้มที่สดใส”คำพูดเดียวกันนี้ที่เคยพูดไว้กับซุ่ยเอ่อ
ฉินเกอหลง ก่อนหน้านั้นเมื่อพันปีก่อนยืนโปรยเถ้ากระดูกของต้าเหนิง“ฝ่าบาท ท่านหมอเยี่ยนฉือกับหานจงขอประทานอนุญาตออกเดินท่องยุทธภพ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอนุญาติในครั้งนี้”เชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนบางอย่างแหว่งเว้าหายไป“ในที่สุดเราทุกคนก็ได้แค่เพียงเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปพร้อมกับสายลม ข้าเองแม้จะอยากทำตามใจเพียงใดสุดท้ายข้าก็ได้แค่เพียงสะกดกลั้นความคิดนั้นไว้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ..กงเล่อหมายถึงท่านปู่ของฮองเฮาเอ่อถูหวังซวน เสียใจที่ต้องสูญเสียคนของตระกูลเอ่อไปจนไม่เหลือใครแม้กงเล่อขอใช้แซ่ของตระกูลเอ่อแต่ท่านพ่อก็ยังเศร้าโศกเช่นเดิมกงเล่อเข้าใจดีว่าไม่อาจทดแทนกันได้”“จริงสินะในที่สุดตระกูลฉินก็ไม่อาจปกป้องตระกูลเอ่อไว้ได้ ข้าที่ทุ่มเทตั้งแต่วันแรกที่พบนางก็ยังไม่อาจช่วยเหลือนางได้ทันเช่นนั้นจึงเรียกว่าเป็นความผิดของข้า”“ไม่มีใครผิดพ่ะย่ะค่ะสวรรค์กำหนดไว้แล้วหากไม่มีฝ่าบาทบางที่ตระกูลเอ่ออาจไม่เหลือรอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกฆ่าล้างตระกูลฝ่าบาททำดีที่สุดแล้ว”“จริงสินะในครั้งแรกที่ข้าพยายามช่วยชีวิตเอ่อต้าเหนิงจากคนชั่ว และครั้งที่สองข้าที่พยายามช่วยชีวิตนางจากการสั่งกา
หนึ่งปีผ่านไป“โอ้ๆๆๆๆอย่าร้องนะคนดีมาให้พ่ออุ้มเร็ว”ฉินเกอหลงพูดไทยสำเนียงแปลกๆคุณหมอดนัย ส่ายหน้าไปมา“เมื่อไหร่จะพูดไทยแข้งแรงสักทีบอกให้สอนกันหน่อยก็ไม่เอาวันๆเอาแต่ผลิตลูกดูสินี่ก้ท้องอีกแล้วหัวปีท้ายปีเชียว”ต้าเหนิงยิ้มดวงตาเป็นประกาย“คุณแม่ฮับลูกชายหิวนมแล้วฮับ”เสียงออดอ้อนของฉินเกอหลง ทำเอาต้าเหนิงส่ายหน้า รับเอาร่างกระจ้อยมากอดแนบอก แกะกระดุมป้อนนมทารกในอ้อมแขนฉินเกอหลงดวงตาเป็นประกาย หมอดนัยวางยาที่จัดมาสำหรับแม่ลูกอ่อนลงตรงหน้าฉินเกอหลง“อิจแาต้าเหนิงจังมีสามีที่คอยดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกับข้าวกับปลาเลี้ยงลูกเตือนให้กินยา ถ้ามีแบบนี้รักตายเลย บ้านช่องก็เลยไม่กลับมาคตอยดูแลภรรยาตั้งสองสามเดือนแล้วธุรกิจที่นั่น ไม่ต้องห่วงหรือ”ฉินเกอหลงยิ้มกำลังเรียบเรียงคำพูด“ผมจัดเตรียมทุกอย่างและประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ในมุกเช้าจึงไม่ต้องห่วงอะไรหากว่ามีอะไรขัดข้องก็จะเรียกประชุมทันที ทางนี้ผมเองไม่อาจวางใจ ต้าเหนิงเขาต้องมีผมคอยดูแล เขาลำบากอุ้มท้องลุกของผม เขาต้องอุ้มเด็กอีกคนไว้ในท้องฉะนั้นผมเลยคิดว่าไม่มีใครจะดูแลต้าเหนิงได้ดีเท่าผมและควรจะดูแลต้าเหนิงอย่างดี”หมอดนัยส่าย
“คุณไม่อยากลองขอฉันแต่งงานดูอีกสักทีหรือ”อมยิ้มฉินเกอหลงเลิกคิ้วสูง“อยากสิ ถ้าอย่างนั้น แต่งงานกับผมนะครับ”คุกเข่าลงกับพื้นที่ด้านล่างมีกลับดอกเมหยสีชมพูดร่วงเกลื่อนกราดต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าขึ้นลง ฉินเกอหลงรวบร่างบางไว้แนบอกอีกครั้ง“ขอบคุณขอบคุณจริงๆ ที่ยอมแต่งกับผม”ยิ้มหว้างสดใสจนต้าเหนิงต้องยิ้มตาม““ความจริงแล้วเธอไม่ได้ติดค้างอะไรหรอกนะที่ตามหาเพราะต้องการชดเชยให้คุณอย่างไรเล่า ต้าเหนิง”ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฉินเกอหลงกระซิบข้างหูเบาๆ“คุณพูดอะไรนะ อย่าบอกนะว่าคุณ เพิ่งจะข้ามภพมา”ฉินเกอหลงเองก็เลิกคิ้วสูง“ข้ามภพหรือ แค่ความฝันหรือเปล่าสิ่งที่ผมฝันในทุกๆคืนนั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของผม เธอกำลังเจ็บปวดและทรมานผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามีหยาดน้ำตาทุกครั้ง ตั้งแต่จำความได้ พอโตขึ้นมาสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอดคือตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ให้จิตกรมาวาดภาพเธอคนนั้นไว้ในห้องนอนเพื่อให้ได้เห็นหน้าเธอในทุกๆวัน คุณอยากเห็นรูปผู้หญิงคนนั้นไหม”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง“คุณอยากเห็นก็คงต้องไปส่องกระจกแล้วล่ะ เพราะรูปนั่นเหมือนคุณอย่างกับแกะ”ดึงมือต้าเหนิงให้เดินเคียงข้างกันไป“คุณฝันถึ
ฉินเกอหลงจอดรถลงข้างทางที่ประดับด้วยไฟหลากสีใต้ต้น ดอกเหมยสีชมพูเบ่งบาน ผู้คนเดินจูงมือคู่รัก“คุณชอบดอกเหมยหรือ”ต้าเหนิงถามเบาๆ“ชอบ อยากให้ต้าเหนิงได้เหนมันไงเล่ากว่าจะผ่านไปแต่ละปีจะต้องทนนับวันนับเดือนที่ดอกเหมยบานและร่วงโรยครั้งแล้วครั้งเล่าลำพังเดียวดายตราบนานเท่านาน”ต้าเหนิงก้มมองมือในอุ้งมืออุ่นของฉินเกอหลง ยอมให้เขากุมมือไว้ราวกับคู่รักแต่ไม่ยอมฟังคำพูดเศร้าๆของเขา“ฮ่าาาพามาแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เรารึคิดไปไกลเยว่าจะพาไป…ทำมิดีมิร้าย”ฉินเกอหลงส่ายหน้าไปมา“วางใจเถอะไม่เอาไปขายหรอก”“หือ ไม่ขายแต่ฆ่าหั่นศพและแย่เชียวฮ่าๆๆๆๆ”ยังตลกได้อีกฉินเกิอหลงหันมาทำสีหน้าจริงจังต้าเหนิงขนลุกเกรียวหรือว่า หรือว่า“จูบได้ไหม”“หา จะจูบเลยหรือ”“ก็ต้องจูบสิคนที่เขาลองคบกันก็ต้องลองหลายๆอย่างว่าเขากันได้ไหม”“อย่าทำแบบนี้นะมาถึงก็จูบเลยหรือจะไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยหรือ”ฉินเกอหลงรวบร่างบางมากอดไว้แนบกายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมที่หอมละมุนเนิ่นนาน“เจ้าเข้าสู่โหมดโรแมนติกแล้วนะ คิดถึงจังสบายดีไหม”ทอดเสียงอ่อนโยนจนต้าเหนิงตัวเย็น มือที่ยกขึ้นกอดรอบเอวของฉินเกอหลงอย่างกล้าๆกลัวๆก็เย็นเฉียบ“คือๆๆๆค
ต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าหงึกหงักกำลังช่างใจว่ากัวกั๋วก็คือกํวกํ๋วหรือว่ากัวกํ่วคนนี้ไม่ใช่กัวกั๋ว“ขอบคุณ แต่จะว่าไปฉันไม่ได้หลงตัวเองนะแต่คุณสองคนกำลังแย่งฉันใช่ไหม”ฉินเกอหลงอมยิ้มกัวกั๋วงง“มีคนแบบนี้ด้วยหรือ คนที่คิดว่าคนอื่นกำลังแย่งคุณผู้หญิงไท่กัวเป็นแบบนี้ทุกคนไหมนะ”ฉินเกอหลงเปยเบาๆต้าเหนิงอมยิ้ม ความคนึงหาทีข้ามผ่านมาปีหนึ่งสิ้นสุดลง“เอาล่ะที่นี้ เราสองคนมาตกลงกันดีกว่าไหมพี่ใหญ่ว่าใครจะจีบก่อนจีบที่หลังไอ้ผมอะนะเริ่มชอบผู้หญิงไท่กัวคนนี้แล้ว”กัวกั๋วพูดขึ้นพร้อมกับใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารในจานวางตรงถ้วยข้าวตรงหน้าต้าเหนิง ฉินเกอหลงที่เห็นก็รีบคีบของกินที่คิดว่าต้าเหนิงจะชอบวางลงบนถ้วยข้าวของต้าเหนิงบ้างไฉหรานอมยิ้ม“ต้าเหนิงของเราฮอตน่าดู”หันไปพูดกับเฉินซือกวาน“ก็นะบอกแล้วไงว่าฉันอะนะกำลังโดนแย่งจากคนสองคน”อมยิ้ม“ใครบอก กัวกั๋วนายนะมาทีหลังหลบไปเถอะไม่มีการแย่งชิงอะไรทั้งนั้น”ฉินเกอหลงทรุดกายลงกับพื้นคุกเข่าตรงหน้าพร้อมกับหยิบกล่องกำมยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเปิดกล่องกำมยี่สีแดงออกแสงแวววาวจากเพชรเม้ดมะหึมาคงราวๆห้ากะรัตสุกสกาวต้องแสงไฟ ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง“แต่งานกบผมนะครับคุณต
“ใครจะบังอาจเล่าค่ะ ต้าเหนิงเองเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดมากหรือชอบนินทาใครต้าเหนิงเขาเป็นคนเรียบร้อยน่ารักที่สุด”ไฉหรานเชียร์เต็มที่ ต้าเหนิงยิ้มจื่อนๆ เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ในโรงรับจำนำเถอะ“เรียบ จริงหรือครับ”“อืมมม เรียบร้อยครับคุณฉินไม่ใช่เรียบเฉยๆ” เฉินซือกวานรีบพูดแทรกขึ้นกลัวว่าต้าเหนิงจะรู้สึกไม่ดี เปล่าต้าเหนิง ที่รีบก้มมองหน้าอกของตัวเองมันก็ไม่ได้ราบแบนเสียหน่อยบริกรนำอาหารมาเสริ์ฟบนโต๊ะ ฉินเกอหลงผายมือ“มีที่พักหรือยังครับอี้ตวนของเรามีที่พักมากมายในเครือให้คุณ …ได้เลือกพัก”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอมยิ้มแก้มป่องจากฝ่าบาทมากลายเป็นนักขายอย่างไรกัน“ต้าเหนิงเขาพักกับเราค่ะคุณฉินไม่ต้องห่วงเขามาที่นี่แค่5วันตั้งใจพาเที่ยว อย่างที่ต้าเหนิงอยากจะไปเรื่องที่พักก็เลยไม่ใช่ปัญหาที่บ้านของเราก็มีห้องวางอยู่หลายห้อง”ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง บริกรเดินถือช่อดอกกุหลาบสีแดงนับพันดอกมุ่งตรงมาที่ ต้าเหนิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม“ต้าเหนิงรับเอาดอกกุหลาบช่อโตหยิบการ์ดที่สอดไว้ด้านหน้าขึ้นมาอ่าน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้ว“ของใคร”ไฉหรานชะโงกมองเพราะความสงสัยแล้วหันไปสบตากับเฉินซือกวาน“เอ่อ คุณฉินกัวกั๋วครับ
ภัตตาคารหรูริมน้ำมองเห็นแสงสีสว่างไสวไปทั่งสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำสายใหญ่งดามท่ามกลางผู้คน ต้าเหนิงกับไฉหรานมาถึงแล้ว เฉินซือกวานรีบ เปิดประตูรถให้ทั้งสองคนลงมาจากรถด้วยท่าทีราวกับนักันไว้นั่นคือให้ช้าๆเข้าไว้ก็ต้าเหนิงไม่อยากพบเจ้าคนรวยอ้วนพุงพุ้ยและกินจุคนนั้นตั้งใจ ปิดภัตตาคารเพื่อจะได้กินอิ่มๆคนเดียวไม่ได้เพื่อให้ต้าเหนิงนั่งสบายหรือเปย์ต้าเหนิงหรอก“คุณครับ คุณฉินเชิญคุณทั้งสามบนชั้นสองขอรับ”บริกรก้มศรีษะนอบน้อม ต้าเหนิงเงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสองที่สว่างไสวเห็นเพียงใครบางคนที่นั่งนระเบียงภัตตาคารหรู ต้าเหนิงเบ้ปากเข้าใจเลือกมุมให้มองเห็นพวกต้าเหนิงก่อนแหมร้ายจริง“คุณผู้หญิงครับนี่คือของขวัญต้อนรับสำหรับการยินยอมมารับประทานอาหารกับ...คุณฉิน”“คุณฉิน ฉินอะไร”ต้าเหนิงรับเอากล่องน้ำหอมระดับโลกไว้ในมือไฉหรานยิ้มสดใสดีใจยิ่งกว่าต้าเหนิงเสียอีก“เห็นไหมต้าเหนิงเขาจริงใจแค่ไหน”กระซิบต้าเหนิงเบาๆต้าเหนิงส่ายหน้าไปมาเดินตามไฉหรานที่ดึงมือให้เดินตามเฉินซือกวานขึ้นไปข้างบนชั้นสองพอ้าเหนิงยืนอยู่ชั้นบนเสียงดนตรีก็ดังขึ้นนักดนตรีบรรเลงเพลงหนึ่งทำนองคุ้นหูเหลือเกินต้าเหนิงหยุดนิ่งอยู่กับท
“ทำไมต้องเป็นที่นั่น”อ่านชื่อภัตตาคารหรูริมแม่น้ำที่อาหารอร่อยมากตามรีวิวแต่ราคาแพงหูฉี่“หืออาหารอร่อยมากและที่สำคัญ…”ไฉหรานยิ้มดวงตาพร่างพราว"ฉันว่ามันมากไปฉันอยากกินของอร่อยๆก็จริงแต่ ก็ยังไม่อยากหมดตัวฮ่าาาา"ต้าเหนิงพูดไปยิ้มไปไฉหรานเองก็ยิ้ม"ฉันไม่สิคุณเฉินสามีฉันเขาบอกจะเลี้ยงเธอในฐานะที่เราไม่ได้ชวนเธอมางานแต่งของเราเขารู้ว่าฉันกับต้าเหนิงสนิทกันแค่ไหนก็แค่อยากจะเลี้ยงต้อนรับเธอสักครั้ง""มันหลายตังค์นะฉันเกรงใจ"ไฉหรานยิ้มอีกแล้ว"ไม่ต้องเกรงใจน่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องต้อนรับเธอให้ดีที่สุดให้เธอประทับใจที่สุดจนอยากจะอยู่ที่นี่เลยดีไหม""ไม่ใช่ล่ะ มันแปลกๆ ฉันว่ามันมีกลิ่นนะ เอาความจริงมาพูดกันเราสองคนคบกันมาตั้งปีหนึ่งฉันไว้ใจเธอมากเลยนะไฉหรานว่าเธอจะไว้ใจได้ และไม่โกหกฉัน"ไฉหรานยิ้มเจื่อนๆนั่งลงข้างๆต้าเหนิงเลื่อนแก้วกาแฟตรงหน้าต้าเหนิงอย่างเอาใจ“คุณเฉินเขานัดใครบางคนดูตัวเพื่อนสาวของเราต้าเหนิงซึ่งเขาก็แค่อยากจะกินข้าวแล้วก็ดูตัวต้าเหนิงไปด้วย คนคนนี้อะนะหล่อที่สุดนิสัยดีที่สุด และเอาใจเก่งที่สุด ที่สำคัญเป็นทายาทโดยตรงที่กำลังจะนั่งตำแหน่งท่านประทานของอี้ตวนในขณะนี้สาว
“แม่จ๋าหนูอยากจะไปเมืองจีน คุณแม่คนสวยใจดีที่สุดในโลกอนุญาตให้ลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ไหม”คุณปทุมยิ้มแกล้งมองไปทางอื่นเสีย“น่านะคุณแม่ขา ต้าเหนิงอยากจะไปจริงๆบรรพบุรุษเราเป็นคนจีนพ้นทะเลๆไม่ใช่หรือแล้วนี่ไม่ให้ต้าเหนิงไปพอต้าเหนิงตายไปจะกล้ามองหน้าบรรพชนได้อย่างไร”แอบเอาประโยคยอดนิยมในซีรีย์จีนมาพูดกับคุณปทุม“จะไปทำไม”“หนูอยาก…เป็นกำแพงเมืองจีนอยากไปพระราชวังต้องห้ามอยากจะเที่ยวจางเจี่ยเจีย”“มีเงินแล้วหรืถึงอยากจะไปพอให้แต่งกับผู้ชายจีนที่เป็นญาติห่างๆกันก็ไม่เอา ทีแบบนี้แล้วอยากจะไปไปคนเดียวมันอันตรายนะ แม่ไม่อนุญาต”“หนูไปแค่ไม่กี่วัน คุณแม่ไม่ต้องห่วงน่าแล้วตอนนี้ที่นั่นก็มีไฉหราน”“ไฉหรานอะไรของแกนั่นไว้ใจเขาได้หรือไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเขาสักหน่อยก็ไว้ใจเขา แม่ละท้อใจกับการไว้ใจคนและเข้ากับคนได้ง่ายๆอย่างหนูจังเลยแบบนี้ยิ่งจะทำให้คนชั่วมาตีสนิท”“ไฉหรานเขาไม่หลอกหนูหรอกค่ะเราพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างจนสนิทกันแล้วระยะเวลาเกือบปีมานี้หนูคิดว่าหนูดูเขาดีพอแล้วค่ะ”คุณปทุมถอนหายใจ“แล้วที่หลับที่นอน โรงแรมที่พัก เล่าจัดเตรียมไว้แล้วหรือ”“เรียบร้อยแล้วค่ะตั