“เคลื่อนทัพ”ฉินเกอหลงพร้อมด้วยเยี่ยนฉือหานจงซือกวานและแม่ทัพจงต่างเคลื่อนทัพออกจากสุ่ยจิงในเช้าตรู่ของปีฉินหลางที่3มุ่งหน้ายังแควันฉินเพื่อทวงบัลลังก์คืนซูตง“ท่านแม่ดูสิต้าเหนิงนางเย้บถุงหอมได้สวยกว่าลูกเป็นไหนๆทำไมนางทำได้แล้วลูกทำไมทำไม่ได้”มารดาหรูเหมินยิ้มน้อยๆหยิบถุงหอมของต้าเหนิงขึ้นมาดู“ลวดลายละเอียดงดงามเจ้าปักลายอะไรกันจึงสวยเช่นนี้ สิ่งนี้คือสัตว์ชนิดใด”“หมูเด้งสัตว?ชนินี้เรียกว่าหมูเด้ง อืมต้าเหนิงเกือบลืมไปแล้วว่ามันคือฮิปโปไม่ใช่หมู”หมูเด้ง ฮิปโป เจ้าหมายถึงสัตว์ชนิดใด”มารดาหรูเหมินกับไฉหรานถามขึ้นพร้อมกัน”“ฮิปโปที่กำลังเป็นกระแส ข้าเหมือนหมูเด้งอย่างไรเล่าดีดตลอดเวลา”“ฮิปโป”“อ่อฮิปโปก็คือสัตว์ชนิดหนึ่งที่เหมือนช้างแต่ตัวเล็กกว่าและเด้งได้”“มีสัตว์ที่มีอุปนิสัยเช่นนั้นด้วยหรือ”มารดาหรูเหมินทำสีหน้าสงสสัยอย่าที่สุด”“เจ้าค่ะทว่ามันอยู่ในที่ไกลแสนไกลหากอยู่ใกล้ๆต้าเหนิงจะพาท่านป้าไปเยี่ยมชมหมูเด้ง”ฮูหยินหรูเหมิน ยิ้มอ่อนโยน“เจ้านี่ช่างน่าเอ็นดูเสียจริงเผื่อแผ่คนอื่นจนไม่คิดถึงตัวเอง”“หวางเย่จะต้องชอบหมูเด้งของเจ้าแน่นอน”ไฉหรานพูดยิ้มๆวังหลวงเฉินอี้เหมยกลืนน้ำลา
“เจ้ารู้เรื่องนางในดวงใจของฉินเกอหลงด้วยหรือ อืมมมช่างเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ที่เข้าอกเข้าใจกันดีจริงๆ เอ่อต้าเหนิงนะเอ่อต้าเหนิงทำบุรุษคลั่งไคล้ทั้งๆที่ นางหักหลังข้าหลายครั้งแต่ข้าก็อดที่จะคิดถึงนางไม่ได้นางมีดีอะไร หรือเพียงเพราะนางไม่ยอมทอดกายข้าจึงหลงไหลนาง”เฉินอี้เหมยกัดฟันจนเป็นสันนูน เฉินอี้เหมยก็ไม่เคยยินยอมมอบกายผิดต่างกันตรงไหน แล้วทำไมกัวกั๋วอ่องเต้ถึงไม่ยอมข่มเหงเอ่อต้าเหนิง หรือเพราะนางมีฐานันดรสูงส่งกว่าอี้เหมย ครั้งนั้นก็เหมือนกันครั้งที่ฉินเกอหลงเอาแต่เฝ้าวนเวียนเดินตามเอ่อต้าเหนิงที่ตลาด แต่เฉินอี้เหมยที่ต้องฝึกกิริยาเพื่อหวังว่าเขาจะเลือกเฉินอี้เหมยในฐานะไท่จือเฟย แต่เขากลับเอาเวลาทั้งหมดที่เฉินอี้เหมยฝึกฝนกิริยามารยาทไปทุ่มเทให้กับเอ่อต้าเหนิงที่หยิ่งยะโสคนนั้น“แล้วอี้เหมยที่ไม่ยอมทอดกายทำไมฝ่าบาทจึงข่มเหงเพียงนี้”“ฮะฮะฮ่าาาาเจ้าคิดว่าอย่างไรข้าจำต้องอธิบายด้วยหรือ”ยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่ปูดบวม“ข้าชอบเจ้าในแบบนี้ชอบน้ำตาของเจข้าหากแต่เอ่อต้าเหนิงข้าชื่นชมรอยยิ้มของนางข้าไม่อยากจะเห็นหยาดน้ำตาของนาง นางเหมาะกับรอยยิ้มที่สดใส”คำพูดเดียวกันนี้ที่เคยพูดไว้กับซุ่ยเอ่อ
เฉินอี้เหมยยิ้มเย็นเยือกไปถึงหัวใจ ขันทีเฒ่าเปิดประตูให้อี้เหมยเข้าไปในห้องบรรทมของกัวกั๋วฮ่องเต้“ทำไมวันนี้ ดุนิ่งงันเจ้าไม่กลัวข้าแล้วหรือ ถ้าไม่กลัวก็หมดสนุกสิแสร้งทำให้เหมือนว่ากลัวข้าหน่อยร้องไห้ดังอีกนิด แล้วเวลาอุ่นเตียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดเช่นนั้นข้าจึงจะสุขสม”“อี้เหมยเข้าใจแล้ว จะเล่นละครให้สมบทบาทที่สุดฝ่าบาทจะได้โปรดปราน”“อืมมมดี ดีมากข้าก็จะได้ไม่ต้องพูดมาก แต่ดูหน้าเจ้าสิแค้นเคืองข้าหรือไร เอาน่าข้าจะออมมือต่อไปก็คงหาคนอื่นมาแทนเจ้าหลังจากที่ ข้าได้กลับไปนั่งบัลลังก์แล้วเจ้าจะได้พักบ้างแต่เอาจริงๆนะอี้เหมย ข้าล่ะชอบสายตาหวาดกลัวของเจ้าที่สุดชอบเสียงกรีดร้องของเจ้าที่สุดข้าจะเบามือล่ะกัน ยกมือขึ้นบีบที่คางมนแลบลิ้นเลียที่แก้มเนียน เฉินอี้เหมย หลับตาไล่ความรู้สึกเกลียดชังขยะแขยงนั้นไปเสีย กลัวว่ากัวกั๋วฮ่องเต้จะจับอาการได้“นี่คือยาถอนพิษ ของข้าที่ใช้กับเจ้า ข้าให้ท่านหมอปรุงขึ้นเพื่อเจ้าเชียวนะเห็นไหมข้าก็ไม่ได้ใจดำ มอบให้เจ้าสำหรับสามเดือนหากทำดีข้าจะมอบมันให้ตรงเวลาก่อนที่พิษจะกำเริบ อ่อเดิมข้าคิดจะวางยาบิดาเจ้าให้ตายไปเสียแต่มาตอนนี้เพื่อเห็นแก่เจ้าข้าจะไว้ชีวิตบิ
ใต้เท้าเฉินเดินตรงไปชะโงกมองร่างไร้วิญญาของกัวกั๋วฮ่องเต้“มีดที่เจ้าสังหารฝ่าบาท”อี้เหมยวางมีดลงตรงหน้าใต้เท้าเฉินที่จับมีดมา โยนไว้ข้างแท่นนอน เปิดผ้าห่มออกเสีย“นั่งนิ่งๆอยู่ที่นี่รอพ่อจนกว่าพ่อจะกลับมาเจ้าไ่ต้องพุดเพียงแค่นั่งนิ่งๆก็พอ”“ขอบคุณท่านพ่อที่ช่วยลูก”“พ่อเช่นไรไม่ช่วยเจ้าเล่าลูกรัก เจ้าต้องฟันฝ่ามาถึงขั้นนี้ นับว่าต้องแลกด้วยหลายอย่างเจ้าพักเสียหน่อยดีไหมพ่อจะเข้าเฝ้าไทเฮาเพื่อเจ้าต่อไปทุกอย่างจึงง่านไม่เสียแรงที่ลงมือลงแรงไปแล้วเราจะต้องจัดการทุกอย่างใหเ้รียบร้อยโดยเร็วที่สุด อย่างไรเสียก็ดีที่ไม่ต้องหาทางกำจัดปลิงพวกนี้ เราสองคนพ่อลูกกำลังจะมีอำนาจสูงสุด”อี้เหมยสะอื้นอย่างหนัก น้ำตาไหลพร่างพรู จะเก็บไว้ทำไมระบายมันออกมาน้ำตาแห่งความเจ็บปวดและสาสมต่อไปก็ไม่ต้องมีน้ำตาอีกแล้ว ในเมื่ออี้เหมยจัดการปัญหาทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว“ลูกขอบคุณท่านพ่อ”เฉินตงลี่ก้าวขาออกจากห้องบรรทมสวนทางกับหมอหลวงและขันทีเฒ่าที่ยังคงมีสีหน้าตื่นกลัว“มาแล้วหรือท่านหมอ” อี้เหมยปาดน้ำตาที่ไหลรินยิ้มหวานหยด“ท่านหมอ ข้ากับท่านไม่มีอะไรบาดหมางกัน ข้าจึงมีเรื่องอยากจะขอร้องท่าน หากว่ายังมีความเป็นหมอ
“ส่งคนไปที่ห้องบรรทมฝ่าบาทจับตัวฝ่าบาทไว้ทำผิดต้องยอมรับโทษทัณฑ์บัดนี้ไทเฮาทรงสิ้นพระชนม์แล้ว”เหล่าขันทีนางกำนัลต่างทรุดกายลงกับพื้นก้มศีรษะจรดพื้นโศกสลด เฉินตงลี่ ก้มหน้าซ่อนยิ้มและเพียงครู่เดียวนั้นเอง“ฝ่าบาททรงสิ้นพระชนม์แล้ว ฝ่าบาททรงใช้มีดสั้นปลิดชีพตัวเองที่แทนบรรทม”“แย่แล้วฝ่าบาททรงคิดสั้นเพียงนั้นเชียวหรือโธ่ไม่น่าปลงพระชนม์ไทเฮาตั้งแต่แรกแล้ว มาถึงตอนนี้สำนึกผิดก็สายไป”“บัลลังก์ขาดฮ่องเต้และไทเฮาในวันเดียวกัน บ้านเมืองกำลังจะประสบบาปเคราะห์ ท่านราชครูเราควรจะทำอย่างไรดีข้าน้อยต้องพึ่งท่านเสียแล้ว”เฉินตงลี่ถอนหายใจยาว“ข้าเองก็หนักใจอีกทั้งยังคาดไม่ถึงว่าจะมาถึงวันนี้ เอาแบบนี้ข้าสั่งการแทนฝ่าบาทและจะต้องหาคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งฮ่องเต้ในเร็ววันหวังว่าพวกท่านจะไว้วางใจ้าเพราะที่ผ่านมาข้าเองก็เคียงข้างฝ่าบาทและไทเฮาทุกอย่างจะต้องสานต่อจากของเดิมและอาจจะดีขึ้นเรื่อยๆ”ขันทีข้างกายไทเฮาทรุดกายลงกับพื้น “คารวะท่านราชครู วางใจท่านราชครู วางใจท่านราชครู”เหล่าขันทีนางกำนัลและองครักษ์ต่างทรุดกายลงคุกเข่ากล่าวตามขันทีอาวุโสข้างกายไทเฮา“ส่งหนังสือเชิญฉินเกอหลง ให้กลับวังหลวงโดยเ
“ช่างเถอะเจ้าไปเสีย”หานจงหันหลังก้าวเดินเยี่ยนฉือรั้งร่างเล็กมากอดแนบอกอีกครั้ง“ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าห้ามพาตัวเองไปพบกับอันตรายไม่อย่างนั้นข้าจะ ข้าจะ”จุมพิตที่หน้าผากเบาๆ หานจงเบี่ยงตัวหลบ“เลิกคิดเถอะ”ก้าวขากลับไปยังกระโจมที่พัก เยี่ยนฉือถอนหายใจยาววังหลวง“ฉินเกอหลงกำลังจะเข้ามาในวังหลวงตามคำเชิญ เจ้าดีใจหรือไม่อี้เหมยลูกพ่อ”“เจ้าค่ะ แต่ท่านพ่อเหตุใดไม่รอให้พิธีศพผ่านพ้นไปก่อนจึงพาหวางเย่เข้ามา”“ไม่อาจกระทำ บัลลังก์ไม่อาจขาดฮ่องเต้ได้แม้แต่เพียงวันเดียว ทำเช่นนี้จึงไม่มีข้อครหา ดีที่เจ้ายังไม่ทันได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮาของกัวกั๋วนับว่าสรรค์ยังมีตาหากได้รับการแต่งตั้งแล้วเกรงว่าฉินเกอหลงจะปฏิเสธเจ้า เพราะยังมีเอ่อต้าเหนิงคนนั้นที่ชาติตระกูลสูงส่งไม่น้อย เช่นนั้นการตั้งแต่งฮ่องเต้กับการแต่งตั้งฮองเฮา คงจะต้องเตรียมการพร้อมกันไปเลยแต่งตั้งฮ่องเต้เสียก่อนแล้วจึงเป็นฮองเฮา เจ้าเตรียมตัวให้พร้อม”เฉินอี้เหมยยิ้มเย็น“ท่านพ่อคิดว่า หวางเย่มีใจให้กับเอ่อต้าเหนิงใช่ไหม เช่นนั้นหากหวางเย่จะแต่งตั้งนางในตำแหน่งฮองเฮา ท่านพ่อยอมหรือไร”เฉินตงลี่ยิ้มมุมปาก“เราจะไม่ยอมให้ตระกูลเอ่อได้กลับ
“เขาไม่มารับเธอแล้วต้าเหนิงคำอธฐานของฉันมีคาราแค่เท่านั้นมันหมดราคาแล้ว”ต้าเหนิงสะดุ้งสุดตัว ตื่นจากหลับไหลหยาดน้ำตายังพร่างพรายคนที่เคยรักมาวันนี้กลายเป็นคนแปลกหน้า ฉินเกอหลงที่ไม่แม้กระทั่งจำได้ว่าเคยแต่งงานกับต้าเหนิง แต่งตั้งเฉินอี้เหมยในตำแหน่งฮองเฮา สั่งคนมากวาดล้างซูตง ด้วยความแค้นเคืองเอ่อถูหวังซวนต้าเหนิงกับหยาดน้ำตานับหมื่นหยดก็ไม่อาจ ให้ความปวดร้าวบรรเทาเบาบางต้าเหนิงกลับรออยู่อย่างงมงายจะรักหรือเกลียดก็ไม่ทวงถามจนกระทั่งมาถึงตอนนี้ตระหนักได้ว่าไม่ควรคิดถึงคนที่ไม่ควรคิดถึงหัวใจด้านชาไปแล้วจริงหรือคนที่เคียงข้างปลอบใจคือ ท่านปู่เอ่อถูหวังซวนท่านแม่หรูเหมิน ไฉหรานและเชียวกงเล่อจดหมายบอกเล่าเรื่องราวต่างๆของเยียนฉือไมไ่ด้ให้ความกระจ่างอะไรทำได้เพียงหนีตายเมื่อเขาส่งข่าวว่าฉินเกอหลงกำลังส่งทัพหลวงมากวาดล้างซูตงตั้งใจกลับออกไปนอกเขตวังหลวงเพื่อไปยังโรงเตี๊ยมเดียวดายผู้คนมากมายล้วนต้องผ่านการตรวจตราจากทหารที่เฝ้าอยู่ที่กำแพงสูง“พรุ่งนี้พาข้ามาเที่ยวตลาดอีกได้ไหมพี่ใหญ่เชียว”ไฉหรานพูดขึ้นเบาๆ เชียวกงเล่อส่ายหน้าไปมา“เรื่องสำคัญคือทำตัวให้กลมกลืนเพื่อจะได้กลับออกไปได้ง่าย
“เฮ้อหลอกตัวเองว่าไม่อยากเจอเขา ฝ่าบาทนะฝ่าบาทท่านก็ ทำให้ต้าเหนิงนางเป็นแบบนี้เองใครจะช่วยได้ ไม่ลืมเลือนก็เหมือนลืมเลือนนากำลังลืมฝ่าบาทไม่น่าต้องมาพบกันอีกเลย”ไฉหรานบ่นเบาๆวังหลวง“ฝ่าบาทเสด็จไปที่แม่น้ำลั่วซาน เพื่อล่าสัตว์”เฉินอี้เหมยพยักหน้าขึ้นลง“ใครตามเสด็จพี่ใหญ่ข้าหรือว่าหานจง”“ท่านเฉิน ตอนนี้ถูกท่านราชครูเรียกเข้าพบเรื่องเอ่อถูหวังซวนได้ยินว่าท่านเฉินกับท่านราชครูมีปากเสียงกัน”อี้เหมยยิ้มบางๆ“เข้าใจได้ไม่ยาก พี่ใหญ่ยึดมั่นคุณธรรมคงอีกไม่นานจะต้องออกเดินทางไปยังซูตงแน่ๆหากท่านพ่อไม่รั้งไว้และพี่ใหญ่ไม่ห่วงใยฝ่าบาท”“ส่งคนสอดแนม ว่าหานจงตัวร้ายกับท่านหมอเยี่ยนฉือปลุกปั่นฝ่าบาทหรือไม่”“น้อมบัญชาฮองเฮา”องครักษ์ขางกายออกไปแล้วอี้เหมยเปิดกล่องโลหะสีทองหยิบเอาปอยผมที่มัดรวมไว้ด้วยสายรัดเอว ขึ้นมาพิศดูยิ้มเย็นน่ากลัวที่สุด“เจ้าจะไม่มีทางได้กลับมาเอ่อต้าเหนิง”เก็บปอยผมไว้ตามเดิมซ่อนมันไว้อย่างมิดชิด แม่น้ำลั่วซานฉินเกอหลงควบม้าไปตามแนวชายฝั่ง เหล่าทหารต่างไล่ ต้อนสัตว์ป่าให้ลงมายังที่โล่งริมน้ำ“เฮๆๆๆๆๆ”เสียงฝีเท้าม้าพุ่งตรงมาแต่ที่มาถึงก่อนคือสัตว์น้อยใหญ่ที่ตกใจเสียงโห่ร้อ
ฉินเกอหลง ก่อนหน้านั้นเมื่อพันปีก่อนยืนโปรยเถ้ากระดูกของต้าเหนิง“ฝ่าบาท ท่านหมอเยี่ยนฉือกับหานจงขอประทานอนุญาตออกเดินท่องยุทธภพ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอนุญาติในครั้งนี้”เชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนบางอย่างแหว่งเว้าหายไป“ในที่สุดเราทุกคนก็ได้แค่เพียงเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปพร้อมกับสายลม ข้าเองแม้จะอยากทำตามใจเพียงใดสุดท้ายข้าก็ได้แค่เพียงสะกดกลั้นความคิดนั้นไว้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ..กงเล่อหมายถึงท่านปู่ของฮองเฮาเอ่อถูหวังซวน เสียใจที่ต้องสูญเสียคนของตระกูลเอ่อไปจนไม่เหลือใครแม้กงเล่อขอใช้แซ่ของตระกูลเอ่อแต่ท่านพ่อก็ยังเศร้าโศกเช่นเดิมกงเล่อเข้าใจดีว่าไม่อาจทดแทนกันได้”“จริงสินะในที่สุดตระกูลฉินก็ไม่อาจปกป้องตระกูลเอ่อไว้ได้ ข้าที่ทุ่มเทตั้งแต่วันแรกที่พบนางก็ยังไม่อาจช่วยเหลือนางได้ทันเช่นนั้นจึงเรียกว่าเป็นความผิดของข้า”“ไม่มีใครผิดพ่ะย่ะค่ะสวรรค์กำหนดไว้แล้วหากไม่มีฝ่าบาทบางที่ตระกูลเอ่ออาจไม่เหลือรอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกฆ่าล้างตระกูลฝ่าบาททำดีที่สุดแล้ว”“จริงสินะในครั้งแรกที่ข้าพยายามช่วยชีวิตเอ่อต้าเหนิงจากคนชั่ว และครั้งที่สองข้าที่พยายามช่วยชีวิตนางจากการสั่งกา
หนึ่งปีผ่านไป“โอ้ๆๆๆๆอย่าร้องนะคนดีมาให้พ่ออุ้มเร็ว”ฉินเกอหลงพูดไทยสำเนียงแปลกๆคุณหมอดนัย ส่ายหน้าไปมา“เมื่อไหร่จะพูดไทยแข้งแรงสักทีบอกให้สอนกันหน่อยก็ไม่เอาวันๆเอาแต่ผลิตลูกดูสินี่ก้ท้องอีกแล้วหัวปีท้ายปีเชียว”ต้าเหนิงยิ้มดวงตาเป็นประกาย“คุณแม่ฮับลูกชายหิวนมแล้วฮับ”เสียงออดอ้อนของฉินเกอหลง ทำเอาต้าเหนิงส่ายหน้า รับเอาร่างกระจ้อยมากอดแนบอก แกะกระดุมป้อนนมทารกในอ้อมแขนฉินเกอหลงดวงตาเป็นประกาย หมอดนัยวางยาที่จัดมาสำหรับแม่ลูกอ่อนลงตรงหน้าฉินเกอหลง“อิจแาต้าเหนิงจังมีสามีที่คอยดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกับข้าวกับปลาเลี้ยงลูกเตือนให้กินยา ถ้ามีแบบนี้รักตายเลย บ้านช่องก็เลยไม่กลับมาคตอยดูแลภรรยาตั้งสองสามเดือนแล้วธุรกิจที่นั่น ไม่ต้องห่วงหรือ”ฉินเกอหลงยิ้มกำลังเรียบเรียงคำพูด“ผมจัดเตรียมทุกอย่างและประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ในมุกเช้าจึงไม่ต้องห่วงอะไรหากว่ามีอะไรขัดข้องก็จะเรียกประชุมทันที ทางนี้ผมเองไม่อาจวางใจ ต้าเหนิงเขาต้องมีผมคอยดูแล เขาลำบากอุ้มท้องลุกของผม เขาต้องอุ้มเด็กอีกคนไว้ในท้องฉะนั้นผมเลยคิดว่าไม่มีใครจะดูแลต้าเหนิงได้ดีเท่าผมและควรจะดูแลต้าเหนิงอย่างดี”หมอดนัยส่าย
“คุณไม่อยากลองขอฉันแต่งงานดูอีกสักทีหรือ”อมยิ้มฉินเกอหลงเลิกคิ้วสูง“อยากสิ ถ้าอย่างนั้น แต่งงานกับผมนะครับ”คุกเข่าลงกับพื้นที่ด้านล่างมีกลับดอกเมหยสีชมพูดร่วงเกลื่อนกราดต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าขึ้นลง ฉินเกอหลงรวบร่างบางไว้แนบอกอีกครั้ง“ขอบคุณขอบคุณจริงๆ ที่ยอมแต่งกับผม”ยิ้มหว้างสดใสจนต้าเหนิงต้องยิ้มตาม““ความจริงแล้วเธอไม่ได้ติดค้างอะไรหรอกนะที่ตามหาเพราะต้องการชดเชยให้คุณอย่างไรเล่า ต้าเหนิง”ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฉินเกอหลงกระซิบข้างหูเบาๆ“คุณพูดอะไรนะ อย่าบอกนะว่าคุณ เพิ่งจะข้ามภพมา”ฉินเกอหลงเองก็เลิกคิ้วสูง“ข้ามภพหรือ แค่ความฝันหรือเปล่าสิ่งที่ผมฝันในทุกๆคืนนั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของผม เธอกำลังเจ็บปวดและทรมานผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามีหยาดน้ำตาทุกครั้ง ตั้งแต่จำความได้ พอโตขึ้นมาสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอดคือตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ให้จิตกรมาวาดภาพเธอคนนั้นไว้ในห้องนอนเพื่อให้ได้เห็นหน้าเธอในทุกๆวัน คุณอยากเห็นรูปผู้หญิงคนนั้นไหม”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง“คุณอยากเห็นก็คงต้องไปส่องกระจกแล้วล่ะ เพราะรูปนั่นเหมือนคุณอย่างกับแกะ”ดึงมือต้าเหนิงให้เดินเคียงข้างกันไป“คุณฝันถึ
ฉินเกอหลงจอดรถลงข้างทางที่ประดับด้วยไฟหลากสีใต้ต้น ดอกเหมยสีชมพูเบ่งบาน ผู้คนเดินจูงมือคู่รัก“คุณชอบดอกเหมยหรือ”ต้าเหนิงถามเบาๆ“ชอบ อยากให้ต้าเหนิงได้เหนมันไงเล่ากว่าจะผ่านไปแต่ละปีจะต้องทนนับวันนับเดือนที่ดอกเหมยบานและร่วงโรยครั้งแล้วครั้งเล่าลำพังเดียวดายตราบนานเท่านาน”ต้าเหนิงก้มมองมือในอุ้งมืออุ่นของฉินเกอหลง ยอมให้เขากุมมือไว้ราวกับคู่รักแต่ไม่ยอมฟังคำพูดเศร้าๆของเขา“ฮ่าาาพามาแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เรารึคิดไปไกลเยว่าจะพาไป…ทำมิดีมิร้าย”ฉินเกอหลงส่ายหน้าไปมา“วางใจเถอะไม่เอาไปขายหรอก”“หือ ไม่ขายแต่ฆ่าหั่นศพและแย่เชียวฮ่าๆๆๆๆ”ยังตลกได้อีกฉินเกิอหลงหันมาทำสีหน้าจริงจังต้าเหนิงขนลุกเกรียวหรือว่า หรือว่า“จูบได้ไหม”“หา จะจูบเลยหรือ”“ก็ต้องจูบสิคนที่เขาลองคบกันก็ต้องลองหลายๆอย่างว่าเขากันได้ไหม”“อย่าทำแบบนี้นะมาถึงก็จูบเลยหรือจะไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยหรือ”ฉินเกอหลงรวบร่างบางมากอดไว้แนบกายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมที่หอมละมุนเนิ่นนาน“เจ้าเข้าสู่โหมดโรแมนติกแล้วนะ คิดถึงจังสบายดีไหม”ทอดเสียงอ่อนโยนจนต้าเหนิงตัวเย็น มือที่ยกขึ้นกอดรอบเอวของฉินเกอหลงอย่างกล้าๆกลัวๆก็เย็นเฉียบ“คือๆๆๆค
ต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าหงึกหงักกำลังช่างใจว่ากัวกั๋วก็คือกํวกํ๋วหรือว่ากัวกํ่วคนนี้ไม่ใช่กัวกั๋ว“ขอบคุณ แต่จะว่าไปฉันไม่ได้หลงตัวเองนะแต่คุณสองคนกำลังแย่งฉันใช่ไหม”ฉินเกอหลงอมยิ้มกัวกั๋วงง“มีคนแบบนี้ด้วยหรือ คนที่คิดว่าคนอื่นกำลังแย่งคุณผู้หญิงไท่กัวเป็นแบบนี้ทุกคนไหมนะ”ฉินเกอหลงเปยเบาๆต้าเหนิงอมยิ้ม ความคนึงหาทีข้ามผ่านมาปีหนึ่งสิ้นสุดลง“เอาล่ะที่นี้ เราสองคนมาตกลงกันดีกว่าไหมพี่ใหญ่ว่าใครจะจีบก่อนจีบที่หลังไอ้ผมอะนะเริ่มชอบผู้หญิงไท่กัวคนนี้แล้ว”กัวกั๋วพูดขึ้นพร้อมกับใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารในจานวางตรงถ้วยข้าวตรงหน้าต้าเหนิง ฉินเกอหลงที่เห็นก็รีบคีบของกินที่คิดว่าต้าเหนิงจะชอบวางลงบนถ้วยข้าวของต้าเหนิงบ้างไฉหรานอมยิ้ม“ต้าเหนิงของเราฮอตน่าดู”หันไปพูดกับเฉินซือกวาน“ก็นะบอกแล้วไงว่าฉันอะนะกำลังโดนแย่งจากคนสองคน”อมยิ้ม“ใครบอก กัวกั๋วนายนะมาทีหลังหลบไปเถอะไม่มีการแย่งชิงอะไรทั้งนั้น”ฉินเกอหลงทรุดกายลงกับพื้นคุกเข่าตรงหน้าพร้อมกับหยิบกล่องกำมยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเปิดกล่องกำมยี่สีแดงออกแสงแวววาวจากเพชรเม้ดมะหึมาคงราวๆห้ากะรัตสุกสกาวต้องแสงไฟ ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง“แต่งานกบผมนะครับคุณต
“ใครจะบังอาจเล่าค่ะ ต้าเหนิงเองเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดมากหรือชอบนินทาใครต้าเหนิงเขาเป็นคนเรียบร้อยน่ารักที่สุด”ไฉหรานเชียร์เต็มที่ ต้าเหนิงยิ้มจื่อนๆ เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ในโรงรับจำนำเถอะ“เรียบ จริงหรือครับ”“อืมมม เรียบร้อยครับคุณฉินไม่ใช่เรียบเฉยๆ” เฉินซือกวานรีบพูดแทรกขึ้นกลัวว่าต้าเหนิงจะรู้สึกไม่ดี เปล่าต้าเหนิง ที่รีบก้มมองหน้าอกของตัวเองมันก็ไม่ได้ราบแบนเสียหน่อยบริกรนำอาหารมาเสริ์ฟบนโต๊ะ ฉินเกอหลงผายมือ“มีที่พักหรือยังครับอี้ตวนของเรามีที่พักมากมายในเครือให้คุณ …ได้เลือกพัก”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอมยิ้มแก้มป่องจากฝ่าบาทมากลายเป็นนักขายอย่างไรกัน“ต้าเหนิงเขาพักกับเราค่ะคุณฉินไม่ต้องห่วงเขามาที่นี่แค่5วันตั้งใจพาเที่ยว อย่างที่ต้าเหนิงอยากจะไปเรื่องที่พักก็เลยไม่ใช่ปัญหาที่บ้านของเราก็มีห้องวางอยู่หลายห้อง”ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง บริกรเดินถือช่อดอกกุหลาบสีแดงนับพันดอกมุ่งตรงมาที่ ต้าเหนิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม“ต้าเหนิงรับเอาดอกกุหลาบช่อโตหยิบการ์ดที่สอดไว้ด้านหน้าขึ้นมาอ่าน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้ว“ของใคร”ไฉหรานชะโงกมองเพราะความสงสัยแล้วหันไปสบตากับเฉินซือกวาน“เอ่อ คุณฉินกัวกั๋วครับ
ภัตตาคารหรูริมน้ำมองเห็นแสงสีสว่างไสวไปทั่งสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำสายใหญ่งดามท่ามกลางผู้คน ต้าเหนิงกับไฉหรานมาถึงแล้ว เฉินซือกวานรีบ เปิดประตูรถให้ทั้งสองคนลงมาจากรถด้วยท่าทีราวกับนักันไว้นั่นคือให้ช้าๆเข้าไว้ก็ต้าเหนิงไม่อยากพบเจ้าคนรวยอ้วนพุงพุ้ยและกินจุคนนั้นตั้งใจ ปิดภัตตาคารเพื่อจะได้กินอิ่มๆคนเดียวไม่ได้เพื่อให้ต้าเหนิงนั่งสบายหรือเปย์ต้าเหนิงหรอก“คุณครับ คุณฉินเชิญคุณทั้งสามบนชั้นสองขอรับ”บริกรก้มศรีษะนอบน้อม ต้าเหนิงเงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสองที่สว่างไสวเห็นเพียงใครบางคนที่นั่งนระเบียงภัตตาคารหรู ต้าเหนิงเบ้ปากเข้าใจเลือกมุมให้มองเห็นพวกต้าเหนิงก่อนแหมร้ายจริง“คุณผู้หญิงครับนี่คือของขวัญต้อนรับสำหรับการยินยอมมารับประทานอาหารกับ...คุณฉิน”“คุณฉิน ฉินอะไร”ต้าเหนิงรับเอากล่องน้ำหอมระดับโลกไว้ในมือไฉหรานยิ้มสดใสดีใจยิ่งกว่าต้าเหนิงเสียอีก“เห็นไหมต้าเหนิงเขาจริงใจแค่ไหน”กระซิบต้าเหนิงเบาๆต้าเหนิงส่ายหน้าไปมาเดินตามไฉหรานที่ดึงมือให้เดินตามเฉินซือกวานขึ้นไปข้างบนชั้นสองพอ้าเหนิงยืนอยู่ชั้นบนเสียงดนตรีก็ดังขึ้นนักดนตรีบรรเลงเพลงหนึ่งทำนองคุ้นหูเหลือเกินต้าเหนิงหยุดนิ่งอยู่กับท
“ทำไมต้องเป็นที่นั่น”อ่านชื่อภัตตาคารหรูริมแม่น้ำที่อาหารอร่อยมากตามรีวิวแต่ราคาแพงหูฉี่“หืออาหารอร่อยมากและที่สำคัญ…”ไฉหรานยิ้มดวงตาพร่างพราว"ฉันว่ามันมากไปฉันอยากกินของอร่อยๆก็จริงแต่ ก็ยังไม่อยากหมดตัวฮ่าาาา"ต้าเหนิงพูดไปยิ้มไปไฉหรานเองก็ยิ้ม"ฉันไม่สิคุณเฉินสามีฉันเขาบอกจะเลี้ยงเธอในฐานะที่เราไม่ได้ชวนเธอมางานแต่งของเราเขารู้ว่าฉันกับต้าเหนิงสนิทกันแค่ไหนก็แค่อยากจะเลี้ยงต้อนรับเธอสักครั้ง""มันหลายตังค์นะฉันเกรงใจ"ไฉหรานยิ้มอีกแล้ว"ไม่ต้องเกรงใจน่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องต้อนรับเธอให้ดีที่สุดให้เธอประทับใจที่สุดจนอยากจะอยู่ที่นี่เลยดีไหม""ไม่ใช่ล่ะ มันแปลกๆ ฉันว่ามันมีกลิ่นนะ เอาความจริงมาพูดกันเราสองคนคบกันมาตั้งปีหนึ่งฉันไว้ใจเธอมากเลยนะไฉหรานว่าเธอจะไว้ใจได้ และไม่โกหกฉัน"ไฉหรานยิ้มเจื่อนๆนั่งลงข้างๆต้าเหนิงเลื่อนแก้วกาแฟตรงหน้าต้าเหนิงอย่างเอาใจ“คุณเฉินเขานัดใครบางคนดูตัวเพื่อนสาวของเราต้าเหนิงซึ่งเขาก็แค่อยากจะกินข้าวแล้วก็ดูตัวต้าเหนิงไปด้วย คนคนนี้อะนะหล่อที่สุดนิสัยดีที่สุด และเอาใจเก่งที่สุด ที่สำคัญเป็นทายาทโดยตรงที่กำลังจะนั่งตำแหน่งท่านประทานของอี้ตวนในขณะนี้สาว
“แม่จ๋าหนูอยากจะไปเมืองจีน คุณแม่คนสวยใจดีที่สุดในโลกอนุญาตให้ลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ไหม”คุณปทุมยิ้มแกล้งมองไปทางอื่นเสีย“น่านะคุณแม่ขา ต้าเหนิงอยากจะไปจริงๆบรรพบุรุษเราเป็นคนจีนพ้นทะเลๆไม่ใช่หรือแล้วนี่ไม่ให้ต้าเหนิงไปพอต้าเหนิงตายไปจะกล้ามองหน้าบรรพชนได้อย่างไร”แอบเอาประโยคยอดนิยมในซีรีย์จีนมาพูดกับคุณปทุม“จะไปทำไม”“หนูอยาก…เป็นกำแพงเมืองจีนอยากไปพระราชวังต้องห้ามอยากจะเที่ยวจางเจี่ยเจีย”“มีเงินแล้วหรืถึงอยากจะไปพอให้แต่งกับผู้ชายจีนที่เป็นญาติห่างๆกันก็ไม่เอา ทีแบบนี้แล้วอยากจะไปไปคนเดียวมันอันตรายนะ แม่ไม่อนุญาต”“หนูไปแค่ไม่กี่วัน คุณแม่ไม่ต้องห่วงน่าแล้วตอนนี้ที่นั่นก็มีไฉหราน”“ไฉหรานอะไรของแกนั่นไว้ใจเขาได้หรือไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเขาสักหน่อยก็ไว้ใจเขา แม่ละท้อใจกับการไว้ใจคนและเข้ากับคนได้ง่ายๆอย่างหนูจังเลยแบบนี้ยิ่งจะทำให้คนชั่วมาตีสนิท”“ไฉหรานเขาไม่หลอกหนูหรอกค่ะเราพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างจนสนิทกันแล้วระยะเวลาเกือบปีมานี้หนูคิดว่าหนูดูเขาดีพอแล้วค่ะ”คุณปทุมถอนหายใจ“แล้วที่หลับที่นอน โรงแรมที่พัก เล่าจัดเตรียมไว้แล้วหรือ”“เรียบร้อยแล้วค่ะตั